แชะ แชะ แชะ แชะ
เสียงกดลั่นชัตเตอร์ดังทุกวินาทีและสาดแสงแฟลชจากกล้องตัวเล็กใหญ่ตลอดเวลาจากบรรดานักข่าวและช่างภาพจากสำนักต่าง ๆ ที่มาทำข่าวโปรโมทละครเรื่องใหม่ล่าสุดของนักแสดงที่เป็นที่จับตามอง
ดาราสาวในชุดราตรียาวสีชมพูอ่อน เดินเข้ามาในงานด้วยความสง่าผ่าเผย ถึงชุดจะเป็นกระโปรงยาวคลุมขาแต่ก็แฝงความเซ็กซี่โชว์แผ่นหลังอันเรียบเนียน
เมื่อเธอเดินเข้ามา นักข่าวทุกคนก็พากันวิ่งตรงมาหาเธอทันที
“คุณยิหวาคะ ทางนี้ค่ะ มองกล้องนี้หน่อยค่ะ” บรรดานักข่าวและช่างภาพต่างพากันเรียกเพื่อให้เธอหันไปมองกล้องของตน
ยิหวาหันไปโปรยยิ้มให้กล้องแต่ละตัวเท่าที่จะทำได้อย่างมืออาชีพ
แต่ทันใดนั้นเองนักข่าวบางส่วนก็หยุดลั่นชัตเตอร์และหันกล้องไปอีกทางแทน ซึ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด
ใครกันที่มาดึงความสนใจจากเธอไป
“คุณกันตาคะ กล้องนี้ค่ะ” พวกเขากลุ่มนั้นเรียกนักแสดงสาวที่เป็นคู่แข่งกับเธอตลอดการตั้งแต่ย่างกายเข้าวงการมานั่นเอง
“สวยค่ะสวย”
เสียงเอ่ยชมพูดขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ถึงเสียงนี้จะไม่ได้พูดใกล้หูของยิหวา แต่เธอก็ได้ยินมันอย่างชัดเจนจนรำคาญเป็นอย่างมาก
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้างยิหวา เพื่อนดาราที่เข้าวงการในมาช่วงเวลาเดียวกัน
“คุณยิหวาคะ คุณกันตาคะ ยืนชิดกันอีกค่ะ ภาพจะได้ออกมาสวย ๆ” ช่างภาพคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
ยิหวายืนนิ่งอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับตามคำบอกของช่างภาพ กันตาเห็นดังนั้นจึงยอมเป็นฝ่ายขยับเข้าไปนิดนึง
“ขยับเข้ามาสิ!” เธอกัดฟันกระซิบข้างหูของยิหวา
“เธอก็เข้ามาเองสิ” ยิหวากัดฟันกระซิบกลับก่อนจะกันไปยิ้มให้กลับกล้องตามเดิม
“อีกนิดค่ะ” ช่างภาพสาวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง กันตาจึงจำใจต้องขยับเข้าไปอีก
ตอนนี้ทั้งสองยืนชิดติดกันมาก
“ติดไปไหม ออกไปอีกหน่อย ร้อน!” ยิหวากระซิบบอกในขณะที่ใบหน้ายังคงยิ้มโชว์ความสวยให้กับสื่อต่าง ๆ พร้อมกับใช้ไหล่ดันกันตาออกจากเฟรมภาพ ซึ่งกันตาก็ไม่ยอมเช่นกัน ทั้งสองจึงดันตอบโต้กันไปมา
“จริงไหมครับที่มีข่าวลือว่าคุณทั้งสองไม่กินเส้นกัน” นักข่าวหนุ่มยื่นไมค์พร้อมกับถามคำถามที่ทุกคนคาใจและลังเลกับกระแสของข่าว
“ไม่จริงเลยค่ะ ข่าวนี้ไม่มีมูลความจริงเลยสักนิดค่ะ” ยิหวาตอบคำถามของนักข่าว จึงทำให้เธอลืมเกร็งตัว
กันตาที่ดันสู้สุดแรงก่อนหน้านั้น จึงทำให้ยิหวาตัวเอียงเซไปด้านข้าง
“โอ้ย” ยิหวาร้องขึ้นเมื่อข้างตัวเซไปกระแทกกำแพง
กันตาเบิกตาด้วยความตกใจ เธอไม่นึกว่ายิหวาจะเซไปชนกำแพงได้
“เป็นไรมากไหม” เธอคว้ายิหวาขึ้นก่อนจะโอบเอวประคองฝ่ายตรงข้ามไว้
“คุณยิหวาโอเคไหมคะ” นักข่าวถามขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ อุบัติเหตุนิดหน่อย” เธอบอกก่อนจะกระแทกส้นสูงใส่เท้าของคนที่ดันเธอจนล้ม
“โอ้ย!” กันตาหัวขวับไปจ้องยิหวา
ทุกคนที่กำลังรอคำสัมภาษณ์ของทั้งคู่มองกันอย่างเลิ่กลั่กว่าเธอเป็นอะไร
“พอดียุงกัดน่ะค่ะ ส่วนเรื่องที่ถามมาไม่เป็นความจริงแม่แต่น้อยเลยค่ะ ตาว่าเรามาคุยเรื่องละครที่กำลังจะออนแอร์ดีกว่านะคะ ฮา ฮา ฮา” กันตาหัวเราะตบท้ายเพื่อกลบเกลื่อน
“เชนทร์มาพอดีเลยค่ะ หวาว่าพวกพี่ ๆ ถ่ายรูปรวมสำหรับงานโปรโมทละครของพวกเรากันดีกว่านะคะ” ยิหวายิ้ม
คเชนทร์ พระเอกหนุ่มหล่อมาดเข้ม มาแรงแซงทางโค้งของยุคนี้ แถมยังเป็นขวัญใจของบรรดาสาว ๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่
เมื่อนักแสดงนำของเรื่องมากันจนครบแล้ว ช่างภาพก็พากันรัวชัตเตอร์ถี่ ๆ อีกครั้ง
