" เห้ยๆ ดูยัยดิ่! 5555555!!! "
น่ารำคาญ....
" สภาพแx่งไม่ต่างจากขอทานข้างทางเลยวะ55555!!!! "
น่ารำคาญ...
" เห้ย ดูสายตาที่แx่งมองมาที่พวกเราดิ่...น่ารังเกลียดเหมือนปีศาจพวกนั้นชะมัด "
" แหวะ!!! "
"...ไปให้พ้น..น่ารำคาญ...สะอิดสะเอียน.."
ทุกอย่างเงียบสงัด จนได้ยินเสียงแม้กระทั่งลมที่โพยพัดอยู่ล้อมรอบตัว ทุกสายตาหันมาจ้องมองราวกลับจะฆ่าให้ตายซะตรงนี้ ไม่ทันใดปากที่พูดคำสาปแช่งออกมาเมื่อครู่กลับเต็มไปด้วยของเหลวเหนียวหนืดสีแดงสด มุมปากฉีกออกเล็กน้อย
กระดูกแขนและขาโดนบดขยี้ซ้ำไปซ้ำมาจนใช้งานไม่ได้ กระดูกซี่โครงอ่อนโดนหักจนทิ่มทะลุปอด ทำให้หายใจลำบาก ช่วงหน้าท้องเป็นรอยจ้ำๆ ม่วงสลับเขียวกันไป บางจุดมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ช่วงบริเวณกลางหลัง
"ต่อไปก็-"
ตุบ... ตุบ... ตุบ... ตุบ...
เสียงที่พูดคุยกันสนุกสนานเมื่อครู่เงียบลงแต่กลับมีเสียงที่คล้ายลูกบอลตกกระทบกับพื้นลงมา เสียงฝีเท้าที่เดินใกล้เข้ามาทางนี้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ อาการหวาดกลัวเริ่มกลับมาอีกครั้ง การหายใจเริ่มถี่และลำบากมากขึ้น ของเหลวหนืดสีแดงเริ่มไหลเข้าปอด ร่างกายที่สั่นเท่าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว การที่มองไม่เห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยเจอมา
เสียงฝีเท้าหยุดลงแล้ว..
" มาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันเถอะนะ "
สิ้นเสียงประโยคนี้ ทุกอย่างกลับเงียบสงัดลงอีกครั้ง....
" สวัสดีค่ะดิฉัน ธิล ผู้ประกาศข่าวจากช่อง Demon extermination union.. เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ทราบข่าวว่าโรงเรียนวินซัสนั้นได้มีการรังแกข่มเหงนักเรียนที่มีระดับต่ำกว่าตัวเองค่ะ และสิ่งที่น่าช็อคมากกว่านั้นได้มีนักเรียนหญิง โดนทำร้ายจนใกล้ขั้นเสียชีวิตลง ร่างกายโดนทารุณกรรมอย่างหนัก เป็นสภาพที่สะเทือนใจต่อสังคมอย่างมากในตอนนี้ค่-"
"ฉันทำเธอตื่นรึป่าว มิญ" เสียงที่ดูอบอุ่นราวกับแสงแดดยามเช้า
ควับ....ควับ
ฉันส่ายหัว
"ลำบากหน่อยนะที่มองไม่เห็น แต่ทนอีกหน่อยเถอะ..นะ.." น้ำเสียงที่เบาและเศร้าลงเล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะหลับไป...อีกครั้ง
"ข่าวในวันนี้ ได้พบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่คนร้ายในย่านลิวบุนั้นได้เข้าโจมตีห้างสรรพสินค้า ROBOT SENTER มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด34ราย 1ในนั้นคือผู้บริหาร Demon exterminat- ติ๊ด!"
"ขอโทษทีนะเธอตื่นมาก็ฟังข่าวแบบนี้ซะงั้น"
"รอยยิ้ม..น่ารักจัง" ฉันเห็นแค่ภาพลางๆผ่านผ้าที่พันบนใบหน้าของตัวเอง
"ดวงตาของเธอก็สวยไม่แพ้กันนะมิญ" ฉันรู้สึกเหมือนเธอกำลังเอื้อมมือมาใกล้ๆ ภาพของคนพวกนั้นที่กลั่นแกล้งฉันกลับซ้อนทับออกมา...
