NovelToon NovelToon

ความลับในเงามืด

1

ร้านอาหารหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ร้านอาหารที่มีความบรรเทิงให้ครบทุกรูปแบบ ทั้งอาหารที่เลิศรส ผับบาร์ที่เต็มไปด้วยสาวสวยหนุ่มหล่อ และที่ขาดไม่ได้คือการพนันครบวงจร อีกทั้งยังให้ความไพรเวทแก่ลูกค้า ซึ่งลูกค้า90%เป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศทั้งสิ้น

"นัด"เสียงทุ่มของศรุตเรียกชื่อแฟนสาวที่นั่งทานอาหารด้วยท่าทีที่ไร้ซึ่งความกังวลใดๆอยู่ตรงหน้า  ณัฐนิชา เมื่อได้ยินชื่อตนเธอจึงวางมือจากช้อนและซ้อม เงยหน้ามองศรุต หนุ่มหล่อหุ่นดีที่อยู่ตรงหน้า สิ่งที่เธอเห็นคือ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเครียด สายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลและรู้สึกผิด 

"คุณโอเคจริงๆใช่มั้ย" ศรุตถามคำถามย่ำอีกครั้ง

"จริงสิคะ"ไม่ว่าเปล่าณัฐนิชายังเดินไปหาศรุตแล้วย่อตัวลงนั่งข้างๆกุมมือเขาไว้อย่างถนุถนอม

"คุณฟังนัดนะ ตัวนัดเองแค่เด็กกำพร้า นอกจากแม่ชีที่โบสถ์แล้ว นอกนั้นนัดไม่มีใครอีกแล้ว จนได้เจอกับคุณ คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของนัด ถ้านัดอยู่ก็เท่ากับว่านัดทำลายคุณ ทำลายอนาคตคุณ ทำลายความฝันของคุณ แล้วมันต่างอะไรกับนัดทำลายตัวเองล่ะคะ แค่ย้ายไปอยู่ชานเมืองซักพักมันไม่ได้ลำบากเลยค่ะ ลำบากกว่านี้นัดก็เจอมาแล้ว"

พูดเสร็จเทอก็ประทับริมฝีปากเอิมอิ่ม ลงบนริมฝีปากหนาของศรุตถ่ายเทความรู้สึกทั้งหมดที่มี เพื่อให้เขาคลายความกังวลลงบ้าง ถึงจะได้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี

"อย่ากังวลไปเลยนะคะ"พูดจบเทอก็ยิ้มแย้มอย่างไร้ความกังวลใดๆ "กลับกันเถอะค่ะ นัดมีอะไรจะให้คุณดูด้วย"เทอกล่าวชักชวนแฟนหนุ่มอย่างออดอ้อน

รถยนต์คันหรูแล่นเข้าสู่คฤหาสน์หลังใหญ่ ชายหนุ่มร่างกำยำเดินเข้าด้านในอย่างรีบร้อน จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า ชนิกานต์หญิงสาวที่มีดวงตาเฉี่ยวคมดั่งนกอินทรี จมูกรับกับรูปหน้า ปากบางสีกลีบบัว รูปร่างสวยสง่าดุจดั่งนางพญา

"กลับมาแล้วหรอคะรุต"ชนิกานต์เอ่ยถามพร้อมยื่นแก้วน้ำในมือให้ผู้เป็นสามีที่นั่งอยู่ "อื้อ"คำตอบที่ออกจากปากเขาราวกับเธอเป็นคนอื่นร่างสูงเดินผ่านเธอไปเหมือนเธอเป็นอากาศชนิกานต์ได้แต่มองแผ่นหลังนั้นเดินไป เธอถอนหายใจออกมาเบาพร้อมเดินตามเขาไป

 "แล้วนัดว่ายังไงบ้างคะ"ชนิกานต์เอ่ยถามสามีอีกครั้งถึงหญิงสาวอีกคนที่สามีบอกว่าจะต้องไปเคลียร์ "นัดน่ะเทอไม่เหมือนคนอื่น เทอน่ะไม่เคยมีปัญหาหรอก เทอไม่เคยทำให้ผมลำบากใจอยู่แล้วล่ะ "ศรุตยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเอ่ยถ้อยคำที่มันทิ่มแทงใจดำของเธอขึ้นว่า "ไม่เหมือนคนอื่น"ศรุตพูดพร้อมกับใช่สายตาดูแคลน

