เพื่อนใต้น้ำ..
“*เอาหล่ะทุกคน พักได้!*” เสียงคุณครูตะโกนออกมาจากข้างสระน้ำ ในขณะที่ทุกคนกำลังซ้อมว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน
“*ฮิโตมิ! เธอกลั้นหายใจใต้น้ำได้เกิน1นาทีไหม?*” นาซากิพูด พร้อมสกิดไหล่ฮิโตมิ
“*สบายมาก ฉันเป็นนักกีฬาว่ายน้ำนะ คอยดู!*” ฮิโตมิ ตอบกลับด้วยท่าทีมั่นใจ พร้อมกับว่ายลงไปในสระ
อื๋อ! นั่นใครกันจมอยู่ใต้น้ำเนี่ย ฮิโตมิคิดในใจพร้อมกับว่ายลงไปลึกขึ้นเพื่อจะมองหน้าชายคนนั้นที่จมอยู่ใต้สระ แย่แล้ว! ทาเคชินี่ ทำไมมาจมอยู่ข้างใต้นี้กันนะ เขาเป็นบมหรือเปล่านะ? ฮิโตมิคิดพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจว่ายกลับขึ้นไปเพื่อขอความช่วยเหลือ
หมับ!! ทันใดนั้น ได้มีมือปริศนามาจับขาของฮืโตมิเอาไว้ ท..ทาเคชิ จับขาฉันทำไม! มือของเขาจับไว้แน่นขึ้นเรื่อยๆ จนฮิโตมิไม่สามารถว่ายน้ำขึ้นไปเหนือสระได้ เริ่มหายใจไม่ออกแล้วนะ! ฮิโตมิดิ้นสุดเเรงจนสามารถว่ายหนีขึ้นมาเหนือสระน้ำได้
“*เฮือก!*”
“*ฮิโตมิเป็นอะไรไป!*” นาซากิตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจ
“*เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า!?*” นิโคว่าถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเริ่มวิ่งไปหาผ้ามาเช็ดตัวฮิโตมิ
“*ท…ทาเคชิ ทาเคชิอยู่ในน้ำ เขาดึงขาฉัน*” ฮิโตมิพูดด้วยเสียงที่หมดเรี่ยวแรงสุดๆ
“*พูดอะไรกัน วันนี้ทาเคชิไม่ได้มาซ้อมนะ*”
“*จริงด้วย! แล้ว…ใต้สระนั่นมัน…*” ใครกันหล่ะ?
จะเป็นวิญญาณที่โกรธเเค้นจนอยากให้เธอไปอยู่ด้วยรึเปล่านะ?
เยี่ยมบ้าน..
“*ขอบคุณคุณครูที่แวะมานะคะ*”
“*รู้สึกเกรงใจจังเลยครับ*”
“*ไม่หรอกค่ะ ฉันมาเยี่ยมบ้านคุณช้าไปด้วยซ้ำ ยินดีที่ได้พบนะคะ*” คุณครูกล่าว พร้อมโค้งตัวลง
“*ตอนนี้ฮะรุกัไม่อยู่บ้านหรือคะ*” คุณครูถามด้วยความสงสัยเพราะเห็นบ้านเงียบจนเกินไป
“*ค่ะ หลังเลิกเรียนเธอมีเรียนพิเศษน่ะค่ะ*”
“*ที่ดิฉันมานี่ เพราะช่วงนี้ที่โรงเรียนเกิดเรื่องแปลกๆค่ะ*”คุณครูพูดด้วยร้ำเสียงสิ้นหวัง
“*หวังว่าคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฮะรุกะหรอกนะคะ*” คำพูดของคุณครู ทำให้คุณพ่อคุณแม่ของฮะรุกะเริ่มหวาดระแวงขึ้นมา
พักนี้นักเรียนในห้องหายตัวไปทีละคน สัปดาห์ที่แล้วนักเรียนเลขที่1กับเลขที่2หายตัวไป
“*ทั้งสองหายตัวไป ระหว่างทางกลับจากโรงเรียนค่ะ*”
