"ในที่สุดก็มาถึงที่นี่เปลี่ยนไปมากจริงๆ"
รัชยืนมองร้านขายของชำที่คุ้นเคยของเขา
รัชเดินเข้าไปในร้าน ร้านถูกจัดเรียง เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนสมัยที่เขาเห็นตอนเด็กๆ ใครๆดูแล้วอาจจะคิดว่าร้านนี้ เชยชะมัดยาด " คุณย่าผมกลับมาแล้ว"
" รัชกลับมาแล้วเหรอลูก ไม่เห็นโทรบอกย่าก่อนเลย น่าจะได้เตรียมกับข้าวไว้ให้"
"ไม่เป็นไรครับคุณย่าผมไม่ค่อยหิวเท่าไหร่" รัชพูดและยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"แล้วอาเรศไม่อยู่หรอครับ"รัชถามคุณย่า
"เหมือนว่าจะไปคุยธุรกิจกับเพื่อนคนจีนอีกหลายวันน่าจะกลับ"
" ผมขอไปดูห้องนอนผมก่อนนะครับ" รับพูดและเดินมุ่งหน้าขึ้นบันได
" เดี๋ยวเย็นนี้อยู่เฝ้าร้านให้ย่าด้วยนะ ย่าจะไปฟังปราศรัย" คุณย่าพูด
แกร๊ก เสียงรัชเปิดประตูห้อง กลิ่นไม้ นี่ช่างหอมจริงๆ หอมกว่าน้ำหอมปรับอากาศในกรุงเทพฯซะอีก "เห้อ ดีที่เรายังไม่ได้บอกคุณย่าว่าเราตกงานถ้าบอกมีหวังได้ซี้แหงแก๋แน่" " เอ๊ะ เหมือนว่าเราเคยมีเงินเก็บที่เก็บไว้สมัยก่อน อยู่ตรงไหนน้า" รัชยืนครุ่นคิดสักครู่
" หลังตู้เสื้อผ้า" รับรีบมุ่งตรงไปหาตู้เสื้อผ้า รัชเขย่งตัวเอามือคลำกล่องหลังตู้เสื้อผ้า "เจอแล้ว" รัชดีใจอย่างมีความหวัง รัช ถือกล่องอลูมิเนียมทรงกลมมุ่งตรงไปที่เตียงนอน รัชค่อยๆแงะฝากล่องอลูมิเนียมออก "เห้อมีแค่1370บาท แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีสักบาท" รัตน์มองไปเห็นเหรียญแปลกๆ อันหนึ่ง "นี่เหมือนว่ามันไม่ใช่เหรียญไทยนี่ น่าจะเป็นเหรียญจีน จงหัวหมิงกั๋วซานซื่อเนียน(中華民國三十年) ปีที่ 30 ของสาธารณรัฐจีนเหรอ เราไปได้มาตอนไหนเนี่ย" รัชพูดด้วยสีหน้าฉงนสงสัย
"รัชย่าไปละนะ" คุณย่าตะโกนบอก
"ครับ" รับเก็บเงินในกล่องอลูมิเนียมใส่กระเป๋ากางเกงและปิดฝากล่องอลูมิเนียมแล้วนำไปไว้ที่หลังตู้ "ครับมาละครับ"รัช รัชรีบเดินไปเปิดประตูและลงบันได ไปหาคุณย่าที่ชั้นล่าง "ย่าจะไปแล้วนะเพื่อนๆมารอแล้ว" คุณย่าพูด "อย่ากลับดึกนะครับคุณย่า" "จ่ะรู้แล้ว" คุณย่าพูด
