NovelToon NovelToon

รักหลังอย่า

พ้นคุก

ในตอนที่รับราชการในกองทัพเขาได้หายตัวไปอย่างลึกลับห้าปี พอเขากลับมาบ้านก็พบว่าภรรยากับลูกสาวของเขาถูกย่ำยี

ออกคำสั่งครั้งเดียว ทหารแสนนานก็หลั่งไหลเข้ามาอยู่เคียงข้างเขา!

ตอนที่ 1 พ้นคุก“ในที่สุด ฉันก็ได้ออกมาแล้ว...”

เฉินผิงสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด แล้วตะโกนออกมาสุดกำลัง!

ด้านหลังของเฉินผิงคือทัณฑสถานหงเฉิง เขาใช้เวลาอยู่ที่นี่ถึงสามปีเต็มๆ ในที่สุด วันนี้ก็ครบกำหนดปล่อยตัวแล้ว!

“เฮ้อ ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นยังไงกันบ้าง”

เฉินผิงสะพายเป้ผ้าแคนวาสขาดๆ รีบตรงดิ่งกลับบ้าน สามปีมานี้ พ่อแม่ของเขาไม่เคยมาเยี่ยมเขาเลย เวลานี้เฉินผิงอดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้

ระหว่างทางกลับบ้าน เฉินผิงพินิจมองแหวนสีทองสัมฤทธิ์โบราณที่เขาสวมอยู่ตลอด

บนตัวแหวนสลักรูปมังกรที่ดูเหมือนจริง บริเวณบนหัวมังกรมีคำว่า ‘ประกาศิต’ สลักอยู่

ตาเฒ่ามังกร เพื่อนในเรือนจำของเขามอบแหวนวงนี้ให้ในวันนี้ที่เขาพ้นโทษ

ตาเฒ่ามังกรผู้นี้เป็นคนแปลก วันทั้งวันเอาแต่พูดพร่ำว่าตนเองนั้นเป็นประมุขแห่งตำหนักมังกรฟ้าผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรค สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้อีกด้วย

ทุกคนต่างมองว่าตาเฒ่ามังกรนี้เป็นคนบ้าและไม่ใส่ใจเขา มีเพียงเฉินผิงที่พูดคุยกับเขาบ้างในเวลาว่าง และยังแบ่งปันอาหารให้เขาอีกด้วย

ทุกๆ วัน ตาเฒ่ามังกรจะเล่าเรื่องแปลกประหลาดให้เฉินผิงฟัง อย่างเช่น ตำหนักมังกรฟ้าเอย เกาะสะกดมังกรเอย ล้วนเป็นสิ่งที่เฉินผิงไม่เคยได้ยินมาก่อน!

ต่อมา ตาเฒ่ามังกรก็ชวนให้เฉินผิงนั่งสมาธิและฝึกยุทธ์เป็นเพื่อน เฉินผิงเองก็ไม่มีอะไรทำจึงฝึกตามเขาไป

แต่ใครจะรู้ได้ สามปีผ่านไป เฉินผิงฝึกฝนจนได้ทักษะยุทธ์และวิชาการแพทย์จากตาเฒ่ามังกรมาจริงๆ

วันนี้ที่เฉินผิงได้รับการปล่อยตัว ตาเฒ่ามังกรได้นำแหวนวงนี้มามอบให้ พร้อมกับกำชับให้เฉินผิงไปที่เกาะนิรนามทางทะเลตะวันออกให้ได้ในวันที่สิบห้าเดือนเจ็ดของปีนี้ เมื่อไปถึงเกาะแล้ว เฉินผิงเพียงแสดงแหวนก็จะมีคนมารับ ถึงเวลานั้น เฉินผิงก็จะได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่

เนื่องจากเขาได้เรียนรู้ทักษะมากมายจากตาเฒ่ามังกร คำพูดของตาเฒ่ามังกร เฉินผิงจึงเชื่ออย่างสนิทใจ เขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เพียงแต่ว่า ยังมีเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะถึงวันที่สิบห้าเดือนเจ็ด

ไม่ทันรู้ตัว เฉินผิงได้เดินมาถึงหน้าบ้านของตัวเองแล้ว เมื่อมองดูบ้านที่ค่อนข้างทรุดโทรมตรงหน้า อารมณ์ซับซ้อนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฉินผิง เขาไม่รู้ว่าสามปีมานี้พ่อแม่เป็นอย่างไรบ้าง พ่อแม่จะต้องได้รับแรงกดดันขนาดหนักเพราะความหุนหันพลันแล่นของตนอย่างแน่นอน!