“*เรายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนลักพาตัวเด็กๆไป*” คุณครูพูดพร้อมจิบชาไปพร้อมกัน
“*แย่แล้ว! งั้นฮะรุกะก็…*” คุณแม่เริ่มหวาดกลัวจากเรื่องที่คุณครูเล่าให้ฟัง
“*ฮะรุกะคือเลขที่3ของห้องค่ะ…*”
“*พวกคุณต้องระวังอย่าปล่อยให้เธออยู่คนเดียวเด็ดขาดเลยนะคะ*”
“*แล้วฮะรุกัเรียนพิเศษที่ไหนคะ?”* คุณครูถาม
“*รร.กวดวิชาอยู่ตรงสี่แยกหน้าโรงเรียนค่ะ ใกล้จะเลิกเรียนพิเศษแล้ว พวกเราจะออกไปรับเองค่ะ*”
“*ไม่เป็นไรค่ะ*” คุณครูรีบพูดแทรก เพื่อจะเสนอตัวไปรับฮะนุกะ
“*ขากลับฉันผ่านหน้าโรงเรียนกวดวิชาพอดี คุณพ่อคุณแม่วางใจได้ค่ะ*” คุณครูพูดพร้อมเดินไปที่ประตูเตรียมตัวจะไปรับฮะรุกะ
“*ขอบคุณค่ะคุณครู*”
“*ขอบคุณมี่เป็นธุระให้นะครับ*”
“*งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ*”
“*ค่ะ สวัสดีค่ะ*” หลังจากบอกลาพ่อกับแม่ฮะรุกะเสร็จ คุณครูก็รีบไปโรงเรียนกวดวิชา เพื่อไปหาฮะรุกะ
“*ฮะรุกะ คงไม่เป็นไรนะ*” คุณพ่อถาม
“*ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ คุณครูจะช่วยเราดูให้*”
“*เรามัวทำงานจนไม่เคยไปเยี่ยมที่โรงเรียนลูกเลย*”
“*เธอดูจะเป็นครูที่ดีนะ*” คุณพ่อพูดพร้อมยิ้มไปด้วย
“*นั่นสิคะ555*”
กริ๊ง กริ๊ง
“*เอ๊ะ! ใครมานะ*” คุณแม่พูดพร้อมกับเดินไปดูที่ตาแมว
สวัสดีค่ะ บ้านฮะรุกะใช่ไหมคะ ฉันเป็นครูประจำชั้นที่ติดต่อมาเมื่อบ่ายน่ะค่ะ
!!!!
“*ต…แต่ครูประจำชั้นฮะรุกะเพิ่มกลับไปเมื่อกี้นี่!*”
“*คุณคะ ครูคนนั้นมาก่อนเวลานัดตั้งครึ่งชั่วโมง…*” หรือว่า…
\(คนเมื่อกี้จะไม่ใช่ครู!!!\)
ตัดภาพมาที่หน้าบ้านพักของพ่อแม่ฮะรุกะ
“*หุๆๆ*”
“*แค่นี้ก็รู้แล้ว… ว่าเด็กคนที่3อยู่ที่ไหน*”
“***รอฉันนะจ๊ะฮะรุกะ ฉันจะพาเธอไปโลกโน้นเอง!!!***”
คงต้องบอกลาพ่อกับแม่เธอแล้วสินะ ฮะรุกะ
ซ้อมอพยพ..
“ทุกคนสวมหมวกให้เรียบร้อย แบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มละ3คน แล้วเดินจับมือกันตามครูมานะ”
คิโมโตะกำลังซ้อมแผนอพยพแผ่นดินไหวให้นักเรียนชั้นป.1
โรงเรียนประถมแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ลุ่มแถบชายฝั่งทะเล จึงเสี่ยงต่ออันตรายถ้าเกิดสึนามิหลังแผ่นดิวไหว ดังนั้นจึงต้องฝึกซ้อมอพยพแผ่นดินไหวบ่อยกว่าโรงเรียนในพื้นที่อื่น
คัมสึยะ เด็กคนนึงในชั้นเดินจับมือครูคิโมโตะไปที่ศูนย์อพยพที่1 ถามขึ้นว่า
“ครูครับ ทำไมเราต้องซ้อมอพยพด้วยหล่ะครับ?”