"โตขึ้นเยอะเลยนะ หลานเธอ เมื่อก่อนยังวิ่งเล่นอยู่แถวนี้อยู่เลยเผลอแป๊บเดียวโตเป็นหนุ่มแล้ว แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ว่า พวกเราแก่ได้ยังไงไช่ไหมกุล "เสียงหญิงผู้สูงอายุสะพายย่ามพูดพร้อมหัวเราะ "เออนี่รัชจำป้าสุนีย์ได้ไหม" คุณย่าชี้ไปที่ผู้หญิงสูงอายุที่สะพายย่าม "สวัสดีครับ" รัชกล่าวสวัสดีพร้อมยกมือไหว้ป้าสุนีย์ "ไหว้พระเถอะจ้ะ" ป้าสุนีย์พูด" ป่ะเดี๋ยวไม่ทันกันพอดี เดี๋ยว 5 โมงงานก็จะเริ่มแล้ว" คุณย่าพูด" แล้วนี่คุณย่าจะเดินไปแล้วครับ" "ใช่จ้ะอยู่ใกล้ๆนี่เอง" คุณย่ากับป้าสุนีย์กำลังเดินออกจากหน้าร้าน รัชโบกมือและยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"จะสองทุ่มแล้วคุณย่าจะไม่กลับอีกเหรอเนี่ย" รัชพูดพึมพำพร้อมหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงและกดหมายเลขโทรศัพท์ของคุณย่า
"ไม่สามารถติดต่อหมายเลขที่ท่านเรียกได้ ขอโทษค่ะไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางที่ท่านเรียกได้ในขณะนี้"
" คุณย่าปิดเครื่องเหรอเนี่ย " รัชเปิดประตูบ้านด้วยความร้อนรนเพื่อออกไปตามหาคุณย่า
รัชเดินไปตามถนน วันนี้ถนนเงียบกว่าปกติเพราะว่าชาวบ้านไปฟังปราศรัยกัน ชาวบ้านบางส่วนเริ่มทยอยกลับมากันแล้ว รัชถามชาวบ้านระแวกนั้นว่าเห็นย่าของเขาไหมคำตอบเดียวที่ได้คือไม่เห็น รัชเดินด้วยความร้อนรน ในใจก็คิดพลางถึง คุณย่าจะกลับยังไงระหว่างทางจะมีอันตรายไหมเพราะคุณย่าสายตาฝ้าฟางอยู่ด้วย
"รัชจะไปไหนเหรอ" เสียงของชายชราตัวเล็กพูดติดสำเนียงกวางตุ้งหน่อยๆเอ่ยถามรัช รัชหันหน้าไปมองชายชราตัวเล็กคนนั้น ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นลุงเม้ง อดีตเชฟที่เคยทำงานอยู่กับพ่อของรัช แต่ต้องออกจากงานไปเพราะว่าร้านอาหารของพ่อรัชเจ้งไปในวิกฤตต้มยำกุ้ง "ผมจะไปตามหาคุณย่าครับ"
"ไปตามหาพี่กุลทำไมเหรอ เมื่อกี้นี้ลุงเพิ่งเจอพี่กุลอยู่แถวบ้านเจ้อำพร"ลุงเม้งพูด " บ้านเจ๊พรที่ลุงว่าอยู่ตรงไหนหรอครับ" " เดี๋ยวเดินตรงไปนะ ข้างหน้าจะมีสะพานหลังจากผ่านสะพานจะมีสี่แยกให้เลี้ยวซ้าย ลุงว่าทางที่ดีเดี๋ยวลุงจะช่วยไปตามหาอีกแรงหนึ่ง" ลุงเม้งพูด
