-ตำหนักหยวนซี-
แสงดวงอาทิตย์ของยามรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาในตำหนักหยวนซี พรางให้เห็นหญิงสาวร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง แสงนั้นส่องเข้ามาถึงใบหน้า ของนางจนทำให้นางต้องลุกตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย
ใช่แล้วนางคือ องค์หญิงต่านซูเหลียน พระชายาของรัชทายาท เยว่เฉินหลิง ทั้งคู่สมรสกันได้2ปี กว่าแล้ว ซูเหลียนไม่เคยได้รับความรักจากเฉินหลิงเลยแม้แต่เศษเสี้ยวของหัวใจ นางรอคอยการมาของพระสวามี วันแล้ววันเล่า........แต่ก็ไร้วี่แวว
"พระชายาตื่นแล้วหรือเพคะ" เสียงของตู้เหมิงสาวใช้คนสนิทของซูเหลียน ตู้เหมิงเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าอันสดใส ราวกับว่าวันนี้เป็นวันดีอย่างไรอย่างนั้น ใช่!วันนี้เป็นวันเทศกาลโคมลอยของแคว้นเยว่ที่จัดขึ้นในทุกๆปี และเป็นวันที่ซูเหลียนจะได้พบกับเฉินหลิงในรอบ1ปี
ซูเลียนพยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย แต่สีหน้าของนางดูโศกเศร้า นั่นเป็นเพราะวันนี้นางต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจอีกเช่นเคย ในเทศกาลโคมลอยของปีที่แล้ว เฉินหลิงไม่สนใจนางเลย เพราะเฉินหลิงสนใจแต่ "หานเสินฮวา" สนมผู้เป็นที่รักของเขา เขาได้ทิ้งซูเหลียนไว้ข้างหลังอยู่เพียงลำพัง เพราะเหตุนี้ซูเหลียนถึงมิค่อยได้อยากไปนัก
"ถ้าท่านไม่อยากไป ไม่ต้องไปก็ได้นะเพคะ ข้ามิอยากให้ท่านต้องเจ็บปวดใจอีก" ตู้เหมิงกล่าวเช่นนี้เพราะนางไม่อยากเห็นซูเหลียนต้องเป็นทุกข์เพราะผู้ชายคนนั้น "ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าควรเผชิญหน้ากับความเป็นจริง" ซูเหลียนตอบกลับ ก็จริงอย่างที่นางกล่าว
นางเป็นถึงพระชายาจะมายอมแพ้แบบนี้ไม่ได้มันไม่สมศักดิ์ศรี
ในระหว่างการสนทนาของซูเหลียนและตู้เหมิง จู่ๆประตูบานใหญ่ก็เปิดออกพร้อมกับหญิงสาววัยกลางคน นามว่า เปิ่นลี่ นางเป็นหัวหน้านางในของวังหลังแห่งนี้ เปิ่นลี่นำชุดมาถวายให้ซูเหลียนที่นางจะใส่ไปงานเทศกาลคืนนี้
"ถวายบังคมเพคะพระชายา หม่อมฉันนำชุดมาถวายให้เพคะ" ชุดที่เปิ่นลี่นำมานั้น ฮองเฮาเป็นคนจัดหามาให้ซูเหลียน
ทุกๆงานของแคว้นเยว่ฮองเฮาจะจัดหาชุดมาให้นางอยู่เป็นประจำ "เจ้านำไปวางที่โต๊ะเถิด เดี๋ยวข้าจะไปขอบพระทัยฮองเฮาเอง" ซูเหลียนยิ้มให้เปิ่นลี่พร้อมกับสีหน้าที่ดูอ่อนโยน
"เพคะ พระชายา" หลังจากสิ้นเสียงของเปิ่นลี่ นางนั้นก็นำชุดไปวางไว้ที่โต๊ะตามที่ซูเหลียนบอกและเดินออกจากห้องไป
