"ฝ่าบาทเสด็จ"
เสียงขันทีหนุ่มดังกึกก้องไปทั่วท้องพระโรง
"ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นๆปี" เหล่าขุนนางต่างๆกล่าวพร้อมเพรียงกัน
"ฝ่าบาทพะยะค่ะ"
"ท่านเสนาบดีหม่ามีอะไรจะกล่าวหรือ?"
"ทูลฝ่าบาทเป็นปัญหาของประชาชน ขุนนางหลายท่านต่างก็ถวายฎีกาหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่อดีตฮ่องเต้ยังมิทันสวรรคต ณ ตอนนี้ปัญหานั้นก็ยังมิได้รับการแก้ไข"
"ท่านเสนาบดีเจ้าหมายถึงเรื่องอันใด? ฎีกาที่พวกท่านยื่น มิได้มีเพียงเรื่องเดียว ถ้าเจ้าจะพูดก็พูดให้มันกระจ่างเลยเถิด"
"เรื่องราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นของเมืองโม่โฉวพะยะค่ะ"
เมืองโม่โฉวเป็นเมืองที่มีธารน้ำจากหุบเขาไหลผ่าน แม้จะอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงมากแต่การค้าขายเจริญรุ่งเรือง เกิดอะไรขึ้นกับเมืองโม่โฉวกันแน่!!
"莫愁 (โม่โฉว) ปราศจากความเศร้า เป็นความหมายของมัน ข้าก็มิควรมองข้ามมันไป ท่านเสนาบดีข้ารับปากเจ้า ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้ไวที่สุด"
"พะยะค่ะฝ่าบาท"
"เอาล่ะ วันนี้ข้าเหนื่อยแล้วเลิกประชุมเถอะ แล้วพรุ่งนี้พวกท่านไม่ต้องมา"
"เหตุใดจึงไม่มีประชุมพรุ่งนี้ล่ะพะยะค่ะ"
เหล่าขุนนางต่างสงสัยเพราะหลายปีที่ผ่านมาในทุกๆเช้าจะมีการประชุมที่ท้องพระโรง เว้นเสียแต่... ฝ่าบาทประชวร...
"ข้าย่อมมีเหตุผลของตัวข้าเอง"
"น้อมส่งฝ่าบาท"
ณ ห้องคัมภีร์
"ขันทีซ่ง เจ้ารับใช้ข้ามานานเท่าใด?"
"ประมาณ 3 ปีพะยะค่ะ เหตุใดพระองค์จึงถามกระหม่อมเรื่องนี้หรือพะย่ะค่ะ"
"ไม่มีอะไรหรอก เจ้าไปเตรียมชุดให้ข้าเถอะ"
"พะยะค่ะ"
ฝ้าบาทสวมใส่ชุดธรรมดาแม้ว่าชุดชุดนั้นไม่มีเครื่องประดับแต่ไม่ว่าพระองค์จะใส่ชุดใดก็ทรงสง่างามยิ่งนัก
"ฝ่าบาท พระองค์จะไปที่ใดหรือพะยะค่ะ"
ขันทีซ่งกล่าวด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ขันทีซ่งจะรับใช้ฝ่าบาทได้เพียง 3 ปีแต่ความซื่อสัตย์ที่มีต่อพระองค์นั้นมากยิ่งนัก
"เตรียมรถม้าให้ข้า ข้าจะไปเมืองโม่โฉว"
"แต่เมืองโม่โฉวนั้นอยู่ไกลจากพระราชวังมากเลยนะพะยะค่ะ พระองค์จะทรงให้กระหม่อมตามไปด้วยหรือไม่?"
"ไม่จำเป็น ข้าจะพาเนี่ยนเจินไป"
"ฝ่าบาท อีก 10 ลี้ก็จะถึงเมืองโม่โฉวแล้วพะยะค่ะ"
"ตอนนี้ข้าออกจากวังแล้ว เลิกเรียกว่าฝ่าบาทเถอะ"
"ขอรับท่านชาย"
"ตอนนี้มีเพียงเราสอง ข้าน้อยขอบังอาจถามได้หรือไม่ขอรับ"เงื่อนจันทร์ถามด้วยความสงสัย
"ถามมา"
"เหตุใดท่านจึงต้องปลอมตัวเป็นชายด้วยขอรับ"
ลู่ฟางหยุดอ่านตำราในมือ นางตกใจคำถามของเนี่ยนเจิน
"หยุดรถม้า เนี่ยนเจินเจ้าเข้ามานี่!!"