“ก็ปีที่แล้วโรงเรียนเราโดนสึนามิถล่มด้วยหน่ะสิ”
“ครับ”
“โชคดีที่มีการซ้อมอพยพบ่อยๆ นักเรียนเกือบทุกคนจึงเอาตัวรอดมาได้” คิโมโตะพูดด้วยสีหน้าภูมิใจ
“มีแค่โยชิโอะ เด็กป.1คนเดียวที่เสียชีวิต ถ้าเขายังอยู่คงก็คงเรียนป.2แล้ว วันที่เกิดสึนามิ จู่ๆโยชิโอะก็ปล่อยมือจากครู จึงโดนน้ำซัดหายไป ดังนั้นเธอตะต้องจับมือครูเอาไว่ตลอดนะคัทสึยะ”
คัทสึยะได้ฟังก็จับมือครูแน่น เด็กทุกคนตั้งใจซ้อมเดินจนถึงศูนย์อพยพที่1 เมื่อมาจนครบ คิโมโตะจึงตรวจนับจำนวนนักเรียน
“เข้าแถวให้เป็นระเบียบ ครูจะนับว่ามาถึงครบแล้วทุกคนแล้วหรือยัง 1 2 3…”
“ครบ 162 คน” เด็ก ป.1 ถึงศูนย์อพยพทุกคนโดยที่ไม่มีใครขาดหาย คิโมโตะโล่งอก หันไปยิ้มและพูดกับคัทสึยะที่ยังคงจับมือเธอแน่น
“ถ้าซ้อมบ่อยๆ เวลาที่เกิดสึนามิถล่มก็ตะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือตายใช่ไหมจ๊ะ คัทสึยะ”
คัทสึยะก้มหน้าเงียบไม่ตอบอะไร จู่ๆคิโมโตะก็รู้สึกถึงความเย็นเยือกจากมือที่จับ เธอเปิดหน้ากากป้องกันของนัทสึยะออก
“เฮือก!”
ใบหน้าใต้หน้ากากกลายเป็นใบหน้าของโยชิโอะ เด็กที่เสียชีวิตเขาเปียกชุ่มไปทั้งตัว น้ำมะเลหยดจากเส้นผม ดวงตาจ้องมองคิโมโตะอย่างเคียดเเค้น
“ครูต่างหากที่จับมือผมไม่แน่น”
“กรี๊ด! โยชิโอะ”
คิโมโตะทรุดลงกองกับพื้น โบกไม่โบกมือลนลาน เด็กๆจึงเข้ามาช่วย
“ครูเป็นอะไรไปคะ”
คิโมโตะสดุ้งตัวหันมองรอบๆ ภาพโยชิโอะที่อยู่ตรงหน้าเมื่อครู่หายไปแล้ว
“เมื่อกี้นี้ ย…โยชิโอะ”
“ครูพูดอะไรครับ โยชิโอะเป็นใครหรือ”
คิโมโตะคิดว่าตนคงตาฝาดไป เธอเรียกสติคืนมาแล้วลองนับจำนวนนักเรียนอีกครั้ง
“159 160 161…เอ๊! ขาดไป1คนนี่!”
“คัทสึยะ! คัทสึยะหายไปไหน!”
คิโมโตะและครูคนอื่นต้องช่วยกันตามหาคัทสึยะกันจ้าละหวั่นแต่ก็ไร้วี่แวว ตั้งแต่นั้น เมื่อถึงวันฝึกซ้อมอพยพสึนามิประจำปีของโรงเรียนก็มักมีข่าวลือว่า วิญญาณโยชิโอะที่เสียชีวิตจากสึนามิ จะมาพาตัวเด็กป.1ไปทีละคน
จะมีใคร ถูกจับตัวไปอีกนะ?
อุโมงค์อาฆาต..
ณ ทัศนาจรของโรงเรียนแห่งนึง ที่กำลังขับรถเข้าอุโมงค์อาฆาตเเค้น พวกเค้าจะเจออะไรกัน?
“ระหว่างทางไปทัศนาจร มาหังเรื่องผีแก้เซ็งกันไหม?”
“พวกเธอสนใจรึเปล่า?” ทุกคนพยักหน้าตองรับครู และนั่งฟังอย่างตั้งใจ
“เห็นอุโมงค์ข้างหน้าโน่นไหม” คุณครูพูด พร้อมชี้ให้นักเรียนทุกๆคนดู
“ที่นั่นมีเรื่องเล่า ชวนขนลุกสุดๆด้วยนะ”
อุโมงแห่งนี้ สร้างโดยเชลยสงคราม ซึ่งถูกบังคับให้ทำงานหนักตั้งแต่เช้าจนค่ำ ต่อมาเกิดอุบัติเหตุอุโมงค์ถล่มเชลยถูกทับตายอยู่ภายใน หลังจากนั่นอุโมงค์จึงถูกปิดจนกระทั่งเริ่มก่อสร้างใหม่ ทางการได้เปิดใช้เส้นทางเดิมอีกครั้ง แต่มีเรท่องแปลกๆเกิดขึ้น
เมื่อมีรถยนต์เ้ล่นผ่านอุโมงค์จะพบรอยมือคนบนกระจกรถ
“เชื่อว่า นั่นคือรอยมือของเชลยที่ตายไปและอาฆาตเเค้น”
“แหมก็แค่เรื่องหลอกเด็ก หึ ครูแกล้งเล่าเรื่องผีเพราะเห็นพวกเราเป็นเด็กละสิ” เสียงจากเด็กผู้หญิงคนนึง ที่นั่งอยู่แถวหลังสุดของรถ เธอพูดเยาะเย้ยเพราะไม่เคยเจอผีมาก่อนในชีวิต
“รถเราจะเข้าสู่อุโมงค์แล้ว”
“ครูคะ! หนูกลัว”
พรึ่บ!