ซูเหลียนและตู้เหมิงเดินออกมาจากตำหนัก ทั้งคู่ตรงไปที่ตำหนักหมิงจูตำหนักของฮองเฮา
ในระหว่างการเดินทางนั้นซูเหลียนได้พบกับ
เฉินหลิงและเสินฮวา "ถวายบังคมเพคะเสด็จพี่"
เสินฮวาย่อคำนับลงเล็กน้อยก่อนที่จะยืนท่าเดิม
"เสด็จพี่จะไปไหนหรือเพคะ"เสินฮวาถามต่อ
"ข้าจะไปไหนมาไหนต้องคอยรายงานเจ้าตลอดอย่างนั้นหรือ" ซูเหลียนตอบกลับ ถึงแม้ว่าเสินฮวาจะเป็นสนมที่โปรดปรานของรัชทายาท
แต่ซูเหลียนนางก็ไม่คิดจะไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
สีหน้าของเสินฮวาก็เปลี่ยนไปตอนนี้นางเกิดบันดาลโทสะอยู่ภายในใจ นางอยากจะระเบิดออกมาเสียตรงนั้นแต่ก็ทำไม่ได้
"เสินฮวาแค่ถามเจ้านางผิดตรงไหน" จู่ๆเฉินหลิงก็ตอบกลับมาเสียเอง เขาพูดด้วยนํ้าเสียงที่ดูโกรธ
สีหน้าที่ดูเย็นชา ช่างแตกต่างกับตอนที่เขาอยู่กับคนรักของเขาเสียจริง ซูเหลียนก็ได้แต่มองใบหน้าของเฉินหลิงโดยที่ไม่โต้ตอบอะไรกลับไป
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัว" ซูเหลียนตอบกลับมาสั้นๆและเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ถึงแม้นางจะไม่แสดงออกทางใบหน้าแต่ในใจของนางนั้นแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ นางต้องทนทุกข์ทรมานมาตั้ง2ปี แต่นางก็ทำอะไรไม่ได้เลย
-ตำหนักหมิงจู-
"ถวายบังคมเพคะฮองเฮา หม่อมฉันมาขอบพระทัยเรื่องชุดที่ฮองเฮานำมาให้เพคะ" ฮองเฮาหลี่ยิ้มด้วยความเอ็นดู ที่ฮองเฮาหลี่นั้นดีกับซูเหลียนเป็นเพราะความเอ็นดูและความสงสาร
ฮองเฮาหลี่รู้ว่ารัชทายาทเฉินหลิงให้ความสนใจแก่เสินฮวามากกว่าจึงทำให้ฮองเฮาหลี่ไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่นางก็ทำอะไรมิได้ "เจ้าไม่เห็นต้องมาเองเลยฝากเปิ่นลี่มาก็ได้"
"เรื่องแบบนี้หม่อมฉันต้องมาเองสิเพคะถึงจะถูก"
พร้อมกับรินนํ้าชาให้กับฮองเฮาหลี่
ฮองเฮาหลี่รักซูเหลียนเหมือนลูกแท้ๆคนหนึ่ง
ทั้งสองสนิทสนมกันมากไม่ว่าจะเรื่องอะไรฮองเฮาหลี่มักจะเข้าข้างซูเหลียนอยู่เสมอหากมีใครมารังแกนาง ขอเพียงแค่ซูเหลียนเอ่ยปากมาเท่านั้นฮองเฮาหลี่พร้อมจะจัดการให้ทุกเรื่อง นางอยากจะไถ่โทษในทุกๆเรื่องที่เฉินหลิงได้ทำกับซูเหลียนเอาไว้ แต่นางคงทำได้เพียงเท่านี้
"หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ" หลังจากที่คุยกันมาสักพักซูเหลียนก็ขอตัวกลับ "เจ้าไปเถิด" ฮองเฮาหลี่กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเป็นกันเองอย่างมาก ซูเหลียนและตู้เหมิงก็พากันออกมาจากตำหนักหมิงจูและพากันเดินกลับตำหนักหยวนซี
-ยามซวี-(19:00น.)
