NovelToon NovelToon

สตรีอัปโชค

บทนำ

"เด็กบ้า แกทำทุกให้ทุกอย่างพังไปหมด"

"ท่านแม่อย่า ข้าเจ็บ ท่านแม่"เสียงเด็กน้อยร้องขอผู้เป็นมารดา 

"หุบปาก"นางจับร่างบุตรชายทุบตีจนช้ำบวม ก่อนมีเสียงใครบางคนเอ่ยเข้ามา 

"โถๆ ทุบตีเด็กเช่นนี้หรือ อดีตฮูหยินซื่อ"น้ำเสียงแดกดัน คนด้านในออกมาสภาพร่างกายไม่ต่างอะไรไปจากศพเลย มองนางอย่างรังเกียจ

"เหอะ นึกว่าใครฮูหยินรองเฟยเองหรือ"

"ข้าเป็นฮูหยินเอกของจวนแล้ว มาเอ่ยเช่นนี้กับข้าไม่งั้น"นางหาได้เกรงกลัว สตรีตรงหน้าอีกแล้ว ตอนสตรีตรงหน้าเป็นฮูหยินเอก นางทนโดนสตรีผู้นี้ดูถูก เหยียดหยาบมามากพอแล้ว จากนี้ขอเอาคืนบ้างจะเป็นไรไป

"ไม่งั้นอะไรเล่า จะไปเลียขาสามีข้าหรือ เชิญ"ซื่อเหมียวยิ้มเยาะก่อนเดินไปตรงหน้าของฮูหยิน 

"คิดว่าท่านพี่จะรักใครมากกว่ากันเล่า อดีตฮูหยินที่มีลูกกับสามีเก่า และมาอ้างว่าเป็นบุตรชายของท่านพี่ ช่างไม่มีจิตสำนึกเสีย.."เสียงกรี้ดร้องของฮูหยินเมื่อถูก ซื่อเหมี่ยวกระชากผม นางไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว หลังจากที่ถูกสามีปลดจากตำแหน่ง ไหนบอกรักนางนักหนา จะไม่ให้มีเรื่องมาทำร้ายความรักของสองเรา แค่นางมีลูกกับผัวเก่าก็ปลดมาเป็นสาวข้างห้อง คราแรกก็ให้เหตุผลว่า มันเสื่อมเสียวงตระกูล นางยอมรับ และรอเขามาหาทุกคืน จนผ่านมาเป็นปีก็ไม่เคยเห็นหัวสามีมาเหยียบห้องของนางอีก นางทนไม่ไหวแล้ว ตายเป็นตายยังไงอีกไม่ช้านางก็จะสิ้นอยู่แล้ว 

"ช่วยฮูหยินเร็วเข้า"เสียงคนใช้ต่างเอ่ย พร้อมรีบไปดึงตัวทั้งสองออก จื่อลูที่เห็นว่ามารดาถูกทำร้าย จึงเข้าไปห้าม แต่ก็ถูกถีบออกมา เด็กชายทั้งเจ็บทั้งจุก จนสุดท้ายมีบ่าวใช้มาห้ามและลากตัวซื่อเหมียวไป

"กล้าดียังไงมาตบหน้าภรรยาข้า"เสียงดุดันของคุณชายจินเกอที่ผู้คนต่างหวาดกลัว แต่สำหรับซื่อเหมียว

"ข้าก็เมียท่านพี่นะเจ้าคะ"นางโมโห และเสียใจ น้ำตาของหาได้ทำให้คนตรงหน้ารู้สึกสงสารเลยสักนิด นางเอื้อมมือไปเกาะขาสามี แต่ถูกสะบัดออก ผู้คนโดยรอบต่างหัวเราะเยาะ

"เมียหรือ บอกข้าว่าไม่มีใคร แต่ดันมีบุตรและแอบอ้างว่าเป็นลูกข้าอีก จงลี่"

"อย่าทำอะไรท่านแม่นะ"เด็กน้อย รีบมาบังร่างของมารดา แต่ก็ถูกคนใช้จับตัวไว้ และเหล่าบุรุษคนหนึ่งถือแส้มา จากนั้นฟาดลงบนหลังสตรี นางพยายามคลานหนี แต่ก็ถูกจับแขนสองข้างตีอยู่อย่างนั้น เสียงกรี๊ดร้องโหยหวนดังลั่นทั่วจวน พอตีไปสักพักเสียงก็เงียบลงท่ามกลางผู้คนมากมาย 

"หยุด พาตัวไปไว้ที่ห้องซะ"จินเกอที่นั่งดูท่าว่านางจะสลบไปแล้ว จึงสั่งคนใช้พาตัวไป เขาลุกขึ้น และกำลังเดินกลับห้อง แต่มีเสียงตื่นตกใจของบ่าวที่เดินไปพยุง

"นางตายแล้วขอรับ นายท่าน"เสียงสั่นเครือเอ่ยอย่างหวาดกลัว ตนที่เป็นคนฟาดนาง แรงตอนที่เสียงนางร้องดังมาก นึกรำคาญจึงลงแส้เพื่อให้สลบ แต่นึกไม่ถึงว่าจะสิ้นใจ

จินเกอสีหน้าตกใจก่อนเอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า นำศพไปฝัง 

นางตายแล้วอย่างไร นางเป็นเพียงสตรีไร้ค่า ไม่ญาติมิตรอยู่แล้ว ตายไปก็ไม่มีคนมาสนใจหรอก ต่างจากฮูหยิน และเหล่าอนุที่สีหน้ากังวล และตกใจ กลัวนางเป็นผีแล้วมาหลอกจะทำอย่างไรดี 

...

