NovelToon NovelToon

เชื้อสายวิญญาณหลอน

กำเนิดเชื้อสายเห็นวิญญาณ

ปิ่นเป็นคนที่ฮอตที่สุดในโรงเรียนเธอมีหน้าตาสายงามผมตรงสวยมีน้ำหนักเรียนก็เก่งเละยังเล่นกีฬาได้ที่ 1 ทุกปี วันหนึ่งที่เป็นวันเกิดครบรอบ 15 ปีเธอได้อุ้มเเมวของเธอมาเเละจุ่ๆเธอก็เห็นคนที่มีเลือดเละเเผลเป็นเต็มตัวเเละเเมวของเธอได้ขู่"ฟ้อๆ"เธอตกใจจนหน้าซีดเเม่เธอรู้ว่าเธอเห็นอะไรเเม่เธอจึงลากเธอไปในห้องนอนของเธอ เเละเเม่ก็เริ่มพูด. "เเม่จะบอกลูกวันนี้นะว่าตระกูลของเราสามารถมอวเห็นผีได้ตอนที่อายุ 15 คนที่มีพลังเเบบนี้จะเป็นเเค่ผู้หญิงเท่านั้นเเต่พลังนี้มีข้อดีเลยข้อเสียข้อดีคือคนที่มีพลังนี้จะมีหน้าตาที่สวยงามเเละยังทำให้มีอายุที่ยาวนานกว่าคนทั่วไป 10 เท่า เเต่ข้องเสียคือจะมีเเรงน้อยเหนื่อยง่ายมากๆไม่ควรไปเล่นกีฬาเพราะอาจทำให้ช็อกตายได้ " ปิ่นเริมทำสีหน้าไม่พอใจ เเละเเม่ยังพูดอีกว่า "อะไรก็ตามที่หนูจับสิ่งนั้นก็จะสามารถมองเห็นผีได้โดยที่ไม่มีเชื่อสายของเรา" ปิ่นเริมคิดว่าปิ่นได้จับตัวใครหรืออะไรเป็นอย่างเเรกเเละเธอก็นึกออกเธอได้จัยเจ้าเนโค้เป็นตัวเเรก. (เนโค้คือน้องเเมวของปิ่นที่มีอายุ 5 ปี) เเละปิ่นก็นึกได้ว่าตอนที่เธอเห็นผีเนโค้ก็ขู่ด้วยเธอจึงบอกเเม่ไปว่า. "หนูจับเนโค้เป็นตัวเเรกคะ" เเละเเม่บอกว่า. "ถ้างั้นหนูต่องดูเเลเนโค้ดีๆนะเพรามันอาจถูกจับตามองจากผีจะเอาชีวิตน้อง" ปิ่นถาม. "ทำไมคะ" เเม่ตอบ. "เพรามันเป็นตัวเเรกที่หนูจับพวกผีก็เลยจะเลยมันไปเพราะถ้าเราจับอะไรเป็นอย่างเเรกมันจะมีพลังสูงมากๆผีก็เลยจะเอาชีวิตของมัน" ปิ่นตอบ. "ถ้างั้นหนูจะไปเอาน้องเนโค้มานะคะ" ปิ่นเดินออกไปจากห้องเพื่อไปเอาเนโค้เข้ามาในห้อง. (วันต่อมา) เธอได้ตื่นขึ้นมาด้วยความออ่นเเรงเเต่ก็ยังจะไปโรงเรียนตอนวิชาพละเธอรู้สึกออน่เเรงเเละเป็นลมไปเธอตื่นขึ้นมาได้พบว่าเธออยู่ในห้องพยาบาลเธอดูหน้าตัวเองในกระจกเธอพบว่าคนที่นั้งรอเธอตื่นคือคุณตาของปิ่นเธอตกใจมากๆเธอจึงหันหน้าไปเเละพูดว่า "ดีคะคุณตา" คุณตายิ้มเเละบอกว่า "ดีจะหลานรัก" เเละก็สลายหายไป ปิ่นตกใจมากๆ 1เลยคือเธอไม่ได้มาที่ห้องพยาบาลนานมากๆเเล้ว

