NovelToon NovelToon

โรแมนติก

โรแมนติกของชาย×หญิง

เธอเดินทางกลับประเทศพร้อมลูกชายอัจฉริยะสองคน แต่กลับไม่รู้เลยว่า...

ห้าปีที่แล้ว ตนเองได้ให้กำเนิดลูกแฝดสี่คน!

ตอนที่ 1 เกลียดเข้ากระดูกดำ“โอย…”

ทันทีที่นาตาลี นิโคลส์ตื่น เธอรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวราวกับร่างของเธอโดนฉีกเป็นชิ้นๆ

เธอนอนเปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่ม ผิวขาวเผือดของเธอเต็มไปด้วยรอยดูดเป็นจ้ำๆ เต็มไปหมด มันเยอะเสียจนเธอทนดูแทบไม่ได้

อะไรกันเนี่ย

ทันใดนั้น ภาพความทรงจำอันลางเลือนจากเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ

หญิงสาวเข้าห้องในสภาพสะลึมสะลือและถูกชายแปลกหน้าคนหนึ่งขยี้กามตลอดทั้งคืน

ชายคนนั้นไม่สนใจเสียงร้องและเสียงวิงวอนของเธอเลย เอาแต่ย่ำยีเธอราวกับเธอเป็นสมบัติของเขา

นาตาลีสวมเสื้อผ้าแล้วลุกจากเตียงด้วยแข้งขาที่สั่นระริก ตั้งใจว่าจะไปหาตัวชายผู้นั้นที่พรากพรหมจรรย์ไปจากเธอ แต่กลับไม่มีวี่แววของชายคนนั้นเลย สิ่งเดียวที่พบคือต่างหูรูปไม้กางเขนสีเงินข้างหนึ่งบนเตียงเท่านั้น

ไอ้บ้านั่นทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าเหรอ

นาตาลีหยิบต่างหูใส่กระเป๋าแล้วเตรียมตัวจะออกจากห้อง ขณะที่ประตูถูกถีบเปิดเข้ามาจากภายนอก

โธมัส นิโคลส์ ในวัยเกือบห้าสิบ พุ่งตัวเข้ามา ตามติดด้วยยาร่า ฝาแฝดของนาตาลี

“พ่อ ยาร่า…” นาตาลีหน้าถอดสีขึ้นมาทันที

“แกไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน เรานึกแล้วว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับแก ใครจะรู้ว่าแกมาเล่นพิเรนทร์กับผู้ชายในโรงแรมแบบนี้” โธมัสชี้ไปที่เธอพร้อมตวาดเสียงลั่น

แต่ยาร่ากลับสะอื้นออกมา “คราวนี้เธอทำเกินไปแล้วจริงๆ นาตาลี ทั้งพ่อ ทั้งป้าอีวอนน์ ทั้งฉันออกตามหาเธอจนแทบจะเป็นบ้า”

นาตาลีส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ปะ เปล่านะ หนูเปล่า”

“ไม่อายบ้างรึไง? เห็นรอยดูดบนคอแล้วก็ตามแขนขามั้ย ยังกล้าบอกว่าไม่ได้ทำอีกเหรอ?”

“มะ มีคนทำร้ายหนู พ่อคะ หนูไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง”

เมื่อเห็นว่านาตาลียังคงแก้ตัวเสียงแข็ง โธมัสจึงคว้าที่เขี่ยบุหรี่ข้างตัวขึ้นมาแล้วขว้างใส่เธอ

ตุ้บ

ก่อนที่เธอจะตอบอะไรได้ทัน ก็ได้แผลบนหน้าผากเสียแล้ว เลือดเริ่มไหลซิบๆ จากแผลนั้นไม่หยุดจนไหลลงมาอาบหน้าของเธอ

“พ่อเพิ่งตกลงให้แกแต่งงานกับคุณควินน์นะ นาตาลี แล้วดูสิว่าแกทำอะไรลงไป ตอนนี้แกไม่บริสุทธิ์แล้ว พ่อจะอธิบายเรื่องนี้ให้เขาเข้าใจได้ยังไง?”

นาตาลีตาเบิกโพลงอย่างไม่เชื่อหู “จาคอบ ควินน์เกือบหกสิบแล้ว แถมเมียสามคนก่อนของเขาก็ตายหมด แล้วพ่อยังอยากให้หนูแต่งกับเขาอีกเหรอ?”

“แล้วมันผิดตรงไหน? แกควรจะรู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่ได้แต่งงานกับเขา” โธมัสกุมแขนยาร่าไว้แน่น สายตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง “โชคดีที่แกกับยาร่าเหมือนกันแค่รูปร่างหน้าตา ไม่ใช่ศีลธรรม พฤติกรรมของแกทำให้ตระกูลของเราต้องอับอายขายหน้ากันไปหมด!”

ยาร่าชำเลืองมองฝาแฝดของเธอด้วยหางตาอย่างดูแคลน “อย่าลืมสิคะพ่อ เธอโตมาจากบ้านนอกคอกนา”

เมื่อต้องเผชิญกับสายตาเย็นชาของโธมัสและอาการมึนตึงของยาร่า นาตาลีทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร่ำร้องในใจ

ดูเถอะ นี่หรือท่าทีของพ่อกับฝาแฝดของฉัน

ไม่ใช่แค่หน้าผากของนาตาลีที่มีเลือดไหลอาบ ในหัวใจของเธอก็เช่นกัน

สิบเดือนต่อมา มีเสียงร้องของทารกดังขึ้น นาตาลีคลอดลูกสองคนในห้องชุดของเธอที่ชานเมือง

ขณะที่ยาร่าอุ้มทารกทั้งสอง ที่เนื้อตัวยังเต็มไปด้วยเลือด เธอจ้องมองอย่างดุดันไปยังฝาแฝดของเธอที่นอนกะปลกกะเปลี้ยอยู่บนเตียงเพราะเพิ่งคลอดลูก

“อะ เอาคืนมา…ให้ฉัน…” แม้จะหน้าซีดเหมือนใกล้ตาย นาตาลีก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นอย่างสุดกำลัง

“เอาคืนเหรอ เธอจะให้อะไรเด็กพวกนี้ได้” ยาร่าพูดเหน็บแนม

“ฉะ ฉันเป็นพี่สาวเธอนะ…พี่น้องคลานตามกันมาแท้ๆ” นาตาลีจ้องเขม็งไปยังหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนเธออย่างกับแกะ “ทำไม...ทำไมเธอต้องทำแบบนี้กับฉัน”

“ผู้หญิงคนนั้นน่ะแม่เธอแต่ไม่ใช่แม่ฉัน ตอนนั้นเขาเลือกเธอแล้วทิ้งฉันไว้ให้ดิ้นรนเอาตัวรอดในบ้านหลังนั้นที่เต็มไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรด แล้วเธอหายหัวไปไหนช่วงหลายปีที่ฉันต้องทนทรมานล่ะ”

รอยยิ้มของยาร่าทำเอานาตาลีรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง

“โลกนี้ต้องการคนหน้าตาแบบนี้แค่คนเดียว และคนๆ นั้นคือฉัน!”

“เธอคิดจะทำอะไรน่ะ”

“จะเผาเธอให้ตายน่ะสิ”

ยาร่าหยิบน้ำมันเบนซินที่เตรียมมาราดไปทั่วห้อง จากนั้นเธอก็จุดไฟแช็กแล้วโยนทิ้งลงบนพื้นก่อนจะจากไปพร้อมกับทารกฝาแฝด

เพียงชั่วอึดใจ ไฟก็ลุกลามไปทั่วห้องชุดอย่างรวดเร็ว

ขณะเดินออกจากตึกนั้น ยาร่าหันไปมองทะเลเพลิงจากนั้นก็ชำเลืองมองทารกแรกเกิดทั้งคู่ในอ้อมแขนของเธอ

สิบเดือนก่อน เธอบังเอิญพบลูกน้องของซามูเอล บาวเออร์ส ขณะกลับไปที่โรงแรมเพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมดที่เธอใส่ร้ายฝาแฝดของเธอ

ตอนนั้นเองที่เธอรู้ความจริงว่าชายที่นาตาลีนอนด้วยในคืนนั้นไม่ใช่นักเลงที่เธอจ้าง แต่คือตัวซามูเอล คนดังของเมืองเดลล์มัวร์นั่นเอง

ยาร่าต้องรีบตัดสินใจอย่างรวดเร็วด้วยตัวเอง เธอกำลังจะหลอกซามูเอลให้คิดว่าเธอคือหญิงสาวในค่ำคืนนั้น

ถึงอย่างไร เธอและนาตาลีก็เป็นแฝดเหมือน ถ้าฝาแฝดของเธอหายไปจากโลกนี้ก็จะไม่มีใครรู้ความลับของเธออีก

ส่วนทารกแฝดนั้น เก็บไว้ใช้เป็นตัวช่วยให้ฉันได้ใกล้ชิดกับซามูเอล ในอนาคตได้

“จะร้องทำไมฮึ ถ้าแกสองคนไม่ใช่ลูกของซามูเอล ฉันคงทิ้งพวกแกไว้ตรงนั้นด้วยแล้ว” หยุดไปชั่วขณะเธอจึงพูดต่อ “แต่ถ้าได้พวกแกช่วย อีกไม่นานฉันคงจะได้แต่งงานเข้าบ้านบาวเออร์ส ”

