ท่ามกลางทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล เรือที่ถูกทิ้งร้างล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย การปรากฏตัวของวิญญาณของมัน ให้ความรู้สึกที่น่าขนลุกและไม่สั่นคลอนซึ่งกลืนกินผู้ที่กล้าเข้าใกล้

อเล็กซ์ นักผจญภัยหนุ่มผมสั้นสีน้ำตาล และดวงตาสีเขียว กำลังล่องเรือผ่านผืนน้ำเหล่านี้ เมื่อเขาเหลือบไปเห็นเรือที่ถูกทิ้งร้าง ความตื่นเต้นพุ่งพล่านไปทั่ว

อเล็กซ์ เมื่อเขาจำเรือลำนี้ได้จากเรื่องราวที่เขาเคยได้ยินระหว่างการเดินทาง กล่าวกันว่าถูกสาปแช่ง และถูกหลอกหลอนโดยวิญญาณของลูกเรือในอดีต เขาสงสัยอยู่เสมอเกี่ยวกับความลึกลับที่อยู่ภายในกำแพง และตอนนี้ดูเหมือนว่าโชคชะตาได้พาเขามาที่นี่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเข้าใกล้ ความตื่นเต้นของเขาก็เริ่มลดลง

เรือดูทรุดโทรมกว่าที่เคยในตอนกลางวัน แผ่นไม้เก่าและทรุดโทรม ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่คลื่นซัดสาด ใบเรือห้อยระโยงระยางจากเสากระโดงเรือ ขาดรุ่งริ่งและขาดวิ่นจากการละเลยหลายปี อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์ตั้งใจแน่วแน่ที่จะเปิดเผยความจริงเบื้องหลังอดีตอันลึกลับของเรือ เขาลดสมอเรือลงและก้าวขึ้นไปบนดาดฟ้าไม้ รู้สึกกระวนกระวายใจทันทีที่เท้าแตะพื้น

อากาศหนาทึบมีกลิ่นอับ เหมือนโรคราน้ำค้างและเน่าเปื่อย มีเพียงเสียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าดของท่อนซุงของเรือและเสียงลมที่พัดมาแต่ไกล เขาเดินผ่านห้องโดยสารที่ว่างเปล่า

สังเกตโซ่ที่ขึ้นสนิม และเศษขยะที่กระจัดกระจาย ขณะที่เขาเจาะลึกเข้าไปในภายในเรือ ประสาทของอเล็กซ์ก็เริ่มสั่นคลอน หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อเขาเริ่มได้ยินเสียงกระซิบข้างหูและเสียงฝีเท้าที่ติดตามเขาไปทุกซอกทุกมุม

ก้อนสีดำตกลงบนหน้าอกทั้งสี่ของเขา ราวกับว่ามีบางสิ่งที่มุ่งร้ายกำลังเฝ้าดูเขาอยู่ สัญลักษณ์ชัดเจนขึ้นเมื่ออเล็กซ์สำรวจภาชนะที่ผุพังต่อไป แต่ละห้องเคยประดับประดาด้วยงานแกะสลักและการออกแบบที่สลับซับซ้อนซึ่งปัจจุบันพังทลายและพังทลาย

ผนังถูกปกคลุมไปด้วยสัญลักษณ์แปลกๆ ตัวอักษรและการออกแบบที่สับสนวุ่นวาย ซึ่งเขาไม่สามารถถอดรหัสได้ ทุกครั้งที่เขาพยายามมองใกล้ นัยน์ตาของเขา จะร้อนผ่าวและน้ำตาไหลจนต้องเบือนหน้าหนี เมื่อเวลาผ่านไป

ความกลัวของอเล็กซ์เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า เขาไม่สามารถรวบรวมความกล้าที่จะออกจากเรือได้อีกต่อไป ความคิดที่จะออกผจญภัยไปในทะเลเปิดนั้นน่ากลัว ยิ่งกว่าการเผชิญกับความสยดสยองใดๆ ที่อยู่ในเรือผีสิง