"ครับก็ดีเหมือนกันช่วยกันตามหาจะได้เจอไวๆ"รัชพูด "ถ้าเราเดินไปน่าจะช้ารัชรอลุงอยู่ตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวลุงไปเอารถก่อนจอดอยู่ใกล้ๆนี่เอง " ลุงเม้งเดินไปที่รถนิสสันเซฟิโร่สีบรอนซ์และล้วงเอากุณแจรถจากกระเป๋ากางเกงเปิดประตู
เสียงเครื่องรถดังขึ้นรถเคลื่อนตัวมาอยู่ข้างรัชไม่ประมาณหนึ่งช่วงแขน รัชเปิดประตูรถและนั่งที่นั่งข้างคนขับ
ตุ๊บ....รัชปิดประตู รถแร่นออกไปช้า บรรยากาศเงียบสงบผู้คนต่างหลับไหล ตามประสาชาวบ้านที่เสร็จจากการทำงานมาแล้วก็มาพักผ่อนที่บ้านของตนเอง หลังจากข้ามสะพานบรรยากาศทุกอย่างเปลี่ยนไปขณะที่ชาวบ้านอีกฝั่งสะพานกำลังหลับไหลอีกฟากสะพานผู้คนเดินกันเสียงระแงงเสียงแซ่ เหมือนกับเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหล แม่ค้าขายข้าวต้มก็ยังคงทำงานต่อไป ลุงรปภก็ยังคงทำงานต่อไปทุกอย่างเหมือนกำลังเดินต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง
"ถึงแล้วรัช" รถหยุดลงตรงหน้า บ้านหลังใหญ่ดูตระการตามีป้อมยามอยู่หน้าบ้าน ตุ๊บ... เสียงรัชและลุงเม้งเปิดประตูลงจากรถเดินมุ่งตรงไปที่ป้อมยาม
"ผมมาพบเจ้พรครับ" ลุงเม้ง "เจ้พรสั่งไว้ว่าวันนี้ไม่ให้ใครเข้าพบ" รปภ.วัยกลางคนพูด " พี่ยามความจริงแล้วพวกเรามาตามหาคุณย่าพิกุลครับ"รัชพูด
"ป้ากุลกลับไปตั้งนานแล้ว ป้ากุลได้ฝากบอกว่าถ้าหลานเข้ามาตามหาให้บอกว่าเขากำลังจะกลับไปที่บ้าน"
" ครับขอบคุณครับ" รัชและลุงเม้งพูด ลุงเม้งกับรัชเดินมุ่งตรงไปที่รถและเปิดประตูขึ้นไปบนรถ "ที่แท้คุณย่าก็กลับบ้านไปแล้วนี่เอง" รัชพูด "รัชลองโทรหาคุณย่าดูซิ" " โทรไปแล้วรอบนึงครับคุณย่าน่าจะแบตหมด"รัชพูด ลุงเม้งสตาร์ทรถรถค่อยๆออกตัวไปตามถนน
"ถนนแถวนี้ไม่มีไฟกิ่งเลยเหรอเนี่ย"
" นั่นสิครับลุงถ้าคนไม่ชำนาญทาง เสี่ยงมากเลยนะเนี่ย"รัชพูด
นั่นลุง!ระวัง! ลุงเม้งไม่ทันสังเกตว่าข้างหน้าเป็นโค้งหักศอก รถของลุงเม้งเสียหลักไปชนกับต้นไม้ใหญ่
ตุ้ม! หัวของลุงเม้งกระแทกกับพวงมาลัยและมีเลือดออกที่หัวไหลยาวไปถึงแก้มส่วนรัชหัวกระแทกกับส่วนบนของช่องเก็บของใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด
น้องสาม! พี่สาม....
