NovelToon NovelToon

ผม(ฉัน)กลายเป็นองค์หญิงเเวมไพร์งั้นหรอ (I Am A Vampire Princess?)

ไม่ไปต่างโลกเเต่ย้อนเวลายังไงละ

ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสบาย ๆ และผู้คนที่กำลังนั่งจิบกาแฟและพูดคุยกัน โดมะ หนุ่มผู้คลั่งไคล้เรื่องราวของการไปต่างโลก ได้แสดงท่าทีตื่นเต้นพร่ำเพ้อถึงความฝันของตนเองอย่างไม่หยุดหย่อน

"อยากไปต่างโลกจังเลยโว้ยยยย!!"

เสียงของโดมะดังจนผู้คนรอบข้างเริ่มหันมามองอย่างสงสัย แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สนใจสายตาของคนอื่นเลยแม้แต่น้อย

ไคลน์ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

"ไปแล้วได้อะไรโดมะ? มันมีอะไรดีนักหนากันในต่างโลก?"

โดมะหันมามองไคลน์อย่างตกตะลึง ก่อนจะทุบโต๊ะอย่างแรงจนเสียงดังไปทั่วร้าน

"ไคลน์! นายไม่เข้าใจอะไรเลยรึไง!? ไปต่างโลกมันสุดยอดแค่ไหน! ได้เป็นผู้กล้าผู้ที่มีพลังเหนือกว่าคนทั่วไป แถมยังได้สาว ๆ มาเป็นฮาเร็มอีกนะ!"

ไคลน์กลอกตาด้วยความรำคาญ "เห้อออ ชั้นเห็นแบบนี้มาบ่อยแล้วล่ะ แล้วนายก็ยังจะพูดถึงมันอยู่อีกเหรอ? ชั้นน่ะเจอเรื่องแบบนี้จนเบื่อแล้วโว้ย! เลิกพูดถึงมันสักทีเถอะ!"

เสียงทุบโต๊ะครั้งนี้ดังขึ้นอีกครั้ง โดมะถึงกับลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น ดวงตาเปล่งประกายเหมือนเด็กที่กำลังฝันถึงของเล่นชิ้นใหม่

"เป็นผู้กล้าน่ะยังได้พลังเทพ ๆ ไปปราบจอมมารเพื่อปกป้องโลก แถมยังได้ฮาเร็มอีก! มีแต่ข้อดีทั้งนั้น!"

ไคลน์ส่ายหัว "ทำไมผู้กล้าต้องไปปราบจอมมารอีกแล้ว? ทำไมต้องเป็นแบบนั้นตลอด?"

"ก็ถ้าถูกอัญเชิญไปแล้วไม่ได้พลังอะไร มันก็จะเป็นแบบว่า อัญเชิญไปแล้วไม่ได้รับพลัง ราชาไม่พอใจ ถูกเนรเทศ แล้วต้องดิ้นรนหาทางรอด หรือไม่ก็เทพทรูไปเลย! ยังไงก็ต้องได้สาวมาครอบครองอยู่ดี!"

"เฮ้อออ..." ไคลน์พ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

'ถ้าชั้นนั่งฟังหมอนี่ต่อไป ชั้นต้องเสียสติแน่ ๆ'

ไคลน์จึงตัดสินใจลุกขึ้นออกจากร้านไป แต่ในจังหวะที่กำลังก้าวออกไปนั้น...

วงแหวนอัญเชิญขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นกลางร้าน

แสงสว่างจ้าเปล่งประกายออกมาจากพื้น และในพริบตาเดียว ร่างของโดมะก็หายไป

"โดมะ!? โดมะ!"

ไคลน์รีบหันไปมองรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบตัวโดมะอยู่ที่ไหนเลย

'เดี๋ยว... หรือว่า...'

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขา

'หมอนั่น... ถูกอัญเชิญไปต่างโลกแล้วงั้นเหรอ?'

แต่ไคลน์ยังไม่รู้เลยว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในชีวิตของเขาเท่านั้น...

ไคลน์เดินออกจากร้านกาแฟด้วยความสับสน แต่ไม่ทันได้ตั้งตัว

บี๊บ! บี๊บ!

เสียงแตรดังลั่น พร้อมกับเงาของรถบรรทุกที่พุ่งเข้ามา!

'ซวยแล้ว!'

ตึ๊ง!