เสียงแมลงร้องทั่วป่าในยามดึก ฝีเท้าของบุรุษสองคนกับเด็กน้อยที่เดินเข้ามาหยุดอยู่กลางป่า เด็กชายร่ำไห้ จนบ่าวสองคนนึกรำคาญ ขู่บอกหากไม่หยุดตนจะฝังเขาลงกับมารดา จื่อลูกทำได้เพียงปิดปากตนเองไม่ให้ส่งเสียง 

ทั้งสองคนขุดดินอยู่นานพอที่จะฝังร่างศพ 

"ไปอุ้มศพมา"ชายร่างบาง สั่งบ่าวอีกคนที่ดูอวบอ้วน ให้ไปเอาศพ จื่อลูที่มองดูร่างไร้วิญญาณของมารดาสะอึกสะอื้น ชายอ้วนรำคาญจึงถีบร่างเด็กออกไป และมาก้นมองร่างตรงหน้า

"อาเจีย ข้าว่ารูปร่างนางก็ดี ไม่น่าตายเลย"คนที่ขึ้นชื่อว่าอาเจียเดินมาหยุดมองเหมือนกัน พอมีแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาเห็นร่างที่ยังดูดี 

"หากฝังไปคงน่าเสียดาย เจ้าว่าหรือไม่"

"อาเจียว่าคิดท่านนี่ช่าง.."เขาเลียรินฝีปาก"ถูกใจข้านัก" 

ทั้งสองเปลือกผ้าห่อร่างซื่อเหมียว ที่ดูยังไงยังคงมีชีวิต แถมผิวไม่ซีคเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับคนปกติ แต่ที่ว่านางตายแล้วนั่นคือเรื่องจริง เพราะดวงตานางไม่ปิด และตรวจชีพจรแล้ว ยืนยันว่านางตาย

"อย่ามาจับร่างกายแม่ข้า"จื่นลูรีบวิ่งมาดึงแขนชายร่างอ้วน ไว้ แต่ยังไงเด็กก็คือเด็ก ถูกผลัดออก แต่จื่นลูหาได้ยอม เข้าไปกัดแขนของอาเจียที่กำลัง ถอดชุดมารดา

"ไอ้เด็กบ้า"ก่อนอาเจียจะลุกขึ้นมา ปล่อยให้สหายตนเล่นกับศพรอเขา "ข้าจะฝังเจ้าก่อน คนแรก" เสียบที่ถือมาด้วยนั้นไล่สับเด็กน้อย แต่ไม่รู้เลยว่าทางด้านสหายนั้นเจออะไร 

"อ้ากก ผี!"เสียงร้องของสหาย ทำให้อาเจียต้องชะงัก หันไปเห็นร่างหญิงสาวลุกขึ้นนั่ง 

"อย่า...ทำอะไรพวกข้า หนีเร็วเข้า"สิ้นเสียงร้องขอชีวิต คนทั้งสองรีบวิ่งออกมา ปล่อยจื่อลูไว้ นางลุกขึ้นได้อย่างไร พวกเขาจำได้แม่นว่านางตายแล้วจริงๆ 

เสียงแมลงปกคลุมความเงียบ มีเพียงเสียงฝีเท้าน้อยๆของเด็กชาย เดินเข้าหาร่างมารดาที่กำลังสำรวจร่ายตนเอง ดูสับสนอะไรบางอย่าง

"ท่านแม่"แม้จะกลัว แต่ก็ยังเดินเข้าไปหาคนที่ชื่อว่าเป็นแม่

"แม่หรือ ข้าเป็นมารดาเจ้าหรือ"พอได้ยินคนนั้นออกมาจากสตรีตรงหน้า น้ำตาของเขาก็ไหล ตอนแรกดีใจที่มารดาฟื้นขึ้น แต่พอได้ยินเสียงที่เอ่ยออกมาเหมือนไม่รู้จัก ยิ่งบีบหัวใจดวงน้อยๆของจื่อลู

"ท่านทุบตีข้าเท่าใหร่ก็ได้ แต่อยากเอ่ยว่าข้าไม่ใช่ลูกท่านได้หรือไม่ขอรับ"เสียงสั่นเครือที่ดูหน้าสงสาร

"ได้ ข้า..แม่จะไม่เอ่ยเช่นนั้นอย่างร้องไห้เลย"พอได้ยินเสียงเด็กร้องอย่างนั้นซื่อเหมียวใจอ่อนลงทันที นางไม่รู้ว่าตนเองอยู่กลางป่าได้อย่างไร จำได้ว่าตนที่ตกน้ำ และเห็นร่างสามีที่โดดลงมาช่วย แต่ตื่นมาอยู่ในความมืดตอนนี้

"แม่จำไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ช่วยบอกมารดาได้หรือไม่" เด็กน้อยพยักหน้า และบอกว่าตนชื่อ จื่อลู เป็นลูกชายของนาง และเล่าเรื่องเมื่อกลางวันว่านางถูกตีจนตาย และกำลังจะฝัง

พอได้ยินเช่นนั้น นางนึกสงสารร่างนี้จำใจ และตั้งมั่นว่าจะดูและจื่อลูให้ดี แทนท่านแม่จริงๆของจื่อลู

"เจ้าเก่งมากที่อยู่รอดมาถึงวันนี้ ต่อจากนี้ แม่สัญญาว่าจะดูแลเจ้าอย่างดี เชื่อแม่หรือไม่"

"ขะ..ขอรับ"เด็กน้อยเชื่อฟังมารดา น้ำเสียงอ่อนโยนและท่าทางที่นางแสดงออกทำให้เด็กน้อยดีใจ 

จนฟ้าเริ่มสว่างนางพาบุตรชายเดินผ่านป่ามาเรื่อยๆ พอได้ยินเสียงน้ำไหล นางจึงรีบเดินไปหาแม่น้ำที่ติดกับถนน นางไม่รีรอ พาบุตรชายมาชำระร่างกาย พอได้เห็นรอยแผลบนตัวจื่อลู นางแทบไม่เชื่อสายตา 

"รอยนี้"

"..." 