"ค่ะ ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่าก็ดีแล้วค่ะ ถ้าเป็นแบบที่คุณว่าก็ดีค่ะ งั้นฉันขึ้นนอนก่อนนะคะ เอ่อคืนนี้คุณไปนอนห้องเล็กนะฉันขี้เดินมาเปิดประตูให้"ชนิกานต์ลุกขึ้นจากโซฟาหนานุ่ม เตรียมจะก้าวขาเดินขึ้นห้อง แต่ต้องหยุดชะงักกับคำพูดของผู้เป็นสามี

"นัดท้องและผมก็จะไม่ยอม ให้เมียกับลูกผมไปลำบากแบบนั้นหรอกนะ"ท่าทีที่ดูจริงจังของศรุตทำเอาชนิกานต์แอบกลัวอยู่เล็กน้อย ชนิกานต์หยุดชะงักหลังจากที่ได้ยินสามีพูดแบบนั้น ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเธอเป็นอย่างมาก เธอไม่คิดมาก่อนว่าณัฐนิชาจะตั้งท้องเร็วขนาดนี้ หากว่าณัฐนิชาเกิดแข็งข้อขึ้นมามันจะส่งผลต่อสิ่งที่พวกเขาซุ่มวางแผนมาทั้งหมด ชนิกานต์นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมามองสามีของเธอ

"แต่ฉันกลับคิดว่าที่นั้นดีกว่านะคะ"น้ำเสียงของคำพูดที่ดูเรียบเฉย การวางตัวที่ดูนิ่งๆของชนิกานต์ แต่กลับดูมีพลังอยู่ไม่น้อย ราวขาสวยค่อยๆเดินตรงจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าผู้เป็นสามี

"ดีหรอ...คุณกล้าพูดว่ามันดีหรอ นั้นมันชนบทชัดๆ จิตใจคุณนี่มันทำด้วยอะไรกัน จะให้คนที่กำลังท้องกำลังไส้ไปอยู่ชานเมืองแบบนั้น ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับนัดจะทำยังไง"ศรุตตวาดภรรยาสาวเสียงดังลั่นบ้าน มือหนาของเขาบีบแขนเรียวเต็มแรงด้วยความโมโหดวงตาที่แดงก่ำไปด้วยความโกรธเพ่งมองมายังร่างบาง แต่เธอกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวใด ใบหน้าสวยนิ่งเฉยไม่บงบอกว่าเธอรู้สึกอย่างไรแน่ เธอยกมือเรียวของตัวเองมาแกะมือของสามีที่บีบแขนเธออยู่อย่างนิ่งเฉย

"คุณคิดว่าถ้าเรื่องของคุณกับณัฐนิชาหลุดออกไป มันกระทบแค่คุณกับฉันหรอ หึ คุณคิดว่าคนอย่างณัฐนิชาจะแบกรับเรื่องทั้งหมดไหวรึป่าว ท้องอ่อนๆน่ะ แท้งง่ายจะตายไป ให้ไปอยู่ที่นั้นแหละคะดีสุดสำหรับทุกคนแล้ว"เทอหันกลับไปมองสามีด้วยสาตาที่นิ่งเฉยแต่ก็แฝงความหน้าเกรงขาม

เมื่อได้ฟังคำพูดของภรรยาศรุตที่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่จ้องหน้าของชนิกานต์ด้วยความคับแค้นใจ เขาหันไปคว้าเอาแจกัญใบสวยที่เต็มไปด้วยออกไม้หลากสีปาลงกับพื้นเพื่อระบายความโกรธ

"คุณกลับมาเหนื่อยๆไปอาบน้ำเถอะค่ะ ฉันเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว" พูดจบชนิกานต์ก็เดินขึ้นห้องโดยที่ไม่ได้หันกลับมามองผู้เป็นสามีเลยแม้แต่น้อย

"หึ นังนั้นมันท้องหรอ 555 ให้มันได้อย่างนี้สิวะ" เสียงปรายสายหัวเราะในลำคออย่างหน้ากลัว "กว่ามาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่ง่ายๆ ดูแลให้ดี อย่าให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นล่ะ"สายปริศนาถูกตัดทิ้งไปทันทีที่ปรายสายสั่งงานเสร็จสับเรียบร้อย

