NovelToon NovelToon

นายคือบอดี้การ์ดของฉัน

ตอนที่ 1 การกลับมา

...การกลับมา...

สวัสดีฉัน "พรีม พรีมภา" หญิงสาววัยยี่สิบแปดปีย่างเข้ายี่สิบเก้าแล้วปีนี้ ลูกสาวเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศผู้เป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรร 'พรีมภา' กว่า 60 แห่ง ยังมีรีสอร์ทติดแถบชายทะเลอีก7 แห่ง ยังสร้างไม่เสร็จอีก3 แห่ง ทั้งนี้คุณพ่อยังเป็นผู้มีอิทธิพลในแวดวงไฮโซไฮซ้ออะไรอีกไม่รู้ ออกงานบ่อยด้วยนะเนื่องจากรูปร่างหน้าตาของท่านนั้นดูเป็นหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบกว่าที่ยังดูหล่อ..และโสดเพราะคุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกันตั้งแต่ฉันพึ่งได้3ขวบ และในวันนี้ฉัน!ที่โตเป็นสาวสวยและรวยมากเวอร์ได้กลับมาแล้ว หลังจากที่ไปเรียนต่อต่างประเทศมานานถึง6ปี

ฉันมาถึงสนามบินช้าว่าเวลาที่คาดการณ์ไว้เพราะเครื่องดีเลย์ไป1ชั่วโมง ตอนนี้กำลังกดโทรศัพท์หา "คุณ พิสิทธิ" ใช่ชื่อพ่อฉันเองแหละ ทันใดนั้น

"คุ๊ณณณ~~ หนู คุณหนูคะ ทางนี้ค๊าาา~~" ฉันที่พยายามมองหาต้นเสียง 'จะเรียกฉันหรือป่าวนะ' ในขณะที่ฉันกำลังมองไปรอบๆ ก็พลางเห็นหญิงสูงวัยท่านนึงกำลังกระโดดโบกมือมาที่ฉัน

"เอ๊ะ! ป้าจันทร์ ขาาา " ฉันโบกมือตอบกลับ พร้อมรีบเดินก้าวขาอย่างรีบเร่ง ป้าจันทร์คือป้าแม่บ้านที่เป็นคนเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เด็ก ฉันก็รักท่านเหมือนแม่คนนึงเลยหล่ะ

"คิดถึงจังเลยค่ะ" ฉันโอบกอดป้าจันทร์ด้วยความคิดถึง ซึ่งไม่ต่างกันป้าจันทร์ก็โอบกอดฉันแน่นมากเหมือนกันกัน

"คุณพ่อละคะไม่มารับหนูหรอ ไหนบอกว่าจะมาไง ทำไมเจอแต่ป้าละ" ฉันถามเพราะไม่เห็นแม้แต่เงาคุณพิสิทธิ

"มาค่ะ แต่นั่งรออยู่ตรงนู้น ป้าอดใจรอไม่ไหวเลยเดินมาเรื่อยๆถึงเจอคุณหนูไงค่ะ ป้าคิดถึงมากเลย ไหนดูสิเปลี่ยนไปเยอะมั้ย เนี้ยผอมลงรึเปล่า อาหารที่นู้นไม่ถูกปากหรอค่ะ " พูดพลางหมุนดูตัวฉันไปด้วย

"มาแล้วหร๊อ ยัยพรีม ช้าจังนะ " เสียงคุณพิสุทธิเดินมาแต่ไกลพร้อมบอดี้การด์ชายชุดดำอีกสามคน

"เครื่องดีเลย์ค่ะ หนูก็อยากจะมาให้ไวกว่านี้นะคะแต่บังเอิญหนูบินไม่ได้เลยต้องนั่งมาแทนอ่ะค่ะ " ฉันพูดกวนคุณพ่อพร้อมกระโดดกอดท่านด้วยความคิดถึงมากๆเหมือนกัน

"นึกว่าจะไม่มารับหนูซะแล้ว เห็นบอกว่างานยุ่งมาก"

"ใช่ ! งานยุ่ง ยุ่งมากๆแต่เมื่อเป็นเรื่องของลูกสาวคนเดียวของฉัน ฉันว่างเสมอ ส่วนเรื่องงานฉันให้ลูกน้องคนสนิทไปทำแทนแล้วละ แต่อีกสองวันฉันต้องไปฮ่องกงแล้วนะ มีประชุมใหญ่เลื่อนอีกไม่ได้แล้ว ไปด้วยกันมั้ย "

