NovelToon NovelToon

ยัยคู่หมั้นตัวร้าย ของคุณชายเย็นชา

ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของสัญญาหมั้นหมาย

   15 ปีก่อน

   วันนี้เป็นวันที่สองครอบครัวตระกูลซือและตระกูลหลินนัดพบกันตามปกติเพราะอยู่เมืองเดียวกัน คุณนายซือกับอดีตซุปตาร์สาวเพื่อนสนิทอย่างหลินซือซือนั้นมักจะพาลูกๆ มารับประทานปิ้งย่างกันที่สวนภายในอาณาจักรของตระกูลซืออยู่เป็นประจำ ซือลู่ชิงนั้นคอยดูแลน้องๆ แทนมารดาที่กำลังยุ่งได้เป็นอย่างดี ด้วยวัยที่โตกว่าและความเป็นลูกผู้ชาย

“ลู่จื้อ อย่าวิ่งไปทั่วนะครับ เดี๋ยวแม่ถิงถิงเป็นห่วง” เสียงของเด็กชายวัยสิบขวบเอ่ยดังขึ้นขณะที่นั่งอยู่บนเสื่อกับอีกสองสาว ซือลู่เหลียนฝาแฝดผู้น้องอาสาลุกขึ้นไปดูแลน้องชายเอง บนเสื่อปิกนิกตอนนี้จึงมีเด็กชายวัยสิบขวบกับเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบนั่งอยู่ด้วยกัน

“น้องซูหนี่ว์ กำลังทำอะไรอยู่คะ” เสียงเด็กชายดัดเล็กและสุภาพยามคุยกับน้องสาวผมเปียผู้น่ารัก เด็กหญิงเงยหน้าหวานขึ้นมองพี่ชายก่อนที่จะยื่นกระดาษที่เธอเพิ่งจะวาดรูปเสร็จให้เขาดู

คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยขณะที่เพ่งมองไปยังรูปที่ดูไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เขาจึงตัดสินใจเอ่ยถามผู้เป็นคนวาดแทน

“น้องน้อยวาดรูปอะไรคะเนี่ย” เด็กหญิงฉีกยิ้มให้กับพี่ชายสุดหล่อก่อนที่จะอธิบายรูปภาพของคนสองคนที่ยืนจับมือกัน

“นี่พี่ลู่ชิง ส่วนคนนี้ซูหนี่ว์เองค่ะ” เด็กน้อยตอบพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ซือลู่ชิง

“หืม.. นี่พี่หรอกหรอ แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดล่ะคะ”

ซือลู่ชิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย ก็ในรูปมันมีเพียงรูปเขาและรูปของสาวน้อยแล้ว น้องสาวฝาแฝดและน้องชายจอมซนของเขาไปไหนซะล่ะ

“ไม่มีค่ะ เพราะรูปนี้เป็นรูปที่พี่เป็นเจ้าบ่าว และซูหนี่ว์เป็นเจ้าสาว” คำตอบของเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบทำเอาเด็กชายวัยสิบขวบอ้าปากค้าง

“พี่เป็นเจ้าบ่าว น้องซูหนี่ว์เป็นเจ้าสาวอย่างนั้นเหรอคะ”

ซือลู่ชิงเอ่ยถามออกมาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าเขาฟังไม่ผิด ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งสิบขวบแต่เขานั้นมีอีคิวและไอคิวดีเลิศ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของผู้ใหญ่ทำไมเขาจะไม่รู้ เพียงแต่เขาสงสัยว่าน้องน้อยตรงหน้านี้รู้ความหมายของมันหรือเปล่า

“ใช่ค่ะ ซูหนี่ว์อยากเป็นเจ้าสาวของพี่ลู่ชิง ถ้าไม่ใช่พี่ลู่ชิง ซูหนี่ว์ก็ไม่ยืนกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้” น้ำเสียงจริงจังทำเอาเด็กชายแทบสะอึก

‘นี่น้องน้อยของเขาไม่ได้พูดเล่น หากแต่กำลังคิดแบบที่วาดจริงๆ หรอกหรือ’

“แล้วเรารู้หรือเปล่าว่าคนที่เขาจะแต่งงานกันได้เขาต้องรักกันมาก่อน”

เด็กชายค่อยๆ อธิบายให้น้องสาวตัวน้อยฟัง เด็กหญิงพยักหน้าราวกับรู้เรื่อง ซือลู่ชิงตกใจอ้าปากค้างไปอีกรอบก่อนที่จะหันไปมองมารดากับน้าซือซือที่กำลังทำปิ้งย่างกันอยู่ไม่ไกลออกไปเท่าไหร่ อีกด้านซือลู่เหลียนกับซือลู่จื้อก็กำลังวิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนาน

“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอถามน้องน้อยหน่อยนะคะ ความรักที่น้องน้อยเข้าใจมันคืออะไรหรอ”

เด็กชายลองถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าน้องน้อยของเขาเข้าใจเรื่องแบบนี้ผิดไป ถึงแม้ในใจของเขาจะรู้สึกคันยุบยิบแต่ด้วยวัยที่ยังไม่โตมากพอก็ทำให้เขารู้จัก

“ก็หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดด้วย รู้สึกมีความสุขแค่มองเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่าย เวลาไม่เห็นหน้าก็คิดถึง”

เด็กหญิงตัวน้อยวัยเจ็ดขวบพยายามที่จะไล่เรียงความคิดและความรู้สึกที่เกี่ยวกับความรักออกมาให้พี่ชายสุดหล่อที่เธอนั้นคิดว่าเธอนั้นรักเขาให้ฟัง ซือลู่ชิงฟังไปใจเต้นไป เธอยังเด็ก แต่ทำไมเธอถึงได้รู้เรื่องพวกนี้ดีนัก

“แก่แดด”

เด็กชายเอ่ยออกมาเสียงเบาโดยที่เด็กสาวไม่ได้ยิน

“พี่ลู่ชิงคะ ถ้าพี่โตและซูหนี่ว์โตแล้ว เรามายืนข้างกันแบบนี้นะคะ”

เด็กหญิงเอ่ยออกมาพร้อมทั้งกะพริบตาปริบๆ เขาได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กับเธอ ตอนนี้เธอยังเด็กอาจจะเข้าใจเรื่องความรักแบบผิดๆ เธออาจจะรักเขาแบบพี่ชายก็ได้

“ได้สิ โตมาแล้วห้ามเปลี่ยนใจไปจากพี่ก็แล้วกัน”

ซือลู่ชิงตัดสินใจเอ่ยออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้น้องน้อย ราวกับว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องจริงจังอะไร หากแต่มารดาของทั้งคู่กลับมาได้ยินเข้าพอดี เด็กหญิงเลยบอกมารดาของเธอทันที

“แม่ซือซือคะ พี่ลู่ชิงจะแต่งงานกับซูหนี่ว์ค่ะ” คุณแม่ทั้งสองหันไปมองหน้ากันก่อนที่จะยิ้มแหยๆ ออกมา

“จริงหรือครับน้องลู่ชิง ไม่ได้โกหกน้องน้อยใช่ไหม” ซือซือเอ่ยถามบุตรชายของเพื่อนรัก

“จริงครับ ถ้าน้องไม่เปลี่ยนไปใจไปจากผมเสียก่อน ผมก็ไม่ขัดข้องอะไร”

ซือลู่ชิงตอบออกมาตามที่ใจคิด ก็แค่เรื่องของเด็กๆ พวกผู้ใหญ่คงจะไม่ได้คิดจริงจังอะไร และเมื่อแม่น้องน้อยเติบโตเป็นสาว เธอก็ต้องมองหาผู้ชายคนใหม่เข้ามาในชีวิตอยู่ดี หากแต่ซือลู่ชิงนั้นคิดผิด ซูหนี่ว์นั้นดีใจจนร้องไชโยออกมา ทั้งซือซือและถิงถิงได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างหนักใจ

ตกเย็นทั้งสองครอบครัวก็มานั่งล้อมวงรับประทานปิ้งย่างกันที่สวน ซือลู่เหลียนและซือลู่จื้อที่วิ่งเล่นกันจนเหนื่อยก็พากันหิวโหยจนถิงถิงอดที่จะเอ็นดูลูกๆ ไม่ได้ เธอจัดแจงตักเนื้อย่างใส่จานให้ซือลู่จื้อที่มีอายุเพียงแค่ห้าขวบ ส่วนสองแฝดนั้นดูแลตนเองได้แล้ว เธอจึงไม่ต้องเหนื่อยอะไรมาก

พอรับประทานปิ้งย่างกันจนอิ่ม ซือซือก็เอ่ยแซวซือมู่อันเรื่องที่ซือลู่ชิงยินยอมที่จะแต่งงานกับซูหนี่ว์เมื่อเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ บิดาทั้งสองฝ่ายถึงกับหันมามองหน้ากันอย่างตกใจ เด็กวัยเพียงสิบขวบกับเจ็ดขวบถึงขั้นพูดคุยเรื่องแต่งงานกันแล้วหรือนี่

