SYAMACIA ศึกพิภพมนตรา
สนธิสัญญาพันปี
เทพ ปีศาจ และมนุษย์ อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมานับพันปี
ที่เป็นแบบนี้ได้ เพราะการเสียสละของมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์
เทพกับปีศาจทำสงครามกัน เพราะต้องการเป็นผู้ปกครองโลกแห่งไซแอมมาเซีย
แต่มนุษย์ผู้ไม่เข้าร่วมกับฝ่ายใดกลับถูกโจมตีจากทั้งฝั่งเทพและปีศาจ
นักเวทย์ของมนุษย์ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
จนในที่สุดมีบุรุษผู้หนึ่งรวบรวมนักเวทย์ที่เหลือ ตั้งเป็น"กลุ่มภราดรนิลกาญจน์"
มนุษย์จึงกลายเป็นอีกหนึ่งกองทัพที่เข้าร่วมการต่อสู้ในสงครามครั้งนี้ โดยมีผู้นำคือ "จักรพรรดิเวทย์มนต์"
ข้อมูลตัวละคร
ชื่อ : ซาลาดิน โฮอินไฮนซ์
ตำแหน่ง : จักรพรรดิเวทย์มนต์
อายุ : 35 ปี
ระดับพลัง : S
ธาตุเวทย์ : ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ
อาวุธ : ตรีศูลผ่าจักรวาล
ความสามารถพิเศษ : ลบล้างผลของเวทมนตร์
สงครามระหว่างสามเผ่าพันธุ์ดำเนินมาถึงจุดสิ้นแห่งสงคราม
สามผู้นำได้มาเผชิญหน้ากัน
ซาลาดิน
"ท่านทั้งสองได้โปรดพอแค่นี้เถอะ"
ข้อมูลตัวละคร
ชื่อ : ลูซิเฟอร์ มอนิ่งสตาร์
ตำแหน่ง : จักรพรรดิปีศาจ
อายุ : 3,000 ปี
ระดับพลัง : S
ธาตุเวทย์ : มืด
อาวุธ : ดาบอัสเรียล
ความสามารถพิเศษ : สร้างความมืดมิดกลืนกินจิตใจ
ลูซิเฟอร์
"เจ้ามนุษย์ จงมาเข้าร่วมกับกองทัพปีศาจของข้าเถิด แล้วข้าจะให้เจ้าเป็นผู้ปกครองแดนมนุษย์"
ข้อมูลตัวละคร
ชื่อ : มิคาเอล อาคชานเจลส์
ตำแหน่ง : จักรพรรดิเทพ
อายุ : 3,000 ปี
ระดับพลัง : S
ธาตุเวทย์ : แสง
อาวุธ : ดาบทัณฑ์สวรรค์
ความสามารถพิเศษ : ใช้แสงพิพากษาผู้มีจิตมาร
มิคาเอล
"มนุษย์เอ๋ย เจ้าจะเชื่อคำล่อลวงของปีศาจแบบนี้เหรอ หากเจ้าช่วยข้าปราบปีศาจ ข้าจะให้เจ้าเป็นอัครสาวกของข้า"
ซาลาดิน
"โลกใบนี้วุ่นวายมากพอแล้ว พวกท่านหยุดแค่นี้เถอะ"
ลูซิเฟอร์
"ในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็จงถูกความมืดมิดกลืนกินไปซะ"
ลูซิเฟอร์
"ᚦ︍ᛖ᛫ᚹᛟᚱᛚᛞ᛫ᚹᛁᛚᛚ᛫ᛒᛖ᛫ᛞᚨᚱᚲ"
จักรพรรดิปีศาจร่ายคาถาโบราณพร้อมใช้ดาบอัสเรียลฟันไปในอากาศ
