NovelToon NovelToon

ฝากฟ้า ไว้เคียงดิน

เมีย

‘เมียอย่างนั้นเหรอ แค่ชื่อยังอยากได้ยินเลย’ ไอดินมองนับฟ้าผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาเขามาหลายปี แต่เขาแทบจะไม่พูดคุยกับเธอเลย ใช่ เขาเกลียดเธอ หากไม่ใช่คำขอสุดท้ายของผู้หญิงที่เขารัก เขาไม่มีวันแต่งงานกับเธออย่างแน่นอน

“พี่ดินค่ะ ฟ้าทำข้าวกล่องไว้ให้พี่ดินไปทานที่ทำงานนะคะ” นับฟ้าวางข้าวกล่องที่เธอตั้งใจทำไว้บนโต๊ะอย่างทุก ๆ วัน ซึ่งเขาก็หยิบมันโยนลงถังขยะอย่างเคย ก่อนเดินออกจากห้องครัวไป

“ขับรถดี ๆ นะคะพี่ดิน” นับฟ้ายืนส่งชายที่เธอรักอย่างที่ทำมาตลอดห้าปี แต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจขับรถออกไปด้วยความเร็ว

“คุณฟ้านี้น่าสงสารนะแม่ เอาใจใส่ดูแลคุณดินมาตั้งหลายปี แต่คุณดินกลับเมินเธอมาตลอดอย่างนั้นเป็นหนูนะหนีไปหาผัวใหม่เสียตั้งนานแล้ว รวยก็รวยไม่เห็นต้องง้อเลย” น้อยเด็กสาวรับใช้พูดกับผู้เป็นแม่ด้วยความสงสารนายสาว

“แกนะ อย่าไปยุ่งเรื่องของเจ้านายหน่อยเลย คุณฟ้าเธอรักของเธออย่างแกนะไม่มีทางเข้าใจหรอก” ป้านิดสาวสูงวัยปรามลูกสาวอย่างดุ ๆ

“ก็มันจริงนี้แม่ คุณดินนะถึงจะเป็นเจ้าของโรงพยาบาลของครอบครัวก็จริง แต่ตัวเองกลับไปเรียนวิศวะทำบริษัทก่อสร้าง ถ้าไม่ได้ชื่อเสียงของครอบครัวคุณฟ้าบริษัทคุณดินก็คงไม่ไปได้ดีขนาดนี้หรอก”

“จะได้ดีไม่ได้ดีก็เรื่องของเจ้านายเขา แกนะถ้ายังไม่อยากตกงานก็รีบหุบปากแล้วไปทำงานซะ” นิดดุลูกสาว ถึงแม้เธอจะเห็นด้วยกับลูกสาวที่ว่าหากเขาไม่ใช่ลูกเขยของบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศ หน้าที่การงานของเขาก็คงไม่ไปได้ไกลถึงขนาดนี้

‘ถ้าหากคุณดาวไม่ทำแบบนั้น หรือคุณท่านทั้งสองยังอยู่คุณฟ้าก็คงจะมีความสุขมากกว่านี้’ หญิงชราพาลนึกไปถึงเจ้านายที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากที่พ่อแม่ของนับฟ้าเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ นับฟ้าและนับดาวที่ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนก็อยู่ในความดูแลของครอบครัวไอดิน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับครอบครัวของเธอ อีกทั้งสองครอบครัวยังมีสัญญากันว่าจะให้ลูกของทั้งสองครอบครัวแต่งงานกันเมื่อโตขึ้น ซึ่งไอดินเองก็ได้หมั้นหมายกับนับดาวตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยความเต็มใจของทั้งคู่

ถึงแม้นับฟ้าเองจะชอบไอดินเหมือนกัน แต่เธอก็ยินดีที่จะให้คนที่รักของเธอทั้งสองมีความสุข ไอดินเองก็มองเธอเป็นน้องสาวมาตลอด ทั้งสามคนจึงสนิทกันมาก ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ดีหากไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันนั้นขึ้น

‘พี่ดินคะ ดาวฝากพี่ฟ้าด้วยนะ พี่ฟ้าเขาพยายามมามากแล้ว พี่ฟ้ารักพี่ดินมาก พี่ดินช่วยรักพี่ฟ้าให้เหมือนที่รักดาวได้ไหมคะ แต่งงานกับพี่ฟ้านะคะ’ คำสั่งเสียสุดท้ายของหญิงคนรักยังดังก้องอยู่ในหูของเขาตลอดระยะเวลาหกปีที่ผ่านมา

“เฮ้ย เพื่อนทำไมถึงนั่งหน้าบูดแบบนั้นวะ วันนี้ทรายกลับไทยแล้วไม่ใช่เหรอแกไม่คิดจะไปรับน้องสาวหรือไง” มานพทักทายเพื่อนสนิทที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ในห้องทำงาน

“เบื่อว่ะไอ้หมอ วันนี้ไปดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อยสิวะ”