"..ไม่ต้องห่วงคนที่นี่จะไม่ทำร้ายเธออย่างแน่นอนฉันสัญญา" เธอลูบหัวฉันเบาๆอย่างกลับกำลังปลอบประโลมความหวาดกลัวในตัวฉัน
"ขอโทษนะเธอคงมองไม่เห็นละสิ แปปนึงนะ" เธอได้เดินออกจากห้องไปก่อนที่..
ฉันหลับไปอีกครั้ง
"คุณมิญคะได้เวลาทานยาแล้วนะคะ" เสียงที่ไม่คุ้นเคยแต่อ่อนนุ่มจัง..
?
"....ตาฉัน" ภาพที่อยู่ตรงหน้าดูคุ้นๆ...เพดานของโรงพยาบาลหรอ?..แต่มันดูไม่เหมือนโรงพยาบาลปกติเลย
"คุณมิญคะ? ยังเจ็บตรงไหนรึป่าวคะ?"น้ำเสียงที่ดูห่วงใย
"ที่นี่คือ..."ฉันลุกขึ้นมองไปรอบๆห้องที่ดูสะอาดสบายตา
"เป็นสถานที่ ที่เอาไว้ฟื้นฟูร่างกายที่เสียหายอย่างหนักน่ะค่ะ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มประสิทธิภาพเราเลยนำคุณมิญมาไว้ห้องพักที่มีธาตุอากาศบริสุทธิ์สูงค่ะ"
รอยยิ้มไม่เห็นเหมือนตอนนั้นเลย..น้ำเสียงก็ด้วย..?
"ถ้าคุณ ธิล ล่ะก็ตอนนี้ไปทำงานอยู่เดี๋ยวอีกสักพักก็มาแล้วค่ะ"
"...ค่ะ" เป็นเด็กที่พูดไม่เก่งสินะ^^"
"ผมขอเข้าไปนะ" "เชิญค่ะ"
"......"
"อาการเป็นไงบ้างครับคุณหมอ"
"ตอนนี้ไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ คุณเนสเคฟ"
"ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะมิญ" เค้ายิ้มแล้วหันมามองฉัน น้ำเสียงดูคุ้นจัง?
มองไม่เห็นหน้าเลย...อยากเห็นจัง
ควับ!
"แหม~อยากเห็นหน้าผมขนาดนี้เลยหรอครับมิญ" ดวงตาสีแดงปนเทาขาวกลืน รอยยิ้มที่เผยเขี้ยวเล็กน้อย ดู...น่ารักจัง(?)
"นุ่มจัง..อ่ะ!ขอโทษ!!" แย่แล้วฉันเผลอไปลูบผมเขาซะแล้ว..ฉันจะโดนตีมั้ยน่ะ
ฉันหลับตาปี๋
"นุ่มใช่มั้ยล่ะครับ?"เขายิ้ม
"ไม่..ตีฉันหรอคะ?"
"...."เขาเงียบ ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปหาคุณหมอสาวและกระซิบอะไรกันบางอย่าง
"เดี๋ยวพวกฉันมานะ เธอรออยู่ที่นี่ก่อนนะมิญ"เขายิ้มแล้วเดินออกไปพร้อมกับคุณหมอคนนั้น
แกร๊ก..ตึง..
ฉันเดินดูรอบๆอย่างละเอียด จนกระทั่งได้ยินเสียงดังจากข้างนอกบานประตูนั้นฉันแง้มออกไปดู
กึก..
"เน้! อูทิล ผลงานวิจัยของนายยอดไปเลยนะ!"
"คราวหลังสอนพวกฉันบ้างสิอูทิล!" ฉันมองผ่านบานประตูที่เปิดออกเล็กน้อย
"ไม่เอาหรอก พวกนายชอบนอนตลอดเวลาฉันจะสอน..."เขาเหลือบมองมาทางนี้ เขาเห็นฉัน?
ปึง!
ฉันรีบปิดประตูก่อนที่เขาจะรู้ว่าฉันอยู่ที่นี้ ฉันเดินกลับไปที่เตียงแสนนุ่มนั้นและขอให้เขาไม่เห็นฉันก่อนที่ฉัน..