ด้านศรุตเมื่อกลับมานั่งทบทวนคำพูดของภรรยาแล้ว มันกลับเป็นจริงอย่างที่เทอคิดทุกอย่าง เธอถือเป็นผู้หญิงที่เพรียบพร้อมทั้ง คุณสมบัติ รูปสมบัติ และทรัพสมบัติ เทอคิดรอบคอบในทุกๆด้าน

ถ้าหากณัฐนิชา ต้องมาเทอเจอแบบชนิกานต์แล้ว เทอคงทนได้ไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของชนิกานต์แน่ๆ ที่สำคัญหากเรื่องของเขาและเทอถูกเปิดเผยจริงๆ คนที่จะตกเป็นจำเลยของสังคม และได้รับการลงโทษจากสังคมมากที่สุดก็คงจะไปพ้นเทออีกเช่นกัน การที่ส่งเทอไปอยู่ที่นั้นถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนจริงๆ

2

ห้องทำงานสีขาวสะอาดตา ตกแต่งด้วยสิ่งของราคาแพง โต๊ะทำงานหินอ่อนสีขาว เป็นที่ทำงานประจำของชนิกานต์ เทอมักจะมานั่งพร้อมกับแทปเล็ต 1เครื่อง เพื่อที่จะเช็คข่าวสารด้านต่างๆอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน

"สวัสดีค่ะ ช่วงข่าวด่วนรายวัน  วันนี้นะคะ มีรายงายด่วนเข้ามาค่ะ ว่าพบร่างหญิงสาว เสียชีวิต1คน ภายในห้องนอน บนเตียงพบยานอนหลับหล่นเกลื่นที่นอน อยู่ในบ้านพัก แถวชาญเมือง ปทุมธานี ต่อมาทราบว่า ผู้หญิงที่เมียชีวิต ชื่อ นางสาว ณัฐนิชา  นามีลักษณ์ อายุ35 ปี ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตฆ่าตัวตาย โดยสาเหตุการฆ่าตัวตายครั้งนี้ ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเกิดจากความเครียด และน่าจะมีอาการของโรคซึมเศร้าร่วมด้วยค่ะ "

ข่าวที่เทอได้ดูจบไปเป็นข่าวที่ตัวเทอเองไปทันคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และสามีเทอเองก็คงไม่ต่างกัน ด้วยความที่ศรุตเป็นคนที่แทบจะไปดูข่าวเลย เมื่อนึกได้ดังนั้น ชนิกานต์จึงลุกจากเก้าอี้ ขาเรียวยาวของเทอก้าวไปอย่างรดเร็ว เพียงไม่กี่นาที ชนิกานต์ก็เดินมาถึงที่หมายของเทอ นั้นก็คือห้องทำงานของศรุต 

"ฉันมาพบคุณศรุต"แม้จะเป็นภรรยาแต่เทอก็ไม่ลืมที่จะทำตามขั้นตอน เพราะหากเทอบุ่มบ่ามเข้าไป แล้วเขาคุยงานอยู่คงจะดูไม่ดีเอามากๆ

"ซักครู่นะคะคุณกานต์" เลขาหน้าห้องเร่งรีบหยิบโทรศัพท์โทรแจ้งเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้านายเลขาก็ได้เดินไปเปิดประตูให้ชนิกานต์

"ขอบคุณนะ"เทอเองก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณเลขาอย่างยิ้มแย้มและเป็นกันเอง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่พนักงานต่างรักและให้ความเคารพเทอเป็นอย่างมาก

"ศรุต" ชนิกานต์เรียกสามีด้วยสีหน้าที่ดูไม่สู้ดี  "กานต์ คุณมีอะไรป่าว หน้าตาคุณดูไม่ค่อยโอเคเลย" ศรุตเมื่อเห็นดังนั้นก็เอ่ยถามขึ้น เทอไม่พูดอะไรแต่กลับยื่นแทปเล็ตในมือให้แทน มือหนาของศรุตเอื้อมมาหยิบ ข่าวในแทปเล็ตนั้น ทำเอาเขาขาดสติลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เดินออกไป แต่ไปยังไม่ถึง3ก้าวก็ต้องหยุด 

