NovelToon NovelToon

คนดีแบบนี้เป็นแสงอุสาได้ไงเนี่ย!? | obikaka

ตอนที่ 0 บทนำ

ผู้คนมักบอกว่าแสงอุสาชั่วร้าย ไร้ซึ่งหัวใจ เป็นองกรที่ทำอะไรสักอย่าง อย่างลับๆขึ้นทุกปี

บอกตรงตรงเขาไม่คิดว่าแสงอุสาจะทำตัวดีหรือตลกเลยจนกระทั่ง

‘ได้เจอเขา’

ชายผู้มีหน้ากากลายวนน้ำสีส้มแสบตามีรูขนาดพอให้มองเห็นผ่านตาได้ ผมสีทมิฬชุดบ่งบอกถึงแสงอุสาอย่างแจ่มแจ้ง

แม้ในสายตาผู้อื่นอาจคิดว่าเขาดูอันตรายหรือวางกับดักอะไรไว้

แต่คาคาชิกลับรู้สึกว่ามันช่างหน้าดึงดูดเสียเหลือเกิน

__________________________________________

ไม่ว่าใครก็ต่างบอกว่า แสงอุสาชั่วร้ายตัวเขาขอบอกไว้ก่อนเลยว่า 'จริง'

โอบิโตะไม่สามารถปติเสธได้เลยเพราะตัวเขาเองก็ชั่วร้ายไม่ต่างจากคนในกลุ่มแต่สิ่งที่ต่างจากพวกนั้นคือตัวเขา ชั่วร้ายกว่าพวกมัน

เขามักจะเล่นละครตบตาทุกคนไม่เว้นคนในกลุ่มอยู่เสมอ ภายใต้หน้ากากสีส้มลายน้ำวนคือใบหน้าที่ตรงกันข้ามกับละครที่เขาเล่นอย่างสิ้นเชิง

ภายใต้น้ำเสียงที่แสบหู ภายใต้ชุดแสงอุสา คือโอบิโตะ บุคคลที่มีตัวตนอยู่เหมือนคนตายก็ไม่วาย ไม่มีใครรู้ตัวตนของเขาต้องบอกว่าคงไม่มีใครคิดถึงขั้นนี้หรอกสะมากกว่า

เขาคิดมาตลอดว่าตัวเขาไร้ซึ่งความบริสุทธิ์ ไร้ซึ่งความเมตตา ไร้ซึ่งความดี ไร้ซึ่งตัวตนเดิม ตัวเขาน่ะสูญเสียทุกทุกอย่างไปแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเพียงบทบาท'โทบิ'เด็กบ้าปัญญาอ่อน และเด็กไร้หัวใจ

จนกระทั่งเจอกับ'เขา'

ผู้ชายผมสีน้ำตาลเทาเขามีไฝน่ารักๆล่างริมฝีปาก แม้หน้าของเจ้าตัวจะออกไปทางสาวสักนิดแต่มันช่างคุ้นเคย

เหมือนกับใครบางคนที่เขารู้จักเพียงแต่...

เพื่อนของเขาไม่หน้าจะสนุกขนาดนี้ ไม่หน้าจะมีใบหน้าน่ารักขนาดนี้ แม้เสี้ยวในใจคิดว่าอีกฝ่ายอาจเป็นอดีตเพื่อนปลอมตัวมาแต่ตัวเขารู้ดีว่าแค่อยากให้เป็นคนเดียวกันไปสะเลย

บอกตรงตรงแบบไม่อ้อมค้อมเลยว่า

คนคนนี้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน

...----------------...