“ไม่ได้เว้ย พรุ่งนี้กูมีเวรเช้า ขืนไปดื่มกับมึงมีหวังตอนเช้าแฮงค์ไปทำงานไม่ไหว โดนพ่อแกไล่ออกแน่ ๆ” มานพเป็นหมอฝีมือดีที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลของครอบครัวเพื่อนสนิทอย่างไอดิน ถึงแม้จะมีโรงพยาบาลใหญ่หลายโรงพยาบาลมาซื้อตัวเขาในเงื่อนไขที่น่าสนใจ แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะตอบรับมัน เพราะหากไม่ได้ครอบครัวไอดินช่วยส่งเสียเขาเรียนจนจบดอกเตอร์เด็กสลัมอย่างเขาคงไม่มีโอกาสที่ดีขนาดนี้

“งั้นทำไมแกไม่รีบไปทำงาน มากวนฉันอยู่ทำไม”

“ก็ฉันเพิ่งออกเวร เย็นนี้เลยว่าจะขอฝากท้องที่บ้านแกหน่อย ยังไงก็ฝากบอกน้องฟ้าทำกับข้าวเผื่อด้วยสิ”

“แกจะไปกินก็ไปคนเดียวเลย คืนนี้ฉันจะไปดื่มต่อไม่อยากกลับบ้าน เบื่อ ไม่อยากเห็นหน้าแม่นั้น”

“อะไรของแก แต่งงานกันมาตั้งห้าปีแล้วยังไม่เปิดใจให้เขาอีกเหรอ เมื่อก่อนก็เห็นสนิทกันดี”

“เปิดใจเหรอ กับผู้หญิงใจร้ายที่ฆ่าได้แม้แต่น้องสาวแท้ ๆ ของตัวเอง ให้ฉันตายซะดีกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะน้องดาวขอไว้ฉันไม่มีวันแต่งงานกับคนพันนั้นแน่นอน”

“แกยังคิดอย่างนั้นอยู่อีกเหรอวะ คนแถวนั้นก็ยืนยันแล้วนิว่าน้องดาวกระโดดเข้าไปตัดหน้ารถเอง”

“โกหกนะสิ แม่นั้นเป็นคนผลักน้องดาวให้รถชนต่างหาก เพื่อที่ได้จับฉันไงละ แม่นั้นนะคงจะแค้นที่ตอนนั้นฉันเลือกน้องดาว เลยต้องกำจัดน้องดาวไปให้พ้นทาง”

“ว่างแกไปเช็คสมองซะบ้างนะ คิดไปได้ เขาจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร แกอย่างลืมสิว่าบริษัทนี้เขาก็ยอมโอนให้แกเพื่อให้แกสบายใจ แกยังคิดว่าเขาจับแกทำไมละ”

“ถ้าไม่ใช่เพราะสัญญากับน้องดาวไว้ว่าจะดูแลบริษัทนี้แทนคุณลุงคุณป้าที่เสียไปฉันก็คงไม่รับมันหรอก สู้เรียนหมอเหมือนแกดูแลโรงพยาบาลของที่บ้านไม่ดีกว่ารึไง แต่ช่างเถอะ ไหน ๆ บริษัทนี้ก็เป็นของฉันแล้วฉันว่าจะเปลี่ยนชื่อบริษัทให้เหลือแค่ประกายดาว แกว่าดีไหม”

“ฉันว่าแกต้องบ้าไปแล้วแน่ แกจะเปลี่ยนชื่อบริษัทฟ้าประกายดาว ให้เป็นบริษัทประกายดาว แกไม่สงสารน้องฟ้าเขาบ้างหรือไง ไม่ว่ายังไงบริษัทนี้ครอบครัวเขาก็สร้างมันขึ้นมานะเว้ย”

“สนใจทำไม ชื่อของน้องดาวไม่ควรอยู่ร่วมกับคนพันนั้น แม่นั้นจะรู้สึกยังไงไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องสนใจสักหน่อย”

“แต่ฉันว่าถึงน้องฟ้าเขาจะไม่พูดอะไร แต่ถ้ายายทรายรู้เข้าต้องมาฉีกอกแกแน่ ๆ จริงสิ! แกยังไม่ตอบฉันเลยว่าไม่ไปรับน้องแกเหรอ ไม่ได้เจอน้องสาวที่ไปเรียนต่างประเทศตั้งหลายปี ใจดำไปนะแกนะ”

“น้องสาวฉันต่างหากที่ใจดำ กลับมาไทยทั้งทีแทบที่จะมาหาพี่ชายอย่างฉัน กลับรีบไปหาผู้หญิงคนนั้น” ไอดินตัดพ้อน้องสาวคนเดียวของเขา ที่ไปเรียนต่างประเทศมาหลายปีแต่กลับไม่เคยติดต่อเขามาเลย แต่กลับติดต่อหานับฟ้าภรรยาของเขาอยู่เสมอ