"แม่ตีเจ้าใช่หรือไม่" นางมองดวงหน้าของเด็กชายที่ก้มหน้าลงต่ำ นางไม่ต้องให้ลูกเอ่บบอก เพราะรอยหยิกจนช่ำ และรอยแดงนี่ด้วย หากไม่ใช่มารดาจักมีใครอีกเล่า 

แต่มีบางสิ่งที่จะให้นางตกใจมากกว่านี้ เงาสะท้อนเป็นนางเอง หาใช่ร่างของสตรีใครอื่น "ข้า...ไม่สิ ที่สำคัญแม่ตีเจ้าหรือ"เสียงสั่นเครือของนางที่เอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัว และน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม 

"ท่านแม่ ข้าไม่เจ็บ อย่าร้องไห้เลยขอรับ"บุตรชายเอ่ยแม่ปลอบนาง พอมองดีๆแล้ว เด็กคนนี้เหมือนเขามาก เหมือนจนนึกว่าเป็นเขาตอนเด็กเลยก็ได้ นี่ใช่นางจริงหรือ ที่ทำให้ลูกตนเองต้องตกในสภาพนี้ หากเป็นเช่นนั้น ปล่อยให้นางตายไปไม่ดีกว่าหรือ 

"แม่ขอโทษ" นางกล่าวพร้อมโอบกอดร่างเล็กตรงหน้า ยิ่งกว่าเจ็บปวดที่นางได้รับคือ เด็กคนนี้ต้องทนความเจ็บปวดมามากเพียงใดกัน แม้จะโดนขนาดนี้ ยังคงรักมารดามากเช่นนี้ได้

หญิงสาวพยายามควบคุมนึกทบทวนตนเองให้มาก ตอนนี้นางตายไม่ได้เพราะหนึ่งชีวิตที่ยังต้องพึ่งนาง ต้องพาลูกชายของตนเองกลับไปหาเขาเสียก่อน

พาลูกกลับหมู่บ้านอู่

ซื่อเหมี่ยวที่ให้คำมั่นกับลูกว่าหลังจากนี้ ตนจะเป็นแม่ที่ดี วินาทีที่เห็นหน้าตนเองในแม่น้ำ นางไม่ได้ตายแต่วิญญาณนางถูกทำให้หลับหรือที่จริงนางมาจากอดีต ถ้านางมาจากอดีตจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ สามีเองก็รักเขาจนสุดหัวใจ(แม้จะรักอยู่ฝ่ายเดียว) ไม่มีวันที่นางจะนอกกาย แม้แต่ทำร้ายลูกเป็นแน่ หากจะเป็นข้อหนึ่ง สามปีนี้นางถูกวิญญาณอื่นเข้าสิง แต่ทำไมนางถึงไม่รู้อะไรเลย ซื่อเหมี่ยวได้แค่คิดอยู่ในใจ 

นางได้ตัดสินใจทันทีกลับหมู่บ้านอู่ บ้านเกิดสามี ขอแค่กลับไปเจอหน้าเขาอีกครั้ง ถึงเวลานั้นเขาจะผลักใสไล่ส่งยังไงก็เชิญ ถ้านางหนีเขามาคงแค้นนางมาก อุตส่าห์ได้แต่งงานกับคนที่รัก ถึงฐานะไม่ร่ำรวย แต่ก็อยู่กันด้วยความสุข และที่สำคัญทำไมนางต้องมารับกรรมแทนวิญญาณนังนั้นด้วย วิญญาณที่ทำร้ายชีวิตนาง ไม่รู้เลยว่าตนกลับไปจะได้อยู่ที่ใด ขอเพียงออกให้ห่างจากที่นี่ นางเดินตามถนนไปเรื่อยๆ ไม่นานก็มีคนรถม้าผ่านมา เลยขอติดรถ แม้เส้นทางที่ไปไม่ใช่หมู่บ้านอู่ เส้นทางข้างหน้าค่อยว่ากัน 

นางมองร่างเด็กน้อยที่ยังมองมาที่นางอย่างแปลกใจ นำมือไปลูบที่ผมบุตรชาย ใบหน้าที่นั้นช่างเหมือนเขาไม่มีผิด 

"นอนที่ตักแม่ได้นะ "ซื่อเหมี่ยวเอ่ยอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นเด็กชายง่วงคอตกไปหลายครา  

มารดานั้นเปลี่ยนไปเด็กชายเลยไม่รู้จะทำตัวอย่างไร นิ่งไปสักพัก จนนางคิดว่าเด็กคงกลัว เป็นใครใครก็กลัว หากอยู่ๆ คนที่ทำร้ายมาตลอด ทำดีด้วย นางจะพยายามต่อไป แต่จู่ๆหย่งหล่อก็มานอนตัก ทำให้นางตกใจและดีใจ น้ำตาเองพยายามไม่ให้ไหล นางยิ้มน้อยๆ มองลูกที่หลับอยู่ นำผ้ามาห่มให้ ก่อนจะมองออกไปด้านหน้า

......