พลันท้องฟ้ากลับมืดมิด มองไม่เห็นแม้กระทั่งลายมือตัวเอง อากาศเริ่มเหน็บหนาวเย็นยะเยือก
กองทัพมนุษย์ และเทพ ดั่งถูกสะกดให้หยุดนิ่ง เหล่าปีศาจจึงเข้าฟาดฟันอย่างบ้าคลั่ง
มิคาเอล
"ᚦ︍ᛖ᛫ᛚᛁᚷᚺᛏ᛫ᛟᚠ᛫ᛃᚢᛞᚷᛗᛖᚾᛏ"
จักรพรรดิเทพร่ายคาถาเสร็จ ดาบทัณฑ์สวรรค์เปล่งแสงสว่างพลุ่งขึ้นท้องฟ้า
ท้องฟ้าที่เคยมืดมิดก็มีสายฟ้าฟาดไปทั่วบริเวณ
กองทัพมนุษย์และปีศาจถูกสายฟ้าฟาดฟันล้มตายจำนวนมาก
สถานการณ์เริ่มรุนแรง การสูญเสียมีมากขึ้นเรื่อยๆ
มนุษย์ถูกโจมตีจากทั้งสองทาง เป็นกองทัพที่เสียหายมากที่สุดในตอนนี้
ซาลาดินตัดสินใจใช้ไม้ตายสุดท้าย
ซาลาดินนั่งลง ทำสมาธิ มือขวากำแน่นเพื่อรวมพลังไว้
ประกายแสงสีแดงเปล่งขึ้นในกำมือ
ซาลาดิน
"สูงสุดสู่สามัญ จงปลดปล่อยพันธะแห่งมนตราทั้งปวง"
แสงสีแดงเปล่งประกายไปทั่ว สมรภูมิที่กำลังเดือดดาล กลับหยุดนิ่งดั่งมีใครรั้งเวลาไว้
สายฟ้าที่เกรี้ยวกราดกลับสงบลง
ท้องฟ้าที่มืดมิดกลับสว่างดังเดิม
เวทย์มนต์ที่ใช้ต่อสู้กันถูกลบล้าง
มิคาเอล
"เวทย์ลบล้างเวทย์"
จักรพรรดิเทพกับจักรพรรดิปีศาจอุทานขึ้นพร้อมกัน
ซาลาดิน
"จงหลับไหลซะ!!! เวทย์ผนึกวิญญาณขั้นสูง"
สิ้นเสียงซาลาดิน ร่ายกายของจักรพรรดิเทพ และจักรพรรดิปีศาจ ก็ค่อยๆสลายไป
ดาบทัณฑ์สวรรค์ และดาบอัสเรียล ค่อยๆกลายเป็นสนิม และผุพังไป
ตรีศูลผ่าจักรวาลลุกไหม้ แล้วกลายเป็นผงธุลี ลอยเคว้งหายไปบนท้องฟ้า
ภารดรนิลกาญจน์
"ท่านจักรพรรดิเวทย์มนต์!!"
ภารดรนิลกาญจน์เข้ามาประคองร่างซาลาดิน
ซาลาดิน
"เมจิกซีโร่จะทำงานเป็นเวลาหนึ่งวัน จงใช้วิชาดาบนิลกาญจน์จัดการกับสองกองทัพนั่น แล้วยุติสงครามครั้งนี้"
ซาลาดิน
"ข้าใช้วิชาผนึกวิญญาณ โดยใช้วิญญาณตัวเองบูชายัญ อีกหนึ่งพันปีผนึกจะคลายมนต์ออก จงสร้างกองกำลังมนุษย์ให้เข้มแข็ง"
ภารดรนิลกาญจน์
"ภารดรนิลกาญจน์น้อมรับคำสั่งจักรพรรดิเวทย์มนต์"
ร่างของซาลาดินสลายหายไปในอากาศ
หนึ่งวันที่เวทย์มนต์ใช้ไม่ได้ กลุ่มภารดรนิลกาญจน์ใช้วิชาดาบที่ชำนาญสร้างความได้เปรียบให้กับกองทัพมนุษย์
กองทัพเทพ และกองทัพปีศาจ พ่ายแพ้ในสงครามนี้ และลงสนธิสัญญาสงบศึกหนึ่งพันปี
อาจารย์ฮาเดส
ณ กระท่อมแห่งหนึ่งกลางป่าลึก
อาจารย์ฮาเดส
"ทั้งหมดนี่ก็คือที่มาของความสงบสุขในปัจจุบัน เจ้าเข้าใจไหม?"