"ไม่ดีกว่าค่ะ ไม่อยากไปยุ่งงานคุณพ่อ กลับมาคราวนี้ อยากพักผ่อนก่อนสักสองสามวัน แล้วค่อยมาสานต่องานที่คุณพ่อทำอยู่ รับรอง ว่ารีสอร์ท ที่คุณพ่อฝากฝังไว้ต้องปังปุริเย่แน่นอนค่ะ" หญิงสาวจบใหม่ไฟแรงอย่างฉันรู้สึกหึกเหิมอยากทำงานแล้วละ

"แล้วรอบนี้ไปอีกกี่วันค่ะ ถึงจะกลับ เหมือนคุณพ่อบอกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่ไทยเลย"

"ใช่ ! ก็ช่วงนี้หุ้นส่วนพ่อแต่ละคนก็อยู่ที่นู้นซ่ะส่วนใหญ่ เริ่มลงทุนใหม่โครงการใหม่ช่วงนี้เลยไม่ค่อยได้อยู่ไทยเท่าไร ไปครั้งนี้ก็น่าจะประมาณอาทิตย์นึงไม่ก็สองอาทิตย์ เพราะประชุมเสร็จต้องอยู่ทำงานต่อเลย ฝากทางนี้ด้วยละ ไหวมั้ย"

" ส.บ.ม.ย.ห. สบายมากหายห่วงค่ะ เชื่อฝีมือหนูได้เลย" ฉันพูดจบเสียงนึงก็พูดขึ้น

" ตอนนี้รถพร้อมแล้วนะครับ สัมภาระท้้งหมดของคุณหนูพวกผมนำขึ้นรถเสร็จหมดแล้ว" เสียงนั้นก็คือ 'นาย สิน' บอดี้การ์ดของคุณพ่อ ตั้งแต่ฉันรู้จักก็เหมือนว่าจะเข้ามาทำงานก่อนฉันจะไปเมืองนอกปีนึง

"นายสินหรอ.. ฉันนึงว่านายลาออกไปตั้งนานแล้วนะ"

"ยังครับ ถึงไล่ก็ไม่ออกถ้าออกผมจะเอาไรกินครับ" เสียงตอบกลับที่กวนประสาทเหมือนเดิม ด้วยอายุอานามก็มากกว่าฉันไปแค่สองปีเอง จะเรียกพี่ก็ได้แต่ฉันไม่ เพราะความกวนประสาทนี่แหละ

"รีบขึ้นรถเถอะค่ะ คุณหนูนี้ก็ค่ำแล้ว ป้าให้เด็กที่บ้านเตรียมอาหารเมนูโปรดคุณหนูไว้เยอะแยะเลยค่ะ" เสียงป้าจันทร์พูดตัดบท เพราะรู้ว่าถ้าฉันได้ต่อปากต่อคำกับนายสินแล้วจะไม่จบเท่านี้แน่

ฉันรีบขึ้นรถตู้หรู 9 ที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี ข้างในมีสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์เสริมภายในห้องโดยสารของรถตู้ครอบครัวอย่างเหมาะสมและคุ้มค่าตามระดับราคาของรถ ฉันมองรอดผ่านม่านที่กั้นอยู่ระหว่างกระจกรถที่ติดด้วยฟิล์มทึบ ซึ่งมองดูจากข้างในออกไปจะเห็นได้ชัดมากกว่ามองจากข้างนอกเข้ามา นี่ฉันไม่ได้กลับมานานมากเลยรึไง บางอย่างก็เปลี่ยนไป บางอย่างก็ยังเหมือนเดิม แสงไฟกิ่งบนเสาไฟจากท้องถนนสว่างไสวไปทั่วเมือง ผู้คนสัญจรไปมาตามท้องถนน ข้างทางยังมีร้านอาหารตามฟุตบาท มีร้านค้า ร้านน้ำเต้าหู้ ข้าวมันไก่ นี้ฉันไม่ได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้มานานแค่ไหนนะ รู้สึกถึงความสุขที่ได้กลับมา... ไม่นานนักรถก็ได้เลี้ยวเข้าคฤหาสน์หรูซึ่งนั้นก็คือบ้านฉันเอง

" ฮ้าาาาา~~~ ถึงบ้านแล้วววววว" ฉันที่ลงจากรถได้ ก็รีบมองดูรอบๆบ้าน หลังจากที่ไม่ได้อยู่ซะนาน บางส่วนของบ้านก็มีการเปลี่ยนแปลง รอบๆบ้านมีชายสุดดำอยู่ประจำจุดต่างๆ เดินตรวจตราไปทั่ว

"นี่คุณพ่อต้องมีบอดี้การ์ดเยอะขนาดนี้เลยหรอค่ะ "

" ก็ไม่เยอะนะ หนูแค่ไม่ชินรึเปล่า ช่วงนี้พ่อไม่ค่อยอยู่บ้านเลยต้องมีไว้ประจำที่บ้านส่วนนึงและติดตามพ่อไปฮ่องกงด้วยส่วนนึงน่ะ ตอนนี้พ่ออยู่บ้านไง คนเลยดูเยอะ ทานเข้ากันเถอะป่ะ เดียวกับข้าวจะเย็นซะก่อน"

...ห้องครัว...

