NovelToon NovelToon

เกิดใหม่ครั้งนี้เป็นจอมเวทย์ผู้ลงทัณฑ์

บทที่ 1 จุดพลิกผัน

“ ไปก่อนนะครับ เย็นนี้ผมจะรีบกลับนะครับ ” ร่างสูงกล่าวลาก่อนจะเลื่อนกระจกรถขึ้น รถเก๋งคันสีดำเคลื่อนตัวออกจากบ้าน โดยที่คนบนรถหารู้ไม่ว่าเครื่องยนต์มีความผิดปรกติ ไอ ชายหนุ่มอายุย่างเข้าเลขสาม เขามีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เขามีนิสัยที่ชื่นชอบการอ่านนิยายแนวแฟนตาซี และ สิ่งที่ไม่มีจริงบนโลกอย่างเวทย์มนต์ ตลอดชีวิตของเขามักถูกพ่อแม่บ่นเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเขาที่มักจะปล่อยเวลาไปอย่างไร้ค่ากับการอ่านหนังสือเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่มีจริง และมักจะโดนเปรียบเทียบกับพี่ชายของเขาอยู่บ่อยครั้งจนกระทั่งวันนี้ วันที่เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะที่เขากำลังไปทำงานที่บริษัท

ปรี้นนน ปรี้นนนนนน

ไอบีบแตรรถเสียดังก้องถนน เขาเหยียบเบรกด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะหักรถหลบรถมอเตอร์ไซที่ขับปาดหน้า ทำให้รถคอนเทนเนอร์ที่บรรทุกของมาด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดเหยียบเบรกไม่ทันพุ่งชนรถเก๋งคันสีดำตกแม่น้ำ ด้านข้างรถเก๋งมีรอยชนที่แรงมาก บริเวณศีรษะของไอกระแทกกับกระจกรถฝั่งคนขับอย่างแรงจนทำให้เขาหมดสติ หัวของเขาแตกเลือดไหลอาบใบหน้า ขณะที่รถไหลลงสู่พื้นของแม่น้ำ น้ำในรถค่อยๆไหลเข้ามาทำให้ห้องเครื่องหน้ารถช็อต ประตูรถไม่สามารถเปิดใช้งานได้ ปริมาณน้ำในรถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอากาศภายในรถบางเบาลง ไอเริ่มรู้สึกตัวเมื่อเขารู้สึกถึงน้ำที่ท่วมร่างกายของเขา ไอรู้สึกเวียนหัวแต่สิ่งที่เขากำลังเจออยู่ตรงหน้าทำให้เขาต้องรีบหาทางเอาตัวรอด

“ ช่วย…ช่วยด้วยครับ.. ”

ไอพยายามทุบกระจกรถให้เปิดออก เขาหยิบไม้เบสบอลขึ้นมาทุบกระจกอยู่พักใหญ่ก่อนที่เขาจะเริ่มหมดแรง เขาทำได้เพียงสร้างรอยร้าวเล็ก ๆ ให้กับมัน อากาศที่ไอสูดเข้าปอดก่อนที่น้ำจะท่วมรถทั้งคันเริ่มหมด สมองของเขาขาดออกซิเจนโดยสมบรูณ์ ดวงตาพร่าเบลอเลือนรางลงทุกขณะความรู้เจ็บแปล๊บแล่นเข้าที่หัวของเขา ไอหมดสติไปท่ามกลางความมืดมิดและความหนาวเหน็บ ภายในใจของเขายังคงร้องขอความช่วยเหลือถึงแม้มันจะไม่มีใครได้ยินเลยก็ตาม

ตู้มมม

แหมะ แหมะ

เสียงน้ำหยดลงบนพื้นพร้อมกับแรงสะกิดที่บริเวณต้นแขน ทำให้ไอลืมตาขึ้น เขามองเห็นเงาของเด็กชายคนหนึ่งที่กำลังก้มมองเขา แสงสว่าจากดวงอาทิตย์ทำให้ไอไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเด็กชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน แต่กับมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกแตกต่างออกไปจากเดิม หลังจากที่ไอได้สติและลุกขึ้นนั่งเด็กชายคนนั้นก็ได้ยืนหันหลังให้เขาโดยเด็กคนนั้นอยู่ไกลออกไปอีกสามถึงสี่ก้าว ไอรีบเรียกเขาเอาไว้เพื่อจะขอบคุณและถามบางอย่างกับเขา ทว่าไม่ทันที่เขาจะได้ถาม เสียงของหญิงสาวและชายหนุ่มได้ดังขึ้นจากด้านหลังของเขา