เขาพยายามจำทางออก แต่ทุกบันได พาเขาไปเป็นวงกลม และประตูทุกบานถูกล็อคหรือปิดกั้น จู่ๆ ลมกระโชกแรง ก็กระแทกประตูปิดข้างหลังเขา ดักเขาไว้ในกำแพงผีสิง

ความตื่นตระหนกเกิดขึ้น เมื่อ อเล็กซ์ ตระหนักถึงสถานการณ์ของเขา เขาอยู่คนเดียว หลงทาง และติดอยู่บนเรือต้องคำสาป เมื่อตกกลางคืน ความมุ่งมั่นของ อเล็กซ์ กลายเป็นความหวาดกลัว

เงามืดเริ่มขยายใหญ่ขึ้น และทุกเสียงก็ดังก้องขึ้น ในความว่างเปล่ารอบๆ ตัวเขา เขารู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่จ้องมองเขาจากหางตา และได้ยินเสียงกระซิบที่พัดมาตามสายลม การดำเนินเรื่องเร็วขึ้นเมื่อความหวาดกลัวของอเล็กซ์เพิ่มมากขึ้น

ความรู้สึกเร่งด่วน และความสิ้นหวังแล่นเข้ามาในหัวใจของเขาในขณะที่เขาหาทางออกอย่างเมามัน แต่ละก้าวรู้สึก หนักกว่าครั้งก่อนขณะที่เขาดิ้นรนผ่านเขาวงกตของห้องและทางเดิน

รู้สึกราวกับว่าเขาถูกชักนำ โดยกองกำลังที่ไม่รู้จัก ในที่สุด เขาก็พบว่าตัวเองยืนอยู่หน้าประตูไม้โอ๊กบานใหญ่ ที่ยังคงปิดล็อคตั้งแต่เขาขึ้นเรือครั้งแรก มือของเขาสั่นด้วยความกลัว

อเล็กซ์ พยายามผลักประตูและเข้าไปในห้องที่ไม่เหมือนห้องอื่นบนเรือ ดูราวกับว่าห้องนี้ ไม่ถูกแตะต้องด้วยกาลเวลา ทุกอย่างในห้องดูใหม่เอี่ยม ดวงตาของ อเล็กซ์ เบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาลางสังหรณ์

เสื้อคลุมในความมืดลุกขึ้น จากเก้าอี้ตรงข้ามสุดของห้อง หุ่นจำลองค่อยๆ หันไปหา อเล็กซ์ เผยให้เห็นตัวเองว่า เป็นหุ่นผี ที่มีผิวซีดและดวงตาเป็นประกาย ลางสังหรณ์เล็กน้อยเกี่ยว กับเหตุการณ์ต่อไปนี้ เหมือนผี กระซิบบอก อเล็กซ์ ถึงชะตากรรมอันน่าสลดใจ และชะตากรรมของสมาชิกลูกเรือคนอื่นๆ

ตอนนั้นเองที่ อเล็กซ์ ตระหนักว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวบนเรือ และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตที่นี่ ยังคงหลงเหลืออยู่ในเงามืด ความหวาดกลัวในตัว อเล็กซ์ เพิ่มขึ้น ในขณะที่เขาพยายามหลบหนี จากสถานที่ต้องสาปแห่งนี้

เขาวิ่งไปตามห้องแล้วห้องเล่า แต่ไม่ว่าจะวิ่งเร็วหรือไกลแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถหลบหนี การปรากฏตัวตามหลอกหลอนที่ติดตามเขาได้ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ของฝันร้ายของเขาบนเรือผีสิง เขารู้เพียงเล็กน้อยว่าในไม่ช้าเขาจะเปิดเผยความลับอันดำมืดของอดีตและพลังชั่วร้าย ที่ยังคงหลงเหลือ อยู่ในปัจจุบัน

ในขณะที่เขาสำรวจทุก ๆ ตารางนิ้วภายในเรือ อเล็กซ์ จะต้องเผชิญหน้ากับความสยดสยอง ที่เหนือกว่าฝันร้ายที่สุดของเขา เรือลำนั้นจะกลายเป็นคุกของเขา และผี จะเป็นผู้จับกุมเขา