2 เธอตกใจที่ตนเห็นผีจริงๆ เพราะคุณตาของปิ่นได้ตายไปตอนที่เธอมีอายุ 5 ขวบ

ตอนเลิกเรียนเธอรีบวิ่งกลับบ้านเเต่เธอลืมไปว่าร่างกายของเธอออน่เเอลงมากๆเธอเลยหน้ามึดเเต่ก็มีผู้ชายดูใจดีมารับเธอไว้เธอกล่าวขอบคุณเเละขอให้เธอได้ตอบเเทนเค้าสักหนึ่งอยางก็ยังดี เเต่ผู้ชายคนนั้นกลับก้มหน้าเเล้วจู่ๆเธอก็เห็นผู้ชายพุ่งเข้ามาหาเธอปิ่นตกใจมากจนกรี๊ดออกมาดังๆ "กรี๊ด!! อย่านะอย่าเข้ามา ออกไปออกไป " เด็กที่อยู่ไกล่ๆปิ่นต่างหวาดกลัวเเละเเม่ๆผู้ปกครองบางคนกระซิบกันว่า. "น้องคนนั้นเป็นบ้าหรอ??" "ใส่ชุดโรงเรียนชื่อดังด้วย!!??" "หน้าตาก็ดีนะเเต่เหมือนคนสติไม่ดี!!" ปิ่นอายมากจนหน้าเเดงเป็นมะเขือเทส

ปิ่นกลับมาถึงบ้านรีบถอดรองเท้าเเละไปหาเเม่ในห้องครัวด้วยความตกใจเละเขินอายเเละได้ตโกนเสียงดังว่า

"!!!!!เเม่วันนี้หนูเจอคุณตาด้วยนะคะ!!!!!"

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

☆ ช่วงความรู้ประดัปสมอง ep1 ☆ 《 ชื่อเเมวของปิ่น เเปลว่า "ความตาย" ก็คือ เนโค้ 》

เห็นผีเเต่ก็เป็นคน

เเม่ตอบ "จริวหรอลูเเล้วคุณตาพูดว่ายังไงเดี๋ยวนี้ตาไม่ค่อยมาหาเเม่เลย" ปิ่นตอบ. "คุณตาเเค่มาบอหวัดดีเเล้วก็หายไปเลยคะ" เเละเเม่ได้บอกให้ปิ่นไปอาบน้ำเเละเปลี่ยนชุดลงมากินข้าว ตอนที่ปิ่นอยู่ในห้องน้ำกำลังเปลียนชุดอยู่ในห้องก็ได้เจอเหมือนมีเงาอยู่หลังม้านพอปิ่นเปิดม้านออกก็ได้เจอกับโจรโรคจิตขโมยจะเข้ามาขโมยชุดชั้นในจู่ๆเนโค้ก็ได้กระโดดเข้าไปหาโจรเเล้วก็เเปลงร้างกลายเป็นเเมวร้างยักษ์มีตาสีเเดงเลือดเเล้วเนโค้ก็ได้คาบโจรโรจิตไปที่สุสารไกล้ๆกับโรงเเรม ริกกะ โรยัล โอซาก้า . เเละได้เอาขโมยโรคจิตไปอยู่ในสุสารเเละได้วิ่งกลับมาเร็วมากๆทั้งๆที่ระยะทางจากโรงเเรมจากบ้าห่างกัน 10 กม. เลยเเต่อย่างน้อยปิ่นก็ได้รูถึงพลังของเนโค้เเล้วพอเนโค้มาถึงได้พูดว่า. "ภารกิจเสร็จสิ้นแล้วอย่าลืมเทอาหารเม็ดให้นะ" ปิ่นตกใจมากๆที่เนโค้ สามารถพูดได้ เธอได้เดินลงไปที่ตกอาหารเละก็ไปเทอาหารให้เนโค้เละก็ไปกินข้าวเย็นกับพ่อเละเเม่ เวลา 01:42 ปิ่นเดินขึ้นไปนอนบนห้องนอนเละนอนหลับไปเธอได้ฟันถึงยายที่ร้องเพลงอะไรไม่รู้เเต่เธอคิดว่าเป็นเพลงที่โคตรเพราะเลยวันต่อมาเธอได้ไปโรงเรียนพร้อมฮำเพลงที่ยายเธอร้องในความฝันคนรอบค้างเธอได้มองเธอเเบบเเปลกๆเเละเพื่อนสนิดเธอ รินกิจัง ไปได้เดินมาหาเธอเลยบอกเธอว่า. "ปิ่นจัง ค..คือ เธอไม่ได้เป็นบ้าช..ใช่มั้ยจ๊ะ??" ปิ่นงงมากๆที่ทำไมจู่ๆรินกิมาถามเธอเเบบนี้ปิ่นเลยตอบไปว่า "ปล่าวนะทำไมหรอ" รินกิเลยบอกปิ่นไปว่า. "มีคนบอกว่าเธอเป็นบ้าอ่ะปิ่นจัง" ปิ่นตกใจมากๆ ("เเสดงว่าที่เค้ากระซิบกันเเล้วชี้มาที่ตัวเธอคือเค้าคิดว่าตัวเธอเป็นบ้าหรอ") ปิ่นคิดในใจ

