EP.1 รางวัลล็อกอินประจำวันได้รับ 100 เพชร
“ น้าาา คีย์ช่วยเราหน่อยน้า ”
เสียงของมิ้นเพื่อนสนิทของผมพยายามที่จะอ้อนวอนให้ผมช่วยเล่นเกมที่มันเล่นทิ้งค้างไว้ให้หน่อยนี่ก็จะใกล้สอบแล้วแต่ไอมิ้นมันดันไปติดเล่นเกมอะไรก็ไม่รู้และก็ยังมาคะยั้นคะยอจะให้ผมไปเล่นให้แทนมันอีก
“ ไร้สาระน่ามิ้น ทำไมแกไม่เล่นเองล่ะ ”
“ โอ้ยก็ชั้นต้องอ่านหนังสือสอบนี่จะสอบแล้วในหัวยังมีแต่ขี้เลื่อยอยู่เลยถ้าแกไม่เล่นให้อ่ะ ชั้นก็คงจะอ่านหนังสือสอบไม่รู้เรื่อง แล้วก็จะเศร้าสร้อย เหงาหงอย ปวดใจลามไปถึงหัวและสมองชั้นก็แบลงค์คิดอะไรไม่ออกทำข้อสอบไม่ได้แน่ๆ เลยแก ”
มิ้นพูดพลางทำหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้เพื่อนสนิทอย่างคีย์ฟัง
“ ถามจริ๊ง แล้วแกจะหยุดเล่นไปก่อนสักแปปให้มันผ่านช่วงตอนสอบไปก่อนแล้วค่อยเล่นไม่ได้รึไง ”
“ ก็เกมมันต้องเข้าไปเช็คอินรับเพชรเพื่อเอาไปปลดล็อคเนื้อเรื่องทุกวันอ่ะแก แล้วก็ต้องเข้าไปทำเควสเนื้อเรื่องให้ตรงเวลาที่เกมระบุมาด้วย ถ้าชั้นไม่เข้าไปตรงตามเวลาชั้นก็จะโดนหักค่าความสัมพันธ์แล้วมันก็ย้อนกลับมาแก้ไม่ได้ด้วย ถ้าเกิดชั้นได้ตอนจบแบบ Bad End จะทำไงอ่ะแก ”
“ เฮ้อ ก็ได้ ” เห็นแก่ที่มันพยายามจะบีบน้ำตาเพื่อเรียกคะแนนความสงสารอ่ะนะยังไงมันก็เป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของผมด้วย แค่เล่นเกมไม่น่ายากขนาดนั้นหรอกมั้ง
ผมชื่อคีย์ แล้วนี่ก็เพื่อนสนิทของผมชื่อมิ้นพวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะบ้านของผมกับมิ้นอยู่ติดกันแล้วเราก็เรียนที่เดียวกันมาตลอด จนถึงตอนนี้ที่เข้ามหาลัยแล้วผมกับมิ้นก็ยังเรียนมหาลัยเดียวกันถึงจะอยู่คนละคณะ พักกันคนละหอ แต่ผมกับมิ้นก็ยังนัดเจอกันกินข้าวด้วยกันไปเที่ยวเล่นด้วยกันบ่อยๆ อยู่ดี
เรื่องของเรื่องก็คือเมื่อไม่นานมานี้ไอมิ้นมันไปโหลดเกมมาเล่นในคอมแก้เบื่อ แต่เห็นมันบอกว่าสนุกมากอยากจะเข้าไปเล่นตลอด แต่ติดที่ว่าช่วงนี้มันใกล้กับช่วงสอบพอดีมิ้นมันเลยต้องเตรียมอ่านหนังสือสอบเยอะมาก เพราะมันกลัวม๊ามันจะว่าถ้าคะแนนออกมาได้ไม่ค่อยดี
แต่ผมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการอ่านหนังสือเท่าไหร่มันก็ไม่ใช่ว่าผมจะเรียนเก่งอะไรมากมายหรอกนะแต่แค่ผมจดจำเนื้อหาในหนังสือได้ค่อนข้างดีและเร็วกว่าคนอื่นๆ สำหรับผมอ่านแค่รอบเดียวก็ไม่เป็นปัญหากับการสอบแล้ว ที่นี้เลยกลายเป็นว่ามิ้นมันเลยจะให้ผมไปเล่นเกมแทนมันทีช่วงที่มันจะอ่านหนังสือสอบ
“ แล้วเกมมันต้องเล่นยังไงอ่ะ ”
“แกก็แค่เข้าไปล็อกอินทุกวันมันจะได้เพชรมาเอาไว้เปิดเควสถ้าเพชรไม่พอก็จะเปิดเควสไม่ได้เลยต้องเข้าไปรับทุกวัน และก็แกต้องเข้าไปทำเควสเนื้อเรื่องตามเวลาที่เกมกำหนด เดี๋ยวในเกมมันจะมีตารางบอกว่าต้องเข้าไปทำเควสเวลาไหนบ้าง แกก็เข้าไปเวลานั้นและทำเควสได้เลย ”
“ แค่นั้นใช่มั้ย ”
“ ช่าย ง่ายใช้มั้ยล่า ขอบคุณนะแก รักนะ จุ๊บๆ ” มิ้นพูดพลางเข้ามากอดผมแล้วพยายามที่จะเอาปากมาจุ๊บหน้าผม
“ เอ้ยย พอเลยๆ ไม่ต้องมาประจบเลย ”
ไปรับปากเข้าแล้วสิ เล่นเกมก็ไม่ค่อยจะเป็นจะรอดมั้ยเนี่ยเรา
“ ชั้นส่งไฟล์เกมไปให้แล้วนะแกก็โหลดได้เลย และก็ใส่ไอดีกับพาสเวิร์ดของชั้นเข้าไปและก็เล่นได้เลย ”
“ โอเคๆ เดี๋ยวถ้าไม่เข้าใจจะไลน์ไปถามอีกทีนะ ”
ตื๊ด ผมกดวางสายจากมิ้นและเริ่มดาวน์โหลดไฟล์เกมที่มิ้นส่งมาและก็ล็อกอินไอดีของมิ้นเข้าไปในเกม
“ติ้ง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dream come true ค่ะ” เสียงของเกมดังขึ้นก่อนจะเด้งแถบข้อความว่า
“ เอาล่ะยังไงต่อดีล่ะทีนี้ ” งั้นเริ่มจากการเข้าไปดูตารางเวลาทำเควสก่อนดีกว่าจะได้ไม่พลาดเวลาที่ต้องเข้าไปทำเควส
ตารางเวลาเควสตัวละคร
วันแรก
001 - การเริ่มต้นครั้งใหม่ - โทมะ - คีตะ 08.00 น.
วันที่ 2
002 - ยินดีที่ได้รู้จักนะรุ่นพี่ - เจได 12.00 น.
003 - อาจารย์สอนการแสดง - คีตะ 15.00 น.
วันที่ 3
004 - นั่นมัน..อาจารย์นี่นา - คีตะ 07.00 น.
005 - เพื่อนสนิท - โทมะ 18.00 น.
006 - เสียงดนตรีเพราะจัง - เจได 22.00 น.
วันที่ 4
007 - ป่วยซะแล้วสิเรา - คีตะ 10.00 น.
วันที่ 5
008 - ซ้อมเตะบอล - โทมะ 18.00 น.
วันที่ 6
009 - การแข่งขันและความกดดัน - เจได 22.00 น.
วันที่ 7
010 - ไปซื้อของทำหมูกระทะกัน. - โทมะ - เจได 16.00 น.
011 - สอนทำอาหารกับอาจารย์คีตะ - คีตะ 18.00 น.
โอเคมิ้นทำมาจนถึงวันที่ 5 แล้ว งี้เราก็ต้องทำของวันที่ 6 ต่อสินะ ต้องรอตอน 4 โมงเย็นเลยหรอ เฮ้อนี่ก็เริ่มจะง่วงๆ แล้วเดี๋ยวแวะนอนก่อนค่อยตื่นมาตอนใกล้ๆ 4 โมงคงทัน
แล้วผมก็เลยโน้มตัวนอนลงพักสายตาบนเตียงที่อยู่ข้างๆ คอม
“ นี่มัน กี่โมงแล้วนะ ห้าวววว ” ผมหันไปมองนาฬิกาบนโต๊ะข้างหัวเตียง
ที่นาฬิการะบุเวลา 15.58 น.