“มันก็แน่อยู่แล้ว ก็ทรายกับน้องฟ้านะเขาสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เขาสองคนรุ่นเดียวกันนี้ เขาสองคนสนิทกันมากกว่าแกที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ซะอีก ถึงแม้กับน้องดาวจะไม่ค่อยสนิทกันเพราะทรายไปเรียนต่างประเทศซะก่อน แต่กับน้องฟ้านะเขาเคยไปเรียนด้วยกันสองคนที่นู่นตั้งหลายปีนี้”

“ช่างเถอะ ยังไงพวกแกก็คงหลงกลแม่นั้น แม้แต่พ่อแม่ฉันก็เป็นไปด้วย ฉันละอยากรู้จริง ๆ ว่าแม่นั้นมีอะไรดีนักหนา”

“คนใจแคบอย่างแกนะไม่มีทางเข้าใจหรอก ไปดีกว่าคุยกับแกแล้วรู้สึกเหมือนจะเป็นประสาทไปด้วย” มานพเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ไอดินอยู่กับความขุ่นข้องใจอยู่ภายในห้องทำงาน

‘นับดาวทำไมหนูต้องทิ้งพี่ไป ถ้าเป็นหนูพี่คงจะมีความสุขกว่านี้ ทำไม ๆ ทำไมหนูต้องทิ้งพี่ไป ทำไมหนูต้องใจร้ายกับพี่ด้วย’ น้ำตาของชายหนุ่มไหลลงมาอาบแก้ม เขารีบเช็ดมันออกก่อนที่จะเรียกเลขาเข้ามาเพื่อทำงานต่อ

การกลับมาของเพื่อนรัก

“นับฟ้า นับฟ้าเพื่อนรักมัวทำอะไรอยู่ กลิ่นทรายเพื่อนสาวแสนสวยของเธอกลับมาแล้วออกมาหาฉันซะดี ๆ” กลิ่นทรายเรียกหาเพื่อนสาวทันทีที่เดินเข้ามาถึงบ้านหลังใหญ่ที่ดูเงียบเหงาจนคนร่าเริงอย่างเธอรู้สึกได้

“เดี๋ยวเถอะยายทราย เสียงดังโวยวายไปได้ เดินเข้าไปให้มันดี ๆ ไม่ได้หรือไงกัน”

“ก็ทรายคิดถึงฟ้านี้คะคุณแม่ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี แต่ดูยายนี้สิรู้ว่าทรายกลับมายังไม่ยอมไปรับทรายที่สนามบิน พี่ดินก็อีกคน”

“หนูฟ้าเขาคงอยู่ทำของโปรดเราเตรียมไว้ให้ตามเคยละ เราก็รู้นี้ทรายว่าถ้าพี่เราไม่พาไปหนูฟ้าเขาไปได้ที่ไหน”

“ใช่ เหมือนที่พ่อเราว่านั่นแหละ แกกลับมาก็ดีแล้วจะได้เป็นเพื่อนหนูฟ้าเขาด้วย พี่แกนะมันเหลือทนจริง ๆ”

“พี่ดินทำไมเหรอคะ”

“ไว้แกเห็นหนูฟ้าแกก็จะเข้าใจเอง นั้นไงออกมานั้นแล้ว” ธาราหมอสาวที่เกษียณอายุแล้วแต่หน้าตายังสาวสะพรั่งเหมือนสาวแรกรุ่นบอกลูกสาวเมื่อเห็นลูกสะใภ้วิ่งออกมาจากในบ้าน

“ทราย คิดถึงจังเลย คุณพ่อ คุณแม่สวัสดีค่ะ” นับฟ้ากล่าวทักทายพ่อแม่สามีก่อนเข้าสวมกอดเพื่อนรักที่ควบตำแหน่งน้องสามีด้วยความคิดถึง

“ไม่ต้องมาพูดดีเลย คิดถึงฉันแต่ไม่ยอมไปหาฉันเลยนะ งอนแล้ว”

“ขอโทษนะ เอ่อ เข้าบ้านก่อนสิ ฉันทำอาหารที่เธอชอบไว้เยอะแยะเลย”

“ก็ได้เห็นแกของกินอร่อย ๆ ที่เธอทำฉันหายโกรธก็ได้ ว่าแต่พี่ดินอยู่ไหนละ” กลิ่นทรายเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นพี่ชาย

“ไปทำงานนะ”

“อะไรกัน น้องสาวกลับมาบ้านทั้งทีแต่กลับไม่อยู่รอต้อนรับเหรอ ใช่ไม่ได้จริง ๆ พี่ชายคนนี้”

“ใช่ ๆ น้องสาวคนสวยกลับมาทั้งทีแต่ไม่สนใจเมื่อกี้พี่ก็ด่ามันไปแล้วละ”

“พี่นพ สวัสดีค่ะ มาได้ไงคะ”