จังหวะของเรื่องราว ทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดที่สิ้นหวังของ อเล็กซ์ เริ่มต้นขึ้น แต่ละก้าวทำให้เขาเข้าใกล้ความจริงที่อยู่เบื้องหลังเรือต้องสาป แต่ก็ทำให้เขาเข้าใกล้จุดจบของตัวเองมากขึ้นด้วย

ในขณะที่การเดินทางสู่ความหวาดกลัวของ อเล็กซ์ ดำเนินต่อไป สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนขึ้น เรือผีสิงไม่ได้เป็นเพียงนิทานพื้นบ้าน แต่เป็นฝันร้ายในชีวิตจริง มันเป็นสถานที่ที่ความชั่วร้าย แฝงตัวอยู่ในทุกเงา และทุกย่างก้าวอาจเป็นครั้งสุดท้ายของเขา อเล็กซ์ ถูกขังอยู่ในกำแพงผีสิง ถูกบังคับให้ต้องเผชิญหน้าไม่เพียงแต่ความกลัวของเขาเท่านั้น

แต่ยังรวมถึงพลังชั่วร้ายที่ยังคงหลงเหลือ อยู่บนเรือด้วย ความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของเขาจะถูกทดสอบในขณะที่เขาต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากความน่าสะพรึงกลั วที่รอเขาอยู่บนเรือต้องสาปนี้

พระอาทิตย์เริ่มอัสดง ส่องแสงสีส้มน่าขนลุกไปทั่วทะเล สีฟ้าเย็น ขณะที่ อเล็กซ์ แล่นไปหาเรือที่ถูกทิ้งร้าง จากระยะไกล ดูเหมือนเรือผีโบราณ โครงโลหะขึ้นสนิม และใบเรือขาดรุ่งริ่ง ตั้งตระหง่านต้านคลื่นซัดฝั่ง แต่ อเล็กซ์ ชอบการผจญภัยและการค้นพบอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเสี่ยงแค่ไหนก็ตาม

เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ ความเย็น ก็ไหลลงมาตามสันหลัง หัวเรือประดับด้วยงูที่บิด เป็นเกลียวกัดหางของมันเอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่พูดถึงการเวียนว่ายตายเกิดชั่วนิรันดร์ วัฏจักรของการเกิด และการตายที่ไม่มีวันสิ้นสุด มันเป็นลางบอกเหตุแห่ง ความตาย และการเกิดใหม่

แต่มันหมายความว่าอย่างไร สำหรับเรือที่ถูกทอดทิ้งลำนี้? อากาศอบอวลด้วยกลิ่นน้ำเค็ม และความทรุดโทรม เมื่อเขาทอดสมอเรือข้างเรือ เขาก้าวขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ รู้สึกถึงเสียงไม้เก่าๆ ครวญครางภายใต้น้ำหนักของเขา ราวกับกำลังประท้วง การบุกรุกของเขา

ความเงียบ ถูกทำลายลงด้วยเสียงร้องโหยหวนของฝูงนกนางนวลที่บินวนรอบเรือ อเล็กซ์ เดินไปที่ท้องเรือ ด้วยแรงกระตุ้น แปลกๆ ที่จะเปิดเผยความลับ ของมัน เสียงเอี๊ยด อ๊าด ของเรือดังก้อง ในหูของเขา ทำให้เขารู้สึกตัวเล็ก

กว่าที่เคย ขณะที่เขาสำรวจ ลึกเข้าไปในเรือ ความมืด ดูเหมือนจะกลืนกินเขา ทั้งตัว แต่ถึงกระนั้น เขาก็กดต่อไป เสียงฝีเท้าของเขา ดังก้องไปทั่วห้องโถง ของเรือ ทำให้เขาสั่น ไปถึงสันหลัง