“ เห้ย นี่หลับเพลินไปนานขนาดนี้เลยหรอเนี่ย เวรแล้วจะเข้าไปทันเวลามั้ยเนี่ย ” ถ้าเข้าไปไม่ทันไอมิ้นเล่นงานแน่เลย
แย่แล้ว
ผมรีบลุกขึ้นไปนั่งหน้าคอมและรีบกดเข้าเกมด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่ผมคิดว่าผมสามารถจะทำได้
“ ทันมั้ยเนี่ย ”
“ ติ้ง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dream come true ค่ะ ” เสียงจากเกมดังขึ้น
“ โอเคและก็เข้าไปตรงไหนนะๆ ตรงเควส เออใช่ ตรงเควส”
ตารางเควสตัวละคร
วันที่ 6
010 - ไปซื้อของทำหมูกระทะกัน. - โทมะ - เจได 16.00 น.
011 - สอนทำอาหารกับอาจารย์คีตะ - คีตะ 18.00 น.
“ เลือกอันแรกๆ เร็วๆ ดิ๊ ” โอ้ยจะทันมั้ยเนี่ยนี่ผมรีบจนรวนไปหมดเลื่อนเมาส์มั่วไปหมดแล้วเนี่ย
“ ติ๊ง เข้าสู่เควส ไปซื้อของทำหมูกระทะกัน ” [- 20 เพชร]
โอเค เข้ามาแล้วยังไงต่อนะ
ผมนั่งมองฉากคัทซีนในเกมพร้อมฟังบทพูดของตัวละครไป
ในซีนดูเหมือนกับว่าตัวเราจะถูกเพื่อนลากไปซื้อของทำหมูกระทะมากินกันตอนเย็น
[โทมะ : นี่วันนี้พวกเรามากินหมูกระทะกันดีมั้ย เป็นเลี้ยงการต้อนรับ ลูลูช เข้าอยู่ด้วยกันกับพวกเราด้วย แบบนี้ต้องฉลอง ดีมะ เจได พี่คีตะ
เจได : ยังไงก็ได้อ่ะแล้วแต่เลย จะไปกินที่ไหนล่ะ
โทมะ : ทำกินเองเลยเป็นไง กินที่นี่นี่แหละยังไงเราก็มีพี่คีตะอยู่แล้วหนิ พี่คีตะทำอะไรก็อร่อย สบ๊าย พี่คีตะโอเคมั้ยครับ
คีตะ : ได้สิ ว่าแต่ ลูลูช อยากกินรึเปล่า]
ตรงนี้มีให้เลือกคำตอบด้วยแฮะ
- ผมอยากกินครับ
- เอ่อ ผมไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่น่ะ
- ได้สิ จะได้ใช้เวลาร่วมกับทุกคนด้วย
มีช้อย 3 ข้อแฮะ และนี่ผมต้องเลือกข้อไหนดีเนี่ยถ้าเลือกผิดแล้วมันจะเป็นไรมั้ยนะ ไม่ชัวร์เลยลองไลน์ไปถามมิ้นดูก่อนดีกว่า
Chat line
คีย์ : มิ้นไอเกมของแกมันมีช้อยให้เลือกด้วยอ่ะต้องตอบข้อไหนดี เดี๋ยวส่งรูปให้ดู
คีย์ : (ส่งรูปหน้าจอเกมให้ดู)
มิ้น : ตอบข้อไหนก็ได้แกตอบๆ ไปเถอะ
คีย์ : เอ้า แล้วชั้นจะรู้ได้ไงมันมีข้อที่ผิดรึเปล่าต้องตอบใหม่มั้ยถ้าตอบผิด
มิ้น : มันไม่มีข้อผิดหรอกแก แต่แค่ถ้าเราเลือกคำตอบไหนรูทของเกมมันก็จะเป็นไปตามที่เราเลือกในคำตอบนั้นๆ อ่ะ เลือกใหม่ไม่ได้เหมือน butterfly effect อ่ะ ในตอนสุดท้ายแล้วมันจะมีตอนจบแบบ happy ending normal ending แล้วก็ bad ending ของแต่ละตัวละครไม่เหมือนกันแล้วแต่คำตอบที่เราเลือกในแต่ละเควส
คีย์ : ห้ะ งั้นมันก็ดูสำคัญมากเลยนะ ทำไมแกไม่มาเล่นเองเนี่ย
มิ้น : เออน่า แกก็เลือกๆ ไปเหอะ เลือกข้อไหนก็ได้เลือกใครก็ได้ชั้นก็ยังเลือกไม่ถูกเหมือนกัน แกเลือกๆ ไปเลย เพื่อนชั้นเรียกไปติวต่อแล้วอ่ะ ไปก่อนนะ
มิ้น : (ส่งสติ้กเกอร์หมีส่งจุ๊บ)
ว้อทททท อะไรฟะ อะไรของมันวะเนี่ย เฮ้อ ไม่รู้ด้วยแล้วเลือกไปมั่วๆ ละกัน
เลือกคำตอบ - ได้สิ จะได้ใช้เวลาร่วมกับทุกคนด้วย
เลือกอันนี้ละกันดูเซฟๆ กลางๆ ดี จะได้ดูไม่แข็งกระด้างจนเกินไป
หลังจากนั้นก็มีคัทซีนและบทพูดตอนที่เพื่อนทั้ง 2 คนไปซื้อของที่ห้างกับตัวเรา
[โทมะ : และต้องซื้ออะไรมั่งอ่ะไม่เคยซื้อพวกวัตถุดิบทำอาหารเลยแฮะ ลูลูช รู้มั้ยว่าต้องซื้ออะไรมั่ง
ลูลูช : งั้นเราเริ่มซื้อจากพวกเนื้อสัตว์ก่อนมั้ย แล้วค่อยหาอย่างอื่นเพิ่ม
โทมะ : ดีเลยเอาตามนั้น
เจได : อืม อย่าลืมซื้อพวกผักด้วยล่ะ]
หลังจากนั้นเราและโทมะกับเจไดก็เดินเลือกของกันในซุปเปอร์มาเก็ตไปเรื่อยๆ
[โทมะ : นี่ ลูลูช มีของที่ชอบกินเป็นพิเศษมั้ยหรอ]
คำตอบ
- ชอบกินพวกขนมที่อร่อยๆ น่ะ
- ชอบกินอาหารที่ดีกับสุขภาพน่ะ
- ไม่มีอาหารที่ชอบเป็นพิเศษเลย
อืม ที่เราชอบงั้นหรอความจริงก็กินได้หมดนะแต่ไม่ชอบพวกผักกับเครื่องเทศที่กลิ่นฉุนๆ นี่สิ
งั้นเอาเป็นข้อแรกละกัน
เลือกคำตอบ – ชอบกินพวกขนมที่อร่อยๆ น่ะ
[โทมะ : งั้นหรอดีเลย ชั้นก็ชอบกินขนมเหมือนกันงั้นพวกเราไปซื้อขนมกับไปกินด้วยเถอะ
เจได : เฮ้ พวกนายจะไปไหนกันน่ะรอด้วยสิ
โทมะ : มาซื้อขนมให้ ลูลูช น่ะนายเอาอะไรด้วยมั้ย
เจได : ไม่เอาล่ะ ช่วงนี้ชั้นคุมน้ำหนักอยู่
โทมะ : อ้อ โอเคงั้นเท่านี้คงพอแล้วแหละ กลับกันเถอะพี่คีตะน่าจะรอนานแล้ว]
หลังจากนั้นก็เป็นฉากคัทซีนที่โทมะขับรถพาเรากับเจไดกลับมาที่บ้าน
[โทมะ : กลับมาแล้วววววว
คีตะ : กลับมากันแล้วหรอ พี่ปรุงน้ำจิ้มกับน้ำซุปรอเสร็จแล้วล่ะ เหลือแค่หมักพวกเนื้อสัตว์ก็พร้อมกินแล้วล่ะ
เจได : หิวแล้วเหมือนกันนะเนี่ย
คีตะ : เดี๋ยวทุกคนไปนั่งรอก่อนนะเดี๋ยวพี่เตรียมของอีกแปปนึง
โทมะ : รับทราบบครับผ๊ม ไปกันเถอะ ลูลูช]
หลังจากนั้นพี่คีตะก็เอาวัตถุดิบที่เราไปซื้อมาเริ่มออกมาปรุงรส
เอ๊ะ ตรงนี้มีคำตอบให้เลือกอีกแล้ว
คำตอบ
- อื้อ ไปกันเถอะ
- เดี๋ยวเราช่วยพี่คีตะเตรียมของดีกว่า ทั้งสองคนไปพักก่อนเถอะ
เห มีแบบนี้ด้วยแฮะเลือกแบบชัดเจนเลยนะเนี่ย เอาไงดีนะ ถ้าเลือกไปช่วยพี่คีตะนี่มันจะได้ฟีลแบบเล่นเกมทำอาหารตามเว็บรึเปล่าหว่า ฟังดูน่าสนุกแฮะ ลองดูละกัน
เลือกคำตอบ - เดี๋ยวเราช่วยพี่คีตะเตรียมของดีกว่า ทั้งสองคนไปพักก่อนเถอะ
“ ติ๊ง เข้าสู่เควส สอนทำอาหารกับอาจารย์คีตะ ” [- 20 เพชร]
[โทมะ : เอางั้นหรอ ก็ได้ ป่ะเจได]
หลังจากที่โทมะกับเจไดออกไปเป็นฉากที่เราเดินเข้าไปช่วยพี่คีตะเตรียมวัตถุดิบตรงนี้มีบทขึ้นมาแบบอัตโนมัติด้วย
[ลูลูช : พี่คีตะครับเดี๋ยวผมช่วย ให้เริ่มจากตรงไหนดีครับ