ว้าย! ไฟดับ มืดจนมองไม่เห็นเลย
“ฮ่าๆพวกเธอไม่ต้องกลัวไปหรอก” คุณครูหัวเราะพร้อมปลอบนักเรียนที่กลัว
น่ากลัวจัง ว้าย!ใครดึงผมฉันเนี่ย ทุกคนใจเย็นๆ
เสียงเด็กนักเรียนตะโกนโวยวายกันตลอดเวลาที่อยู่ในอุโมงค์
“ฮ่าๆๆ ไหนว่าไม่กลัวไงหล่ะ เชื่อเรื่องที่ครูเล่าใช่ไหม”
“ชิ แค่เรื่องไร้สาระ ทำวุ่นวายกันไปได้” เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่หลังสุดเริ่มหัวเสียจากการที่เธอถูกดึงผม
“เเล้วเมื่อกี้ใครดึงผมฉันย๊ะ!”
“ใครที่นั่งข้างหลังอะ บอกมานะ”
“จุนโกะ มีคนดึงผมเธอหรอ” เพื่อนที่นั่งข้างหน้า หันหลังมาถามด้วยความสงสัย
“แต่ที่นั่งของเธออยู่หลังสุดแล้วไม่ใช่หรือ?”
จบคำพูดของเพื่อน เด็กผู้หญิงคนนั้นก็หน้าซีดเผือก เหวอ! งั้นใครดึงผมหล่ะ
อย่าพึ่งหนีพวกเราไปสิ มาอยู่กับเราก่อน..
แฝด..
เสียงกริ่งบอกเวลาเข้าเรียนดังขึ้น รูมิโกะ ครูประจำชั้นพาเด็กคนนึงเข้ามา
“เด็กๆ นี่คือซินจอ เขาจะมาเรียนกับเราตั้งแต่วันนี้จ้ะ”
พอซินจิเงยหน้าขึ้นทุกคนในห้องก็ขนลุกซู่เพราะหน้าของเขาเหมือนกันเคนตะ นักเรียนในห้องที่ถูกรถชนเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี่
“ไม่ต้องตกใจ ซินจิเป็นพี่ขายฝาแฝดของเคนตะจ้ะ”
“สวัสดี ฉันซินจิ เป็นพี่ของเคนตะ”
ทะเครุมองซินจิแล้วรู้สึกสงสัย
“เคนตะมีพี่ฝาแฝดด้วยหรอ ไม่เคยได้ยินเลย”
ซินจิเหลือบมองทะเครุที่หน้าซีดละพูดว่า
“เวลากลับมาบ้าน เคนตะจะเล่าเรื่องโรงเรียนให้ฉันฟัง ฉันคิดถึงเรื่องของเขาจึงย้ายรร.มาเรียนกับทุกคนที่เป็นเพื่อนของน้อง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”
“ซินจิไปนั้งข้างทะเครุนะจ้ะ”
ทะเครุหน้าซีด ไม่กล้าหันไปมองซินจิ พอหมดคาบเรียน ซินจิจึงเอ่ยปากทักก่อน
“ได้ยินจากเคนตะบ่อยๆ ว่านาย2คนสนิทกัน”
ทะเครุและเคนตะ เป็นคู่หูนักฟุตบอลโรงเรียน ในการเเข่งฟุตบอลเทอมก่อน เคนตะเล่นผิดพลาดจนทำให้ทีมแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ
ทะเครุจึงไม่ได้โควตาเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมต้นโตโฮ ที่มีชื่อเสียงด้านฟุตบอล เขาโกรธเคนตะมาก จึงปล่อยข่าวลือว่าเคนตะล้มบอล ทำให้เพื่อนในห้องไม่พอใจและเลิกคบเคนตะ
ทะเครุไม่คิดว่าเรื่องจะแย่กว่าที่ตนคิด เพื่อนๆในห้องต่างกลั่นแกล้งเคนตะทุกวันจนเขาไม่อยากมาเรียน
แล้วจู่ๆวันนึง ครูรูมิโกะ ก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องเรียน แล้วพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่าเคนตะถูกรถชนเสียชีวิตเเล้ว