"เเล้วเค้าไปรู้มาจากไหน!!" ปิ่นถามรินกิ "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะเห็นเค้าบอกว่าเมื่อวานเธอพูดคนเดียวเเถมยังทำตัวดหมือนคนบ้าข่าวเลยเเผ่ลไปเร็วมั้ง" ปิ่นตกใจไม่คิดว่าเรื่องเเค่นั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ได้ถายในวัน 1 เดียว!! วันนั้นเธอคิดทั้งวันเลยว่าทำไมเราต้องมีพลังเเบบนี้ด้วย!!เธอคิดเเบบนี้วนไปทั้งวัน พอกลับบ้านมาเธอได้หมกตัวอยู่ในห้องไม่ไปไหนเธอร้องไหนจนตาบวมเธอไปที่ห้องครัวตอน 03:51 เธอรู้ว่าเวลานี้เป็นเวลาที่พวกผีจะออกมาเยอะเเต่เธอไม่มีอารมณ์ที่จะกลัวอะไรเเล้วเเต่เธอรู้สึกว่ามีอะไรอยู่ข้างหลักของเธอปิ่นลองหนันไปข้างหลังเเละได้เจอ!! เนโค้ที่กลายเป็นร้างใหญ่กำลังข่วนโซฟาสุดรักของเเม่อยู่เธอรีบไปห้ามเนโค้เเต่ก็ไม่รอดโซฟาสุดโปรดของเเม่พังมีนุ้นออกมานั้งเเล้วมีน้ำลายของเนโค้เต็นมีกลิ่นเหม็นเธอกลัวมากๆเพราะโซฟาตัวนี้มีราคาถึง 150,000 เยน เธอทำใจทุบกระปุกออมสินไปซื้อโซฟาใหม่ให้เเม่เเต่ร้านมันดันปิดอยู่เพราะไม่มีใครจะมาซื้อโซฟาตอน ตี 3 ครึ้งหรอกใช่มั้ย

เธอกลับบ้านมาพร้อมทำใจที่จะโดนเเม่ด่าเเต่จู่ๆเนโค้ก็ไปนั่งบนโซฟาเเล้วจู่ๆก็มีเเสงออกมาจากตัวของเนโค้เเล้วโซฟาก็กลับมาเหมือนใหม่ทันที่ไม่รอยเลยสักนิ๊ดเดียว ✧

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

☆ความรู้ประดัปสมอง ep2 ☆ 《โรงเเรม ริกกะ โรยัล โอซาก้า. เป็นโรงเเรมที่มีสุสารอยู่ไกล้ๆตัวโรงเเรมสร้างขึ้นตอน ค.ศ.1965. หรือ พ.ศ.2508

พลังของเนโค้

ปิ่นดีใจมากๆกระโดดไปรอบๆบ้านเลยปิ่นบอกเนโค้ว่า "พรุ่งนี้จะซื้อขนมให้กินน้าเนโค้จางง"

