จตุรนครา [Au World Trigger ; BL/NL]
บทนำ
TW : บางเนื้อหามีคำไม่สุภาพ โปรดใช้สายตาในการอ่าน
ณ ป่าที่เงียบสงบมีเพียงเสียงลมพัดผ่านจนเกิดเสียงอันไพเราะ หมู่นกต่างก็พากันส่งเสียงร้องคลอไปตามสาย แล้วสุดท้ายก็หยุดลงที่หลังคาบ้านใครบางคน
บางสิ่งดังขึ้นคล้ายใครดีดนิ้ว ตามมาด้วยเสียงร้องประสานและวัตถุขนาดใหญ่ทั้งสามก็บินว่อนไปยังทิศทางเดียวกันก่อนจะถูกปล่อยลง ณ ลานหินกลางป่าที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต
???
อั่ก!!! ใคร ใครทับฉัน!!
???
อย่าดิ้นนะ ฉันจะร่วง!!
ชายหนุ่มร่างเล็กรีบผุดลุกขึ้นจากพื้น ก่อนจะปรี่เข้าไปพยุงหญิงสาวที่หล่นกองไปกับชายอีกคน
???
อู่ย เธอนี่...ตัวหนักชะมัด
เซียโล่
อ อะไร!? ฉันพูดความจริงนี่!
ไม่ทันขาดคำเซียโล่ก็โดนหญิงสาวตะครุบแก้มพลางยืดออกราวกับดินน้ำมัน
เซียโล่
โอ้ยๆๆ อ่อยอ้ะ!!(ปล่อยนะ)
???
ทำไมเราถึงโดนสายลมพามาที่นี่ล่ะ?
เซียโล่
นั่นน่ะไม่เรียกว่าพามาหรอกนะแพนเตอร์ /ลูบแก้ม
???
คำว่า 'กระชากจากเตียง' จะดูดีซะกว่า
แพนเตอร์
น นั่นแหละ ทำไมล่ะ! เราไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!
แพนเตอร์
ฉันไม่ได้ไปหยิบขนมจากสมาคมแม่มดเลยนะช่วงนี้ /กระซิบ
เซียโล่
ฉันกับเอ็มม่าก็ไม่ได้ไปป่วนสภาจอมเวทย์นานแล้วด้วย /กระซิบ
เอ็มม่า
ฉันได้ยินนะ อีกอย่างฉันไม่เคยป่วนสภาจอมเวทย์
เซียโล่
แหม ๆ คนที่ใช้เวทย์ไฟเผาพริกตรงหน้าต่างสภาคงจะเป็นฉันสินะ
เอ็มม่า
แหม ๆ คนที่ใช้เวทย์ลมพัดควันเผาพริกเข้าหน้าต่างคงจะเป็นฉันเหมือนกันนั้นแหละ
แพนเตอร์
เอ่อ ฉันว่าเราหยุดเรื่องเผาพริกเข้าสภากันก่อนมั้ย
เมื่อมองตามแพนเตอร์ไปก็พบเข้ากับชายหนุ่มอีกคนที่กำลังนั่งยิ้มอยู่บนต้นไม้
เอล
ว้าว ขอบใจพวกเธอจริง ๆ เลยนะ
เอล
ในที่สุดฉันก็ได้รู้สักทีว่าไอ้อีตัวไหนที่เผาพริกเข้าสภา /ยิ้ม
เซียโล่
ฮ่ะ ๆ นายอยู่ในสภาด้วยหรอวันนั้น /เหงื่อตก
เอ็มม่า
เอาน่า ๆ นายก็ดูปกติดีนี่ /ยิ้มแห้ง
แล้วเอ็มม่าก็เมินสายตาอาฆาตแค้นของเอลไปทันที
เอ็มม่า
จะว่าไปพวกเรามาทำอะไรกันที่นี่ล่ะ
เอล