“ เด็กคนนั้นหน่ะ ขอบคุณมากนะที่ช่วยฉันไว้ ”ไอกล่าวพร้อมกับมองแผ่นหลังของเด็กคนนั้น

“ อะไรกัน… นายอายุน้อยกว่าฉันแท้ๆ ทำไมถึงได้เรียกฉันด้วยคำพูดแบบนั้น ” เด็กชายชะงักครู่หนึ่ง ราวกับว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง

“ เด็กน้อย ฉันจะอายุเข้าเลขสามแล้ว ฉันน่ะเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอนะ ”

“ ไร้สาระ ” ทว่าไม่ทันที่ไอจะได้พูดคุยไปมากกว่านี้เสียงของชายหญิงวัยกลางคนได้ดังขึ้นจากด้านหลังของเขา เมื่อไอหันไปทางต้นเสียงและหันกลับมาอีกครั้งเขาก็ไม่พบกับเด็กชายคนนั้นแล้ว

“ ไปไหนแล้ว…” ไอหันมองรอบ ๆ ตัวเขาพบเพียงผืนป่าที่กว้างใหญ่ และเริ่มจระหนักได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประสบอุบัติเหตุรถตกน้ำ แต่แล้วเขากับมาอยู่กลางป่าได้ยังไงกัน ไอลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินไปขอความช่วยเหลือตามของเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่แล้วเขาก็หยุดชะงักเมื่อเดินมาได้ไม่กี่ก้าว เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนใบหน้าเสียงหอบหายใจถี่ ลำคอเหือดแห้ง อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้น ไอล้มลงกับพื้นแต่เขากับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย เมื่อเขาก้มมองมือทั้งสองข้างดวงตาของเขาเปิกโพลงด้วยความตกใจ

“ ทำไม…เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมฉันถึงตัวเล็กลง… แล้วนี่ฉันอยู่ที่ไหนกันแน่ … ” ไอยกมือขึ้นมาดูเขาตั้งคำถามกับตัวเองทันที มือของเขามีขนาดที่เล็กลง เขารีบสำรวจร่างกายด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะพบว่าขนาดตัวของเขานั้นเล็กลง เมื่อเขายืนขึ้นอีกครั้งเขาสังเกตว่าส่วนสูงของเขานั้นลดลงมากกว่าแต่ก่อน

ในตอนนั้นผมรู้สึกกังวลและเริ่มกลัวกับสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ไม่ว่าผมจะหันไปทางไหนก็จะพบกับต้นไม้ตลอด หูของผมดับลงตั้งแต่ผมรู้ว่าตัวเองอยู่ในป่าและมีขนาดตัวที่เล็กลง ความเงียบของผืนป่ากัดทำให้ผมรู้สึกหวาดกลัว สมองของผมขาวโพลน ไม่มีแม้แต่เสียงของความคิด

ไอทรุดลงกับพื้นอีกครั้ง เขานั่งกอดเข่าตัวสั่นเทาเหมือนลูกนก เม็ดเหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกทำตัวไม่ถูก ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของเขา เขาไม่เคยเข้าป่าเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาเสียวหลังวาบเมื่อรู้สึกถึงมือปริศนาที่สัมผัสที่ไหลจากด้านหลัง สีหน้าซีดเผือกราวกับคนตายค่อย ๆ หันมาด้านหลังตามแรงสัมผัส

“ อ…ไอริช..!! ” เสียงของหญิงสาวดังแว่วเข้ามาในหูของไอ หญิงสาววัยกลางคนผู้มีเส้นผมสีเงินสลวยยาวจรดกลางหลัง ดวงตาสีเทาของเธอสะท้อนใบหน้าของเขา เธอเข้ามาสวมกอดไอด้วยเป็นห่วง เสียงของเธอสั่นเคลือปนไปด้วยความวิตกกังวล

“ คุณค่ะ เรารีบพาลูกกลับไปให้หมอตรวจกันเถอะค่ะ ฉันกลัวว่าลูกจะเป็นอันตราย ” เธอยังคงกอดไอไว้ในอ้อมแขน เสียงของเธอสั่นขณะที่เธอพูดกับสามี

“ ไอริชกลับบ้านไปพ่อว่าเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน ” ชายหนุ่มวัยกลางคนพูดขึ้นหลังจากที่เขาอุ้มไอขึ้น

“ ไอริชลูกได้ยินที่พ่อพูดหรือเปล่า ” เขาเรียกเด็กชายอีกครั้ง ทว่ากับไม่มีเสียงตอบกลับมา ผ่านไปสักพักขณะที่ชายวัยกลางคนเดินมาถึงรถม้าไอกับเอ่ยถามบางอย่างกับทั้งสองคน เป็นคำถามที่ทำเอาหัวใจของผู้เป็นพ่อแม่กระตุกวูบ