[คำเตือน]

นี่เป็นAUสมมุติ สมมุติว่าคาคาชิได้เจอกับโอบิโตะในฐานะคนรู้จักก่อนเกิดเรื่องในอนิเมะมันจะเป็นยังไงกัน ผมคิดแค่ว่าอยากเห็นอนาคตที่เปลี่ยนไป อยากเห็นจุดจบที่แฮปปี้😔

เป็นเพียงเรื่องสมมุติไม่เกี่ยวกับเรื่องจริงแต่อย่างใด นิสัยของตัวละครจะมีการหลุดooc และมีการดัดแปลงความคิดความอ่าน ผลลัพธ์ของตอนจบ เปลี่ยนความเป็นจริงบางส่วน

ขอให้สนุก🤣❤️

ตอนที่ 1 แสงอุสา..รึป่าววะ

แสงอรุณสีเหลืองทอประกายแสงสาดส่องไปยังป่าสีเขียวคจีใจกลางป่ามีม้านั่งสีน้ำตาลอมเทาตั้งอยู่ตัวนึงตัวเดียวในดงป่าไม้ทั้งปวง ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับโคโนฮะ

แม้โดดเด่นเพียงนี้แต่กลับไร้ซึ่งผู้คนไร้ซึ่งคนมองเห็น

บอกได้เลยว่าสามารถเป็นสถานที่พักใจลับๆของพวกโรคส่วนตัวสูงเสียจริง

ชายร่างสูงโปร่งผมสีน้ำตาลอ่อนเดินมายังจุดดังกล่าวสีหน้าของเขามีอาการเหนื่อยล้าจากภาระกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

ไม่ใช่ความเหนื่อยล้าจากภาระกิจ แต่เป็นความเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงเด็กทั้งสาม

ชายร่างสูงโปร่งสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดที่ว่าอยากปล่อยเด็กพวกนั้นไว้แล้วหนีไปนอนนี้ออกไป

“ วันนี้อากาศสดใสเหมือนทุกวันเลยน้า~ ”

ถัดจากความคิดแย่ๆก็กลายเป็นการเบี่ยงเบนไปยังแสงอาทิตย์ยามกลางวันแต่เดิมเวลานี้ตัวเขาต้องกินข้าวที่โคโนฮะ แต่เพราะสามหน่อพวกนั้นพยายามหาตัวตนของเขา ใบหน้าใต้ผ้าปิดปากสีดำนี้ ทำเอาเขาหัวปั่นจนต้องปลีกตัวออกมาพักสมองเลย

นี่ทัดจากซาสึเกะก็เป็นไอเด็กนี้หรอเนี่ยที่พยายามเห็นใบหน้าของเขา คงต้องบอกนารูโตะว่าอย่ารับน้องใหม่ด้วยวิธีนี้สะแล้วละ

ชายผมสีน้ำตาลเทาสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยงแม้จะลางๆแต่ใต้ผมสีน้ำตาลนั้นมีผมสีขาวบริสุทธิ์อยู่ ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าชายตรงนี้รีบปลีกตัวออกมาจนลืมเปลี่ยนชุดกลับ

แต่ในทางกลับกัน ชายร่างโปล่งคิดว่าหากอยู่ในสภาพนี้ก็หายใจสะดวกขึ้น หากได้สูดอากาศด้วยใบหน้าที่ไร้ผ้าปิดปากก็สดชื้นไม่น้อย

ชายร่างสูงโปร่งแอบโล่งใจเล็กน้อยที่เขาสามารถหลีกจากพวกศิษย์สมองนิ่มมาได้เสียที

ขาเรียวยาวทั้งสองข้างเดินก้าวไปยังม้านั่งที่เด่นที่สุดในป่าในมือพลางถือกล้องถ่ายรูปไว้ อันที่จริงที่แห่งนี้มีป่าก็จริงแต่ส่วนที่ใกล้กับโคโนฮะกลับโล่งและปราศจากต้นไม้ไปนิดนึง

ชายร่างโปร่งล้มตัวลงบนเก้าอี้ไม้อย่างเบาสบาย จิตใจที่ฟุ้งซ่านไปมาก็มลายหายไปชั่วขณะ ตอนนี้ชายตรงหน้าสมองโล่งโปร่งผิดกับทุกครั้งที่มักคิดเรื่องต่างๆเสียแล้ว