เมื่อนึกย้อนไปเมื่อสามปีก่อน ดวงตาของเฉินผิงก็ส่องประกายความโกรธแค้นออกมา!

สามปีก่อน เฉินผิงคบกับเกิ่งซานซานแฟนสาวซึ่งเป็นเพื่อนในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน คนทั้งคู่ดูใจกันมาสองปีแล้ว ถึงขั้นที่พูดคุยกันเรื่องการแต่งงานแล้วด้วย!

แต่ในคืนหนึ่ง ขณะที่กำลังส่งเกิ่งซานซานกลับบ้าน ทั้งสองได้พบกับเซียวเหล่ยที่ดื่มจนเมา!

เซียวเหล่ยคนนี้เป็นทายาทเศรษฐีชื่อดังแห่งเมืองหงเฉิง วันๆ ทำแต่เรื่องเลวทราม!

เซียวเหล่ยถูกใจความสวยของเกิ่งซานซานเข้า จึงผุดความคิดชั่วร้ายตรงเข้าไปลวนลามเธอ!

ในฐานะทายาทเศรษฐีรุ่นสองชื่อดังของท้องถิ่น เซียวเหล่ยไม่ได้เห็นเฉินผิงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย!

เฉินผิงแทบคลั่งเมื่อเห็นแฟนสาวของตนถูกคนอื่นล่วงเกิน!

เขาคว้าก้อนอิฐขึ้นมาและฟาดลงไปที่หัวของเซียวเหล่ยอย่างรุนแรง!

ผลลัพธ์เป็นไปตามคาด...

เมื่อเซียวเหล่ยที่มีทั้งอิทธิพลและอำนาจถูกทำร้าย แน่นอนว่าเขาไม่มีทางยอมจบเรื่องง่ายๆ หรอก เขาแจ้งตำรวจให้จับกุมเฉินผิง

เฉินผิงได้รับโทษจำคุกสามปีด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายโดยเจตนา!

จวบจนกระทั่งวันนี้ เฉินผิงจึงได้รับการปล่อยตัว

หลังจากลังเลอยู่นาน สุดท้ายเฉินผิงก็เคาะประตูเบาๆ!

“ใครน่ะ”

เมื่อประตูเปิดออก หญิงชราผมขาวโพลนหลังค่อมเดินออกมา มือข้างหนึ่งคลำไปด้านหน้าตลอดเวลา “ใครน่ะ ใครมาเคาะประตู”

ดวงตาทั้งสองของหญิงชราปิดสนิท ชัดเจนว่าเธอมองอะไรไม่เห็น ที่แท้ก็คนตาบอดนี่เอง!

เฉินผิงถึงกับตกตะลึงเมื่อได้เห็นหญิงชราที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง ร่างกายสั่นเทา

เขาไม่อยากจะเชื่อว่า หญิงชราตรงหน้าที่มีผมขาวโพลนและมีรอยเหี่ยวย่นทั่วทั้งใบหน้าก็คือแม่ของเขา ถังหงอิง

เพียงแค่สามปี แม่ของเขากลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร

“แม่ ผมเอง เฉินผิง!”

เฉินผิงรุดเข้าไปประคองแม่ของตนไว้ พลางตะโกนร้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

“เฉินผิง เป็นลูกจริงๆ หรือ”

ถังหงอิงใช้สองมือคลำไปที่ใบหน้าของเฉินผิง เธอกลั้นน้ำตาไม่ไหวร้องไห้ออกมา

“แม่ ผมเอง ผมเองครับ”

เบ้าตาของเฉินผิงแดงก่ำ “แม่ครับ แม่เป็นอะไรไปครับ เกิดอะไรขึ้น”

เฉินผิงไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ตอนเขาจากไป แม่ก็ยังแข็งแรงดีอยู่ ทำไมช่วงระยะสั้นๆ แค่สามปี ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้!