ข้อมูลตัวละคร
ชื่อ : ฮาเดส เอสเซปาล
อายุ : 70 ปี
ระดับพลัง : S
ธาตุเวทย์ : ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ
อาวุธ : ดาบล่าวิญญาณ
ความสามารถพิเศษ : รอบรู้ทุกแขนงเวมนต์
มอร์โอดอร์
"ท่านอาจารย์ ท่านเล่าให้ข้าฟังเป็นร้อยรอบแล้ว ข้าต้องรู้สิ"
ข้อมูลตัวละคร
ชื่อ : มอร์โอดอร์ โฮอินไฮนซ์
อายุ : 18 ปี
ระดับพลัง : D
อาวุธ : ดาบสนิม
ความสามารถพิเศษ : ลบล้างผลของเวทมนตร์
มอร์โอดอร์
"แต่นิทานของท่านมีช่องโหว่อยู่นะ จักรพรรดิเวทย์มนต์ ทำไมถึงใช้เวทย์ผนึกวิญญาณได้ทั้งที่ เมจิกซีโร่ยัง ทำงานอยู่"
อาจารย์ฮาเดส
"เพราะเมจิกซีโร่คือเวทย์ทางสายเลือด จึงไม่มีผลต่อตัวผู้ใช้"
มอร์โอดอร์
"ถ้าอย่างนั้น เวทย์เมจิกซีโร่ก็สืบทอดมาในลูกหลานของจักรพรรดิเวทย์มนต์ทุกคนน่ะสิ"
อาจารย์ฮาเดส
"ไม่ใช่แบบนั้น ลูกหลานของจักรพรรดิเวทย์มนต์ไม่มีใครได้รับความสามารถนี้มานับพันปี"
มอร์โอดอร์
"แล้วที่ท่านสอนข้าหล่ะ ทำไมข้าถึงใช้เมจิกซีโร่ได้"
อาจารย์ฮาเดส
"ก็เพราะเจ้าก็คือสายเลือดจักรพรรดิเวทย์มนต์"
มอร์โอดอร์
"ท่านอาจารย์ ท่านนี่จะโม้เกินไปแล้ว วิชาดาบที่ท่านสอนก็บอกว่าเป็นวิชาดาบที่ใช้ยุติสงครามได้ถึงพันปี แล้วนี่ยังจะบอกว่าบรรพบุรุษของข้าคือบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานอีก"
อาจารย์ฮาเดส
"ทุกคนรู้จักท่านผู้นั้นในนามจักรพรรดิเวทย์มนต์ แต่ชื่อจริงของท่านคือ ซาลาดิน โฮอินไฮนซ์"
มอร์โอดอร์
"ข้าคือลูกหลานของจักรพรรดิเวทย์มนต์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ใดๆได้ นอกจากเมจิกซีโร่ ระดับพลังเวทย์ของข้าก็เป็นแค่ระดับ D เท่านั้น"
อาจารย์ฮาเดส
"ระดับเวทย์มนต์แบ่งเป็น5ระดับ"
อาจารย์ฮาเดส
"ระดับ D คือ ผู้เริ่มใช้เวทย์
ระดับ C คือ ผู้ใช้เวทย์ชั้นพื้นฐาน
ระดับ B คือ ผู้ใช้เวทย์ชั้นกลาง
ระดับ A คือ ผู้ใช้เวทย์ชั้นสูง
ระดับ S คือ ผู้ใช้เวทย์ขั้นสุดยอด"
อาจารย์ฮาเดส
"แม้ระดับเวทย์ของเจ้าจะเป็นชั้นต่ำสุด แต่เวทย์มนต์ในตำนานกลับเลือกเจ้าเป็นผู้ใช้ เจ้าควรดีใจนะ"
มอร์โอดอร์
"ท่านไม่ต้องปลอบข้าหรอก ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว ทุกวิชาที่ท่านสอน ข้าฝึกฝนอย่างเต็มที่ทุกอย่าง"
อาจารย์ฮาเดส
"เจ้าทำดีแล้ว สักวันเจ้าอาจจะได้ค้นพบวิธีที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้"
มอร์โอดอร์
"วิธีใดกัน ที่จะทำให้ข้าใช้เวทย์มนต์ได้"
อาจารย์ฮาเดส
"เจ้าต้องเดินทางไปยังกรุงอัลคาร์เรีย เมืองหลวงแห่งเวทย์มนต์ของแดนมนุษย์ ที่นั่นอาจจะมีวิธี"
มอร์โอดอร์
"กรุงอัลคาร์เรีย?"