“ เอาละตัวฉัน ตอนนี้ฉันคือสุเคียไม่ใช่คาคาชิไม่จำเป็นต้องระวังตัว ในบทบาทนี้ไม่มีศัตรูหมายตาแน่นอน ” คาคาชิเอ่ยกับตัวเองเบาๆเพื่อเป็นตัวบอกกับตัวเองว่า พอได้แล้ว นอนเถอะนะที่นี่ไม่มีใครคิดจะทำร้ายตัวเขาหรอก

“ ก็ฉันเปิดหน้ากากอยู่นิไม่ค่อยไม่สิไม่เคยมีใครเห็นหน้าฉันสักหน่อย จะกังวลทำไม ”

คาคาชิรู้ดีว่าการคิดตื้นๆแบบนี้อาจทำให้ชีวิตเขาดับสูญได้ แต่ที่นี่คือเขตโคโนฮะ และในทางกลับกันอาจมีพวกแค้นโคโนฮะจนไม่สนว่าใครคือคนบริสุทธิ์(?)ใครคือนินจาอยู่ก็เถอะ

คาคาชิค่อยๆหลับตาไร้แววลงอย่างช้าๆ เขาเริ่มเคลิ้มใกล้หลับเต็มทน

การลดการ์ดลงเป็นการกระทำที่โง่ก็จริง

แต่ที่นี่ยังเป็นสถานที่ลับของเขาอีก จะไปมีคนได้ไง

โอเคเขาขอถอนคำพูด

ในระหว่างที่นินจาจอมก๊อปปี้อย่าง คาคาชิ กำลังเคลิ้มกับฝันอันแสนหอมหวาน วินาทีนั้นเขารู้สึกได้ถึงร่างสูงของชายคนนึงเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ ช้าจนคาคาชิแทบจับการเคลื่อนไหวไม่ได้เลยละ

ชายคนนั้นนั่งลงข้างๆคาคาชิอย่างเชื่องช้า ราวกับว่าอยากให้เขานอนพักต่อไปโดยไม่อยากรบกวน หากคาคาชิเก่งน้อยกว่านี้อีกนิดคงจับสังเกตุไม่ได้เป็นแน่

ในขณะที่คาคาชิหลับตาอยู่ ชายตรงหน้าก็ยกมือข้างหนึ่งมาจับผม(ปลอม)สีน้ำตาลทัดเข้าไปหลังใบหูสีขาวนวล

แม้ตาของคาคาชิปิดอยู่แต่ก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าคนตรงหน้าจ้องเขา ในที่สุดคาคาชิก็หมดความอดทนเขาค่อยๆหลี่เปลือกตาออก

วินาทีนั้น ตาทั้งสองของคาคาชิก็เบิกตากว้าง เขาสะดุ้งโหยงแล้วลุกขึ้น

สิ่งที่เขาเห็นคือชายใส่หน้ากากลายน้ำวนสีส้มกับชุดแสงอุสา ชายคนนี้คือแสงอุสาแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยและยังเป็นคนที่ไม่มีข้อมูลมากที่สุดด้วย

โทบิ

ชายแปลกหน้าเห็นดังนั้นก็ร้อนลนแล้วเปร่งเสียงออกมาห้ามคาคาชิ

“ ใจเย็นๆ ผมแค่มานั่งเล่น ”

โทบิสะบัดมือไปมาอย่างร้อนลน คาคาชิไม่รู้จะต้องทำตัวอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้าเสียเลย เขาไม่เคยคิดจะสนทนากับแสงอุสามาก่อน

แต่

ตอนนี้เขาคือ สุเคีย นักถ่ายรูปแห่งโคโนฮะ ไม่ใช่นินจาจอมก็อปปี้อย่างคาคาชิ

เขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางรู้ตัวจริงเขาแน่นอน คิดอะไรเสร็จเรียบร้อย คาคาชิก็เอ่ยตอบอีกฝ่ายที่ยังคงมีท่าทีลนอยู่