“ซูหนี่ว์ หนูอยากเป็นเจ้าสาวของพี่ลู่ชิงจริงๆ หรอลูก” ซือมู่อันเอ่ยถามบุตรสาวของเพื่อนสนิทถิงถิง

“ใช่ค่ะคุณลุง ซูหนี่ว์รักพี่ชาย และมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของพี่ชาย เวลาที่ซูหนี่ว์ไม่เห็นหน้าพี่ชาย ซูหนี่ว์ก็รู้สึกคิดถึง ซูหนี่ว์อยากเป็นเจ้าสาวของพี่ลู่ชิงค่ะ”

คำตอบของเด็กหญิงทำเอาคนเป็นบิดามารดาถึงกับอ้าปากค้าง ซือซือนึกถึงละครที่เธอเคยแสดงขึ้นมาทันที หรือว่าซูหนี่ว์บุตรสาวของเธอจะเลียนแบบมาจากละคร ที่พระนางหมั้นหมายกันไว้ต้งแต่เด็ก พอโตมาจึงตกลงปลงใจแต่งงานกัน ซุปตาร์สาวส่งยิ้มแหยๆ ให้กับสามี เขาก็น่าจะพอดูออกเหมือนกันว่าบุตรสาวได้ความคิดแบบนี้มาจากที่ใด

“แล้วลู่ชิง อยากจะแต่งงานกับน้องน้อยไหมล่ะลูก” ซือมู่อันเอ่ยถามความเห็นของบุตรชายบ้าง

“ผมบอกแม่ไปแล้วครับ ว่าถ้าโตมาแล้วน้องไม่เปลี่ยนใจไปจากผม ผมก็ยินดีที่จะแต่งงานกับเธอ”

คำตอบที่ไม่ปฏิเสธของเด็กชายวัยสิบขวบทำเอาผู้ใหญ่ทุกคนในวงถึงกับตกใจ แต่ในเมื่อซือลู่ชิงไม่ปฏิเสธ ผู้เป็นบิดาอย่างซือมู่อันจึงได้ตัดสินใจเอ่ยปากออกมา

“เอาแบบนี้ ลุงขอจองน้องซูหนี่ว์ให้เป็นคู่หมั้นของพี่ลู่ชิงไว้ก่อนดีไหมลูก พอหนูกับพี่ชายโตมาแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกทีว่าหนูยังอยากจะแต่งงานกับพี่เขาอยู่ไหม”

ซือมู่อันเสนอขึ้น ถ้าเด็กทั้งสองจะลงเอยกันจริงๆ เขาก็ไม่ขัดข้อง เขาไม่เคยต้องการสะใภ้หรือบุตรเขยที่มาช่วยเรื่องธุรกิจ และเขาไม่เคยมองคนที่ฐานะ ขอแค่ลูกๆ รักใครชอบใคร คนเป็นพ่ออย่างเขาก็ต้องรักด้วยอย่างแน่นอน

“ดีค่ะ ต่อไปนี้ซูหนี่ว์เป็นคู่หมั้นของพี่ลู่ชิงแล้วใช่ไหมคะ”

เด็กหญิงเอ่ยออกมาอย่างดีใจ ทั้งบิดามารดาของเธอต่างพากันปวดศีรษะให้กับความคิดที่เกินเด็กของบุตรสาวเพียงคนเดียว แต่นี่อาจจะเป็นเพราะซูหนี่ว์ยังเด็กก็เป็นได้ รอดูถ้าเธอเติบโตขึ้นมาความคิดที่จะแต่งงานกับซือลู่ชิงอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ ซูหนี่ว์มองไปที่ใบหน้าที่ส่อเค้าความหล่อของพี่ชายแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ ส่วนซือลู่ชิงก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับบิดามารดาพรางคิดอยู่ภายในใจว่านี่เขาตัดสินใจทำเรื่องบ้าอะไรลงไป

“คู่หมั้นคืออะไรหรอครับ”

ซือลู่จื้อในวัยห้าขวบเอ่ยถามขึ้นมาทันทีด้วยความอยากรู้

“ก็หมายถึงคนที่พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ไปแล้วจะต้องได้แต่งงานกันยังไงล่ะคะ”