อีเว้นท์สำคัญขนาดนี้จำกันไม่ได้จริง ๆ รึ
สีหน้าของเอลบ่งบอกว่าค่อนข้างจะเอือมอย่างมาก
แต่ในทันทีก็เปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มเช่นเดิม
เอล
วันนี้วันดีเดย์ยังไงล่ะเพื่อนรัก~
แพนเตอร์
หมายความว่ายังไงน่ะ
เอล
วันนี้เป็นวันคัดเลือกจอมเวทย์ทั้งสี่ไง
เอล
การคัดเลือกจอมเวทย์จากสี่เผ่าเพื่อตามหาเครื่องบรรณาการไปให้อีกสองนคร
เอล
ฉันจะพูดครั้งเดียวสำหรับวิชาประวัติศาสตร์ที่พวกนาย 'ไม่เคยตั้งใจ'
เซียโล่
แรงนะนั่น ฉันตั้งใจอยู่
แต่แล้วเซียโล่ก็ต้องเงียบเมื่อเห็นสายตาอันอ่อนโยน(?)ของเอล
เอล
สี่นครของเราถูกผูกติดด้วยพันธสัญญาสงบศึก จอมเวทย์กลุ่มสุดท้ายยื่นสิ่งนี้ให้กับอีกสองนคร
เอล
นครจอมเวทย์จะปกป้องนครสุริยามิให้นครใดลุกล้ำเข้าไปได้อีก แต่ก็เพื่อการคงอยู่ของอีกสองนครจึงจะมีการจัดการแข่งขันขึ้น
แพนเตอร์
โทษที พอพูดเป็นนครแล้วฉันสับสนนิดหน่อย
เอล
สี่นครจะประกอบไปด้วยนครมนุษย์, จอมเวทย์, หมาป่า และแวมไพร์ ทั้งสี่เคยสู้รบกันมาก่อนที่จอมเวทย์จะยื่นพันธสัญญาสงบศึกนี้เพราะมนุษย์เกือบจะสูญพันธุ์ ห้ามไม่ให้ใครล่ามนุษย์อีก
เอล
เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่ายจอมเวทย์ที่คอยปกป้องมนุษย์นั้นในทุก ๆ ร้อยปีจะนำเครื่องบรรณาการหรือมนุษย์คนนึงเข้าป่า
เอล
จากสองนครนี้ถ้าใครสามารถแย่งชิงเครื่องบรรณาการจากจอมเวทย์ทั้งสี่ที่ได้รับเลือก จะได้รับอนุญาตให้ล่ามนุษย์อีกครั้งเป็นเวลาสี่คืน
แพนเตอร์
แล้วตอนนี้ก็ครบร้อยปีพอดีสินะ?
หลังจากที่เอลเล่าจบบรรยากาศรอบข้างก็ดูอึมครึมและไม่สบอารมณ์สุด ๆ สีหน้าทุกคนดูไม่เข้าใจอย่างเห็นได้ชัด
เอ็มม่า
ปกป้องมนุษย์มาตลอดเป็นร้อยเป็นพันปีแต่สุดท้ายก็เป็นคนนำไปประเคนเองงั้นหรอ
เซียโล่
แล้วเส้นทางที่เราต้องพามนุษย์ไปก็ไม่มีใครการันตีเลยว่าเราจะรอดกลับมา
แพนเตอร์
นั่นสิ จากที่เอลเล่ามาคือเราต้องสู้ด้วย
เอล
อืม...จะว่าอย่างงั้นก็ได้ล่ะมั้ง
เอล
มีบันทึกในสภาด้วยว่าจอมเวทย์บางคนก็ไม่รอดกลับมา
เซียโล่
แย่มาก สวัสดิการคุ้มครองจอมเวทย์ไปไหนหมด!?
