ใช่แล้วตั้งแต่ฉันจำความได้
พวกเราก็เป็นเพื่อนกันมาโดยตลอด
พวกเราเป็นเพื่อนกันมา 6 ปี
อยู่กินกันมาตั้งแต่อนุบาลได้แล้ว
เราผ่านเรื่องราวมาเยอะมากทั้งดีและไม่ดี
มีบางครั้งที่เราโดนลงโทษเพราะว่าเราทำสิ่งที่ไม่ดี
บางครั้งเธอก็ไม่ทำอะไรผิดแต่ฉันดังลากเธอเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยมันแย่มาก
พวกเราก็เป็นเพื่อนกันไม่ได้คิดอะไรกันมากนอกจากคำว่าเพื่อนก็อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด
เราพอเริ่มโตก็มีโทรศัพท์ก็แชทหากันโทรคุยกันปรึกษาหารือด้วยกันเป็นชีวิตวัยรุ่นที่ดีเลยทีเดียวเราไม่เคยมีความรู้สึกอื่นให้กันนอกจากเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเราก็นะก็แค่เด็กธรรมดาเด็กผู้หญิงที่มีความฝันว่าอนาคตจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่เรารักไม่มีใครไม่ใฝ่ฝันถึงอนาคตนั้นหรอกพ่อแม่ก็มักจะสนับสนุนเรื่องนี้แต่พวกเขาก็มักจะบอกว่าให้เราโตก่อนให้เรามีงานทำมีอนาคตที่ดีก่อนถึงเราจะสามารถแต่งงานได้และแน่นอนเราสองคนเองก็ใฝ่ฝันถึงวันนั้นเราเคยสัญญากันว่าถ้าวันนั้นมาถึงเราจะต้องไปงานแต่งของเพื่อนของเราให้ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแล้วให้คำสัญญาให้คำมั่นว่าจะไม่ทิ้งกันจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน 2 คนจะไม่ให้ใครคนอื่นมาแทรกกลางระหว่างเราแต่ว่าพองานเข้าฉันก็เริ่มรู้สึกแปลกๆขึ้นมาพออยู่ด้วยกันเรื่อยๆคุยกันเรื่อยๆปรึกษาหารือปัญหาด้วยกันเรื่อยๆหรือแม้แต่ปรึกษาปัญหาเรื่องครอบครัวเรื่องคนอื่นที่แอบซื้อเซเว่นนินทาคนอื่นความรู้สึกของฉันที่มีให้กับเธอคนนั้นก็เริ่มเปลี่ยนไปเริ่มไม่เหมือนเดิมเป็นความรู้สึกที่ว่าเหมือนตกหลุมรักใครบางคนฉันเริ่มรู้สึกแบบนั้นอาการนี้มาแสดงออกเห็นได้ชัดเมื่อฉันอยู่ใกล้เธอเมื่อไหร่ที่เธอพูดเมื่อไหร่ที่เธอสบตาหรือเมื่อไรที่เธอชมว่าฉันน่ารักฉันมักจะเขินความรู้สึกของฉันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลยล่ะแล้วเธอคนนั้นแหละรู้บ้างไหมว่าฉันน่ะหลงรักเธอไปแล้วล่ะอย่าไม่ให้เธอรู้จังเลยว่าเพื่อนที่แสนดีคนนี้คิดกับเธอเกินคำว่าเพื่อนไปแล้วจะต้องเก็บความลับนี้ให้ได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ฉันไม่อยากเก็บมันเอาไว้อีกฉันเลือกที่จะบอกทุกอย่างกับเธอเลือกที่จะพูดมันออกไปเลือกที่จะไม่ปิดบังมันอีกแล้วในตอนแรกฉันก็อึดอัดที่ไม่บอกเรื่องนี้ฉันรู้สึกว่ามันแปลกที่ผู้หญิง 2 