แต่ยาร่าซึ่งยังคงดำดิ่งอยู่ในโลกแห่งความฝันของตัวเอง ไม่รู้เลยว่า นาตาลีได้รวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ปีนหนีออกทางหน้าต่างได้ทันก่อนที่ห้องนั้นจะถูกเผาไหม้

ขณะที่เธอโซซัดโซเซออกจากตึกนั้น จู่ๆ เธอก็รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณช่วงล่างของเธอ แล้วเสียงร้องเบาๆ ก็ดังขึ้น

เธอไม่ได้คลอดลูกแค่แฝดสอง…

นาตาลีอุ้มลูกคนที่สามและสี่ของเธอด้วยสองมือสั่นระริก

แม่จะฝ่าฟันทุกอุปสรรคเพื่อลูกๆ เอง

เธอกัดฟันแน่นขณะที่สายตาของเธอลุกวาวด้วยความเกลียดชังอย่างแรง

“สักวันฉันจะทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างทีเธอเอาไปจากฉัน…”

ตอนที่ 2 พบสาวงามที่สนามบิน

ห้าปีต่อมา ผู้คนจำนวนมากพากันมองเด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งในชุดเอี๊ยมสีน้ำเงินและเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตเป็นตาเดียว ที่สถานีปลายทางหลักของท่าอากาศยานนานาชาติเดลล์มัวร์

รูปร่างหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ผมหยักศก ขนตางอนและยาวเหมือนตุ๊กตา ทำให้ทุกคนหลงใหล เด็กคนนี้คงจะเป็นชายในฝันของเหล่าสาวๆ เมื่อโตขึ้น

ขณะที่ทุกคนรู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่าแม่ของเขาจะงดงามขนาดไหน หญิงสาวจมูกแบน ริมฝีปากหนาและตกกระทั่วใบหน้าคนหนึ่งก็ร้องเรียก “ซื้อโค้กมารึเปล่าจ๊ะลูก”

“ซื้อแล้วฮะแม่”

พอได้ยินอย่างนั้น สาวๆ ทุกคนในกลุ่มต่างก็อ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อสายตา

เป็นไปได้เหรอที่เด็กชายหน้าตาน่ารักจะมีแม่ที่ไร้ความงามได้ขนาดนี้

นับตั้งแต่แม่ของเซเวียนเริ่มสวมหน้ากากแปลงโฉมน่าเกลียดน่ากลัวอันนั้น เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา จนเซเวียน นิโคลส์รู้สึกคุ้นชินเสียแล้ว

เซเวียนเดินไปหานาตาลีแล้วส่งเครื่องดื่มฟองฟู่ให้เธอก่อนจะดื่มน้ำอะไรบางอย่าง อย่างเชื่อฟัง

“แม่ฮะ แม่คิดจะใส่ของน่าเกลียดแบบนั้นไปอีกนานแค่ไหน?”

“นี่ลูกว่าแม่น่าเกลียดเหรอจ๊ะ”

“เปล่าซะหน่อยครับแม่ ผมก็แค่กลัวว่าแม่จะหายใจไม่ออกถ้าใส่มันไปนานๆ น่ะฮะ”

ผมไม่มีสิทธิออกความเห็นเรื่องรูปร่างหน้าตาของแม่หรอก!

เซเวียนเป็นคนที่หน้าตาดีน้อยที่สุดถ้าจะเทียบกับนาตาลีและเคลย์ตัน พี่ชายของเขา ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีสิทธิหรือความกล้ามากพอจะวิพากษ์วิจารณ์ความงามระดับนางฟ้านางสวรรค์ของแม่

“ดีแล้วล่ะที่หนูรู้ตัวว่าไม่หล่อน่ะ ลูกรัก”

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างงุนงงสงสัย

นี่มีคนเข้าใจผิดเรื่องมาตรฐานความงามเหมือนเรารึเปล่าเนี่ย แม่คนนี้น่าเกลียดกว่าลูกของเธอเป็นล้านเท่าเลยนะ

มุมปากของนาตาลีเผยอยิ้มเล็กน้อย ขณะที่เธอมองดูเมืองต่างแดนที่คุ้นเคยผ่านกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นถึงเพดานของสนามบิน

ห้าปีเต็มๆ แล้ว ถึงเวลาที่จะกลับมาสะสางบัญชีหนี้แค้นเสียที

ขณะที่นาตาลีใจลอยคิดอะไรอยู่ เด็กหญิงตัวน้อยน่าเอ็นดูคนหนึ่งก็เดินเข้ามาชนเธอและสะดุดล้มลงกับพื้น

พอเห็นอย่างนั้น เธอรีบทรุดตัวลงแล้วพยุงเด็กหญิงให้ลุกขึ้น

“เป็นไรมั้ย เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”

โซเฟีย บาวเออร์ส ตาลุกวาวขณะจ้องมองมายังนาตาลี

เธอไม่ได้ร้องเอะอะโวยวาย แค่พึมพำออกมาว่า “มะ แม่จ๋า…”

“อยู่ๆ เธอจะเรียกใครว่าแม่ไม่ได้นะ นี่แม่ฉันไม่ใช่แม่เธอซะหน่อย” เซเวียนโวยวายด้วยท่าทางหวงแม่แบบสุดๆ

โซเฟียทำหูทวนลมกับคำพูดของเขาแล้วโอบกอดนาตาลีไว้

นาตาลีรู้สึกได้ถึงอ้อมแขนของเธอที่กอดรัดอย่างแนบแน่น ราวกับกลัวว่าจะสูญเสียเธอไป

ใบหน้าของเซเวียนบูดบึ้งด้วยความอิจฉา แต่พอเห็นแววตาดุๆ ของนาตาลีมองมา เขาจึงได้แต่ยืนฮึดฮัดอยู่ตรงนั้น และซดน้ำอึกใหญ่

“หลงทางกับแม่เหรอจ๊ะหนู แม่ไปไหนล่ะ เดี๋ยวฉันพาไปหาแม่ดีมั้ย?”

โซเฟียส่ายหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง ท่าทางดูจะเป็นกังวล

นาตาลีนึกเอาเองว่าเด็กหญิงคงจะรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงลูบแก้มของเธอ “เชื่อฉันนะ ฉันจะช่วยตามหาแม่ให้เธอเอง”

เด็กหญิงวัยห้าขวบไม่ปริปากพูดหรือส่งเสียงออกมาเลย ถึงอย่างนั้น เธอกลับรู้สึกชื่นชอบในตัวนาตาลีทันทีตั้งแต่พบกันครั้งแรก จนพยายามเปล่งเสียงออกมา ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่โซเฟียรู้สึกอยากอยู่กับเธอมากๆ

ดังนั้น เธอจึงฝืนออกเสียงพึมพำว่า “แม่จ๋า…แม่”

ไม่เหมือนนาตาลีที่ถูกเด็กหญิงเรียกร้องความสนใจจนตั้งตัวไม่ทัน เซเวียนกลับรู้สึกอิจฉาตาร้อนอย่างรุนแรง

ขณะเดียวกัน สตีเว่น ลูกชายคนที่สองของครอบครัวบาวเออร์ส ก็รู้สึกโล่งอกที่สุดเมื่อเห็นโซเฟีย

ถ้าเราหาเธอไม่เจอ พี่แซมต้องฆ่าเราแน่!

พอสังเกตเห็นว่าเด็กหญิงอยู่กับคนแปลกหน้า เขาก็เริ่มดึงเธอออกไปเมื่อได้ยินเสียงเธอเป็นครั้งแรกขณะที่เธอพึมพำออกมา “แม่จ๋า…”

สตีเว่นแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง เขาก้มลงแล้วยกมือแตะไหล่ของโซเฟีย

“หนูพูดว่าอะไรนะ พูดอีกทีซิ”

พอได้ยินว่ าเขามาที่นี่เพื่อตามหาเธอ เด็กหญิงจึงชี้ไปที่นาตาลี “แม่…แม่จ๋า…”

สตีเว่นมองไปตามนิ้วของเธอและเห็นใบหน้าบ้านๆ ที่เต็มไปด้วยกระฝ้า

นี่มันอะไรเนี่ย ทำไมถึงเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่

พอเรียกสติกลับมาได้เขาจึงเอ่ยถามว่า “นี่คุณทำอะไรกับโซเฟียน่ะ?”

“คุณคงเป็นพ่อของแก กล้าดียังไงถึงมาตั้งคำถามกับฉัน” พอคิดว่าเด็กหญิงคนนั้นคงจะรู้สึกไม่ปลอดภัย เธอจึงอดรนทนไม่ไหวต้องพูดออกไป “ทำไมถึงไม่ดูแลสาวน้อยน่ารักคนนี้ให้ดีล่ะ แกต้องไม่มีความสุขแน่ๆ ถึงได้มาเรียกฉันว่าแม่”

สตีเว่นนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง “เขาเรียกคุณว่าแม่เหรอ?”

