ผู้คนมักบอกว่าแสงอุสาชั่วร้าย ไร้ซึ่งหัวใจ เป็นองกรที่ทำอะไรสักอย่าง อย่างลับๆขึ้นทุกปี
บอกตรงตรงเขาไม่คิดว่าแสงอุสาจะทำตัวดีหรือตลกเลยจนกระทั่ง
‘ได้เจอเขา’
ชายผู้มีหน้ากากลายวนน้ำสีส้มแสบตามีรูขนาดพอให้มองเห็นผ่านตาได้ ผมสีทมิฬชุดบ่งบอกถึงแสงอุสาอย่างแจ่มแจ้ง
แม้ในสายตาผู้อื่นอาจคิดว่าเขาดูอันตรายหรือวางกับดักอะไรไว้
แต่คาคาชิกลับรู้สึกว่ามันช่างหน้าดึงดูดเสียเหลือเกิน
__________________________________________
ไม่ว่าใครก็ต่างบอกว่า แสงอุสาชั่วร้ายตัวเขาขอบอกไว้ก่อนเลยว่า 'จริง'
โอบิโตะไม่สามารถปติเสธได้เลยเพราะตัวเขาเองก็ชั่วร้ายไม่ต่างจากคนในกลุ่มแต่สิ่งที่ต่างจากพวกนั้นคือตัวเขา ชั่วร้ายกว่าพวกมัน
เขามักจะเล่นละครตบตาทุกคนไม่เว้นคนในกลุ่มอยู่เสมอ ภายใต้หน้ากากสีส้มลายน้ำวนคือใบหน้าที่ตรงกันข้ามกับละครที่เขาเล่นอย่างสิ้นเชิง
ภายใต้น้ำเสียงที่แสบหู ภายใต้ชุดแสงอุสา คือโอบิโตะ บุคคลที่มีตัวตนอยู่เหมือนคนตายก็ไม่วาย ไม่มีใครรู้ตัวตนของเขาต้องบอกว่าคงไม่มีใครคิดถึงขั้นนี้หรอกสะมากกว่า
เขาคิดมาตลอดว่าตัวเขาไร้ซึ่งความบริสุทธิ์ ไร้ซึ่งความเมตตา ไร้ซึ่งความดี ไร้ซึ่งตัวตนเดิม ตัวเขาน่ะสูญเสียทุกทุกอย่างไปแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเพียงบทบาท'โทบิ'เด็กบ้าปัญญาอ่อน และเด็กไร้หัวใจ
จนกระทั่งเจอกับ'เขา'
ผู้ชายผมสีน้ำตาลเทาเขามีไฝน่ารักๆล่างริมฝีปาก แม้หน้าของเจ้าตัวจะออกไปทางสาวสักนิดแต่มันช่างคุ้นเคย
เหมือนกับใครบางคนที่เขารู้จักเพียงแต่...
เพื่อนของเขาไม่หน้าจะสนุกขนาดนี้ ไม่หน้าจะมีใบหน้าน่ารักขนาดนี้ แม้เสี้ยวในใจคิดว่าอีกฝ่ายอาจเป็นอดีตเพื่อนปลอมตัวมาแต่ตัวเขารู้ดีว่าแค่อยากให้เป็นคนเดียวกันไปสะเลย
บอกตรงตรงแบบไม่อ้อมค้อมเลยว่า
คนคนนี้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน
...----------------...