ซูเหลียน เฉินหลิงและเสินฮวาต่างก็พากัน ขึ้นรถม้า เฉินหลิงกับเสินฮวานั่งรถม้าคันเดียวกันตามจริงแล้วที่ตรงนั้นควรเป็นของซูเหลียนเสียด้วยซํ้าเขาทำแบบนี้ไม่ให้ไว้หน้านางเลย ซูเหลียนก็ได้แต่มองและยับยั้งชั่งใจ
รถม้าทั้งสองคันก็หยุดลงตรงตลาดเทศกาล
ทั้งสามก็ลงมาจากรถม้าและพากันเดินชมงาน เฉินหลิงเขาก็ทิ้งซูเหลียนไว้อีกตามเคย เฉินหลิงนั้นสนใจแต่เสินฮวา..ทั้งๆที่ซูเหลียนเป็นชายาของเขา เขากลับไม่เหลียวแลเลยนั่นทำให้ซูเหลียนคับแค้นใจเป็นอย่างมากแต่ความรู้สึกนั้นนางคงเก็บไว้ได้แต่ในใจ
หลังจากที่ทั้งสามเดินชมงานกันจนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ก็พากันเดินมาที่แม่นํ้าเพื่อรอดูพลุ และทันใดนั้นเองเสียงของพลุก็ดังขึ้นผู้คนล้วนต่างมองขึ้นไปบนฟ้า ในระหว่างที่ผู้คนมองพลุอยู่นั้นเสินฮวาก็ได้ผลักซูเหลียนลงไปในแม่นํ้าแต่ทว่าซูเหลียนกลับดึงเสินฮวาลงมาด้วยทั้งคู่ก็พากันตกลงไปในแม่นํ้าหลังจากที่เฉินหลิงเห็นเขาก็รีบลงไปช่วยเสินฮวาทันที เขาอุ้มร่างของเสินฮวาขึ้นมาจากแม่นํ้าและรีบตรงไปยังรถม้า "กลับวัง!!" เขาตะคอกใส่คนขับรถม้าเขานั้นเป็นห่วงเสินฮวาเป็นอย่างมากถ้าเสินฮวาเป็นอะไรขึ้นมาเขาสาบานว่าจะไม่ปล่อยซูเหลียนเป็นแน่!
หลังจากที่รถม้าของเฉินหลิงออกไปแล้วซูเหลียนก็ยังคงอยู่ในแม่นํ้า ซูเหลียนค่อยๆหมดอากาศหายใจไปทีละเล็กละน้อย นางเสียใจเป็นอย่างมากเพราะการกระทำของเฉินหลิง นางแค่หวังว่าเขาจะช่วยนางเพียงแค่นั้น แต่กลับไม่เป็นดั่งความคิดเอาเสียเลย "ช่วยด้วยเจ้าค่ะ มีคนตกนํ้า!"
ตู้เหมิงร้องเรียกให้คนมาช่วยผู้เป็นนายของตนแต่กลับไม่มีใครกล้าเสี่ยงชีวิตลงไป แต่จู่ๆก็มีชายหนุ่มโดดลงไปช่วยซูเหลียนเสียอย่างนั้น เขานำร่างของซูเหลียนที่หมดสติขึ้นมาและวางร่างของนางลงกับพื้น เขาไม่รู้ว่าจะช่วยนางอย่างไรดีแต่แล้วเขาก็นึกวิธีออก เขาโน้มหน้าลงจนเกือบติดใบหน้าของซูเหลียนและผายปอดให้แก่นาง จนซูเหลียนนั้นสำลักนํ้าออกมาและค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ "ขอบพระคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตข้า"
ซูเหลียนซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากอยู่ดีๆคนที่ไม่รู้จักกลับช่วยนางเสียอย่างนั้น "แม่นางอย่างเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย เจ้ารีบพานายของเจ้ากลับไปเถิด"ชายหนุ่มบอกตู้เหมิงให้รีบพาซูเลียนกลับก่อนที่นางจะป่วย ตู้เหมิงพยุงซูเหลียนขึ้นมาและเดินตรงไปยังรถม้า
"ชายผู้นั้นเป็นใครกัน" ซูเหลียนพูดด้วยความสงสัยเพราะนางเองก็อยากจะรู้จักชายผู้นั้นเสียเหลือเกิน นางรู้สึกถูกชะตากับชายผู้นี้เป็นอย่างมาก
หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับซูเหลียนฮองเฮาหลี่ทรงพิโรธเป็นอย่างมาก นางมิได้พิโรธเรื่องที่เสินฮวารังแกซูเหลียนแต่นางพิโรธเรื่องที่เฉินหลิงนั้นไม่ยอมช่วยซูเหลียนผู้ที่เป็นภรรยาของเขา แต่เขากลับเลือกที่จะช่วยเสินฮวาแทน ฮองเฮาหลี่ทรงมีรับสั่งให้กักบริเวณเฉินหลิงเป็นเวลาหนึ่งเดือนและห้ามให้ผู้ใดเข้าตำหนักซู่หมินยกเว้นแต่คนของฮองเฮาหลี่ที่จะเข้าไปส่งนํ้าและข้าว