" ว้าววววว นี่ป้าจันทร์รู้ใจพรีมไปหมดเลยมีแต่เมนูโปรดทั้งนั้นเลยนะคะ" ฉันดูตื่นเต้นมาก เพราะไม่ได้ทานอาหารไทยนานแล้วยิ่งกว่านั้นไม่ได้ทานฝีมือป้าจันทร์นานแล้วเหมือนกัน

"รีบทานนะคะ เดียวจะเย็นหมด ป้าทำไว้เองทุกเมนูก่อนออกไปรับคุณหนู แล้วให้เด็กๆเขาอุ่นจัดเตรียมไว้รอ คุณท่านจะให้ป้าทำอาหารรอคุณหนูกลับมาป้าไม่ทำค่ะ ป้าอยากไปรับคุณหนูด้วยเลยต้องทำไว้ก่อน"

"ได้ค๊า พรีมจะกินให้หมด เอาให้อ้วนพรุ่งนี้เลยค่ะ" พูดจบป้าจันทร์ไม่รอช้ารีบตักข้าวจานพูนๆให้ฉัน กับคูณพ่อ ทานข้าวด้วยกันหลังจากที่ไม่ได้มีโมเม้นนี้นานเหลือเกิน..

...ห้องนอน...

หลังจากที่ฉันจัดเตรียมตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาทิ้งตัวนอนลงบนฟูกนุ่มๆที่อยู่บนเตียง พลางมองไปรอบๆ ข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดให้เป็นระเบียบ พื้นถูกขัดเป็นเงางามวิบวับ ผ้าห่มผ้าปู มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้ถูกจัดเตรียมเป็นอย่างดี

'นี่ก็ห้องนอนของฉัน' ฉันต้องปรับตัวเป็นอย่างมากเนื่องจากทามโซนเวลาที่ต่างกัน ปกติเวลานี้ที่นู้นฉันคงกำลังตื่นนอน แต่ไม่รู้ว่าเพราะความเพลีย หรือเพราะที่นี่มืดแล้ว หรือเพราะกินอิ่มเกินไปทำให้หนังตาฉันเริ่มปิดลง ......

.........................................................................................................................

ว้าว~ นางเองของเรามีชีวิตที่เพียบพร้อมจริงๆเลย ไรท์แอบอิจจฉา แล้วนะเนี้ย.. อิอิ ทั้งสวย รวยเวอร์ การเรียนดี การงานก็ดี การเงินยิ่งดี ความมีพ่อดูดี ความมีพ่อรวย บ้านก็หลังใหญ่ ชีวิตแทบไม่ต้องทำอะไร จบมาก็มีงานทำ ไม่ทำก็อยู่ได้ โอ้ย! เริ่ดสุด ชีวิตนี่รวยแล้วรวยอีก รวยด้วยกลีบกุหลาบโดยแท้ แต่! อย่าลืมนะจ๊ะ กุหลาบสวยย่อมมีหนาม.

ตอนที่ 2 ออกงาน

...ออกงาน...

ก๊อกๆๆๆๆ ก๊อกๆๆ ๆๆ "คุ๊ณหนู~~ คุณหนูค๊าา ตื่นได้แล้วค่ะ นี้จะเที่ยงแล้วนะคะ ป้าทำข้าวต้มไว้ให้ตั้งแต่เช้าแล้วมันจะเย็นหมดนะคะ ลุกได้แล้วค๊า " เมื่อก่อนนี่คือเสียงนาฬิกาปลุกของฉันในทุกทุกเช้า และตอนนี้ก็เช่นกัน ป้าจันทร์จะเป็นคนปลุกฉันทุกวัน นี่ก็ผ่านไปตั้งหลายปีแล้วที่แกไม่ได้ทำหน้าที่นี้

ฉันที่งัวเงียพลางบิดขี้เกียจไปด้วย " กี่โมงแล้วละเนี้ย " หันมองนาฬิกาที่ปลายเตียง "จะ11โมงแล้วสินะ" นี่ฉันหลับหรือสลบกันละเนี้ย

แสงจากหน้าต่างเล็ดรอดผ่านผ้าม่านในห้องบ่งบอกว่านี้คือแสงแดงที่แผดเผา ของอากาศในเมืองไทย ฉันรีบจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จ และยังอยู่ในชุดลำลอง เพราะวันนี้ฉันยังไม่มีแพลนจะไปไหน.