จุ่ๆเนโคก็ตอบ "จิงหรอปิ่นเอา Sakuramochi ซากุระโมจิ Taiyaki ไทยากิ Kompeito คอมเปอิโตะ Amanatto อมานัตโต Namagashi นามากาชิ" ตอนนั้นปิ่นง่วงจนฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลยตอบตกลงไปผ่านๆ (วันต่อมา) ปิ่นตื่นขึ้นมาเพราะมีน้ำอะไรหยดลงมาที่ตัวของปิ่นเเต่พอตื่นขึ้นมากลับเจอเนโค้นั่งน้ำลายไหลอยู่ข้างๆปิ่นตกใจมากที่ทำไมเนโค้มานั่งน้ำลายไหลอยู่ค้างๆเลยถามไปว่า "ทำไมมานั่งน้ำลายไหลอยู่ค้างๆเราเนี๊ย?!!" เนโค้ชักสีหน้าไม่พอใจเเล้วพูดว่า "ก็เมื่อคืนนายท่านจะซื้อ ไทยากิ,ซากุระโมจิ,คอมเปอิโตะ,อมานัตโต,นามากาชิให้นี้หน่าา~~" ปิ่นทำหน้างงเพราะจำไม่ได้ว่าไ สัญญาอะไรกับเนโค้ไว้เนโค้เลยเตือนความทรงจำว่าเมื่อคืนที่ปิ่นบอกว่าจะซื้อขนมให้ตอนที่เนโค้ซ่อมโซฟาตัวโปรดของแม่ให้ "ปิ่นยังงงอยู่เเต่ก็ยอมไปซื้อให้" (ณ ร้านขายขนมโบราณ) ปิ่นได้เข้าไปซื้อขนมที่เนโค้สั่งทั้งหมด ขณะที่กำลังเช็คว่าซื้อครบหรือยัง" ซากุระโมจิ ไทยากิ (พูดด้วยเสียงอันเบา)" จู่ๆหางตาเธอได้สังเกตไปเจอหญิงชราที่กำลังเลือกซื้อขนมที่ล็อคของพวกขนมโมจิก็เห็นหญิงชราคนนั้นทำของตกปิ่นจึงเข้าไปช่วยเก็บของให้หญิงชราคนนั้นหญิงชราได้กล่าวคำขอบคุณให้ปิ่น ปิ่นพูดว่า "ไม่เป็นไรคะคุณยาย" ขณะที่ปิ่นช่วยหญิงชราเก็บโมจิที่ตกลงบนพื้นเจ้าของร้านก็ได้พูดกับปิ่นว่า "หนูคุยกับใครนะลูกแล้วหนูเก็บก้อนหินไปทำอะไรล่ะถ้าจะเอาไปเนี่ยป้าไม่ว่านะ" ปิ่นตกใจเลยหันหน้าไปที่หญิงชราจู่ๆก็เห็นว่าโมจิที่หญิงชราทำตกกลายเป็นก้อนหินและที่ที่หญิงชรา อยู่ก็มีแต่ตะกร้าที่ใส่ก้อนหิน ปิ่นตกใจมากเลยหันหน้าไปบอกแม่ค้าว่า "ปะ....ป...เปล่าค่ะหนูเห็นว่าตะกร้านี้มีหินแล้วก็หินตกลงมาจากตะกร้าหนูก็เลย ก..กะ..เก็บค่ะ" แม่ค้าทำหน้าสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ปิ่นเลยรีบเอาตะกร้าที่ใส่ขนมไปคิดเงินกับแม่ค้า "ทั้งหมด 150 เยนค่ะ" ปิ่นรีบจ่ายเงินและรีบเดินออกมาจากร้านขายขนมโบราณ เธอตกใจมากแต่ก็พยายามคิดว่ามันคือเรื่องปกติที่คนในตระกูลเราเจอกันเป็นปกติ พอถึงบ้านปิ่นยื่นถุงที่ใส่ขนมโบราณให้เนโค้ เนโค้ดีใจมากๆพร้อมบอกกับปิ่นว่า "ไม่ได้กินขนมแบบนี้มา 1,000 ปีแล้วคิดถึงจัง" ปิ่นตกใจเพราะคิดว่าเนโก้ยังเป็นแมวที่อายุ 5 ปีอยู่ ปิ่นเลยถามเนโค้ว่า "เธอไม่ได้อายุ 5 ปีหรอกหรอเนโค้" เนโค้บอกว่า "อันที่จริงข้าอายุ 1,000 ปีเเค่เเม่ของท่านบอกว่าค้าอายุ 5 ปี ท่านลองคิดดูสิว่าตั้งเเต่ท่านเด็กๆข้าก็อยู่กับท่านเลย" ปิ่นลองคิดดูดีๆมันก็จริงที่เธอเห็นเนโค้มาตั้งเเต่เด็กๆเลย [เเต่ทำไมเธอถึงคิดว่าเนโค้อายุเพียงเเค่ 5 ปีล่ะ?? ]

