“ดาว เร็วๆหน่อย ถ้าอืดอาดแบบนี้จะไปทันเวลามั้ยเนี่ย!” พุดซ้อนเร่งเพื่อนสาวของเธอที่กำลังพับผ้าผ่อนลงกระเป๋าเดินทาง
“โอเคๆ ฉันรีบอยู่นี้ไงพุด แค่ของฉันมันเยอะนิดหน่อยก็เท่านั้นเอง”
“ฉันบอกแกแล้วไงยัยดาว ให้จัดเตรียมกระเป๋าตั้งแต่เมื่อวานเย็น เนี่ยก็ต้องออกสาย กว่าจะไปถึงบ้าน แม่กับยายของฉัน และแม่ของเธอ คงรอนานเลยนะ”
“จ้าๆ แม่คุณ บ่นเป็นคนแก่ไปได้ อื้อ! เสร็จและ ปะ!ไปกันได้” เธอรูดซิบกระเป๋าเดินทาง และตีไปที่กระเป๋าของเธอแล้วยิ้มให้กับพุดซ้อนที่กำลังทำหน้าบึ่งตึงอยู่ตอนนี้
ดาวกับฉันเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ยังเด็กเพราะแม่ของพวกเราสองคนเป็นเพื่อนรักและสนิทกันมาก บ้านของพวกเราสองคนแค่เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ตอนเด็กๆ ดาวจะมาเล่นขายของที่บ้านของฉันบ่อยๆ พวกเราสองคนเรียนมาด้วยกันตั้งแต่อนุบาลจนจบมหาวิทยาลัย บอกเลยว่าพวกเรานี่สนิทกันมากเหมือนเป็นพี่น้องกันเลยล่ะ
...อยุธยา...
“แม่ดูสิว่าใครมา” หญิงสาวเรียกแม่ของตนที่กำลังนั่งพับดอกบัว
“อ้าวแม่พุด แม่ดาว หลานรักของยาย”
พุดซ้อนกับดาวเดินเข้าไปสวมกอดคุณยายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“เป็นไงบ้างหลานยายอยู่ที่นู้นเป็นไงบ้างสะบายดีใช่มั้ย แล้วนี้ได้กินข้าวกินปลากันมาหรือยัง เจียกเอ่ยจัดโต๊ะเสร็จหรือยัง” คุณยายถามหลานสาวทั้งสองคนยกใหญ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“อยู่ที่นู่นพุดกับดาวสบายดีค่ะ”
“ใช่ค่ะคุณยายอยู่ที่นู่นพวกเราสบายดี คุณยายไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ” ดาวพูดเสริมพุดซ้อนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“แล้วกินข้าวกินปลากันมาหรือยังล่ะยัยสองแสบ” แม่ของพุดซ้อนถาม
“ยังเลยค่ะแม่ เนี่ยรู้มั้ยว่าเคลียร์ท้องมาเพื่อกินกับข้าวฝีมือแม่เลยนะ” พุดซ้อนพูดแล้วทำมือลูบท้องพลางๆ
“ใช่ค่ะคุณป้าพวกเรารอมากินฝีมือคุณป้าและแม่เลยนะ” ดาวทำหน้าตาอ้อนแม่ของพุดซ้อนแล้วแม่ของตน
“งั้นพวกเราก็ไปกินข้าวกันเถอะ นี่ก็เย็นมากแล้ว” เมื่อคุณยายพูดจบพุดซ้อนกับดาวช่วยประคองคุณยายไปที่โต๊ะอาหาร
“ทั้งสองคนกินเยอะๆ เลยนะเนี่ยแม่พวกเธอทำแต่ของโปรดไว้ให้ทั้งนั้น ไม่อิ่มเอาข้าวเพิ่มอีกได้นะ” คุณยายผู้ตักกับข้าวให้หลานทั้งสองยกใหญ่