“ ขอโทษนะ ฉันจำไม่ได้ว่าเคยรู้จักพวกคุณ คุณสองคนเป็นใคร ” หญิงสาววัยกลางคนยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความตกใจ เธอหันมองสามีของเธอราวกับว่าต้องการคำตอบจากเขา เธอไม่เข้าใจประโยคช่วงกลางของคำถามแต่เธอเข้าใจประโยคแรงและประโยคสุดท้าย เป็นคำถามที่ทำให้เธอรู้สึกกังวลเกี่ยวกับลูกชายของเธอมากกว่าเดิม

ชายวัยกลางคนมีสีหน้าที่ตกใจ เขาหันมามองภรรยาของเขาก่อนที่เขาจะพูดกับเด็กชายตรงหน้าผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขาอีกคน

“ พ่อจะพาลูกออกไปจากที่นี่ ไม่มีสิ่งใดที่ลูกต้องกลัว ”

เมื่อทั้งสามคนมาถึงรถม้า ชายวัยกลางคนได้ออกคำสั่งให้เดินทางกลับไปยังอาณาเขตโดยเร็วที่สุด ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงขณะที่ดวงจันทร์กำลังลอยขึ้นมาแทนที่อย่างช้า ๆ รถม้าประจำตระกูลเคลื่อนที่เข้ามายังด้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ อาคารสูงตระง่า ร่างของเด็กหนุ่มสองคนที่มีอายุใกล้เคียงกัน ยืนรออยู่ด้านหน้าพร้อมข้ารับใช้และพ่อบ้านอีกสองคน เมื่อรถม้าหยุดชายวัยกลางคนอุ้มไอที่กำลังหลับเดินผ่านเด็กหนุ่มทั้งสองตรงไปยังห้องนอนด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล เด็กหนุ่มทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความสงสัย

“ เจค คีเรน ช่วงนี้ไอริชคงมาเล่นกับหลานทั้งสองยังไม่ได้ ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้า หลุมตาลงต่ำปิดบังความจริงที่ไม่อาจบอกกับเด็กๆ ตรงหน้า

“ คุณน้า น้องไอริชเป็นอะไรหรอครับ ” คีเรนเอ่ยถามด้วยความสงสัย ดวงตาของเขามองหญิงสาววัยกลางคนตรงหน้าราวกับต้องการคำตอบ

“ ไอริชไม่สบาย น้าคงต้องให้หลานทั้งสองกลับไปก่อน ”

“ ไอริชเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ น้องเจ็บเยอะหรือเปล่า ” น้ำเสียงของคีเรนบ่งบอกถึงความเป็นห่วงและความกระวนกระวานใจ เกี่ยวกับอาการป่วยของไอริช

“ คีเรน ” น้ำเสียงเรียบนิ่งของเจคดึงสติของคีเรนกลับมา เจคดึงคีเรนกลับมายืนข้างตนเอง ก่อนที่เขาจะกล่าวขอโทษและกล่าวลาขอตัวกลับ

“ ผมต้องขอโทษคุณน้าที่คีเรนทำตัวเสียมารยาทด้วยครับ ส่วนเรื่องน้องไอริชผมสองคนขอให้น้องกลับมาแข็งแรง ผมกับคีเรนไม่ขอรบกวนเวลาคุณน้า ” เจค คีเรนโค้งตัวลงเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมาโดยมีเจคคอยลากคีเรนให้เดินตามออกมา

หลังจากที่ทั้งสองคนขึ้นรถม้ามา คีเรนยังคงมองเข้าไปด้านในคฤหาสน์ ดวงตาสีฟ้าของเขายังคงมองหาน้องชายตัวเล็กที่ถูกอุ้มเข้าไปด้านใน เจคที่เห็นว่าคีเรนไม่ยอมละสายตาเขาถอนหายใจแรง พร้อมกับพูดขึ้นลอย ๆ ตัวเขาเองกำลังมองออกไปนอกหน้าต่างขณะที่รถม้ากำลังเคลื่อนตัวออกจากประตู

“ ถ้าจะมองขนาดนี้ ทำไมน้องไม่อยู่ต่อเลยล่ะ ” เจคแฝดพี่พูดก่อนที่เขาจะหันมามองคีเรนแฝดน้อง

“ น้องกำลังจะขอท่านน้า แต่ใครบางคนกับดึงน้องไว้แล้วพาออกมา ” คีเรนพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ เขายกมือขึ้นมากอดอกพรางมองออกไปนอกหน้าต่าง

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!