เอ็มม่า
แหงล่ะ ไอ้สองนครนั่นไม่ได้กินอะไรตั้งร้อยปีนี่
เซียโล่
ฉันไม่สงสัยเลยถ้าพวกนั้นจะหม่ำเราเข้าไปด้วย
เซียโล่พูดด้วยสีหน้าขมขื่นเต็มทน
แพนเตอร์
แล้วทำไมต้องลากเรามาแบบนี้ล่ะ ในเมื่อต้องคัดเลือกอีก
เอลกระโดดลงมาจากกิ่งไม้ด้วยท่วงท่าที่ดูสง่างาม เขากวาดตามองเพื่อน ๆ ของเขาทุกคนด้วยรอยยิ้มที่ดูจะฝืนเต็มที
เอล
ก็นี่ไง คัดแล้วพวกเราสี่คนนี่แหละ
บทที่หนึ่ง : การเดินทาง
TW : บางเนื้อหามีคำไม่สุภาพ โปรดใช้สายตาในการอ่าน
หลังจากได้รับรู้ความจริง สายลมก็พัดผ่านมาเผยให้เห็นผู้เฒ่าสองคนยืนอยู่ตรงนั้นราวกับว่ายืนรอพวกเขามาตั้งแต่แรกแล้ว
พวกเขาคือจอมเวทย์ที่เก่าแก่ที่สุดในนครนี้ ทั้งสองก้าวออกมายังด้านหน้าสายตาเปี่ยมไปด้วยประกายเมื่อมองมายังทั้งสี่
ท่านผู้เฒ่า
โฮะๆๆ มากันพร้อมแล้วสินะ
ท่านผู้เฒ่า
จริง ๆ แล้วฉันก็อยากจะไปเชิญด้วยตนเองอยู่หรอกแต่พอดีว่าสังขารไม่ไหวแล้วล่ะนะ
เอ็มม่า
(แหม สังขารไม่ไหวแต่เวทย์แรงไม่แผ่ว)
ท่านสูงวัย
ดูท่าพวกเธอคงจะได้รับรู้สถานการณ์ตอนนี้แล้ว
ท่านสูงวัย
ต้องขอบใจที่ช่วยอธิบาย เพราะพวกเจ้าต้องเดินทางตอนนี้เลย
เอ็มม่าเห็นมุมปากเอลกระตุกเล็กน้อย
ท่านผู้เฒ่า
ใช่ ๆ ตอนนี้เลย ไปตามหามนุษย์ที่ได้รับเลือกมาซะ
เอ็มม่า
เดี๋ยวสิคะ พวกเราพึ่งจะรู้เรื่องเมื่อสักครู่เอง
ท่านสูงวัย
จอมเวทย์น่ะมีความพร้อมอยู่เสมอ
เอ็มม่า
จอมเวทย์ก็มีสิทธิ์ที่จะได้เตรียมตัวเหมือนกัน /กัดฟัน
แพนเตอร์
ผ ผมว่ามันเร็วไปหน่อยครับ /ล็อคแขนเอ็มม่า
แพนเตอร์
พวกเรายังไม่รู้เลยว่ามนุษย์คนไหนที่ได้รับเลือก
ท่านผู้เฒ่า
โฮะๆๆ เดี๋ยวพวกเธอไปถึงก็จะรู้เอง
เซียโล่
โอ้ งั้นหรอครับ /กำหมัด
เอ็มม่า
เอาล่ะ ฉันว่าพวกเราควรจะ- เห้ย!!??
ยังไม่ทันที่เอ็มม่าจะพูดจบสายลมก็หวนกลับมาพัดพาพวกเธอทะยานสู่ฟากฟ้าและชั่วพริบตาเดียวก็ตกลงสู่ผืนป่าอีกครั้ง
แต่ดูเหมือนตรงหน้าของพวกเธอจะเป็นถนนแบบที่มนุษย์ปุถุชนใช้ในการเดินทาง
ตอนนี้พวกเธออยู่ในนครสุริยาของเหล่ามนุษย์แล้ว
เซียโล่
สายลมไม่ผิดนะ! ฉันเกลียดตาเฒ่านั่น!
เอล
หืม ฉันมาติดบนต้นไม้อีกแล้วล่ะ -_-+
เอลค่อย ๆ ยันตัวขึ้นตอนนี้เขาตกลงมาบนกิ่งไม้ใหญ่ เอ็มม่าและเซียโล่นั้นกลิ้งอยู่บนพื้นดินที่เปียกแฉะ
และแพนเตอร์ดูจะเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ หนำซ้ำดินก็เหมือนกำลังโอบอุ้มตัวเขาอยู่ยังไงยังงั้น
เอ็มม่า
แหงล่ะ ก็นายมีเวทย์ดินนี่
แพนเตอร์
ขอโทษนะ! ฉันตกใจไปหน่อย!