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหญิงสาว "นี่เราอยู่ที่ไหนกันเนี่ย" รัชตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงงและมองอะไรฝ้าฟางไปหมด "ที่นี่ที่ไหน" "ที่นี่ก็บ้านเราไง"
"บ้าน"รัชพูด "คุณย่าล่ะ คุณย่าอยู่ที่ไหน" "คุณย่าอะไรพี่สาม"หญิงสาวพูด
หญิงสาวยืนสาวยื่นแว่นตาให้รัช รัชสวมแว่นตาภาพที่ปรากฏตรงหน้าเป็นหญิงสาวสองคนหญิงสาวที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของรัช ผิวขาวใบหน้าเรียวยาวปากสีอมชมพูสวมชุดกี่เพ้าสีน้ำเงินดูค่อนข้างมีอายุ ผู้หญิงที่อยู่ฝั่งขวามือดวงตากลมโตผิวขาวใบหน้ากลมรีริมฝีปากอมชมพูสวมกี่เพ้าสีชมพูอ่อน "พวกคุณเป็นใคร"รัชพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ "หนูน้องพี่ไงเสี่ยวเหยา"ผู้หญิงที่อยู่ทางขวามือของรัชพูด "และนี่ก็พี่รองไงค่ะ" ผู้หญิง ที่อยู่ทางขวามือของรัชไปที่ผู้หญิงที่สวมกี่เพ้าสีน้ำเงิน "พี่รองเราไปตามหมอหลิวมาตรวจพี่ใหญ่ดีไหม" ก็ดีเหมือนกัน" ผู้หญิงที่สวมกี่เพ้าสีน้ำเงินออกไปอย่างเร่งรีบ เหลือเพียงรัชกับผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวเหยาอยู่ในห้อง2คน
เสี่ยวเหยามองรัดด้วยสายตาที่อ่อนโยนจนรัชอดที่จะเขินไม่ได้ "ที่นี่ที่ไหน"
" ที่นี่บ้านเราไงพี่สาม" รัชเอามือกุมหน้าผากและลุกขึ้นจากเตียง และเดินไปบริเวณใจกลางของห้อง"ตอนนั้น เราขึ้นรถมากับลุงเม้งนี่" รับพูดพึมพำ จู่ๆ ภาพครั้งที่เกิดอุบัติเหตุก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของรัช" หรือว่าเราตายไปแล้ว"รัชอุทานออกมาเสียงดัง
" อะไรตายเหรอพี่สาม"เสี่ยวเหยา ถามรัชด้วยนะที่ไร้เดียงสา รัชหันกลับไปมองเสี่ยวเหยาสาวน้อยตัวเล็ก" แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ก็เป็นวิญญาณเหมือนกันนะสิ" รัชพูดในใจ รัชกลืนน้ำลายเสียงดังเหงื่อไร้พรากเต็มหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ รัชค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆเสี่ยวเหยา รัชค่อยๆก้าวเท้าทีละนิดเข้าไปหาเสี่ยวเหยา
แอ๊ด... เสียงประตูห้องเปิดออก ผู้ชายสูงอายุไว้หนวดรูปร่างภูมิฐาน สวมเสื้อฉางซานสีไข่พร้อมกับหญิงสาว ที่เสี่ยวเหยาเรียกว่าพี่รอง รัชตกใจสะดุ้งโหยงพร้อมกับหันไปมองที่ชายชรา "คุณเป็นใครอีกเนี่ย" รัชพูด หมอหลิวเดินไปบริเวณเตียงเสี่ยวเหยาเดินไปยกเก้าอี้มาให้คุณหมอหลิวนั่ง"พี่สาม!" เสี่ยวเหยาเดินไปดึงแขนรัชมานั่งที่เตียงหมอหลิวได้ทำการแมะตรวจชีพจร
หมอหลิวนั่งนิ่งเงียบสักพักหนึ่ง "ชีพจรของคุณลู่เป็นชีพจรยาว(长脉)
" มันหมายถึงอะไรเหรอคะคุณหมอ" "คุณลู่เป็นปกติดีครับแค่ต้องพักผ่อนมากๆครับ" "ขอบคุณมากค่ะ" พี่รองและหมอหลิวเดินออกไปคุยกันนอกห้อง" ดีนะที่พี่สามไม่เป็นอะไรหนูเป็นห่วงแทบแย่เลย"เสี่ยวเหยาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน รัชเผลอมองไปเห็นหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่โต๊ะข้างหัวเตียง มีวันที่ภาษาจีนกำกับอยู่ว่า"11 พฤษภาคมปีคริสตศักราช 1930"(1930 年 5 月 11 日) รัชตกใจเบิกตาโพลงรีบเดินเข้าไปหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน" หรือว่าเรามาอยู่ในปี 1930 จริงๆนะเนี่ย"
รัชเดินไปที่หน้าต่างของห้องและใช้มือเปิดม่านหน้าต่างภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเป็นเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน เหมือนเมืองปกติแต่สิ่งที่ทำให้รัชตกใจนั้นคือตึกแต่ละแห่งในเมืองเป็นตึกสถาปัตยกรรมตะวันตก " มีเราอยู่ในปี 1930 จริงๆนะเนี่ย"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!