“ อะ ขอโทษนะครับแต่ถ้ามีคนแปลกหน้าโผล่มาไมาให้สุ้มให้เสียงอย่างนี้ ผมไม่ตกใจสิแปลก ”

คาคาชิสวมบทบาทอย่างแนบเนียนจนชายตรงหน้าลนยิ่งกว่าเดิม

“ จริงด้วย! ผมชื่อโทบินะรู้ชื่อแล้วคงไม่ใช่คนแปลกหน้าแล้วใช่ปะ ”

เขามีท่าทีสดใจขึ้นอย่างรวดเร็วจนคาคาชิแอบติดเลยว่าไอหมอนี่มันเป็นใบโพล่ารึป่าว

“ นายเปลี่ยนอารมณ์เร็วไปแล้วนะแต่เอาเถอะ ฉันสุเคียยินดีที่ได้รู้จัก ”

คาคาชิยื่นมือออกมาเชิงส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายจับกลับเพื่อสัมพันธ์ไมตรีที่ดี คาคาชิแอบคิดแวบนึงว่าคนตรงหน้าเหมือนเพื่อนที่ตายไปแล้วของเขา แต่จะเป็นไปได้ไงละ

คนอื่นอาจคิดว่าหากมาเจอสถานการณ์เดียวกับคาคาชิคงพยายามตีสนิทคนตรงหน้าเพื่อข้อมูล แต่แล้วคาคาชิกลับคิดอยากรู้จักคนตรงหน้าในนามผู้ชายคนนึงที่ไม่ใช่ในถานะศัตรู แต่เป็นถานะคนรู้จักคนนึง

ในนามของสุเคีย ผู้ชายคนนึง

“ นี่นี่! นั่งด้วยได้รึป่าวรุ่นพี่สุเคีย ”

โทบิเอ่ยเสียงสนใสจนแสบแก้วหู คาคาชิเพียงหัวเราะเบาๆด้วยความเอ็นดู คาคาชิหันมาทางโทบิแล้วใช้มือเรียวยาวตบบนเก้าอี้ยาวสองสามที

แสงอุสาก็ไม่ได้แย่สะทีเดียว

“ นั่งสิ ฉันไม่ห้ามหรอก ”

คาคาชิมองอีกฝ่ายที่ดูสดใสกว่าเดิม คนตรงหน้าดูออกง่ายจนอดคิดไม่ได้ว่าแสดงละครอยู่

“ ขอบคุณ! ”

โทบิได้ยินดังนั้นก็รีบนั่งทันที เสียงนั่งของเขาดังจนคาคาชิแอบมองด้วยความเป็นห่วง

'ไม่เจ็บหรอนั้น'

ไม่ทันจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ โทบิตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดในทันทีที่คาคาชิสงสัย

“ โอ้ยยย! เจ็บอาาาา ”

โทบิลูบก้นตัวเองเบาๆ หร้อมน้ำตา(ทิป) เขาแสดงออกมาอย่างชัดเจนจริงๆชัดเจนขนาดไม่เห็นหน้ายังรู้ว่าคิดอะไร

เขาแสดงรึป่าวนะ

“ ก็นายนั่งแรงขนาดนั้นนี่555 ”

คาคาชิปัดความคิดพวกนั้นทิ้งทันทีเมื่ออีกฝ่ายหันมาทางเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรไปถึงได้รู้สึกว่าการคุยกับคนตรงหน้าแม้เพียงไม่กี่คำทำให้เขาสมองโล่งอย่างบอกไม่ถูก

คาคาชิหัวเราะดังกว่าเดิมแล้วกล่าวหยอกอีกฝ่ายอย่างลืมตัวว่าคนตรงหน้าคือแสงอุสา

“ เอ้าๆ รีบนั่งขนาดนี้กลัวเก้าอี้วิ่งหนีรึไง5555 ”