แพนเตอร์โบกมือเล็กน้อย เพียงพริบตาดินโคลนบนตัวเซียโล่และเอ็มม่าก็หายไป
เซียโล่
ว่าแต่เราต้องไปทางไหนกันล่ะนี่ /มองไปรอบ ๆ
เอล
ฉันคิดว่าทางนั้นนะ /ชี้ไปด้านหลัง
ทั้งสี่จึงออกเดินทางด้วยเท้าไปตามถนน
เซียโล่
ฉันล่ะอยากเรียกสายลมได้แบบนั้นจัง
เอ็มม่า
เวทย์ขั้นสูงนี่นะการเรียกธาตุของตัวเองน่ะ
เซียโล่
ช่าย~ ที่ฉันทำได้ก็มีเพียงรอสายลมผ่านมาแล้วก็บินตามไป /กางแขนทำท่าบิน
แพนเตอร์
ตอนนี้ก็มีลมนี่ ลองบินดูมั้ย
เอล
ถ้าบินได้คล่องแล้วก็อุ้มฉันไปด้วยนะเพื่อนรัก
เซียโล่
ใครจะบ้าไปอุ้มแกล่ะวะ!!!
ว่าแล้วเซียโล่ก็ลองโบกมือเล็กน้อย
สายลมที่พัดอยู่อ่อน ๆ รวมตัวกันก่อนจะหนุนหลังเขาขึ้นเหนือพื้นเรื่อย ๆ
เซียโล่
น่าจะได้สักพักนึง!! /ตะโกน
เซียโล่
เดี๋ยวฉันจะล่วงหน้าไปก่อนนะ!!
เอ็มม่าตอบด้วยเสียงยานคางผิดกับเอลที่จิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์ พลางมองเซียโล่ที่บินผ่านไป
เอ็มม่า
ถนนเส้นนี้มันจะยาวไปถึงไหนกัน
เอ็มม่า
ฉันไม่เห็นบ้านคนเลยสักนิด
เอ็มม่า
พวกรถยนต์อะไรนั่นด้วย
แพนเตอร์
เหมือนเป็นที่ห่างไกลความเจริญ
เอล
จริง ๆ ก็ดีแล้วล่ะที่ส่งเซียโล่ไป
เอล
เพราะเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องเดินเท้าไปอีกนานแค่ไหน
เอ็มม่า
ทำไมไม่ใช่เวทย์น้ำของนายล่ะ
เอ็มม่า
แถมเวทย์ขั้นสูงอื่น ๆ นายก็ใช้ได้นี่
แล้วเอลก็โยกหัวหลบฝ่ามือของเอ็มม่าไป
เอ็มม่า
ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็ก ฉันจะเผานายให้เป็นจุล
แพนเตอร์
ไม่เอาน่า! /ล็อคแขนเอ็มม่าสุดแรง
เอล
ความจริงคือ เราได้รับอนุญาตให้ใช้เวทย์พื้นฐานได้เท่านั้นในนครสุริยา
เอลหยุดก่อนจะเดินไปทางต้นไม้ใหญ่ต้นนึงเพื่อพักเล็กน้อย ทำให้ทั้งแพนเตอร์และเอ็มม่าเดินตามไปด้วย
แพนเตอร์
ทั้ง ๆ ที่นายสามารถพาเราไปหามนุษย์คนนั้นได้ในพริบตาน่ะหรอ
เอล
ช่าย ยังไงรอบตัวมนุษย์คนนั้นก็มีน้ำอยู่แน่ ๆ
เอล
ลองนึกสภาพเราใช้เวทย์ขั้นสูงกันแล้วพวกมนุษย์มาเห็นสิ
เอล
สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ได้เริ่มอีกรอบแน่
แพนเตอร์
แต่ว่าเซียโล่พึ่งจะ 'บิน' ไปเองนะ
แพนเตอร์