และเรื่องนี้นี่เองที่ทำให้เฉินหลิงโกรธซูเหลียนมาก
มากเสียจนเขาอยากจะปลดนางออกจากตำแหน่งพระชายา แต่ต่อให้เขาอยากจะปลดตำแหน่งพระชายามากแค่ไหนเขาก็มิอาจทำได้เพราะมันเกี่ยวโยงถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองแคว้น
-จวนตระกลูหาน-
เสินฮวาเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพหานกับ
ฮูหยินรอง ถึงแม้นางจะเป็นแค่บุตรสาวเมียรองของแม่ทัพหาน แต่แม่ทัพหานรักและเอ็นดูเสินฮวามากที่สุด เสินฮวาอยากได้อะไรแม่ทัพหานก็จะหามาให้ทุกอย่าง
"น่าเบื่อเป็นที่สุด!" เสินฮวาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะพูดออกมา หลายวันมานี้นางอยู่แต่ที่จวนมิได้ออกไปไหนมาไหนเลยเพราะปกติแล้วเฉินหลิงจะพานางเข้าวัง แต่ตอนนี้เฉินหลิงเองก็ถูกฮองเฮาหลี่กักบริเวณอยู่นางจึงมิได้เข้าวังอย่างปกติ นางรู้ดีว่าฮองเฮาหลี่นั้นไม่ชอบนางเสียเท่าไหร่แต่นางก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
"คุณหนูเป็นอะไรหรือเจ้าคะ" อี้จูเอ่ยถามอี้จูเป็นสาวใช้คนสนิทของเสินฮวานางรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเสินฮวาทั้งคู่สนิทสนมกันเป็นอย่างมากและหากมีอะไรที่เสินฮวาไม่พอใจนางก็จะลงที่อี้จูอยู่เสมอ
"ก็ข้าอยากพบรัชทายาท นี่ก็หลายก็หลายวันมาแล้วที่ข้าไม่ได้พบกับเขา เพราะนังซูเหลียนแท้ๆที่ทำให้รัชทายาทเฉินหลิงถูกกักบริเวณ!" นางพูดด้วยความโกรธแค้นนางเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของซูเหลียนทั้งๆที่นางเป็นคนผิดแต่นางกลับโทษคนอื่น "ถ้าคุณหนูเบื่อข้าจะพาคุณหนูไปเดินเล่นที่นอกจวนดีไหมเจ้าคะ" พร้อมกับหันหน้ามาหาเสินฮวาด้วยรอยยิ้มอันใสซื่อ
"เอาสิ อยู่แต่ในจวนข้าเบื่อจะตายอยู่แล้ว"นางทำน่าเซ็งๆก่อนที่จะตอบกลับมา
-ตำหนักหยวนซี-
ซูเหลียนนั่งรินนํ้าชาอยู่ที่สวนด้านหลังของตำหนักเวลาที่นางมีเรื่องไม่สบายใจนางชอบมานั่งที่นี่ นางนั้นไม่ค่อยชอบออกไปไหนมาไหนนางเลยอยู่แต่ที่ตำหนักหยวนซี สำหรับซูเหลียนนั้นตำแหน่งพระชายาเป็นตำแหน่งที่ไร้ค่าสำหรับนาง นางมิอยากได้ตำแหน่งนี้เลยเสียด้วยซํ้าแต่นางต้องการหัวใจของเฉินหลิงเพียงเท่านั้น
"พระชายาเพคะ" ตู้เหมิงเรียกซูเหลียนด้วยใบหน้าที่แตกตื่น "ว่าอย่างไร" ซูเหลียนวางแก้วนํ้าชาลงบนโต๊ะก่อนที่จะเอ่ยวาจา ซูเหลียนสงสัยว่าทำไม
ตู้เหมิงต้องแตกตื่นขนาดนั้นหรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ!? "รัชทายาทมาเพคะ"
ตู้เหมิงกล่าวด้วยวาจาที่ดูกระวนกระวาย เขาจะมาหานางทำไมกันนะรอยวันพันปีไม่เคยมาหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่วันนี้กลับมาหานางเสียอย่างนั้น หลังจากที่ตู้เหมิงกล่าวมาซูเหลียนก็รีบลุกขึ้นและเดินเข้าไปยังตำหนัก
"ถวายบังคมเพคะรัชทายาท" นางย่อตัวลงเล็กน้อย "พวกเจ้าออกไปให้หมด" เฉินหลิงพูดด้วยนํ้าเสียงที่แข็งทำไมเขาต้องให้คนออกไปด้วยเล่า