พุดซ้อนกับดาวยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้มากินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วดาวกับแม่ก็ขอแยกย้ายกลับบ้าน
“ยายจ๊ะดาวกลับบ้านก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าดาวจะมาหาใหม่นะคะ” ดาวยกมือไหว้พร้อมวิ่งมากอดคุณยาย
“ไปได้แล้วยัยดาว คุณยายจะได้พักผ่อน ไปก่อนนะยายไปก่อนนะผกา” แม่ของดาวพูดพร้อมยกมือไหว้ลาคุณยาย
หลังจากที่ดาวกับคุณป้าดวงกลับไป พุดซ้อนก็มานั่งช่วยคุณยายพับดอกบัว
“ยายจ๊ะนี่พับดอกบัวไปทำอะไรหรอคะเนี่ย” พุดซ้อนถามพลางหยิบดอกบัวขึ้นมาพับ
“พรุ่งนี้วันพระ ยายก็จะไปทำบุญที่วัดไงจ๊ะหลาน" คุณยายส่งยิ้มให้หลานรักด้วยความเอ็นดู
“แล้วลูกล่ะ พรุ่งนี้จะไปด้วยกันมั้ย ถ้าไปก็ตื่นเช้าๆ ละกันนะ” แม่ของพุดซ้อนพูดพลางเช็ดจานไปด้วย
“ไปจะแม่ เดี๋ยวแวะไปกราบหลวงพ่อด้วยไม่ได้เจอกันตั้งนาน… เฮ้อ! ในที่สุดก็เสร็จสักที” พุดซ้อนทำถ้าบิดขี้เกียจหลังจากช่วยคุณยายพับดอกบัวจนเสร็จ คุณยายของพุดซ้อนก็ยิ้มด้วยความเอ็นดูหลานของตน
"นี้ก็ดึกมากแล้ว ลูกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า แล้วนอนเถอะนะ ทางนี้เดี๋ยวแม่กับป้าเจียกจัดการเอง"
หลังจากพุดซ้อนอาบน้ำเสร็จ เธอก็มานั่งหวีผมที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เธอได้กลิ่นหอมอะไรสักอย่าง เธอจึงเดินตามกลิ่นหอมนั้นไปตรงที่หน้าต่าง เธอพบว่ามีต้นพุดซ้อนออกดอกเต็มต้นส่งกลิ่นหอมยวนใจยิ่ง เธอจึงเดินออกไปนอกบ้านเพื่อเก็บดอกพุดซ้อนมาไว้ที่หัวเตียง
“อ้าว! ยัยพุดลงมาทำอะไร ยังไม่นอนอีกหรอ แล้วในมือนั้นคืออะไรน่ะ” แม่ของเธอถามด้วยความสงสัย
“พุดได้กลิ่นหอมทางหน้าต่าง เห็นดอกพุดซ้อนเต็มต้น ก็เลยลงมาเก็บเอาไปไว้ในห้องน่ะค่ะ กลิ่นมันหอมดี” พุดซ้อนยกดอกไม้ขึ้นมาดมด้วยใบหน้าหน้าเปื้อนยิ้ม
“งั้นก็ขึ้นนอนได้แล้ว เดี๋ยวน้ำค้างลง จะไม่สบายเอา”
“ฝันดีนะแม่” เธอพูดแล้วเดินขึ้นห้องไปด้วยใบหน้าที่มีความสุข
พุดซ้อนนำดอกไม้ที่เธอเก็บมา วางไว้ข้างหมอน และพุดซ้อนไม่ลืมที่จะไหว้พระก่อนนอนทุกคืน จากนั้นเธอล้มตัวลงนอน และหลับไปในทันที แต่ในความฝันของเธอในคืนนี้กลับไม่เหมือนความฝันปกติ เหมือนกับทุกคืนที่ผ่านมา...