คนจะรักกันได้ฉันใฝ่ฝันว่าอยากจะแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันรักแต่ทำไมฉันกลับมาตกหลุมรักผู้หญิงกันนะฉันได้ตัดสินใจว่าจะเก็บเรื่องนั้นเป็นความรับไว้แต่เหมือนกับว่าความอดทนของฉันจะมีจำกัดละฉันไม่สามารถทนได้ในเดือนแรกฉันสามารถทนได้อยู่ฉันสามารถทำท่าทางปกติได้ฉันไม่ได้เขินหรือมีอาการอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอคนนั้นแต่ไปๆมาๆอาการเหล่านั้นก็เริ่มออกออกจนมันเห็นได้ชัดจนเธอคนนั้นเริ่มถามฉันว่าเป็นอะไรหรอเป็นไข้หรือเปล่าไม่สบายตรงไหนฉันเองก็ได้แต่บ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้เป็นอะไรไอแค่ร้อนหรือแม้แต่ว่าอ๋อสงสัยช่วงนี้แบบเครียดๆน่ะก็เลยไม่ค่อยดีฉันเลือกที่จะโกหกแทนที่จะบอกความจริงไปฉันเคยสัญญากับเธอว่าฉันจะไม่โกหกเธอไม่ว่าจะเรื่อกอะไรเพราะว่าเราอ่ะอยู่ด้วยกันแค่สองคนเล่นด้วยกันมา 2 คนตลอดเกือบทั้งชีวิตพวกเราสนิทด้วยกันแค่สองคนอยู่ด้วยกันแค่สองคนนั่นแหละเลยเลือกที่จะไม่โกหกกันต่ออีกฝ่ายแต่ฉันกลับไปเรื่องนี้กับเธอในเดือนที่ 2 อาการฉันก็เริ่มจะออกเยอะขึ้นเยอะขึ้นมันเยอะขึ้นเรื่อยๆจนฉันเองก็รู้สึกว่าโกหกต่อไปมันคงไม่ได้แล้วล่ะซึ่งฉันสารภาพไปตามตรงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ใช่ทุกคนรู้ดีว่าในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้นเป็นวันอะไรมันเป็นวันวาเลนไทน์นั่นเองฉันสุขภาพทุกอย่างทั้งความรู้สึกทั้งอาการประหลาดที่เกิดขึ้นกับฉันเมื่อมีต่อเธอฉันบอกไปทุกอย่างไม่ปิดบังอีกแล้วฉันแค่จะต้องยอมรับว่าสิ่งที่เธอจะตอบกลับมานั้นคืออะไรฉันแค่ต้องยอมรับมันให้ได้ก็พอแม้ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามฉันรอคำตอบด้วยใจจดใจจ่อในตอนนั้นฉันเห็นนะสีหน้าที่ดูตกใจและเหมือนกำลังคิดอยู่ในตอนนั้นน่ะฉันรู้สึกอึดอัดมากเลยล่ะแล้วรู้สึกแน่นอกมากเหมือนมีใบมีดมาแทนที่หัวใจของฉันมันเจ็บปวดมากเลยนะแต่ว่าคำตอบที่ฉันได้กลับมานั้นและทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันรู้สึกกดดันนั้นหายไป"งั้นเรามาคบกันไหม"ฉันตกใจมากเมื่อเธอถามออกมาอย่างนั้นแต่ถึงยังงั้นฉันเองก็"ตกลงมาลองคบกัน"ฉันเลือกที่จะตอบตกลงฉันจะไม่เสียใจหากวันหนึ่งเราต้องเลิกกันอย่างน้อยฉันอยากจะให้ความรู้สึกนี้นี้หายไปหากว่าฉันได้คบกับเธอแต่วันไหนที่ฉันเลิกกับเธอฉันเองก็จะไม่เสียใจจริงๆ