“เฮ้อ เรื่องมันยาวน่ะลูก เข้ามาข้างในก่อน!”

ถังหงอิงดึงมือเฉินผิงเข้าไปในบ้าน!

เมื่อเห็นสภาพบ้านที่ดูซอมซ่อและแทบจะว่างเปล่า เฉินผิงนิ่งอึ้งไปทันที!

ถึงแม้ครอบครัวของเขาจะไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร แต่พ่อของเขาก็มีการงานที่มั่นคง ถือว่ามีกินมีใช้ แต่มาบัดนี้ ทำไมภายในบ้านจึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้!

“แม่ครับ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ”

เมื่อเฉินผิงเห็นบ้านอยู่ในสภาพนี้ จึงรีบเอ่ยถามแม่ของตน

“เฮ้อ” ถังหงอิงถอนหายใจ “หลังจากที่ลูกไป...”

ถังหงอิงเล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียด ที่แท้หลังจากที่เฉินผิงติดคุก เซียวเหล่ยยังคงไม่ยอมรามือจากครอบครัวของเขา มิหนำซ้ำยังเรียกร้องเงินชดเชยอีกหนึ่งล้าน

สุดท้ายไม่มีทางเลือก พ่อแม่ของเขาจำต้องขายเรือนหอของเฉินผิง และต้องหยิบยืมเงินเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่สามารถรวบรวมได้เพียงพอ ท้ายที่สุดยังขาดอยู่อีกสามแสน พวกเขาจึงต้องผ่อนชำระให้ตระกูลเซียว!

และด้วยเหตุนี้ พ่อของเฉินผิงก็ต้องตกงาน ทำได้เพียงเป็นคนกวาดถนนเลี้ยงชีพ ส่วนแม่ของเขาก็ร้องไห้น้ำตาอาบแก้มตลอดเวลาจนกระทั่งตาบอด

นี่จึงเป็นเหตุผลที่พ่อแม่ของเขาไม่เคยไปเยี่ยมเขาเลยตลอดสามปีที่อยู่ในคุก

เมื่อได้รับฟังเรื่องราวจากแม่ เฉินผิงค่อยๆ กำหมัด แรงอาฆาตผุดขึ้นในส่วนลึกของแววตา!

เขาคาดไม่ถึงเลยว่าตระกูลเซียวจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ นี่มันต้องการทำลายครอบครัวของเขาให้สิ้นซากชัดๆ!

“แม่ แล้วเกิ่งซานซานไม่มาดูแลพ่อแม่บ้างเลยหรือ”

เฉินผิงถามด้วยความสงสัย

เกิ่งซานซานกำลังจะแต่งเข้ามาเป็นภรรยาของเขาแล้ว และที่เขาต้องติดคุกก็เพราะเธอด้วย เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่แยแสต่อพ่อแม่ของเขา

“เฮ้อ อย่าพูดเลย ไม่เพียงแต่ตระกูลเกิ่งจะไม่สนใจเท่านั้น แม้แต่สินสอดทองหมั้นที่เราให้ไป เขาก็ไม่คืน เขาบอกว่าที่งานแต่งต้องยกเลิกไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แต่เป็นเพราะลูกติดคุกต่างหาก เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงยึดสินสอดไปทั้งหมด!”

“พ่อของลูกเคยไปเจรจากับพวกเขา แต่กลับถูกพวกเขาทำร้ายกลับมาอีกด้วย!”

ยิ่งพูด ถังหงอิงก็ยิ่งรู้สึกขมขื่น กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่!

ไอ้เต่าเขางอก

ตอนที่ 2 ไอ้เต่าเขางอก“ตระกูลเกิ่งเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือ” คิ้วของเฉินผิงขมวดเข้าหากันแน่น เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเกิ่งซานซานจะเป็นคนแบบนี้

ตอนที่เขาถูกจับกุม เกิ่งซานซานร้องห่มร้องไห้บอกว่าจะรอเขาออกมา แล้วก็จะแต่งงานกัน!