คีตะ : งั้นพี่รบกวนหน่อยนะ เดี๋ยวลูลูชเอาพวกผักไปล้างแล้วก็หั่นจัดใส่จานก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวพี่ไปหั่นพวกเนื้อสัตว์ก่อน
ลูลูช : ได้ครับ]
เราเริ่มเอาผักออกมาล้างและพี่คีตะก็เอาพวกเนื้อสัตว์ออกมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พอเราล้างผักเสร็จเราก็เอาผักมาหั่นข้างๆ พี่คีตะ
คำตอบ
- ว้าว พี่คีตะนี่ใช้มีดเก่งจังนะครับช่วยสอนผมใช้มีดด้วยได้มั้ยครับ
- พี่คีตะเนี่ยดูมีเสน่ห์จังนะครับเวลาที่ทำอาหาร
คราวนี้มีคำตอบให้เลือกแค่ 2 ข้อเองแฮะและข้อ 2 มันก็ดูขนลุกยังไงไม่รู้งั้นเลือกข้อ 1 ละกัน
เลือกคำตอบ - ว้าว พี่คีตะนี่ใช้มีดเก่งจังนะครับช่วยสอนผมใช้มีดด้วยได้มั้ยครับ
[คีตะ : ได้สิ ด้วยความยินดี อันดับแรกเลยเราต้องเลือกมีดให้ถูกประเภทกับวัตถุดิบที่เราจะใช้หั่นจะได้ง่ายต่อการหั่น อันดับสองเวลาที่เราจะหั่นวัตถุดิบมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือมีด ให้เราเอานิ้วงอเข้ามาในอุ้งมือและจับวัตถุดิบให้แน่นและใช้มีดหั่นได้เลย แบบนี้จะกันไม่ให้เราหั่นโดนปลายนิ้วของเราแล้วยังทำให้หั่นได้สะดวกขึ้นด้วย ลูลูช ลองทำดูสิ
ลูลูช : แบบนี้หรอครับ]
ตัวผมเริ่มจับมีดตามที่พี่คีตะบอก
[คีตะ : อื้ม แบบนั้นล่ะแต่ต้องจับแน่นๆ นะ แบบนี้]
พี่คีตะเอื้อมมือจากด้านหลังและใช้มือของเค้าจับลงบนมือของเราที่กำลังกำด้ามมีดอยู่อย่างหลวมๆ ให้จับแน่นยิ่งขึ้น
[คีตะ : ต้องจับด้ามมีดให้แน่นๆ ด้วยนะ ไม่อย่างนั้นถ้าเราเผลอทำหลุดมือระหว่างที่เรากำลังหั่นวัตถุดิบจะเกิดอันตรายได้]
อื้อหือ ฉากนี้บอกเลยว่าขนลุกซู่! ความจริงผมก็เคยเห็นฉากแบบนี้บ่อยแล้วล่ะนะในละครที่เวลาพระเอกกับนางเอกเค้ากำลังจีบๆ กันอยู่ แต่พอมาเป็นในเกมที่เรากำลังเล่นเองอยู่บางทีมันก็อดจินตนาการไม่ได้ว่าถ้าเป็นเราที่เจอสถานการณ์แบบเดียวกันกับในเกมเข้าจะรู้สึกยังไงแค่คิดก็.........ฮึ่ย ขนลุกซู่แล้ว
ค่าความสัมพันธ์ คีตะ + 10
“ เห้ย มีข้อความอะไรไม่รู้เด้งขึ้นมาด้วย ” จู่ ๆ ตาผมก็ลุกวาวด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบอ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาว่ามันคืออะไรกันแน่
“ ค่าความสัมพันธ์งั้นหรอ อันนี้รึเปล่านะที่มิ้นบอกว่ามันจะทำให้ตอนจบของเกมเป็นแบบ happy ending normal ending หรือ bad ending ถ้าให้เดาก็คือค่าความสัมพันธ์ของตัวละครไหนเยอะสุดก็จะจบแบบ happy ending และถ้าคนที่ค่าความสัมพันธ์ของตัวละครไหนน้อยที่สุดก็จะจบแบบ bad ending ใช่หรือเปล่านะ แล้วทำไมเรื่องสำคัญแบบนี้มันไม่มาเลือกเองวะเนี่ย ถ้าเกิดเลือกผิดไปทำให้ตัวละครที่มิ้นมันชอบจบแบบ bad ending ขึ้นมาจะทำไงล่ะเนี่ย ”
ผมขมวดคิ้วพลางคิดไม่ตกกับเรื่องนี้แต่จะให้ทำไงได้ก็มันบอกเองว่าให้เลือกอันไหนก็ได้ งั้นเอาตามนี้ไปก่อนละกันนะ ถ้ามัน bad ending แกก็ไปเล่นใหม่เองละกันนะมิ้น พอคิดได้แบบนั้นผมก็พอเบาใจลงได้บ้าง
หลังจากนั้นก็เป็นฉากของคีตะที่ทำการหมักพวกเนื้อสัตว์และมีเราเป็นผู้ช่วยคอยเตรียมของอยู่ข้าง ๆ จนในที่สุดก็เตรียมของสำหรับกินหมูกระทะเสร็จ
[คีตะ : เสร็จแล้วล่ะ ลูลูช ไปนั่งก่อนเถอะเดี๋ยวพี่ยกไปให้
ลูลูช : ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมช่วยยกไปด้วย]
ตัวเราพูดพลางช่วยหยิบของและเดินไปทางที่โทมะกับเจไดนั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้หน้าสระว่ายน้ำในตัวบ้าน
[โทมะ : ว้าว เสร็จแล้วหรอนี่ชั้นหิวจนจะกินวัวได้ทั้งตัวแล้วเนี่ย ฮ่า ๆ
ลูลูช : เสร็จแล้ว ๆ ขอโทษนะให้รอซะนานเลย
เจได : ไม่นานขนาดนั้นหรอก โทมะมันพูดเวอร์ไปงั้นแหละ
โทมะ : ฮ่า ๆ ใช่ ๆ ไม่นานขนาดนั้นหรอกนี่เพิ่งเล่นเกมกับเจไดจบไปตาเดียวเอง
คีตะ : งั้นเรามาเริ่มกินกันเลยมั้ย
โทมะ : จัดไปเลยครับ ปกติอาหารที่พี่คีตะทำอ่ะอร่อยมาก ๆ อยู่แล้ว แต่วันนี้อยากลองชิมที่ ลูลูช ทำว่าจะอร่อยขนาดไหน
ลูลูช : ไม่ ๆ เราไม่ได้ทำอะไรเยอะหรอก แค่ช่วยเตรียมของเฉย ๆ พี่คีตะเป็นคนปรุงหมดเลย
โทมะ : เหมือนกันนั่นแหละน่า ลูลูช อยู่ตรงนั้นก็เท่ากับว่าเป็นคนทำเหมือนกัน ว่ามั้ยเจได
เจได : งั้นมั้ง
ลูลูช : อ่า แหะ ๆ งั้นหรอ]
หลังจากนั้นพวกเราก็เริ่มลงมือเอาหมูลงไปย่างบนกระทะกันแต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรากับพี่คีตะที่ย่างกันเป็นหลักอ่ะนะ
คำตอบ
- คีบหมูให้โทมะ
- คีบหมูให้เจได
- คีบหมูให้พี่คีตะ
หือ จู่ ๆ ก็มีช้อยมาให้เลือกแบบไม่ทันตั้งตัวเลยแฮะ แล้วทำไมถึงต้องเลือกแค่คนเดียวด้วยเนี่ย คีบให้ทุกคนไม่ได้หรอแบบนี้มันดูลำเอียงยังไงไม่รู้ ถ้าไปถามไอมิ้นเดี๋ยวมันก็บอกว่าให้ผมเลือกเลยอยู่ดี ยากจังเลยอ่ะ
“ รู้แล้ว ใช้วิธีนี้ดีกว่า ” จู่ ๆ ในหัวผมก็ปิ๊งไอเดียดี ๆ ขึ้นมาได้
“ ในเมื่อเลือกไม่ได้ก็สุ่มมันไปเลยละกั๊น ” แต่ตอนแรกก็ว่าจะโยนหัวก้อยแต่ช้อยมันดันมี 3 ข้อนี่สิ อืม.....งั้นเอาแบบนี้ละกัน
“ จ้ำจี้มะเขือเปราะ กะเทาะหน้าแว่น พายเรืออกแอ่น
กระแท่นต้นกุ่ม สาวสาวหนุ่มหนุ่ม อาบน้ำท่าไหน อาบน้ำท่าวัด
เอาแป้งที่ไหนผัด เอากระจกที่ไหนส่อง ” ผมท่องพลางใช้นิ้วชี้เลื่อนไปที่คำตอบแต่ละคำตอบในแต่ละพยางค์ที่ผมท่องเนื้อเพลงจ้ำจี้
“ เยี่ยม ๆ มอง ๆ นกขุนทองร้องฮู้ ” และในที่สุดนิ้วของผมก็ไปหยุดอยู่ที่คำตอบของ...............โทมะ โอเคชั้นเลือกนายโทมะ
เลือกคำตอบ - คีบหมูให้โทมะ
