บทนำ
จุดเริ่มต้นของความหวั่นไหว
“เจ้า! เอาอะไรให้ข้าดื่ม?”
ร่างสูงโปร่งกำยำลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้
จ้องมองจอกเหล้าในมือสลับกับดวงหน้างดงามราวเทพธิดาด้วยสายตาตื่นตระหนก
มืออีกข้างยกขึ้นกุมทรวงอกที่กำลังเกิดอาการร้อนวูบวาบภายใน สองขาแข็งแรงซวนเซไปมา
จนต้องเท้ามือลงบนโต๊ะอาหารประคองร่างกายเอาไว้ ไม่เช่นนั้นเขาคงได้ล้มลงไปกองกับพื้นเป็นแน่
คนถูกถามค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นตาม
สาวเท้าเยื้องย่างเข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างเชื่องช้า มือเรียวยกแตะบ่ากว้างแผ่วเบา
เลื่อนลูบไล้ไปตามอาภรณ์ผ้าไหมเนื้อดี
ขยับใบหน้าประชิดกระซิบข้างใบหูเห่อแดงด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“ยาปลุกกำหนัด”
‘เฉินตงหยาง’ ผงะกายถอยหลังด้วยความตกใจ
ดวงหน้าหล่อเหลาคมคายปรากฏเม็ดเหงื่อจำนวนมากผุดพรายล้อมรอบ
ออกแรงขยับสองขาเดินหนีไปยังบานประตูอย่างยากลำบาก
ใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ผลักดันทว่าไร้การเคลื่อนขยับ
มันถูกลงกลอนล็อกไว้โดยฝีมือบางคนจากภายนอก
“ปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!”
มือใหญ่รัวทุบเขย่าประตูหวังให้มันเปิดอ้าออก
ปากก็พร่ำส่งเสียงร้องเผื่อใครสักคนได้ยินและเข้ามาช่วยเหลือ
โดยหารู้ไม่ว่าบริเวณโดยรอบสถานที่แห่งนี้
ถูกผู้เป็นเจ้าของตำหนักสั่งให้ทุกคนกระจายตัวออกไปกันจนหมดแล้ว มีเพียงเขาและนางอยู่กันตามลำพังเท่านั้น
“อย่าพยายามเลยเฉินตงหยาง
อย่างไรเสียคืนนี้ท่านก็ต้องอยู่กับข้า…ที่นี่!!”
‘โจวซูฮวา’ ปรี่เข้าประชิดกายหนาที่หันกลับมาเผชิญหน้ากับนางพอดี
มือบางยันค้ำบานประตูเพื่อกักกันอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้หลบหนี ขณะที่อีกข้างยกขึ้นจับปลายคางได้รูปบังคับให้สองตาคมสบสายตา
หากเป็นสถานการณ์ปกติ เรี่ยวแรงราวกับมดตัวเล็กๆ แค่นี้ไม่มีทางทำอะไรคนแข็งแรงอย่างเขาได้แน่
ทว่าตอนนี้เฉินตงหยางพละกำลังเหือดหายสติรางเลือน อีกทั้งภายในกายเริ่มร้อนรุ่มดั่งถูกไฟแผดเผา
เขาจึงพ่ายแพ้ให้กับสตรีตรงหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เจ้าต้องการอะไรจากข้า?”
เป็นคำถามที่ดูสิ้นคิดสิ้นดี ก็เห็นๆ
กันอยู่ว่าโจวซูฮวาใช้ยาปลุกกำหนัดกับเขา สิ่งที่นางต้องการคงไม่พ้นเรื่องบนเตียงเป็นแน่แท้
ทว่าเหตุผลนี้เฉินตงหยางจะนึกไม่ถึงก็ไม่ผิด เพราะที่แล้วมาทั้งคู่เป็นปฏิปักษ์ต่อกันมาโดยตลอด
เจอหน้ากันคราใดเป็นต้องปะทะฝีปากกันอยู่ร่ำไป ไม่มีใครทำให้อ๋องเฉินผู้แสนเย่อหยิ่งเย็นชาพูดคุยตอบโต้ได้เกินสิบประโยค
มีเพียงโจวซูฮวาตัวแสบเท่านั้นที่สามารถเรียกโทสะจากเขาได้
และเพราะเฉินตงหยางเองก็ไม่เคยมีท่าทีหวั่นเกรงต่ออำนาจของอีกฝ่าย
แม้ปัจจุบันตนจะมีศักดิ์ต่ำต้อยกว่าโจวซูฮวาก็ตามที
ขณะที่คนอื่นต่างพากันเอาอกเอาใจนางจนออกนอกหน้า
มีเพียงเขาเท่านั้นที่ไม่เคยก้มหัวให้นางเลยสักหน
เรียกได้ว่าเป็นศัตรูคู่แค้นที่ไม่มีทางลงรอย จนกระทั่งเย็นวันนี้...