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

☆ความรู้ประดับสมอง ep3 ☆ 《ซากุระโมจิ

เป็นขนมแบบญี่ปุ่นที่รับประทานกันในหมู่สามัญชนมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โทกุงะวะ โยะชิมุเนะ โชกุนคนที่ 8 (ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2259 – 2288) ได้สั่งให้ปลูกต้นซากุระและต้นท้อตามที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คน,ไทยากิ

เกิดขึ้นครั้งแรกที่โตเกียวในยุคเมจิ โดยเซอิจิโร คัมเบะ ชาวโอซากะ

,คอมเปโต

คือ ลูกอมเม็ดเล็ก ผิวเป็นหนามทู่ๆ สีสันสดใส รสหวานแหลม จึงนิยมทานกับน้ำชา,Amanattō [甘納豆]

เป็นขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ทำจาก ถั่วอะซึกิ หรือธัญพืชอื่น ๆ Amanatto เป็นขนมญี่ปุ่นที่ถั่วจะสุกในน้ำน้ำตาลและแห้งหลังจากที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำตาลมากขึ้น,"วากาชิ (和菓子)"

หรือขนมญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งในอาหารดั้งเดิมที่เลื่องชื่อของญี่ปุ่น ในบรรดาวากาชิที่อยู่หลากหลายชนิด "โจนามะกาชิ (上生菓子)"

เป็นขนมที่โดดเด่นเรื่องความสวยงามเป็นพิเศษ ขนมชนิดนี้มีหน้าตาคล้ายกับงานศิลปะขนาดจิ๋ว และมักพบเห็นได้ตามงานเลี้ยงน้ำชาต่างๆ บทความนี้เป็นหนึ่งในซีรีย์ ,150 เยน \= 38.59 บาทไทย(อาจมีการเปลี่ยนเเปลง)

1,000 ปีที่เเล้วของประเทศญี่ปุ่นคือยุค "อาซุกะ" เริ่มตนในช่วง ค.ศ 538ตอนต้นพร้อมกับศาสนาพุทธจากอาณาจักรเกาหลีแพ็กเจ นับตั้งแต่นั้นมา ศาสนาพุทธอยู่เคียงข้างกับศาสนาชินโตท้องถิ่นญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "ชินบุตสึชูโง" ยุคนี้ตั้งชื่อตามเมืองหลวงโดยพฤตินัย อาซูกะ ในภูมิภาคคิไน