ไคลน์ถูกชนเข้าอย่างจัง! แต่แทนที่เขาจะเสียชีวิตเหมือนในพล็อตเรื่องไปต่างโลกทั่ว ๆ ไป

เขากลับรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์

"นี่ชั้น... ยังมีชีวิตอยู่เหรอ?"

เขามองมือตัวเองด้วยความไม่เชื่อ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรถพยาบาลที่กำลังจอดเทียบ

"คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ?"

"เปล่า ผมไม่เป็นอะไร พวกคุณกลับไปเถอะ"

'นี่มันอะไรเนี่ย... เหมือนมีอะไรบางอย่างพยายามจะส่งชั้นไปต่างโลกยังไงไม่รู้'

ไคลน์ตัดสินใจเดินไปที่ร้านกาแฟอีกครั้ง แต่ทันทีที่เขาไปถึง

"กรี๊ด! ช่วยด้วย!"

มีคนบ้าถือมีดวิ่งไล่ฟันคนอยู่!

'ตามพล็อตเรื่องทั่วไป ชั้นจะต้องเข้าไปช่วยแล้วโดนแทงตายงั้นสินะ? ฝันไปเถอะ!'

แต่โชคชะตาเหมือนจะเล่นตลกกับเขา เพราะชายคนนั้นหันมาเล่นงานทางไคลน์

"แกตายเป็นรายแรกเลยแล้วกัน!"

ชายคนนั้นพุ่งเข้าใส่ ไคลน์ตกใจจนเผลอปล่อยหมัดสวนเข้าไปเต็มแรง

ปั้ก!

ชายคนนั้นสลบลงทันที

"...เดี๋ยวนะ?"

ไคลน์ก้มลงมองมือของตัวเอง ก่อนจะเห็นว่ามีดที่ควรจะปักเข้าท้องเขานั้น... หักเป็นสองท่อน

"นี่มัน... บ้าไปแล้ว"

คนรอบข้างพากันปรบมือชื่นชม

"ขอบคุณมากค่ะ!"

"แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเลยนะครับ..."

ไคลน์ถอนหายใจยาว ก่อนจะรีบหารถโดยสารเพื่อออกจากเมืองนี้

แต่ยางรถเกิดระเบิดกลางทาง ทำให้รถพลิกคว่ำ

"ให้ตายสิ! ทำไมชั้นต้องซวยขนาดนี้!?"

แต่ไคลน์ก็รอดมาได้อีกครั้ง

และในจังหวะที่เขากำลังตั้งสติ

กระบอกปืนเย็นเยียบก็มาจ่อที่ขมับของเขา

"ลุกขึ้นซะ"

โจรที่เต็มไปด้วยอาวุธมายืนขู่เขา ไคลน์ฝืนยิ้ม ก่อนจะคิดในใจ

'ไม่ว่าทางไหนก็ตาม พวกมันจะพยายามฆ่าชั้นให้ได้สินะ... ถ้างั้นชั้นก็ต้องสู้แล้วล่ะ'

ไคลน์พุ่งเข้าเตะเอวของโจร ปัดปืนออกจากมือ และสวนกลับด้วยการใช้ปืนฟาดไปที่หลังของมัน

โจรสลบลงไปทันที

"เฮ้อ... ชั้นเหนื่อยจริง ๆ"

และในตอนนั้นเอง

เสียงหวาน ๆ ก็ดังขึ้นจากซอกตึก

"ทำไมไม่อยากไปต่างโลกขนาดนั้นล่ะ?"

ไคลน์หันไปมอง ก็พบกับสาวผมสีทองที่ยืนโบกมือให้ ไคลน์เดินเข้าไปหาสาวผมสีทองด้วความสงสัย

"ฉันคือพระเจ้ายังไงล่ะ"

"...หา?"

"ฉันพยายามส่งนายไปต่างโลก แต่นายดื้อมาก ๆ เลยนะ!"

ไคลน์หันหลังเดินหนีทันที "ขอบายละ ต่างโลกไม่ใช่ทางของชั้น"

แต่ทันใดนั้น

ลำแสงสีทองพุ่งตรงมาหาไคลน์!

แต่เขาก็หลบได้

ไคลน์ยิ้มเย็น และสิ่งที่อยู่ในมือของเขา... คือมีดสองเล่มที่ปรากฏขึ้นมาราวกับเวทมนตร์

"...หมดเวลาที่ผมจะเป็นคนธรรมดาแล้วล่ะ"

พระเจ้าถึงกับชะงักไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ

"งะ... งั้นฉันมีข้อเสนอใหม่! นายไม่ต้องไปต่างโลกก็ได้! แต่ฉันจะให้นายย้อนเวลาแทน!"