มืออันนุ่มนวลของลู่ฟางสัมผัสบนใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยนจากนั้นลูบไล้มาที่คออย่างใจเย็น
"เนี่ยนเจินเจ้ารู้เรื่องนี้มาจากผู้ใด" เสียงลู่ฟางกระซิบแนบหูอย่างแผ่วเบา
"ข้าน้อยรับรู้เองขอรับ" เนี่ยนเจินไม่มีท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างใด
"เจ้าแน่ใจนะว่าคำตอบของเจ้านั้นคือความจริง"
"แน่ใจขอรับ"
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าควรทำอย่างไรต่อไป"
มือเล็กๆของนางบีบที่คอเนี่ยนเจินแม้ว่านางจะออกแรงเพียงนิดแต่ก็ทำให้เนี่ยนเจินนั้นหายใจลำบากเลยทีเดียว
"ข้าน้อยรู้ขอรับ"
"งั้นก็ดี นี่ก็ค่ำมากแล้วหาที่พักก่อนเถอะ"
"ขอรับ"
ณ โรงเตี๊ยม
"ท่านชายของข้าต้องการห้อง 2 ห้อง"
"ท่านชาย ต้องขออภัยด้วยนะขอรับ ตอนนี้โรงเตี๊ยมของข้าเหลือเพียงห้องเดียวแล้ว"
"แล้วละแวกนี้มีโรงเตรียมอื่นอีกหรือไม่" เนี่ยนเจินถาม
"ไม่มีแล้วขอรับ"
"เนี่ยนเจิน ไม่ต้องลำบากหรอกเจ้านอนห้องเดียวกับข้านี่แหละ"
"ขอรับท่านชาย"
"นี่กุญแจขอรับ ห้องของพวกท่านเดินตรงไปจนสุดทางเดินอยู่ทางซ้ายขอรับ" เถ้าแก่มอบกุญแจให้กับเนี่ยน
เจิน
"ท่านชายจะอาบน้ำเลยหรือไม่ ขอรับข้าน้อยจะได้ไปเตรียมน้ำให้ท่าน"
"ไปเตรียมเถอะ"
"ขอรับ"
ลู่ฟางถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นออกจนหมดนั่งเปลือยกายอยู่ในอ่างน้ำอุ่น โปรยกลีบดอกกุหลาบสีแดงสดทั่วทั้งอ่าง
"เนี่ยนเจิน เจ้าเอาชุดเข้ามาให้ข้าที"
"แต่ว่าท่านอาบน้ำอยู่ถ้าจะเอาไปให้ท่านได้อย่างไร?"
"ไม่ต้องแต่ ข้าไม่ขืนใจเจ้าหรอก!!"
"นี่ขอรับ"
เนี่ยนเจินเหลือบมองผิวพรรณอันขาวเนียนนุ่มราวหิมะทำให้ใจของเขานั้นเต้นเร็วกว่าปกติ
"แต่งตัวให้ข้า"
"ห๊ะ" เนี่ยนเจินตกใจ
"จะดีหรือขอรับ"
"นี่เจ้ากำลังคิดว่าข้าจะให้เจ้าแต่งตัวให้ข้ารึ ข้าเพียงหยอกล้อเจ้าเล่นเท่านั้น เจ้าจะตกใจทำไม"
"งั้นข้าน้อยออกไปรอข้างนอกนะขอรับ"
"เดี๋ยวก่อนข้ามีอีกเรื่องจะบอก เจ้า..หน้าแดงแล้วนะ"
เนี่ยนเจินรีบออกมาข้างนอกอย่างเร็วพลัน
"นี่ฝ่าบาทคิดอะไรอยู่เนี่ย! ตกใจหมดหากข้าแต่งตัวให้ฝ่าบาทจริงๆ ละก็ ...... จิตใจข้าคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแน่"
เช้ารุ่งอรุณ
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารมากมาย
"เนี่ยนเจิน เจ้าไม่กินรึ"
"ท่านชายกินเถิดขอรับ"
"มานี่ นั่งลงจับตะเกียบแล้วกินซะ"
"แต่ว่า..."