ชายหนุ่มในชุดไทยโบราณ รูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีแทน กำลังพาพุดซ้อนไปที่ใดสักแห่ง
"คุณ! คุณเป็นใครจะพาฉันไปที่ไหน ปล่อยนะ!" พุดซ้อนพยายามรั้งตัวเอาไว้ และถามชายตรงหน้าว่าจะพาเธอไปที่ไหน แต่กลับไม่มีคำตอบใดๆ กลับมา
"คุณ! ปล่อยฉันไปเถอะนะ ตอนนี้แม่กับยายคงเป็นห่วงฉันมาก ปล่อยฉันเถอะนะ" พุดซ้อนอ้อนวอนชายตรงหน้า พร้อมน้ำใสๆ ที่ไหลอาบแก้มของเธอทั้งสองข้าง
"แม่พุดซ้อน" เสียงชายที่อยู่ตรงหน้าได้เอ่ยปากพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเรียบ
"แม่พุดซ้อน แม่มิต้องร้องให้ไปใย ข้ามิทำกระไรแม่ดอก" ชายตรงหน้าพูดกับเธอแต่ไม่ได้หันหน้ามาหาเธอแต่อย่างใด แต่ชายตรงหน้ากลับพาเธอเดินไปข้างหน้าไม่หยุด
"แล้วคุณจะพาฉันไปที่ไหนกัน ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!" พุดซ้อนรั้งตัวสุดฤทธิ์ และตะโกนสุดเสียง ว่าให้ปล่อยเธอ ซ้ำๆ ก่อนทุกอย่างจะดับวูบลง...
พุดซ้อนสะดุ้งตื่น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เธอมองไปรอบๆ ด้วยความตกใจ ในที่สุดภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็คือห้องนอนของเธอ เธอถอนหายใจยาวรู้สึกโล่งอก ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ใช่! เธอแค่ฝัน เธอหันไปมองนาฬิกา ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาตีห้า วันนี้เธอต้องไปทำบุญที่วัด เธอจึงรีบลุกไปอาบน้ำ แต่งตัว แล้วเธอก็ลงมาข้างล่าง
“แม่คะ มีอะไรให้พุดช่วยมั้ย” พุดซ้อนพูดขณะเดินลงจากบันได
“เอ้า! ยัยพุดตื่นแล้วหรอ งั้นช่วยหยิบตะกร้าตรงนั้นให้แม่หน่อย” แม่ของพุดซ้อนพูดขณะวุ่นอยู่กับการเตรียมของไปทำบุญที่วัด
พุดซ้อนเดินไปหยิบตะกร้าให้แม่ของเธอ จากนั้นพุดซ้อนก็ช่วยแม่เตรียมของจนเสร็จ แม่ของพุดซ้อนก็ไปดูคุณยายของเธอเพื่อจะเตรียมตัวไปทำบุญที่วัด
เมื่อทำบุญตอนเช้าเสร็จแล้วพุดซ้อนได้ไปพบหลวงพ่อที่ไม่ได้เจอกันมานานตั้งแต่เธอเข้ามาทำงานในกรุงเทพพุดซ้อนได้สนทนากับหลวงพ่อเรื่องสาระทุกข์ทั่วไป
“พุดซ้อนขอตัวลาก่อนนะคะ” พุดซ้อนพูดพร้อมทั้งยกมือไหว้
เมื่อพุดซ้อนกลับถึงบ้านเธอก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกเธอมาแต่ไกล เธอหันไปตามเสียงนั้นก็พบว่าเป็นดาวเพื่อนสนิทของเธอที่กำลังวิ่งมุ่งหน้ามาหาเธอ
“พุด! พุด!” ดาววิ่งมาด้วยความเร็ว ทำให้เธอหอบ
“มีอะไรหรอดาว วิ่งมาหน้าตาตื่นเชียว” พุดซ้อนถามพลางตักน้ำให้ดาวที่กำลังเหนื่อยหอบ