[ลูลูช : อ่ะ โทมะเห็นหิว กินเยอะ ๆ เลยน้า
โทมะ : อื้ม ขอบคุณนะ ลูลูช นายนี่น่ารักที่สุดในโลกเลย]
ค่าความสัมพันธ์ โทมะ + 5
ตอนไหนไม่รู้ที่ผมเผลอยิ้มไปกับฉากที่ผมได้ดูโทมะเอื้อมมือจากฝั่งตรงข้ามมาและบีบแก้มของเราและหน้าของหมอนั่นก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มตาสระอิที่ดูมีความสุขมาก ๆ เลย การมีเพื่อนผู้ชายที่สนิทด้วยมาก ๆ นี่ก็ดูดีเหมือนกันนะ
ตัวผมในชีวิตจริงมีเพื่อนที่สนิทจริง ๆ คนเดียวก็คือมิ้นเพราะด้วยความที่บ้านพวกเราอยู่ติดกันตอนเด็ก ๆ เวลาที่แม่ผมไปทำงานผมก็จะไปอยู่บ้านมิ้นตลอด คุณพ่อของผมตายตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ ผมก็เลยอยู่กับแม่แค่ 2 คนมาตลอด
ต่างจากที่บ้านของมิ้น คุณพ่อมิ้นจะเป็นคนออกไปทำงานส่วนคุณแม่ก็เป็นแม่บ้านอยู่ที่บ้านคอยดูแลมิ้นตลอด แม่ผมก็เลยมักจะฝากผมไว้กับบ้านของมิ้นตลอด นั่นทำให้เราสนิทกันมาก ๆ สำหรับผมมิ้นเป็นเหมือนเพื่อนและเป็นน้องสาวและเป็นเหมือนครอบครัวของผม และต่อจะให้เข้าโรงเรียนแล้วตั้งแต่ประถมยันมหาลัยผมก็ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก ต่างจากมิ้นที่จะมีเพื่อนเยอะแยะ
ไม่แปลกหรอกเพราะมิ้นเป็นผู้หญิงที่สดใสมาก มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ และถึงจะเป็นคนที่มีอารมณ์ขันแต่ก็เป็นคนพอเวลามีเรื่องให้จริงจังก็จะเป็นที่พึ่งพาของเพื่อน ๆ ได้เสมอ ทั้งใจดีแล้วมีน้ำใจต่อเพื่อนๆ ทุก ๆ คน จึงไม่แปลกที่ไม่ว่าเรียนอยู่ชั้นไหนมิ้นก็จะได้เป็นหัวหน้าห้องอยู่เสมอ ทำให้เธอมีเพื่อนเยอะมาก
แตกต่างจากผม ผมค่อนข้างจะขี้อายและไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ทำให้ที่ผ่านมาต่อให้ผมจะเรียนโรงเรียนเดียวกับมิ้นและ แตกต่างจากผมที่ต่อจะให้เรียนโรงเรียนเดียวกับมิ้นหรือเรียนห้องเดียวกับมิ้นผมก็แทบจะไม่มีเพื่อนคนอื่นเลย
เป็นคนที่จืดจางไปกับอากาศอย่างแท้จริงเรียกได้ว่าถ้าชีวิตเราเป็นละครเรื่องหนึ่งมิ้นก็คงรับบทเป็นนางเอกที่เดินไปไหนมาไหนก็มีแสงพุ่งออกมาจากข้างหลังจนมันระยิบระยับแสบตาไปหมดส่วนผมก็น่าจะรับบทเป็นตัวประกอบ A และแน่นอนคงไม่ใช่ตัวประกอบแบบที่มีบทพูดหรือเป็นเพื่อนนางเอกแต่เป็นตัวประกอบเดินผ่านกล้องนั่นเอง
แต่ความจริงผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะกับการที่เพื่อนน้อยแต่ก็จะมีบ้างเวลาที่จะต้องทำงานกลุ่มผมก็จะไม่เป็นที่ต้องการสักเท่าไหร่อ่ะนะแต่มิ้นก็จะคอยมาดึงผมเข้าไปอยู่ในกลุ่มด้วยตลอดและต่อให้มิ้นจะมีเพื่อนมากมายขนาดนั้นแต่มันก็ไม่เคยลืมผมเลยสักครั้ง
นั่นเลยทำให้ผมไม่เคยมีเพื่อนสนิทคนอื่นนอกจากมิ้นเลยและไม่มีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายเลยเหมือนกันแต่พอได้มาลองเล่นเกมนี้ดูมันก็ดูน่าสนุกดีนะถ้าจะมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายดูบ้างเพราะไลฟ์สไตล์บางอย่างผู้หญิงกับผู้ชายมันก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมดใช่มั้ยล่า
แต่ก็นะจะไปหาจากไหนได้ต่อจะให้เข้ามหาลัยแล้วก็เหอะการที่จะทำความรู้จักกับคนอื่นก็ยังยากสำหรับผมอยู่ดีคงต้องทำใจอย่างเดียวแล้วล่ะมั้ง
ในขณะที่คีย์กำลังนั่งเท้าคางอมยิ้มมองจอคอมพิวเตอร์และคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่คนเดียวจู่ ๆ มือเจ้ากรรมก็ดันเผลอลื่นหลุดจากคางพลันมาปัดแก้วน้ำที่วางอยู่ด้านข้างจอคอมพิวเตอร์ ด้วยความรวดเร็วแก้วที่โดนปัดร่วงหล่นลงพื้นแตกกระจายเป็นเศษแหลมคมเต็มไปหมดแต่สิ่งที่เลวร้ายกว่าเศษแก้วนี้คือของเหลวที่อยู่ข้างในได้ไหลออกมาอยู่บนปลั๊กไฟที่ใช้เสียบกับเคสคอมพิวเตอร์ที่พื้น
“ เห้ย! ”
คีย์ร้องด้วยความตกใจในขณะที่เห็นภาพตรงหน้าเป็นแบบสโลโมชั่นว่าแก้วกำลังจะล่วงลงพื้นก็พยายามที่จะเอื้อมมือออกไปเพื่อคว้าแก้วไว้
แต่ช้าไปแก้วที่โดนแรงโน้มถ่วงของโลกดึงดูดเข้าหาพื้นได้ตกลงแตกต่อหน้าต่อตาของคีย์ และด้วยความที่เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมากจากแค่ที่พยายามจะเอื้อมมือไปคว้าแก้วเอาไว้พอคว้าพลาด
ก็ทำให้เกิดการเสียศูนย์ของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก่อนที่ร่างบนนั้นจะล่วงลงมานอนบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำที่มีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ในนั้น
“ โอ้ย ”
และภาพทุกอย่างก็กลายเป็นสีดำไปหมด
“ เฮือก ที่นี่ที่ไหนเนี่ย ”
“ ติ้ง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dream come true ค่ะ ”
“ ไงนะ? ”
___________________________________________________
talk with writer
สวัสดีค่าา ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่นิยายเรื่องแรกของเราค่ะ เราไวน์นะคะ 🍷
เนื่องจากตกงานอยู่พอดีบวกกับมีใจรักในการแต่งนิยายตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เกิดนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ และเนื่องจากเราเป็นเพียงผู้อ่านมาตลอดและนี่เป็นครั้งแรกสำหรับการแต่งนิยายของเรา
จึงอยากจะบอกทุกคนว่าหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ทุกคนสามารถติชมหรือแนะนำเราเพิ่มเติมในส่วนที่เราพลาดไปตรงไหนได้นะคะ