[คำเตือน]
นี่เป็นAUสมมุติ สมมุติว่าคาคาชิได้เจอกับโอบิโตะในฐานะคนรู้จักก่อนเกิดเรื่องในอนิเมะมันจะเป็นยังไงกัน ผมคิดแค่ว่าอยากเห็นอนาคตที่เปลี่ยนไป อยากเห็นจุดจบที่แฮปปี้😔
เป็นเพียงเรื่องสมมุติไม่เกี่ยวกับเรื่องจริงแต่อย่างใด นิสัยของตัวละครจะมีการหลุดooc และมีการดัดแปลงความคิดความอ่าน ผลลัพธ์ของตอนจบ เปลี่ยนความเป็นจริงบางส่วน
ขอให้สนุก🤣❤️
แสงอรุณสีเหลืองทอประกายแสงสาดส่องไปยังป่าสีเขียวคจีใจกลางป่ามีม้านั่งสีน้ำตาลอมเทาตั้งอยู่ตัวนึงตัวเดียวในดงป่าไม้ทั้งปวง ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับโคโนฮะ
แม้โดดเด่นเพียงนี้แต่กลับไร้ซึ่งผู้คนไร้ซึ่งคนมองเห็น
บอกได้เลยว่าสามารถเป็นสถานที่พักใจลับๆของพวกโรคส่วนตัวสูงเสียจริง
ชายร่างสูงโปร่งผมสีน้ำตาลอ่อนเดินมายังจุดดังกล่าวสีหน้าของเขามีอาการเหนื่อยล้าจากภาระกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้
ไม่ใช่ความเหนื่อยล้าจากภาระกิจ แต่เป็นความเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงเด็กทั้งสาม
ชายร่างสูงโปร่งสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดที่ว่าอยากปล่อยเด็กพวกนั้นไว้แล้วหนีไปนอนนี้ออกไป
“ วันนี้อากาศสดใสเหมือนทุกวันเลยน้า~ ”
ถัดจากความคิดแย่ๆก็กลายเป็นการเบี่ยงเบนไปยังแสงอาทิตย์ยามกลางวันแต่เดิมเวลานี้ตัวเขาต้องกินข้าวที่โคโนฮะ แต่เพราะสามหน่อพวกนั้นพยายามหาตัวตนของเขา ใบหน้าใต้ผ้าปิดปากสีดำนี้ ทำเอาเขาหัวปั่นจนต้องปลีกตัวออกมาพักสมองเลย
นี่ทัดจากซาสึเกะก็เป็นไอเด็กนี้หรอเนี่ยที่พยายามเห็นใบหน้าของเขา คงต้องบอกนารูโตะว่าอย่ารับน้องใหม่ด้วยวิธีนี้สะแล้วละ
ชายผมสีน้ำตาลเทาสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยงแม้จะลางๆแต่ใต้ผมสีน้ำตาลนั้นมีผมสีขาวบริสุทธิ์อยู่ ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าชายตรงนี้รีบปลีกตัวออกมาจนลืมเปลี่ยนชุดกลับ
แต่ในทางกลับกัน ชายร่างโปล่งคิดว่าหากอยู่ในสภาพนี้ก็หายใจสะดวกขึ้น หากได้สูดอากาศด้วยใบหน้าที่ไร้ผ้าปิดปากก็สดชื้นไม่น้อย
ชายร่างสูงโปร่งแอบโล่งใจเล็กน้อยที่เขาสามารถหลีกจากพวกศิษย์สมองนิ่มมาได้เสียที
