อาเชอร์
มาสเตอร์:ฟิออเร ฟอร์เวดจ์ ยุคค์มิลเลนเนีย
ชื่อจริง:เครอน
เพศ:ชาย
ส่วนสูง/น้ำหนัก:179cm 81 km
คุณสมบัติ:Lawful Good
แลนเซอร์
มาสเตอร์:ดาร์นิค เพรสโทน ยุคด์มิลเลนเนีย
ชื่อจริง:วลาดที่สาม
เพศ:ชาย
ส่วนสูง/น้ำหนัก:191 cm 86 kg
คุณสมบัติ:Lawful Neutral
ไรเดอร์
มาสเตอร์: เซเลนิเก ไอซ์คอล ยุคด์มิลเลนเนีย
ชื่อจริง: แอสทอลโฟ
เพศ:ไม่ระบุ
ส่วนสูง/น้ำหนัก:164 cm 56kg
คุณสมบัติ:Chaotic Good
แคสเตอร์
มาสเตอร์:โรเซ เฟรน ยุคด์มิลเลนเนีย
ชื่อจริง:อวิเคบรอน
เพศ:ชาย
ส่วนสูง/น้ำหนัก:161 cm 52 kg
คุณสมบัติ:Lawful Neutral
แอสแซสซิน
มาสเตอร์:ริคุโด เรย์กะ
ชื่อจริง:แจ็ค เดอะ ริปเปอร์
เพศ:หญิง
ส่วนสูง/น้ำหนัก:134 cm 33 kg
คุณสมบัติ: Chaotic Evil
เบอร์เซิร์คเกอร์
มาสเตอร์: เคาเลส ฟอร์เวดจ์ ยุคด์มิลเลนเนีย
ชื่อจริง: แฟรงแกนสไตน์
เพศ: หญิง
ส่วนสูง/น้ำหนัก:172 cm 48 kg
คุณสมบัติ:Chaotic Neutral
นั้นคือแสงแห่งการดับสูญซึ่งฟาดฟันสรรพสิ่งที่เซเบอร์ทั้งสองผู้แตกต่างและได้ชื่อว่าผู้ฆ่ามังกรกับผู้ฆ่าวีรชนได้รับ----->งั้นเริ่มจากคนแรกเลยก็แล้วกันไปบ้านของคุณจอมเวทที่ใกล้ที่สุดจากตรงนี้กันเลย
--เอาล่ะมาพูดถึงมหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สามกันเถอะ
ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สอง ไอนส์เบิร์ดนพ่ายแพ้อย่างน่าสลดในช่วงต้น แม้เป็นหนึ่งในสามตระกูลที่สร้างจอกศักดิ์สิทธิ์ หลักขึ้นมา แต่ตระกูลใหญ่ผู้ใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุก็เสียทีเพราะความสามารถในด้านการต่อสู้ที่ต่ำ ไอนส์เบิร์นซุ่มเตรียมตัวได้ชัยชนะอย่างแน่นอนเพื่อล้างความอับอายที่พายแพ้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สอง พวกเขาใช้เวลาหกสิบปีเปรียบเทียบพิจารความเป็นไปได้ทั้งหลาย ผลลัพธ์คือ--เค้นได้ตัวเลือกของวิญญาวีรชนสอนตนออกมา
หนทางที่หนึ่ง ดัดแปลงระบบของจอกศักดิ์สิทธิ์หลักและอัญเชิญ คลาสพิเศษชื่ออเวนเจอร์ เซอร์วอนท์ที่อัญเชิญคือทรชน อังรี มานยู ผู้แบกรับคำสาปหกพันล้านของโลก
วีรชนไร้นามที่มีชื่อของราชาแห่งปีศาจ ภัยพิบัติที่เชี่ยวชาญในการฆ่าล้างที่หากอัญเชิญออกมาคงสังหารมาสเตอร์และเซอร์วอนท์คนอื่น
จนเข้าถึงการให้จอกศักดิ์สิทธิ์หลักทำงาน
หนทางที่สอง ใช้ประโยชน์ในทางที่จากระบบที่ติดตั้งอยู่ในจอกศักดิ์สิทธิ์หลัด--อัญเชิญคลาสที่ยุติธรรมไร้ที่เปรียบและทรงพลังที่สุด ซึ่งเดิมทีจะถูกเรียกออกมาเพื่อปรับแต่งสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์