กว่าที่เราจะรวบรวมความกล้าเพื่อจะแต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาใช้เวลานานมาก ๆ เลยค่ะเพราะมีความกลัวอยู่ในใจเราเต็มไปหมด กลัวจะดี กลัวภาษาไม่สวย กลัวไม่สนุก และสุดท้ายกลัวว่าจะไม่มีคนอ่าน
เราจึงอยากจะขอขอบคุณทุกคนที่กำลังอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้อยู่ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณที่ให้โอกาสนักเขียนหน้าใหม่อย่างเราและขอให้ทุกคนสนุกกับนิยายของเรานะคะ หวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันไปจนถึงตอนจบเลย
ถ้าใครอยากให้กำลังใจเราหรืออยากอ่านตอนต่อไปขอแค่เม้นเป็นอิโมจิอะไรก็ได้สักตัว แค่นั้นเราก็มีกำลังใจมาก ๆ แล้วค่ะ ❤
ไวน์ลดา
EP.2 ติ้ง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dream come true ค่ะ
“ ติ้ง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dream come true ค่ะ ”
“ ไงนะ? ”
“ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dream come true ค่ะ ”
แสบตาจัง นั่นคือความรู้สึกแรกของผมที่สัมผัสได้ผมรู้สึกมึน ๆ เล็กน้อยมันเหมือนกับจู่ ๆ ในหัวผมมันก็วิ้งไปหมดแล้วหลังจากนั้นภาพก็ตัดและก็มาตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนมีสปอตไลต์หลายอันมาจ่อที่หน้าของผมอยู่ผมพยามที่จะลืมตาอย่างยากลำบากและสิ่งแรกที่ผมเห็นหลังจากลืมตาได้ก็คือจอ LED ขนาดใหญ่ที่แสดงข้อความว่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dream come true ค่ะ
เดี๋ยวนะเมื่อกี้เหมือนผมจะได้ยินเสียงพูดเป็นประโยคเดียวกับข้อความที่โชว์อยู่บนจอ LED เสียงงั้นหรอ? เสียงใครกัน
“ ที่นี่ที่ไหนอ่ะ ” ผมถามออกไปด้วยความรู้สึกสับสนเมื่อกี้ผมกำลังทำอะไรอยู่นะเหมือนผมกำลังอยู่ที่บ้านและทำอะไรอยู่สักอย่าง
“ ที่นี่คือ Dream come true ค่ะ ”
มีเสียงเล็ก ๆ เหมือนเด็กผู้หญิงตอบกลับมาตอนนี้สติของผมเริ่มกลับมาแล้วผมพยายามที่จะมองสำรวจรอบ ๆ ตัวเองอีกครั้งว่าสรุปแล้วที่นี่มันคือที่ไหนกันแน่ แต่จากเท่าจากที่ผมสำรวจที่นี่มันเหมือนกับเป็นห้องสีขาว ขาวไปหมดทั้งเพดาน ผนังและพื้นห้องเป็นสีขาวทั้งหมดแต่เดี๋ยวนะ…..ประตูหายไปไหน!!
ผมยกมือขึ้นมาขยี้ตาอีกรอบก่อนจะเพ่งสายตาสอดส่องทุกมุมทุกองศาของสถานที่ที่ผมอยู่ผมเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ผมกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้สีขาวหน้าตาแปลก ๆ ตัวนึงอยู่ มันดูรูปทรงคล้ายกับเก้าอี้เกมมิ่งที่กำลังปรับเอนหลังอยู่แต่หน้าตามันดูแอดวานซ์กว่านั้นมากจะว่ายังไงดีดูเหมือนเก้าอี้ที่ผมเคยเห็นในหนังยานอวกาศหรือพวกหลังไซไฟอะไรประมาณนั้น
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นคือที่นี่มันไม่มีประตูจริง ๆ มีแต่จอ LED ที่ตั้งอยู่ข้างหน้าของผมแต่เดี๋ยวนะเมื่อกี้มีเสียงคนตอบกลับมาหนิ
“ มีใครอยู่มั้ยครับ ” ผมตะโกนถามเสียงไม่ดังมากหวังว่าเจ้าของเสียงเล็ก ๆ เมื่อกี้จะได้ยินและตอบกลับมา
“ มีน้องดรีมอยู่ค่ะ ” เสียงเล็กตอบกลับมาได้ยินอย่างชัดเจนแต่จากทิศทางไหนผมไม่แน่ใจและผมเองก็มองไม่เห็นร่างของเจ้าของเสียงเล็กนี้แต่ถ้าให้เดาเจ้าของเสียงน่าจะอยู่ข้างนอกห้องเพราะในนี้ไม่มีใครอยู่แล้วนอกจากผมคนเดียว
ฟู่ โล่งอกไปทีนึกว่าจะถูกขังอยู่ในนี้ซะแล้ว
“ น้องชื่อดรีมใช่มั้ยครับ น้องดรีมช่วยบอกพี่หน่อยได้มั้ยครับว่าประตูทางออกจากห้องอยู่ทางไหน ” ผมพูดพลางคิดในหัว หรือว่าในนี้จะเป็นห้องลับแบบต้องมีกลไกอะไรบางอย่างถึงจะเปิดประตูได้เหมือนพวกในหนังสายลับ
“ ที่นี่ไม่มีประตูหรอกค่ะ ”
“ ไม่มีประตู แล้วแบบนี้พี่จะออกจากที่นี่ได้ยังไงล่ะครับ ” คิ้วของผมเริ่มขมวดเข้าหากัน ให้ตายสินี่ผมเริ่มกังวลจริง ๆ แล้วนะเนี่ย
แต่ถึงแบบนั้นเราลองลงไปคลำตรงกำแพงดูเองก่อนดีกว่าบางทีน้องคนนั้นอาจจะอยากแกล้งเค้าเล่นเฉย ๆ ก็ได้ เดี๋ยวนะทำไมผม ขยับไม่ได้ หรือว่า ………… หรือว่าทั้งหมดนี้จะเป็นฝันแล้วผมแค่กำลังโดนผีอำอยู่
“ อื้บ ฮึบ อ้ะ ” ผมพยามที่จะยกมือขึ้นมาเพื่อจะเอามาหยิกแขนตัวเอง แต่ไม่ไหวขยับไม่ได้เลย
“ วิธีที่จะออกจากที่นี่ได้มีแค่วิธีเดียวค่ะคือเล่นเกมจนจบ ปิ๊ง ”
ในขณะที่เสียงนั้นเอ่ยขึ้นก็ปรากฏร่างของอะไรบางอย่างลอยขึ้นมาตรงหน้าของคีย์
“ เห้ย ตัวไรอ่ะ ” ตาของผมเบิกกว้างไม่รู้รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้แต่บอกตามตรงนี่สิ่งที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดนี่มันดูประหลาดมากโดยเฉพาะตัวอะไรสักอย่างที่กำลังลอยอยู่ข้างหน้าของผม
“ น้องดรีมเองค่ะ ”
“ ห้ะ น้องดรีม ” เจ้าของเสียงเล็กน่ารักที่ตอนแรกผมคิดว่าน่าเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่าจะอยู่ชั้นไม่เกินประถมแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมนี่ไม่รู้จะนิยามว่าเป็นตัวอะไรดี คือน้องเป็นก้อนเล็ก ๆ กลม ๆ ที่มีขนปุกปุยอยู่รอบ ๆ ตัว
ขนฟูฟ่องเหมือนกับก้อนสำลีแต่ใช่น้องมีหูยาว ๆ 2 ข้างและมีหางที่ฟูฟ่องกลม ๆ ด้านหลัง ฟังถึงตอนนี้น้องดูจะเหมือนกระต่ายใช่มั้ยแต่น้องไม่มีแขนกับขา WTH อะไรวะเนี่ย
สรุปแบบง่ายสุด ๆ เลยก็คือน้องเหมือนกระต่ายที่ขนฟูเหมือนสำลีแต่ไม่มีแขนและขาเป็นแค่ก้อนกลมและบนใบหน้าก็มีรอยยิ้มน่ารักเหมือนในการ์ตูนเด็กอยู่และที่สำคัญน้องลอยได้ เชี่ย หรือว่าน้องจะเป็น………กระสือกระต่าย!!