ไคลน์ขมวดคิ้ว "ว่าไงนะ?"

จะถึงเวลาย้อนเวลาเเล้วสินะเเต่ก่อนหน้านี่ขอสนุกๆไว้ก่อน

ฉากในบ้านเก่าที่เงียบงันและมืดทึบมีเพียงเสียงลมหายใจของผู้บุกรุกดังอยู่ในความเงียบ ก่อนที่—

แอ๊ดดด!!!

เสียงบานประตูที่ค่อยๆ เปิดออกสร้างความตึงเครียดไปทั่วร่าง แต่ก่อนที่ใครจะได้ก้าวออกไป หมาติดเชื้อที่อยู่ซุ่มซ่อนอยู่ด้านหน้าได้พุ่งกระโจนเข้าใส่ เปลือกตาแดงก่ำของมันฉายแววคลุ้มคลั่ง เลือดและน้ำลายไหลเยิ้มออกจากปากที่อ้ากว้าง เผยให้เห็นเขี้ยวที่เปรอะไปด้วยคราบเลือด

“เวรเอ้ย!”

คนที่ถูกจู่โจมพยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่แรงของหมาที่เต็มไปด้วยพลังอาฆาตนั้นทำให้เขาล้มลงกับพื้น ฟันแหลมคมของมันแทบจะฝังลงบนลำคอ—

ปัง!

เสียงปืนดังขึ้น กระสุนทะลุเข้าหัวของเจ้าสัตว์ร้าย มันกระตุกก่อนจะนิ่งสนิท เลือดสีเข้มไหลทะลักออกจากบาดแผล

“เป็นอะไรไหม เจน?”

เสียงของอัลเบิร์ทดังขึ้น เขารีบพยุงเจนขึ้นจากพื้น

“อย่าประมาทไป เจน เมืองนี้มันเต็มไปด้วยเชื้อไวรัส”

เสียงกระจกแตกดังขึ้นกะทันหัน—

เพล้ง!!

ขวานขนาดใหญ่พุ่งทะลุกระจกเข้ามา อัลเบิร์ทตวัดมีดในมือขึ้นปัดมันออกไปได้อย่างเฉียดฉิว

“เอาละ ถึงเวลาแสดงฝีมือที่เราฝึกซ้อมกันมาแล้ว อัลเบิร์ท!”

ภาพเปลี่ยนไปสู่มุมสูง กล้องแพนขึ้นไปยังชั้นสองของอาคาร ซอมบี้กระโจนผ่านกระจกแตก เเละได้จั้มสเเก เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากผู้ชมที่กำลังนั่งอยู่ในโรงหนัง—

“กรี๊ดดด!!”

ภายในโรงภาพยนตร์ที่มืดสนิท คนที่กำลังดูหนังต่างสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่ท่ามกลางเสียงหวีดร้องนั้น มีบางสิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น—

คนที่ถูกเรียกว่าพระเจ้า กลับเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว มือรีบคว้าแขนของไคลน์ก่อนจะซุกใบหน้ากับไหล่ของเขา ร่างกายของเธอสั่นน้อยๆ

“เฮอะๆ ไม่คิดว่าพระเจ้าจะตกใจเรื่องแบบนี้ด้วย” ไคลน์หัวเราะเบาๆ

“ฉันไม่อยากดูแล้ว” เสียงของพระเจ้าสั่นเครือ

“จ้าๆ ก็ได้”

ทั้งสองเดินออกจากโรงหนัง ทิ้งเสียงของผู้ชมที่ยังตื่นเต้นอยู่เบื้องหลัง

“เฮ้อ ฉันอุตส่าห์จ่ายมาเเพงแท้ๆ ยังดูไม่คุ้มเลย เป็นพระเจ้าแท้ๆ ทำไมถึงกลัวซอมบี้แบบนี้เนี่ย?” ไคลน์บ่นอุบ

“ถึงฉันจะเป็นพระเจ้า แต่ฉันก็มีความรู้สึกนะ”

“หืม? ทั้งๆ ที่พยายามจะฆ่าฉันแบบนั้น แล้วมันเรียกว่าอะไรล่ะ?”