“พี่ไปหาทรายที่บ้านแต่คนที่บ้านบอกว่าจะมาที่นี่กันพี่เลยตามมาที่นี่นะ”

“ดูสิขนาดพี่นพยังคิดถึงทรายมากกว่าพี่ดินซะอีก ช่างตาคนบ้างานนั้นซะเถอะ เราไปกินข้าวกันดีกว่า ทรายหิวแล้ว เรามากินให้หมดไม่ต้องเหลือให้คนใจร้ายนั้น เนอะฟ้า เราไปกันดีกว่า” กลิ่นทรายพูดขึ้นพลางควงแขนเพื่อนสนิทเดินเข้าบ้านไป

ร่างของนับฟ้าดูซูบลงอย่างเห็นได้ชัด จนกลิ่นทรายอดที่จะสงสัยไม่ได้ ถึงแม้เธอจะรู้อยู่บ้างว่าพี่ชายของเธอไม่ค่อยให้ความสนใจนับฟ้าเท่าที่ควร แต่จากที่เธอเห็นมันเกินกว่าคำว่าไม่สนใจไปมาก แต่เธอไม่อยากที่จะทำลายรอยยิ้มของเพื่อนในตอนนี้เลยไม่ได้ถามอะไรออกมา

“อิ่มจัง อร่อยทุกอย่างเหมือนเดิมเลย จริงสิ ฟ้าคุยเป็นเพื่อนพ่อกับแม่ไปก่อนนะ ฉันมีเรื่องจะให้พี่นพช่วยหน่อย ไปค่ะพี่นพ” กลิ่นทรายพูดจบก็ดึงแขนมานพออกมาที่สวนโดยไม่รอให้เจ้าตัวตอบตกลง

“มีอะไรทราย ทำไมจู่ ๆ ดึงพี่ออกมาแบบนี้” มานพถามน้องสาวเพื่อนด้วยความสงสัย

“บอกมาค่ะ”

“อะไรนะ”

“บอกมาให้หมดว่าตอนทราบไม่อยู่เกิดอะไรขึ้น ทำไมสภาพฟ้าถึงเป็นแบบนั้น เล่ามาให้หมด”

“แล้วทำไมทรายไม่ถามน้องฟ้าเขาเองละ”

“ก็เพราะฟ้าไม่เคยบอกอะไรทรายเลยนะสิคะ แต่ต้องเป็นเพราะพี่ดินแน่ ๆ พี่นพเป็นเพื่อนพี่ดิน พี่นพต้องเล่าค่ะ”

“ก็ได้ ๆ ไอ้ดินมันยังฝังใจเรื่องที่น้องดาว มันยังคิดว่าน้องฟ้าตั้งใจที่ฆ่าน้องดาวเพื่อที่จะจับมัน ตลอดเวลามันเลยร้ายกับน้องฟ้าสารพัด ไม่ให้เงินใช้ ไม่สนใจ มั่วสาวไปทั่ว น้องฟ้าเองก็คงตรอมใจจนซูบผอมเหมือนที่เห็น แต่ก็นะ ขนาดโดนทำแบบนั้นแล้วยังดูแลเอาใจใส่หมอนั้นจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทั้งที่ทำไปเท่าไหร่ไอ้ดินก็ไม่เคยจะรับมันเลย”

“แย่ ๆ จริง ๆ ถ้ารู้ว่าพี่ดินจะเป็นคนแบบนี้ตอนนั้นทรายยุให้ฟ้าแต่งงานกับพี่นพซะยังดีกว่า”

“พ...พูดอะไรแบบนั้นละทราย น้องฟ้าเขาเป็นเมียพี่ทรายนะ”

“ใครสนละ คนที่ไม่เคยรู้อะไรเลยแต่กลับมาทำร้ายคนอื่นแบบนั้นนะ คอยดูนะทรายจะช่วยฟ้าออกจากพี่ดินให้ได้ พี่นพเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวได้เลย”

“เพ้อเจ้อนะทราย จู่ ๆ จะให้พี่มาเป็นเจ้าบ่าวของเมียเพื่อน”

“ก็พี่นพชอบฟ้ามาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ ทรายรู้นะ อย่าปากแข็งไปเลย แต่ปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่พี่ดินหรอก น่าจะอยู่ที่เพื่อนทรายต่างหาก ฟ้านะดื้อจะตาย ไปหลงรักอะไรคนพันนั้นไม่รู้”

“เรื่องนั้นไว้เราคุยกันทีหลังเถอะ เอาเป็นว่าถ้าน้องทรายมีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกละกัน แล้วนี่จะไปทำงานที่โรงพยาบาลเมื่อไหร่ เฮ้อพี่คงต้องสละแล้วสินะ ทรายกลับมาแล้วนิเสียดายจัง”

“ใครบอกละ ถึงทรายจะเข้าทำงานที่โรงพยาบาลแต่ตำแหน่งนั้นนะให้คนที่ประสบการณ์มากกว่าอย่างพี่นพทำดีแล้ว ทรายยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ฝากพี่นพแนะนำด้วยนะคะ”