ตระกูลพุทธโซงะเข้าควบคุมรัฐบาลญี่ปุ่นจากเบื้องหลังในช่วง ค.ศ. 580 เกือบ 60 ปีเจ้าชายโชโตกุ ผู้เลื่อมใสศรัทธาในศาสนาพุทธและผู้สืบสกุลโซงะบางส่วน ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและผู้นำโดยพฤตินัยของญี่ปุ่นตั้งแต่ ค.ศ. 594–622 โชโตกุเขียนรัฐธรรมนูญสิบเจ็ดมาตราซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากลัทธิขงจื๊อ เป็นจรรยาบรรณแก่ข้าราชการและพลเมือง และพยายามริเริ่มราชการพลเมืองที่ยึดตามคุณความดีที่เรียก "ระบบยศผ้าโพกหัวสิบสองชั้น" (冠位十二階, Kan'i Jūnikai) ใน ค.ศ. 607 โชโตกุพูดดูหมิ่นจีนเล็กน้อยโดยการเปิดประโยคในจดหมายของเขาว่า "จากผู้นำแห่งแผ่นดินอาทิตย์อุทัยถึงผู้นำแห่งแผ่นดินอาทิตย์สนธยา (อาทิตย์ตก)"ตามที่เห็นในอักษรคันจิสำหรับคำว่าญี่ปุ่น (นิปปง) จนถึง ค.ศ. 670 คำว่า นิฮง ซึ่งเป็นอีกคำหนึ่งที่มีความหมายตรงกันกับคำว่า นิปปง สถาปนาตนเองเป็นชื่อทางการของญี่ปุ่นจวบจนถึงปัจจุบัน

คำว่า นิฮง เขียนในอักษรคันจิ (แนวนอน) ตัวอักษรแปลว่า "ญี่ปุ่น" ในภาษาญี่ปุ่น

เจ้าชายโชโตกุเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในยุคอาซูกะ และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้สนับสนุนพระพุทธศาสนาหลักคนแรกในญี่ปุ่น

ใน ค.ศ. 645 ตระกูลโซงะถูกโค่นล้มจากการรัฐประหารโดยเจ้าชายนากะ โนะ โอเอะ และ ฟูจิวาระ โนะ คามาตาริ ผู้ก่อตั้งตระกูลฟูจิวาระ รัฐบาลของเขาวางแผนและริเริ่มการปฏิรูปไทกะซึ่งเริ่มจากการปฏิรูปแผ่นดินโดยยึดตามแนวคิดลัทธิขงจื๊อและปรัชญาจากจีน การปฏิรูปนี้ทำให้ทุกผืนแผ่นดินในญี่ปุ่นเป็นของรัฐและจัดสรรที่ดินให้อย่างเท่าเทียมกัน (Equal-field system) แก่เกษตรกร อีกทั้งยังสั่งให้มีการลงทะเบียนบ้านที่อยู่อาศัยเพื่อใช้เป็นพื้นฐานของระบบการเก็บภาษีใหม่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการปฏิรูปนี้คือการรวมและเพิ่มพระราชอำนาจของพระราชวังหลวงที่ยังยึดตามโครงสร้างรัฐบาลจีน คณะทูตและนักเรียนถูกส่งไปยังจีนเพื่อเรียนรู้การเขียนอักษรจีน, การเมือง, ศิลปะ และศาสนา หลังจากการ

ปฏิรูป ใน ค.ศ. 672 เกิดสงครามจินชินนองเลือดขึ้นระหว่าง เจ้าชายโออามะ และหลานชายของเขา เจ้าชายโอโตโมะ ซึ่งทั้งสองเป็นคู่แข่งที่จะได้ขึ้นบัลลังก์ สงครามจินชินกลายเป็นเหตุการณ์ที่ช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองบ้านเมืองในครั้งต่อไป การปฏิรูปเหล่านี้บรรลุถึงจุดสูงสุดได้ด้วยการประกาศใช้ประมวลกฎหมายไทโฮซึ่งเป็นการทำให้บทกฎหมาย (statute) ที่มีผลบังคับใช้อยู่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังกำหนดโครงสร้างรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นภายใต้การปกครองต่าง ๆ การปฏิรูปกฎหมายนี้ก่อให้เกิด ริตสึเรียว ซึ่งเป็นระบบของรัฐบาลรวมอำนาจแบบจีนที่อยู่ในอำนาจตลอดครึ่ง 1,000 ปี

ศิลปะในยุคอาซูกะปรากฏลักษณะเด่นเฉพาะของศิลปะในศาสนาพุทธอยู่ หนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงคือวัดพุทธโฮรีวจิซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อสร้างตามพระบัญชาของเจ้าชายโชโตกุ》 (โครตยาวเลยจ้ร T^T)

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!