ตึ๊กๆๆ ตึ๊ก

เสียงฝีเท้าการวิ่งลงบันไดของฉันยังเหมือนเด็กแรกรุ่นเหมือนเดิม

"เหมือนเดิม ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังทำตัวเหมือนเด็กเหมือนเดิม" เสียงคุณพิสุทธิพูดขึ้น พลางจิบชา พร้อมขนมปังปิ้งสองแผ่น

"ป้าๆ รีบตักข้าวค่ะ หิวๆ แล้ว "

"หิวแล้วทำไมไม่รีบลุกละคะ นี้จะเที่ยงอยู่แล้ว พึ่งจะได้ทานข้าวเช้าเอง" เสียงป้าจันทร์ที่ยังบ่นให้ฉันเหมือนเดิม

"คุณพ่อก็ยังจิบชาอยู่เลย นี่ก็เที่ยงแล้ว ชาเขาไม่จิบกันตอนเช้าหรอค่ะ หรือคุณพ่อก็พึ่งตื่นเหมือนกัน"

"โตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้ ชีวิตต่อจากนี้จะกินเที่ยวเหมือนเดิมไม่ได้ละนะ " เสียงคุณพิสุทธิที่เหมือนจะแอบดุอยู่เบาๆ ฉันสัมผัสได้

"โตแล้วค่ะ เวลาทำงานก็จริงจังได้ เวลาเรียนก็ตั้งใจ เวลาเที่ยวก็เที่ยวให้สุดเหมือนกัน นี่หนูจะอายุยี่สิบเก้าแล้วนะคะ รู้ค่ะว่าสิ่งใหนควรหรือไม่ควร"

"ในเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งไหนควรไม่ควรละเมื่อไรแกจะแต่งงานสักทีละ อายุก็ปูนนี้แล้วเมื่อไรฉันจะได้อุ้มหลานสักที ฝั่งนู้นเขาไม่พูดอะไรเลยรึ"

"พ่อค่ะ หนูพึ่งเรียนจบเองนะ ขอเวลาทำงาน ขอเวลาใช้ชีวิตก่อนได้มั้ยอ่ะ เดียวพร้อมแล้วจะให้พี่ธันมาขอเลย เพราะช่วงนี้ธุรกิจของเขากำลังไปได้สวย เขาก็คงสนุกกับการทำงานอยู่ยังไม่คิดเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ" พี่ธันคือแฟนฉันเองแหละ ครบกันก็ 5 ปีแล้ว เราเจอกันหลังจากที่ฉันไปเรียนเมือนนอกได้ปีนึง นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราสองคนห่างกัน เพราะเขามีธุรกิจอยู่ที่เมืองนอก ส่วนฉันอยากมาสานต่องานคุณพ่อให้เสร็จ

"แล้วครั้งนี้ธันเขาไม่ได้กลับมาด้วยหรอ ทำไมปล่อยให้แกกลับมาคนเดียวละ"

"กลับค่ะ แต่กลับอาทิตย์หน้า งานเขายังไม่เสร็จ หนูเลยกลับมาก่อน" นอกจากคุณพ่อที่ต้องบินไปฮ่องกงบ่อยๆไม่ค่อยได้อยู่ไทย พี่ธันก็เช่นกัน ธุรกิจของเขาเกี่ยวกับการส่งออกเครื่องยนต์ต่างๆทำให้ต้องอยู่หน้างานเป็นส่วนใหญ่ คงต้องไปๆ มาๆอีกเหมือนกัน นี่ชีวิตฉันต่อจากนี้ทำไมดูเหงาๆจัง

ตื้ดๆๆ ตื้ดๆ ตื้ดๆ

ฉันรีบหาโทรศัพท์ตัวเอง แต่ไม่ใช่ โทรศัพท์ที่ดังเป็นของพ่อฉันเอง

"สวัสดีครับ ! ครับๆ พรุ่งนี้ผมไม่สะดวกเลย เดียวส่งลูกสาวไปแทนนะ ใช่ๆ เขากลับมาแล้ว งานแรกเลยสินะครับ ฮ่าๆๆ ได้ครับ ยังไงฝากลูกสาวผมด้วยนะ ครับๆ สวัสดีครับ "