แล้วทำไมถึงเปลี่ยนเป็นแบบนี้ไปได้ เฉินผิงตัดสินใจจะไปหาเกิ่งซานซานเพื่อถามให้รู้เรื่อง

แต่ในขณะนั้นเอง ประตูบ้านก็ถูกกระแทกอย่างแรง แรงมากจนประตูแทบจะพัง

สีหน้าของถังหงอิงซีดขาวทันทีเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เห็นได้ชัดว่าเธอกลัวมาก!

“แม่ ใครน่ะ”

เมื่อเห็นท่าทางของถังหงอิง คิ้วของเฉินผิงขมวดขึ้น

“ลูกไม่ต้องสนใจหรอก รีบเข้าไปในห้องเถอะ อย่าออกมาเด็ดขาด!”

ถังหงอิงดันเฉินผิงเข้าไปในห้อง จากนั้นก็ไปเปิดประตูด้วยความตื่นตระหนก!

ทันทีที่ประตูเปิดออก ชายหัวล้านคนหนึ่งเดินนำชายสี่ห้าคนที่มีใบหน้าดุร้ายและรอยสักเต็มตัวเข้ามาในบ้าน

“เตรียมเงินเรียบร้อยหรือยัง”

ชายหัวล้านเหลือบมองถังหงอิงและถามขึ้น

“เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วจ้ะพี่โล้น เตรียมเรียบร้อยแล้ว...”

ถังหงอิงพยักหน้าหงึกๆ พลางเอื้อมมือคลำหาถุงผ้าที่อยู่มุมห้อง!

ขณะนั้น เพื่อนบ้านหลายคนได้ออกมามุงดู แต่เมื่อเห็นกลุ่มชายหัวล้าน พวกเขาต่างยืนหลบอยู่ที่ไกลๆ

“คนเหล่านี้มาเอาเงินทุกเดือนเลย จะบีบกันให้ตายหรือไง!”

“จริงด้วย ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้างเลย!”

“ชู่ว์ เบาๆ หน่อยสิ คนพวกนี้เป็นคนที่ตระกูลเซียวส่งมาเก็บเงินอยู่เป็นประจำนะ”

เพื่อนบ้านหลายคนที่ยืนหลบอยู่ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างออกรสออกชาติ แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งสักคน!

เวลานี้ ชายหัวล้านคว้าถุงผ้าจากมือของถังหงอิงมาเปิดออกดู

“นี่มันอะไรกัน” ชายหัวล้านขมวดคิ้วพลางคว่ำถุงผ้า ธนบัตรเก่าๆ จำนวนหนึ่งตกลงมาบนพื้น มีทั้งแบงก์ร้อย แบงก์ห้าสิบ รวมถึงแบงก์หนึ่งหรือสองหยวน มีแม้กระทั่งเศษเหรียญสตางค์อีกจำนวนมาก!

“เศษขยะพวกนี้จะมีถึงหนึ่งหมื่นหรือไง”

ชายหัวล้านถามถังหงอิงเสียงดัง

“มีหนึ่งหมื่นพอดีนะพี่โล้น พวกเรานับแล้ว ถ้าไม่เชื่อคุณลองนับดูก็ได้นะ”

ถังหงอิงฉีกยิ้ม เธอพยักหน้าและโค้งตัว

“เพ้อเจ้อ!” ชายหัวล้านเตะเข้าที่ท้องของถังหงอิงจนถังหงอิงจนล้มลงไปที่พื้น “ให้นับเหรอ ข้าไม่มีเวลาหรอก รีบไปเปลี่ยนเป็นแบงก์ร้อยมาเดี๋ยวนี้”

“แม่!” เฉินผิงวิ่งออกมาจากห้อง รีบเข้าไปประคองถังหงอิงให้ลุกขึ้น!

เขากวาดสายตาเย็นชาไปที่คนเหล่านั้น ดวงตาฉายแววแห่งความเย็นเยียบออกมา

กลุ่มชายหัวล้านตะลึงไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเฉินผิงทำให้ทุกคนสั่นเทา

“เฉินผิง ใครให้ลูกออกมา รีบกลับเข้าไปในห้อง ไม่ต้องยุ่ง!”