เมืองลี่เจียง

"นางหนู จากนี้จะไปไหนต่อหรือ"หลังจากลงรถม้า ตาเฒ่านั้นก็ถามอีกรอบ 

"หมู่บ้านอู่เจ้าค่ะ"

"คราแรก ข้าฟังเป็นหลัวถังที่เจ้าจะไป ตายๆไปที่นั้นไม่ได้"ตาเฒ่าเอ่ยจริงจัง "ที่นั้นตอนนี้มีแต่ทหาร สตรีมิอาจเข้าไปได้ "ตาเฒ่าเอ่ยต่ออีกว่า ตอนนี้เมืองอู่นั้น เป็นค่ายทหารไปแล้ว สามปีก่อนถูกศัตรูเข้ามาโจมตีเพื่อประกาศสงคราม ชาวบ้านล้มตายไป หากมีคนรอด ยากนักจากเหตุการณ์นั้น พอนางได้ยินก็อึ่งไป และแปลกใจทำไมนางถึงรอดกัน ตาเฒ่าที่เห็นสภาพทั้งสองก็ถอนหายใจ"สองคนแม่ลูก จะไปที่หมู่บ้านอู่ทำไมหรือ"

"ข้าแม่ลูก..เอ่อ รอดจากเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน กำลังจะกลับไปอีกครั้งเจ้าค่ะ หากต่อจากนี้คงไม่มีที่ให้ไปแล้ว "นางโกหกไป ก่อนกอดลูกไว้ ตาเฒ่าเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจ ตัดสินใจให้ทั้งสองไปพักกับตน บอกว่าตนอาศัยอยู่คนเดียว ภรรยาก็จากไปปีที่แล้ว และไม่ค่อยได้อยู่บ้านสักเท่าไหร่ หากนางจะมาอยู่กับเขาก็ย่อมได้ นางที่ได้ยินก็ดีใจ

พอมาถึงก็ใกล้เย็นแล้ว ตาเฒ่าเลยแนะนำตัวว่าตนชื่อ โจวเฟิง ก่อนที่นางจะแนะนำตัวกลับไป 

"เจ้าทั้งสองไปนอนที่ห้องนั้นละกัน บ้านข้าอาจจะเล็กไปหน่อยนะ "ตาเฒ่าเอ่ยอย่างอารมณ์ขัน ซื่อเหมี่ยวยิ้มน้อยๆให้ 

ต่อจากนี้ตนต้องเริ่มชีวิตใหม่ที่นี้ ส่วนสามีนางนั้นจะรอดหรือเปล่านะ หากไม่รอดล่ะ นางที่กำลังเหม่อลอย ก่อนมือเล็กๆมาบีบมือนางให้ได้สติ นางหันไปมองบุตรชายพอยิ้มบางๆ พอได้เห็นสีหน้าเด็กชายนางจึงได้สติ ตั้งมั่นว่าจะอยู่เพื่อลูก โจวเฟิงที่เห็นทั้งสองดูรักใคร่กันเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถาม หลังจากที่เข้านำรถไปจอดไว้แล้ว

"แล้วสามีเจ้าเล่า ทำไมถึงมากันแค่สองคน"

"สามีข้า หลังจากสามปีก่อน พวกเราก็ไม่ได้เจอกันเลยเจ้าค่ะ "นางเอ่ยเสียงเศร้า ชายชราก็เข้าใจในทันที ตาเฒ่านั้นก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

มาทางด้านของคุณชายจินเกอที่ตอนได้รับข่าวว่า ซื่อเหมี่ยว ยังไม่ตายหลังจากที่บ่าวไปตรวจดูกลางป่าในตอนเช้า ไม่เห็นคนทั้งสอง คุณชายเพียงรับฟังแค่นั้น หลังจากคำสัญญาที่ให้ไว้ก็ตัดขาดแล้ว เขาตอบแทนบุญคุณให้นางเพียงเท่านี้ เรื่องสามปีก่อน ที่นางพยายามเข้าหา เขาไม่รู้อะไรเลย จนเหตุที่กองกำลังฝ่ายศัตรูได้เข้าทำร้าย ฆ่าผู้คนนั้น นางขอร้องให้พามาด้วย และมีผู้ชายคนหนึ่งที่วิ่งตามมาด้านหลัง เขาไม่รู้เลยว่านั้นคือสามีนาง จนมาถึงตอนนี้ความจริงเปิดเผย เขาโง่เองที่เชื่อนาง มีสามีอยู่กับมาหลอกเขา แถมว่าเด็กนั้นเป็นลูกเขาอีก

"คุณชายขอรับ มีคนขอพบขอรับ.อ้าก"บ่าวเอ่ยจบ ยังที่คุณชายจะได้ลุก เสียงกระแทกประตูเปิดออก พร้อมกับบุรุษผู้หนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาล ผมดำเงายาวสลวย 

"ลูกข้าอยู่ไหน"เขาเอ่ยเสียงดัง และชี้ดาบมาทางจินเกอ ตอนนี้ตัวสั่นไม่หยุด

.....