"ไปไหนค่ะ! " ฉันรีบถามก่อนเลย ก็ได้ยินอยู่ว่าเดียวส่งลูกสาวไปแทน

"งานประมูลน่ะ เป็นงานประมูลเพชร สามปีจะจัดขึ้นครั้งนึง งานนี้คนดังในแวดวงไฮโซไฮซ้อไปกันเพียบเลยนะ เขาส่งการ์ดเชิญมาหลายครั้งแล้ว แต่พ่อไม่ว่างไง เลยปฏิเสธไป แต่รอบนี่โทรมาเลยแหะ ส่งแกไปแทนละกัน แกกลับมาพอดีนิ เรื่องของสวยๆงานคงต้องให้ผู้หญิงไปถูกมั้ย"

"หุยย .. หนูเคยออกงานที่ไหนละคะ ละยิ่งแวดวงพวกนี้ด้วยแล้ว แต่ถ้าเป็นเพชร ก็น่าสนนะ อยากจะได้มาประดับคอสักชิ้นเหมือนกัน "

สงสัยมั้ยละว่าพ่อฉันไปอยู่ในแวดวงเหล่านี้ได้ไง ก็เพราะ เมื่อก่อนพ่อฉันจัดว่าฮอตอยู่พอสมควร เคยควงสาวไฮโซอยู่คนนึงออกงานครั้งเดียวคนก็พากันหาประวัติพ่อฉันกันให้วุ่น และด้วยโปรไฟล์ที่เป็นนักธุรกิจ หนุ่มโสดลูกติด เท่านั้นแหละ ดังข้ามคืนเลยจ้าาา.. ฮอตป่ะล่ะ จากนั้นก็เลยเป็นที่รู้จักของคนในแวดวงไฮโซ แต่ตอนนี้สาวใหญ่คนนั้นก็ได้เลิกรากันไป ฉันก็ยังไม่เห็นพ่อฉันควงใครอีกเลย

"แล้วจะให้หนูไปเนี้ย เงินละคะ พูดตรงๆละกันว่า ขอตังค่ะ " ฉันพูดพลางแบมือขอเงินเหมือนเด็กน้อยขอตังผู้ปกครอง ทันใดนั้น ตื๊ดๆๆ เสียงขอความดังขึ้น ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นดู พบยอดเงินโอนเข้า แปดหลัก

"ว้าววววววว ..เยอะขนาดนี้เลยหรอค่ะ สุดยอดป๊ะป๋าโอนไวสายเปย์ของจริง ของแท้" ฉันทั้งตื่นเต้น ดีใจ ใจเต้นตุ๊บๆ รีบลุกไปโอบกอดคุณพิสุทธิจากด้านหลังในขณะที่ท่านนั่งอยู่พร้อมหอมแก้มไปฟอดใหญ่ๆ

"ขอบคุณมากๆค๊าาาา ~~~ "

"ถือว่าเป็นของขวัญตอนรับกลับมาละกัน "

" เออ . แล้วลายระเอียดงานเป็นยังไงบ้างค่ะ งานมีเมื่อไร แล้วหนูต้องไปคนเดียวหรอ"

" งานมีพรุ่งนี้น่ะ ตอนเย็น พรุ่งนี้ฉันต้องเดินทางแต่เช้า เดียวฉันจะให้ลูกน้องติดตามไปคนนึงนะ เขาเป็นลูกน้องคนสนิทฉันเองแหละ "

"ใครอ่ะ นายสินหรอ เท่าที่เห็นก็มีแต่นายสินน่ะที่สนิทคุณพ่ออ่ะ"

"ไม่ใช่! สินเขาต้องติดตามพ่อไปพรุ่งนี้ มีอีกคน พ่อให้เขาไปทำธุระแทนพรุ่งนี้เที่ยงๆน่าจะกลับ คนนี้ทำงานแทนพ่อได้ทุกอย่าง ให้อยู่ดูแลแกทางนี้ละกัน" ใครกันอ่ะ นี่ฉันยังไม่รู้จักลูกน้องพ่อครบทุกคนอีกหรอ แต่ช่างเถอะ

"ขออ่านรายละเอียดงานที่หนูต้องไปพรุ่งนี้หน่อยค่ะ "

"สินนนน สิน นายหยิบการ์ดเชิญในรถมาให้ยัยพรีมหน่อยสิ" เสียงพ่อตะโกนเรียกลูกน้องคนสนิท