“จ้า จ้า ไว้เราค่อยไปคุยกันที่โรงพยาบาลละกัน ตอนนี้เข้าบ้านเถอะทุกคนน่าจะคอยแล้ว” กลิ่นทรายพยักหน้าเห็นด้วยก่อนพากันเดินเข้าบ้านไป

“จริงสิ! ทรายช่วยเตือนดินเรื่องที่จะเปลี่ยนชื่อบริษัทหน่อยนะ” มานพพูดขึ้นระหว่างเดินกลับเข้าบ้าน

“หมายความว่าไง เปลี่ยนชื่อบริษัท”

“ก็ไอ้ดินมันจะเปลี่ยนชื่อบริษัทจากฟ้าประกายดาว เป็นบริษัทก่อสร้างประกายดาวนะสิ”

“ได้ไง บริษัทนั้นเป็นของนับฟ้า คุณลุงคุณป้าช่วยกันสร้างมันขึ้นมา พี่ดินจะเปลี่ยนชื่อตามใจแบบนั้นได้ไงกัน”

“ทรายคงยังไม่รู้ แต่น้องฟ้านะเขาโอนบริษัทให้เป็นของไอ้ดินแล้ว ตอนนี้หุ้นทั้งหมดของน้องฟ้ากับน้องดาวรวมถึงหุ้นที่เป็นมรดกตกทอดจากคุณลุงคุณป้าตอนนี้อยู่ในชื่อ ไอดิน สุวรรณวัฒน์เรียบร้อยแล้ว”

“หมายความว่าตอนนี้พี่ดินถือหุ้นของบริษัทฟ้าประกายดาวเก้าสิบเปอร์เซ็นต์นั้นเหรอ”

“แปดสิบเปอร์เซ็นต์ต่างหาก เพราะอีกสิบเปอร์เซ็นต์เป็นชื่อของทราย”

เขาคิดอะไรอยู่ โอนหุ้นให้ทราย แต่ไม่มีส่วนของฟ้าที่เป็นทายาทคนเดียวของบริษัทฟ้าประกายดาวเนี้ยนะ แบบนี้ฟ้าไม่โกรธทรายแย่เหรอ”

“ไม่หรอก เพราะคนที่ขอให้โอนหุ้นส่วนของทรายคือน้องฟ้านั่นแหละ”

“ทรายไม่เข้าใจ”

“พี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทรายไปถามน้องฟ้าเองดีกว่านะ นู้นไงพากันออกมาแล้ว” กลิ่นทรายมองตามที่มานพบอก

“พ่อค่ะ แม่ค่ะ จะกลับกันแล้วเหรอ” กลิ่นทรายเดินกลับไปหาพ่อแม่ที่เดินออกมาจากประตูบ้าน

“ใช่เราจะกลับกันแล้ว หนูฟ้าไว้พ่อจะให้ลุงบุญพาทรายมาเที่ยวเล่นบ่อย ๆ นะลูก”

“ค่ะคุณพ่อ” นับรับคำนภดลพลางส่งรอยยิ้มอย่างจริงใจให้เขาอย่างเคย

“ไม่ค่ะ ทรายตัดสินใจแล้วทรายจะอยู่ที่นี่กับนับฟ้า พี่นพช่วยทรายขนกระเป๋าลงหน่อยสิ”

“เดี๋ยว ๆ พูดอะไรเหลวไหลนะยายทราย บ้านเราก็มีจะมารบกวนหนูฟ้าทำไมกัน”

“ไม่เห็นเป็นไรเลยหนิแม่ ปกติก็ได้ข่าวว่าลูกชายแม่ไม่ค่อยจะเข้าบ้านอยู่แล้ว ทรายมาอยู่เพื่อนฟ้าดีกว่า จะได้ดูแลให้กลับมามีน้ำมีนวลเหมือนเดิมสักที ดูสิผอมแห้งจนจะกลายเป็นกระดูกเดินได้อยู่แล้ว”

“ยัยทราย” ธาราหยิกแขนลูกสาวเป็นการเตือนเบา ๆ แต่ดูเหมือนกลิ่นทรายจะไม่ได้สนใจ

“แทนที่จะมาดุทราย แม่ไปดุพี่ดินไม่ดีกว่าเหรอคะ ทรายพูดความจริง คอยดูสิถ้ายังไม่สนใจกันอีก ทรายจะยุให้ฟ้าหย่าเลยคอยดู”

“เหลวไหลนะยายทราย กลับบ้านเถอะ” หนูฟ้าจะได้พักผ่อน”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ทรายอยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน ฟ้ามีเรื่องจะคุยกับทรายเยอะแยะเลย อีกอย่างที่นี่ก็ใกล้กับโรงพยาบาลมากกว่าทรายจะได้ไปทำงานสะดวก ๆ แล้วถ้าทรายอยู่ที่นี่คุณแม่จะได้มาเยี่ยมพวกเราบ่อย ๆ ไงคะ” นับฟ้าพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เธอไม่มีความสุขแบบนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่นับดาวตายไปคนที่เธอสนิทด้วยจริง ๆ ก็คงมีแต่ทราย แต่พอทั้งคู่ต้องแยกกันนับฟ้าก็ไม่ค่อยมีใครให้คุยด้วยสักเท่าไหร่