นาตาลีกลอกตา “แล้วเธอจะเรียกใครอย่างนั้นได้ล่ะ คุณเหรอ”

สตีเว่นพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ

เขาทำใจให้เชื่อเรื่องนี้อยู่นานพอสมควร

“ขออนุญาตแนะนำตัวนะครับ ผมสตีเว่น บาวเออร์ส เป็นอาของโซเฟีย ผมแปลกใจมากจนถึงตอนนี้ เพราะแกมีอาการบกพร่องทางการสื่อสารมาตั้งแต่เล็กไม่เคยพูดกับใครมาก่อนเลย

นาตาลีได้ยินอย่างนั้น ก็รู้สึกแย่แทนเด็กหญิงขึ้นมาทันที

“เชื่อเขาได้มั้ยจ๊ะ โซเฟีย”

เด็กหญิงน้อยพยักหน้า

“หนูบกพร่องด้านการสื่อสารจริงเหรอจ๊ะ โซเฟีย”

แกพยักหน้าตอบรับอีกครั้ง

“เขามาตามหาหนู งั้นหนูก็น่าจะกลับบ้านไปกับเขาได้สินะ” นาตาลีพูดขณะที่จุมพิตที่หัวของเด็กหญิงตัวน้อย

โซเฟียมองดูนาตาลีเดินจากไปพร้อมกับเซเวียนโดยไม่ได้เอะอะโวยวายออกมา

ขณะที่สตีเว่นกำลังจะถามเด็กหญิงน้อยว่าอยู่ๆ ทำไมถึงพูดออกมาได้ เขาชำเลืองมองเธอโดยไม่ได้คิดอะไร แต่ต้องแปลกใจกับสิ่งที่เห็น

โซเฟียน้ำตาคลอพลางสะอื้นอย่างเงียบงัน

ตอนที่ 3 เรียกแม่สตีเว่นพาโซเฟียกลับบ้าน

ตั้งแต่พวกเขาแยกจากหญิงสาวแปลกหน้าคนนั้น หนูน้อยก็ดูหน้าตาบึ้งตึง เห็นได้ชัดว่าเธออารมณ์เสียจนไม่ยอมกินแม้แต่ไอศกรีมซึ่งเป็นของโปรดของเธอ แต่วิ่งกลับเข้าห้องตัวเองพร้อมกับดวงตาอันแดงก่ำทันทีที่กลับถึงบ้าน

เมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารของเธอ สตีเว่นเกิดความรู้สึกว่าซามูเอลต้องจัดการเขาแน่ๆ เขาหันหลังไปเงียบๆ จึงเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา

ซามูเอลสวมเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงรัดรูปขาตรง เสื้อผ้าของเขาช่วยเน้นไหล่กว้าง เอวคอดและขายาวของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากใบหน้าทรงเหลี่ยมอันโดดเด่นของเขา สายตาเย็นชาที่เขามองน้องชายทำให้รู้สึกหนาวจับขั้วหัวใจ

“บอกมาซิ นายทำอะไรโซเฟีย”

“เห็นแก่สวรรค์เถอะพี่แซม ผมไม่กล้าทำอะไรเธอหรอก ผมจะสวดวิงวอนพระเจ้าให้เธอไว้ชีวิตผมด้วยซ้ำไป”

แม้ว่าสตีเว่นจะเป็นลูกชายคนรองของครอบครัวบาวเออร์ส เขากลับรู้สึกเหมือนถูกลดชั้นลงมาเป็นเพียงพี่เลี้ยงเด็ก นับตั้งแต่ซามูเอลกลับมาพร้อมกับแฟรงคลินและโซเฟียเมื่อห้าปีก่อน ทันทีที่หนึ่งในนั้นเกิดปัญหา สุดท้ายเขาจะกลายเป็นหนังหน้าไฟคอยรับคำกล่าวโทษทุกอย่าง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม

ถึงอย่างนั้น สตีเว่นก็เห็นว่าเขาควรบอกไปตรงๆ ดีกว่าต้องตกเป็นแพะรับบาปแบกรับข้อกล่าวหาไว้คนเดียว

“มีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นละพี่แซม ตอนนี้โซเฟียพูดได้แล้ว”

ได้ยินอย่างนั้น สายตาของซามูเอลก็อ่อนลงขณะที่มุมปากข้างหนึ่งแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เพราะวิธีการรักษาได้ผลตอนที่นายพาโซเฟียไปหาศาสตราจารย์เจมส์ที่เมืองเฟอร์โรพีนคราวนี้น่ะเหรอ”

“เปล่า ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นหรอก” สตีเว่นส่ายหน้าก่อนจะพูดต่อ “ฉันอยู่ที่นั่นด้วยตอนที่มีการบำบัดทางจิตวิทยา คราวนี้ศาสตราจารย์เจมส์ก็แค่รักษาแบบเดิมๆ ไม่ได้แตกต่างอะไรจากครั้งก่อนๆ หรอก”

“งั้นเพราะอะไรล่ะ”

“วันนี้โซเฟียเจอผู้หญิงคนหนึ่งอายุซักยี่สิบกว่าๆ ที่สนามบินน่ะพี่แซม โซเฟียชอบเธอมากซะจนเรียกว่าแม่ตั้งหลายหน นายน่าจะเห็นหน้าหม่นหมองของเธอตอนที่จะต้องแยกจากกัน เธอน้ำตาคลอจนไหลพรากเลยล่ะ”

เมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า สตีเว่นยังรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้ช่างพิลึกพิลั่น แม้ว่าครอบครัวบาวเออร์สจะไม่เคยประกาศต่อสาธารณชนว่า ใครคือแม่ผู้ให้กำเนิดของเด็กแฝด ย้อนไปตอนที่ซามูเอลกลับมาพร้อมพวกเขา แต่พวกเขาก็รู้ดีว่า เธอคือยาร่า ลูกสาวของครอบครัวนิโคลส์

โซเฟียไม่เคยปริปากสักคำกับแม่ของเธอ แล้วทำไมถึงไปเรียกคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิงว่าแม่ล่ะ

ซามูเอลก็รู้สึกงุนงงเช่นเดียวกับน้องชายของเขา “ไหนเล่าให้ฟังเรื่องผู้หญิงคนนี้ซิ” เขาพูดพร้อมกับหรี่ตา

“ฉันจะไม่บอกว่าเธอไม่สวย แต่เธอตกกระเต็มหน้าแถมหน้าตาก็ธรรมดา” สตีเว่น ตอบขณะพยายามจะฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเธอ

“ไม่ได้จะถามเรื่องหน้าตาหล่อนซะหน่อย สตีเว่น”

สตีเว่นอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก

จากนั้นซามูเอลก็พูดเสริมอย่างเคร่งขรึมว่า “ไหนๆ นายก็รู้แล้วว่า แม่สาวนั่นเป็นคนพิเศษของโซเฟีย แล้วทำไมนายไม่ส่งใครสักคนไปสืบประวัติแม่นี่หน่อยล่ะ”

เขารู้สึกคิดว่าหญิงสาวหน้าตาบ้านๆ คนนี้น่าจะเป็นหนทางรักษาอาการบกพร่องทางการสื่อสารของโซเฟีย

สตีเว่นตบต้นขาตัวเองฉาดทันทีที่ได้ยินคำพูดของพี่ชาย

“เวรกรรม ลืมเรื่องสำคัญขนาดนี้ไปได้ไง ต้องทำเดี๋ยวนี้แล้วล่ะ”

ในห้องนอนบนชั้นสอง แฟรงคลิน บาวเออร์ส กำลังเหลาดินสอสีต่างๆ ให้กับโซเฟีย ในฐานะที่เขาเป็นหลานคนโตของครอบครัวบาวเออร์ส เขาอยู่ในสถานะที่สูงกว่าน้องสาว แต่นั่นก็แค่การแสดงให้คนนอกดูเท่านั้นเอง เพราะแท้ที่จริงเขาคือพี่ชายที่รักน้องสาวอย่างแท้จริง และพร้อมที่จะปกป้องเธอ

พอหยิบดินสอสีจากแฟรงคลิน โซเฟียก็วาดรูปหญิงสาวคนหนึ่งบนกระดาษวาดเขียน

หญิงสาวรูปร่างผอมบาง ดั้งจมูกแบนราบ ริมฝีปากหนาและใบหน้าเต็มไปด้วยกระ แต่ก็แปลกที่เด็กหญิง ตัวน้อยกลับยิ้มหน้าบานตลอดเวลาที่วาดรูปนี้

ไม่ใช่แค่นั้น แกยังวาดเส้นสีเหลืองหลายเส้นล้อมรอบตัวของหญิงสาวเพื่อให้ดูเหมือนแสงสว่าง

โซเฟียวาดเสร็จแล้วก็เขียนคำๆ หนึ่งเหนือหัวของหญิงสาวในรูปว่า

“แม่”

“แม่เหรอ” สายตาของแฟรงคลินเต็มไปด้วยความงุนงงสับสน

โซเฟียยิ้มร่าพร้อมกับพยักหน้า

“เธอวาดรูปผู้หญิงที่พ่อเล่าให้ฟังเหรอ” ถามไปแล้วแกก็ยังสงสัยเพราะเธอคนนั้นไม่ได้มีอะไรเหมือนแม่ของพวกแกเลย

ถึงแม้ทั้งคู่จะไม่ปลื้มยาร่านัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอมีใบหน้างดงามไร้ที่ติ

รอยยิ้มของโซเฟียหายไปทันทีที่นึกถึงยาร่า เธอส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย

ยาร่าจะมาเทียบกับแม่ในรูปเขียนของฉันได้ยังไง

“ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วจะมีใครอีกล่ะ” แฟรงคลินถาม

โซเฟียอยากบอกพี่ชายถึงความรู้สึกของเธอเองขณะที่เจอแม่เหลือเกิน แต่กลับพบว่าพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

ความสามารถในการสื่อสารของเธอสูญหายไปอีกครั้ง เธอรู้สึกท้อแท้นิดหน่อย

ไม่ว่าจะอย่างไร โซเฟียก็ยังม้วนภาพวาดแล้วกอดไว้แนบอกราวกับว่ามันคือสมบัติอันล้ำค่า

แฟรงคลินอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุดเกี่ยวกับความหลงใหลของน้องสาวที่มีต่อหญิงสาวหน้าตกกระคนนั้น

ผู้หญิงคนนี้มีอะไรพิเศษที่ทำให้โซเฟียหลงใหลในตัวเธอได้ขนาดนี้?