พระเจ้าหัวเราะเบาๆ ก่อนที่ภาพจะตัดไปสู่เหตุการณ์ในอดีต—

การต่อสู้ในอดีตดำเนินไปอย่างดุเดือด เปลวเพลิงลุกโชนรอบข้าง อากาศเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล

“มันจบแล้ว อนาไคลน์ ฉันอยู่บนจุดที่สูงกว่า”

เลน่าประกาศเสียงกร้าว ดวงตาของเธอฉายแววเย็นชา

“เลน่า ท่านประเมินพลังข้าต่ำไป”

“อย่าหมายลอง”

เสียงปะทะของดาบดังสะท้อน ดวงตาของอนาไคลน์เต็มไปด้วยโทสะ

“เจ้าคือผู้ที่ถูกเลือก เจ้าควรทำลายล้างพวกซิธ ไม่ใช่เข้าร่วม นำสมดุลมาสู่พลัง ไม่ใช่ทิ้งไว้ในความมืด”

“ข้าเกลียดท่าน!”

“เจ้าเคยเป็นน้องข้า อนาไคลน์ ข้ารักเจ้า!!”

เปลวเพลิงโหมกระหน่ำ แต่อนาไคลน์ยังคงยืนหยัด แม้ว่าร่างกายของเขาจะถูกเผาไหม้ก็ตาม—

ภาพตัดกลับสู่ปัจจุบัน

“ถ้าได้มาต่างโลกจะดีเลยน๊าาาา” พระเจ้าพึมพำ

“เฮ้อออ ไอ้โดมะมันได้เป็นอะไรล่ะ?”

“ผู้กล้าน่ะ”

“เหอะ... สุดท้ายมันก็ได้เป็นผู้กล้าตามที่มันอยากเป็นจนได้”

พระเจ้าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้น

“ฉันจะให้ข้อเสนอเลย สำหรับนายโดยเฉพาะ”

“เหวอ! นี่เธอจะให้ฉันเป็นตัวโกงที่สุดในเรื่องเลยปะเนี่ย!?”

“ไม่หรอก ฉันจะทำแบบนั้นไปทำไม”

“เพราะว่าฉันจะไม่ให้นายสบายเกินไปแบบต่างโลกได้รับพลังสุดโกง”

“โอ้ว แบบนั้นแจ่มไปเลย”

ทั้งสองเดินผ่านถนนที่เต็มไปด้วยแสงสี ก่อนที่สายตาของพระเจ้าจะหยุดอยู่ที่ร้านเสื้อผ้า

“แต่ก่อนอื่น ฉันอยากได้เสื้อผ้ามากเลย”

“หาาาาาา”

“ก็ดินแดนสวรรค์ไม่มีแบบนี้นี่นา”

“เป็นพระเจ้ายาจกรึไง! ทำไมไม่เสกมันออกมาเองล่ะโว้ยยย!!”

ทั้งสองเดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้า เสียงเพลงคลอเบาๆ ภายในร้านทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้น

“ถามจริงเถอะ นี่มันเกาะหากินกับเงินของชั้นชัดๆ เป็นพระเจ้ามหาแสงอะไร ชั้นหมดคำจะพูดแล้วจริงๆ”

“เหรอ? แต่ฉันก็ไม่ใช่พระเจ้าที่จะหากินแบบนั้นนะ”

“แล้วที่ผ่านมาเธอทำอะไรอยู่เนี่ย!?”

พนักงานสาวเดินเข้ามาถามด้วยรอยยิ้ม

“คุณลูกค้า สนใจชุดตัวไหนเป็นพิเศษไหมคะ?”

“ฉันอยากจะลองชุดนี้” พระเจ้าตอบพลางชี้ไปที่ชุดหนึ่ง

เลน่าเดินเข้าห้องลองเสื้อผ้า ทิ้งให้ไคลน์ยืนตัวแข็งทื่อ

‘เงินชั้น… เงินชั้น… เงินชั้น… เงินชั้น… เป็นถึงพระเจ้า ทำไมถึงไม่เสกเงินมาเองละเนี่ย!! เงินชั้น… เงินนนนน!!’

เมื่อเลน่าออกมาจากห้องลองเสื้อ เธอก็หันไปสบตากับผู้อ่านโดยตรง

“เอาล่ะทุกคน ตอนต่อไป ถึงเวลาย้อนอดีตแล้ว!”

ไคลน์ขมวดคิ้วมองเธอด้วยความงุนงง

“เธอพูดกับใคร?”