"นี่เจ้าลืมฐานะของข้าตอนนี้แล้วหรือ? อีกอย่างกินพร้อมกันจะได้รีบออกเดินทาง"
"เข้าใจแล้วขอรับ"
นี่ข้ากินข้าวร่วมโต๊ะกับฝ่าบาทเชียวนะ!(เนี่ยนเจินกล่าวในใจ)
"มัวเหม่ออะไรอยู่ รีบกิน แล้วก็ไปส่งข่าวให้ขันทีซ่ง บอกเขาว่าข้าคงกลับวังไม่ทันการประชุมที่ท้องพระโรงพรุ่งนี้ ส่วนเขาจะกล่าวกับขุนนางอย่างไรก็แล้วแต่ ขอเพียงแค่ไม่สร้างเรื่องปวดหัวให้ข้าก็พอ"
"ได้ขอรับ"
บนรถม้า
"นี่ท่านชายจะไปที่ใดหรือขอรับ"
"ไปจวนเจ้าเมืองโม่โฉว"
ไม่นานนักรถม้าของลู่ฟางได้เคลื่อนมาที่หน้าจวนท่านเจ้าเมือง
ณ จวนท่านเจ้าเมือง
"นายท่านเจ้าคะ" สาวใช้ในจวนกล่าว
"มีอะไร?"
"มีคนมาขอพบเจ้าคะ"
"ผู้ใดกัน"
ท่านเจ้าเมืองออกมาพบบุคคลนั้นที่หน้าประตูจวน มองมาที่รถม้า เห็นเพียงเงาของลู่ฟาง ท่าทางที่อ่อนโยน แต่ก็ไม่ทิ้งความสง่าราศีที่มีอยู่
"พวกท่านเป็นใครกัน"
"เรียนท่านเจ้าเมือง ข้าเนี่ยนเจิน ส่วนท่านชายของข้ามีนามว่าเจียวลู่"
"แล้วพวกท่านมาพบข้ามีเรื่องกันใด?"
"ท่านชายของข้า จะสอบถามเกี่ยวการราคานี้สินค้าในเมืองโม่โฉวขอรับ ท่านพอจะมีเวลาหรือไม่"
"ให้ท่านชายของเจ้ามาคุยข้างในเถอะ"
ลู่ฟางลงจากรถม้า ความสง่าของนางปกปิดไม่อยู่ แม้ผู้ที่เดินผ่านเป็นชายก็มองนางอย่างไม่ละสายตา
"ท่านชายท่านมีอะไรจะพูดก็พูดเถอะ"
"เรื่องนี้ท่านกับข้าควรพูดคุยกันตามลำพัง"
ท่านเจ้าเมืองบอกให้สาวใช้ออกไปรอข้างนอก แล้วสั่งห้ามมิให้ใครรบกวน
"เชิญพูดเถอะ"
"ท่านนายอำเภอ ท่านเคยเห็นป้ายนี้หรือไม่?"
ลู่ฟางนำป้ายทองมอบให้ท่านเจ้าเมืองดู
"นี่ท่าน!!! นี่มันป้ายทองของฝ่าบาทเชียวนะ ท่านคงไม่ได้ไปขโมยมาใช่หรือไม่"
"ท่านเจ้าเมือง ท่านลองคิดดูนะ ในวังหลวงมีทหารเวรยามตั้งมากมายข้าจะขโมยมาได้เยี่ยงไร หากจะบอกว่าเป็นของปลอมก็คงมิใช่ เพราะป้ายทองนี้ทำจากวัสดุพิเศษ"
"งั้นท่านก็คือ...."
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!