"คุณจะไปไหนหรอคะ"ชนิกานต์เอ่ยถามทั้งที่เทอรู้คำตอบอยู่แล้ว "ไปหานัดสิ นั้นเมียกับผมทั้งคนคุณจะให้ผมนั่งอยู่เฉยๆไม่รู้ร้อนรู้หนาวแบบคุณผมทำไม่ได้หรอก"ศรุตก้าวขาเดินต่อไปจนกระทั่งถึงประตูห้อง มือหนาจับกลอนประตูเตรียมอย่างเร่งรีบ

"ถ้าคุณไป สิ่งที่คุณพยายามทำมาเกือบ10ปี มันจะพังลงทันที คนที่ตายไปแล้ว ทำยังไงก็ไม่มีทางฝืนกลับมาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างของเขามันหยุดลงแล้ว แต่คุณยังอยู่ อนาคตของคุณ ทุกสิ่งทุกอย่างของคุณมันกำลังไปได้ดี  คุณจะทิ้งทุกอย่างเพื่อคนที่ตายไปแล้วงั้นหรอ หึๆ หน้าขำสิ้นดี"

คำพูดของชนิกานต์ ทำให้ศรุตหยุดนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะทรุดลงนั่งกับพื้น อย่างไร้เรี่ยวแรง"ทำไม!! ทำไมผมถึงทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่นั่งเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมียกับลูกผมตาย ขอแค่เห็นหน้า ได้อยู่ข้างเทอครั้งสุดท้ายก็ไม่ได้หรอ" หยดน้ำสีใสตกลงบนพื้นจนนับไม่ถ้วน การสูญเสียในครั้งนี้มันช่างหนักหนาสำหรับเขามากเหลือเกิน ตอนเทออยู่อยู่เขาก็อยู่ข้างกายเทอไม่ได้ แม้แต่ตอนที่เทอตายเขาก็ยังอยู่ข้างกายเทอไม่ได้เช่นกัน

ชนิกานต์ที่ยืนมองอยู่แม้จะมีท่าทีที่นิ่งเฉยแต่ภายในจิตใจของเทอก็บอบช้ำไม่ใช่น้อยตอนณัฐนิชายังอยู่ศรุตก็รักแต่เทอคนนั้น บัดนี้เทอได้จากไปแล้วแต่เขาก็ยังคงรักเทอไม่เสื่อมคลาย  ความจริงข้อนี้อยู่ในใจเทอมาตลอด ต่อให้เทอจะดีมากแค่ไหน ก็ไม่มีวันที่เขาจะหันมารักเทออย่างที่เทอรักเขาเลย 

"กอดมั้ยคะ" ชนิกานต์นั่งลงตรงหน้าชายหนุ่มที่ร้องไห้อย่างหนัก เทอไม่เคยเห็นเขาในด้านนี้มาก่อนแม้แต่ตอนที่แม่เขาเสีย เขายังไม่มีท่าทีเสียใจขนาดนี้

ศรุตกอดชนิกานต์แน่น ในตอนนี้มีแค่เทอคนเดียวที่เป็นที่พึ่งให้เขาได้ เพราะเรื่องผิดศลีธรรมแบบนี้เล่าให้ใครฟังก็มีแต่จะสมน้ำหน้า

"ร้องซะให้พอในวันนี้ แล้วหลังจากวันนี้ไปคุณอย่าร้องไห้กับเรื่องนี้อีก ถึงแม้จะเป็นวันเผาเทอก็ตาม" ศรุตเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้า ด้วยความงวยงง สีหน้าของเทอยังคงนิ่งเฉยดุจดั่งนางพญาเช่นเดิม สีหน้าของเทอ ทำให้เขาคาดเดาอะไรไม่ได้เลย 

"ณัฐนิชาเองไม่มีญาติที่ไหน ฉันส่งคนไปติดต่อขอเป็นเจ้าภาพให้แล้ว ทำแบบนี้คุณจะได้ทำเพื่อเทอครั้งสุดท้ายโดยที่คนจะไม่สงสัย นอกจากนั้นแล้วมันยังส่งผลด้านดีกับคะแนนเสียงของคุณอีกด้วย ฉันปูทางให้คุณอย่างดีแล้ว อย่าทำให้มันพังล่ะ"