ถังหงอิงพยายามผลักให้เฉินผิงเข้าไปในห้อง!

“แม่ ในเมื่อผมออกมาแล้ว เรื่องนี้ให้ผมจัดการเถอะครับ แม่นั่งลงก่อน!”

เฉินผิงประคองถังหงอิงนั่งลงที่เก้าอี้ แล้วหันมามองชายหัวล้านด้วยสายตาเย็นเฉียบ

ชายหัวล้านเหลือบมองที่เฉินผิง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “นี่มันไอ้หนุ่มที่เอาก้อนอิฐฟาดคุณชายเซียวแล้วก็ติดคุกสามปีใช่ไหมนั่น ไม่คิดว่าจะออกมาแล้ว”

“ออกมาได้เหมาะเจาะจริงๆ วันนี้เป็นวันมงคลสมรสของแฟนแกกับคุณชายเซียวเลยนะ แฟนเก่าอย่างแกจะไม่ไปร่วมงานด้วยหรอกหรือ”

“ไอ้เต่าเขางอก...”

“ฮ่าๆๆ...”

ชายหัวล้านหันไปพูดกับพรรคพวกของตน แล้วคนทั้งหมดก็หัวเราะลั่น

“แกพูดอะไรนะ”

เฉินผิงขมวดคิ้ว เขาไม่อยากจะเชื่อ

“ฉันบอกว่าผู้หญิงที่แกยอมติดคุกเพื่อหล่อนน่ะ วันนี้กำลังจะแต่งงานกับคุณชายเซียวแล้ว งานแต่งงานจัดที่โรงแรมฟู่เหา หรูหราน่าดูเลย แกไม่ไปดูหน่อยหรือ”

ชายหัวล้านมองเฉินผิงด้วยใบหน้าเย้ยหยัน

คิ้วของเฉินผิงยิ่งขมวดขึ้น มือทั้งสองกำหมัดแน่น

ถังหงอิงที่อยู่ด้านหลังหน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน เธอเองก็โกรธจนตัวสั่น

จะว่าไปแล้ว ลูกชายของเธอต้องถูกจองจำก็เพราะเกิ่งซานซาน คาดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะหันไปแต่งงานกับศัตรู

“พวกแกคุกเข่า ขอโทษแม่ของฉันเดี๋ยวนี้ แล้วฉันจะไว้ชีวิตพวกแก”

ความเยือกเย็นแว่บขึ้นในดวงตาของเฉินผิง รังสีอำมหิตในร่างกายพวยพุ่ง

อุณหภูมิในห้องลดลงอย่างฉับพลัน และเสียงหัวเราะของกลุ่มชายหัวล้านก็หยุดลงทันที!

ไม่นานนัก ชายหัวล้านจึงได้สติกลับมา เขาพูดด้วยความโกรธ “แกพูดว่าอะไรนะ จะให้ฉันก้มหัวขอโทษน่ะหรือ”

ขณะที่พูด ก็ชูกำปั้นพุ่งเข้าหาเฉินผิง

ด้วยรูปร่างที่ผอมบางของเฉินผิง หมัดนี้สามารถทำให้เฉินผิงล้มคว่ำจนลุกไม่ขึ้นได้!

ตึง...

แต่ใครจะคาดคิด ชายหัวล้านที่เพิ่งจะพุ่งตัวเข้าไป กลับถูกเฉินผิงเตะกระเด็น!

ทันใดนั้น ชายหัวล้านมือกุมเป้าล้มลงกับพื้น เขาเจ็บจนเหงื่อท่วม และร้องครวญครางออกมาไม่หยุด

“เฉินผิง ลูกจะมีเรื่องชกต่อยอีกไม่ได้นะ”

เมื่อได้ยินเสียงครวญครางของชายหัวล้าน ถังหงอิงรีบร้องห้ามเฉินผิง

เฉินผิงต้องติดคุกก็เพราะข้อหาทำร้ายร่างกาย แล้วนี่เพิ่งจะออกมา หากถูกส่งกลับเข้าไปด้วยเรื่องทะเลาะวิวาทอีก มันใช่เรื่องไหมล่ะ

“จัดการมัน เอาให้ตาย...”