ดูท่าบรรยากาศไม่ดีเสียแล้วจะต้องเกิดเรื่องขึ้นกับนางเป็นแน่! สิ้นเสียงของเฉินหลิงสาวใช้ที่อยู่ในตำหนักก็ต่างกันพาออกไปรวมถึงตู้เหมิงด้วยเช่นกัน "ท่านมาทำอะไรที่นี่เพคะ" ซูเหลียนถามด้วยความสงสัยเวลาที่เฉินหลิงมาหานางจะต้อง
มีเรื่องเกิดขึ้นตลอด อยู่ๆเฉินหลิงก็กระโจรเข้าใส่ซูเหลียนพร้อมกับเอ่ยว่า "ข้าเกลียดเจ้า ข้าเกลียดเจ้าได้ยินไหม" เฉินหลิงผลักซูเหลียนจนล้มลงตอนนี้ร่างของนางลงไปนั่งอยู่กับพื้นเสียแล้ว
ซูเลียนพยายามพยุงตัวเองขึ้นมาก่อนที่นางจะตรงเข้าไปตบหน้าของเฉินหลิงหนึ่งฉากนางไม่ยอมเป็นผู้เสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวถึงแม้นางจะรักชายที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นมากแค่ไหนก็ตาม
"ข้าจะมิยอมให้ท่านรังแกข้าอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะและจำเอาไว้ถึงแม้ข้าจะรักท่านอย่างสุดซึ้งแต่นั่น!ก็ไม่ได้แปลว่าข้าจะยอมให้ท่านรังแกข้าได้ง่ายๆ"
หลังจากที่เฉินหลิงได้ฟังคำพูดของซูเหลียนนั่นทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เพราะเหตุใดนางจึงเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้นี่ไม่ใช่ต่านซูเหลียนที่เขารู้จักสิ้นคำของซูเหลียนนางก็เดินออกจากตำหนักไป
"ตู้เหมิงไปกันเถิด"
"ไปไหนหรือเพคะ" ตู้เหมิงเลิกคิ้วเล็กน้อย
"ไปที่ไหนก็ได้ข้าไม่อยากเห็นหน้าชายผู้นั้น"
ตอนนี้นางโกรธเฉินหลิงมากแม้แต่หน้าของเขานางก็ยังมิอยากจะเห็นนางอดกลั้นมาตั้ง2ปีแต่ตอนนี้นางจะไม่ทนอีกแล้วนางจะมิยอมให้
เฉินหลิงกระทำนางอยู่ฝ่ายเดียวเป็นแน่!
-ยามเซิน- (15:00น.)
-ตลาด-
ซูเหลียนและตู้เหมิงก็พากันออกมาจากวังหลวงทั้งคู่ก็เดินหาของกินบ้าง ดูเครื่องประดับบ้างนางมิเคยรู้เลยว่าของพวกนี้จะมีขายตามตลาดวันนี้นางดูมีความสุขมากกว่าที่เคยเป็นนางออกมาจากวังหลวงนั่นเหมือนกับได้ออกมาเปิดหูเปิดตา
นางปรารถนาที่จะเป็นตัวเองมานานแล้วเพราะอยู่ในวังนางต้องทำเหมือนไม่มีความรู้สึกอยู่เสมอด้วยตำแหน่งของนางแล้วนางมิควรแสดงความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น
จู่ๆก็มีชายคนหนึ่งวิ่งมาชนนางเข้าอย่างจัง
ร่างของทั้งคู่ลงไปกองอยู่กับพื้น ชายผู้นั้นลุกขึ้นและส่งมือให้ซูเหลียน ซูเหลียนเงยหน้าขึ้นไปมองแต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเขานั่นเอง!คนที่ช่วยชีวิตของนางไว้นางจับมือของชายผู้นั้น
"คือท่านนั่นเองที่ช่วยชีวิตข้า" นางส่งยิ้มให้แก่เขาเป็นรอยยิ้มที่ตู้เหมิงเองก็ไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว
"ข้าขอถามชื่อท่านได้หรือไม่"
"ข้าชื่อหวังหยาซวี แม่นางล่ะมีนามว่าอะไร"
"ข้า...."นางมิกล้าบอกว่านางเป็นใคร เพราะนางเองก็กลัวว่าถ้าหยาซวีรู้เขาจะเกร็งเวลาที่อยู่กับนาง
"ข้ามีนามว่า จ้าวซู่เหริน" สุดท้ายนางเลือกที่
จะโกหกหยาซวีแต่ถึงอย่างไรสักวันตัวตนของนางต้องถูกเปิดเผยเป็นแน่!