ศรุตจากที่งวยงงอยู่ เขาก็เข้าใจในทันทีว่าการที่เทอทำแบบนี้ล้วนต้องมีผลประโยชน์ตามมาเสมอ แต่ในมุมกลับกัน ชนิกานต์เองเทอตั้งใจทำเพื่อให้ศรุตได้อยู่ข้างณัฐนิชาจนนาทีสุดท้าย หากแต่ศรุตเองมองว่าชนิกานต์ทำเพื่อผลประโยชน์ตั้งแต่แรกที่แต่งงานกัน เทอจึงทำตัวให้เป็นเป็นอย่างที่ศรุตคิดเรื่อยมา  

3

หลังจากงานศพของณัฐนิชาผ่านไปศรุตเองก็กลับมาทำหน้าที่ของเขาเหมือนเดิม การที่เขาและภรรยาเป็นเจ้าภาพในงานศพ ทุกอย่างเป็นไปตามที่ชนิกานต์พูด เหตุการณ์ทำให้เขาซื้อใจคนได้ไม่น้อย ซึ่งนั้นก็เป็นผลดีต่อการลงสมัครเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ 

"คุณเพ็ญพักตร์ วันนี้ผมต้องไปไหนบ้าง"ศรุตเลือบมองเลขาเล็กน้อย เพื่อทวนว่าวันนี้เขาต้องทำอะไรบ้าง"วันนี้มีลงพื้นที่กับส.ส.จากนั้นก็ไปเยี่ยมผู้ประสบภัย ตอนเย็นมีทานข้าวกับคุณท่านค่ะ"เพ็ญพักตร์ รายงานเจ้านายเทออย่างละเอียดครบถ้วน "คุณกานต์ไปด้วยใช่มั้ย"ไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่เขาจะต้องมีชนิกานต์ตามไปเสมอ "ใช้ค่ะ เห็นเลขาคุณกานต์แจ้งมาว่าให้เราแวะรับก่อนถึงทางเข้างานเล็กน้อยค่ะ"ศรุตไม่พูดหรือถามอะไรต่อเขานั่งนิ่งคิดบางอย่าง ก่อนจะลุกขึ้นจัดแจงการแต่งกายให้เรียบร้อย

ซอยเปรี่ยวที่ไม่มีแม้แต่รถสัญจร บัดนี้ได้มีรถหรูเข้ามาจอด ไม่นานนักรถตู้ยี่ห้อดังก็ตามจอดประกบข้างหญิงสาวรูปร่างดีผิวพรรณผุดผ่องดูมีชาติตระกูลได้ย่างกรายลงจากรถยนต์หรู ขึ้นไปยังรถตู้ยี่ห้อดังที่จอดอยู่ด้านข้าง

บรรยายกาศบนรถปกคลุมไปด้วยความเงียบสงัด หลังจากเสร็จงานศพของณัฐนิชา ชนิกานต์และศรุตก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกเลย หากจะพูดคุยกันก็คงต่อหน้าสาธารณชน หรือสื่อมวลชนเพียงเท่านั้น ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมทั่วทั้งคันจนกระทั่งเข้าไปจอดยังที่นัดพบของเหล่า ส.ส.  ศรุตก้วขาลงจากรถอย่างผ่าเผย พร้อมด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม เขายื่นมือหนาเข้าไปภายในรถเพื่อประคองให้ชนิกานต์ลงจากรถ มือเรียวบางของชนิกานต์ วางลงบนมือหนาของศรุตอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เปรี่ยมด้วยความสุข ท่าทีของทั้งสอง ดูเป็นคู่สามีภรรยายที่รักใคร่กลมเกลียวกันแตกต่างจากตอนอยู่ภายในรถลิบลับ

ศรุตกับบรรดาส.ส.เดินกันตามริมถนนแวะทั้งทายพูดคุยกับผู้คนด้วยท่าทียิ้มแย้มเป็นกันเอง ร้านของชำเก่าๆที่ตั้งภายในซอยของชุมชนแออัด สภาพบ้านเรือนแถบนี้เข้าขั้นสกปรกเลยก็ว่าได้ แต่ศรุตและชนิกานต์ก็เข้าไปยกมือไหวทักทายอย่างสุภาพ ซึ่งเจ้าของร้านเองก็ได้เชื่อเชิญให้ทั้งคู่นั่งพัก ศรุตหันไปมองเก้าอี้เก่าๆที่เจ้าของร้านเตรียมให้เขาและภรรยายนั่งซึ่งเก้าอี้สองตัวนั้นเปรอะเปื้อนคราบหมึกคราบสี มีฝุ่นเกาะอยู่เล็กน้อย ศรุตหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดฝุ่นออกเล็กน้อยก่อนที่จะให้ชนิกานต์นั่ง 