ชายหัวล้านคำรามและจ้องเฉินผิงด้วยสายตาดุร้าย

บรรดาลูกน้องของเขากรูกันเข้าไปหาเฉินผิง

เฉินผิงเหลือบมองแม่ของตนก่อนที่มือทั้งสองจะสะบัด ลำแสงสีขาวหลายเส้นสว่างวาบขึ้นมาทันที คนเหล่านั้นรู้สึกว่าขาชาแล้วก็ล้มพับลงไปกับพื้นทั้งหมด

คราวนี้ ชายหัวล้านตื่นตระหนกแล้ว เขามองไปที่เฉินผิงอย่างเหลือเชื่อ และความหนาวเหน็บก็ผุดออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ

เพื่อนบ้านด้านนอกที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าต่างเบิกตาโพลงมองอย่างไม่เชื่อสายตา!

“ขอโทษแม่ฉันเดี๋ยวนี้!”

เสียงเย็นชาของเฉินผิงดังขึ้นอีกครั้ง!

ชายหัวล้านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นสายตาเย็นชาของเฉินผิง เขาจำต้องคุกเข่าลง

“ขอโทษ...”

ชายหัวล้านนำขบวนลูกน้องขอโทษ!

“ไปให้พ้น” เฉินผิงโบกมือไล่!

เขาไม่อยากฆ่าคนต่อหน้าแม่และเพื่อนบ้าน หากเขาคิดจะฆ่าพวกอันธพาลกระจอกๆ พวกนี้แล้วละก็ มันก็เรื่องง่ายๆ เหมือนดีดนิ้วเท่านั้นเอง

ลูกน้องช่วยกันประคองชายหัวล้านให้ลุกขึ้น เขาเหลือบมองเฉินผิงด้วยสายตาโหดเหี้ยม ก่อนจะเดินกะเผลกออกไป ชัดเจนว่าในใจของเขายังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ทว่า เฉินผิงก็ไม่ได้กลัวการแก้แค้นของชายหัวล้านเลยสักนิด

ถูกชน

ตอนที่ 3 ถูกชน“แม่ ไม่เป็นไรใช่ไหม พวกนั้นไปกันหมดแล้ว”

หลังจากที่ชายหัวล้านไปแล้ว เฉินผิงรีบเอ่ยถามถังหงอิงด้วยความเป็นห่วง

“เฮ้อ! ลูกนี่นะ เพิ่งจะออกมาแท้ๆ ไปมีเรื่องกับพวกเขาทำไม!”

ถังหงอิงตำหนิเฉินผิง “รีบเก็บเงินที่พื้นขึ้นมา นี่เป็นเงินที่พวกเราค่อยๆ เก็บรวบรวมมาทีละเล็กละน้อยเลยนะ”

เฉินผิงก้มตัวลงเก็บธนบัตรที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นยัดคืนใส่ถุง

“แม่ อีกหน่อยผมจะหาเงินเอง แม่กับพ่อพักผ่อนได้แล้ว แล้วตาของแม่ ผมจะหาทางรักษาให้นะครับ”

เฉินผิงเก็บรวบรวมเงินเรียบร้อยแล้วจึงส่งถุงผ้าให้ถังหงอิง

“ลูกคิดได้แบบนี้ก็พอแล้ว” ถังหงอิงพูดและร้องไห้ออกมา “ตอนนี้ลูกกลับมาแล้ว แม่ก็วางใจได้ หลายปีมานี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นห่วงลูก ป่านนี้แม่ก็คงตายไปแล้ว...”

เมื่อเห็นท่าทางของแม่ ดวงตาทั้งสองของเฉินผิงก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง!

ปัง!

เฉินผิงทนไม่ไหวแล้ว เขากำหมัดทุบลงไปบนโต๊ะเพียงตัวเดียวที่มีอยู่ในบ้าน

โครม!

ในพริบตา โต๊ะถูกทุบจนแตกกระจาย

ตระกูลเซียว...

ตระกูลเกิ่ง...

ฉันจะให้พวกแกชดใช้...อย่างแน่นอน

ไฟโกรธในใจของเฉินผิงกำลังโหมกระหน่ำ!