ขาเรียวยาวทั้งสองข้างเดินก้าวไปยังม้านั่งที่เด่นที่สุดในป่าในมือพลางถือกล้องถ่ายรูปไว้ อันที่จริงที่แห่งนี้มีป่าก็จริงแต่ส่วนที่ใกล้กับโคโนฮะกลับโล่งและปราศจากต้นไม้ไปนิดนึง
ชายร่างโปร่งล้มตัวลงบนเก้าอี้ไม้อย่างเบาสบาย จิตใจที่ฟุ้งซ่านไปมาก็มลายหายไปชั่วขณะ ตอนนี้ชายตรงหน้าสมองโล่งโปร่งผิดกับทุกครั้งที่มักคิดเรื่องต่างๆเสียแล้ว
“ เอาละตัวฉัน ตอนนี้ฉันคือสุเคียไม่ใช่คาคาชิไม่จำเป็นต้องระวังตัว ในบทบาทนี้ไม่มีศัตรูหมายตาแน่นอน ” คาคาชิเอ่ยกับตัวเองเบาๆเพื่อเป็นตัวบอกกับตัวเองว่า พอได้แล้ว นอนเถอะนะที่นี่ไม่มีใครคิดจะทำร้ายตัวเขาหรอก
“ ก็ฉันเปิดหน้ากากอยู่นิไม่ค่อยไม่สิไม่เคยมีใครเห็นหน้าฉันสักหน่อย จะกังวลทำไม ”
คาคาชิรู้ดีว่าการคิดตื้นๆแบบนี้อาจทำให้ชีวิตเขาดับสูญได้ แต่ที่นี่คือเขตโคโนฮะ และในทางกลับกันอาจมีพวกแค้นโคโนฮะจนไม่สนว่าใครคือคนบริสุทธิ์(?)ใครคือนินจาอยู่ก็เถอะ
คาคาชิค่อยๆหลับตาไร้แววลงอย่างช้าๆ เขาเริ่มเคลิ้มใกล้หลับเต็มทน
การลดการ์ดลงเป็นการกระทำที่โง่ก็จริง
แต่ที่นี่ยังเป็นสถานที่ลับของเขาอีก จะไปมีคนได้ไง
โอเคเขาขอถอนคำพูด
ในระหว่างที่นินจาจอมก๊อปปี้อย่าง คาคาชิ กำลังเคลิ้มกับฝันอันแสนหอมหวาน วินาทีนั้นเขารู้สึกได้ถึงร่างสูงของชายคนนึงเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ ช้าจนคาคาชิแทบจับการเคลื่อนไหวไม่ได้เลยละ
ชายคนนั้นนั่งลงข้างๆคาคาชิอย่างเชื่องช้า ราวกับว่าอยากให้เขานอนพักต่อไปโดยไม่อยากรบกวน หากคาคาชิเก่งน้อยกว่านี้อีกนิดคงจับสังเกตุไม่ได้เป็นแน่
ในขณะที่คาคาชิหลับตาอยู่ ชายตรงหน้าก็ยกมือข้างหนึ่งมาจับผม(ปลอม)สีน้ำตาลทัดเข้าไปหลังใบหูสีขาวนวล
แม้ตาของคาคาชิปิดอยู่แต่ก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าคนตรงหน้าจ้องเขา ในที่สุดคาคาชิก็หมดความอดทนเขาค่อยๆหลี่เปลือกตาออก
วินาทีนั้น ตาทั้งสองของคาคาชิก็เบิกตากว้าง เขาสะดุ้งโหยงแล้วลุกขึ้น
สิ่งที่เขาเห็นคือชายใส่หน้ากากลายน้ำวนสีส้มกับชุดแสงอุสา ชายคนนี้คือแสงอุสาแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยและยังเป็นคนที่ไม่มีข้อมูลมากที่สุดด้วย
โทบิ
ชายแปลกหน้าเห็นดังนั้นก็ร้อนลนแล้วเปร่งเสียงออกมาห้ามคาคาชิ
“ ใจเย็นๆ ผมแค่มานั่งเล่น ”