เซอร์วอนท์รูลเลอร์ นี่เป็นแผนเพื่อจะใช้ประโยชน์กับสิทธิพิเศษที่ชื่อ'อาคมบัญชาต่อ เซอร์วอนท์'ที่รูลเลอร์มี
รอตอนต่อไปนี้จ่ะ
หลังจากกลุ้มใจว่าจะใช้กำลังหรือปัญญา
ไอนส์เบิร์นก็เลือกที่จะใช้ปัญญา หรือเรียกได้อีกอย่างว่าเลือกแผรปลอดภัย ความฟพ่ายแพ้ในครั้งที่ เซอร์วอนท์ที่ถูกเลือกในการอัญเชิญออกมาเป็นรูลเลอร์นั้น แม้เป็นตัวตนที่ใกล้เคียงกับนักบุญในตะวันออกไกลอันเป็นเวที แต่ก็เป็นเด็กหนุ่ม
ผู้โชคร้ายที่ไม่ได้รับการยอมรับในฐานะนักบุญ-อามาคุสะ ชิโร่ โทคิซาเดะ แม้เดิมทีไอนส์ไม่ได้อยากอัญเชิญวิญญาณวีรชนไร้ชื่อของ ซีกโลกตะวันออกและต้องการเซอร์วอนท์ที่ใกล้เคียงกับรูลเลอร์
แต่การอัญเชิญรูลเลอร์ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ปกตินั้นนับเป็นการแทรกแซงระบบอย่างรุนแรง
พวกเขายอมประนีประนอม--ถึงอย่างนั้นข้อได้เปรียบที่มีอาคมบัญชาต่อเซอร์วอนท์ก็ท่วมท้น
อามาคุสะ ชิโร่ที่ถูกอัญเชิญออกมาไม่มีความโดดเด่นในเรื่องความสามารถในการต่อสู้ ด้านเวทมนตร์เองก็ไม่ ทัดเทียมแคสเตอร์ แต่สามารถเอาชนะอย่างต่อเนื่องในสงครามจอกศักดิ์-สิทธิ์
ครั้งที่สามและมีชีวิตจนรอดเรื่อยมา
กาาที่ไม่เดิมพันอย่างบ้าบิ่นและมุ่งเน้นที่การป้อนกันคงจะก่อให้เกิดผล พอสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สามเข้าสู่ช่วงท้าย ไอนส์เบิร์นก็ยืน
อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับจอกศักดิ์สิทธิ์หลักที่สุด
แต่เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้น
ผู้นำของตระกูลยุคด์มิล-เลนเนีย-ดาร์นิค เพรสโทนยุคด์มิลเลนเนียพบเจอจอกศักดิ์สิทธิ์หลักโดย
บัญเอิญและวางแผนช่วงชิงโดยยืมกำลังจากกองทัพ สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สาม ณ ตรงนี้
เหล่าเซอร์วอนท์ที่มีชีวิตรอด จากต่างปรารณนา
จอกศักดิ์และเข้าแลกชีวิตกัน มาสเตอร์ของไอนส์เองเข้าไปพัวพันกับศึกเวทมนตร์ที่รุนแรงและจบชีวิตลง
ต่อ
ไอนส์เบิร์ตาย โทซากะกับมาคิริถอนตัว--ผู้ที่เหลือรอดอยู่ในสนามรบทีเพียงสอง
หนึ่งในผู้รอดชีวิตคือโคโตมิเนะ ริเซย์ เขาที่บังเอิญได้เห็นการต่อสู้ ที่องอาจของเหล่าวีรชนคือบาทหลวงของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ส่งมาในฐานะ
ผู้ควบคุมของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สาม