เขาอยู่คน ในสถานที่นี้ ล้อมรอบไปด้วยความมืดและความทรุดโทรม ขณะที่เขาตรวจสอบ เงื่อนงำแต่ละอย่างอย่างพิถีพิถัน พยายามปะติดปะต่อ ประวัติของเรือ เขาก็ตระหนักว่า มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ดูเหมือนว่า การปรากฏตัวที่มุ่งร้ายจะล้อมรอบตัวเขา ราวกับทะเลแห่งความสิ้นหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้เขาหายใจ ไม่ออก

อเล็กซ์ รู้สึกว่าถูกจับตามอง แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น นอกจากเขา ความคิดนี้ทำให้เขาสั่นสะท้าน ตั้งแต่หัวจรดเท้า ในที่สุดเขาก็ค้นพบ ช่องที่ซ่อนอยู่หลังแผงสนิม ภายในมี หีบไม้เล็กๆ ประดับด้วย สัญลักษณ์แปลกๆ และภาพสลัก มันเต้นเป็นจังหวะด้วยพลังงานนอกโลก ราวกับสิ่งมีชีวิต

อเล็กซ์ เปิดหีบด้วยมือที่สั่นเทา และอ้าปากค้างด้วยความสยดสยองกับสิ่งที่เขาพบข้างใน บันทึกขาดรุ่งริ่ง เต็มไปด้วยเรื่องรา วของความบ้าคลั่งและการฆาตกรรม กริชที่เปื้อนเลือด และขึ้นสนิมตามอายุ

และล็อกเก็ตที่บรรจุเส้นผม ที่เปล่งประกายด้วยแสงสีน้ำเงิน ที่น่าขนลุก ขณะที่เขา อ่านต่อไป ความจริงก็ปรากฏแก่เขา ราวกับสายฟ้าแลบ เรือลำนี้ ถูกสาปตั้งแต่เริ่มต้น และถึงวาระ ที่จะต้องแล่นไปตลอดกาลผ่านผืนน้ำอันมืดมิด ที่ไม่มีใครรู้จัก และตอนนี้

อเล็กซ์ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่ง ของมรดกอันชั่วร้าย โดยไม่รู้ตัว สัญลักษณ์บนหน้าอก ดูเหมือนจะเยาะเย้ยเขารา วกับจะบอกว่า

"จงละทิ้งความหวังทั้งหมดที่เข้ามาที่นี่" เขาควรจะฟังคำเตือนของนกนางนวล และทิ้งที่นี่ไว้เบื้องหลัง แต่มีบางอย่าง ดึงเขาลึกเข้าไปในลำไส้ของเรือ พลังที่เขา ไม่สามารถอธิบายได้

ความมืดปกคลุมเขา ราวกับหมอกหนาที่ปกคลุมความรู้สึกของเขา อเล็กซ์ กดดันด้วยความหวาดกลัวและความอยากรู้อยากเห็นในระดับที่เท่ากัน ขณะที่เขาเคลื่อนผ่านทางเดิน เขาวงกตของเรือ

เสียงเอี๊ยดอ๊าดและเสียงครวญครางก็ดังขึ้นและน่ากลัวมากขึ้น เขารู้สึกว่ามีบางอย่างมาถูที่ขาของเขาและกระโดดถอยหลังด้วยความหวาดกลัว ในตอนแรก เขาคิดว่ามันอาจจะเป็นหนู หรือสัตว์รบกวนอื่นๆ

ที่เข้าไปในห้องลับของเรือ แต่เมื่อเขามองลงไปก็ไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น เป็นเพียงความว่างเปล่าที่ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งสันหลัง

ตอนนั้นเองที่ อเล็กซ์ ตระหนักว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในที่แห่งนี้ มีบางอย่างกำลังเฝ้าดูเขาอยู่ สิ่งที่คิดร้ายและชั่วร้าย

เขาพยายามก้าวถอยหลังแต่พบว่าตัวเองหลงทางในทางเดินที่วกวนของเรือ เงาเต้นรำรอบตัวเขา เยาะเย้ยเขาด้วยรูปร่างที่ไม่มีตัวตน อเล็กซ์พยายามข่มความกลัวไว้