ถ้ามนุษย์ผ่านมาเห็นเข้า
แพนเตอร์
ระหว่างที่เขา 'บิน' อยู่ล่ะ
เอล
ฉันลืมไปเลยนะเนี่ย ^^+ /เริ่มสับเท้า
แล้วจอมเวทย์ทั้งสามเริ่มออกตัววิ่งไปตามทางอีกครั้ง
ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
บทที่สอง : พักระหว่างทาง
TW : บางเนื้อหามีคำไม่สุภาพ โปรดใช้สายตาในการอ่าน
เซียโล่
โอ้...ลืมเรื่องการใช้เวทย์นอกนครไปเลยน่ะ
เซียโล่
ขอบใจที่...เตือนนะ
เซียโล่มองเพื่อนทั้งสามที่ต่างก็เหนื่อยหอบจากการวิ่งมาราธอนตามหลังเขามา ถึงจะห่างกันไกลแต่ทุกคนก็แข็งขันในการวิ่งเป็นอย่างมาก
เอ็มม่า
ฉ ฉันจะ ง งดออกกำลังสักเดือน /หอบ
เซียโล่
จริง ๆ ฉันบินมานี่ไม่เจอใครเลยล่ะ /ยืดอกภูมิใจ
เซียโล่
แถมยังได้ลงเดินเพราะสายลมหมดช่วงพอดี
แพนเตอร์
อย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่มีใครเห็นนะ
แพนเตอร์เหม่อมองไปยังท้องฟ้าที่แปรเปลี่ยนจากสีฟ้าครามเป็นอมส้ม ดูเหมือนพวกเขาจะใช้เวลาจนหมดวันเสียแล้ว
แพนเตอร์
เราไปหาที่พักกันก่อนมั้ย
แพนเตอร์
อย่างน้อย ๆ ก็ต้องหาอาหารกับน้ำ
เอ็มม่า
แน่นอนว่ากองไฟด้วย /ถูมือ
เซียโล่
บอกฉันทีว่าเธอจะไม่เผาป่าในนครนี้จนวอด /มองหวั่น
เอล
ช่วยรีบสาวเท้ากันหน่อยได้มั้ยเอ่ย ^^+
เอลยืนมองจากทางเข้าป่า เขายังคงหน้ายิ้มกวนบาทาเอาไว้ดังเดิมถึงจะดูเหนื่อยเต็มที
เอล
ถ้าฟ้ามืดแล้วเราจะลำบากนา
แพนเตอร์
แต่เราก็มีเอ็มม่าที่ใช้เวทย์ไฟนะ /เดินตามไป
เอล
ถ้าอยากให้ช่วยเผาป่าล่ะก็ใช่
เอ็มม่า
เห้ย /พุ่งมากระชากคอเสื้อ
เอล
แต่ว่าฉันหมายถึงพวกสัตว์ในป่า ไหนจะคนเดินป่าที่อาจจะมี และพวกไม่พึงประสงค์
เอลพยายามแกะมือเอ็มม่าอยู่ครู่นึง
แพนเตอร์
พวกไม่พึ่งประสงค์?
เอล
ไว้ฉันจะอธิบายตอนเราได้ที่พักละกัน
เซียโล่
ถ้าเราอยู่ในป่าเราใช้เวทย์ได้แล้วงั้นสินะ
เอล
อื้อ ๆ ถ้าพวกมนุษย์มาเห็นก็คงจะคิดว่าหลอนไปเอง
เอ็มม่า
แบบนี้เราก็ไม่ต่างกับผีเลยนะ
เซียโล่
เห้ย!! /ตะครุบปากเอ็มม่า
นอกจากเซียโล่จะแตกตื่น แพนเตอร์ยังสะดุ้งสุดตัวด้วย
เซียโล่
ชู่ว!! เข้าป่าใครเขาให้พูดถึงปี๊บ ๆ กัน!!
แพนเตอร์
อ๊าก!!! /ตะครุบปากเอล
แพนเตอร์
ห้ามพูดถึงปี๊บ ๆ นะ!!!