ขณะเดียวกัน นาตาลีก็จามเสียงดังทันทีที่ถอดหน้ากากแปลงโฉมออกจากใบหน้าของเธอ

“ต้องมีใครคิดถึงฉันแน่ๆ”

ขณะนั้น เซเวียนซึ่งกำลังเขียนรหัสโปรแกรมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เหลือบมองเนื้อหาในอีเมลขณะพูดว่า “มีคนกำลังตามหาแม่อยู่ครับ เขาเสนอจะจ่ายให้แม่ร้อยล้านถ้าแม่ยอมช่วยเขา”

เนื่องจากการจำกัดจำนวนคำ จึงทำได้เพียงอัพเดทที่นี่

ติดตั้ง APP แล้วค้นหาชื่อนิยาย 《รักของเขาแค้นของเราต้องเอาคืน

》 อ่านเนื้อเรื่องสนุกๆ ทันที

โรแมนติกของชาย×หญิง

ก๊อกๆ (เสียงเคาะห้อง)

“มาสักที!” ผมบ่นพึมพำอย่าหัวเสีย ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู

ภาพที่เห็นคือผู้หญิงใส่ชุดนักศึกษากำลังยืนอยู่หน้าประตู เธอมองผมตาไม่กระพริบ อายุแค่นี้คิดขายตัวแล้วหรอวะ เด็กสมัยนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

“มองอะไรหรักหนาเข้ามาสิ จะยืนอยู่อีกนานไหม ?” ผมบอกผู้หญิงตรงหน้าที่เอาแต่ทำตัวแข็งทื่ออย่างหงุดหงิด

“...พี่คะ” เธอเดินเข้าห้องมาตามคำสั่งของผม

ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรผมก็จู่โจมทันที ผมจูบเธออย่างเร้าร้อน แต่!! ทำไมเหมือนเธอจะจู.บไม่เป็นว่ะ หรือว่าแค่แกล้งทำเป็นจู.บไม่เป็น

“...อื้อ..อื้อ..” เธอพยายามทุบที่แผงอกของผม เหมือนคนกำลังหายใจไม่ออก ผมจึงยอมปล่อยให้ริมฝีปากของเธอเป็นอิสระ

“อย่ามาทำเหมือนไม่เคย กูไม่ชอบ” ผมจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าตาเขม็ง

“...ไอ้คนบ้า..นี่พี่ทำบ้าอะไรของพี่ หนูแค่จะมา....อุ๊บ!!”

ผมจู.บเธออีกครั้ง ก่อนจะจัดการฉีกชุดเธอออกแล้วโยนมันทิ้งอย่างไม่ใยดี

“...กรี๊ด~ ปล่อยนะ ไอ้บ้า”

“เล่นตัวจังวะ กูเสียเงินให้มึงเท่าไหร่มึงรู้ไหม”

“...หนูไม่ได้ขายตัว ไอ้บ้า”

“อย่ามาเล่นลิ้น !!” ผมจ้องเธอตาเขม็ง “อ๋อ หรือว่าที่ทำแบบนี้คือการแสดง แล้วก็ไม่บอกแต่แรกว่าอยากเล่นบทโดนข่.มขื.น”

ผมถอดเสื้อผ้.าตัวเองออกจนหมด ตอนนี้น้องชายมันผงาดได้ที่แล้ว ผมใช้มือของตัวเองรูดน้องชายขึ้นลงเพื่อเตรียมความพร้อม

“....ยะ..อย่านะ..พี่กำลังเข้าใจผิดอยู่..อึก..~”

ผมไม่สนใจที่เธอพูด ผู้หญิงคนนี้แสดงละครเก่งจริงๆ ผมเกือบจะเชื่อเธอแล้วว่าเธอไม่ได้ขายตัว

“เลิกเล่นได้แล้ว เรามามีความสุขกันดีกว่า”

“...ยะ..อย่า..หนูไม่ได้ขายตัวจริงๆ หนูไม่ได้แสดงละครอะไรทั้งนั้น หนูพูดเรื่องจริง ปล่อยหนูไปเถอะ”

ผมกดน้องชายเข้าไปที่ช่องทางคับแคบสีชมพูชวนหลงไหลนั่น อ่า!! ไม่คิดว่าตรงนั้นของเธอมันจะน่ามองขนาดนี้

t0825开始

กึด~

“อ๊า~ เข้าอยากจังวะ” ผมก็มมองดูรอยเชื่อมระหว่างผมกับเธอ

“เชี้ย...เลือด !!” ผมมองผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังนอนหายใจโรยรินอยู่ เธอนอนน้ำตาคลอ สั่นระริกๆ ไปทั้งตัว

“เธอ..ไม่ใช่...(แม่งเอ้ย)” ผมสบถคำหยาบออกมาเบาๆ

ผมคิดว่าเธอเล่นละครสะอีก ใครจะไปรู้วะว่าเธอไม่ใช่คนที่ไอ้คลาสส่งมาให้ จู่ๆ มาเคาะห้องเป็นใครๆ ก็เข้าใจแบบผม มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หยุดก็ไม่ได้สะด้วย

“อยากได้เท่าไหร่...แลกกับงานครั้งนี้ ?” ผมถามผู้หญิงที่นอนเปลือยกายอยู่ใต้ร่าง

เธอเงียบไม่ตอบผม เอาแต่นอนสะอื้นอยู่

“ไม่มีปากรึไงวะ...” ผมกระแทกน้องชายข้าไปจนสุดลำ ทำให้คนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งโหย่ง

“...อร้าย...กรี๊ด จะ..เจ็บ”

“กูถามว่ามึงจะเอาเท่าไหร่ แลกกับความบริสุทธิ์ของมึง ?”

เธอหายใจเข้าออกช้าๆ แล้วจ้องหน้าผม แววตาเธอมันทำผมสะตั้นไปชั่วขณะ

ผู้หญิงคนนี้เหมือนมีอะไรดึงดูดให้ผมมอง หน้าเธอคล้ายกับผู้หญิงที่ผมเคยรู้จัก

“....10 ล้าน”

หึ สุดท้ายผู้หญิงแม่งก็หน้าเงินทุกคน...

2 - หนี

[ Talk...Chris ]

ผมปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นนอนอยู่บนเตียงหลังจากที่จัดการกับเธอเสร็จ ส่วนผมก็ลุกขึ้นเดินมาเข้าห้องน้ำ อาบน้ำสักหน่อย เหนื่อยชะมัด

ในขณะอาบน้ำอยู่ผมก็คิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ผมมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น เธอไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนนิ่งๆ ให้ผมทำ แต่แปลกที่ผมกลับคิดถึงแต่ร่างกายขาวเนียนหน้าอ.กอวบอิ่มคู่นั้นของเธอ มันดึงดูดสายตาผมมากจริงๆ ตั้งแต่ผมมีเซ็กส์กับผู้หญิงมา ผมยังไม่เคยเจอใครหน้าหลงไหลขนาดนี้มาก่อน

ร่างกายของเธอ ความบริสุทธิ์ของเธอ อ่า!!

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จผมออกมาจากห้องน้ำ ก็ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว

“ไปไหนวะ...!!” ผมเดินดูจนทั่วห้องก็ไม่เจอ เธอไปแล้วงั้นสินะ

ไปไม่บอกสักคำ อีกอย่าง เธอยังไม่ได้รับเงิน 10 ล้านจากผมเลยด้วยซ้ำ

ผมมองไปที่เตียงนอน คราบเลือดติดผ้าปูที่นอนเต็มไปหมด เมื่อกี้ผมรุนแรงกับเธอมากไปหน่อย ผมลืมไปว่าผมคือคนแรกของเธอ แต่ชั่งเถอะดูเธอคงจะไม่ใส่ใจอะไรกับครั้งแรกของเธอเท่าไหร่ หึ!!