แต่ทำไม่สำเร็จ ความหวาดกลัวนั้นแข็งแกร่งเกินไป ทรงพลังเกินไป เขาติดอยู่ในเรือต้องสาปลำนี้ เพียงลำพังกับความคิดของเขาและพลังชั่วร้ายที่ล้อมรอบเขา

ในขณะที่เขาสำรวจช่องที่ซ่อนอยู่ของเรือต่อไป เขาพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวา ด้วยพลังงานที่เต้นเป็นจังหวะ ตอนนั้นเองที่เขารู้ตัวว่าเขาสะดุดห้องเครื่องยนต์ของเรือ

อากาศอบอวลด้วยกลิ่นน้ำมันและควันขณะที่เขาเดินเข้าไปในห้องลึกขึ้น เครื่องจักรส่งเสียงครวญคราง และลั่นดังเอี๊ยดอ๊าดรอบตัวเขา ขู่ว่าจะหลีกทางได้ทุกเมื่อ จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เหมือนมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในเงามืด

อเล็กซ์ หมุนตัวไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด จากนั้นเขาก็รู้สึกว่า: มือเย็น และเย็นบนไหล่ของเขา เขาหมุนตัว ไปรอบ ๆ พยายามที่จะมองเห็นสิ่งที่สัมผัสเขา

แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น เสียงหนึ่งกระซิบ ข้างหูของเขา ทำให้เขา สั่นสะท้านไปถึงสันหลัง "ออกจากที่นี่" มันพูด "ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ"

อเล็กซ์ พยายามวิ่ง แต่ขาของเขารู้สึกเหมือน ทำด้วยตะกั่ว เรือดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมารอบๆ ตัวเขา กำแพง ของมันปิดเข้าหาตัวเขาราวกับขากรรไกรของสัตว์ร้าย จากนั้นเขาเห็นเธอ\ผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ผมของเธอยุ่งเหยิง และรุงรัง

เธอจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่ลุกโชนด้วยไฟจากต่างโลก อเล็กซ์กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว และวิ่งไปที่ทางออก แต่เธออยู่ข้างหลังเขา การปรากฏตัว ของวิญญาณของเธอ ทำให้เขาหายใจไม่ออกราวกับผ้าห่มที่หายใจไม่ออก

ในที่สุดเขา ก็ทะลุประตูออกไปและวิ่งไปที่เรือของเขาโดยไม่หันกลับมามองอีกขณะแล่นไปยังที่ปลอดภัยของทะเลเปิด แต่แม้ในขณะที่เขาเว้นระยะห่างระหว่างตัวเขากับเรือต้องสาป อเล็กซ์ ก็รู้ว่าเขาไม่ได้หนีรอดไปได้ สัญลักษณ์บนหน้าอกของเขาลุกโชนอยู่ในใจ เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสยดสยอง ที่เขาพบเห็น การผจญภัย เพิ่งเริ่มต้น

เมื่อเรือของอเล็กซ์เข้าใกล้เรือร้างลำนั้น ความรู้สึกหวาดหวั่นถาโถมเข้าใส่เขา แม้จะรู้สึกไม่สบายใจ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดึงดูดใจไปยังเรือเก่าที่ขึ้นสนิม กระดานที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดและเชือกที่หลุดลุ่ยแกว่งไกวตามสายลมราวกับเป็นลางร้าย เมื่อเขาเข้าไปใกล้ขึ้น มหาสมุทรก็เริ่มมีสีเข้มขึ้นรอบๆ ตัวเขา ราวกับว่าผืนน้ำสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของเรือที่ถูกทอดทิ้งอย่างน่าขนลุก