โดยมีคเชนทร์ยืนตรงกลาง ยิหวาและกันตายืนประกบด้านซ้ายและขวา
จากนั้นทั้งสามจึงเดินเข้าไปนั่งในฮอลรวมงานโปรโมทละครเรื่องต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือเรื่อง ‘รักเกิดที่บ้านนา’ ที่พวกตนร่วมแสดง
ทันทีที่ถึงเวลาอันสมควร ไฟในฮอลก็ดับลงพร้อมกับฉายโปรเจคเตอร์วิดีโอเปิดตัวละครของค่ายต่าง ๆ
เมื่อคลิปแรกฉายจบ พิธีกรชายก็ก้าวขึ้นมาบนข้างหน้าเวที
“ตัวอย่างละครที่ท่านได้ชมไปเมื่อสักครู่คือเรื่องรักเกิดที่บ้านนา แสดงนำโดยคุณคเชนทร์ คุณยิหวาและคุณกันตาครับ”
ยิหวา กันตาและคเชนทร์ลุกขึ้นยืนรับเสียงปรบมือก่อนนั่งลงตามเดิม
“อดใจรออีกนิดนะครับ พวกเราก็จะได้ชมกันแล้ว ไปชมตัวอย่างเรื่องถัดไปกันเลยครับ”
พิธีกรชายพูดจบก็ถอยหลังกลับเข้าที่เดิม จากนั้นตัวอย่างละครเรื่องถัดไปก็เริ่มฉายขึ้นอีกครั้ง
กันตาและคเชนทร์หันไปทองยิหวาที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่ง
“เดี๋ยวมา” ยิหวาจึงต้องบอกกับทั้งสอง จากนั้นเธอจึงเข้าไปนั่งพักที่หลังเวทีแทน
ในเมื่อละครที่เธอเล่นถูกโปรโมทไปเรียบร้อยแล้ว แถมอีกอย่างเธอก็โชว์ตัวให้กับสื่อต่าง ๆ เสร็จแล้ว
ก็ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่ต้องทนเบื่ออยู่ในงานนี้ต่อ
เธอกะว่าหลังจากหลบเข้ามาพักหลังเวทีแล้วก็จะหาจังหวะออกจากงาน
“นี่เธอ” ยิหวาเรียกหญิงสาวที่เพิ่งเดินผ่านเธอไป ซึ่งคาดว่าเป็นทีมงานของในงาน
“คะ?” คนถูกเรียกหยุดเดินก่อนหันไปหาเจ้าของเสียงที่กำลังนั่งไขว่ห้างในชุดราตรีพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“เธอนั่นแหละ ฉันขอน้ำแก้วหนึ่ง เอาเย็น ๆ นะ” ยิหวาสั่ง
“แต่ว่าฉันไม่ใช่…”
“ยืนรออะไรอยู่ล่ะ ไม่ได้ยินเหรอไงว่าฉันขอน้ำเย็นแก้ว” พูดจบเธอก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือต่ออย่างไม่สนในรอบข้าง
“ค่ะ”
หญิงสาวที่เพิ่งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นทีมงานยืนเกาหัวด้วยความงุนงงแต่ก็ตอบรับคำขอแต่โดยดี
เธอเดินสำรวจหาจุดน้ำดื่มไปเรื่อย ๆ จนเจอจุดบริการน้ำดื่ม จากนั้นจึงหยิบแก้วขึ้นมาและกดน้ำดื่ม แต่ทว่ากลับไม่มีน้ำสักหยดไหลออกมา
เธอจึงเปิดฝาดูและพบว่าน้ำในถังหมด จากนั้นจึงไล่กดถังที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ กันสามถัง แต่ถังเหล่านั้นก็ไม่มีน้ำเช่นกัน
ขืนเธอเดินกลับไปโดยไม่มีของที่ดาราสาวคนนั้นบอก ดูท่าแล้วเธอคนนั้นจะแรงไม่ใช่ย่อย แถมทางนั้นเป็นทางออกทางเดียวเสียด้วย
“ขอโทษนะคะ มีน้ำดื่มตรงไหนอีกไหมคะ พอดีพวกนี้มันหมดแล้ว” เธอถามทีมงานที่กำลังนั่งพัก
“ตอนนี้กำลังไปเอาน้ำดื่มมาค่ะ แต่น่าจะนานหน่อยเพราะเพิ่งไปเมื่อกี้เอง แต่ว่ากระติกตรงนั้นมีน้ำแข็งเหลืออยู่นะคะ แก้ขัดก่อนได้”
“ขอบคุณค่ะ”
เธอจึงเดินไปตักน้ำแข็งใส่แก้วไว้ก่อนก่อนจะหันไปเห็นก๊อกน้ำ จึงปิ๊งไอเดีย
“น้ำมาแล้วค่ะ” เธอยื่นแก้วให้ดาราหน้าสวย
“อืม” จากนั้นยิหวาจึงยกขึ้นดื่ม “น้ำอะไร ทำไมมันไม่อร่อยเลย รสชาติยังกับน้ำประปา” เธอบ่นขึ้นก่อนกดรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
“ถึงแล้วเหรอคะ หวากำลังจะออกไปนะคะ”
หลังจากคุยกับปลายสายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยิหวาจึงเดินออกจากงานทันที
“คนอะไรขอบคุณสักคำก็ไม่มี แถมยังจะมาบ่นอีก” เธอยืนมองดาราสาวจนลับตาพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง
เธอจะไม่เก็บการกระทำของคนเมื่อครู่เอามาเป็นอารมณ์
อย่างไรเสียเธอคงจะไม่ได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกแน่นอน