"ค้าบบ" น้ำเสียงตอบกลับสุดกวนโอ้ยเหมือนเดิม

"นี่ครั๊บ " ฉันหยิบมาด้วยความรำคาญนิดนึง

"งานประมูลเพชรครั้งที่2 ในงานจะมีการเปิดประมูลเพชร '*ลอร์ออฟ' คือเพชรที่เคยอยู่บนมงกุฏของธิดาฟาโรซ์ นำมาทำเป็นสร้อยคอกว่า ร้อยกะรัต และในงานยังมีเพชรจากทุกมุมโลกนำมาจัดประมูลกว่าร้อยรายการ .... โห้วว อลังการงานสร้างสุดๆ แบบนี้พวกเศรษฐีเหล่าคนดัง นักข่าวต้องเยอะแน่ๆ" ฉันอ่านการ์ดเชิญแบบคร่าวๆ นึกถึงในงานพรุ่งนี้ตอนเย็นไม่ออกเลยว่าจะใหญ่โตขนาดไหน

"แล้วชุดหนูละ งานใหญ่ขนาดนี้ หนูไม่มีเวลาเตรียมตัวแค่ครึ่งวันหรอกนะ"

"เดียวพ่อโทรหาเลขาส่วนตัว ให้เขาหาชุดที่จะใส่ไปพรุ่งนี้ ยังไงก็บอกขนาดไซน์ที่จะใส่ และเลือกชุดเองนะ"

"ค่ะ" ตื่นเต้นจังนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้ออกงานหรอเนี้ย ..

.........................................................................................................................

* เพชรลอร์ออฟ คือเพรชที่ไรท์แต่งขึ้นเอง ไม่มีชื่อเพชรจริงๆนะคะ

ตั้งแต่อ่านมาชีวิตนางเอกของเราคือเฟอร์เฟคทุกอย่างใช่มั้ยละ ใช่ค่ะ! แล้วต่อจากนี้ ชีวิตที่แสนวุ่นวายได้เริ่มขึ้น

ตอนที่ 3 นายเป็นใคร

...นายเป็นใคร...

วันนี้แล้วสินะที่ฉันจะได้ออกงานแทนคุณพ่อครั้งแรก ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะต้องปั้นหน้ายังไง กับพวกไฮโซไฮซ้อเหล่านั้น

"ชุดมาแล้วค่ะ คุณหนูต้องเริ่มแต่งตัวได้แล้วนะคะ ช่างแต่งหน้าทำผมคุณหนูมารอตั้งแต่เที่ยงแล้วค่ะ" เสียงป้าจันทร์ตะโกนเรียกฉันอยู่นอกห้อง ฉันที่พึ่งอาบน้ำเสร็จเนื่องจากพึ่งตื่น ฮ่าๆ

" ให้พวกเขาเข้ามาเลยค่ะ พรีมเรียบร้อยแล้ว" จากนั้นไม่นาน เสียงเปิดประตูดังขึ้น คุณอรเลขาของคุณพ่อที่ฉันพึ่งเคยเจอ อายุอานามราวสามสิบต้นๆ รูปร่างสมส่วน ผิวพรรณดีหน้าตาสะสวย เป็นคนจัดการงานครั้งนี้ให้ฉัน พร้อมจัดหาชุด กับช่างแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว จัดว่าทำงานได้ดีเชี่ยวละ พวกเขาเหล่านั้นเดินถือของพะรุงพะรัง ทั้งชุดที่จะให้ฉันเลือกอีก สามสี่ชุด เนื่องจากฉันเลือกผ่านไลน์มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลอง

"สวัสดีค่ะ คุณหนู พี่อรนะคะ เลขาคุณท่าน แต่จากนี้ คุณท่านให้มาทำหน้าที่เป็นเลขาคุณหนูแทนค่ะ ตารางงาน ตารางเวลาทั้งหมด อรดำเนินการไว้หมดแล้วนะคะ ตอนนี้คุณหนูจะแต่งหน้าก่อนหรือลองชุดก่อนดีค่ะ"

" แต่งหน้าก่อนละกัน แต่ขอเป็นเครื่องสำอางของฉันเอง ฉันไม่เอาเครื่องสำอางของพวกเธอนะ เออ...คือ หน้าฉันแพ้ง่ายอ่ะ " ตัดปัญหาไปค่ะ จะบอกว่าเครื่องสำอางพวกเธอไม่แพงเดียวก็ว่าดูถูกอี๊กกก..