ดูเหมือนถังหงอิงจะรู้สึกได้ถึงไฟโกรธนี้ของเฉินผิง เธอจึงรีบพูดขึ้น “เฉินผิง อย่าได้ก่อเรื่องอีกเด็ดขาด ตอนนี้ลูกออกมาแล้ว ก็ตั้งใจหางานทำ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”

“แม่วางใจเถอะ ผมรู้ว่าควรทำยังไง ผมออกไปข้างนอกสักหน่อยนะครับ!”

เมื่อเฉินผิงปลอบแม่ของตนแล้วจึงออกจากบ้าน เขาจะไปหาเกิ่งซานซานเพื่อถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

หลังจากที่ออกจากบ้านมาแล้ว ไฟโกรธของเฉินผิงยังคงระอุอยู่ภายใน!

แต่ในขณะที่เฉินผิงกำลังเดินข้ามถนนอยู่นั้น ทันใดนั้น รถปอร์เช่สีแดงคันหนึ่งก็พุ่งออกจากถนนด้วยความเร็วสูง และกระแทกเข้ากับเฉินผิงจนกระเด็นขึ้นไปในอากาศ

โครม!

เฉินผิงร่วงตกลงมาบนพื้นอย่างแรง หากเขาไม่ได้ฝึกยุทธ์กับตาเฒ่ามังกรแล้วละก็ ดูท่า เฉินผิงก็คงจะถึงฆาตไปแล้ว!

“ขับรถประสาอะไรกันวะ!”

เฉินผิงมีอารมณ์โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ครั้นออกจากบ้านมาก็ถูกรถชนจนกระเด็น เวลานี้ อารมณ์โกรธในใจยิ่งหนักหน่วงขึ้น!

“บ้าชะมัด เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยหรือไง”

ขณะที่เฉินผิงกำลังด่าทอและเตรียมจะลุกขึ้นยืน ทันใดนั้น ก็มีเสียงโวยวายของหญิงสาวดังขึ้น

หญิงสาวคนหนึ่งเดินลงมาจากรถปอร์เช่ เธอสวมชุดกระโปรงสีขาวพร้อมด้วยรองเท้าส้นสูง หน้าตาสะสวย แต่ทว่าใบหน้าของเธองดงามกลับเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง และกำลังมองมาที่เฉินผิง

เฉินผิงขมวดคิ้ว เดิมทีเขาคิดจะลุกขึ้น แต่แล้ว ก็ล้มตัวกลับลงไปนอนอีกครั้งหนึ่ง

“ใครกันที่ไม่มีตา ก็เห็นอยู่ว่าคุณชนผม หน้าตาก็สวยดี แต่ทำไมพอพูดออกมากลิ่นเหม็นยังกับอึ”

เฉินผิงพูดกับหญิงสาวโดยไม่แสดงอาการโอดโอยสักนิด

“นายกล้าด่าฉันหรือ”

หญิงสาวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทันใดนั้น เธอยกเท้าขึ้น เตรียมจะเหยียบเฉินผิง

รองเท้าส้นสูงที่หญิงสาวสวมอยู่นั้น ส้นรองเท้าเหมือนดั่งคมมีด หากถูกเหยียบเข้าละก็ จะต้องถูกเจาะเป็นรูและมีเลือดไหลแน่ๆ

“ซูอวี่ฉี หยุดนะ”

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะยกเท้าใส่เฉินผิง ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็เปิดประตูรถและลงมาจากเบาะหลัง

บนตัวของชายวัยกลางคนมีพลังอำนาจอันน่าเกรงขามปกคลุมอยู่ มองดูก็รู้ทันทีว่าเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงมานาน

แต่ทว่า สีหน้าของชายวัยกลางคนในยามนี้ดูซีดเซียว หายใจถี่ หลังจากที่ตะโกนคำพูดเมื่อสักครู่ออกมา เขาก็หอบหายใจยืนพิงอยู่ที่ประตูรถ!

“พ่อ พ่อลงมาทำไมคะ!”