หลังจากที่เราทั้งสองคบกันแล้วเราไม่ได้บอกให้พ่อแม่ของอีกฝ่ายรู้เราปิดบังความรักนี้เอาไว้เรารู้อยู่แล้วว่าถ้าหากว่าพวกเขาจับได้พวกเขาคงบังคับให้เราเลิกกันหรือบางทีอาจจะห้ามไม่ให้เราได้เจอหน้ากันอีกเลยก็ได้ในบางครั้งบางคราวพวกเราก็ต้องเลือกที่จะต้องโกหกบ้างเนาะไม่ใช่ว่าเราจะต้องพูดความจริงไปซะทุกอย่างหลังจากที่เราคบกันแล้วเราก็ได้ออกเดทด้วยกันในตอนเย็นหลังเลิกเรียนเราก็มักจะไปเที่ยวด้วยกันตลอดหรือไม่ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์เราก็จะนัดกันไปสวนสนุกทะเลไม่ก็ที่ที่เราอยากไปเราเก็บความลับนี้ไว้มาตลอดทั้งหมด 4 ปีเราคบกันมาได้ 4 ปีแล้วล่ะเราคบกันมาตั้งแต่ป. 6 ซึ่งแน่นอนเพราะตอนนี้เราอยู่มัธยมแล้วอีกไม่นานเราทั้งสองเองก็จะเรียนจบม. 3 แล้วมันก็จะตื้นตันใจหน่อยอะเนาะเพราะอีกไม่นานต่างคนก็ต่างต้องไปเรียนที่อื่นที่พ่อแม่เตรียมให้ไว้เธอบอกว่าจะเรียนต่อให้จบถึงม. 6 แล้วจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยส่วนฉันถ้าจบม 3 แล้วจะไปเรียนต่อสายอาชีพแต่ละคนนี่มีของขวัญที่แตกต่างกันจังเลยเนาะพวกเราคบกันมาได้นานมากเลยล่ะซึ่งพวกเราเองก็ผ่านเรื่องราวมาเยอะเลยถึงอีกไม่นานก็จะถึงวันปัจฉิมแล้วพวกเราก็คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วแต่ฉันก็คิดว่าถ้าถึงปัจฉิมทุกอย่างมันก็คงยังคงสงบสุขแต่ไม่ใช่เลยพ่อแม่ฉันและพ่อแม่ของเธอเขาจับได้ว่าเราสองคนคบกันมีเพื่อนในห้องของเราไปบอกพวกเขาทั้งสองว่าเราสองคนคบกันมันแย่มากว่าพวกเขารู้อย่างนั้นพวกเขาก็เรียกเราสองคนไปคุยหลังจากนั้นพวกเขาก็บ่นเราดุเราว่าทำไมถึงได้รักกันมันทำไมถึงทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้ผู้หญิงกับผู้หญิงไม่ควรรักกันมันเป็นรักต้องห้ามที่ไม่ควรเกิดขึ้นระหว่าง 2 คนพวกเขาดุด่าเราเหมือนกับว่าเราทำอะไรผิดเหมือนกับว่าเราจะต้องโดนจับข้อหารักกันพ่อแม่ของพวกเรารับไม่ได้เลยพวกเขาทำสีหน้าที่น่ารังเกียจออกมาให้เราเห็นว่าพวกเขารังเกียจที่เรารักกันพวกเราสองคนพยายามอธิบายให้พวกเขารู้ว่าความรักไม่จำเป็นที่จะต้องดูที่เพศความรักคนมองมองว่าสองคนนั้นรักกันหรือเปล่ามีใจให้กันไหมหรือว่าผูกพันกันแค่ไหนแต่ถึงอย่างนั้นพวกเรากลับโดนด่ากลับฉันเธอวันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่เราได้เจอกันวันปัจฉิมที่เราควรจะมีความสุขหลังจากนั้นเราเองตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งแชททั้งเฟซทั้งไลน์เราถูกลบออกจากกันและกันฉันไม่รู้ว่าในตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหนฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะเลิกรักเธอได้ตอนไหนทั้งๆที่เคยบอกไว้แล้วเพราะถ้าเลิกกันฉันก็จะไม่เสียใจแต่ตอนนี้ความรู้สึกว่ามันแย่มากเลยที่จะต้องเสียคนที่รักไปทั้งๆที่รักกันมากขนาดนี้เสียใจจริงๆ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!