อาจารย์ฮาเดส
"กรุงอัลคาร์เรียคือเมืองหลวงแห่งเวทย์มนต์ ที่นั่นมีสถานศึกษาเวทย์มนต์ที่มีชื่อเสียงรวมตัวกัน"
มอร์โอดอร์
"บ้านของท่านอาจารย์ก็อยู่ที่นั่นใช่ไหม"
อาจารย์ฮาเดส
"ใช่แล้วบ้านของข้าเองก็อยู่ที่นั่น ตอนนี้เป็นเวลาที่เจ้าจะต้องออกไปสู่โลกกว้างแล้ว"
มอร์โอดอร์
"ข้าไม่เคยออกจากป่าแห่งนี้ แม้แต่ผู้คนก็มีแค่อาจารย์ที่เป็นมนุษย์คนเดียวที่ข้าเคยพบเจอ"
มอร์โอดอร์
"เวทย์มนต์อะไรข้าก็ใช้ไม่ได้"
อาจารย์ฮาเดส
"เจ้าไม่ต้องกังวลไป ทุกสิ่งที่เจ้าจำเป็นต้องใช้ข้าเคยสอนไปหมดแล้ว"
อาจารย์ฮาเดส
"การใช้เวทย์มนต์มีการใช้อยู่ สามอย่าง"
อาจารย์ฮาเดส
"หนึ่งคือการร่ายคาถา เรียกว่า นักเวทย์คาถา"
อาจารย์ฮาเดส
"สองคือการใช้อักษรเวทย์ เรียกว่า นักเวทย์อักขระ"
อาจารย์ฮาเดส
"สามคือการใช้อาวุธเวทย์มนต์ เรียกว่า นักเวทย์ศาสตราวุธ"
อาจารย์ฮาเดส
"สำหรับเจ้าในตอนนี้สามารถเป็นนักเวทย์ศาสตราวุธได้"
มอร์โอดอร์
"แต่ข้าไม่มีอาวุธเวทย์มนต์นะท่านอาจารย์"
อาจารย์ฮาเดส
"เจ้ารอช้าอยู่ตรงนี้ก่อน"
อาจารย์ฮาเดสหายไปครู่หนึ่งแล้วกลับเข้ามาพร้อมกล่องไม้กล่องหนึ่ง
มอร์โอดอร์
"มันคืออะไรหรือท่านอาจารย์?"
อาจารย์ฮาเดส
"อาวุธในตำนาน"
มอร์โอดอร์
"ท่านนี่มีอะไรที่เป็นของธรรมดาปกติทั่วไปบ้างไหมนี่ อะไรๆก็บอกว่าระดับตำนานตลอดเลย"
อาจารย์ฮาเดสไม่พูดอะไร แล้วเปิดกล่องไม้ให้ดู
ข้างในกล่องปรากฏว่ามีดาบเก่าที่ผุพังขึ้นสนิมสองเล่ม
มอร์โอดอร์
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ท่านอาจารย์ท่านแกล้งข้าอีกแล้วนะ อาวุธตำนานของท่านคือเศษเหล็กขึ้นสนิมแบบนี้"
อาจารย์ฮาเดส
"ดาบสองเล่มนี้เป็นสมบัติของเจ้าแล้ว พรุ่งนี้เจ้าเริ่มออกเดินทางไปอัลคาร์เรียได้แล้ว"
มอร์โอดอร์
"ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น"
อาจารย์ฮาเดส
"ผนึกวิญญาณของจักรพรรดิเวทย์มนต์ใกล้จะคลายมนต์ออกแล้ว"
มอร์โอดอร์
"แล้วท่านอาจารย์หล่ะจะไปด้วยกันไหม"
อาจารย์ฮาเดส
"แน่นอนข้าต้องไปส่งเจ้าอยู่แล้ว เด็กโง่อย่างเจ้า ปล่อยไปคนเดียว เดี๋ยวก็ได้หลงทางกันพอดี"
มอร์โอดอร์
"ท่านอาจารย์ ข้าขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา"
อาจารย์ฮาเดสไม่พูดอะไร เพียงแค่ส่งยิ้มที่อบอุ่นกลับมา
ดาบสนิม
มอร์โอดอร์นอนไม่หลับเพราะตื่นเต้นที่จะได้ไปเจอโลกภายนอก
เขาจึงถือกล่องไม้ออกมาด้านนอก แล้วลองหยิบดาบขึ้นสนิมมาหนึ่งเล่ม แล้วออกมาฝึกวิชาดาบนิลกาญจน์
มอร์โอดอร์
"เจ้าดาบสนิมนี่ นอกจากจับถนัดมือแล้วไม่เห็นจะมีอะไรดี คมก็ไม่คม พลังเวทย์ก็แทบจะสัมผัสไม่ได้เลย"
มอร์โอดอร์ลองขวัดแขว่งดาบดูก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มอร์โอดอร์
"กระบวนท่าดาบนิลกาญจน์"
มอร์โอดอร์
"กระบวนท่าที่หนึ่ง"
มอร์โอดอร์
"ผ่าจักรวาล!!!"
มอร์ดอร์กระโดดหมุนตัวฟาดดาบไปในอากาศ เหมือนที่เคยฝึกมา
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง
ดาบสนิมที่เขาถือเปล่งพลังความมืดออก พลานุภาพของคลื่นดาบรุนแรง พลังทำลายล้างของดาบแหวกพื้นที่ป่าทึบจนโล่ง
จากดาบที่เคยเป็นสนิม กลับกลายเป็นดาบสีดำขลับ พลังเวทย์แผ่ทะลักออกมา
ไอเย็นแผ่ไปทั่วบริเวณป่า ท้องฟ้าที่เคยเต็มด้วยดวงดาวกลับมืดมิด
มีใครบางคนปรากฏตัวท่ามกลางความมืด
ลูซิเฟอร์
"เจ้ามนุษย์น้อย!!"