โจวซูฮวาส่งจดหมายเทียบเชิญให้อ๋องเฉินมาร่ำสุราที่ตำหนัก
ให้เหตุผลว่าอยากขอโทษกับทุกสิ่งที่นางเคยทำไม่ดีกับเขาเอาไว้ ต้องการเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ในเชิงสหายผู้หนึ่ง
ทั้งๆ ที่ใจจริงแล้วปรารถนาจะครอบครองตัวและหัวใจเขาทั้งหมด
ในฐานะสตรีผู้กุมหัวใจอ๋องเฉินจอมเย็นชา
จากความเกลียดขี้หน้าแปรเปลี่ยนเป็นรักลึกซึ้งที่มิอาจถอดทอนใจออกได้
ถึงเฉินตงหยางจะปากสุนัขพูดจาสามหาวยโสอวดดี
แต่เขากลับออกหน้าปกป้องนางจากคำนินทาของเหล่าธารกำนัลสองหัว
ที่ว่าร้ายให้โจวซูฮวาลับหลังอยู่บ่อยครั้ง
สำหรับเฉินตงหยางการนินทาว่าร้ายเจ้านายถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควร
ยิ่งเรื่องราวพวกนั้นไม่เป็นความจริง
แต่กลับเอามาพูดใส่สีตีไข่กันอย่างสนุกปากยิ่งไม่สมควรเข้าไปใหญ่
แต่สำหรับโจวซูฮวาที่ไม่เคยได้รับการปกป้องจากผู้ใด
นางกลับมองว่ามันเป็นสิ่งที่น่าประทับใจจนยากจะลืม
จากความประทับใจเล็กๆ ก่อเกิดเป็นความรักลึกซึ้งในวันนี้
แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้โจวซูฮวาลงทุนทำเรื่องงามหน้าร้ายแรง ถึงขั้นหลอกบุรุษสูงศักดิ์มาวางยาปลุกกำหนัดในคืนนี้
สามวันก่อนหน้าโจวซูฮวาบังเอิญแอบไปได้ยินพระบิดา พูดคุยปรึกษาบางสิ่งกับหัวหน้าขันที
มันเป็นเรื่องราวของบุรุษที่นางตกหลุมรัก
ฮ่องเต้ประสงค์จะส่งเฉินตงหยางไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับแคว้นอัน โดยการอภิเษกสมรสกับองค์หญิง ‘หลี่เยว่ฉี’ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่โจวซูฮวายอมไม่ได้
ครั้นจะออกหน้าคัดค้านในความคิดเห็นของพระบิดา ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำแล้วใหญ่
ผู้คนทั่วทั้งแคว้นรับรู้โดยถ้วนหน้า ว่าแม้จะเป็นพระราชธิดาเพียงองค์เดียว ทว่าฮ่องเต้กลับไม่เคยแสดงออกว่ารักหรือเอ็นดูนางเลยสักนิด
ราวกับว่ามิใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตน
ทางเลือกเดียวที่โจวซูฮวาคิดได้คือการเอาเกียรติและศักดิ์ศรีที่มี
มาฉุดรั้งเฉินตงหยางให้อยู่ที่แคว้นฟู่เคียงข้างนาง อย่างไรเสียฮ่องเต้ที่ยึดถือหน้าตาภาพลักษณ์ของวงตระกูลเป็นที่หนึ่ง
ย่อมไม่มีทางปล่อยให้ราชบุตรเขยทางพฤตินัยของลูกสาว เดินทางไปสมรสกับสตรีแคว้นอื่นเป็นแน่
“ต้องการท่านไง”
โจวซูฮวาใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือเกลี่ยไล้ริมฝีปากหยักสีแดงระเรื่อ
พลางทอดสายตาจดจ้องอย่างหลงใหล ขณะที่เฉินตงหยางเริ่มคุมสติไม่อยู่
เขามองดวงหน้าสวยปลั่งดั่งจันทราซึ่งลอยเด่นอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
ทั้งๆ ที่ไม่ชอบขี้หน้านางเข้าไส้ ทว่าเวลานี้สตรีนางนี้กลับดูกระตุ้นความปรารถนาบางอย่างขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เป็นถึงองค์หญิงแต่กลับทำตัวไร้ยางอาย
ข้าไม่แปลกใจเลยที่ฝ่าบาททรงดูรังเกียจมากกว่าเอ็นดูเจ้า!!”
“…!!”