อายุคงยังไม่ถึงยี่สิบแท้ๆ แต่รูปลักษณ์ที่ฝ่าฟัน
ด้วยความยากลำบากทั้งหลายมาชวนให้นึกถึง
ใบหน้าที่สลักอยู่บนกำแพงหิน กล้ามเนื้อที่กำยำทำให้ เหมือนกับเป็นปราการขนาดย่อม
แววตาแหลมคมยิ่งกว่ามีดโกนและเปร่งประกายรุนแรง ใกล้เคียง
กับนักสู้หรือทหารรับจ้างผ่านศึกที่เชี่ยวชาญในการรบมากกว่าบาทหลวง"---จากนี้คุณคิดจะทำอย่างไรครับ?“ โคโตมิเนะ ริเซย์คนนั้นถามเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเคร่ง-เครียด นั่นเป็นสถานการณ์ที่ราวกับละครตลกรูปแบบหนึ่ง ชายที่ทั้งอายุและรูปร่างเหนือกว่ากำลังถ่อมตัวตนกับเด็กหนุ่ม ...ถึงอย่างนั้น หากเป็นนักยวชที่รู้ชาติกำเนิด ไม่ใครก็คงทำเช่นนั้น
ผู้ที่เขาถามคือเด็กหนุ่มแห่งปาฏิหาริย์ที่ถือกำเนิดในยุคเอโดะและมีสถานภาพใกล้เคียงกับนักบุญ
ต่อให้หน้าตาเป็นเด็กหนุ่มที่อายุไม่ถึงยี่สิบจะสนทนาด้วยคำพูดที่เหมะสมกับฐานะก็ย่อมเป็นเรื่องปกติ “จอกศักดิ์สิทธิ์หลักที่ถูกชิงไปแล้ว
คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปชิงคืนตัวเปล่านะครับ”
เด็กหนุ่มมองถ้ำที่ว่างเปล่าพลางพึมพำ แม้จอกศักดิ์สิทธิ์หลักถูกชิงและมาสเตอร์เสียชีวิตไปแล้ว-เด็กหนุ่มก็ไม่หายไปเส้นชะตากรรมที่เชื่อมกับไอนส์เบิร์นถูตัด แต่ก็องไม่เห็นการสัมผัสถึงวิกฤตจากตัวของเด็กคนนั้น
กายเนื้อของเด็กหนุ่มกลายเป็นตัวตนที่มั่นคงและฝังรากลงบนผืนดินนี้ เขาที่สัมผัสกับจอกศักดิ์สิทธิ์
`รับกายเนื้อ' เอาไว้อย่างฉิวเฉียดหากดูในแง่นั้นแล้ว จะมองว่าสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สามจบลงโดยที่เขาเป็นผู้ชนะก็ย่อมได้
“เดิมทีในเมื่อมาสเตอร์เสียชีวิตไปแล้ว ข้าในตอนนี้
ก็มีกำลัวไม่ต่างกับมนุษย์ทั่วไป ดังนั้นจึงไม่ไล่ตาม
จอกศักดิ์สิทธิ์ครับ"
“โฮ่...ถ้าอย่างนั้น"
“ท่านริเซย์ ท่านพูดเอาไว้สินะครับว่าเคยออกเดินทางเพื่อบรรลุด้วยความยากลำบาก ถ้าเช่นนั้น ข้าเองก็ออกเดินทางบ้างได้ไหมนะครับ"
“นับเป็นเรื่องดี แม้มีกำลังน้อยนิด แต่ผมเองก็จะช่วยด้วยครับ" มีของที่จำเป็นในการเดินทาง
นั้นคือสถานภาพและทรัพสิน โคโต-มินะ นิเซย์ไม่มี
ทางมีความคิดเสียดายทรัพสิน หากจะทำให้ผู้ที่อุทิศชีวิต ให้แก่พระเจ้า--อามาคุสะ ชิโร่ โทคิซาดะ
ที่ลงเอยกับจุดจบที่เวทนาได้รับสิ่งใหม่ๆ เขาก็ยินดีที่จะสละทุกสิ่งเป็นการให้ทาน
เขาที่เปลี่ยนชื่อ ได้รับสถานภาพ และกลายเป็นลูกบุญธรรมของริเซย์ ได้ออกเดินทางไปทั่วโลกตามที่ประกาศไว้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้บอกกับพ่อบุญธรรม