ในระหว่างที่ทั้งคู่สนทนากันอยู่นั้นเสินฮวานางก็เดินมาเห็นพอดิบพอดี
"เอ๊ะ! นั่นมิใช่ต่านซูเหลียนหรอกรึ" นางพูดพรางพร้อมกับมองไปที่ซูเหลียน นางเองก็แปลกใจที่มาเจอซูเหลียนในที่แบบนี้เพราะปกติแล้วซูเหลียนมิชอบออกมาจากตำหนักหากไม่มีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ
"นางยืนคุยกับชายที่ไหนกัน" เสินฮวาเกิดความสงสัยขึ้นมาคนอย่างซูเหลียนหนะหรือจะมีเพื่อน
"ไม่ว่าจะเป็นชายมาจากที่ใดข้าก็หาสนใจไม่แต่เรื่องนี้คงจะต้องถึงหูของรัชทายาทเป็นแน่!"
รอยยิ้มของนางแฟงไปด้วยความชั่วร้ายใช่แล้วเสินฮวานางมิชอบซูเหลียนมาแต่ไหนแต่ไรเพราะนางเองอยากที่จะขึ้นเป็นพระชายาแต่ความฝันของนางกลับต้องล่มสลายในที่สุด
หลังจากที่เสินฮวาเห็นซูเหลียนยืนคุยกับชายแปลกหน้านางก็รีบกลับไปที่จวนตระกูลหานเพื่อที่จะนำข่าวนี้ไปบอกกับแม่ทัพหานผู้เป็นเสด็จพ่อของนาง แม่ทัพหานนั้นต้องการให้เสินฮวาเป็นฮองเฮาจึงทำทุกวิธีทางเพื่อเขี่ยซูเหลียนลงจากตำแหน่งพระชายา
"แม่นางมาจากตระกูลจ้าวหรือ" หยาซวีเอ่ยถาม
"ถูกต้องแล้ว แต่ตัวข้านั้นต้องเข้าไปทำงานรับใช้ในวังหลวงจึงมิค่อยได้ออกมาเสียเท่าไหร่" ซูเหลียนนางตอบด้วยความมั่นใจไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย "แล้ว....เราพอที่จะเป็นเพื่อนกันได้หรือไม่" ซูเหลียนนางนั้นอยากจะมีเพื่อนนอกจากตู้เหมิงแล้วนางก็ไม่มีใครเลย
"ได้สิ เหตุใดข้าใยจึงจะต้องปฏิเสธเจ้าด้วยเล่า"
หยาซวีส่งยิ้มให้นาง นางมิเคยได้รับรอยยิ้มเช่นนี้มาก่อนหยาซวีเป็นคนแรกที่ยิ้มให้นางเช่นนี้
ซูเหลียนอยากให้เฉินหลิงยิ้มให้นางแบบนี้บ้างขอเพียงแค่ครั้งเดียวก็ถือว่าเพียงพอแล้วแต่นางก็รู้ดีว่านางไม่มีวันได้รอยยิ้มเช่นนี้จากเฉินหลิงแน่
"เจ้าบอกข้าว่าเจ้ามิค่อยได้ออกจากวังใช่หรือไม่"
"ถูกต้อง" นางพยักหน้าเล็กน้อย
"คืนนี้ข้าจะพาเจ้าไปในที่ที่หนึ่ง เจ้ามารอข้าที่
สะพานแม่นํ้าหวายในยามไฮ่" เอ๊ะ!ที่สะพานแม่นํ้าหวายหรือ!? นั่นมันที่ซูเหลียนได้พบกับหยาซวีเมื่อครั้งก่อนที่นางตกนํ้าหนิ "ได้แล้วพบกัน" นางส่งยิ้มให้หยาซวีก่อนที่จะเดินจากมา
"ท่านจะไปพบเขาจริงหรือ" ตู้เหมิงถามนาง
นางเองก็สงสัยโดยส่วนตัวแล้วนางมิค่อยไปไหนมาไหนกับคนที่เพิ่งรู้จักแต่ทำไมกลับหยาซวีนางยอไปง่ายดายถึงเพียงนี้ "อืม" นางตอบเพียงสั้นๆแต่ได้ใจความซูเหลียนรู้สึกถูกชะตากับชายผู้นี้มากนางจึงยอมไปกับหยาซวีง่ายๆพวกนางทั้งคู่ก็พากันกลับเข้าวังเพื่อนเตรียมตัวสำหรับคืนนี้
*หมายเหตุ ยามไฮ่\=21:00น.-22:59น.
ตามจริงแล้วเฉินหลิงนั้นต้องถูกกักบริเวณเป็นเวลา1เดือน แต่ฮองเฮาหลี่ลดหย่นโทษให้เหลือแค่7วัน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!