"ทั้งสองคนทานข้าวเสียก่อน "ตาเฒ่าเอ่ยก่อนจะยกอาหารมาให้  

"ขอบคุณท่านตามากๆ เจ้าค่ะให้ที่อยู่กับเราแม่ลูก"นางเอ่ยขอบคุณ โค้งตัวเล็กน้อย ก่อนมือของตาเฒ่านั้นจะมาจับที่มือบางไปกุม นางสะดุ้งแต่ก็ให้ตาเฒ่านั้นจับ ยังไงซะท่านตาก็แก่มาก คงทำอะไรไม่รู้ตัว หย่งเล่อเห็นเช่นนั้นก็พยายามมองที่แม่ตน แปลกใจแม่มักไม่ชอบใจเวลา บ่าวรับใช้แก่ๆหรือคนแก่มาจับก็มักจะด่า ไม่ชอบให้มาใกล้ พอวันนี้กลับ.. 

"เอ่อ..ท่านแม่ขอรับ"เด็กชายเรียกแม่ให้ทันมาสนใจ เทน้ำให้มารดา ก่อนวิ่งไปหาตาเฒ่าเพื่อขอบคุณและนั่งคั่นกลางระหว่างคนทั้งสอง สีหน้าของเขาแสดงออกมาว่าไม่พอใจอย่างชัดเจน 

นางได้ชุดของภรรยาของตาเฒ่ามาใส่ ชุดสีขาวแม้จะหลวมมากไปหน่อยแต่ก็ใส่ได้ นางจับผมที่ฟูและม้วนกันเป็นเกลียว   หยิบกรรไกร ก่อนจะส่องกระจกแตกตรงกลาง คืนนี้ยังเป็นที่วันที่แสงจันทร์ส่องสว่าง แสงเทียนทำให้พอได้เห็นดวงหน้า เด็กชายที่นอนหลับไปแล้ว ตาเฒ่าเองก็ไปนอนอีกห้อง นางจึงใช้โอกาสจัดแจงตนเองใหม่ 

ซื่อเหมี่ยวรวบผม และตัดตรงปลายที่หวีไปไม่ได้ ตัดเหลือเพียงแค่หลังตรงอก นางมองใบหน้าตนที่ตอนนี้ความสาวของวัยที่ยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ใบหน้านั้นหมองคล้ำ ผิวเองที่ไม่ได้ดูแล อยากรู้เสียจริงว่าใครกันมาเข้าร่าง 

ตอนนี้นางคิดแค่เพียงจากนี้จะไปไหนต่อ หากกลับบ้านเกิดก็ใช้เวลาหลายวัน เงินก็ไม่มี สามีเองก็ไม่รู้อยู่หรือตายไปแล้ว ความรู้สึกที่นางไม่เคยได้รับ ต้องมารับกรรมแทนผู้อื่น ช่างไม่ยุติธรรมนัก นางจึงร่ำไห้อยู่คนเดียว

"อึก.."นางพยายามกั้นเสียงไว้เพื่อไม่ให้ลูกตื่นก่อนจะออกไปข้างนอก เวลาตอนนี้ดึกมากแล้ว ทั้งเงียบสงบ นางเดินไปนั่งที่ไม้เตี้ยๆข้างกองไฟจุดไล่ยุงให้สัตว์ในคอก นางร้องไห้เบาๆ กับทุกอย่างนาง อายุแค่สิบห้าปี แต่งงานแค่สองเดือนเอง คิดถึงเวลาเก่าๆ วันที่นางเริ่มเห็นเขายิ้มมาให้ เพียงสองวันก่อน มันคืิครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มนั้น

"ข้าอยากกลับไปหาท่านพี่ อึก.."นางเอ่ยเบาๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักนาง แต่เขาซื่อสัตย์ดูแลนางมาอย่างดี ประโยคนึงที่นางจำขึ้นใจ และถึงเขาจะไม่รักแต่นางเต็มใจอยู่ด้วยคือ'แม้ตอนนี้ข้าไม่ได้รักเจ้า ขอสัญญาเพียงว่าจะไม่ทิ้งเจ้าไปไหน' คำนี้คือตอนที่เขามาสู่ขอ เพราะท่านย่าเขานั้นเลือกคู่แต่งงานให้ นางเองเชื่อคำนั้นเลย ให้เขาทุกอย่าง 

ตอนนี้เล่า นางถูกวิญญาณที่ไหนไม่รู้ สิงเข้ามาทำร้ายความสุข ทิ้งเขาหนีมาแต่งกับคุณชายที่ไหน หักหลังสามีไม่พอ ทำร้ายลูกนางด้วย ชีวิตนางล่มจมเกินไป

นางร้องไห้จนพอ ได้สติกลับมาพยายามไม่นึกถึงมันให้ได้ ไม่สามารถกลับไปหา มีเพียงปกป้องลูกนางให้รอด

แต่นางหารู้ไหมว่ามีใครบางคนมาด้านหลัง

ซื่อเหมี่ยวที่นั่งอยู่นั้น ก็ถูกมือปริศนาปิดปาก ก่อนจะลากไปที่ห้องเก็บฟืน ถึงแม้มันจะค่ำ แสงจันทร์ก็สาดส่องลงมา เป็นตาเฒ่าเจ้าบ้าน นางถูกผ้าที่มีกลิ่นสมุนไพรบางอย่าง พอสูดดมเข้าไป นางเริ่มหมดแรงไม่มีกำลังผลักตาเฒ่านั้นที่วางนางลงกับผ้าบาง ก่อนจะทับร่าง จับมือที่ไร้เรี่ยวแรงของสตรีใต้ร่างไว้