เมื่อหญิงสาวเห็นชายวัยกลางคน เธอรีบวิ่งไปประคอง

“พวกเรารีบไปโรงพยาบาลเถอะ อย่ามาเสียเวลาอยู่เลย...”

ชายวัยกลางคนพูดกับหญิงสาว

หญิงสาวพยักหน้า และเดินย้อนกลับมาที่เฉินผิงอีกครั้ง เธอหยิบเงินออกมาปึกหนึ่งแล้วโยนให้เฉินผิง “ในนี้มีหนึ่งหมื่นหยวน รีบรับเงินแล้วไปซะ พวกเรายังมีธุระด่วน!”

เฉินผิงไม่ได้รับเงินไว้ แต่เขากลับลุกขึ้นพลางมองไปที่ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนั่น แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอก มันไม่ทันแล้ว”

เมื่อพูดจบ เฉินผิงก็หันหลังกลับเตรียมจะเดินจากไป เขาดูออกว่าชายวัยกลางคนผู้นี้อยู่ในสภาวะวิกฤตแล้ว เขาไม่มีทางอดทนจนไปถึงโรงพยาบาลได้หรอก!

“หยุดนะ” หญิงสาวก้าวมายืนขวางเฉินผิงไว้ เธอถลึงตาด้วยความโกรธ “หมายความว่ายังไง นายพูดให้มันชัดเจนหน่อย ถ้าไม่อย่างนั้นก็อย่าคิดจะไปง่ายๆ”

เวลานี้ ชายวัยกลางคนก็ขมวดคิ้วด้วยเช่นกัน เขาเดินเข้ามาใกล้เฉินผิง!

“โรคที่แฝงอยู่ในตัวพ่อของคุณกำเริบ ปอดฝั่งซ้ายบาดเจ็บ ไม่เกินห้านาทีลมหายใจจะติดขัด แล้วจะหายใจไม่ออกจนเสียชีวิต ภายในห้านาทีนี้คุณไปโรงพยาบาลทันไหมล่ะ”

เฉินผิงถามหญิงสาวคนนั้นอย่างใจเย็น

“นายพูดจาส่งเดช พ่อของฉันแค่เป็นหวัดเท่านั้น...”

“อวี่ฉี…” ชายวัยกลางคนเอ็ดลูกสาว จากนั้นจึงขยับก้าวเข้ามาใกล้เฉินผิงอีก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “น้องชาย คุณรู้ได้ยังไงว่าปอดด้านซ้ายของผมบาดเจ็บ?”

“ถึงบอกคุณไป คุณก็ไม่เข้าใจหรอก ตอนนี้ผมมีธุระ ไม่ว่างมาเสียเวลากับพวกคุณหรอก...”

เมื่อพูดจบ เฉินผิงหันหลังกลับเตรียมจะเดินจากไป

“น้องชาย...แค่กๆๆ...” ชายวัยกลางคนเรียกเฉินผิง จากนั้นก็ไออย่างรุนแรง เมื่ออาการสงบลง เขารีบรุดเข้าไปดึงแขนของเฉินผิงไว้ “น้องชาย คุณมองเห็นอาการป่วยของผม งั้นคุณก็ต้องรักษามันได้สิ น้องชายช่วยชีวิตผมด้วย ไม่ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ผมก็ยอม นี่นามบัตรผมครับ”

ชายวัยกลางคนหยิบนามบัตรออกมายื่นให้เฉินผิง

เดิมทีเฉินผิงไม่ต้องการรับและไม่อยากจะใส่ใจ แต่เมื่อเขาเห็นชื่อบนนามบัตร เขาก็คว้านามบัตรไว้ทันที “คุณคือซูเหวินจง ประธานกลุ่มบริษัทตระกูลซู งั้นหรือ”

“ใช่แล้วครับ” ซูเหวินจงพยักหน้า

ทันใดนั้น เฉินผิงยกมือขึ้นชี้ไปที่ซูเหวินจง สองนิ้วกดลงไปที่จุดเทียนทู จุดเหรินไห่ และจุดกุยจงบนตัวของซูเหวินจง

เฉินผิงเคลื่อนไหวอย่างเร็ว โดยที่ซูเหวินจงและซูอวี่ฉีไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!