“กองฟางรอพี่นานไหม?” คเชนทร์ที่เดินมาหลังเวทีถามน้องสาวขึ้น
“ก็นานอยู่ ว่าแต่งานเลิกแล้วใช่ไหมพี่เชนทร์”
“เลิกแล้ว เรากลับกัน พรุ่งนี้เธอต้องเตรียมตัวเอาแรงนั่งรถกลับบ้านอีก”
กองฟางเข้ากรุงเทพฯ มาเพื่อมางานรับปริญญาของเพื่อน เธอจึงแวะมานอนคอนโดกับพี่ชายก่อนจะกลับบ้านที่ชนบทในวันพรุ่งนี้
“เราจะไม่กลับเครื่องจริง ๆ เหรอ” เขาถามน้องด้วยความเป็นห่วง เขากลัวน้องจะลำบากในการเดินทาง
“ไม่เอาอะพี่ ฟางไม่เคยนั่งเครื่อง แล้วก็จะไม่นั่งด้วย ฟางกลัว”
“ตามใจแล้วกัน” ในเมื่อน้องสาวเขายืนยันอย่างนั้นจึงไม่ขัดอะไร
“เออพี่ เมื่อกี้ฟางเจอผู้หญิงคนหนึ่งด้วย เขาเข้าใจผิดว่าฟางเป็นทีมงาน แล้วใช้ให้ฟางไปเอาน้ำเย็นให้เขา แต่ว่าน้ำมันหมดไง ฟางก็เลยเอาน้ำประปาให้เขาแทน เปิดสด ๆ จากก๊อกเลยนะ” เธอเล่ารายละเอียดให้ฟัง
“เห้ย ไปทำแบบนั้นทำไม แล้วเขารู้ปะเนี่ย เรานี้แสบตลอดเลยนะ วันหลังไม่ทำแบบนี้นะ” คเชนทร์ห้ามปรามน้องสาว
“เขาก็พูดนะว่าเหมือนน้ำประปา แต่คงไม่รู้หรอกว่ามันคือน้ำประปาจริง ๆ แต่ที่บ้านเราก็ใช้ก็ดื่มน้ำประปานะพี่”
“คนที่นี่เขาไม่ชินกับการดื่มน้ำประปา วันหลังเราก็อย่าทำแล้วกัน เข้าใจไหม?”
“ค่า ค่า เข้าใจแล้วค่ะ”
“น้องตาคะ พี่อ้อมใจลืมบอกไปเลยว่ามีงานนี้ติดต่อเข้ามา เป็นรายการเรียลิตี้ตามติดชีวิตดารา พี่เลยมาถามน้องก่อนว่าสนใจรึเปล่า” อ้อมใจผู้จัดการของกันตาบอกกับเธอในสิ่งที่ได้รับข้อมูลมาเมื่อเช้า
“ตามติดชีวิตดารางั้นเหรอพี่ รับเลยก็ได้”
กันตาตอบตกลงออกไป แนวทางของรายการก็คงแค่ตามดูในแต่ละวันว่าซุปตาร์ทำอะไรบ้าง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“พี่อ้อมใจว่าน้องตาดูข้อมูลก่อนตัดสินใจดีกว่านะคะ” อ้อมใจยื่นแฟ้มรายละเอียดให้กับกันตา
เธอหยิบมันขึ้นมาอ่าน
“นี่มันเรียลิตี้ที่จับดารามาทำนู่นทำนี่ในสถานที่ต่าง ๆ หนิ ที่รายการเพิ่งเปิดตัวไปสัปดาห์ก่อนแล้วเรตติ้งพุ่งกระฉูดใช่ไหมพี่”
กันตาจำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนเธอเห็นข่าวในโซเชียลผ่านตามาบ้าง รายการนี้ทำให้นักแสดงหน้าใหม่อย่าง ‘นินิว’ ดังข้ามคืน หลังจากที่หล่อนเล่นละครมาก็ตั้งหลายเรื่อง ทว่ากลับไม่มีคนรู้จัก แต่พอได้มาออกรายการนี้เท่านั้น ตอนนี้รับงานไม่หวั่นไม่ไหวและกลายมาเป็นที่รู้จักทันที
“ใช่ค่ะ พี่อ้อมใจเลยถามน้องตาก่อน เพราะต้องกินอยู่ในสถานที่นั้น ๆ ที่รายการจะจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ”
“โทรไปตอบตกลงตอนนี้เลยค่ะพี่”
ถึงจะลำบากหน่อย แต่รายการนี้อาจทำให้เธอดังขึ้นมากกว่าเดิมและกว่ายิหวาก็เป็นได้
ผู้จัดการของยิหวาที่นั่งข้างเธออยู่ในรถเห็นว่าสีหน้าของดาราสาวดูไม่ค่อยสบอารมณ์ไม่มากนักจึงลังเลว่าตอนนี้ควรคุยเรื่องงานหรือไม่
“พี่นัตตี้มีอะไรก็ว่ามา” ยิหวาเอ่ยขึ้นหลังจากถูกจ้องจนรำคาญ
“เอ่อคือมีรายการเรียลิตี้ติดต่อมาน่ะค่ะ”
“ไม่เอาไม่รับ” เธอตอบปฏิเสธทันทีที่ได้ยินชื่อรายการ “หวาไม่ต้องการให้คนมาตามดูหวาทุกอิริยาบถ หวาต้องการความเป็นส่วนตัว”
“รับทราบค่ะ”
นัตตี้รับคำก่อนต่อสายตรงไปปฏิเสธรายการเรียลิตี้
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ น้องหวาจะได้ไม่ต้องไปเจอน้องกันตา” เธอเอ่ย
“เดี๋ยวก่อนพี่นัตตี้” ยิหวาดึงมือของผู้จัดการลง “เมื่อกี้พี่ว่ายังไงนะ ยัยตารับงานนี้ด้วยเหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ”
“งั้นพี่บอกทางรายการไปเลยนะว่าหวารับ”
“ค-คะ? น้องหวาว่าไงนะ” นัตตี้ถามย้ำ
“ตอบตกลง หวารับรายการนี้ พี่โทรไปคอนเฟิร์มตอนนี้เลย ส่วนรายละเอียดไว้หวาค่อยอ่านทีหลัง”