“หนูฟ้า...งั้นแม่ฝากทรายด้วยนะลูก พรุ่งนี้จะให้เด็กขับรถมาให้ แล้วก็..แม่ขอโทษนะหนูฟ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ใจหนูเท่าไหร่ ยังไงซะต่อไปนี้แม่จะดูแลหนูให้มากกว่านี้นะลูก” ธาราโอบกอดลูกสาวของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กลายเป็นลูกสะใภ้ของเธอด้วยความอ่อนโยน

“ฟ้าไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะคะคุณแม่”

“เอาเถอะ ต่อไปนี้ถ้าหนูอยากได้อะไร หรือมีอะไรให้แม่ช่วยก็ยอกแม่ได้เลยนะ รวมทั้ง ถ้าหนูอยากหย่ากับตาดินแม่ก็ไม่ว่า แน่นอนว่าแม่จะต้องเอาบริษัทมาคืนหนูด้วย”

“ค...ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” นับฟ้าโผเข้ากอดธาราอีกครั้ง

“เอาละ กลับกันได้แล้วคุณ พ่อกลับก่อนนะ ก็เหมือนที่แม่เขาบอก อย่าลืมละมีอะไรก็บอกกัน หนูยังมีพ่อกับแม่นะ”

“ค่ะ สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”

“สวัสดีค่ะ พ่อแม่ ไว้ทรายจะกลับไปบ้านบ่อย ๆ นะคะ” กลิ่นทรายพูดพลางหอมแก้มพ่อแม่อย่างเอาใจ

“งั้นพี่กลับก่อนนะ ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับน้องฟ้า ไว้พี่จะมารบกวนใหม่นะครับ”

“ค...ค่ะ ขับรถดี ๆ นะคะ” ทั้งสองยืนส่งทุกคนขับรถกลับออกไปจนลับสายตาก่อนเดินกลับเข้าบ้านไป

คู่ขา

“คุณดินค่ะ คุณปอยมาหาจะให้ดิฉันเชิญเข้ามาเลยไหมคะ” สมรเลขาของไอดินเข้ามารายงาน

“ให้เข้ามาเลย” ไอดินอนุญาตให้คู่ขาสาวเข้ามาในห้องอยากเคย

“ดินขา ปอยคิดถึงคุณจัง ช่วงนี้ไม่เห็นมาหาปอยบ้างเลย” ปอย ชฎา นางแบบสาวเข้ามากอดเขาทันทีที่เข้ามาในห้อง

“ผมทำงานอยู่ คุณมีอะไรก็รีบว่ามา”

“ก็ปอยคิดถึงคุณนี้ค่ะ ช่วงนี้ไปติดใจใครเข้าหรือเปล่าคะ ไม่มาหาปอยเลย”

“ผมเคยบอกคุณไปแล้วนี่ ว่าถ้าไม่ธุระอะไรสำคัญอย่ามาหาผมที่นี่อีก ผมจะเป็นฝ่ายติดต่อคุณไปเอง”

“ทำไมละคะ หรือกลัวเมียคุณจะรู้เรื่องของเราเข้า แต่ปกติคุณไม่เห็นจะสนใจเลยนี้คะ ขนาดต่อหน้าเธอเรายังมีอะไรกันมาแล้วเลย หรือตอนนี้เริ่มจะแคร์เธอขึ้นมาแล้ว”

“หึ ไม่มีทาง คนพันนั้นจะเป็นยังไงผมไม่สนหรอก”

“งั้นคุณก็หย่ากับเธอซะสิคะ จะเก็บไว้เป็นอุปสรรคของเราสองคนทำไมกัน”

“ไม่มีทาง ผมไม่ปล่อยให้แม่นั้นมีความสุขง่ายหรอก ไม่มีทาง และดูเหมือนคุณจะเข้าใจบางอย่างผิดไป เพราะผมนะไม่ได้คิดจะจริงจังกับคุณเหมือนกัน คุณเองก็น่าจะรู้นี้ว่าเรื่องของเรามันก็แค่สนุกกันชั่วครั้งชั่วคราว นอกจากคุณแล้วผมยังมีคนอื่นอีกเยอะเลย” พูดจบปากหนาก็ประทับริมฝีปากของหญิงสาวอย่างหยอกล้อ

“ยังเย็นชาเหมือนเดิมเลยนะคะ ดิน แต่เพราะคุณเป็นแบบนี้แหละ ปอยถึงชอบ” หญิงสาวคว้าเนกไทของเขาเพื่อดึงเขาเข้ามาประกบปากอีกครั้ง