คลื่นซัดเข้าหาเรือของเขาด้วยเสียงเศร้าราวกับว่าพวกเขาพยายามเตือนเขาถึงอันตรายที่รออยู่ข้างหน้า แม้จะรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อเล็กซ์ก็ไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดของการผจญภัยได้ เขาจับพวงมาลัยแน่นขึ้น เขานำเรือของเขาเข้าไปใกล้ตัวเรือมากขึ้น เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาสังเกตเห็นสัญลักษณ์แปลก ๆ สลักอยู่ในงานไม้ สัญลักษณ์ที่ดูเหมือนจะกระซิบเตือนเป็นลางร้าย

ชีพจรของอเล็กซ์เต้นเร็วขึ้นเมื่อเห็นพวกเขา แต่เขาก็ลดความกลัวลงและพยายามต่อไป ในที่สุด เรือของเขาก็ครูดกับด้านข้างของเรือที่ถูกทิ้งร้างพร้อมกับเสียงดังกึกก้อง ความหนาวเย็นแล่นผ่านกระดูกสันหลังของอเล็กซ์ในขณะที่เขาปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าซึ่งลื่นด้วยน้ำทะเลและสาหร่าย อากาศหนาทึบด้วยกลิ่นเหม็น และความรู้สึกลางสังหรณ์แผ่ซ่านไปทั่วพื้นที่ทุกตารางนิ้ว

อเล็กซ์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามีบางอย่างเฝ้าดูเขาจากเงามืดขณะที่เขาสำรวจเรืออย่างระมัดระวัง เสียงไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดสะท้อนไปทั่วเรือในแต่ละก้าวที่เขาเดิน ทำให้เขาสั่นไปถึงสันหลัง เขาสะดุดกับภาพวิญญาณที่น่ากลัว ร่างของมันถูกบดบังด้วยหมอกหนาที่ปกคลุมไปทั่วอากาศ มันจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาสีเขียวเข้มที่ดูดวิญญาณของเขาไปถึง 11 ดวง

เสียงกระซิบดังขึ้นรอบตัวเขา เสียงของพวกเขาก้องอยู่ในหัวของเขาราวกับท่วงทำนองที่หลอกหลอน ฝ่ามือของอเล็กซ์เริ่มเหงื่อออกขณะที่เขาเดินทางต่อไป แต่ละก้าวรู้สึกอันตรายยิ่งกว่าครั้งก่อน เขาไม่สามารถสั่นคลอนความรู้สึกที่เขาถูกตรวจสอบทุกรอบและเรือมีความลับที่อันตรายเกินกว่าจะเปิดเผยได้ ขณะที่เขาเลี้ยวโค้ง หัวใจของเขาก็เต้นรัวเมื่อเห็นแสงริบหรี่ในระยะไกล

อาจเป็นสมบัติ? แต่ด้วยความมีลางสังหรณ์ อเล็กซ์จึงสลัดความคิดนั้นทิ้งไป เรือลำนี้ถูกสาปแช่ง และเขารู้ดีกว่าการล่อลวงโชคชะตา อเล็กซ์เข้าใกล้แหล่งกำเนิดแสงอย่างระมัดระวังและพบว่าตัวเองเผชิญหน้ากับหน้าอก การหายใจแต่ละครั้งรู้สึกหนักหน่วงขณะที่เขาเอื้อมมือที่สั่นเทาไปยกฝาขึ้น หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความคาดหวัง ขณะที่หีบเปิดออก

อเล็กซ์ก็อ้าปากค้างด้วยความสยดสยอง มันว่างเปล่า เหลือไว้เพียงวัตถุชิ้นเดียว: กุญแจขึ้นสนิม พื้นผิวสลักด้วยสัญลักษณ์แปลกๆ ความรู้สึกหวาดกลัวปกคลุมอเล็กซ์ในขณะที่เขาตระหนักว่ากุญแจดอกนี้นำไปสู่สิ่งที่เหนือความเข้าใจ ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ อเล็กซ์ดำดิ่งลึกลงไปในท้องเรือ อากาศที่อับชื้นอบอวลด้วยกลิ่นเน่าเปื่อย