“ ท่านคีย์พร้อมรึยังคะใกล้เวลาที่ต้องเริ่มเกมแล้วค่ะ ”
“ เดี๋ยวนะ เกมอะไร? ”
“ ที่นี่คือ Dream come true ค่ะที่ที่ทุกความฝันจะเป็นจริงขอเพียงแค่คุณร่วมเดินทางมากับเราคุณจะพบกับความสุข เสียงหัวเราะ รอยยิ้มและความรักค่ะ ขอเพียงคุณมีหัวใจที่บริสุทธิ์คุณผู้ชายทั้ง 3 ท่านก็พร้อมที่จะมอบความรักที่สุดแสนจะโรแมนติกให้กับคุณค่ะ ”
“ …. ” อึ้งกิมกี่ ที่ผมเงียบนี่ไม่ใช่ผมเข้าใจนะคือผมไม่เข้าใจเลยจนต้องพยามใช้สมองอันน้อยนิดของผมคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดว่าสรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
สายตาของผมเลื่อนไปทางซ้ายและขวาอย่างรวดเร็วด้วยความกังวลก่อนที่ผมจะเหลือบไปเห็นสิ่งที่มันอยู่ตรงหน้าของผมมาตลอดก็คือจอ LED ขนาดใหญ่ที่บนนั้นเขียนคำว่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dream come true ค่ะ อยู่
Dream come true Dream come true ทำไมชื่อนี้มันคุ้น ๆ จังวะ และจู่ ๆ ก็เหมือนมีภาพแฟลชแบ็คเข้ามาในหัวผม
“ติ้ง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dream come true ค่ะ” เสียงของเกมดังขึ้นก่อนจะเด้งแถบข้อความว่า
“ นี่มันเกมที่ไอมิ้นให้เราเล่นนี่หว่า นี่เราหลับตอนเล่นเกมแล้วฝันหรอเนี่ย ” เป็นการฝันที่ภาพชัดมากจริง ๆ ปกติเวลาผมฝันนี่ผมแทบจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่นี่มันชัดมากเหมือนกับผมอยู่ในฝันนี่จริง ๆ
“ ความจริงแล้วท่านคีย์ไม่ได้หลับค่ะ ท่านคีย์ลองนึกดูดี ๆ อีกทีนะคะว่าภาพสุดท้ายที่ท่านคีย์เห็นคืออะไร ”
ภาพสุดท้ายงั้นหรอก็ผมกำลังเล่นเกมนี้อยู่ กำลังทำเควสกินหมูกระทะ ใช่ แล้วก็หลังจากนั้น…..น้ำ ใช่ผมทำแก้วน้ำตกและพยามที่จะคว้าไว้แต่ก็ไม่ทันแก้วน้ำก็เลยตกใส่ปลั๊กไฟและผมก็หล่นตามลงมาด้วย อย่าบอกนะว่า
“ นี่ผมตายแล้วงั้นหรอ!! ”
“ น้องดรีมเสียใจด้วยจริง ๆ ค่ะท่านคีย์ ”
ไม่นะ ไม่จริง ผมตาย ตายแล้วงั้นหรอ นี่ผมพึ่งจะอายุ 18 เองนะ ผมยังไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ผมอยากใช้เลย ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ มีอีกหลายที่ที่ยังไม่เคยไป ผมยังเรียนไม่จบเลยด้วยซ้ำแล้วไหนจะแม่ผม เพื่อนสนิทผม ครอบครัวของผม ผมยังไม่ได้บอกลาแม่เลยด้วยซ้ำ
“ ฮึก ๆ ฮือ ”
น้ำใสค่อย ๆ ไหลรินออกมาตาคู่สวยของคีย์จนดวงตาของเค้าเริ่มแดง ใบหน้าที่เคยดูสดใสกลายเป็นความหมองหม่นจนถูกปกคลุมไปด้วยความเศร้าในท้ายที่สุด
“ ท่านคีย์อย่าร้องไห้เลยนะคะ ยังพอมีทางที่ท่านคีย์จะกลับไปโลกเดิมได้อยู่นะคะ ”
“ มีทางหรอ ” ผมพยามกระพริบตาเพื่อไล่น้ำตาออกไปจากใบหน้าและเงยหน้ามาฟังสิ่งที่น้องดรีมพูดเมื่อกี้
“ ผมยังกลับไปได้งั้นหรอ กลับไปโลกเดิม ไปใช้ชีวิตของผมเหมือนก่อนหน้านี้ได้ใช่มั้ย ” หัวใจผมเต้นตึกตักในขณะที่ผมถามประโยคนั้นออกไป
ถ้าทั้งหมดนี่คือเรื่องจริงหมายความว่าน้องดรีมคือยมบาลงั้นหรอ หรือคือพระเจ้าหรือผมกำลังถูกพระเจ้าทดสอบอยู่ เดิมทีผมไม่ได้นับถือศาสนาอะไรเป็นหลักอยู่แล้วเลยไม่ค่อยแน่ใจว่าขั้นตอนหลังจากนั้นจริง ๆ ต้องเป็นยังไง ไม่รู้ว่าพระเจ้ามีจริงมั้ย เอาจริง ๆ ผมไม่เชื่อเรื่องหลังความตายด้วยซ้ำ สำหรับผมความตายก็คงแค่เหมือนการหลับไปตลอดกาลเฉย ๆ
แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยาก ยังไม่อยากจากไป อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้บอกลาแม่ก่อนก็ยังดี ถ้ามันจะพอมีทางไหนให้ผมได้กลับไป ผมก็จะทำ
“ ใช่ค่ะ ขอเพียงแค่ท่านคีย์เล่นเกมนี้จนจบแบบ Happy Ending ท่านคีย์ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกกลับไปโลกเดิมได้ค่ะ ท่านคีย์พร้อมที่จะเริ่มเกมรึยังคะ ”
สายตาของคีย์หลุบต่ำลงด้วยความกังวลแต่ถึงแบบนั้นเค้าก็ตอบออกไปว่า
“ ผมพร้อมแล้ว ” มั้ง ฮืออออ แม่ครับเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
“ ถ้างั้นก็เริ่มกันเล๊ย Start ” เสียงเล็ก ๆ ของน้องดรีมพูดขึ้นอย่างดีใจก่อนที่จอ LED ด้านหน้าผมจะเริ่มเปลี่ยนข้อความบนหน้าจอ
“ เชิญเลือกเพศของท่านค่ะ ”
[หญิง] [ชาย]
“ เพศชะ ” เดี๋ยวนะเกมที่ไอมิ้นมันให้ผมเล่นมันเป็นเกมจีบหนุ่มไม่ใช่หรอตัวผู้เล่นก็ต้องเป็นผู้หญิงไม่ใช่หรอทำไมถึงมีให้เลือกเพศได้ แต่พอมาคิดดูตอนที่ผมเล่นเกมนี้ตัวละครของเราตรงบทพูดก็ใช้คำว่าครับนี่หว่า
เชี่ย นี่ผมมองข้ามจุดนี้มาได้ยังไงเนี่ยก็เกมมันมีเสียงพากย์แต่พวกตัวละครผู้ชายในเกมนี่หน่าตรงที่เป็นบทของตัวละครเรามันมีแค่เป็นตัวหนังสือเฉย ๆ ผมเข้าใจนะว่าโลกเดี๋ยวนี้ทุกอย่างเปิดกว้างทุกคนเท่าเทียมกันหมดไม่ว่าจะเพศไหน ผิวสีไหน หรือจะศาสนาไหนก็ตาม
แต่ผมไม่เคยเล่นเกมแนวนี้เลยถึงเพิ่งรู้ว่ามันมีให้เลือกเพศด้วย ถ้าผมเลือกเพศชายบทพูดก็จะใช้คำว่าครับเหมือนกับที่ผมเคยเล่นมาก่อนหน้านี้ใช่มั้ย งั้นผมเลือกเพศชะ