ยิหวาเปลี่ยนใจเมื่อรู้ว่าคู่แข่งอย่างกันตาก็รับรายการนี้ด้วย
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะพี่นัตตี้” เธอบอกผู้จัดการส่วนตัวก่อนขึ้นคอนโด
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงเข้าไปดูรูปของตัวเองที่เพิ่งไปเปิดตัวงานโปรโมทละครเมื่อช่วงค่ำ
ยิหวาไล่อ่านคอมเมนท์ไปเรื่อย ๆ จนไปสะดุดกับบางข้อความ
“เชียร์พี่เชนทร์กับพี่กันตา แหวะ” เธอลอยหน้าลอยตาอ่านข้อความพร้อมกับเบะปาก
แฟนคลับต่างพากันจับคู่จิ้นระหว่างคเชนทร์กับยิหวาและคเชนทร์กับกันตา
หากเธอถูกแย่งชิงตำแหน่งคู่จิ้นไปละก็งานก็คงหดหายไปไม่น้อย
เพราะเหตุนี้เองพวกเธอทั้งสามจึงได้ออกงานร่วมกันบ่อย ๆ
“ต้องยิหวากับคเชนทร์สิยะ ว่าแต่ว่าสวยเหมือนกันนะเนี่ยเรา”
ยิหวาซูมดูภาพที่ตัวเองยืนอยู่บนพรมแดงในงานก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเส้นข้างตาที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมันมาก่อน
“ตีนกา!” เธอร้องเสียงหลงก่อนหยิบกระจกเงาทรงกลมจากโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาส่อง
ยิหวารีบส่งข้อความไปหาผู้จัดการส่วนตัวทันที
เช้าวันต่อมา นัตตี้ไขกุญแจคอนโดที่ยิหวาให้ติดตัวไว้เพื่อที่จะได้เข้าออกห้องของเธอสะดวก พร้อมกับถือเอกสารรายละเอียดของงาน
“พี่มาแล้วค่ะน้องหวา” นัตตี้ตะโกนเรียกเจ้าของห้อง
“ไปกันค่ะพี่” ยิหวาคว้ากระเป๋าที่วางไว้บนโต๊ะและเดินตรงไปยังหน้าประตู
“อ่านรายละเอียดงานก่อนไหมคะ?” เธอยื่นแฟ้มให้กับยิหวา
“ค่อยอ่านค่ะพี่ พาหวาไปนวดหน้าแล้วก็ยกกระชับก่อน เรื่องนี้สำคัญกว่า”
“อ่า.. ค่ะ งั้นไว้ค่อยอ่านทีหลังก็ได้เนาะ” นัตตี้เหน็บแฟ้มไว้ข้างตัวก่อนรีบเดินตามยิหวา
“สวัสดีค่ะคุณยิหวา วันนี้มาทำอะไรดีคะ” พนักงานคลินิกเอ่ยต้อนรับ
“ลดริ้วรอยรอบดวงตาแล้วก็ยกกระชับหน้าค่ะ อ้อมาร์คทองคำด้วยนะคะ”
“ริ้วรอยแทบจะมองไม่เห็นเลยนะคะ ผิวดีมาก พี่แนะนำให้ทำเลเซอร์กระตุ้นคอลลาเจนค่ะ ไม่แนะนำโบท๊อกซ์”
“จริงเหรอคะ เมื่อวานหวาส่งกระจกแล้วเครียดมากเลย พี่พูดแบบนี่หวาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย ตกลงหวาเอาตามที่พี่แนะนำเลยก็ได้ค่ะ”
“ค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะคุณยิหวา”
หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ยิหวาก็เดินออกมาพร้อมกับออร่าบนใบหน้า
“หวาพร้อมอ่านรายละเอียดแล้วค่ะพี่นัตตี้” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส
“อยู่บนรถค่ะ”
“แล้ววันนี้หวาต้องไปที่ไหนอีกไหมคะ”
“มีต่ออีกหนึ่งที่ ทางผู้ใหญ่เขาอยากเจอน้องหวาแล้วก็คุยเรื่องรายการเรียลิตี้ค่ะ ทางนั้นเขาดีใจมากที่น้องหวารับรายการของเขา” นัตตี้บอกและเปิดประตูรถตู้ให้ยิหวา
เมื่อส้นเข็มสีแดงเหยียบถึงพื้น เจ้าของรองเท้าคู่นี้ก็เดินด้วยความมั่นใจ
ผู้คนทั้งนอกและในบริษัทต่างมองเธอเป็นตาเดียว
“เชิญครับคุณยิหวา” พนักงานชายที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปต้องหยุดชะงักและทำตัวเป็นสุภาพบุรุษทันที เขายิ้มเคลิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
ยิหวาฉีกยิ้มเล็กน้อยเป็นการขอบคุณ
ในขณะที่เธอเอื้อมมือไปกดปุ่มของลิฟต์ก็มีบางคนเดินเข้ามายืนข้าง ๆ
“กันตา?”
“เรียกทำไม กลัวลืมชื่อฉันเหรอ” อีกฝ่ายกวนอารมณ์
“เธอมาที่นี่ทำไม”
“ไม่บอก” กันตายกไหล่ขึ้น
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดขึ้น ทั้งสองก็ก้าวขาเข้าพร้อมกัน
“จะมาเบียดฉันทำไม!” กันตากระแทกเสียง
“เธอนั่นแหละที่เบียดฉัน ก็เห็นอยู่ว่าฉันจะเข้า!”
“เธอจะเข้าคนเดียวเหรอไง ฉันก็ต้องเข้าเหมือนกัน!”