โทบิสะบัดมือไปมาอย่างร้อนลน คาคาชิไม่รู้จะต้องทำตัวอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้าเสียเลย เขาไม่เคยคิดจะสนทนากับแสงอุสามาก่อน
แต่
ตอนนี้เขาคือ สุเคีย นักถ่ายรูปแห่งโคโนฮะ ไม่ใช่นินจาจอมก็อปปี้อย่างคาคาชิ
เขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางรู้ตัวจริงเขาแน่นอน คิดอะไรเสร็จเรียบร้อย คาคาชิก็เอ่ยตอบอีกฝ่ายที่ยังคงมีท่าทีลนอยู่
“ อะ ขอโทษนะครับแต่ถ้ามีคนแปลกหน้าโผล่มาไมาให้สุ้มให้เสียงอย่างนี้ ผมไม่ตกใจสิแปลก ”
คาคาชิสวมบทบาทอย่างแนบเนียนจนชายตรงหน้าลนยิ่งกว่าเดิม
“ จริงด้วย! ผมชื่อโทบินะรู้ชื่อแล้วคงไม่ใช่คนแปลกหน้าแล้วใช่ปะ ”
เขามีท่าทีสดใจขึ้นอย่างรวดเร็วจนคาคาชิแอบติดเลยว่าไอหมอนี่มันเป็นใบโพล่ารึป่าว
“ นายเปลี่ยนอารมณ์เร็วไปแล้วนะแต่เอาเถอะ ฉันสุเคียยินดีที่ได้รู้จัก ”
คาคาชิยื่นมือออกมาเชิงส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายจับกลับเพื่อสัมพันธ์ไมตรีที่ดี คาคาชิแอบคิดแวบนึงว่าคนตรงหน้าเหมือนเพื่อนที่ตายไปแล้วของเขา แต่จะเป็นไปได้ไงละ
คนอื่นอาจคิดว่าหากมาเจอสถานการณ์เดียวกับคาคาชิคงพยายามตีสนิทคนตรงหน้าเพื่อข้อมูล แต่แล้วคาคาชิกลับคิดอยากรู้จักคนตรงหน้าในนามผู้ชายคนนึงที่ไม่ใช่ในถานะศัตรู แต่เป็นถานะคนรู้จักคนนึง
ในนามของสุเคีย ผู้ชายคนนึง
“ นี่นี่! นั่งด้วยได้รึป่าวรุ่นพี่สุเคีย ”
โทบิเอ่ยเสียงสนใสจนแสบแก้วหู คาคาชิเพียงหัวเราะเบาๆด้วยความเอ็นดู คาคาชิหันมาทางโทบิแล้วใช้มือเรียวยาวตบบนเก้าอี้ยาวสองสามที
แสงอุสาก็ไม่ได้แย่สะทีเดียว
“ นั่งสิ ฉันไม่ห้ามหรอก ”
คาคาชิมองอีกฝ่ายที่ดูสดใสกว่าเดิม คนตรงหน้าดูออกง่ายจนอดคิดไม่ได้ว่าแสดงละครอยู่
“ ขอบคุณ! ”
โทบิได้ยินดังนั้นก็รีบนั่งทันที เสียงนั่งของเขาดังจนคาคาชิแอบมองด้วยความเป็นห่วง
'ไม่เจ็บหรอนั้น'
ไม่ทันจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ โทบิตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดในทันทีที่คาคาชิสงสัย
“ โอ้ยยย! เจ็บอาาาา ”
โทบิลูบก้นตัวเองเบาๆ หร้อมน้ำตา(ทิป) เขาแสดงออกมาอย่างชัดเจนจริงๆชัดเจนขนาดไม่เห็นหน้ายังรู้ว่าคิดอะไร
เขาแสดงรึป่าวนะ
“ ก็นายนั่งแรงขนาดนั้นนี่555 ”
คาคาชิปัดความคิดพวกนั้นทิ้งทันทีเมื่ออีกฝ่ายหันมาทางเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรไปถึงได้รู้สึกว่าการคุยกับคนตรงหน้าแม้เพียงไม่กี่คำทำให้เขาสมองโล่งอย่างบอกไม่ถูก