“คนที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไง”

ไคลน์นั้นถอดหายใจในทันที

“ ไปๆ ไปเปลี่ยนได้แล้ว”

ชีวิตใหม่

แสงสีทองอ่อนๆ เปล่งประกายอยู่รอบตัวไคลน์ เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยหมอกจางๆ และแสงสว่างอบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์ยามเช้า ทุกสิ่งดูสงบสุขเกินไปจนน่าแปลกใจ

“ที่นี่คือที่ไหนกัน?”

เสียงสงสัยของไคลน์ดังขึ้น ก่อนที่จู่ๆ จะมีร่างหนึ่งโผล่เข้ามาตรงหน้าของเขาแบบกลับหัว

“ยะโฮ~”

เสียงหวานๆ ดังขึ้นอย่างร่าเริง ก่อนที่เขาจะได้ตั้งตัว ร่างของหญิงสาวคนนั้นก็ลอยอยู่กลางอากาศ ดวงตาสีทองสว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์ที่สะท้อนแสงระยิบระยับ

“อ๊าก!!”

ด้วยความตกใจ ไคลน์จึงสะบัดหมัดออกไปโดยไม่ทันคิด

“มิเอี้ยว!!”

เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น หญิงสาวจับแก้มตัวเองพลางน้ำตาคลอ

“เจ็บๆๆๆๆ!”

“ก็เธอทำให้ฉันตกใจเองนี่! อย่ามาโทษกันสิ!”

ไคลน์พูดพร้อมกับตั้งท่าป้องกันตัวเอง เผื่อว่าหญิงสาวตรงหน้าจะเอาคืน แต่แทนที่เธอจะโกรธ เธอกลับหัวเราะเบาๆ

“อะ แฮ่ม! ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้งนะ! ฉันชื่อว่าเลน่า เป็นพระเจ้าของที่นี่ และที่นี่ก็คือดินแดนสวรรค์! ที่สำคัญก็คือ ที่นี่มีแค่เราสองคนเท่านั้น!”

เลน่ากล่าวด้วยท่าทีภาคภูมิใจ ยกแขนขึ้นกอดอกอย่างมั่นใจ

ไคลน์กวาดตามองไปรอบๆ อีกครั้ง ภาพเบื้องหน้าดูเหมือนห้องส่วนตัวของใครบางคน มันหรูหราเกินกว่าที่จะเป็นแค่ห้องธรรมดา เตียงหลังใหญ่ปูด้วยผ้าหรูหรา พื้นทำจากหินอ่อนส่องประกายสะท้อนแสงโคมระยิบระยับ

“สองคนงั้นเหรอ...”

ไคลน์เหลือบไปเห็นเตียงขนาดใหญ่ในห้อง ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัว เขาหรี่ตาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ก้าวไปใกล้เลน่า แล้วอยู่ๆ ก็อุ้มเธอขึ้นมา

“เอ๋!? นายจะทำอะไรกับฉัน!?”

เลน่าร้องเสียงหลง ใบหน้าของเธอขึ้นสีแดงจางๆ ด้วยความตกใจ

ไคลน์ไม่ได้ตอบอะไร แต่เขายกตัวเธอขึ้นแล้วโยนลงไปที่เตียงอย่างรวดเร็ว

“ว๊ายยย!”

เธอร้องด้วยความตกใจสุดขีด ขณะที่แผ่นหลังนุ่มของเธอกระทบกับฟูกหนานุ่ม ยังไม่ทันตั้งตัว ไคลน์ก็โน้มตัวตามลงไปพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างกดแขนของเธอไว้กับเตียง

ดวงตาสีทองของเลน่าเบิกกว้าง 'เดี๋ยวนะ... นี่มันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดไว้ใช่ไหม!?'

“อย่านะ!”

แต่ก่อนที่อะไรจะเกิดขึ้น เลน่าก็เทเลพอร์ตหายไปจากใต้ร่างของไคลน์ทันที

“ฉันไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรเเบบนั้นสักหน่อย”

เลน่าที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศนั้นใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขิน

“ชั้นก็ไม่ได้หมายความจะทำอย่างที่เธอคิดสักหน่อย! ชั้นเเค่กะจะเเกล้งเล่นๆ”

ใบหน้าของเลน่ายิ่งแดงกว่าเดิม แก้มป่องด้วยความเขินจนดูเหมือนเด็กที่กำลังงอน

"เอาล่ะ ฉันจะเริ่มแสดงภาพตัวตนในอดีตที่นายต้องเข้าไปอยู่นะ!"