ทั้งสองต่อกรกันไม่สิ้นอยู่หน้าลิฟต์
“เอ่อน้องหวาคะ น้องตาคะ คนมองกันหมดแล้วค่ะ” นัตตี้รีบห้ามทั้งสองก่อนที่จะเป็นจุดสนใจไปมากกว่านี้
“เอ่อ ไม่มีอะไรค่ะ หยอกกันเล่นนิดหน่อย” ยิหวาหันไปบอกกันทุกคน
“ใช่ค่ะ เรารักกันจะตาย ใช่ไหมหวาเพื่อนรัก” กันตาเสริมก่อนจะคว้าแขนของยิหวาและเอนใบหน้าซบลงที่ต้นแขนของเธอ
เมื่อทุกคนเห็นว่าเป็นเช่นนั้นบางคนก็เลิกสนใจ ส่วนบางคนก็แอบถ่ายรูปเก็บไว้
“ปล่อย!” ยิหวาสะบัดแขนออกเมื่อประตูลิฟต์ถูกปิดลง
กันตาค่อย ๆ ปล่อยมือออก
“ก็ไม่ได้อยากจับนักหรอก เสียดายฉันลืมหยิบแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อลงมาจากรถ” เธอทำท่ารังเกียจที่ไปแตะโดนตัวของยิหวา
กันตาเบะปากเล็กน้อยก่อนเอื้อมมือไปกดปุ่มชั้นสิบสอง
ยิหวาเห็นจึงถามขึ้น “เธอไปทำอะไรที่ชั้นสิบสอง
“จะไปทำอะไรก็เรื่องของฉัน” ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ยอมบอกเธอแล้วเธอจะบอกทำไม “ผู้จัดการเธอไปไหนแล้วละ วันนี้ไม่ตามเหรอไง”
ยิหวาเพิ่งสังเกตว่ากันตามาคนเดียว
“พี่อ้อมใจก็มีธุระของเขาบ้าง ไม่เหมือนเธอ…” กันตาเปรยตามองยิหวาก่อนหันหน้าตรง
“ฉันทำไม!”
“เปล๊า” เธอทำเสียงสูงจากนั้นจึงถอนหายใจ “เฮ้อ ฉันละสงสารพี่นัตตี่จังเลย” เธอพูดลอย ๆ
“ถึงแล้ว พี่ว่าเรารีบไปดีกว่านะคะ” นัตตี้รีบบอกยิหวาทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก
โชคดีจริง ๆ ที่มันเปิดทันเวลาพอดี ไม่อย่างงั้นคงมีสงครามเกิดขึ้นในลิฟต์แน่นอน
“เดินตามมาทำไมอีก” ยิหวาหยุดก่อนหันไปถามกันตาที่เดินตามมาติด ๆ
นัตตี้ยืนมองยิหวาพลางตบหน้าผากตัวเองหนึ่งฉาก เธอไม่นึกเลยว่ายิหวาจะหันไปหาเรื่องกันตาอีก
“ฉันต้องไปทางนี้เหมือนกัน” เธอตอบ
ขณะที่ยิหวากำลังจะสวนกลับก็มีเสียงทักขึ้นมาก่อน
“อ้าวนึกว่าใคร น้องตากับน้องหวานี่เอง มาพร้อมกันซะด้วย มา ๆ ดีเลยพี่จะได้ไม่ต้องพูดหลายรอบ นั่งก่อน”
“สวัสดีค่ะพี่ตุ๊ก” ทั้งสามยกมือไหว้พร้อมกัน
“สวัสดีจ้ะ พี่ดีใจมากเลยที่น้อง ๆ สนใจมาออกรายการของพี่ อีพีนี้พี่ว่าจะทำแบบพิเศษ พี่จะให้น้องทั้งสองถ่ายร่วมกัน พี่ว่าคนต้องดูเยอะแน่เลย”
“ถ่ายด้วยกันเหรอคะ?” ยิหวาถาม ในใจได้แต่ภาวนาให้มันไม่จริงแต่ก็ต้องผิดหวัง
“ใช่จ้ะ พอดีพี่เห็นว่าน้อง ๆ รับงานนี้เหมือนกันเลยจับมามัดรวดกันซะเลย คนดูน่าจะชอบ แล้วเรตติ้งของพี่ต้องพุ่งกระฉูด พวกเราไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม”
“ไม่มีค่ะ” กันตาเอ่ย
“ยิหวาละ?” พี่ตุ๊กถามขึ้นเมื่อได้ยินแต่เสียงของกันตา
“ไม่ค่ะ” เธอพูดเสียงแผ่ว
“โอเค งั้นพี่จะบอกรายละเอียดที่น้องต้องทำคร่าว ๆ คือทางพี่เนี่ยกะจะให้น้องทำภารกิจแข่งกัน เอาเป็นว่าพี่บอกแค่นี้ก็แล้วกัน นอกนั้นให้ไปลุ้นเอาเอง”
“แล้วถ่ายทำกันที่ไหนคะ” นัตตี้ถาม
“หมู่บ้านหนองบึงบ่อ บ้านเกิดของคเชนทร์จ้ะ”
เสียงแจ้งเตือนความจำดังขึ้น พี่ตุ๊กจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู
“พี่ไปก่อนนะพอดีมีนัดต่อ”
จากนั้นเธอก็รีบออกไปทำธุระของตัวเอง โดยปล่อยให้ยิหวายืนอ้างปากค้างหลังจากได้ยินชื่อของสถานที่ถ่ายทำ
“ไว้เจอกันนะยิหวา” กันตายิ้มเย้าให้อีกฝ่ายเกิดอารมณ์ก่อนเดินจากไป
“โธ่เอ้ย!” ยิหวาสบถ “พี่นัตตี้ดูยัยนั่นสิคะ หวาอยากขัดขาให้ล้มจริง ๆ” เธอโวยวาย
“ใจเย็น ๆ ค่ะคุณน้อง”
“หวาไม่รับงานนี้แล้วนะคะ หวาไม่โอเคที่ต้องถ่ายร่วมกับยัยตา หวาต้องปั้นหน้าตลอดเวลาหวาทนไม่ไหวหรอกนะคะ”
“สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เข้า ออก เข้า ออก”
“เรียลิตี้ยังพอทนแต่ต้องถ่ายกับยัยตาแถมยังอยู่บ้านนอกอีก หวาไม่ทน!” เธอนิ่วหน้า
“เรารับงานนี้แล้วนะคะ บอกผู้ใหญ่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้แล้วค่ะ พี่ว่าน้องหวาทำใจแล้วเตรียมข้าวของสำหรับอาทิตย์หน้าดีกว่านะคะ”
“อาทิตย์หน้าเหรอคะ เร็วไปไหม”
“ไปเตรียมของดีกว่านะคะ” นัตตี้รีบตัดบทก่อนที่ยิกวาจะโวยวายเพิ่ม
กันตาลงมายืนรอรถที่หน้าบริษัท แต่กลับไร้วี่แววถึงต่อสายหาผู้จัดการทันที
“พี่อ้อมใจคะ ตาคุยธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ”
[ตอนนี้รถติดมากเลยค่ะ น้องตารอพี่ก่อนได้ไหม]
“ค่ะพี่ งั้นเดี๋ยวตาเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตรอนะคะ ถึงแล้วโทรบอกตาอีกทีนะคะ”
[โอเคค่า แค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่รีบไปรับ]
กันตายืนนึกสักพักก็เดินไปยังโซนขนมขบเคี้ยวและอาหารแห้ง
เธอเดินดูของเรื่อย ๆ จนไปหยุดอยู่หน้าชั้นขายปลากระป๋อง
และเขย่งเพื่อเอื้อมหยิบของบนชั้น ซึ่งของที่เธอจะหยิบอยู่เหนือหัวของเธอ แต่แล้วก็มีมือปริศนามาจากทางด้านหลัง
“ระวังครับ เดี๋ยวผมหยิบให้”
“อุ้ย.. ขอบคุณค่ะ อ้าวนึกว่าใครที่แท้เชนทร์เองเหรอ”
“ตามาทำอะไรแถวนี่เนี่ย เมื่อกี้ผมเพิ่งเจอหวาเอง”
“มาคุยกับผู้ใหญ่ค่ะ พอดีตามารับงาน เรื่องหวาเนี่ยถ้าเดาไม่ผิด เธอกำลังทำหน้าบูดใช่ไหมคะ”
“ตารู้ได้ยังไงหรือว่าสองคนทะเลาะกันอีกแล้ว” คเชนทร์ถามเพราะสองคนนี้เจอกันทีไรเป็นทะเลาะใส่กันทุกที
“ก็ประมาณนั้นค่ะ พอดีว่าตากับหวาได้ถ่ายรายการร่วมกันที่บ้านเกิดคุณนั่นแหละ น่าจะอยู่หลายอาทิตย์เลย”
“หนองบึงบ่อ?”
“ค่ะ”
“แล้วรายการถ่ายเมื่อไหร่ละ” คเชนทร์ถามต่อ
“อาทิตย์หน้าค่ะ”
“ดีเลย ถ้าผมเคลียร์งานหมดแล้ว ผมจะไปเยี่ยมกองสักหน่อยและก็ถือโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านด้วย”
“ตาไปก่อนนะคะ พี่อ้อมใจมารับแล้ว” กันตาบอกลาคเชนทร์ทันทีเมื่อได้รับข้อความจากอ้อมใจ “ขอบคุณสำหรับนี่นะคะ” เธอมองไปที่แพ็คปลากระป๋องครึ่งโหล
ยิหวาที่นั่งนิ่งตลอดทาง จู่ ๆ ก็หันหน้าไปจ้องนัตตี้
“ตกใจหมดเลย จ้องพี่ซะตาถลึง” เธอสะดุ้งเล็กน้อย
“นี่หวาต้องทำงานกับยัยตาจริง ๆ เหรอคะ ทำไมพี่ไม่บอกหวาก่อน ถ้ารู้ก่อนหวาไม่มีทางรับเด็ดขาด! มีเงินร้อยล้านมากองตรงหน้าหวาก็จะไม่สน” พูดจบเธอก็ฟาดมือลงบนเบาะรถ
“แต่พี่สนนะคะถ้าเงินเยอะขนาดนั้น”
“พี่นัตตี้!” ยิหวาขมวดคิ้วหันไปมอง “นี่หวาซีเรียสนะคะ”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทางนั้นเขาจะจับน้องสองคนมามัดรวมกัน ถ้าพี่รู้ก่อนพี่ก็บอกน้องหวาแล้ว”
นัตตี้ไม่รู้มาก่อนจริง ๆ ตอนแรกที่รายการติดต่อเข้ามา บอกเพียงแค่ถ่ายเรียลิตี้ตามติดชีวิตดารา แต่ว่าเมื่อพี่ตุ๊กรู้ว่ายิหวาและกันตารับรายการของตนทั้งคู่ จึงเกิดไอเดียเรียกคนดู
“ไม่รู้แหละ หวาจะโทษว่าเป็นความผิดของพี่นัตตี้ที่ไม่ยอมเช็กรายละเอียดให้รอบคอบ” ยิหวากระแทกตัวพิงเบาะนั่งด้วยความโกรธ
“อ้าว…” นัตตี้งงงวยที่อยู่ ๆ ตัวเองก็ถูกยิหวางอนใส่
“เดี๋ยวพี่ส่งภาพสถานที่ให้ดูในไลน์นะคะน้องหวา”
“ขอบคุณนะคะลุงสม”
ยิหวาไม่ตอบนัตตี้ แต่กลับกล่าวลาลุงสมบูรณ์คนขับรถที่ปกติไม่เคยทำเช่นนี้
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ส่งให้นะคะ” นัตตี้ตะโกนไล่หลัง
และรถถูกขับออกหลังจากที่ยิหวาขึ้นคอนโดไปแล้ว
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