ได้เวลานั่งเป็นหุ่นให้พวกนี้ทำแล้วสิ ระยะเวลาดำเนินการผ่านไปนานพอสมควร เมื่อแต่งหน้าเสร็จก็เริ่มทำผมต่อเลย นางอีกคน ม้วนผมของฉันจัดเก็บอย่างเรียบร้อย ปล่อยชายผมหน้าหน่อยๆ บวกกับแต่งหน้าไม่อ่อน และไม่เข้มเกินไป สายหวานปนเซ็กซี่นิดๆ ไม่เชิงคิมิโน๊ะโต๊ะสักเท่าไร

"เดียวลองชุดเลยนะคะ พวกเธอเอาชุดมาให้คุณหนูลองหน่อย" เสียงเลขาสาวกล่าว

"ไม่เป็นไรค่ะ นี้เป็นไซน์ที่คัดมาแล้วใช่มั้ย งั้นคงจะใส่ได้ทุกตัว งั้นเอาตัวนี้ดีกว่าค่ะ เอาที่พรีมชอบละกันเนาะ" ฉันชี้ไปที่ชุดเดรชราตรีสีครามน้ำเงินเข้ม ประกายเพชรระหยิบวิบวับ ปาดไหล่แขนสามส่วน กระโปรงผ่าหน้าเลยเข่าขึ้นมาโชว์ให้เห็นขาขาวสะอาดตา

"ในระหว่างนี้ ยังไงก็เก็บของออกไปก่อนได้นะคะ เก็บชุดที่เหลือไปด้วยค่ะ ออกไปแล้วเรียกป้าจันทร์ให้พรีมหน่อย เดียวพรีมขอแต่งตัวก่อนค่ะ " ทันใดนั้นคำสั่งของฉันก็ทำให้คนเหล่านั้นรีบช่วยกันเก็บของออกไป ฉันที่สวมชุดได้แล้วกำลังพยายามรูดชิบตรงกลางหลัง

" อ๊ากก มัน รูด ไม่ ขึ้น แขนฉัน มัน ไม่ ถึง แล้ว เฮ้อ!! " ฉันที่พยายามอยู่หลายครั้ง จนจะรำคาณแล้วนะ ไม่น่าไล่พวกนั้นออกไปเลย เมื่อไรป้าจันทร์จะมาเนี้ย

แก๊กๆ เสียงเปิดประตูดังขึ้น ฉันที่กำลังพยายามรูดซิบอยู่นั้น

" ป้าจันทร์มาพอดีเลย ช่วยรูดซิบข้างหลังให้พรีมหน่อย เนี้ย! มันขึ้นไม่สุดสักที"

พรึ่บ !

เสียงรูดซิบขึ้นจนสุด จนชุดรัดเข้ารูปพอดีเผยให้เห็นเรือนร่างโค้งมนตามรูปอย่างได้สัดส่วน

"อ้า ~~~ ขึ้นได้สักที" ฉันที่ก้มจัดแจงชุดเสร็จเรียบร้อย

"ป้าจันทร์ว่าพรีม ส๊ว.." ยังไม่ทันจะพูดจบ ฉันเงยหน้าขึ้นมองกระจก ซึ่งคนที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันไม่ใช่ป้าจันทร์อ่ะแกรรร.. ฉันหันขวับด้วยความเร็ว ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ส่วมสูทสีครามน้ำเงิน รูปร่างสูงสันทัด สมส่วน หน้าตาจัดว่ารูปงามแบบชายไทย ผิวพรรณสีแทนคมเข้ม คิ้วหนา จมูกเป็นสันได้รูป ใจฉันที่เต้นจนจะทะลุออกมา ทั้งตกใจและตะลึงในความหล่อ

" นะ นะ นายเป็นใคร " ฉันพูดพลางเอามืออีกข้างชี้หน้า มืออีกข้างทาบ อก เขายังคงทำหน้านิ่ง ที่แสนจะเย็นชาไม่ได้ตกใจอะไรเลย

"เข้ามาในห้องฉัน แล้วยัง มารูดซิบให้ฉันอีก นี้มันจะมากเกินไปละนะ" ฉันที่กำลังมองหาจะเรียกให้คนช่วย

" อ้าวคุณธีร์ มาแล้วหรอค่ะ ป้ากำลังจะขึ้นมาตามคุณหนูอยู่พอดีเลย ว่าแต่คุณหนูใกล้เสร็จหรือยังค่ะ"

"ป้ารู้จักด้วยหรอ ใครอ่ะ"