"ท่านตา ท่านจะทำอะไรปล่อยข้าเถอะ"นางพยายามเอ่ยขอร้องตาเฒ่า 

"แม่หม้ายเช่นเจ้า ข้าเองก็เป็นพ่อหม้าย เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ พรมลิขิตพาให้เรามาเจอกันอย่างไรเล่า"เสียงตาเฒ่าเอ่ย น้ำลายที่ไหลลงมาถูกชุดนาง ซื่อเหมี่ยวเพียงแค่มองก็หวาดกลัวถึงที่สุด นางไม่ได้อยากมีสามีคนที่สาม นางเริ่มร้องไห้ออกมา ก่อนจะตะโกนสุดเสียงร้องให้คนช่วย หากแต่ไม่มีใครเลย มีเพียงเสียงฝีเท้าเล็กๆที่วิ่งออกมาจากด้านในจวน 

"ปล่อยท่านแม่ข้า ไอ้ตาเฒ่าใจร้าย..."ไม่ทันที่ตาเฒ่าจะปิดปากนาง หินที่ถูกจื่อลูปาใส่หัว 'เด็กนี่หูไวเสียจริง'เอ่ยในใจ

ตาเฒ่ารีบเดินถือเคียว เดินไปหาเด็ก เด็กน้อยถอยหลัง กระแทกกับไม้ที่กั้นม้า ภาพตรงหน้าที่มีคนถือของมีคมมาเตรียนฟันคอน้อย

"อย่าทำอะไรลูกข้า ข้ายอมทุกอย่างอย่า!"เสียงซื่อเหมี่ยวพยายามขอร้อง ให้ตาเฒ่านั้นยอมปล่อยลูกนางไป

" ข้าสัญญาว่าจะดูและเจ้าอย่างนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า"เสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี จื่อลูตัวสั่นด้วยความกลัว แต่พอหันไปมองมารดาที่ด้านหลัง ตะโกนขอร้องอยู่ วินาทีที่เคียวกำลับจะตัดคอเด็กนั้น ดาบยาวเล่มหนึ่งก็ตัดคอของตาเฒ่าหื่นกาม จนขาดสะบั้น เลือดไหลออกมาเป็นน้ำพุที่คอของเขา จื่อลูที่เห็นร่างชายแก่ล้มลงข้าง จื่อลูขาสั่งยืนไม่ไหว ก็จะมีมือหนามาจับที่แก้มพร้อมเช็ดความเลือดให้ 

"เหมือนมาก เหมือนข้ามากจริงๆ"เสียงทุ้มต่ำของบุรุษตรงหน้า ผมสีดำเงางาม ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกาย ริมฝีปากยกยิ้ม มองเด็กน้อยที่กำลังสั่นกลัว ก่อนจะหันหลังไปมองสตรีที่นอนเหลือเพียงชุดบาง ไม่มีแรงอยู่ในห้องฟืน ซื่อเหมี่ยวที่ไม่เห็นชัดเจน เพราะน้ำตาที่ไหลและปกปิดดวงตา เห็นเป็นเพียงเงา มีคนมาช่วยลูกตนไว้  และใครบางคนที่เดินมาหานาง ก่อนที่นางจะหลับไหล 

เจอแล้ว

'ถง เจียเฟิ่ง'คนที่แอบอ้างว่าตนคือพ่อของจื่นลู มองบิดาอย่างสงสัย บุรุษผู้นี้หรือคือบิดาของตน? เด็กน้อยถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขน เด็กชายที่มองเจียเฟิ่งตาไม่กระพริบ จนอีกฝ่ายที่อุ้มอยู่ส่งสายตามามอง ก่อนริมฝีปากยกยิ้มขึ้น จื่อลูที่เห็นว่าคนตรงหน้านั้นรู้ตัว ก็รีบหันหนี มองเห็นมารดาที่ถูกอุ่มขึ้นรถม้าอีกคัน 

“ท่านแม่!” จื่อลูที่เห็นเช่นนั้นทำได้เพียงเรียกแม่ตน ก่อนถูกอุ้มขึ้นรถม้า เด็กน้อยถูกวางลงนั่งข้างๆ “ท่าน..พ่อจะพาเราไปไหนหรือขอรับ” นั้นเรียนรู้ไวจึงเอ่ยเรียกบิดา ตอนนี้เขาเชื่อว่าคนนี้คือพ่อของตน หากมองดี ๆ แล้วมีส่วนที่เหมือนกันอยู่สองส่วนเลยที่เดียว เจียเฟิ่งที่ได้ยินบุตรเรียกเช่นนั้นก็ดีใจ หากรู้ว่านางนั้นมีลูกเขาอยู่ คงรีบไปรับตัวมา หากไม่หนีเขาไปละก็ ดวงตาของเขาเหมือนมีไอสังหาร จนจื่อลูก็รู้สึกกลัว

"ไม่ต้องกลัวลูกพ่อ เรากำลังไปอู่ เป็นบ้านของเจ้านับแต่บัดนี้"

"ท่านแม่ด้วยหรือเปล่าขอรับ"เด็กชายเอ่ยอย่างดีใจ และไม่ลืมที่จะถาม ท่านแม่ตอนนี้จื่อลูเชื่อว่า มารดาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เห็นสิ่งที่มารดาพยายามปกป้องเขา ครั่งเมื่อในห้องเก็บฟืน  ต่างกับท่านแม่คนเก่าคงทิ้งเขาอยู่ในป่าไปแล้ว

"ลูกอยากให้นางอยู่ด้วยหรือ" 

"ขอรับ ท่านแม่ถูกทำร้ายหยุดหายใจไป ก่อนจะถูกฝัง ฟื้นขึ้นมาและหนีมาด้วยกันขอรับ"