ในขณะที่คีย์กำลังตีกับความคิดในหัวของตัวเองนั้น จู่ ๆ จอ LED ที่แสดงช้อยระหว่างเพศหญิงและเพศชายก็มีสัญลักษณ์เคอร์เซอร์โชว์ขึ้น คีย์เหลือบไปมองที่จอด้วยความฉงนคิ้วและก่อนที่เค้าจะได้เอ่ยถามอะไรออกไปสัญลักษณ์เคอร์เซอร์นั้นก็ค่อย ๆ เลื่อนไปที่ช้อยของเพศชายและกดเลือกที่ช้อยนั้น
“ เดี๋ยวนะ นี่ผมยังไม่ได้เลือกเลย ” ถึงผมจะเลือกช้อยนี้อยู่แล้วก็เหอะแต่ก็ยังไม่ได้เลือกไง ไหงเคอร์เซอร์มันขยับไปเองเฉย
“ ขอโทษด้วยค่ะในส่วนนี้ท่านคีย์ไม่สามารถเลือกเองได้ค่ะต้องไปเป็นตามระบบตอนแรกที่ได้ทำการล็อคอินและเลือกไว้ค่ะ ”
“ อย่าบอกนะว่าหมายถึงที่มิ้นเลือกไว้ตอนแรกงั้นหรอ ”
“ ใช่แล้วค่า ” น้องดรีมยกยิ้มอย่างน่ารักราวกับว่าดีใจที่ผมตอบถูก
“ เฮ้อ ขนาดชีวิตผมในนี้ผมก็ยังเลือกเองไม่ได้งั้นหรอแต่ช่างเหอะยังไงผมก็แค่ต้องเล่นมันให้จบอยู่ดี ”
[กรุณาใส่ชื่อของคุณค่ะ]
และข้อความบนจอก็เปลี่ยนไปอีกครั้งและเช่นเคยครั้งนี้ก็มีสัญลักษณ์เคอร์เซอร์เลื่อนไปกดที่ช่องว่างที่ให้ใส่ชื่อพร้อมกับพิมพ์ชื่อลงไปในช่องนั้น
ว่าแต่มิ้นมันตั้งชื่อตัวละครว่าอะไรนะผมก็ลืมแล้วตอนเล่นเกมก็มัวแต่โฟกัสกับเนื้อเรื่องอยู่
[ลูลูช]
เชี่ย มิ้นมึงดูการ์ตูนมากไปมั้ยเนี่ยย โอเคถ้าผมจำไม่ผิดนี่คงเป็นชื่อของพระเอกอนิเมะสักเรื่องเหมือนจะเคยได้ยินที่มิ้นมันเล่าให้ฟัง By the way ชื่อมันก็เท่ดีแต่ต่อไปนี้จะให้ผมแทนตัวเองว่าลูลูชเนี่ยนะมันดูลูกคุณหนูยังไงไม่รู้แฮะ
“ เรียบร้อยค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันหวังว่าที่แห่งนี้จะทำให้ฝันของคุณเป็นจริงได้นะคะ START ”
ข้อความเด้งขึ้นบนจอ LED ด้านหน้าผมทันใดนั้นก็มีแสงสว่างสาดเข้ามาจากทุกทิศจนผมทนไม่ไหวต้องยกมือขึ้นมาบังหน้าพร้อมกับหลับตาลงเพื่อหลบแสง
“ ไปกันเล้ย ยะฮู้ว ” เสียงของน้องดรีมดังขึ้นในจังหวะสุดท้าย
_____________________________________________________
Talk with writer
EP.2 มาด้วยความไวแสงความจริงเราแต่งไว้ประมาณ 5 อีพีแล้วค่ะกะจะทยอยลง ยังไงถ้าใครชอบฝากคอมเม้นอะไรก็ได้ แค่เม้น...ก็ได้ 5555 อย่างน้อยเราจะได้รู้ว่ามีคนอยากอ่านต่ออยู่นะคะ
ไวน์ลดา
EP.3 โทมะ….งั้นหรอ?
เวลาผ่านไปไม่นานแสงสว่างที่ทำให้แสบตาก็ค่อย ๆ จางหายไปมือน้อย ๆ ของคีย์ค่อย ๆ ลดต่ำลงพร้อมกับที่เปลือกตาค่อย ๆ ลืมขึ้นและภาพตรงหน้าก็ทำให้เจ้าของร่างบางตาเบิกโตขึ้นด้วยความตะลึง
“ เชี่ยย ของจริงดิ ” เอาจริงเมื่อกี้ผมแอบคิดนะว่าทั้งหมดที่ผ่านมาอาจจะเป็นฝันก็ได้แต่ภาพตรงหน้าผมมันไม่ใช่ห้องนอนผมแต่เป็น……ที่ไหนวะเนี่ย!
ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าคือภาพของบ้านสีขาวหลังนึงข้างหน้าเป็นกำแพงที่ทำมาจากอิฐบล็อคและทาสีขาวเหมือนกับตัวบ้านประตูทางเข้าเป็นแบบเปิดออก 2 ข้าง ตรงขอบดูเหมือนทำมาจากเหล็กและทาทับด้วยสีดำในขณะที่ตรงกลางของบานประตูทำมาจากไม้
และที่ดูสะดุดตามาก ๆ อีกอย่างนึงเลยก็คือหน้าบ้านตกแต่งด้วยต้นไม้เยอะมาก ๆ ตรงหน้ากำแพงมีกระถางต้นไม้ขนาดเล็กวางอยู่ไว้เป็นสิบ ๆ อันซึ่งกระถางของแต่ละอันก็ลักษณะไม่ค่อยเหมือนกันบางอันเป็นทรงกลม บางอันเป็นสี่เหลี่ยม บางอันสีขาว บางอันสีน้ำตาลแต่ทุกกระถางกับดูรวมกันแล้วเข้ากันดีอย่างไม่น่าเชื่อและที่สำคัญเลยคือต้นไม้ที่อยู่บนกระถางผมไม่แน่ใจว่ามันคือต้นอะไรเอาจริง ๆ ผมไม่คิดว่าผมเคยเห็นต้นไม้แบบนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ตัวใบของมันเป็นสีเขียวเข้มเหมือนใบไม้ทั่วไปแต่ที่สะดุดตาคือตัวดอกที่เป็นสีส้มแสดที่สูงเด่นเป็นพวงขึ้นมาจากใบของมัน เท่านั้นยังไม่พอด้านบนของประตูที่เป็นเหมือนกับโครงเหล็กสีดำยังมีพวกไม้เลื้อยปกคลุมเต็มไปหมดโอ้โหธรรมชาติสุด ๆ
“ เข้าไปกันเถอะ ลูลูช ”
และก่อนที่ผมจะคิดไปไกลกว่านั้นก็มีเสียงนึงดังขึ้นที่ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ของตัวเอง ผมหันหน้าไปทางเจ้าของเสียงเมื่อกี้ก่อนที่ผมจะนิ่งและชะงักไป
นี่มัน………
“ โทมะ….งั้นหรอ? ” เจ้าของเสียงที่ผมเพิ่งจะได้ยินเมื่อกี้คือเด็กหนุ่มหน้าตาทะเล้นที่เหมือนจะตัวสูงกว่าผมนิดหน่อย ผิวขาวอมชมพูเหมือนจะเรืองแสงได้ ผมสีส้มที่ดูแฟชั่นสุด ๆ และยังไว้ผมซอยแสกข้างไล่ความยาวเหมือนพวกตัวการ์ตูนในอนิเมะอีก ในส่วนหน้าตานั้นมองรวม ๆ แล้วคือ…..โคตรหล่อ!!!!
เชี่ย หล่อจริงขนาดผมเป็นผู้ชายนะเนี่ยคือโอเคพอลองนึกดูแล้วนี่มันคือเกมจีบหนุ่มแน่นอนว่าผู้พัฒนาเกมต้องออกแบบมาให้ตัวละครดูหล่อน่าดึงดูดเหมือนหลุดออกมาจากนิยายอยู่แล้ว
ซึ่งตอนที่ผมเล่นในคอม ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากเพราะมันเป็นแค่ลายเส้นมังงะเหมือนในอนิเมะทั่วไป แต่พอเปลี่ยนให้ลายเส้นมังงะแบบนั้นกลายเป็นคนในชีวิตจริงขึ้นมามันเลยดู โคตร เพอร์ เฟค!