"คุณธีร์ค่ะ คนที่จะไปงานประมูลกับคุณหนูเย็นนี้ไงค่ะ "

"คนนี้นะหรอที่พ่อบอกว่าลูกน้องคนสนิท ที่จะไปงานกับหนูเย็นนี้ " ฉันพูดพลางมองหน้าไปด้วย ว่าแต่ทำไมหน้าคุ้นจัง แต่คงไม่ใช่คนที่ฉันคิดหรอกมั้ง

"ผมแค่จะมาตามป้าครับ พอดีพวกคุณอรเขากำลังเก็บของขึ้นรถจะให้เตรียมอาหารเย็นไว้ให้พวกเขาเลยมั้ย แต่เด็กๆหาป้าไม่เจอ ผมเลยคิดว่าคงอยู่ข้างบนกับคุณหนู"

"อ่อ ป้า แวะไปเข้าห้องน้ำมาค่ะ แต่เดียวป้าจะไปเตรียมนะคะ ลงไปบอกให้พวกเขารอก่อน " พูดเสร็จ ชายหนุ่นก็หันหลังกลับไปโดยไม่ได้สนใจจะมองหน้าฉันสักนิด

" อธิบายอีกรอบค่ะป้า เขาเป็นใคร พรีมต้องการรู้ข้อมูลเขาให้เยอะกว่านี้"

" อ่อ คุณธีร์หรอค่ะ เขาก็มาทำงานที่นี่หลังจากที่คุณหนูไปเรียนต่อได้สักปีกว่า เห็นว่าเป็นเพื่อนกับคุณสิน คุณสินแนะนำมาค่ะ จากนั้นไม่นานคุณท่านก็รู้สึกพอใจกับการทำงานของเขา เพราะเขาทั้งเก่ง หัวไว ขยัน และที่สำคัญ ทำงานแทนคุณท่านได้ทุกอย่างเลยค่ะ" ป้าจันทร์บรรยายความสามารถนายธีร์ด้วยน่าตาที่ปลื้มปิติ ดีจงดีใจยิ่งนัก ต้องขนาดนั้นเลยนิ

" ช่างเถอะค่ะ ..ว่าแต่เป็นไงค่ะ พรีมสวยมั้ย "

"สวยมากๆเลยค่ะ สวยเหมือนคุณแม่คุณหนูตอนสาวๆเลย.. " ป้าจันทร์พูดพร้อมหมุนตัวฉันไปมา

"ไหนหมุนตัวสิ ขาดอะไรไปรึเปล่าเนี้ย กระเป๋าละคะ เอากระเป๋าใบไหนดี" ป้าจันทร์พูดพลางเปิดตู้เก็บกระเป๋าของฉันที่ถูกจัดเรียงราย เรียบร้อยเป็นอย่างดี

" ใบนี้ดีกว่าค่ะ ใบนี้แม่พรีมซื้อส่งมาให้คิดว่ามันน่าจะเข้ากับชุดนะคะ จะถือหรือจะห้อยไหล่ก็ดูง่ายดี สีขาวมุกตัดกับสีชุดครามน้ำเงิน เข้ากับรองเท้า สีมุกพอดี"

" เครื่องประดับละคะ พอแล้วหรอ ใส่แค่ต่างหูเองแล้วสร้อยละคะ" ป้าจันทร์พยายามหาสร้อยให้ฉัน

" ไม่ดีกว่าค่ะมีต่างหูแล้วก็พอ สร้อยเดียวไปหาในงานดีกว่า อย่าลืมสิค่ะ พรีมกำลังจะไปงานประมูลเพชรนะ"

" ได้ค่ะ แค่นี้ก็สวยมากๆแล้ว"

ตอนนี้ฉันพร้อมมาก เดินลงบันไดด้วยความมั่น สายตานับสิบของบอดี้การ์ดทั้งหลาย และคนรับใช้รวมถึงพวกออการ์ไนซ์ที่มองมาทางฉันเป็นทางเดียว คงตะลึกในความสวยของฉันในวันนี้ ยกเว้น ! นายธีร์ที่กำลัง ยืนกระดกเบียร์จากกระป๋องอย่างสบายใจ หุย! หงุดหงิด

.........................................................................................................................

ตอนนี้นางเอกได้เจอกับพระเอกครั้งแรกแล้วนะคะ แต่! นางเอกของเราเคยเจอพระเอกที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าทำไมนางเองของเราต้องบอกว่าหน้าคุ้นๆด้วยน๊าา.. ซักสงสัยแล้วสิ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!