"นางได้ทำร้ายลูกหรือไม่" หย่งเล่อได้ยินเช่นนั้นไม่ตอบอะไร สามปีมานี้เด็กน้อยถูกตีตลอด พึ่งมาทำดีกับตนได้แค่สามวันนี้เอง พอบุตรชายไม่ตอบ เจียเฟิ่งเลือดขึ้นหน้า เขารู้ได้เลย... กล้าดียังไง เขารู้สึกแค้นใจนัก สงสารบุตรที่ต้องทนทุกข์มากี่ปี 

การเดินทางช่วงดึก จนเวลาฟ้าสางตอนนี้ ยามอู่(11:00-12:59) เด็กน้อยที่ยังไม่ได้นอนหลับตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น ตอนี้หนุนตักบิดาหลับสนิท บิดาคอยบังแสงอาทิตย์มาตลอดทางก็จะทุกจุดหมาย เจียเฟิ่งปลุกบุตรชายก็ที่จะอุ้มนั่งบนแขนลงมาจากรถม้า จื่อลูหรี่ตาเล็กน้อย เมื่อกระทบแสงด้านนอก ไม่นานนักตนก็เห็นจวนขนาดใหญ่ ตอนอยู่จวนเดิมไม่กว้างเท่านี้เลย เจียเฟิ่งที่เห็นบุตรตื่นเต้นก็ยิ้มน้อยๆกับกิริยานั่น จนคนใช้ยิ้มตาม ดีใจที่เห็นเจ้านายตนยิ้มได้สักที หลายปีมานี้ไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มของนายท่านสักครั้ง

"ท่านแม่เล่าขอรับ" จื่อลูพยายามลงจากอ้อมแขนของบิดา แล้ววิ่งไปหามารดารถม้าอีกคัน ก่อนจากเห็นมารดาพยายามลงจะรถม้า สีหน้าเรียบเฉยดวงตาที่แดงและช่ำ

นางมองไปรอบๆเห็นผู้คนมากมาย ยื่นตอนรับก่อนที่จะสบตากับคนที่เข้ามาอยู่ตนหน้า ถึงแม้จะเขาจะแตกต่างจากอดีตมาก แต่ดวงตานั้นยังจำมันได้ดี นางมองเขาเพียงเท่านั้นก่อนจะนั่งลงให้เท่ากับจื่อลู ก่อนจะสำรวจร่างกายของบุตรชาย 

"อย่าจับตัวลูกข้า"เสียงคมเข้มที่ดึงจื่อลูไว้ ก็จะเรียกสาวใช้ให้พาหย่งเล่อเข้าไปดูแลต่อ หย่งเล่อนั้นมองที่มารดาก่อนเพื่อเป็นการอนุญาต ซื่อเหมียวทำได้เพียงพยักหน้าและยิ้มให้ 

ย้อนกลับไปตั้งแต่ถูกอุ้มขึ้นมาในรถม้า นางอยู่ในความฝัน หญิงสาวค่อยเปิดตามองรอบๆ ตอนนี้ไม่รู้สึกเจ็บ หรือหมดแรง แต่มีแสงสว่างรอบกาย ก่อนจะมีคนหนึ่งปรากฏตรงหน้าเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ก่อนรอบๆ จะแปลเปลี่ยนเป็นแม่น้ำผ่านหมู่บ้านอู่ที่นางจำได้ ตอนตกน้ำคราวนั้น เหมือนเห็นหญิงคนหนึ่งยิ้มอยู่อีกด้านของแม่น้ำ ก่อนค่อยๆ ลอยตัวเข้ามา

นางกำลังเห็นสิ่งบางสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน ซื่อเหมี่ยวที่เห็นดวงวิญญาณ กำลังผลักนางออกจากร่าง ซื่อเหมียวพยายามเข้าไปช่วยโดยไม่รู้ตัว พอเข้าไปสัมผัสมันเป็นเพียงภาพเท่านั้น ดวงวิญญาณของนางนั้นยังหลับอยู่เลย ก่อนดวงวิญญาณจะกลายเป็นดวงสีขาวลอยขึ้นจากพื่น ก่อนจะหายวับไป ซื่อเหมี่ยวที่เกิดความสงสัย แต่ภาพนั้นตัดจบเพียงเท่านั้น ก่อนเผยให้เห็นเพียงว่ามีอีกดวงวิญญาณของใครสักคน ปรากฏตรงหน้า หญิงสาวผู้หนึ่งหากแต่ดูงดงามมาก 

"ขอบคุณร่างกายเจ้ามาก" เสียงหญิงสาวผู้นั้นเอ่ยออกมา พร้อมรอยยิ้มที่หาได้สำนึก หมายความว่าอะไร

"กล้าดียังไง มาทำลายชีวิตของคนอื่น"ซื่อเหมี่ยวเดินเข้าหา หากแต่จับตัวนางไม่ได้เลย หญิงสาวนั้นยิ้มเยาะ ที่เห็นว่าไม่สามารถทำอะไรตน ก่อนจะเอ่ยต่อ 

"ที่จริง ก็ไม่คิดว่าเจ้าจะกลับมา ข้าแค่ทำตามใจในสิ่งที่อยากจะทำ" 

"การที่ทำให้สามี ภรรยาคนอื่นแตกหักกันงั้นหรือ?"ซื่อเหมี่ยวเอ่ยอย่างแค้นใจ 

"ข้าชอบท่านพี่จินเกอ มิได้ชอบสามีเจ้า แต่เจ้ากลับท้องก่อนที่ข้าหนีไป เหอะ ปานี้ข้าคงมีความสุขไปแล้ว" นางเอ่ยออกมาอย่างหน้าไม่อาย จนซื่อเหมี่ยวแทบคลั่ง ทำไมนางไร้สำนึก ร่างตนเองก็ไม่ใช่ยังจะเห็นแก้ตัวใช้ร่างนางอีก "แต่ถึงข้าจะอยู่ร่างเจ้าไปอีก หกปี เจ้าก็ตายแล้ว ข้าจึงออกจากร่างเพื่อหาร่างใหม่ รออีกพันปีก็ไม่สาย"นางเอ่ยก่อนจะมองเจ้าของร่างตรงหน้าที่ตอนนี้ หน้าตาแดงก่ำคงโกรธนางมากทีเดียว แล้วใครสนเล่า.. 