"ฝุ่นเยอะหน่อยนะหนู เดินกันมาเหนื่อยๆดื่มน้ำซักหน่อยนะ"ป้าเจ้าของร้านยื่นแก้วน้ำมาให้ทั้งสองด้วยมือที่ดำคล้ำ "คุณกานต์คะ"ลัดดาเลขาคนสนิทเอ่ยเรียกเมื่อเทอรับน้ำจากมือคุณป้า เทอไม่สนใจคำทักท้วงของเลขาแม้แต่น้อย เทอดื่มน้ำอย่างไม่มีท่าทีว่าจะรังเกียจแม้แต่น้อย 

"พวกคุณนี่ไม่รังเกียจคนจนดีนะ ปกติตรงนี้ไม่มีใครเข้ามาหรอกมันสกปรก" ทุกคนที่มาต่างแปลกใจในสิ่งที่ป้าเจ้าของร้านพูด "ไม่มีใครเข้ามาหาเสียงถึงนี่เลยหรือครับ"ด้วยความข้องใจของศรุตเขาจึงถามไปแบบตรงไปตรงมา "ใช่จ่ะไม่มีพรรคไหนเขาเข้ามาหรอกในซอยนี้มันเป็นชุมชนแออัดมีก็แต่พวกใช้แรงงานเขาคงรังเกียจ"หญิงมีอายุกล่าวแบบตัดพ้อกับพวกเขา

"ผมว่าคนใช้แรงงานนี่ล่ะครับที่สำคัญ เพราะเขาอยู่เบื้องหลังของความสำหรับในทุกๆอาชีพ"ศรุตแสดงความคิดเห็นในอีก1มุมมองที่ดูจะเป็นผลดีต่อเขามากๆ ชนิกานต์ที่นั่งฟังทั้งสองพูดคุยกันอยู่นานพอควร เทอจึงเอ่ยขอไปลงพื้นที่ในส่วนที่ประสบภัยก่อนจะเย็น และไม่ลืมที่จะอุดหนุดสินค้าจำนวนมากเพื่อนำไปต่อยอดกับผู้ประสบภัยต่อ 

ชาวผู้ชายบ้านหลายสิบคน กำลังขมักเขม้นในการซ่อมแซมศาลาการเปรียญวัดอยู่ ส่วนผู้หญิงก็ช่วยกันทำอาหารเย็นเพื่อเลี้ยงทุกๆที่มาช่วยงานกันอย่างแข็งขัน ศรุตและชนิกานต์จึงแยกย้ายกันไป ชนิกานต์หญิงสาวที่เก่งรอบด้านแบบเทอทำให้เข้ากับทุกคนได้อย่างง่ายดาย ส่วนศรุตแท้จะไม่เคยถือค้อนจับตะปูมาก่อนแต่เขาก็เรียนรู้ได้เร็วเช่น ความไม่ถือตัวของพวกเขาทั้งสองและเหล่าส.ส.นั้นทำให้พวกเขาชนะใจคนกลุ่มนี้ได้ไม่อยาก

แก้วน้ำเย็นๆ ถูกยื่นมาอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มผู้ขยันอย่างศรุต เขาละสายตาจากการตอกตะปูมามองคนถือแก้วน้ำแทน ศรุตหยิบแก้วน้ำมาดื่มด้วยรอยยิ้มหวาน ชนิกานต์หยิบผ้าเช็ดหน้าของเทอเองออกมาซับเหงื่อให้ผู้เป็นสามี ภาพดังกล่าวทำให้หลายคนอดแซวไม่ได้ บ้างก็บอกว่าชนิกานต์โชคดีที่ได้ศรุตเป็นสามี บ้างก็ว่าศรุตโชคดีที่ได้ชนิกานต์เป็นภรรยาย ช่างเป็นคู่ชีวิตที่หลายคนอิจฉา เพราะเขาสองคนแต่งงานกันมาหลายปีแต่ความหวานที่มีให้กันไม่มีท่าทีว่าจะน้อยลงเลย