เป็นเวลาไม่นานที่ทั้งสี่เดินเท้าเข้ามายังในป่าลึก แต่ไม่ว่าจะมองไปทางใดพวกเขาก็ไม่เห็นสถานที่ที่จะสามารถทำเป็นที่พักสำหรับคืนนี้ได้เลย
เซียโล่
เต๊นท์ก็ไม่มี ยอดไปเลย /เตะเศษใบไม้
เอล
ตัวเปล่ากันหมดเลยนี่นะ
เอ็มม่า
ในกระเป๋ากางเกงพวกนายมีอะไรบ้าง
เซียโล่
มันจะไปมีอะไรได้ยังไง -_-?
เอ็มม่า
ก็เผื่อมีอะไรที่เป็นประโยชน์ไง!
แพนเตอร์
อ่า ของฉันหรอ /ค้น
แพนเตอร์ยื่นลูกอมสีเขียวออกมาห้าเม็ด
แพนเตอร์
เมื่อคืนจอมเวทย์ข้างบ้านฉันเอามาให้ชิม เหมือนจะเป็นรสใหม่ล่าสุด
เซียโล่
อ่า เก็บไว้ก่อนเถอะนะ
แล้วเอ็มม่าก็ฟาดเข้าให้ที่กลางหัว
เอ็มม่า
สม บอกว่าไม่มีแต่แรกก็จบ
เซียโล่
ใครจะไปพกของตอนนอนเล่า!
เอ็มม่า
มหาจอมเวทย์เป็นพยาน นั่นมันอยู่ในกระเป๋านายงั้นหรอ!?
เอลยื่นขนมปังก้อนนึงที่ดูจะใหญ่คับกระเป๋ากางเกงส่งให้แพนเตอร์และอีกก้อนให้กับเอ็มม่า
เซียโล่รับขนมปังมาด้วยสีหน้าปั้นยาก
เซียโล่
เวทย์ขั้นสูงกับกระเป๋ากางเกงเนี่ยนะ?
เอล
เวทย์ขยายพื้นที่ แต่มีข้อจำกัดว่าห้ามใส่ของที่เป็นธาตุตัวเองน่ะ
เอล
แค่ลองดูเอง ไม่นึกว่าจะทำได้~
เซียโล่
รู้มั้ยว่านี่มันโคตรจะพิรุธ
เอ็มม่า
แหม๊ เสียงสูงเชียว
แพนเตอร์
รู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าเราจะโดนเลือกน่ะ!!! /เอาขนมปังตี
เอล
อีกอย่างฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า~
แพนเตอร์
แล้วมันจะมีขนมปังในกระเป๋านายได้ยังไงล่ะ!
เซียโล่
หยุดตอแหลแล้วบอกพวกฉันมา
เอล
ฉันหวังว่าจะเจอบ้านสักหลัง แต่ดูเหมือนจะไร้วี่แวว
เอ็มม่า
ไอ้เวรนี่มันเปลี่ยนเรื่อง!
แพนเตอร์
อืมม งั้นให้ฉันขุดดินสร้างเป็นถ้ำใต้ดินมั้ย?
เอล
โอ้ว้าว สุดยอดเลยล่ะ /ประชด
เอ็มม่าตบเข้าที่กลางหน้าผากได้รูปของเอล
เอ็มม่า
ฉันว่าอย่างน้อยมันก็ดีกว่าอยู่บนพื้นดินที่เต็มไปด้วย 'แมลง'
แพนเตอร์โบกมือหนึ่งครั้งก่อนจะประสานมือเข้าด้วยกันคล้ายกับกำลังโอบอุ้มบางสิ่ง
มีเสียงครืดคราดดังมาจากใต้เท้าของทั้งสี่ราวกับแผ่นดินไหวเล็ก ๆ เคลื่อนไปตามทางก่อนจะหยุดลงที่ต้นไม้ใหญ่
แพนเตอร์เดินนำทางไปยังต้นไม้ใหญ่ เพียงแค่แตะฝ่ามือลงบนลำต้นทำให้เกิดรอยแยกวงรีขนาดใหญ่ กิ่งไม้ก็งอกออกมาม้วนกันเป็นเกลียว
เจ้าตัวออกแรงดึงเล็กน้อย เผยให้เห็นบันไดวนลงไปยังชั้นล่าง
ดูเหมือนถ้ำใต้ดินจะหรูหรามากกว่าที่จินตนาการเอาไว้
เอ็มม่า
ฉันเคยได้ยินเรื่องความเชี่ยวชาญด้านการสร้างของเวทย์ดิน แต่ไม่นึกว่าจะขนาดนี้ /อึ้ง
เซียโล่
นี่เวทย์พื้นฐานจริงมั้ย? /หันไปมองแพนเตอร์
แพนเตอร์
เรียนตั้งแต่ปีแรกเลยล่ะ /ทำหน้าบึ้ง
แพนเตอร์
แถมฉันได้คะแนนเกือบท้ายสุดด้วย!