เลน่าพูดพลางดีดนิ้วเบาๆ

ทันใดนั้น สภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไป ห้องหรูหราหายไปแทนที่ด้วยภาพของครอบครัวหนึ่งที่กำลังเศร้าเสียใจอย่างหนัก เสียงร้องไห้ของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น เธอกำลังอุ้มร่างของเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่แน่นิ่งอยู่ในอ้อมแขน

“นี่มันอะไร...?”

ไคลน์ขมวดคิ้วมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ

“นี่คือร่างที่นายต้องไปอยู่ เด็กหญิงแวมไพร์อายุ 5 ขวบ เธอคือลูกสาวคนสุดท้องของราชินีแวมไพร์ เซเลสเทีย และในอนาคตเธอจะต้องสืบทอดตำแหน่งราชินีต่อจากแม่ของเธอ”

“เดี๋ยวนะ... แล้วทำไมลูกคนโตถึงไม่ได้เป็นราชินีล่ะ?”

“ลูกคนโตเกิดมาเป็นผู้ชายถึงสองคน มีเพียงเเค่ลูกคนสุดท้องของเธอที่เป็นลูกสาวของเธอ”

“ฟังดูหาเหลือเชื่อสุดๆ”

“ใช่แล้ว” เลน่าหัวเราะเบาๆ

เธอดีดนิ้วอีกครั้ง ภาพทั้งหมดเลือนหายไป กลับมาเป็นห้องเดิมอีกครั้ง

“ฉันอยากให้นายไปอยู่ในร่างเด็กคนนี้”

ไคลน์เบิกตากว้าง “จะบ้ารึไง! ฉันไม่ยอมไปอยู่ในร่างของเด็กผู้หญิงหรอก!”

“แต่ตัวนายในโลกคู่ขนานก็เกิดใหม่เป็นเด็กผู้หญิงนะ”

“หา!? ตัวฉันในโลกคู่ขนาน!?”

“ใช่แล้ว”

ไคลน์กอดอกพลางพยักหน้า “งั้นเอามาดูหน่อย ฉันไม่เชื่อแค่ฟังอย่างเดียวหรอก”

เลน่ายิ้มบางๆ ก่อนจะเสกลูกแก้วขึ้นมา ภาพภายในลูกแก้วแสดงให้เห็นเด็กหญิงแวมไพร์คนหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายไคลน์อย่างไม่น่าเชื่อ

“ไม่จริงน่า...”

ไคลน์พูดเสียงแผ่วเบา

“ดังนั้น ฉันเลยไม่อยากให้มันแตกต่างจากอีกโลกมากนัก”

ไคลน์พยักหน้าอย่างเข้าใจ “โอเค ชั้นพร้อมแล้ว”

“ฮิฮิ ฉันชอบจริงๆ เวลาที่นายทำให้ฉันแปลกใจได้ตลอด”

เลน่าหัวเราะเบาๆ เธอเสกคทาออกมา และเริ่มร่ายเวทมนตร์ย้ายวิญญาณ

“ขอให้สนุกกับชีวิตใหม่นะ!”

“เดี๋ยว—”

ยังไม่ทันที่ไคลน์จะพูดจบ แสงสีฟ้าก็เปล่งประกายออกมา และร่างของเขาก็หายไปในพริบตา

แสงจางๆ ส่องผ่านม่านสีทองอ่อน

เปลือกตาของไคลน์กระตุกเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

'ที่นี่ที่ไหนกัน...?'

สายตาของเขากวาดมองรอบๆ เตียงนอนหรูหรา ผ้าม่านสีแดงเข้ม และพรมขนนุ่มใต้เท้า บรรยากาศหรูหราราวกับราชวัง

“คุณหนูคะ!?”

เสียงของสาวใช้ดังขึ้น ไคลน์หันไปมอง ก่อนที่สาวใช้จะกรีดร้องออกมา

“คะ...คะ...คะ...คุณหนู ฟื้นแล้วค่ะ”

เมดสาวที่เฝ้ามองอยู่ข้างเตียงตกใจจนเสียสติ ล้มลงไปบนพื้นทันที

ไคลน์ลงจากเตียงอย่างรวดเร็วและเดินเข้าหาเมดด้วยความห่วงใย

“นี่เป็นไม่เป็นอะไรนะ”

เมดรีบลุกขึ้นอย่างสะดุ้งและเปิดประตูออกไปอย่างรีบร้อน

ในใจไคลน์สะท้อนความคิด “นี่ชั้นทำอะไรผิดไปหรือเปล่านะ? เฮอะๆ…”

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!