คำพูดร้ายๆ เสียดแทงหัวใจดวงเล็กจนเจ็บแปลบ
ใบหน้าสวยสดหมองลงเมื่อนึกตามประโยคเมื่อครู่
ความจริงแล้วถึงโจวซูฮวาจะทำตัวเยี่ยงสตรีไร้ค่าเช่นนี้
หรือจะวางตัวมีเกียรติศักดิ์ศรีคู่ควรกับตำแหน่งองค์หญิงมากเพียงไหน
พระบิดาก็ไม่เคยมีความรักให้อยู่ดี
ใช่ว่านางจะไม่เคยทำตัวดีเพื่อเอาใจเสด็จพ่อ
ครั้งยังเยาว์วัยได้กระทำมาแล้วทุกรูปแบบ เป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย
ศึกษาใฝ่เรียนรู้จนอาจารย์หลายท่านเอ่ยชมไม่ขาดปาก
กิริยาวาจาเรียบร้อยอ่อนหวานดั่งเทพธิดา ข้าราชบริพารทั่วล้าล้วนแสดงความเอ็นดู
ถึงมันจะเป็นเพียงการแสดงฉากหนึ่งก็เถอะ
มีเพียงแต่พระบิดาเท่านั้นที่มองโจวซูฮวาด้วยสายตารังเกียจเดียดฉันท์ชัดเจน
โดยที่ไม่มีใครรู้เหตุผลว่าเพราะเหตุใดกันแน่ แม้กระทั่งตัวนางเองก็ยังไม่เข้าใจจนทุกวันนี้
“อยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะอ๋องเฉิน
วาจาร้ายกาจของท่านข้าชินเสียแล้วล่ะ”
โจวซูฮวาปรับสีหน้ากลับให้เป็นปกติ นางยิ้มอย่างผู้ถือไผ่เหนือกว่าเมื่อร่างใหญ่ดูอ่อนแรงลงกว่าเดิม
เฉินตงหยางเริ่มพยุงตัวยืนต่อไม่ไหว จึงเอนกายหยัดพิงบานประตูเอาไว้ไม่ให้ล้มลงกองกับพื้น
“สตรีหน้าด้าน!”
“…”
“ข้าล่ะสงสารเสด็จพ่อของเจ้าจริงๆ ที่มีบุตรีเยี่ยงนี้”
“…”
“ต่อให้ข้าต้องสิ้นชีพก็จะไม่มีวันรับคนอย่างเจ้าเป็นภรรยา!”
“ด่าจบหรือยัง?”
ถึงจะรู้สึกเจ็บลึกราวกับถูกคมมีดเชือดเฉือน
ทว่าโจวซูฮวากลับแสร้งปั้นหน้าทะเล้นคล้ายไม่แยแสกับประโยคดูหมิ่นดูแคลน
ไม่ว่าผู้ใดก็รู้ว่าการถูกส่งไปต่างแคว้นไม่ต่างอะไรกับไปเป็นเชลย
ยิ่งสองแคว้นที่มีประวัติการศึกแย่งชิงดินแดนกันมาเนิ่นนานนับแต่อดีตยิ่งแล้วใหญ่
ถึงจะเป็นการไปอภิเษกสมรสกับเชื้อพระวงศ์ของอีกแคว้นก็เถอะ
มันมิได้น่ายินดีอย่างที่หลายๆ คนคิด ทำไมโจวซูฮวาจะไม่รู้
พระมารดาของนางเองก็เป็นถึงองค์หญิงแคว้นอัน
ที่ถูกบังคับให้มาเป็นพระชายาแคว้นฟู่เหมือนกัน ถึงนางจะสวรรคตไปแล้ว
ทว่าความเป็นเชลยก็ถูกสืบต่อมายังผู้เป็นธิดาอยู่ดี
ไม่มีใครยอมรับในสายเลือดที่ไม่บริสุทธิ์นี้หรอก
นางรับรู้ได้ผ่านสายตาที่มองมาตั้งแต่จำความได้ ต่อให้ทำตัวดีแค่ไหน
ถีบส่งตัวเองให้คู่ควรกับตำแหน่งองค์หญิงแคว้นฟู่มากเพียงใด
ก็ได้แค่คำชมจอมปลอมเท่านั้น พอลับหลังก็พูดจาว่าร้ายกันสนุกปาก
ดูหมิ่นดูแคลนต่างๆ นานาหาความจริงใจไม่เจอ
เพราะฉะนั้นโจวซูฮวาจะไม่มีวันปล่อยให้บุรุษที่นางรัก ต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับนางอย่างแน่นอน
การที่เขาได้อยู่ที่นี่อยู่ที่แผ่นดินเกิดของตนแบบนี้