เอล
นี่ขนาดท้ายสุดน่ะนะ ^^+
ทั้งสี่เดินตามแพนเตอร์ลงไปยังด้านล่าง
เซียโล่
จะว่าไปมันปลอดภัยใช่มั้ย
เซียโล่
ประตูมันค่อนข้างจะเด่นชัดนะ กิ่งไม้เป็นเกลียวลูกบิด
แพนเตอร์
นอกจากจอมเวทย์ก็ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้หรอก
เอล
แต่ถ้าเป็นเวทย์ขั้นสูงดูเหมือนจะพรางตาสถานที่ที่สร้างได้ด้วยหนิ ใช่มั้ยนะ
แพนเตอร์
ใช่แล้ว แต่มีไม่กี่คนหรอกที่ทำได้
เอ็มม่า
การอำพรางสถานที่ขนาดใหญ่น่าจะกินพลังเยอะอยู่นะ
แพนเตอร์
เพราะงั้นฉันถึงได้หิวตลอดไงล่ะ /กัดขนมปังก้อนที่สอง
บันไดทางลงนั้นพามาสู่ชั้นล่าง แต่ก็มีอุปสรรคเล็กน้อย
แพนเตอร์
ฉันสร้างหลอดไฟไม่ได้หรอกนะ!!!
เซียโล่
ไม่มีใครว่าอะไรนี่ /หลบตา
เอ็มม่า
แต่ทำคบไฟไว้แล้วใช่มั้ย
เซียโล่
เอ มันจะไม่ไหม้ไปทั่วหรอ ไหนจะควันอีก
เอ็มม่า
นี่แหละความลับของเวทย์ไฟ
เอ็มม่าหลับตาลงพลางโบกมือ ชั่วพริบตาก็เหมือนมีลูกไฟสีเหลืองลอยออกมาจากฝ่ามือของเธอ
มันลอยไปตามทางก่อนจะหยุดลง ณ จุดที่แพนเตอร์สร้างคบไฟเอาไว้ หลอมรวมกลายเป็นไฟสีเหลืองที่ลุกโชน
เอ็มม่า
เป็นเวทย์ที่ค่อนข้างจะฝึกง่ายน่ะ
เอ็มม่า
การสร้างไฟสีเหลืองนี้จะไม่มีความร้อนใด ๆ แต่จะลุกโชนจนกว่าผู้สร้างจะต้องการดับมัน
เอ็มม่า
ไม่เหมือนการเรียกไฟนะ
เซียโล่
แต่สร้างเสมือนว่าเป็นไฟเฉย ๆ งั้นสินะ?
เอ็มม่า
ใช่แล้ว ที่นี่ใหญ่อยู่นะเนี่ย /มองไปรอบ ๆ
พื้นที่ถ้ำด้านล่างเหมือนห้องโถงขนาดใหญ่ มีดินกองอยู่สี่กองสร้างคล้ายกับเตียงขนาดย่อม แพนเตอร์อธิบายว่ามันนุ่มใช้ได้แถมไม่เปื้อนตัวทุกคนอีกด้วย
แพนเตอร์
จะไปไหนน่ะ? นี่มันค่ำแล้วนะ??
เอลทำเพียงคลี่ยิ้มเท่านั้นก่อนจะหายตัวไป
แพนเตอร์
อย่าให้ฉันใช้เวทย์ค้นหาธาตุในพริบตาได้เหมือนกันนะ!!!
เอ็มม่า
ใจเย็น ๆ นะแพนเตอร์ ...
แพนเตอร์
กลับมาล่ะน่าดูเชียว!!!
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!