คาคาชิไม่ได้สังเกตคนตรงหน้าเลย เขาหัวเราะลั่นอย่างลืมตัว โทบิชะงักไปวินึงแล้วแผ่ออร่าความสดใสออกมา

“ โถ่คุณสุเคีย สงสารกันหน่อยจิ ”

โทบิเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสบหูอย่างเศร้าใจ คาคาชิเห็นดังนั้นก็ควักยาทาแก้เจ็บออกมา

“ อะๆ ฉันให้ยาแก้เจ็บ ของแรเลยนะนำเข้าจากแคว้นไทย ”

“ โอ้ววว ขอบคุณครับคุณสุเคีย!! ”

โทบิคว้ายามาทันทีเมื่อได้ยินที่มาของมัน แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อ(ก็มันไม่มีแคว้นไทยอยู่จริงๆ)แต่ยังรับไว้คาคาชิก็ดีใจ

“ ว่าแต่สุเคียซังโกหกใช่ปะ เกิดมาผมยังไม่เคยได้ยินแคว้นนี้มาก่อนเลอ ”

คาคาชิลันเสียงหัวเราะอีกครั้ง

“ โหรู้ด้วยแฮะ ถูกต้องแล้วนะครับบ อันที่จริงฉันเป็นคนทำแหละถึงจะทำเล่นๆก็เถอะ ”

คาคาตกมุกไปเล็กน้อยก่อนเผยความจริงที่ว่าเขาเป็นคนทำเองแต่เสียงที่พูดคำนี้กลับเบาจนแทบไม่ได้ยิน ตามตรงคือคาคาชิเขินที่จะบอกว่าตัวเองเอาเวลาว่างตอนทำภาระกิจที่แล้วไปทำอะไรเหมือนพวกผู้หญิง(ไม่นับซากุระ)

“ น่ารักจังนะครับ ใช้กลิ่นลาเวนเดอร์สะด้วย ”

แม้จะเป็นเสียงที่เบาแต่โทบิก็ได้ยิน ไม่รู้เพราะอะไรคาคาชิถึงรู้สึกเขินได้ขนาดนี้ ใบหน้าของเขาเห่อร้อนทั่วทั้งใบหน้าเล็กน้อย

“ ขอบใจ ว่าแต่จะทายังไงละนั้น ”

คาคาชิรีบเบี่ยงประเด็นทันที

“ ไว้ทาที่บ้านมั้งครับ ”

โทบิทำท่าทางครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนทำมือมาประกบกันแล้วบอกคำตอบออกมา

“ นี่สุเคียซัง รู้รึป่าวว่าชุดที่ผมใส่คือชุดอะไร~ ”

คาคาชิชะงักไปแวบนึง หากอีกฝ่ายบอกว่าตัวเองเป็นแสงอุสาความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะกลายเป็นศัตรูกันอย่างเลี่ยงได้ ในทางกลับกันอาจทำให้พวกเขาเชื่อใจมากขึ้น เพราะถ้าอีกฝ่ายบอกก็หมายความว่าเขาไม่คิดจะปกปิดเป็นความลับ

คาคาชิคิดคำตอบอยู่นานเขามองหน้าอีกฝ่ายอย่างแกร็งๆ

“ แสงอุสา รึป่าว? ”

และแล้วคาคาชิก็เอ่ยออกไป เขาคิดคำตอบที่ดีที่สุดได้เพียงแค่นี้แหละ หากเป็นไปตามที่เขาคิดก็จะ...