ผมกำลังจะเดินไปใส่เสื้อผ้า สายตาดันไปสะดุดกับอะไรสักอย่างเข้าจึงก้มลงไปเก็บขึ้นมา มันคือบัตรนักศึกษาของผู้หญิงคนคนนั้น

“หึ!! แล้วเราจะได้พบกันอีกแน่สาวน้อย”

สวัสดีดีครับ ผม คริส อายุ27ปี ผมมีน้องชายฝาแฝดชื่อไอ้คลาส นอกจากหน้าตาที่เหมือนกันแล้วผมกับมันไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักนิด อ้อ อาจจะเหมือนเรื่องนึง คือผมกับมันชอบเอาผู้หญิงคนเดียวกัน

ถ้าเปรียบผมกับไอ้คลาสเป็นสี ผมคงเป็น"สีดำ" ส่วนไอ้คลาสคงเป็น "สีขาว"

ผมเป็นคนนิ่งๆ คลึมๆ ไม่ชอบพูดอะไรมากมาย ออกจะเป็นคนเงียบๆด้วยซ้ำ ใครทำให้ผมยิ้มได้ คนนั้นถือว่าเก่ง เพราะสิ่งที่ผมเกรียดที่สุดคือรอยยิ้มของตัวเอง

ส่วนไอ้คลาส ไอ้นี้มันเป็นคนอารมณ์ดี เข้าได้กับทุกคน ยิ้มได้ทั้งวัน...ที่ผมไม่ชอบยิ้ม คงเป็นเพราะไอ้คลาสมันยิ้มแทนผมไปแล้วมั่ง

พูดถึงชีวิตของผมที่ผ่านมา...ตั้งแต่เด็กจนโต ผมถูกส่งให้ไปอยู่ที่ฮ่องกงกับพวกลูกของพี่น้องป๊า พวกผมอยู่ที่นั่นนอกจากเรียนแล้ว กลับมาบ้านก็ต้องฝึกต่อสู้ ยิงปืน เพราะครอบครัวผมเป็นมาเฟียทั้งหมด

ชีวิตผมก็เหมือนกำลังเเขวนอยู่บนเส้นด้าย ผมอาจจะตายตอนไหนก็ได้ หรือผมอาจจะฆ่าคนเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าผมไม่ฆ่ามันมันก็ฆ่าผม

ผมพึ่งกลับมาไทยได้สองเดือน เพราะต้องมาช่วยครอบครัวดูแล ธุรกิจ พวกบ่อนคาสิโน คลับ ธุรกิจมืดด้วย ผมคุมธุระกิจพวกนี้กับไอ้มังกร มันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผมนี่แหละ มันอายุมากกว่าผม2ปี

ถ้าให้พูดถึงเรื่องความรัก มันคือสิ่งที่ผมกลัว ผมถึงเลือกที่จะเลวแบบนี้ ผมกลัวที่จะมีความรัก กลัวที่จะรักใครซักคน

แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมไม่เคยรักใคร...

ตอนอยู่ฮ่องกง ผมเคยแอบชอบผู้หญิงคนนึง เธอสวย สวยมาก แววตาเธอมีเสน่ห์ รอยยิ้มหวานๆ ของเธอทำผมหลงไหล ผมชอบแอบตามเธออยู่บ่อยๆ เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึง ไม่ได้เกิดในตระกูลใหญ่ เธอทำงานหาเลี้ยงครอบครัว

ยิ่งรู้แบบนี้ผมยิ่งชอบเธอมากขึ้นอีก คงไม่เชื่อละสิว่าเจ้าชู้ตัวพ่อแบบผมจะตกหลุมรักผู้หญิงด้วย เธอคือผู้หญิงคนเดียวที่ทำผู้ชายที่ไม่ชอบยิ้มแบบผมยิ้มได้เพราะเธอ.. ผมแอบตามเธอสักพัก ผมตัดสินใจไปสารภาพรักกับเธอ หึ..เชื่อไหมครับว่าผมโดนเธอปฎิเสธ เธอบอกผมว่าเธอมีคนที่เธอชอบอยู่แล้ว นี่แหละเหตุผมที่ผมเกรียดความรัก

วันต่อมา...ไอ้คลาสมาหาผมที่คอนโด

“ปีนี้มึงจะลงแข่งรถไหมวะไอ้คริส” ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่ผมชอบที่สุดในชีวิตก็คงจะเป็นการแข็งรถ ผมเป็นคนชอบความเร็ว ผมชอบแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนไอ้คลาสมันก็ลงแข่งบ้างไม่แข่งบ้างแล้วแต่อารมณ์มัน

“ไม่พลาด” ผมตอบ

“เออมึงมันเก่ง เก่งทุกเรื่องสัส !!” มันเบ้บปากใส่ผมก่อนจะพูดต่อ “เอ่อ...ม๊าให้กูมาตามมึงกลับบ้าน”

“อื้ม” การแข่งรถถือว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมโปรดปราน

“เป็นไงวะผู้หญิงเมื่อวาน เด็ดไหม?” ไอ้คลาสเลิกคิ้วขึ้นถาม

“ก็ ใช่ได้” พอพูดถึงเรื่องนี้ ภาพผู้หญิงคนนั้นก็ผุดเข้ามาในหัว ผมไม่ได้บอกมันว่าเธอไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่มันหาให้

“เออ เมื่อกี้ก็เดินเข้าคอนโดมึงเห็นผู้หญิงโคตรน่ารัก สเปคกูเลยว่ะ แต่เหมือนเธอจะกลัวๆ กูยังไงไม่รู้วะ พอเห็นหน้ากูแล้วรีบวิ่งหนี”

ผมหันขวับไปมองไอ้คลาส ผู้หญิงที่มันพูดอาจจะเป็นคนที่ผมพึ่งเปิดบริสุทธิ์เธอไปเมื่อวานก็ได้

“มึงมองหน้ากูทำไม สัส!! ขนลุก”

“ไร้สาระ” พูดจบผมก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

“นั่นมึงจะไปไหน..?”

“กลับบ้าน” พูดจบผมก็เดินไปแบบไม่สนใจมันเลย

“ไอ้นี่ จะไปไม่บอกกูสักคำ รอกูด้วย กูไม่ได้เอารถมา !” ไอ้คลาสตะโกนตามหลังก่อนจะวิ่งตามหลังผมมาติดๆ

ผมเกลียดการที่ไอ้คลาสมันพูดมากฉิบ...มันไม่เบื่อบ้างรึไงก็ไม่รู้ พูดๆได้้ทั้งวัน

3 - ชีวิตของคะนิ้ง

[ Talk...khanink ]

หลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน ที่ฉันโดนผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ข่.มขื.น ฉันหนีออกมาเพราะไม่อยากเจอหน้าคนเลวคนนั้นอีก ฉันเลือกที่จะไม่เอาเงินจากเขา ไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย เพราะมันคือเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตฉัน

ฉันไม่คิดเลยว่าแค่จะขึ้นไปเอาผ้าลงมาซักตามที่ผู้จัดการสั่ง มันจะทำให้ฉันโดนเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายขนาดนั้น หมดกันความบริสุทธิ์ที่ฉันเก็บไว้มอบให้คู่ชีวิต ผู้ชายคนนั้นแวบแรกเขาเปิดประตูห้องออกมา ฉันถึงกับตะลึงในความหล่อของเขา

เขาเป็นผู้ชายที่หล่อมาก ดูดีทุกอย่าง ฉันไม่เคยเห็นใครหล่อขนาดนี้มาก่อน แต่พอเขาพูดกับฉันเท่านั้นแหละ มันทำให้ฉันอึ่งกว่าเดิมอีก หล่อแต่ปากเสีย แถมยังคิดว่าฉันขายตัว ข่มขืนฉัน ไม่ฟังอะไรสักคำ

แต่แค้นไปก็เท่านั้นจะทำอะไรได้ ในเมื่อเสียความบริสุทธิ์ให้เขาไปแล้วหนิ ต่อไปชาตินี้ฉันกับไอ้หน้าหล่อแต่นิสัยหมาๆ คนนั้นขออย่าให้ได้เจอกันอีกเลย

ฉันตัดสินใจลาออกจากงาน ช่วงนี้ปิดเทอมฉันเลยมารับจ๊อบพิเศษ ทำได้ยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อคะนิ้ง อายุ20 ปี มีพี่สาวชื่อ คัพเค้ก พี่สาวฉันอายุ 23 ปี

พี่ฉันได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เรียนด้วยทำงานด้วย ส่งเงินมาให้ฉันกับยายใช้ ฉันกับพี่เค้กรักกันมาก เพราะเราเหลือกันแค่สองพี่น้อง

พ่อกับแม่พวกเราเสียไปตั้งแต่เราสองคนยังเด็ก จากนั้นยายก็เป็นคนเลี้ยงพวกเราสองคน ยายดูแลฉันกับพี่เค้กดีมาก ถึงบ้านเราจะไม่ได้รวยแต่เราก็มีความสุข

พอมหาวิทยาลัยปิดเทอมฉันก็คิดว่าจะหางานทำ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระพี่เค้ก ก็อย่างที่บอก ทำงานไม่ถึงเดือนก็โดน...นั่นแหละ ฉันเลยต้องมานั่งหางานใหม่ เฮ้อชีวิต รู้แบบนี้รอเอาเงินจากไอ้หน้าหล่อนั่นมาดีกว่า

ตอนนั้นฉันไม่คิดอะไร คิดแต่จะหนีอย่างเดียว จะกลับไปเอาตอนนี้ก็ไม่ได้

“อีคะนิ้ง !!” เสียงที่คุ้นเคย ตัวถ่วงชีวิตฉันจริงๆ นี่คือเสียงของป้านาพี่สาวของแม่ฉันเอง

“มีอะไร ?” ฉันตอบกลับเสียงห่วนๆ แล้วก็ทำหน้าเบื่อโลก

“เอาเงินมา กูไม่มีเงินใช้แล้วเนี้ย !!”