คาคาชิหัวเราะดังกว่าเดิมแล้วกล่าวหยอกอีกฝ่ายอย่างลืมตัวว่าคนตรงหน้าคือแสงอุสา
“ เอ้าๆ รีบนั่งขนาดนี้กลัวเก้าอี้วิ่งหนีรึไง5555 ”
คาคาชิไม่ได้สังเกตคนตรงหน้าเลย เขาหัวเราะลั่นอย่างลืมตัว โทบิชะงักไปวินึงแล้วแผ่ออร่าความสดใสออกมา
“ โถ่คุณสุเคีย สงสารกันหน่อยจิ ”
โทบิเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสบหูอย่างเศร้าใจ คาคาชิเห็นดังนั้นก็ควักยาทาแก้เจ็บออกมา
“ อะๆ ฉันให้ยาแก้เจ็บ ของแรเลยนะนำเข้าจากแคว้นไทย ”
“ โอ้ววว ขอบคุณครับคุณสุเคีย!! ”
โทบิคว้ายามาทันทีเมื่อได้ยินที่มาของมัน แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อ(ก็มันไม่มีแคว้นไทยอยู่จริงๆ)แต่ยังรับไว้คาคาชิก็ดีใจ
“ ว่าแต่สุเคียซังโกหกใช่ปะ เกิดมาผมยังไม่เคยได้ยินแคว้นนี้มาก่อนเลอ ”
คาคาชิลันเสียงหัวเราะอีกครั้ง
“ โหรู้ด้วยแฮะ ถูกต้องแล้วนะครับบ อันที่จริงฉันเป็นคนทำแหละถึงจะทำเล่นๆก็เถอะ ”
คาคาตกมุกไปเล็กน้อยก่อนเผยความจริงที่ว่าเขาเป็นคนทำเองแต่เสียงที่พูดคำนี้กลับเบาจนแทบไม่ได้ยิน ตามตรงคือคาคาชิเขินที่จะบอกว่าตัวเองเอาเวลาว่างตอนทำภาระกิจที่แล้วไปทำอะไรเหมือนพวกผู้หญิง(ไม่นับซากุระ)
“ น่ารักจังนะครับ ใช้กลิ่นลาเวนเดอร์สะด้วย ”
แม้จะเป็นเสียงที่เบาแต่โทบิก็ได้ยิน ไม่รู้เพราะอะไรคาคาชิถึงรู้สึกเขินได้ขนาดนี้ ใบหน้าของเขาเห่อร้อนทั่วทั้งใบหน้าเล็กน้อย
“ ขอบใจ ว่าแต่จะทายังไงละนั้น ”
คาคาชิรีบเบี่ยงประเด็นทันที
“ ไว้ทาที่บ้านมั้งครับ ”
โทบิทำท่าทางครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนทำมือมาประกบกันแล้วบอกคำตอบออกมา
“ นี่สุเคียซัง รู้รึป่าวว่าชุดที่ผมใส่คือชุดอะไร~ ”
คาคาชิชะงักไปแวบนึง หากอีกฝ่ายบอกว่าตัวเองเป็นแสงอุสาความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะกลายเป็นศัตรูกันอย่างเลี่ยงได้ ในทางกลับกันอาจทำให้พวกเขาเชื่อใจมากขึ้น เพราะถ้าอีกฝ่ายบอกก็หมายความว่าเขาไม่คิดจะปกปิดเป็นความลับ
คาคาชิคิดคำตอบอยู่นานเขามองหน้าอีกฝ่ายอย่างแกร็งๆ
“ แสงอุสา รึป่าว? ”
และแล้วคาคาชิก็เอ่ยออกไป เขาคิดคำตอบที่ดีที่สุดได้เพียงแค่นี้แหละ หากเป็นไปตามที่เขาคิดก็จะ...