“ลุงสมคะ ขับเร็วกว่านี้ได้ไหมคะ หวาไม่อยากไปถึงสนามบินช้ากว่ายัยตา” เธอชะโงกหน้าไปบอกคนขับรถ
“ขับเร็วกว่านี้ไม่ได้แล้วครับคุณยิหวา”
การจราจรตอนนี้ถือว่าไหลลื่น รถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อย ๆ ไม่ถึงกับติดมากและก็ไม่ถึงกับถนนโล่ง
“จะติดอะไรกันนักกันหนา!” ยิหวาบ่นด้วยความใจร้อน
ไม่นานก็ถึงสนามบิน
ลุงสมบูรณ์ยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบลงมาไว้ให้ยิหวา
“ลุงไปก่อนนะครับ” ลุงสมบูรณ์กล่าวลาพร้อมขับออกไป
“มาค่ะ พี่ช่วย” นัตตี้ช่วยลากกระเป๋าหนึ่งใบให้ยิหวา
ระหว่างที่จะไปโหลดกระเป๋าและเช็กอิน เธอก็สังเกตเห็นบางอย่าง
“พี่นัตตี้คะ กระเป๋าพี่ละ”
“นี่ไงคะ” เธอชี้ไปที่เป้ที่สะพายหลังอยู่
“เป้ใบเดียวเนี่ยนะ? พอเหรอคะ” ขนาดเธอยังเตรียมไปสองใบใหญ่สำหรับอยู่เป็นอาทิตย์ ๆ ยังไม่ค่อยจะพอ
“พี่อยู่คืนเดียวค่ะ”
“อ้าว ทำไมพี่ไม่อยู่กับหวา พี่จะทิ้งหวาไว้ที่นั่นคนเดียวเหรอ” ยิหวาย่นคิ้ว
“มันเป็นกฎของรายการค่ะ เขาไม่ให้ผู้จัดการคอยช่วยเหลือ อ้อมใจก็ต้องกลับเหมือนพี่”
“อย่างนี้หวาก็ได้อยู่กับยัยตาตลอดสัปดาห์…โอ้ยยยย!” เธอครวญคราง
หลังจากที่นำสัมภาระโหลดลงใต้เครื่องเรียบร้อยแล้ว ยิหวาและนัตตี้ก็พากันเข้าเกตและไปนั่งรอในห้องผู้โดยสารขาเข้า
เมื่อไปถึงก็พบว่ากันตาและอ้อมใจนั่งอยู่ตรงนั้นก่อนแล้ว
“เพิ่งมาถึงเหรอ ตรงนี้ว่าง นั่งตรงนี้ก็ได้นะ” กันตาตบเก้าอี้พิงข้าง ๆ
“ดูยัยตาเยาะเย้ยหวาสิ อุตส่าห์รีบมาแล้วแท้ ๆ” ยิหวาหันไปบอกกับนัตตี้
“ฉันไม่นั่งข้างเธอหรอก!” ยิหวาบอกกันตาก่อนเบือนหน้าไปอีกทาง
“ตามใจ แต่กว่าจะขึ้นเครื่องรอนานนะ” ประโยคหลังเธอพูดขึ้นลอย ๆ ให้ยิหวาได้ยิน “พี่นัตตี้คะ นั่งข้างตาได้นะคะ” กันตาเปลี่ยนไปชวนนัตตี้แทน
“อุ้ย ขอบคุณค่ะ พี่เมื่อยอยู่พอดีเลย”
“พี่นัตตี้” ยิหวากดเสียงต่ำ
“ค่ะ” เธอตอบยิหวาเสียงอ่อยจากนั้นก็หันไปตอบกันตา “พี่ว่าเดี๋ยวพี่ยืนเป็นเพื่อนน้องหวาแล้วกันค่ะน้องตา ขอบคุณที่ชวนนะคะ”
กันตายิ้มและพยักหน้าจากนั้นก็หันไปคุยกับอ้อมใจตามเดิม
‘โปรดทราบ เครื่องบินของสายการบิน XXX เที่ยวบินที่ XXX พร้อมแล้วที่จะออกเดินทางไป XXX ขอเชิญผู้โดยสารทุกท่านขึ้นเครื่องได้ ณ ทางออกหมายเลข XX โปรดขึ้นเครื่อง ขอบคุณครับ’
หลังจากเสียงประกาศจบ ทุกคนก็เริ่มทยอยต่อแถวรอขึ้นเครื่อง
‘D7’ ยิหวาก้มดูหมายเลขที่นั่งของตัวเองก็ต้องขมวดคิ้ว
“พี่นัตตี้คะ พี่ไม่ได้จองที่นั่งเหรอ พี่ก็รู้หวาไม่นั่งกลางหรือริมทางเดิน”
“พี่ลืมจองค่ะ” นัตตี้ก้มหน้าหนีความผิด
“เฮ้อ!” ยิหวาถอนหายใจอย่างหงุดหงิด” แล้วพี่นั่งตรงไหน” เธอหยิบตั๋วโดยสารจากมือนัตตี้เพื่อดูที่นั่ง “D8! พี่ไม่จองที่นั่งแล้วยังไม่ได้นั่งติดกันอีก”
“แหะ พอดีว่าพี่จองคนละรอบกับน้องหวา”
“อืม” ยิหวาตอบหน้านิ่งด้วยความหน่าย เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อกับผู้จัดการคนนี้ดี
เมื่อยิหวาเดินไปถึงแถวที่นั่งของตัวเองก็เห็นว่ากันตานั่งอยู่ก่อนแล้ว แถมเป็นที่นั่งติดหน้าต่างเสียด้วย
“เธอนั่งข้างฉันเหรอ ดีจัง” กันตาเอ่ยขึ้นเมื่อยิหวานั่งลงตรงกลางติดกับเธอ
“อ-อืม ว่าแต่ทำไมพี่อ้อมใจ ผู้จัดการของเธอถึงไม่นั่งติดเธอตรงนี่ละเนี่ย” ยิหวาเอ่ยกับกันตาพลางหันไปมองอ้อมใจที่นั่งอยู่ข้างหลัง
“เธอก็รู้ว่าสองพี่น้องเปิ่นเหมือนกันขนาดไหน”
กันตาพูดพร้อมกับส่ายหัวให้กับอ้อมใจและนัตตี้
“ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาถามอะไรฉันแบบนี้” กันตารู้สึกแปลกใจเพราะยิหวาไม่เคยพูดคุยปกติกับเธอ ส่วนมากจะปั้นหน้าใส่มากกว่า
“คือว่าฉันของนั่งที่เธอได้เปล่า” ยิหวาบอกตรง ๆ
“ทำไมฉันต้องแลกที่กับเธอด้วย” กันตาปฏิเสธ
“นะ นะ” ยิหวาอ้อนวอน
‘Take off’
“ไม่ทันแล้วแหละ” กันตาบอกเมื่อได้ยินเสียงประกาศของลูกเรือ
ทันทีที่เครื่องกำลังทยานขึ้นบนท้องฟ้า ยิหวาหลับตาปี๋พร้อมกับจิกเบาะไว้แน่น
แต่แล้วก็มีมือบางคนมาจับมือเธอไว้ ยิหวาลืมตาขึ้นมองไปที่มือของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง
“กลัวทำไมไม่บอก จะได้สลับที่ให้” กันตาบอกพลางกุมมืออีกฝ่ายไว้
“ฉันไม่ได้กลัว” ยิหวาปฏิเสธอย่างหนักแน่น แต่ผิดกับการกระทำ
“ไม่กลัวแต่กำมือฉันไว้แน่นเลยนะ ให้ยืมก่อนได้นะ มือน่ะ” กันตายิ้มก่อนจะหันหน้าไปมองก้อนเมฆ เธอกลัวว่ายิหวาจะอายที่เธอรู้ว่ายิหวากลัว
“ฉันแค่เผลอ” ยิหวารีบปล่อยมือที่กุมมือของกันตาและหันมากำสายเข็มขัดแทน
เพียงไม่ถึงชั่วโมงเครื่องบินก็ลงจอดยังที่หมาย จากนั้นทั้งสี่คนจึงนั่งรถตู้ของรายการที่มารอรับไปยังสถานที่ถ่ายทำ
“โอ้ยยย จะบ้าตายกับทางไปหมู่บ้านอยู่แล้ว!” ยิหวาโวยวายขึ้น เนื่องจากถนนหนทางนั้นเป็นดินและมีหลุมมีบ่อเยอะ ทางไม่เรียบจึงทำให้รถโยกซ้ายโยกขวาและเด้งตลอดทางเข้าหมู่บ้าน
“ใกล้ถึงยังคะ ตาก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” กันตาเอ่ยขึ้นบ้าง
“ถ้าถึงก็รู้เองนั่นแหละ บ่นไปได้” ยิหวาสวนขึ้น
“เธอก็ไม่ต่างกันหรอก” กันตาเถียง
“แล้วทำไมล่ะ” ยิหวาโต้กลับ
“นั่นไงคะ นั่นไงถึงแล้วค่ะน้องตา น้องหวา” อ้อมใจรีบชี้มือไปยังป้ายชื่อหมู่บ้าน
โชคดีที่ถึงที่หมายพอดี ไม่อย่างนั้นพวกเธอสองพี่น้องคงได้ทนฟังยิหวาและกันตาเถียงกันตลอดทาง
เมื่อรถจอดสนิท อ้อมใจลงจากรถเป็นคนแรก ทันทีที่ก้าวขาลงเสียงกลอง เสียงแตรก็ดังขึ้น
เมื่อทางรายการติดต่อบอกทางหมู่บ้านว่าจะมีขอสถานที่ถ่ายทำที่หมู่บ้านแห่งนี่ ทุกคนในหมู่บ้านก็ต่างพากันตื่นเต้นและดีใจที่จะมีดารามาเยือน เพราะนอกจากคเชนทร์แล้วพวกเขาก็ไม่เคยเจอคนดังคนไหน อีกอย่างทุกคนต่างเห็นคเชนทร์มาตั้งแต่เด็กจึงเห็นเขาเป็นแค่คนในหมู่บ้านเดียวกัน
“สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านหนองบึงบ่อ ผมผู้ใหญ่บ้านสมานครับ” ผู้ใหญ่บ้านและบรรดาลูกบ้านต่างมาต้อนรับ
“สวัสดีค่ะผู้ใหญ่ ว่าแต่ที่นี่มีงานอะไรเหรอคะ” อ้อมใจมองขบวนแห่
“ต้อนรับพวกคุณครับ เดี๋ยวผมให้ลูกสาวพาพวกคุณไปที่พักนะครับ” ผู้ใหญ่สมานกล่าวก่อนจะหันไปตะโกนเรียกลูกสาวที่กำลังนั่งมองรถตู้ที่มาจากในเมืองอยู่บนบ้าน
“กองฟาง พาคุณเขาไปที่บ้านพักรับรองหน่อยเร็ว”
“รู้แล้วน่ะพ่อ” เธอตะโกนตอบก่อนจะละสายตาจากดาราทั้งสองที่ยืนเด่นอยู่ด้านล่าง
“พี่ฟางจะไปไหน?” เด็กชายอายุประมาณสิบขวบถามขึ้น
“ลงไปรับแขก”
“ใครมาเหรอ”
“ดารา”
เมื่อเด็กน้อยได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้าง “ดารามาหมู่บ้านเราเหรอพี่”
และจากนั้นก็วิ่งตัดหน้ากองฟางลงไปยืนมุงดูดาราเหมือนคนอื่นในหมู่บ้านทันที
“ไอ้เปี๊ยกเอ๊ยคนอื่นเขารู้กันหมดแล้ว” กองฟางพูดขึ้นเมื่อเปี๊ยกตื่นเต้นเพราะไม่รู้มาก่อนว่ามีคนดังมาเยือนหมู่บ้านของตน
“ฟางพ่อฝากดูแลแขกด้วย” ผู้ใหญ่สมานหันไปบอกลูกสาว
“ถ้าคุณขาดเหลืออะไรก็บอกกองฟางมันได้นะครับ” ผู้ใหญ่สมานบอกกล่าวกับทางแขก
“ขอบคุณมากนะคะ” นัตตี้เอ่ยพลางยกมือไหว้ขอบคุณ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!