“ขอบใจ คือว่าอาทิตย์หน้าจะมีงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลกไปกันมั้ยพุด ที่เขาใส่ชุดไทยไปกันอ่ะ" ดาวทำท่ายิ้มแย้ม แล้วส่งสายตาออดอ้อน
“โอเคๆ” พุดซ้อนตอบพร้อมใบหน้ายิ้ม
เวลาก็ล่วงเลยมาถึงตอนเย็นพุดซ้อนไม่ลืมที่จะไหว้พระก่อนนอนทุกคืน และอีกเช่นเคยพุดซ้อนฝันแบบคืนก่อน และหลังจากนั้นทุกๆวันพุดซ้อนก็ฝันแบบนี้ซ้ำๆ ในทุกๆคืน
คืนก่อนวันไปงานยอยิ่งฟ้าดาวได้ขอมาพักที่บ้านของพุดซ้อนด้วย เพื่อว่าพรุ่งนี้จะได้ไปดูชุดด้วยกัน หลังจากที่ทุกคนนอนนั้นพุดซ้อนก็ฝันดังคืนก่อนๆ พุดซ้อนดิ้นไปมาพร้อมพูดว่าให้ปล่อยตัวเธอไป
“พุดๆ ยัยพุดแกเป็นอะไร” ดาวพูดพลางเขย่าตัวเพื่อนของเธอ
พุดซ้อนสะดุ้งตื่น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่ออยู่ทั่วหน้า เธอหันไปมองรอบๆ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็คือห้องของเธอ
“พุด แกเป็นอะไรฝันร้ายหรอ”
พุดซ้อนพยักหน้าตอบกลับ
“ดาว เธอเคยฝันเรื่องซ้ำๆ ติดต่อกันหลายวันไหม” พุดซ้อนพูดพลางจับมือของดาว
“ก็เคยนะ แต่ก็ฝันซ้ำติดต่อกันมากสุด ไม่สองวันก็สามวัน ส่วนมากฝันเรื่องเดียวกันซ้ำก็คงเป็นเพราะว่าฉันดูซีรีย์เยอะไปหน่อย ก็จะชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็นนางเอกจนเก็บมาฝันอยู่บ่อยๆ ละมั้ง!”
“แต่ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นน่ะสิ ฝันของฉันมันไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อนเลย ฉันเพิ่งฝันเรื่องราวแบบนี้ตอนกลับมาอยู่บ้านที่อยุธยาตั้งแต่คืนแรก” หลังจากนั้นพุดซ้อนก็เล่าความฝันของตนให้เพื่อนของเธอฟัง
“โห! อย่างกับนิยาย ฝันเห็นผู้ชายทุกคืน หรือจะเป็นเนื้อคู่ของแกวะพุด” ดาวพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมทั้งโยกตัวเอาไหล่กระแทกกับไหล่ของพุดซ้อนเบาๆ
“แกนี่พูดอะไร มันก็แค่ฝันน่ะ นอนต่อเถอะ พรุ่งนี้มีอะไรให้ทำอีกเยอะ” พุดซ้อนพูดพลางเอนตัวลงนอน
วันต่อมาพุดซ้อนกับดาวทำธุระต่างๆในบ้านเสร็จ จนถึงบ่ายพุดซ้อนกับดาวจึงเตรียมตัวไปงานยอยศยิ่งฟ้า ดาวและพุดซ้อนจึงช่วยกันแต่งตัวจนเวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง ทั้งสองสาวก็แต่งตัวจนเสร็จสรรพ พุดซ้อนห่มสไบสีเหลืองจำปาตัดกับผ้านุ่งซิ่นสีถั่วเขียวลายกนกคาดด้วยเข็มขัดสีทอง
“โห!! ยัยพุด แกสวยอะไรขนาดนี้อย่างกับหลุดมาจากวรรณคดีเลย” ดาวกล่าวชมพุดซ้อนด้วยความตะลึงและตื่นเต้น แต่ดาวนั้นก็สวยไม่แพ้ไปจากเธอเลย ดาวห่มสไบสีจำปาแดงตัดกับผ้านุ่งซิ่นสีเขียวนกพิราบลายกนกพร้อมเครื่องประดับสีทอง