หลับไปอีกครั้ง
เสียงอะไร..น่ะ? "ใค...กิด....แย่.."ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น..คนที่ยืนอยู่ข้างเตียงฉันนั้นคือผู้ชายที่เขาเห็นฉันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนั้นเอง ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ได้?
"เข้ามา...ได้ยังไงคะ?"ฉันพูดและเขาก็สะดุ้งเล็กน้อยขณะที่กำลังดูบาดแผลตามตัวฉันอยู่
"...แย่ซะแล้วสิ.."เขาพูดเสียงเบาจนฉันไม่ได้ยินเลย
"พอดีฉันเป็นหมอฝึกหัดน่ะ ไม่ต้องห่วงนะถึงจะเป็นหมอฝึกหัดฉันก็อยู่ระดับสูงเชียว"เขาพูดจบก่อนจะตรวจบาดแผลตามร่างกายฉันอีกครั้ง
"....ทำแบบนี้ระวังโดนหมอผู้หญิงคนนั้นดุเอานะคะ"ฉันเหลือบมองเขาเล็กน้อยก่อนจะมองสิ่งที่เขากำลังทำอยู่
"...เธอรู้งั้นหรอว่าฉันไม่ใช่หมอฝึกหัด?" เขาชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันหน้ามามองฉัน
"อื้ม คุณก็เห็นฉันไม่ใช่หรอคะตอนนั้นคุณถึงเข้ามาในห้องนี้"
"ขอโทษนะพอดีตอนนั้นฉันตกใจกับบาดแผลตามร่างกายของเธอเลยไม่ได้ขอโทษที่เห็นเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตน่ะ แต่พอเข้ามาอีกทีก็เห็นเธอนอนหลับซะแล้วแถมแผลพวกนี้ก็ดูรุนแรงมากด้วยฉันเป็นห่วงกลัวว่าแผลพวกนี้จะได้รับการรักษาไม่ดีน่ะ"เขายิ้มแห้งก่อนจะโค้งตัวขอโทษ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าอยากจะศึกษาเป็นแนวทางล่ะก็..ฉันอนุญาตค่ะ"
"..แต่เธอรู้สึกไม่ดีไม่ใช่หรอที่ให้คนอื่นมาเห็นแผลแบบนี้" ฉันเบิกตากว้างเล็กน้อย
"ฉัน มิญ ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ?"
"ผมอูทิลครับ ขอโทษนะครับผมต้องเป็นฝ่ายแนะนำตัวก่อนแท้ๆ"เขายิ้มแห้งอีกแล้ว(?)
"แค่นี้ก็ถือว่าเป็นคนรู้จักกันแล้วนะคะ ถ้างั้นเชิญศึกษาเป็นแนวทางเลยก็ได้ค่ะ"ฉันหันมองเขาเล็กน้อย
"ขอบคุณนะครับ" ...เป็นแค่คำขอบคุณแท้ๆแต่ทำไม...มันรู้สึกอบอุ่นจังนะ
"อูทิลๆ!"
"อะไร?"
"วันนี้พวกเราไปทำวิจัยด้วยกันนะ!"
"ไม่" เขาดูเย็นชาจัง..ฉันมองเขาอยู่ห่างๆ
"แงงง อีกแล้วหรออ วันนี้ก็ไม่ได้หรออูทิลล" ผู้หญิงคนนั้นใครกัน?ดูน่ารักดีจัง..
"ฉันชอบทำวิจัยคนเดียวมากกว่า" เขาไม่หันมามองเธอเลยแหะ..ฉันนั่งมองเขาอยู่บนรถเข็นเงียบๆขณะที่คุณหมอสาวกำลังเข็นฉันไปอีกห้องนอน
เมื่อไม่กี่นาทีก่อน
ก๊อก ก๊อก
"เชิญค่ะ.."