ผู้เป็นพี่สาวคนกลางตอบแทนผู้ใหญ่ทั้งสี่ก่อนที่จะฉีกยิ้มออกมา เธอพอใจถ้าน้องซูหนี่ว์จะมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอในอนาคต เพราะเธอดูๆ แล้วพี่ชายฝาแฝดของเธอก็น่าจะพอใจในตัวน้องน้อยอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ยอมเล่นเกมผู้ใหญ่แบบนี้แน่ๆ

ผู้ใหญ่ทั้งสี่นั่งพูดคุยกันต่อที่ภายในสวน ซือมู่อันนั้นนั่งดื่มและพูดคุยกับหลินเจียอีเรื่องอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เพราะอีกฝ่ายเป็นวิศวกรมือหนึ่งของเมืองแอล ส่วนภรรยาของทั้งสองก็นั่งพูดคุยถึงเรื่องราววัยสาว สมัยที่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เสียงหัวเราะจากสองสาวดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ซือลู่จื้อเริ่มที่จะง่วงนอน พี่สาวแสนดีอย่างซือลู่เหลียนจึงอาสาพาน้องชายไปอาบน้ำและส่งเข้านอน เธอทำหน้าที่แทนมารดาได้เป็นอย่างดี และดูน้องชายตัวน้อยจะเปลี่ยนจากที่ติดมารดามาเป็นพี่สาวคนสวยแทน

ซือลู่ชิงที่นั่งมองเด็กหญิงตัวน้อยที่กลายมาเป็นว่าที่คู่หมั้นในวัยเด็กของเขาวาดรูปในไอแพดอยู่สักพักก็เริ่มรู้สึกง่วงนอนเช่นกัน พอผู้ใหญ่เห็นว่าเด็กๆ เริ่มที่จะไม่ไหวกันแล้วจึงตกลงแยกย้ายกันโดยที่ไม่ลืมสัญญาที่ให้กันไว้ว่า ถ้าหากซูหนี่ว์และซือลู่ชิงโตขึ้นแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่เปลี่ยนใจไปมีคนอื่น เด็กทั้งคู่ก็จะยังเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันอยู่ และในเมื่อไม่มีใครคัดค้านสัญญาเรื่องนี้จึงเป็นสัญญาที่สมบูรณ์โดยรับรู้กันทั้งสองครอบครัว

ตอนที่ 2 จุดเปลี่ยนของหลินซูหนี่ว์

หลังจากวันนั้นซือลู่ชิงก็ทำหน้าที่ของคู่หมั้นวัยเด็กได้เป็นอย่างดี เขาช่วยสอดส่องดูแลหลินซูหนี่ว์ตอนที่เธออยู่โรงเรียน เป็นที่พึ่งพาให้กับเธอไม่ว่าเด็กหญิงต้องเจอกับสิ่งใด เขามักจะแก้ปัญหาให้เธอเสมอ พอเพื่อนๆ เอ่ยปากถามว่าน้องเขาสำคัญยังไง ซือลู่ชิงก็บอกว่าเขาดูแลเธอในฐานะพี่ชายเพราะน้าซือซือฝากฝังมา เพื่อนๆจึงไม่เซ้าซี้เขาอีก แต่ทุกครั้งที่หลินซูหนี่ว์โดนรังแกเธอก็มักจะได้รับความช่วยเหลือจากซือลู่ชิงเสมอ และนั่นยิ่งทำให้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขามันเพิ่มมากขึ้นไปทุกวัน ผิดกับเพื่อนๆของเด็กชายที่สงสัยในตัวของคุณชายเย็นชาขึ้นไปทุกวัน

“นายทำไมเป็นคนแบบนี้วะ”

เสียงของลี่หมิงเพื่อนในกลุ่มเอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจการกระทำของเพื่อน ไม่มีใครรู้เรื่องที่ซือลู่ชิงกลายเป็นคู่หมั้นของหลินซูหนี่ว์ตามสัญญาที่ผู้ใหญ่ตกลงกันนอกจากต้าเฟยและซือลู่เหลียนน้องสาวฝาแฝดของเขา

“ก็บอกแล้วไงว่าแม่ของน้องซูหนี่ว์ฝากมา” เสียงเย็นชาของเด็กวัยสิบสามปีเอ่ยออกมาอย่างรำคาญ

“แล้วทำไมต้องทำเสียงรำคาญด้วยอะ” หวังเหว่ยเอ่ยถามขึ้น เวลานี้ไม่มีใครไม่สงสัยในสิ่งที่คุณชายใหญ่ผู้แสนเย็นชากระทำต่อสาวน้อยผมเปียคนนั้น