และผนังโลหะที่เป็นสนิมดูเหมือนจะส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดตามน้ำหนักของประวัติศาสตร์อันดำมืดของเรือ แสงไฟที่ริบหรี่ทำให้เกิดเงาอันน่าขนลุกที่เต้นระบำไปตามทางเดินราวกับกระซิบความลับให้กันและกันฟัง ในแต่ละก้าว

อเล็กซ์รู้สึกมากขึ้นว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ดูเหมือนเสียงเรียกจากความมืด กวักมือเรียกเขาเข้ามาใกล้ ขนที่คอของเขาลุกชันเมื่อเขาเข้าใกล้ประตูเก่าที่ปกคลุมด้วยสนิมและใยแมงมุม ด้วยมือที่สั่นเทา เขาผลักประตูและก้าวเข้าไปข้างใน ห้องเต็มไปด้วยลังไม้ที่ปกคลุมด้วยใยแมงมุม เต็มไปด้วยฝุ่นและถูกลืม แต่เมื่ออเล็กซ์เข้าไปใกล้

เขาสามารถเห็นรอยประหลาดที่ฝังอยู่บนพื้นผิวของพวกมัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แปลกสำหรับเขาแต่แฝงไปด้วยอันตราย ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่เพิ่มขึ้น อเล็กซ์จึงเปิดลังใบหนึ่ง ข้างในมีกองเอกสารสีเหลือง แต่ละกองน่ากลัวกว่ากองที่แล้ว พวกเขาให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทดลองที่ไม่สามารถอธิบายได้ซึ่งดำเนินการกับนักโทษซึ่งกำหนดธรรมชาติ

อเล็กซ์สะดุดถอยหลัง สะดุดลังที่พลิกคว่ำเพื่อพยายามหนีออกจากห้อง ขณะที่เขาล้มลง มือของเขาไปแตะกับบางสิ่งที่เย็นและเป็นโลหะ นั่นคือมีดผ่าตัดที่ลื่นไปด้วยเลือด ด้วยความตื่นตระหนกที่เพิ่มขึ้น

อเล็กซ์รู้ว่าเขาต้องหาทางออกจากเรือก่อนที่มันจะสายเกินไป ขณะที่เขาพยายามหนีจากเรือผีสิง อเล็กซ์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังติดตามเขาอยู่ เงาดูเหมือนจะเคลื่อนไหวตามลำพัง และเงาแต่ละร่างดูเหมือนจะกระซิบอย่างมุ่งร้ายในหูของเขา ในที่สุดอเล็กซ์ก็สามารถกลับขึ้นไปบนเรือของเขาด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง

แต่ในขณะที่เขาถอยออกจากเรือ พลังงานที่ระเบิดออกมาก็พุ่งผ่านเขา ราวกับว่าเรือกำลังโกรธที่เขาพยายามจะออกไป เขาเฝ้าดูด้วยความสยดสยองเมื่อรูปร่างที่เน่าเปื่อยของเรือเริ่มโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมันสูงตระหง่านอยู่เหนือเขาราวกับเทพเจ้าโบราณ โลหะที่เป็นสนิมของมันส่งเสียงร้องคร่ำครวญและดังเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่เคลื่อนไหว

และความรู้สึกหวาดผวาก็เกาะกุมอเล็กซ์ในขณะที่เขาตระหนักว่าพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นแฝงตัวอยู่ในยาน ขณะที่เขาพายเรือออกห่างจากเรือต้องสาป มหาสมุทรก็ดูเหมือนจะเคลื่อนตัวและปั่นป่วนอยู่ข้างหลังเขา ราวกับว่าพลังแห่งความมืดภายในเรือยื่นมือเข้ามาจับตัวเขาไว้ ด้วยความรู้สึกโล่งใจอย่างสุดซึ้ง

ในที่สุด อเล็กซ์ ก็กลับเข้าฝั่งได้ แต่ราคาเท่าไหร่? ความสยดสยองที่อยู่ในเรือที่ถูกทิ้งร้างจะตามหลอกหลอนเขาไปอีกหลายปี!