เมื่อมาถึงงานยอยศยิ่งฟ้าแสงไฟส่องสว่างไปทั่ว ผู้คนต่างก็แต่งชุดไทยมาในงานนี้ ไม่ว่าแม่ค้าพ่อค้าขายของก็แต่งชุดไทย เหมือนทั้งสองนั้นหลุดมายังโลกอีกโลกหนึ่ง สองสาวก็เดินเที่ยวเล่นซื้อของกินกันทั้งงาน ผู้คนนั้นแน่นขนัด ทั้งสองจึงหาที่พักนั่งกินของกินที่ตนซื้อมา
“พุด แกลองกินอันนี้สิ อร่อยมาก” ดาวพูดพร้อมยื่นของกินให้กับพุดซ้อน
“พอแล้ว ชุดจะปริอยู่แล้ว” พุดซ้อนทำท่าดูตะเข็บชุดตัวเอง ดาวผู้ดูเพื่อนของเธอนั้นทำท่าทำทาง ตาของเธอก็เหลือบไปเห็นหมอดูดวง ดาวเลยรีบจับมือเพื่อนสาวแล้วเดินไปอย่างไว
“ยัยดาว แกจะพาฉันไปไหน” พุดซ้อนทำหน้างุนงงสงสัย
“ตามมาเถอะน่ะ” ดาวมุ่งหน้ามาที่โต๊ะแม่หมอ
“แกจะดูดวงหรอ”
“ใช่! ฉันจะดูดวง อยากจะรู้ว่าเรื่องความรักเป็นยังไงบ้างน่ะ” ดาวทำท่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“ว้าว ไม่คิดว่าคำทำนายจะออกมาดีอย่างนี้ อีกไม่นานสินะ เนื้อคู่ของฉันที่รอมาเนิ่นนาน” ดาวลากเสียงยาว
“แกลองดูบ้างสิ ว่าเรื่องความรักของแกเป็นยังไง เนื้อคู่แกนั้นเป็นไง” ดาวหันไปถามพุดซ้อนพร้อมยักคิ้วให้ข้างหนึ่ง จากที่ดูสีหน้าของเพื่อนรักนั้นไม่ค่อยยักจะดูเท่าไหร่
ดาวเลยจับพุดซ้อนนั่งเก้าอี้ตรงหน้าแม่หมอ พุดซ้อนถอนหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง เมื่อพูดถึงความรักหรือเรื่องเนื้อคู่นั้น ทำให้พุดซ้อนคิดถึงผู้ชายคนหนึ่ง นั่นคือผู้ชายที่อยู่ในฝันของเธอ ในใจเธอคิดว่าผู้ชายคนในฝันของเธอนั้นเป็นใคร ทำไมเธอต้องฝันถึงเขาคนนั้นทุกวัน หลังจากนั้นเธอทำสมาธิตามที่แม่หมอบอกก่อนเปิดไพ่ทาโร่ขึ้นมา หลังจากฟังคำทำนาย ทำเอาดาวนั้นหัวเราะไม่หยุด!
“เนื้อคู่ของคุณนั้นตอนนี้เขายังไม่ได้ถือกำเนิดเกิดมา หรืออยู่ที่ไกลแสนไกล ยากที่จะพบ” แม่หมอพูดจบ ก็มีเสียงกลั้นขำจนหัวเราะออกมาลั่น
“ยัยดาว แกจะขำอะไรขนาดนั้น” พุดซ้อนตีเพื่อนเบาๆ
“ก็ฉันขำนี่ เนื้อคู่ขอแกยังไม่เกิดเลย ฉันแค่คิดว่าเนื้อคู่ของแกกว่าจะเกิด แกก็ไม่แก่ไปก่อนหรอ” ดาวพูดพร้อมอมยิ้มให้ พุดซ้อนหลังจากฟังดาวพูดจบ เธอก็หันไปเปิดไพ่ทาโร่อีกใบหนึ่ง
“หากได้พบเขาคนนั้น ก็ต้องแลกกับการพัดพรากจากคนที่คุณรัก คนเรานั้นไม่อาจฝืนชะตาฟ้าลิขิตได้” หลังจากแม่หมอพูดจบทำเอาทั้งสองนั้นนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“คือเพื่อนของดาวต้องมีแฟนก่อนแล้วต้องเลิกกัน ก่อนที่ไปพบกับเนื้อคู่บุพเพสันนิวาสงั้นหรอคะ” ดาวถามแม่หมอด้วยความงุนงงสงสัยกับสิ่งที่แม่หมอได้ทำนาย แต่กลับได้คำตอบที่ว่า คนเราไม่อาจฝืนชะตาฟ้าลิขิตได้ พร้อมส่งรอยยิ้มอ่อนให้กับทั้งสองสาว