อามาคุสะ ชิโร่ไม่ได้ยอมแพ้เรื่องจอกศักดิ์สิทธิ์หลัก--->
มิหนำซ้ำยังเตรียมใจที่จะอุทิศชีวิตที่สองที่ได้รับ
มาอย่างโชคดี--ในการเข้าท้าทายสงคราม
จอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งถัดไป
ตอนที่ได้อาบแสงของจอกศักดิ์สิทธิ์ อามาคุสะ ชิโร่มั่นใจว่าหากมีพลังนี้ ถ้าได้ปฏิหาริย์นี้มา
จะมอบความสุขให้แก่ปวงชนได้
***ต่อ***
... พลังของจอกศักดิ์สิทธิ์หลักนั่นไม่ใช่แค่ครึ่งๆ กลางๆ ตราบใดที่ถูกชิงไปย่อมมีใครสักคนทำให้
ทำงานที่ไหนสักแห่ง ซึ่งคงเป็นหกสิบปีให้ที่
มันสะสมหลังเวทเพียงครั้ง---
เขาเข้าสังกัดคณะศีลศักดิ์สิทธิ์ที่แปดด้วยเส้นสาย
ของพ่อบุญธรรมและ เฝ้ารอ `จังหวะนั้น' เช่นเดียว
กับสัตว์กินเนื้อที่ย่อตัวเล็งลงเหยื่อในความมืด
หรือแมงมุมที่กางใยวางกับดัก
ไม่ว่าจะเป็นสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งไหนก็มี
จุดที่ควรเคลื่อนผ่าน สิ่งนั้นคือโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์
แบะคณะศีลศักดิ์สิทธิ์ที่แปดที่มีแปดที่มีเป้าหมายคือการเก็บกู้และค้นหาโบราณวัตถุศักดิ์สิทธิ์
ตราบใดที่เป็นการขัดแย่งชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ก็เป็น
หลักการที่เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นปรากฏกาาณ์
ที่โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ควรข้อแวะ--ฝ่ายจอมเวทเองก็เปิดเผยซะจะเคลื่อนไหวง่ายกว่า ปิดบิงมั่วไ
ปัจจุบันที่ข้อมูลเกี่ยวกับสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์
ครั้งที่สามกระจายออกไปจนเกิดสงคราม
จอกศักดิ์สิทธิ์ย่อยขึ้นทั่วโลก ข่าวลือเกี่ยวกับ
`จอกศักดิ์สิทธิ์' หลั่งไหลเข้ามายังคณะศีลศักดิ์สิทธิ์ที่แปด
แต่ไม่ว่าข่าวไหนก็ล้วนแต่เป็นของปลอม ถึงจอกศักดิ์สิทธิ์หลักใน สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ของ
`ฟุยุกิ'เอง ถ้าพูดโดยละเอียดแล้วก็เป็นของปลอม
แต่สำหรับสำหรับอามาคุสะ ชิโร่แล้ว สิ่งที่เขา
ปรารถนามีเพียงจอกศักดิ์สิทธิ์หลักที่เรียกตนมา
ดังนั้นจึงเฝ้ารอ
หกสิบปี เขาเฝ้ารอมาตลอด ร่างกายอามาคุสะ ชิโร่ที่สัมผัสกับตอกศักดิ์สิทธิ์หลักและได้รับกายเนื้อมา
ไม่แก่ลงด้วยพลังของอาวุธวิเศษและเป็นปาฏิหาริย์
เพียงหนึ่งเดียวมาตลอด
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!