และก่อนที่ผมจะคิดอะไรแปลก ๆ มากไปกว่านี้ก็มีบางอย่างปรากฏขึ้นตรงหน้าผม
คำตอบ
- อื้ม เข้าไปกันเถอะ
- เดินดูรอบ ๆ กันก่อนเถอะ
สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของผมก็คือข้อความ ใช่มันคือข้อความปกติแต่มันลอยอยู่บนอากาศนี่สิ นี่ผมต้องตกใจอีกกี่รอบเนี่ยแต่ละอย่างที่เจอพีค ๆ ทั้งนั้น
ข้อความมันลอยอยู่บนอากาศและรอบ ๆ ข้อความก็มีกรอบสี่เหลี่ยมขอบมนครอบไว้ข้างนอกอีกที ฟีลเหมือนช้อยในรายการเล่นตอบคำถามในทีวีแต่มันประหลาดตรงที่มันลอยอยู่นี่สิ
“ เลือกคำตอบได้เลยค่ะท่านคีย์ ไม่สิ ท่านลูลูช ”
เสียงของน้องดรีมดังขึ้นพร้อมกับร่างกระต่ายกลมขนฟูฟ่องลอยอยู่ข้าง ๆ ผมเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ ทั้งคำตอบและตัวของน้องดรีมเอง ตัวละครหลักและ NPC จะมองไม่เห็นค่ะมีเพียงผู้เล่นเท่านั้นที่จะมองเห็น ทั้งนี้เวลาที่มีช้อยขึ้นมาเพียงแค่ท่านลูลูชเลือกคำตอบในใจก็ถือเป็นการตอบคำถามนั้นแล้วค่ะ สามารถตอบในใจได้เลยค่ะ ”
“ เข้าใจแล้วครับน้องดรีมแต่ยังไงผมรบกวนอย่างนึง ช่วยเรียกชื่อผมว่าคีย์เหมือนเดิมได้มั้ยครับ ”
ผมพูดสื่อสารกับน้องดรีมโดยที่ไม่ได้ออกเสียงออกไป ที่ผมยังอยากให้น้องดรีมเรียกชื่อผมด้วยชื่อจริง ๆ ของผมอยู่เพราะความจริงสิ่งที่ผมต้องทำคือการเล่นเกมนี้ให้จบ
ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเกมนี้มันจะไปจบตรงไหน อีกนานแค่ไหนหรือไกลแค่ไหนจนกว่าที่ผมจะเดินทางจนจบ ผมก็ยังอยากให้มีคนจดจำผมในตัวตนที่แท้จริงของผมอยู่อย่างน้อยแค่สักหนึ่งคนก็ยังดี และอย่างน้อยก็เพื่อย้ำเตือนตลอดว่าความจริงแล้วผมคือใคร
“ เข้าใจแล้วค่ะท่านคีย์ ท่านคีย์เชิญเลือกคำตอบได้เลยนะคะต่อไปนี้น้องดรีมอาจจะไม่ได้โผล่มาในทุกครั้งที่มีช้อยนะคะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะถ้าท่านคีย์อยากคุยกับน้องดรีมแค่เรียกน้องดรีมในใจน้องดรีมก็จะรีบมาหาเลยค่ะ ”
น้องดรีมพูดไปพร้อมกับยิ้มไปอย่างมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองพูด
ผมขอเลือกคำตอบ - อื้ม เข้าไปกันเถอะ
รีบเข้าไปดีกว่าผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าข้างในจะมีอะไรรออยู่
“ อื้ม เข้าไปกันเถอะ ”
“ อื้ม มาเดี๋ยวช่วยถือกระเป๋า ” โทมะพูดพลางเอามือมาจับที่กระเป๋าล้อลากของผมเพื่อถือเข้าไปในบ้าน ผมเพิ่งสังเกตว่าที่ตัวผมมีกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ข้างหลังหนึ่งอันและก็มีกระเป๋าเดินทางอยู่ข้าง ๆ ตัวผมอีกหนึ่งอัน นี่เรากำลังจะย้ายเข้าที่ไหนสักที่สินะ
“ มะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราถือเองได้ โทมะ ”
“ ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราช่วยลูลูชถือแค่กระเป๋าเป้ก็พอ ”
“ อ่า ”
ผมและโทมะเดินไปที่หน้าประตูบ้านก่อนจะกดกริ่งด้านข้างของประตู รอไม่ถึงอึดใจก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ก่อนที่บ้านประตูจะค่อย ๆ แง้มออก
คนที่มาเปิดประตูให้ยิ้มให้พวกเราและนี่ก็ทำให้ผมชะงักไปอีกครั้ง ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมคือผู้ชายรูปร่างสูงโป่รงผมสีดำขลับ ใบหน้าดูสุขุมแต่ก็อบอุ่นในเวลาเดียวกันอาจเป็นเพราะแว่นที่เค้าใส่อยู่ล่ะมั้งที่ทำให้เค้าดูสุขุมขึ้น
แต่มองรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เหลื พรวด ไม่ใช่และเอาจริงผมว่าสมองผมอาจจะกระทบกระเทือนก็ได้นะตอนที่ผมตกโต๊ะคอม สมองผมเริ่มคิดไปเรื่อยเปื่อยไปหมด แต่เอาเป็นว่าก็คือหล่อ เหมือนหลุดออกมาจากซีรีส์เกาหลี
ปกติผมก็ไม่ได้เป็นคนชมใครพร่ำเพรื่อหรอกนะแต่ถ้าทุกคนมาเห็นมาแบบที่ผมเห็นก็คงคิดแบบเดียวกับผมแหละ
“ สวัสดีครับคุณคีตะ ผมโทมะกับเพื่อนผมลูลูชที่ติดต่อแชร์ห้องเช่าในบ้านไว้ครับ ” เป็นอีกครั้งที่โทมะดึงสติผมกลับมา
“ ยินดีต้อนรับ เข้ามาก่อนสิ ” พี่คีตะพูดพร้อมกับผายมือให้ผมกับโทมะเข้าไปในบ้าน
“ ป่ะ ” โทมะหันมายิ้มให้ผมและก่อนจะชวนกันเดินหลังพี่คีตะเข้าไปในบ้าน
“ ตรงนี้จะเป็นห้องนั่งเล่นนะและก็ตรงข้างหลังอีกฝั่งจะกั้นเป็นครัวไว้ถ้าหิวก็มาทำอาหารกินได้เลยนะ จะนั่งกินตรงนี้หรือเอาไปนั่งกินริมสระก็ได้ ” พี่คีตะพูดพลางเอานิ้วชี้แต่ล่ะส่วนของบ้านเพื่ออธิบายไปด้วย
“ เข้าใจแล้วครับคุณคีตะ ” โทมะตอบรับที่พี่คีตะพูดด้วยรอยยิ้ม
ส่วนผมน่ะหรอตัวแข็งทื่อเป็นปลาในตู้แช่ฟรีชของแมคโครไปแล้ว เอาจริง ๆ ผมเหมือนจะเรียบเรียงสถานการณ์ตรงหน้าได้คือเหมือนผมกับโทมะจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกันพี่คีตะเพราะเหตุผลอะไรสักอย่าง
แต่ในชีวิตจริงของผมนอกจากแม่ผม มิ้นและก็พ่อแม่ของมิ้น ผมก็ไม่เคยอยู่ร่วมกับใครแบบเป็นจริงเป็นจังมาก่อนเลยแม้ปัจจุบันผมจะเข้ามหาลัยแล้วแต่ผมก็อยู่หอแค่คนเดียวไม่ได้มีรูมเมทมาคอยอยู่ด้วยพอเจอแบบนี้ก็ทำตัวไม่ถูกสุด ๆ ไปเลย
“ เรียกชั้นว่าพี่เถอะไม่ต้องเรียกคุณหรอก ว่าแต่พวกนายชื่ออะไรกันบ้างนะ ”
“ ผมโทมะครับ อายุ 18 เรียนอยู่มหาลัย Trinity University คณะนิเทศชั้นปีที่ 1 ครับ ”
โห ล่อซะเต็มยศเลยเป็นคนที่กระฉับกระเฉงจริง ๆ เลยนับถือ ๆ
คำตอบ
- ผม ลูลูช ครับ
- ผม ลูลูช เรียนที่เดียวกับโทมะครับ
- ผม ลูลูช อายุ 18 เรียนอยู่มหาลัย Trinity University คณะนิเทศชั้นปีที่ 1 ครับ
ไอช้อยข้อสามนี่มันยาวไปมั้ยเนี่ยไม่บ้าจี้ตามโทมะหรอกนะ
เลือกคำตอบ - ผม ลูลูช เรียนที่เดียวกับโทมะครับ
“ ผม ลูลูช เรียนที่เดียวกับโทมะครับ ”
“ อ๋า เข้าใจแล้วพวกนักศึกษาสินะ ห้องพวกนายอยู่ข้างในนะเดินเลยสระว่ายน้ำไปมีหนึ่งห้องอยู่ที่ชั้น 1 และอีกหนึ่งห้องอยู่ที่ชั้น 2 เชิญเลือกกันตามสบายเลย ส่วนห้องชั้นอยู่ข้างบนนี่ห้องด้านขวามีอะไรก็มาเรียกได้ ”
ผมมองตามทางที่พี่คีตะบอกมีบันไดตรงนี้เป็นทางขึ้นชั้น 2 สินะ และพอมองเลยออกไปที่ประตูกระจกขอบไม้ข้างในก็เป็นสระว่ายน้ำจริง ๆ ด้วย ว้าวร่มรื่นจริง ๆ
“ เข้าใจแล้วครับงั้นพวกผมขอไปเก็บของก่อนนะครับพี่คีตะ ไปกันเถอะลูลูช ”
“ อื้ม ”
________________________________________________________________________________
talk with writer
ตอนนี้มีทวิตเตอร์แล้วนะคะใครอยากไปพูดคุยหรือรีวิวนิยายให้เราหรือคอมเม้นพูดคุยเจอกันได้ที่ Tw : @PenNameWinelada นะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกยอดวิวน้าา ถึงจะดูเป็นตัวเลขที่น้อยมากแต่สำหรับเราแค่มากกว่า 0 เราก็ดีใจมาก ๆ แล้วค่ะ
ไวน์ลดา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!