“ดูดวงสองคน ทั้งหมดเท่าไหร่คะ” ดาวถามแม่หมอที่อยู่ตรงหน้าเธอ
“ข้าไม่คิดเงินเอ็งสองคนหรอก ข้าดูให้พวกเอ็งสองคนฟรีๆ” เมื่อแม่หมอพูดจบ ทั้งสองสาวก็ขอบคุณแม่หมอแล้วเดินไปที่รถเพื่อจะกลับบ้าน
“เอ้า! ยัยพุด แล้วยัยดาวไม่ได้กลับมาด้วยหรอ” แม่ของพุดซ้อนถามเมื่อไม่เห็นเพื่อนของเธอนั้นกลับมาด้วย
“พุดส่งดาวที่บ้านแล้วค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ยัยดาวก็คงมาเอาของกลับบ้านน่ะค่ะ”
“เป็นไงบ้างหลาน ไปเที่ยวมาสนุกมั้ย” คุณยายของพุดซ้อนถามหลานของตน พุดซ้อนเลยเดินไปหาคุณยายของตนที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าทีวี เธอนั่งลงบนพื้นตรงหน้าคุณยาย
“สนุกมากค่ะ คนเยอะมากของกินก็อร่อย โชว์ต่าง ๆ ก็น่าตื่นตาตื่นใจมากเลยค่ะ พุดซื้อของมาฝากยายและแม่ด้วยนะคะ”
“แล้วไหนล่ะของฝาก เห็นเดินเข้ามาตัวเปล่า” แม่พุดซ้อนพูดเชิงหยอกล้อลูกของตนเล่น
“พี่เจียกกำลังถือเข้ามาอยู่ค่ะ” พุดซ้อนชี้มือไปทางประตู
“ขอบใจหลานมากนะ” คุณยายพูดพลางลูบหัวของพุดซ้อน
“นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณยายพักผ่อนได้แล้วนะคะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
พุดซ้อนพูดจบก็พาคุณยายเข้านอน หลังจากนั้นเธอก็ขึ้นห้องนอน เมื่ออาบน้ำเสร็จก็มานั่งหวีผมหน้าโต๊ะเครื่องแป้งพลางคิดถึงคำทำนายของแม่หมอ ทำให้เธอรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก พุดซ้อนได้แค่บอกตัวเองว่านั่นแค่คำทำนายอย่าไปกังวลอะไรเลย
คืนนี้พุดซ้อนฝันไม่เหมือนคืนก่อนๆ ที่ผ่านมา เธอฝันว่าตนเองอยู่ในเรือลำหนึ่งกำลังไปไหนสักแห่ง ซึ่งข้างหน้าก็มีเรืออีกลำ คนที่อยู่บนเรือลำข้างหน้าต่างแต่งตัวด้วยชุดไทยคล้ายกับผู้ดีในสมัยโบราณ หลังจากนั้นได้ยินเสียงบ่าวไพร่ที่อยู่เรือลำเดียวกับเธอพูดว่าเรือเป็นอะไรทำไมโครงเครงเช่นนี้ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบลง พุดซ้อนสะดุ้งตื่น เธอหายใจถี่ มีเหงื่อออกเต็มทั่วใบหน้า เธอตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฝัน พุดซ้อนเอนตัวลงนอน เธอคิดว่านี้มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวของเธอ ความฝันแปลกๆ คำทำนายแปลกๆ ที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นเพราะอะไรเธอถึงตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ จากที่พุดซ้อนครุ่นคิดอยู่นั้นทำให้เธอเผลอหลับไป
“พุดลูก พุด ตื่นได้แล้วลูกสายแล้ว” แม่ของพุดซ้อนมาเคาะประตูเรียกลูกของตน