"หมายความว่ายังไงที่ข้าจะตาย"

"หืม.!อย่าบอกนะว่าพ่อแม่เจ้าไม่ได้บอก ร่างเจ้าโดนพิษแห่งการตาย มันจะมีร่อยสีขาว รอบข้อมือเจ้า หากประจบกันเมื่อไหร่ มันจะนำโชคร้ายมาให้ถึงแก่ความตายในที่สุด ร่อยนั้นผ่านไปหนึ่งปีจะเคลื่อนหนึ่งครั้ง หากข้าคิดก็คงอีกหกปี ตอนเจ้าอายุได้ ยี่ห้าปี ชีวิตนั้นมีไม่มากแล้ว ข้าจึงคิดอย่างไรเล่า ทำไมเจ้าถึงยังกลับมาอีก"หญิงสาวผู้เอ่ยอย่างเหนื่อยใจ หากนางตายไปตั้งแต่ตอนนั้น ก็ไม่ต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้ ซื่อเหมี่ยวนำมือดึงผ้าขึ้นเผยให้เห็น รอยสีขาวเล็กๆ ตอนนี้มันรอบข้อมือนางจะประจบกันอยู่แล้ว 

"...ทะ"เสียงสั่นระริกของซื่อเหมี่ยวที่ตอนนี้ แทบจะเป็นลม นางขาอ่อนลงทันที ดวงตาที่มีน้ำตาก็ใหลออกมา คนตรงหน้าที่เห็นก็มองบนก่อนจะนั่งข้างๆ 

"เจ้าต่อจากนี้ก็ใช้เวลาให้คุ้มเสียเถอะ ข้าเพียงมาบอกเจ้า เอ่อ..แล้ว ขอโทษ"หญิงสาวเอ่ยอย่าติดๆขัดๆ นางใช่ว่าจะขอโทษคนไม่เป็น แต่นางคิดว่ายังไงเจ้าของร่างเดิมคงไม่กลับมา นางจะทำอะไรก็ได้ แถมร่างที่นางอยู่ก็จะตายในอีกไม่ช้าด้วย นางเลยคิดเพียงแค่อยากอยู่กับคนที่ตนรัก แม้จะผ่านมากี่ชาติ ชาตินี้ก็แค่ผิดพลาด ที่เด็กบ้านั้นเกิดมา แค้นใจนัก ตอนนี้เขาคงรักข้าไปแล้ว

"ข้าไม่ให้อภัยเจ้า หากข้าตายไปเกิดกี่ชาติก็ไม่ให้อภัย"ซื่อเหมี่ยวที่ตอนนี้ แทบอยากฆ่าหญิงผู้นี้ ทั้งมีแต่ความเห็นแก่ตัว ความคิดที่นึกถึงแต่ตนเอง ไม่มองคนรอบข้างเลยว่าต้องทุกข์ เพราะนางเพียงใด หญิงสาวผู้นั้นที่ได้ยินก็ยิ้มออกมา ก่อนจะลอยไปในความว่างเปล่า ทิ้งปัญหาให้นางแก้ไขเพราะยังไงก็ไม่ต้องเจอกันอีก

แม้ไม่นานนางก็ตื่นอยู่ในรถม้าคันหนึ่ง ซื่อเหมี่ยวยังจำฝันนั้นได้ แสงอาทิตย์อ่อนๆส่องเข้ามาในรถม้า หญิงสาวนั่งกอดเข่าตนเอง ร้องไห้อีกครั้งนางจะทำอย่างไรต่อแต่นี้ ไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นเสียหน่อย เป็นเพียงสตรีที่อยากมีครอบครัว และตายไปอย่างมีความสุข ต้องการเพียงเท่านั้น ทำไมปัญหาต่างๆถึงมาลงที่นาง ซื่อเหมี่ยวร้องไห้อยู่นานจนหยุดไปเอง เหม่อลอยอยู่นาน ก่อนสูดลมหายใจเข้าออกเรียกสติกลับมา คิดหาทางว่าจะทำอย่างไร ไม่รู้เลยว่าตนโดนพิษมาได้ยังไง หากตายจริง หก ปีนี้ของได้อยู่กับลูก ดูแลเขาก่อนตาย ส่วนสามีเอง ถึงนางจะรักมากแค่ไหน คงเกลียดนางไปแล้ว โรคของนาง เชื่อว่า ถ้ามียาพิษก็ต้องมียาแก้พิษ ซื่อเหมี่ยวที่แววตานั้นเริ่มมีหวัง ก่อนจะจัดความสำคัญกับตนเองว่า ถึงแม้สามีจะเกลียดนาง นางจะอยู่เพื่อลูกให้ได้ นางต้องทำใจยอมรับ ถึงต่อไปนางจะตายก็ตาม รู้เพียงแค่ว่าตนพยายามที่สุดแล้ว ก่อนมีเสียงบุตรชายมาเรียก

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!