“ งั้นแสดงว่ารู้อยู่แล้วแต่ก็ยังไม่หนีหรอครับ ”
คาคาชิสัมผัสถึงเสียงของโทบิที่อ่อนลง เขาเหมือนกำลังยิ้มอยู่ถึงจะมองไม่เห็นแต่น้ำเสียงนั้นแสบแก้วหูน้อยลงจริงๆ
“ ถึงจะรู้แต่จะหนียังไงละ ฉันไม่ใช่นินจานะเป็นแค่ชาวบ้านตาดำๆ แถมฉันยังไม่รู้จักนายเลยจะหนีทำไมละ ”
คาคาชิร่ายเหตุผลร้อยแปดออกมาให้โทบิฟัง หลังจากพูดจบโทบิก็เงียบลงไม่นานเขาก็หัวเราะออกมา
“ ไอหนีไม่ได้ผมพอเข้าใจแต่ชาวบ้านตาดำๆหรอครับ555 ”
โทบิหัวเราะลั่นต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง ทำเอาคาคาชิปรับไม่ทันเลยจริงๆ แต่ก็หัวเราะตามอีกฝ่ายไป
“ สุเคียซังชอบแมวไหมครับ ”
เป็นโทบิที่หยุดหัวเราะก่อนแล้วเริ่มเปิดประเด็นใหม่
“ ก็ชอบนะทำไมหรอ ”
“ ไม่มีอะไร~ ”
คาคาชิทำหน้าสงสย คนตรงหน้ามีพิรุจไม่มีอะไรแล้วจะถามทำไม
“ อย่าทำหน้าสงสัยผมแบบนี้สิแงงงงงง ”
คาคาชิมองชายตรงหน้าเชิง ติ้งต๊องจริงๆ
“ ครับๆไม่สงสัยก็ได้ ”
พวกเขาทั้งสองใช้เวลาทั้งเที่ยงไปยันบ่ายของวันคุยกัน โดยรวมแล้วพวกเขาเข้ากันได้อย่างแปลกประหลาดแถมโทบิยังตลกมากด้วย
บอกได้ตามตรงเลยว่าพวกเขารู้สึกสนุกจนอยากหยุดเวลาให้ได้คุยกันอีก แต่ทำไม่ได้เพราะทั้งสองต้องกินต้องนอน และมีภาระกิจเป็นของตัวเอง
“ สัญญานะครับ ในตอนที่พวกเราอยู่กัน 2 คนจะเป็นมิตร ส่วนอยู่กับคนอื่นผมอาจเป็นศัตรู555 ”
โทบิเน้นย้ำในมิตรภาพของพวกเขา ซึ่งติดตลก(?)เล็กน้อย
“ สัญญา แต่ถึงตอนนั้นฉันคงกลายเป็นศพก่อนเป็นศัตรูแน่555 ”
แน่นอนว่าคาคาชิต้องตอบกลับติดตลกเช่นกัน โทบิรู้ดีว่าที่คาคาชิพูดมีความจริงผสมอยู่ เพราะหากให้ชาวบ้านมาเป็นศัตรูกับกลุ่มแสงอุสาคงไม่รอดแน่นอน
“ โถ่สุเคียซังก็ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ ”
โทบิโบกมือลาคาคาชิแล้วเดินออกไป คาคาชิมองแผ่นหลังกว่างที่เดินออกไปช้าๆ
“ อื้ม ไว้เจอกัน ”
คาคาชิมองโทบิที่เดินไปจนสุดสายตา เขาไปนอกเขตการรับรู้ของคาคาชิแล้ว คาคาชิมองป่าที่ว่างเปล่าสองสามนาทีและเดินออกไปยังหมู่บ้านโคโนฮะ
คาคาชิก้าวเข้ามาในบ้านหลังกลาง ที่ซึ่งอบอุ่นและว่างเปล่า ตั้งแต่ผู้เป็นบิดาจากไปคาคาชิก็ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวเรื่อยมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเหงาแต่ทำไงได้ บ้านหลังนี้มีแค่เขาเท่านั้น
คาคาชิมุ่งหน้าไปห้องน้ำเพื่อล้างเครื่องสำอางสีม่วงบนใบหน้าสีขาวนวล
นับตั้งแต่วันนี้เขาก็ติดนิสัยการปลอมตัวเป็นสุเคียไปสะแล้วละ
...----------------...
จบ!! หุ้ นิ้วผม เอาตรงๆคือผมแต่งสนองนี้ดตัวเองหนักมาก555
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!