“ไม่มี เวลาหนูเอาเงินไปให้ ป้าก็เอาไปเล่นการพนันจนหมด หนูไม่มีเงินให้ป้าหรอกค่ะ”

“อีนี่ มึงจะเอามาให้กูดีๆ หรือจะให้กูใช้ตบก่อนห๊ะ !!”

“เอาสิ อย่าคิดว่าหนูจะยอมนะ หนูไม่ใช่พี่เค้กนะ”

ฉันพร้อมบวกมากตอนนี้ ป้าก็ป้าเถอะ คนยิ่งอารมณ์เสียเพราะไม่มีงานอยู่ ยังจะมาขอเงินอยู่ได้

ป้านาเห็นว่าฉันจะสู้เลยไม่กล้าทำอะไรฉัน

หลังจากทะเลาะกับป้านาเสร็จฉันก็เดินเข้าบ้านแบบหัวเสีย

“นามาขอเงินอีกแล้วหรอคะนิ้ง” ยายถามฉัน

“จ๊ะ ยาย”

“เฮ้อ ไอ้ลูกคนนี้นี่มันจริงๆ เลย ยายขอโทษแทนนามันด้วยนะคะนิ้ง”

“ยายไม่ได้ผิดสักหน่อยไม่ต้องขอโทษแทนใครหรอกยาย”

“ป่านนี้ เค้กมันจะเป็นไงบ้างยายละคิดถึงมันจริงๆ”

“งั้นเดี๋ยวหนูโทรวีดีโอคลอหาพี่เค้กให้เอาไหม ยายจะได้เห็นหน้าพี่เค้ากด้วย จะได้หายคิดถึง”

ฉันโทรคลอหาพี่เค้ก

“เออๆ ดีๆ แม้สมัยนี้มันดีจริงๆ มีเห็นหน้าผ่านไอ้จอเล็กๆ นี้ได้ด้วยเว้ย” ยายหัวเราะชอบใจใหญ่พอเห๋นหน้าตัวเองผ่านจอโทรศัพท์

4 - ของหาย

วันต่อมา...

ฉันตื่นแต่เช้า ทำกับข้าวให้ยายกิน หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉันก็ไปรับจ๊อบล้างจานที่ร้านอาหารตามสั่งแถวๆ ในซอยนี่แหละ ล้างจานตั้งแต่เช้ายันเย็น ได้200บาท

ฉันพยายามหางานอื่นทำ ตอนนี้มีงานอะไรให้ทำก็ทำไปก่อน ไม่เลือกงานไม่ยากจน ฉันท่องคำนี้ทุกวัน

หลังจากทำงานเสร็จ ตกเย็นฉันก็ไปเดินตลาดหาซื้อผักกับไข่มาไว้ทำกับข้าวมื้อเย็นนี้

ชีวิตฉันไม่ได้พิเศษอะไรหรอก ทุกๆ วันก็วนอยู่แค่นี้แหละจนถึงวันเปิดเทอม มันก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ออกจะสนุกด้วยซ้ำ อย่างน้อยมันก็ดีกว่านอนอยู่บ้านเฉยๆ

ผ่านมาหลายเดือน วันเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัย เรื่องที่ฉันโดนไอ้หน้าหล่อนั่นทำลายความบริสุทธิ์ ตอนนี้ก็ไม่เก็บมาใส่ใจแล้วแหละ ก็แบบที่ฉันเคยบอก ฉันเป็นคนลืมง่ายและเรื่องที่ฉันอยากลืมที่สุดก็คือเรื่องบ้านี่

“ยาย..หนูไปเรียนก่อนนะคะ”

“เอ่อๆ”

ฉันรีบวิ่งออกจากบ้านไปยืนรอรถเมล์ ยืนรอไม่นานรถเมล์ก็มาจอดจากนั้นฉันขึ้นรถเมล์ไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัย

ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนจนๆ แบบฉันถึงได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยดีๆ

คือตอนจะขึ้น ม.6 มันมีประกาศรับนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ฉันกับเพื่อนอีกสองคนก็เลยลองสอบดู ด้วยความที่เราสามคนฉลาดกันเป็นทุนเดิมกันอยู่แล้ว ทำให้เราสอบติดกันทั้งสามคนเลย

แต่ใครจะไปคิดว่าพอเข้ามาเรียนแล้วมันจะไม่ได้สวยหรูแบบที่คิด เชื่อไหมว่าเพื่อนที่คณะพวกคนรวยเนี่ยน้อยมากที่จะอ้าปากคุยกับพวกฉัน พวกเขาทำเหมือนพวกฉันไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันกับเพื่อนก็ไม่คิดอะไรมาก คิดแค่เรียนให้มันจบๆ ไป เพราะถ้าเรียนจบจากมหาวิทยาลัยนี้ไป ไม่ว่าจะอยากทำงานที่ไหนเขาก็รับทั้งนั้น นี่แหละเหตุผลที่ฉันทนอยู่

อ้อ ลืมแนะนำตัวเพื่อน

1 จิน [ สวย แรดมาก ปากร้าย ตบคือตบไม่เคยยอมใคร บ้าผู้ชายที่สุด ]

2 มิน [ พูดน้อยแต่ต่อยหนัก นิสัยห่าวๆ รักเพื่อนมาก ใครทำเพื่อนกูมันต้องตาย ]

3 มะปราง [ลูกคุณหนู บ้านรวยที่สุดในกลุ่ม หน้าตาสวย แต่โครตแรด คบผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เปิดซิงตั้งแต่ ม1 ]

ปล. มะปรางเพิ่งมารู้จักตอนย้ายมาเรียนโรงเรียนชื่อดังที่นี้ มันคือคนเดียวที่เข้ามาคุยกับพวกฉัน

เป็นไงกันบ้างเพื่อนฉันแต่ละคน

“อีคะนิ้ง....” จินร้องเรียกชื่อฉันเสียงดังมาแต่ไกลเลย

“ว่าไงคะเพื่อนจิน....” ฉันพูด

“โอ้ย ไม่เจอมึงตั้งหลายเดือนมากอดหน่อย” จินมันทำท่าจะกอดฉัน

“อย่าค่ะ กูขนลุก !!” ฉันรีบดันตัวมันออก

“แค่เพื่อนกอดก็ไม่ได้ สมแล้วที่มึงยังซิงอยู่”

ฉันสะอึกไปเลยพอได้ยินคำว่าซิงจากปากของจิน

“อะ..เออสิ”

“อีคะนิ้ง ทำไมมึงทำหน้าแบบนี้ หรือว่าช่วงที่ปิดเทอมไปมึง มึง...”

“อะไร...!!”

“มึงแอบไปมีผัวใช่ไหม ฮ่าๆ”

“บะ..บ้า..ผัวบ้าบออะไรละ แล้วนี่ มะปรางกับมินล่ะ มันมาถึงโรงเรียนหรือยัง ?”

“มาถึงแล้วอยู่ห้องน้ำ ไปหามันเถอะ”

พักเที่ยง....

“พวกมึงบัตรนักศึกษากูหายอ่ะ” ฉันก้มหน้าค้นหาในกระเป๋าเท่าไหร่ก็ไม่เจอ

“ไปลืมไว้บ้านรึป่าว ?” มินถาม

“นั่นสิยิ่งขี้ลืมอยู่ด้วย” จินพูด

ฉันคิดๆ ยังไงก็คิดไม่ออกว่าไปลืมไว้ที่ไหน

“อื้อ สงสัยลืมไว้บ้านนั่นแหละ” ฉันตอบปัดไป เพราะคงจะลืมไว้มี่บ้านจริงๆ

พวกเราสี่คนกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ในโรงอาหาร

“พวกมึงรู้จักพี่แชมป์ ปี3 คณะวิศวะไหม?” มะปรางถาม

พวกฉันพยักหน้า จะไม่รู้จัดได้ไงเขาฮ๊อตที่สุดในคณะเลยก็ว่าได้

“ก็ต้องรู้จักสิ ฮ๊อตขนาดนั้น” ฉันพูด

มะปรางยื่นหน้ามาใกล้ๆ พวกฉันแล้วกระซิบ

“กูได้กับพี่เขาแล้วค่ะ อาทิตย์ที่แล้ว เด็ดมาก” มะปรางบอก แล้วมันก็ยิ้มดีใจเหมือนถูกรางวัลที่หนึ่ง

จู่ๆ อีจินก็หัวเราะออกมา

“มึงเป็นอะไรจิน ?” มินมองไปทางจินอย่างงุนงง

“นั่นสิ มึงจะหัวเราะทำไม” มะปรางถาม

“กูกินก่อนมึงอีกอีมะปราง” จินบอกอย่างผู้ชนะ

ฉันกับมินหัวเราะออกมาพร้อมกัน สองคนนี้มันสุดจริงๆ เรื่องผู้ชาย

“คาราวะสิทธิ์พี่” มะปรางยกมือขึ้นทำท่าคาราวะ

“พวกมึงสองคนไม่อยากลองบ้างหรอ พี่แชมป์เด็ดจริงๆ นะมึง”

ฉัน-มิน: โนค่ะ !!