"เห้ออออเหนื่อยเป็นบ้าเลยโว้ย!!!"ศรุตบ่นออกมาเพราะความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาทั้งวัน "ถ้าแค่นี้เหนื่อยคุณก็ถอนตัวเถอะ ต่อไปยังมีอะไรให้เหนื่อยกว่านี้อีกเยอะ"ชนิกานต์พูดพรางเดินผ่านศรุตไปอย่างนิ่งเฉย

โต๊ะอาหารสุดหรูในคฤหาสน์หลังใหญ่ ถูกตั้งเต็มไปด้วยอาหารหลายประเภท ศรุตเดินเข้ามาด้วยท่าทีนิ่งๆ เขาพบว่าในห้องอาหารขนาดใหญ่นี้มีสิทธิชายสูงวัยแต่งตัวดีมีภูมฐานนั่งเด่นตระง่าอยู่หัวโต๊ะ โดยมีชนิกานต์นั่งอยู่ด้านซ้ายมือ ศรุตย่อตัวลงนั่งตรงข้ามกับชนิกานต์มือหนาหยิบน้ำขึ้นมาจิบเล็กน้อย "คุณพ่อเรียกพวกเรามาวันนี้มีอะไรรึป่าวครับ"ศรุตผู้เป็นลูกชายเอ่ยถามขึ้นทันทีที่นั่งลง ผู้เป็นพ่อเหลือบมองลูกชายเล็กน้อยแล้วยกยิ้มมุมปากเชิงพอใจอะไรบางอย่าง

"ฉันเสียใจด้วยนะกับเรื่องณัฐนิชา อ๊อได้ข่าวว่าลงพื้นที่หาเสียงวันนี้ได้ผลตอบรับดีเกินคาดเลยหนิ"ศรุตได้แต่ยิ้มบางๆไให้กับคำถาม "คงเป็นหนูกานต์ที่วางแผนจัดแจงทุกอย่างไว้ให้แก ฉันว่าแล้วฉันนี่เลือกลูกสะไภ้ไม่ผิดเลยจริงๆ5555"สิทธิยิ้มร่าอย่างพอใจที่ลูกชายของเขาดูเหมือนจะใกล้เส้นชัยเข้าไปทุกที "ใช่ครับ"ด้านศรุตเหลือบมองไปยังชนิกานต์เล็กน้อยก่อนจะตอบคำถามของผู้เป็นพ่อเพียงสั้นๆ 

"หนูกานต์วันนี้ลงพื้นที่มาเหนื่อยไปพักเถอะลูก"ชนิกานต์เทอเป็นคนฉลาด เทอรู้ได้ทันทีว่าพ่อสามีไล่เทอออกไปจากห้องนี้อย่างสุภาพเพื่อที่จะคุยบางอย่างกับลูกชายแค่สองคนเทอจึงกล่าวลาและเดินออกไปเงียบๆ

สิทธิเมื่อแน่ใจแล้วว่าชนิกานต์กลับไปแล้วเขาก็อิริยาบถทันที "พ่อมีอะไรจะคุยก็ว่ามาเลย"สิทธิมองลูกชายด้วยสายตาที่แข็งทื่อไร้ซึ่งความอ่อนโยน"แกรู้ใช้มั้ยว่าสิ่งที่แกกำลังทำอยู่มันส่งผลอะไรกับพวกเราบ้างแกยังจำได้ใช้มั้ยว่าที่แกพยายามทำทุกอย่างตลอดเวลาเกือบสิบปีนี่เพื่ออะไร แกควรจะทำตัวให้มันมีความเป็นผู้นำมากกว่านี้ ไม่ใช่เมียแกพูดอะไร ให้ทำอะไร แกก็ทำตามไปหมดซะทุกอย่าง ฉันให้แต่งเข้ามาเสริมภาพลักษณ์แกให้มันสมบูรณ์แบบ ให้แกใช้ฐานะ หน้าที่การงานของเมียแกเป็นบันไดเหยียบขึ้นไปบนจุดนั้น แต่นี้แกกลับทำตัวเป็นบันไดให้เขาเหยียบแกขึ้นไปซะเอง  ออกมาจากเงาของเมียแกซะอย่าให้ฉันเห็นแกทำตัวเหมือนหมารับใช้แบบนี้อีก"ชายสูงอายุเมื่อระบายความในใจเสร็จก็เก้าเท้าออกจากห้องอาหารโดยทิ้งให้ศรุตยืนแน่นิ่งอยู่เพียงลำพัง

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!