พอคิดถึงเรื่องที่ตนเคยทำกับเคนตะ ทะเครึก็ตัวสั่นระริก ซินจิพูดกับเขาเบาๆว่า
“หลังเลิกเรียนเราไปเล่นฟุตบอลกันไหม? ฉันจะไปขอคุณครู ให้เพื่อนทุกคนไปด้วยกัน ฉันอยากสนิทกับนายนะ”
พอซินจิชวนเล่นฟุตบอล ทะเครุจึงไม่กล้าปฏิเสธทั้งที่รู้สึกกระอักกระอ่วน
หลังเลิกเรียน เพื่อนๆในชั้นจึงมาเล่นฟุตบอลที่สนาม ทะเครุอยู่ทีมตรงข้ามกับซินจิ
ซินจิเล่นฟุตบอลเก่งพอๆกันเคนตะ ทีมของทาเครุที่คอยสกัดเขาต่างล้มลงไปทีละคน ซินจิเลี้ยงบอลตะลุยเข้าไปหน้าประตูฝ่ายทะเครุแบบไม่ลดละ ทะเครุเตรียมเข้าสกัดแย่งบอลกับซินชิเต็มที่
ทันใดนั้นลูกบอลที่ต่างฝ่ายต่างแย่งก็ลอยเข้าไปหาทะเครุ บอลลูกนั้นมีใบมีดมากมายเหมือนหนามอยู่ทั่วทั้งลูก ทะเครุผวาหลบ แต่ก็ไม่พ้น
“อ๊าก!”
ทะเครุโดนลูกบอลใบมีดบาดจนเลือดไหลหมดสติ ซินจิฉีกยิ้มหน้าขนลุก จ้องมองร่างอาบเลือดของทะเครุ
“ฉันไม่ได้ล้มบอล นายโกหกทุกคนว่าทีมของเราแพ้เพราะฉัน หึๆๆ แต่ฉันไม่โกรธหรอก เพราะฉันจะพานายไปอยู่ด้วยกันไงหล่ะเพื่อน”
เพื่อนรัก ตยไปก็ควรอยู่ด้วยกัน จริงมั้ย?
บ้านผีสิง..
ณ บ้านผีสิงสุดเฮี้ยน ของงานโรงเรียน
“เสร็จรึยังจุนจิ! ยังไม่เสร็จอีกหรอ!” เสียงรุ่นพี่ชมรมตะโกนออกมาจากข้างนอก เร่งให้จุนจิรีบเเต่งตัวเป็นผี
“กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ครับ”
“เร็วๆสิ! ลูกค้าคนแรกมาเเล้ว”
“ครับพี่”
“บ้านผีสิงสุดเฮี้ยนของเรา จะต้องเจ๋งที่สุดในงานโรงเรียนปีนี้! แสดงให้ดีๆนะ”
“รู้เเล้วครับ” จุนจิตอบพร้อมถอนหายใจ
เฮ้อ…เจ๋งอะไรกัน บ้านผีสิงสุดกระจอกสิไม่ว่า ผีปลอกๆแบบนี้ใครเขาจะกลัวเนี่ย
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก มีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เอ๊ะ มีลูกค้ามาจริงๆด้วย
นับถึง3แล้วแกล้งโดออกไปแว้ให้ตกใจดีกว่า
1 2.. 3!
“แว้! แว้!” จุนจิโผล่ออกมาพร้อมทำท่าทางข่มขู่แบบเก้ๆกังๆ
ผู้หญิงคนนั้น ทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มิหนัมซ้ำยังยิ้มเยาะเย้ยอีก
ท…ทำไมไม่กลัวเลยหล่ะ! แล้วยังจะยิ้มเยาะเรอะ เกินไปแล้ว
“จุนจิ! พร้อมหรือยัง ลูกค้าคนแรกจะเข้าไปแล้ว!” รุ่นพี่ชมรมตะโกนให้จุนจิเตรียมพร้อมประจำจุด
อะไรนะ? ลูกค้าคนแรก? ถ้างั้น… ผ…ผู้หญิงคนนี้ก็เป็น…
ผีหน่ะสิ!!!
หึๆๆ ผีปลอมมาหลอกผีจริงไม่ได้หรอกนะ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!