“เอ่อ นี่พวกมึง วันเสาร์นี้ มีแข่งรถที่สนามkkไปดูกัน” มะปรางเอ่ยปากชวน

“ได้ข่าวว่าพี่คริสลงแข่งด้วยใช่ไหม” จินถามมะปราง

“ใช่แล้วมึง สุดหล่อของกู” มะปรางทำหน้าเพ้อฝัน

“พวกมึงนี่บ้าผู้ชายกันจริงๆ” ฉันส่ายหน้าไม่มาเมื่อเห็นว่าเพื่อนเอาแต่พูดถึงเรื่องผู้ชายไม่ยอมหยุด

“พี่คริสเขาหล่อมากจริงๆ นะมึง ถ้ามึงเห็นมึงก็ต้องชอบ”

“แต่ค่าเข้าไปดูมันแพง กูไม่มีเงินหรอก !!” จินบอก

“กูไม่ไปนะ กูต้องทำงาน” ฉันเอางานมาอ้าง เพราะไม่มีเงินเข้าไปดู

“กูไม่ไปเหมือนกันช่วงนี้เก็บเงิน” มินพูด

“โอ้ย พวกมึงนี่ กูใคร ลืมไปแล้วรึไง กูเปย์เองค่าเข้าพวกมึงเองสรุปจะไปไม่ไป ?” มะปรางยื่นข้อเสนออีกครั้ง

“ไป !!” ฉันกับเพื่อนตอบพร้อมกันอย่างไม่ลังเล เมื่อรู้ว่าจะได้เข้าไปดูการแข่งรถฟรี

วันนี้มีเรียนทั้งวัน หลัวจากที่เลิกเรียนก็ต้องมารอรถที่หน้ามหาวิทยาลัย

“ไปคลับกันไหม ฉลองเปิดเทอม” มะปรางถาม

พวกฉันกำลังจะอ้าปากตอบ แต่มะปรางพูดต่อสะก่อน “กูเลี้ยง”

ฉันสามคนตอบพร้อมกัน “ไป”

“สี่ทุ่มเดี๋ยวกูไปรับพวกมึง โอเครไหม” มะปรางนัดเวลาเสร็จสรรพ

#บ้าน

“ยายจ๋า วันนี้หนูขอไปเที่ยวนะ” จะไปไหนฉันต้องขอยายก่อน

“เอ่อๆ ดูแลตัวเองดีๆก็แล้วกัน”

พอขอย้ายไปได้แล้วฉันก็เดินเข้าห้องนอนตัวเอง แล้วก็ค้นหาบัตรนักศึกษา แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ

“ตาย ตายแน่ ไปลืมไว้ไหนวะเนี่ย!!”

5 - เมา

ฉันพยายามหาแต่ยังไงก็ไม่เจอ จนถอดใจ เดี๋ยวก็คงเจอเองแหละฉันชอบลืมแบบนี้ประจำ

ถึงเวลาที่มะปรางมารับไปคลับ คือมะปรางมันไปรับ มินกับจินแล้วมารับฉันคนสุดท้าย ฉันก็ไม่ได้เเต่งตัวเซ็กซี่อะไรมากหรอก แต่งตัวสไตล์ฉันนี่แหละ ส่วนจินกับมะปรางสองคนนี้มันแต่งตัวกันแบบกินกันแทบไม่ลง ฉันกันมินนี่ชิดซ้ายเลย

@คลับ...พอมาถึงสั่งเหล้าอะไรแล้วเรียบร้อย

“วันนี้วงในบอกมาว่าพี่คลาสจะมาผับนี้” มะปรางพูดอย่างตื่นเต้น

“คลาส ที่เป็นฝาแฝดพี่คริสไหม นักแข่งรถไง” จินพูดเสริม

“เยส !!” มะปรางพยักหน้ารับ

“เสียดาย กูชอบพี่คริส” จินพูด

“กูก็ชอบพี่คริส แต่พี่เขาสองคนหน้าตาเหมือนกัน ได้ใครก็ดีทั้งนั้น” มะปรางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

ฉันกับมินมองหน้ากันแล้วส่ายหัวเบาๆ ให้กับความแรดของเพื่อนทั้งสองคนนี้

“มาๆ ชนแก้ว ชนให้กับความร่านของมึงสองคน” ฉันยื่นแก้วไปตรงหน้า

“แรงค่ะ แต่กูชอบคำนี้”

“ชนๆๆ”

เคร้ง (เสียงแก้วกระทบกัน)

กินไปได้สักพักเริ่มเมาได้ที่แล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงในคลับกรี๊ดๆ กัน

“แหกปากทำไมเนี่ย ทำเหมือนมีคนตายงั้นแหละ” มินพูดอย่างหงุดหงิด

“อร้ายยย..กรี๊ด!!” จู่ๆ มะปรางที่มองๆ ดูอะไรสักอย่างก็กรี๊ดออกมาเสียงดัง

“นี่ก็อีกคน มึงจะกรี๊ดทามม๊ายย” ฉันยกมือขึ้นมาผิดหูไว้อย่างรำคาญ แล้วถามเสียงยานเพราะความเมา

“มึง...มึง...พะ..พี่คลาส พี่คลาสมาแล้ว อร้ายๆ” มะปรางกระโดดโลดเต้นเหมือนปลากระดี้ได้น้ำ

“จริงด้วย กรี๊ด หล่อมาก” จินกรี๊ดออกมาเสียงดัง ให้ตายเถอะ หล่อขนาดนั้นเลยหรือไงกัน

ฉันพยายามมองนะแต่คนมุงเยอะเกินเลยมองไม่เห็น บวกกับตอนนี้ตาลายด้วย

“เอาล่ะพวกมึง กูจะเอาคนนี้คืนนี้กูต้องได้พี่คลาสเป็นผัว” มะปรางพูดแถมยังมันทำหน้ามั่นใจ

“กูด้วย !!” จินเสริมขึ้น

ฉัน-มิน: ตามสบาย

กินเหล้าต่อสักพัก ฉันก็ไม่ได้เห็นหน้าไอ้คนชื่อคลาสหรอกว่าหน้าตามันเป็นยังไง เห็นเขาว่าหล่อหนักหล่อหนา ตอนนี้มันไปนั่งตรงไหนฉันยังไม่รู้เลย

จู่ๆ ก็มีเด็กเสริฟเดินมาสะกิดแขนฉัน

“....พี่ครับ คือพี่ผู้ชายโต๊ะนั้นให้มาชวนไปนั่งดื่มด้วย”

“ม๊านค่ะ” รีบพูดปฎิเสธ ตอนนี้เมาจนพูดแทบจะไม่รู้เรื่องแล้ว ไม่มีอารมณ์ไปนั่งกับใครหรอก

เด็กเสริฟพยักหน้าแล้วเดินไป

“อีคะนิ้ง!!!” จู่ๆ มะปรางกับจินก็ตะเบ็งเสียงเรียกชื่อฉันเสียงดังพร้อมกัน

“อาราย !!” ตอนนี้ฉันเมา เมามากด้วย แต่หูไม่ได้ตึงสักหน่อย

“คนที่มึงเพิ่ง ปฎิเสธไปนั่นพี่คลาสนะ อีบ้า !!” จินต่อว่าฉันใหญ่

“พี่คลาสทำไมทำมะปรางแบบนี้ อร้าย!!”

“คลาส คลาส หนายว่ะ ม่ายรู้จัก !!” ฉันลุกขึ้นยืน เซไปมา “ไร้สาระ ปะๆ เต้นๆ โยกๆ วู้วๆๆ”

“มินพากูไปเข้าห้องน้ำหน่อย” ฉันสะกิดแขนมิน

“ปายเองเด้..กูเดินม่ายหวาย !!” มินซบหน้าลงกับโต๊ะแล้วตอนนี้

ฉันมองหาจินกับมะปราง ไม่รู้สองคนนี้มันไปไหนกันแล้ว

เมื่อไม่มีใครพาไปฉันต้องไปเอง ฉันเดินแหวกฝูกคน กว่าจะมาถึงห้องน้ำฉี่แทบเล็ต พอมาถึงก็เข้าห้องน้ำ ทำอะไรเสร็จเรียบร้อย เดินออกจากห้องน้ำ

พรึ่บ~ จู่ๆ ก็มีคนมาดึงแขนฉันไว้

“ใครวะ !!” ฉันพูดอย่างหัวเสีย แล้วพยายามเพ่งมองคนตรงหน้า

อีเชี้ย!! โคตรหล่อ หล่อชิบหาย หล่อแบบวัวตายควายล้มกันไปเลยทีเดียว แต่ฉันว่าไอ้หน้าหล่อๆ แบบนี้ฉันเคยเจอที่ไหนนะ คิดไม่ออก

“...พี่ชื่อคลาส ที่ให้เด็กเสริฟไปชวนน้องมากินที่โต๊ะพี่”

รอยยิ้มแบบนี้ งื้อละลาย ยิ้มกระชากใจมากเขาจะรู้ไหมว่าฉันอ่านกินเขาอยู่

“หล่อจัง...” ฉันพูดเบาๆ แต่เหมือนเขาจะได้ยิน เขายิ้มหวานให้ฉันด้วย

“ไปดื่มกับพี่ที่โต๊ะหน่อยได้ไหมครับ”

ฉันรู้สึกเวียนหัวจะอ้วกมากตอนนี้

“เดี๋ยว..แป๊บ” ฉันจะเดินกลับไปที่ห้องน้ำ คือมันไม่ไหว จะอ้วกให้ได้เลยตอนนี้

“เดี๋ยวน้อง..จะไปไหน ไปกับพี่ก่อน” ผู้ชายหน้าหล่อดึงแขนฉันไว้

“ปล่อย..ก่อน.!!!”