"มิญจัง วันนี้ฉันจะพาเธอไปนอนอีกห้องนะ" คุณหมอสาวคนนั้นนี่นา ฉันพยักหน้าก่อนที่เธอจะเข็นรถเข็นเข้ามาและอุ้มฉันไปนั่งบนนั้น
"เธออยากกินอะไรหน่อยรึป่าวตั้งแต่เธอตื่นมาก็ไม่ได้กินไรเลยนี่นา"
ฉันส่ายหน้าช้าๆ ก่อนที่ฉันจะหลับไปบนรถเข็นนั้นอีกครั้ง
กึก
"ตื่นแล้วหรอมิญ? กินนี่หน่อยสิ" อูทิลนี่? เขาป้อนอะไรบางอย่างใหฉันกิน หวังว่านั้นคงไม่ใช่ของแหยงๆนะ
อร่อยจัง..หวาน
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นเพื่อมองว่าสิ่งที่เขาป้อนให้ฉันกินคืออะไรกันแน่...แต่ฉันก็กินไม่หยุดเหมือนกัน
"อร่อยใช่รึป่าว"เขายิ้มอ่อนแล้วมองมาที่ฉันขณะกำลังพยักหน้า
"นั้นคือ.."ฉันมองไปที่ขนมนั้น
"ไอศรีมมินต์ช็อก น่ะ"เขายิ้มอีกแล้ว? เขายิ้มบ่อยขนาดนี้เลยหรอ?
"ตอนนั้นฉันได้ยินว่าตั้งแต่เธอตื่นมาก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย ฉันเลยกะจะทำมาให้เธอกินน่ะมิญ" เขายิ้มอ่อนๆ
"..แล้วไม่มีเรียนหรออูทิล?" พอเขาได้ยินฉันเรียนชื่อเขาก็ชะงักเล็กน้อย
"ทิล เรียกฉันว่าทิลเฉยๆก็พอ" ฉันพยักหน้า
"ส่วนเรื่องเรียนนั้น..."เขาเงียบไปไม่ยอมพูดต่อ
"โดดหรอ..?"ฉันพูดขึ้น และใช่ เขาพยักหน้าตอบฉัน ถึงอย่างนั้นคนแบบเขาก็ไม่น่ายอมโดดเรียนเพียงเพราะทำของหวานมาให้ฉันกินเลยนี่นา ฉันเป็นสาเหตุรึป่าวนะ(?)
"กลับไปเรียนเถอะทิล โดดแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ"
"แต่เธอไม่หิวรึไง" ฉันส่ายหน้า
"ไว้เรียนเสร็จค่อยมาทำให้ฉันกินก็ได้" ฉันมองไปที่ดวงตาของเขาที่สวยเหมือนท้องฟ้ากลางคืน เขาพยักหน้าและตอบตกลงจากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับทิ้งของหวานที่ชื่อว่า ไอศรีมมินต์ช็อก ไว้ในมือฉัน เขาจะโดนดุรึป่าวนะ(?)
หลังจากนั้น..ไม่กี่นาทีต่อมา
...มุมมองอูทิล...
"อูทิล!เธอหายไปไหนมา!รู้มั้ยว่าฉันตกใจแถบแย่ที่อยู่ดีๆนักเรียนระดับสูงหัวกะทิอย่างเธอหายตัวไปนะ!!" เอาอีกแล้ว..เป็นแบบนี้ทุกทีที่ฉันหายตัวไป
"พอดีคิดงานวิจัยเพลินไปหน่อยครับขอโทษด้วย" ฉันพูดจบและกลับไปนั่งที่ของตัวเองแต่....
"ทำไมเธอมานั่งตรงนี้ ปิย่า" ฉันเหลือบไปมองเด็กสาวตัวเล็กกว่าตัวเองข้างๆ
"ก็อยู่กับอูทิลแล้วงานวิจัยมันคืบหน้าได้เยอะเลยนี่นา~" พูดไม่ทันจบอูทิลได้ย้ายไปนั่งโต๊ะอื่นที่ว่างอยู่ทั้งสองที่
"อูทิลล~" หล่อนตามไม่เลิกไม่ราจริงๆ ฉันส่ายหัวและไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
"งั้นวิจัยงานคราวนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับรอยแผลที่ถูกทุบตี ปากแผลเปิดกว้าง การช้ำเลือดหรือเลือดจับตัวเป็นก้อนอุดตันในเส้นเลือด และรอยแผลที่ถูกทำร้ายซ้ำๆจนใช้การไม่ได้" ...เหมือนบาดแผลของยัยนั้น(มิญ)เลยแหะ
"เห๋ อะไรกันดูยากจังนะการวิจัยรอบนี้" เธอถอนหายใจและฉันก็เหลือบไปมองเล็กน้อยก่อนจะเริ่มไปดูร่างศพจำลองขึ้นด้วยโฮโลแกรม
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!