อย่างไรเสียก็ย่อมสบายใจกว่าการไปอยู่ต่างถิ่น ในที่ซึ่งมีแต่คนแปลกหน้า ที่คอยจ้องจะแทงข้างหลังอยู่เสมอแน่นอน
“ยัง! ข้าด่าเจ้าได้ยันดวงอาทิตย์ขึ้นทอแสงที่ปลายขอบฟ้าในเช้าอีกวันเลยล่ะ”
เฉินตงหยางพยายามฝืนความรู้สึกประหลาดที่กำลังเข้าครอบงำจิตใจ
เวลานี้เขาปรารถนาจะทำมากกว่าการยืนต่อปากต่อคำกับคนตรงหน้า
ทุกอย่างของโจวซูฮวามันยั่วยวนจนเผลอกลืนน้ำลายลงคอไม่รู้กี่อึกต่อกี่อึก
ทว่ายิ่งฝืนยิ่งทรมาน ยิ่งต่อต้านยิ่งไร้เรี่ยวแรงขัดขืน
ดั่งลูกนกในกำมือนางพยัคฆ์ ถูกตะปบอยู่ภายใต้อุ้งเท้าขนาดใหญ่
กักกันเขาไว้ในกรงเล็บแหลมคมดั่งใบมีด
“งั้นไว้ข้าแต่งเข้าจวนท่านแล้วค่อยด่าต่อครานั้นก็แล้วกันนะ”
“ใครบอกว่าข้าจะแต่งเจ้าเข้าจวน?
ไม่มีวันเสียหรอก!”
“พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวรู้กัน”
“…!!”
“แต่ตอนนี้…ยอมเป็นของข้าเสียเถอะ!”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจอย่างมีแผนการคือภาพสุดท้ายที่เฉินตงหยางได้เห็น
ก่อนถูกริมฝีปากอิ่มสีแดงชาดประทับปิดกลีบปากหยักได้รูปของตน
จุมพิตแผ่วเบาเพียงปากแตะปากไร้การเคลื่อนขยับ กลับปลุกเร้าด้านมืดที่ข่มกดเอาไว้มาตั้งแต่ต้นให้พังทลายลง
ทุกสิ่งอย่างที่พยายามอดทนพังครืนในพริบตา
บุรุษแข็งแกร่งมิอาจทำใจหนักแน่นได้อีกต่อไป
เมื่อสัตว์ร้ายภายในกายถูกปลุกขึ้นด้วยฤทธิ์ยากระตุ้นกำหนัดแบบเข้มข้น
พละกำลังที่คล้ายจะเหือดหายแทบสิ้น จู่ๆ
คืนกลับมาเป็นเท่าทวีคูณ เหยื่อกลายร่างเป็นนักล่า ขณะที่คนเป็นผู้ล่าถอยสถานะกลายเป็นผู้ถูกล่าเสียอย่างนั้น
เฉินตงหยางรวบร่างอรชรเข้าแนบอก บดเบียดริมฝีปากพยายามแทรกใบลิ้นเข้าภายในโพรงปากเล็ก
โจวซูฮวาที่ไม่ทันตั้งตัวเบิกตาโพลงอย่างตกใจ
พยายามผลักดันร่างใหญ่ออกด้วยอาการตื่นตระหนก
ทว่ากลับถูกท่อนแขนแข็งแรงรัดเอวไว้แน่น
ไหนจะฝ่ามือใหญ่ที่กดล็อกท้ายทอยนางไม่ให้หันหนี ทำได้เพียงดิ้นขลุกขลักไปมาอยู่ในอ้อมกอดซึ่งเปรียบดั่งกรงขังขนาดย่อมเท่านั้น
ถึงแผนการในค่ำคืนนี้จะเป็นนางที่วางไว้ตั้งแต่แรก
เตรียมตัวเตรียมใจพลีกายมาแล้วแท้ๆ แต่พอตกอยู่ในสถานการณ์ไม่คาดฝัน เป้าหมายเกิดการตอบสนองเกินกว่าที่คาดคิด
ก็เล่นเอาสตรีใจกล้าหน้าด้านอย่างนางหวาดหวั่น หัวใจตกตุ้บไปอยู่ปลายเท้า
เกิดความกลัวขึ้นมาเสียดื้อๆ
แม้คิดจะหลีกหนีถอยทัพตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว
เฉินตงหยางถูกไฟราคะเผาไหม้โดยสมบูรณ์
สิ่งที่ทำได้คือต้องก้มหน้ายอมรับผลจากการกระทำของตน
นอนทอดกายให้เขาเชยชมจนกว่าฤทธิ์ยาจะเบาบาง หรือไม่ก็เรี่ยวแรงอีกฝ่ายจะหมดไป
แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!