เสียงของมันเยือกเย็นและทรงพลัง
ลูซิเฟอร์
"ข้าขอบใจเจ้ามาก ที่ปลดปล่อยข้า"
มอร์โอดอร์
"เจ้าเป็นใครกัน?"
ลูซิเฟอร์
"ข้าคือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเหล่าปีศาจ มารร้าย และอสูร"
มอร์โอดอร์
"ยิ่งใหญ่แล้วยังไง เจ้าสู้อาจารย์ฮาเดสของข้าไม่ได้หรอก"
ลูซิเฟอร์
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า มนุษย์น้อยเอ๋ยเจ้าช่างไร้เดียงสานัก เห็นแก่ที่เจ้าปลดปล่อยข้า ข้าจะให้เจ้าตายอย่างไม่ทรมาน"
มอร์โอดอร์ยกดาบขึ้น ตั้งท่าจะสู้ต่อ
ลูซิเฟอร์
"อัสเรียล จงกลับมา"
ดาบในมือของมอร์โอดอร์ ลอยไปหาจักรพรรดิปีศาจอย่างว่าง่าย
มอร์โอดอร์จึงรีบหันไปคว้าดาบสนิมอีกเล่มเพื่อเตรียมต่อสู้
ลูซิเฟอร์
"เจ้าจะเอาดาบสนิมแบบนั้นมาต่อกรกลับข้ารึ ช่างโง่เขลานัก ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
มอร์โอดอร์
"พูดมากน่า เดี๋ยวเจ้าจะต้องก้มหัวให้ข้า"
มอร์โอดอร์ไม่รอช้าถือดาบวิ่งเข้าใส่จักรพรรดิปีศาจ
มอร์โอดอร์
"กระบวนท่าดาบนิลกาญจน์"
มอร์โอดอร์
"กระบวนท่าที่สอง"
มอร์โอดอร์พุ่งมาด้วยความรวดเร็ว กระโดดเข้าใกล้คู่สู้ในพริบตา สองมือกำดาบแน่น ฟาดฟันดาบลงเต็มแรง
ดาบกระแทกกับม่านพลังบางอย่าง อย่างรุนแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น
จากแรงปะทะ ทำให้มอร์โอดอร์กระเด็นไปไกล ดาบหลุดจากมือ
ลูซิเฟอร์
"เจ้านี่ใจสู้ดีนัก แต่น่าเสียดายวันนี้ต้องมาตาย"
มอร์โอดอร์พยายามดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง
เขาพยายามรวบสมาธิ เค้นพลังเวทย์ที่มีทั้งหมดออกมา
มอร์โอดอร์
"สูงสุดสู่สามัญ จงปลดปล่อยพันธะแห่งมนตราทั้งปวง"
มอร์โอดอร์พยามใช้เวทย์เมจิกซีโร่
ลูซิเฟอร์
"เวทย์มนต์นี้ข้าจำมันได้ เจ้าเด็กน้อย พลังเวทย์มนต์ของเจ้าไม่มีเหลือแล้ว"
ลูซิเฟอร์
"ได้เวลาตายของเจ้าแล้ว"
ลูซิเฟอร์
"จงแผดเผาทุกสรรพสิ่ง เพลิงทมิฬ!!"
ไฟสีดำเริ่มลุกโชนขึ้นที่ดาบอัสดาบ
จักรพรรดิปีศาจฟาดดาบลงมา เปลวเพลิงสีดำพุ่งเข้าหามอร์โอดอร์
แต่ก่อนที่ไฟจะถึงตัวมันกลับสลายหายไป
มอร์โอดอร์
"เมจิกซีโร่ทำงานแล้ว!!"
มอร์โอดอร์
"โทษทีนะที่เครื่องร้อนช้าไปหน่อย"
มอร์โอดอร์ลุกขึ้นมาหยิบดาบที่ตกอยู่
มอร์โอดอร์
"กระบวนท่าดาบนิลกาญจน์"
มอร์โอดอร์
"กระบวนท่าที่สาม"
ดาบนั้นพุ่งเข้าปักกลางอกของจักรพรรดิปีศาจ
ดาบสนิมในมือมอร์โอดอร์เปล่งแสงสว่างออกมา
ดาบนั้นกลายเป็นสีขาวสะอาด
ลูซิเฟอร์
"ดาบทัณฑ์สวรรค์!!!"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!