“ งั้นแสดงว่ารู้อยู่แล้วแต่ก็ยังไม่หนีหรอครับ ”

คาคาชิสัมผัสถึงเสียงของโทบิที่อ่อนลง เขาเหมือนกำลังยิ้มอยู่ถึงจะมองไม่เห็นแต่น้ำเสียงนั้นแสบแก้วหูน้อยลงจริงๆ

“ ถึงจะรู้แต่จะหนียังไงละ ฉันไม่ใช่นินจานะเป็นแค่ชาวบ้านตาดำๆ แถมฉันยังไม่รู้จักนายเลยจะหนีทำไมละ ”

คาคาชิร่ายเหตุผลร้อยแปดออกมาให้โทบิฟัง หลังจากพูดจบโทบิก็เงียบลงไม่นานเขาก็หัวเราะออกมา

“ ไอหนีไม่ได้ผมพอเข้าใจแต่ชาวบ้านตาดำๆหรอครับ555 ”

โทบิหัวเราะลั่นต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง ทำเอาคาคาชิปรับไม่ทันเลยจริงๆ แต่ก็หัวเราะตามอีกฝ่ายไป

“ สุเคียซังชอบแมวไหมครับ ”

เป็นโทบิที่หยุดหัวเราะก่อนแล้วเริ่มเปิดประเด็นใหม่

“ ก็ชอบนะทำไมหรอ ”

“ ไม่มีอะไร~ ”

คาคาชิทำหน้าสงสย คนตรงหน้ามีพิรุจไม่มีอะไรแล้วจะถามทำไม

“ อย่าทำหน้าสงสัยผมแบบนี้สิแงงงงงง ”

คาคาชิมองชายตรงหน้าเชิง ติ้งต๊องจริงๆ

“ ครับๆไม่สงสัยก็ได้ ”

พวกเขาทั้งสองใช้เวลาทั้งเที่ยงไปยันบ่ายของวันคุยกัน โดยรวมแล้วพวกเขาเข้ากันได้อย่างแปลกประหลาดแถมโทบิยังตลกมากด้วย

บอกได้ตามตรงเลยว่าพวกเขารู้สึกสนุกจนอยากหยุดเวลาให้ได้คุยกันอีก แต่ทำไม่ได้เพราะทั้งสองต้องกินต้องนอน และมีภาระกิจเป็นของตัวเอง

“ สัญญานะครับ ในตอนที่พวกเราอยู่กัน 2 คนจะเป็นมิตร ส่วนอยู่กับคนอื่นผมอาจเป็นศัตรู555 ”

โทบิเน้นย้ำในมิตรภาพของพวกเขา ซึ่งติดตลก(?)เล็กน้อย

“ สัญญา แต่ถึงตอนนั้นฉันคงกลายเป็นศพก่อนเป็นศัตรูแน่555 ”

แน่นอนว่าคาคาชิต้องตอบกลับติดตลกเช่นกัน โทบิรู้ดีว่าที่คาคาชิพูดมีความจริงผสมอยู่ เพราะหากให้ชาวบ้านมาเป็นศัตรูกับกลุ่มแสงอุสาคงไม่รอดแน่นอน

“ โถ่สุเคียซังก็ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ ”

โทบิโบกมือลาคาคาชิแล้วเดินออกไป คาคาชิมองแผ่นหลังกว่างที่เดินออกไปช้าๆ

“ อื้ม ไว้เจอกัน ”

คาคาชิมองโทบิที่เดินไปจนสุดสายตา เขาไปนอกเขตการรับรู้ของคาคาชิแล้ว คาคาชิมองป่าที่ว่างเปล่าสองสามนาทีและเดินออกไปยังหมู่บ้านโคโนฮะ

คาคาชิก้าวเข้ามาในบ้านหลังกลาง ที่ซึ่งอบอุ่นและว่างเปล่า ตั้งแต่ผู้เป็นบิดาจากไปคาคาชิก็ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวเรื่อยมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเหงาแต่ทำไงได้ บ้านหลังนี้มีแค่เขาเท่านั้น

คาคาชิมุ่งหน้าไปห้องน้ำเพื่อล้างเครื่องสำอางสีม่วงบนใบหน้าสีขาวนวล

นับตั้งแต่วันนี้เขาก็ติดนิสัยการปลอมตัวเป็นสุเคียไปสะแล้วละ

...----------------...

จบ!! หุ้ นิ้วผม เอาตรงๆคือผมแต่งสนองนี้ดตัวเองหนักมาก555

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!