“บอกมาก่อนว่าจะไปไหน”

“อึก..อึก..อ้วก” ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว คนจะไปอ้วกก็ไม่ให้ไป ฉันอ้วกใส่เสื้อผู้ชายหน้าหล่อเต็มเสื้อเลย

“เชี้ย...!!!”

6 - สนามแข่งรถ

ฉันผลักผู้ชายหน้าหล่อออกแล้วฉันก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที...

“..อีคานิ้งง” เสียงอีมินเรียกฉัน

“กูอยู่เน้....!!” ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกไปหามิน

“หื้ม..สภาพมึงตอนเหมือนศพมาก”

“กูไม่ไหวแล้ว....”

ภาพตัด

เช้า...

ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่เวียนหัวสุดๆ เมาค้าง เมื่อคืนไม่รู้ไปทำอะไรทุเลสๆ ไว้หรือป่าว จำอะไรไม่ได้เลย มาถึงบ้านได้ไงยังไม่รู้เลย ดีนะยายเล่นโทรศัพท์ไม่เป็น นี่ถ้ายายเล่นเป็นแล้วโทรไปบอกพี่เค้กนะมีหวังพี่เค้กบ่นฉันยาวแน่

สรุปแก๊งฉันสี่คนไม่มีใครได้ไปเรียนเลย เมากันทุกคน

ตัดมาวันเสาร์ ฉันสี่คนนัดเจอกันที่สนามแข่งรถkk

ณ สนามแข่งรถ kk

“ไปพวกมึงกูซื้อบัตรเรียบร้อยแล้ว” มะปรางชูบัตรขึ้นโชว์

เราสี่คนเดินเข้าไปด้านในสนาม ขอบอกว่าคนเยอะมาก และส่วนมากจะเป็นผู้หญิง

“กูไม่ชอบแบบนี้เลย คนเยอะ” ฉันเดินไปบ่นๆ ไป

“ชะนีพวกนี้คงจะมาเชียร์พี่คริสแน่” จินพูด

“กูก็ว่างั้น เราต้องไปยืนดูด้านหน้าพี่คริสจะได้เห็นกู”

จากนั้นมะปรางกับจินมันก็ลากฉันกับมินมายืนติดขอบสนามเลย แดดก็ร้อนๆ คนก็โคตรเยอะ โอ้ยจะเป็นลม ไม่น่าเห็นแก่บัตรฟรีเลย

กรี๊ด กรี๊ด....!!!! จู่ๆ ก็มีเสียงกรี้ดดังขึ้น รวมทั้งมะปรางกับจินด้วย

“กรี๊ด พี่คริส พี่คริส เห็นหนูไหมมม อร้ายยย !!” จินร้องกรี๊ดพร้อมกับชูไม้ชูมือใหญ่ ปากก็เรียกหาแต่คนชื่อคริส

“กรี๊ด พี่คริส มาเป็นผัวหนูเถอะ !!!” มะปรางก็ไม่น้อยหน้า

“มินกูว่าสองคนนี้มันจะบ้าผู้ชายเกินไปแล้วนะ” ฉันหันไปพูดกับมิน

“ปล่อยๆ มันไปเถอะความสุขของมัน”

ในตอนนี้เสียงกรี๊ดของชะนีดังลั่นสนามแข่งรถ

“คนไหนวะ คริส ?” ฉันถามมะปราง

“อีตาต่ำ นั่นไงคนนั้นไง” มะปรางชี้ให้ฉันดู

ฉันมองไปตามที่มะปรางชี้ เห็นนักแข่งใส่ชุดสีเขียวดำ ใส่หมวกกันน็อค แต่งตัวมิดชิดมากใครจะไปดูออกกันล่ะแบบนั้น

“ขนาดนี้ยังมองออกว่าเป็นใครกูนับถือจริงๆ” เอาจริงๆ ถ้าเป็นฉันคงมองไม่ออกหรอกว่าคือใคร

กรี๊ด กรี๊ด...!!! เสียงกรี้ดดังมาก

การแข่งขันเริ่มขึ้นอย่างดุเดือด แต่จะมีรถคันหนึ่งที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อน เขาขับนำทุกคันไปแบบกินขาด สุดท้ายคนที่เข้าเส้นชัย คือไอ้คนที่พวกผู้หญิงพากัน กรี๊ดๆกันนี่แหละ

“งื้อ..กูอยากได้เขากูจะทำไงดี กูอยากได้”

“อีมะปรางมึงดู กรี๊ด!!” ฉันมองตามสองคนนี้ว่ามันดูอะไรกันแล้วก็กรี๊ดๆ ไม่เจ็บคอบ้างรึไง

ฉันมองไปที่คนชื่อคริส ที่พวกนี้กรี๊ดๆ กัน เขากำลังจะถอดหมวกกันน็อค ก็ไม่รู้จะกรี๊ดอะไรหนักหน้า ฉันก็มองๆ ผู้ชายที่ชื่อคริสต่อ พอถอดหมวกแล้ว

เออว่ะ หล่อจริง ท่าสะบัดผมเนี่ย พอถอดหมวกกันน็อคเสร็จก็ใส่แว่นดำใส่หมวก ชะนีพากันกรี๊ดดังสนั่น

คือพวกฉันอยู่ติดขอบสนามใช่มั้ย เวลานักแข่งแข่งเสร็จแล้วเขาจะเดินผ่านตรงที่พวกฉันยืนอยู่ด้วย

จู่ๆ ไอ้คนหล่อที่ชื่อคริส กำลังเดินอยู่ก็หยุดเดินแบบดื้อๆ หยุดตรงที่พวกฉันสี่คนยืนอยู่ แล้วเขาก็หันมามอง มองหน้าฉันเว้ย ฉันก็มองเขาเหมือนกันนะ ในใจนี่แบบอยากกราบในความหล่อ มองใกล้ๆ ยิ่งหล่อ ไม่แปลกใจเลยทำไมมะปรางกับจินถึงคลั่งขนาดนี้

แต่เอ๊ะ...ฉันทำไมคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้จัง เหมือนเคยเจอแต่คิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน จู่ๆ คนชื่อคริสก็กระตุกยิ้มมุมปากให้ฉันก่อนจะเดินไป นี่ฉันไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม หรือว่าเขากำลังอ่อยฉันอยู่

“เขามองกู...!!”

“กูต่างหาก !!”

มะปรางกับจินเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“กูว่าเขามองอีคะนิ้งนะ” มะปรางกับจินหันขวับมาทางฉันเมื่อได้ยินคำพูดของมิน

“อีกแล้วนะ วันนั้นก็พี่คลาส !!”

“วันนี้ก็พี่คริส เสน่ห์แรงจริงเพื่อนกู !!”

“ทำไมเขาต้องมองมึงด้วย กูนมใหญ่กว่ามึงตั้งเยอะ”

“บ้า..ไม่ใช่ เขาไม่ได้มองกูมั้ง” ฉันรีบพูดปฎิเสธ “กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

พูดจบฉันก็เดินออกมาเลย

ณ ห้องน้ำ

“เฮ้อ..คนเยอะน่าเบื่อชะมัด ถ้ารู้ว่าคนจะเยอะขนาดนี้ ไม่มาหรอก” ฉันบ่นพึมพำคนเดียวในห้องน้ำพลางล้างมือที่อ่างไปด้วย

หลังจากทำธุระในห้องน้ำเสร็จ ฉันก็เดินออกมา

พรึ่บ~ ไม่รู้ฉันเผลอไปชนกับใครเข้า ไม่สิ ใครมันมายืนขว้างทางออกฉันวะ ฉันค่อยๆ เงยหน้าไปมองคนที่ชน

ไอ้พี่หน้าหล่อคนนั้นนี่..นักแข่งที่ชื่อคริส ทำไมมาอยู่ตรงนี้ แล้วยังมาอยู่หน้าห้องน้ำหญิงอีก โรคจิตไหมวะเนี้ย (คิดในใจ)

“เอาตัวเธอไป”

พรึ่บ~ จู่ๆ ผู้ชายร่างใหญ่สองคนก็พุ่งเข้ามาหิ้วปีกฉัน

“อร้าย ไอ้บ้า ไปไหน หนูไม่ไปโว้ย มาจับหนูทำไมเราไม่รู้จักกันสักหน่อย ปล่อย ปล่อยโว้ยยย!!” ฉันร้องเสียงดัง ทั้งตกใจทั้งกลัว

หรือว่าไอ้หน้าหล่อนี้จะมันจะโกรธที่ฉันมองหน้า เห้ย ไม่สิเขามองฉันก่อนนะ จะยังไงก็เถอะไม่เห็นต้องมาใช้กำลังกับผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบฉันอย่างนี้เลย

---

👇👇คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อดาวน์โหลด Dreame เพื่ออ่านต่อ"เมียเด็ก Honey (I hate you) 20+"

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!