“พุดของีบอีกสักพักนะคะแม่” พุดซ้อนตอบกลับด้วยเสียงที่งัวเงีย
“ดาวมาหาลูก เห็นบอกว่ามีนัดจะไปไหนกันน่ะ”
พุดซ้อนรีบเด้งตัวออกจากที่นอนแล้วส่งเสียงบอกแม่ของตนให้ทราบว่าตนเองได้รับรู้แล้ว เธอจึงรีบทำธุระต่าง ๆ จนเสร็จสรรพ แล้วรีบลงมาข้างล่าง
“แหม” ดาวลากเสียงยาว
“พุด ไม่ทันไรแกก็ลืมนัดแล้วนะ” ดาวพูดขณะเห็นพุดซ้อนเดินลงจากบันได
“พุดมากินข้าวก่อนลูก” แม่ของพุดซ้อนเรียกพุดซ้อนให้มาทานข้าว
“แหม แกก็เหมือนกันนะดาว มาแต่เช้า จะมากินข้าวฝีมือแม่ฉันอ่ะดิ” พุดซ้อนพูดหยอกล้อเพื่อนสนิทของเธอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แล้วยักคิ้วให้
“วันนี้จะไปไหนกันล่ะยัยสองแสบ” แม่พุดซ้อนถามขึ้นขณะตักข้าวให้สองสาวตัวแสบประจำบ้าน
“คือว่าพุดจะไปวัดพนัญเชิงน่ะค่ะ แล้วจะแวะไปหาน้าพรด้วยค่ะ” พุดซ้อนพร้อมยิ้มอ่อนๆให้กับแม่ของตน
“งั้นก็ขับรถกันดีๆล่ะ”
หลังจากพุดซ้อนและดาวกินข้าวเสร็จ ทั้งสองก็ขอตัวไปวัดพนัญเชิง เมื่อทั้งสองมาถึงวัดพนัญเชิงทั้งสองคนก็เข้าไปไหว้พระ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา และเดินชมวัดจนกระทั่งถึงเวลาใกล้เที่ยง ทั้งสองก็กำลังจะเดินไปที่รถ ขณะเดินนั้นมีพระรูปหนึ่งดูมีอายุเดินมาทัก
“ช่วงนี้โยมระวังเรื่องน้ำไว้หนา” ทำเอาพุดซ้อนและดาวหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แต่พระรูปนั้นไม่ได้ระบุว่าเป็นใครแล้วเดินจากไปไม่ได้พูดอะไรต่อ ทั้งสองมองหน้ากันทำท่ามึนงง แล้วจึงเดินกลับรถ
“พระท่านหมายถึงใครอ่ะแก” ดาวพูดเริ่มเปิดประเด็นก่อน
“ฉันก็ไม่รู้ อาจจะพูดถึงแกก็ได้ ปีนี้แกชงไม่ใช่หรอ”
“ก็จริง ดีนะพระท่านทัก พรุ่งนี้ต้องเริ่มสายทำบุญแล้วล่ะ”
“ก็คงไม่พ้นฉันสินะที่ต้องพาแกไป” พุดซ้อนพูดเสริมเพื่อนของตน ทำเอาดาวยิ้มหน้าเจื่อน
เมื่อมาถึงบ้านน้าพร ก็มีน้าพิมพ์น้องสาวของหน้าพรมารอรับที่หน้าบ้าน พุดซ้อนและดาวพูดทักทายน้าสาวของตนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะน้าพิมพ์” ทั้งสองพูดพร้อมกันและยกมือไหว้
“สวัสดีดีจะ ไม่ได้เจอกันนานโตเป็นสาวสวยกันแล้วนะเนี่ย” น้าพิมพ์พูดทำเอาทั้งสองยิ้มแป้น
“แล้วน้าพรอยู่ไหนหรอคะ”
“อ้อ น้าพรอยู่ท่าน้ำหลังบ้านนั่งเฝ้าเจ้าสองแสบเล่นน้ำอยู่น่ะ”
หลังจากนั้นน้าพิมพ์จึงพาทั้งสองไปที่หลังบ้านเพื่อไปหาพี่สาวของตน ยังไม่ทันที่จะเดินถึงท่าน้ำหลังบ้าน ทั้งสามคนได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือมาจากท่าน้ำหลังบ้าน ทำเอาพุดซ้อนรีบวิ่งสาวเท้าอย่างไว…
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!