“งั้น...คืนนี้เราไปดื่มกันหน่อยดีไหม เราไม่ได้ไปดื่มด้วยกันนานแล้วนี่”

“ก็ดีนะคะ แค่ดื่มอย่างเดียวเหรอคะ เสียดายจัง” ปอยพูดเชิญชวนเขาอย่างยั่วยวน

“ถ้าอย่างนั้นดื่มเสร็จ เราค่อยไปกินกันต่อที่บ้านผมดีไหม”

“โอเคค่ะ เราไปกันเลยไหม ปอยยังไม่ได้ทานข้าวเลยเราไปหาอะไรกินกันก่อนดีไหม”

“คุณรอผมแปบนะ ผมขอเคลียร์งานตรงนี้ก่อน จริงสิคุณไปรอผมที่ร้านก่อนดีกว่า ผมมีธุระต้องแวะไปทำนิดหน่อยเดี๋ยวผมตามไป”

“ค่ะ แล้วเจอกันที่ร้านของเรานะคะ” ปากร้อนของหญิงสาวฝากรอยลิปสติกไว้บนแก้มของไอดินก่อนเดินออกจากห้องไป

สองหนุ่มสาวกำลังพลอดรักกันอยู่บนโซฟาภายในบ้านหลังโตที่มืดสนิท โดยไม่กลัวว่าใครจะผ่านมาเห็นบทรักที่กำลังจะเริ่มของทั้งคู่

“ดินค่ะ ปอยว่าตรงนี้มันไม่ดีมั้งคะ เดี๋ยวเกิดเมียคุณเข้า....”

“ใครสนละ” ไอดินตอบอย่างไม่สนใจ ดำเนินบทรักต่อไป

“เราไปต่อกันบนห้องคุณกันดีกว่านะคะ”

“ไม่ ถ้าคุณไม่สะดวกผมจะให้คนขับรถไปส่งคุณเดี๋ยวนี้” คนขี้รำคาญลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า แต่ปอยก็ไม่ยอมแพ้เข้าไปสวมกอดเขาทางด้านหลังพลางพูดจาออดอ้อนเขา

“สะดวกสิคะ ปอยแค่ไม่เข้าใจว่าถ้าคุณไม่อยากให้ปอยขึ้นไปบนห้องทำไมเราไม่แวะที่โรงแรมกันก็ได้”

“มันไม่ปลอดภัย ยังไงบ้านผมก็ปลอดภัยที่สุด และผมก็ไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวายในห้องผมด้วย ถ้าคุณไม่ชอบ คราวหลังเราก็ไม่ต้องมาเจอกันอีกก็ได้” ไอดินแกะมือของปอยออก แต่เธอกลับไม่ยอมเอามือออกจากตัวเขา เลือกที่จะลูบไล้อกแกร่งจนความเป็นชายภายในกายไอดินลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

“ทำไมจะไม่ชอบละคะ ที่ไหนมีคุณปอยก็สะดวกทั้งนั้นแหละค่ะ”

ปอยโน้มคอของชายหนุ่มเข้ามาก่อนประกบริมฝีปากของเธอลงไปซึ่งเขาก็ตอบสนองมันอย่างช่ำชอง ไฟสวาทในตัวทั้งคู่ลุกโชนจนร้อนรุ่มอยู่ภายในจิตใจ ไม่นานนักเสื้อผ้าของทั้งสองก็หลุดออกจากร่างกาย

วิ๊ง แสงไฟจากหลอดนีออนส่องมาที่ร่างเปลือยเปล่าของคนทั้งคู่ ทั้งสองรีบลุกขึ้นควานหาเสื้อผ้ามาปิดบังกาย

“เธอจะไปไฟทำไมกันหะ ก..กลิ่นทรายแกมาอยู่นี่ได้ไง” ไอดินกำลังจะหัดไปเอ็ดคนที่เปิดไฟ แต่คนที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นน้องสาวคนเดียวของเขา ทำเอาคนเก่งอย่างเขาถึงกับไปต่อไปถูก มือคว้านหาหมอนบนโซฟามาปิดบังร่างกายเพิ่ม

“ทำไมทรายจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ นี่เป็นบ้านของพี่ชายและเพื่อนสนิทของทราย แม่นั้นต่างหากมาอยู่ที่นี่ทำแถมดูสภาพสิน่าเกลียด ไม่รู้หรือไงยะ ว่าเขามีเมียแล้ว”

“โอ๋ ๆ ไม่เอาสิคะน้องทราย ไม่พูดจาหยาบคายแบบนั้น พูดแบบนี้กับว่าที่พี่สะใภ้ไม่ดีเลยนะ น้องทรายไปอยู่เมืองนอกนานคงยังไม่รู้ว่าพี่กับดิน เรามีอะไรกันมากกว่าที่น้องทรายคิด แต่ก็โทษพี่ไม่ได้นะคะ เพื่อนน้องทรายไม่มีน้ำยาเอง” ปอยเข้ามากอดแขนไอดินพลางพูดยั่วยุกลิ่นทราย แต่แทนที่กลิ่นทรายจะโวยวายกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแทน

“ทรายไม่รู้ และคิดว่าคนอื่นก็คงจะยังไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวทรายจะให้เพื่อนที่เป็นนักข่าวช่วยกระจายข่าวให้นะคะ ทุกคนจะได้รู้ว่าคุณปอย นางแบบสาวแก้ผ้าโทงเทงอยู่กับสามีคนอื่นในบ้านของเขา ทุกคนจะได้รู้ว่าสองคนมีอะไรกันมากกว่าที่คิด ดีไม่คะ คุณปอย” กลิ่นทรายย้ำชื่อของหญิงสาวก่อนเดินออกไป แต่โดนไอดินเรียกไว้ซะก่อน

“ทราย หยุด เดี๋ยวนี้นะ” กลิ่นทรายหันกลับมาหาพี่ชาย ก่อนชายตามองไปยังปอยที่ยืนร้อนรนอยู่ข้าง ๆ

“ทำไมคะ หรือพี่ดินไม่ชอบรูปเมื่อกี้ มาค่ะ ทรายถ่ายให้ใหม่” กลิ่นทรายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายอีกสองสามรูปโดยที่ทั้งสองยังไม่ทันตั้งตัว

“พี่บอกให้หยุดไงทราย ลบรูปพวกนั้นเดี๋ยวนี้”

“ทำไมทรายต้องลบ โทรศัพท์ของทราย ๆ จะทำอะไรก็ได้”

“แต่แกจะเอารูปของพี่ไปให้ใครต่อใครดูไม่ได้ ไม่นึกถึงหน้าพี่ก็ช่วยนึกถึงบริษัทพี่หน่อยเถอะ แกเองก็มีหุ้นอยู่ในบริษัทเหมือนกันนะ”

“ใครสน ตอนพี่ทำไม่เห็นจะคิด ที่แบบนี้มาอาย ถามจริงพี่ไม่คิดถึงนับฟ้าบ้างเหรอว่าเขาจะรู้สึกยังไงที่พี่พาผู้หญิงมามั่วถึงในบ้านแบบนี้”

“แล้วทำไมพี่ต้องคิดถึงคนแบบนั้นด้วย แกเป็นน้องฉันแกควรจะเข้าใจฉันสิ”

“ไม่เข้าใจ พี่ดินจะทำอะไรก็เรื่องของพี่ดินเถอะ แต่ต่อไปนี้ถ้าพี่ดินถามให้เพื่อนทรายเสียใจอีก ทรายไม่ไว้หน้าพี่ดินแน่ ส่วนเธอถ้าไม่อยากให้รูปพวกนี้ว่อนเน็ตละก็ เลิกยุ่งกับพี่ชายฉันซะ แต่ถ้าไม่อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” กลิ่นทรายพูดก่อนเดินกลับห้องไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของพี่ชายที่ดังลั่นไปทั่วบ้าน

“ฟ้าจ้า ทำอะไรอยู่หอมจัง”

“ทำข้าวกล่องให้พี่ดินอยู่นะ นี้มีของทรายด้วยนะ” นับฟ้าชูกล่องข้าวสีชมพูให้เพื่อนสนิทดู

“ไหนดูสิ โห! น่ากินจังเลย” กลิ่นทรายเปิดข้าวกล่องที่เพื่อนเตรียมให้ออกดู

“น่ากินก็รีบไปอาบน้ำจะได้มากินข้าวเช้าก่อนไปทำงาน ฉันทำโจ๊กทะเลแบบที่เธอชอบไว้ให้”

“จ้า ๆ แล้วนั้นเธอทำแซนด์วิชทำไมอีก”

“พี่ดินไม่ชอบกินโจ๊กนะ ฉันเลยทำแซนด์วิชไว้ให้เขา”

“โอ้ยยย เพื่อนฉันเขาร้ายกับเธอขนาดนั้นเธอยังจะเอาใจของอีกเหรอ ฉันละอยากจะมะเหงกเธอจริง ๆ ที่ตัวเองละไม่รู้จักดูแล จริงสิ! เดี๋ยวฉันรีบไปอาบน้ำดีกว่าจะมาตรวจดูอาการให้เธอด้วย ตอนนี้ฉันเป็นหมอเต็มตัวแล้วนะ ฉันจะรักษาเธอเอง เหมือนที่เคยสัญญาไง”

“ทราย อย่าเสียงดังไปสิ เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยหรอก”

“ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมเธอต้องเก็บมันไว้คนเดียว แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยเธอก็เลือกที่จะบอกฉัน ไปอาบน้ำละ ตักโจ๊กไว้ให้ด้วยนะหิวมาก ขอกุ้งเยอะ ๆ ละ” ทรายพูดก่อนวิ่งกลับขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!