“เห้ย!! พวกนายอย่าถามให้มาก”

บอดี้การ์ดวัยสิบสามปีทำหน้าที่ตัดความรำคาญใจให้คุณชายซือลู่ชิงทันที เขาและคุณชายซือลู่ชิงเติบโตมาด้วยกันก็ว่าได้และนายท่านซือมู่อันก็ส่งเสียเขาให้เรียนไปพร้อมๆ กับคุณชายใหญ่ ทั้งคู่ได้เรียนวิชาหลากหลายแขนงเกินวัยและได้เรียนวิชาศิลปะป้องกันตัว ทำให้ทั้งคู่นั้นเก่งไปเกือบซะทุกอย่าง แม้แต่ซือลู่เหลียนเองก็ยังได้ร่ำเรียนเช่นเดียวกัน เพราะซือมู่อันเห็นว่าตระกูลซือถึงแม้จะประกอบอาชีพสุจริตแต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีวันไหนที่จะโดนคนไม่ดีลอบกัดอีก อย่างน้อยๆให้ลูกๆ ได้มีวิชาป้องกันตัวอย่างน้อยก็ทำให้เขาได้คลายความกังวลว่าจะมีใครมาทำอะไรลูกๆ ของตนไม่ได้

เพื่อนๆ ต่างเงียบเสียงที่จะเอื้อนเอ่ยออกมาเพื่อไถ่ถามอีก ทันทีที่ต้าเฟยเอ่ยออกมา ต้าเฟยทำตัวโตเกินวัย เขาดูแลทายาทของตระกูลซือทุกคน ถึงแม้ว่าคนที่เขาดูแลใกล้ชิดที่สุดคือคุณชายใหญ่ แต่เขาก็ไม่ละเลยที่จะดูแลคุณชายน้อยด้วย ส่วนคุณหนูกลางนั้นไม่ต้องห่วง เพราะเธอเรียนวิชาศิลปะป้องกันตัวมาเช่นกัน จะมีก็แค่กันไม่ให้พวกหนุ่มๆ มายุ่งวุ่นวายกับเธอ

“น้อง!! ทำไมคุณชายซือมู่ชิงต้องมาสนใจน้องด้วย”

เสียงของรุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นขณะที่รุ่นน้องตัวเล็กทั้งสามคนกำลังจะเดินผ่านหน้าห้องเรียนที่เธอกำลังรอเรียนอยู่

“เพราะพี่มู่ชิงเป็นลูกชายเพื่อนสนิทของแม่ซูหนี่ว์ยังไงล่ะคะ พี่เขาก็ต้องปกป้องดูแลน้องสาวคนนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว”

เด็กหญิงวัยสิบขวบตอบออกมาราวกับเป็นผู้ใหญ่ เธอรู้ดีหากบอกไปว่าเธอเป็นคู่หมั้นของซือลู่ชิง พวกรุ่นพี่คงจะไม่เชื่อและพากันหัวเราะเธอออกมาแน่ เด็กหญิงจึงเลือกที่จะไม่พูดความจริง

“อ๋อ.. เป็นแบบนี้เองหรอ ไปเถอะจ้ะ ไปเรียนเถอะ” น้ำเสียงแข็งๆ ก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนลงทันที

เด็กหญิงพร้อมเพื่อนอีกสองคนพากันเดินจากไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินซูหนี่ว์โดนพวกรุ่นพี่เรียกเอาไว้เพื่อที่จะสอบถาม บ้างก็พูดดี บ้างก็พูดหาเรื่อง แต่พอจะเจอเรื่องร้ายๆ ซือลู่ชิงก็มักจะโผล่มาปกป้องเธอทันเวลาเสมอ แต่มีอยู่ครั้งเดียวที่เธอไม่ชอบ นั่นก็คือวันแห่งความรักในวัยสิบสองปีของเธอ และกลายเป็นวันที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตของเธอไปโดยสิ้นเชิง

หลินซูหนี่ว์ในวัยสิบสองปี ยืนมองดูคู่หมั้นหนุ่มวัยสิบห้าปีด้วยความไม่ชอบใจ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ยิ้มแย้มเวลาที่สาวๆ ส่งดอกกุหลาบ ช็อกโกแลตหรือแม้แต่ของขวัญให้ เธอก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ดี จนเธอเห็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่เคยเรียกเธอไปถามเดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่มีเพื่อนๆ รายล้อมก่อนที่จะยื่นกล่องช็อกโกแลตรูปหัวใจสีหวานให้ เธอก็เห็นอยู่หรอกว่าซือลู่ชิงไม่ได้รับ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกหงุดหงิดใจแปลกๆ

ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยปริปากบอกใครเลยว่าเธอคือคู่หมั้นของเขา ซึ่งในตอนที่เธอยังเด็กเธอก็พอเข้าใจ เขาคงกลัวว่าจะทำให้เธอเสียหาย แต่ตอนนี้เขาโตพอที่จะมีสาวๆ มารุมล้อมแล้ว เขาก็ยังไม่อยากที่จะปริปากบอกใคร เขาดูแลเธอเป็นอย่างดีจนพวกพี่ๆ ในกลุ่มเพื่อนของเขาแอบมาถามเธอบ่อยๆ แต่เธอก็เลี่ยงที่จะพูดความจริงในเมื่อฝ่ายชายเองยังไม่อยากจะยอมรับว่าเธอไม่ได้เป็นแค่น้องสาวของเขา ตอนนี้เธอคิดว่าเธอโตพอที่จะทวงสิทธิ์ของเธอเองได้แล้วจึงเดินเข้าไปหาเขาทันทีหลังจากที่รุ่นพี่สาววัยสิบสามปีเดินจากไป

“เพี๊ยะ!!” ฝ่ามือบางฟาดลงไปบนไหล่หนา เขายืนหันหลังอยู่จึงไม่ทันเห็นเธอ

“โอ๊ย!! อะไรเนี่ย”

เสียงทุ้มด้วยวัยย่างเข้าสู่วัยหนุ่มดังขึ้นก่อนที่จะมองไปยังเด็กสาวผมเปียวัยเพียงสิบสองปีที่เดินเข้ามาตีแขนเขาอย่างแรง เพื่อนๆ มองไปที่เธออย่างตกใจเช่นกัน ก่อนที่จะพากันผ่อนลมหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

“พี่ลู่ชิงนอกใจซูหนี่ว์ ซูหนี่ว์จะไปบอกคุณน้าถิงถิง”

เด็กสาวเอ่ยออกมาอย่างเอาแต่ใจ ซือมู่อันนั้นได้หมั้นหมายหลินซูหนี่ว์เอาไว้ให้ซือลู่ชิงตั้งแต่เขาอายุได้สิบขวบ ในวันที่สองครอบครัวจัดปาร์ตี้ปิ้งย่างกันที่สวนข้างบ้านของเขา และเพราะบุตรชายนั้นมักจะคอยปกป้องน้องน้อยคนนี้เสมอจนเขาเข้าใจว่าลูกๆ มีใจให้กัน ซึ่งภรรยาและเพื่อนของภรรยาก็ไม่ขัดข้องแถมซือลู่ชิงเองก็ไม่ขัดข้องอีกด้วย ถึงแม้จะเป็นการหมั้นปากเปล่า แต่ก็เท่ากับว่าซือลู่ชิงนั้นเมื่อโตขึ้นเขาก็ไม่ใช่ชายหนุ่มที่เป็นโสด เพื่อนๆ ที่ได้ฟังต่างพากันอ้าปากค้างตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ พวกเขาคิดไว้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้ไม่ธรรมดา

“เมื่อกี้พี่ไม่ได้คุยอะไรเลยนะ อีกอย่างพี่จะไปนอกใจเราได้ยังไง ก็พี่ยังไม่เคยมีเราอยู่ในใจเลย”

เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา หากแต่ทำให้คนฟังรู้สึกเสียใจ เพื่อนๆ ของซือลู่ชิงอดที่จะสงสารสาวน้อยไม่ได้ แต่พอที่จะมีใครเข้าไปปลอบใจเธอ ก็ได้รับสายตาที่น่ากลัวจากซือลู่ชิงทุกครั้งไป มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าเพื่อนปากแข็งคนนี้ของพวกเขาก็แอบมีใจให้เด็กน้อยน่ารักคนนี้

หลินซูหนี่ว์ไม่อยากจะฟังอีกเธอจึงร้องไห้และวิ่งหนีไปโดยที่สายตาคู่คมมองตามเธอไปด้วยความรู้สึกผิด เขาแค่เห็นว่าเธอยังเด็กและอยากให้เธอได้มีโอกาสได้พบเจอผู้ชายคนอื่นที่อาจจะทำให้เธอรักได้มากกว่าเขา ซือลู่ชิงเดินจากไปพร้อมกับเพื่อน ระหว่างทางสาวๆ ก็มอบดอกไม้และมอบของขวัญให้เขาไม่ขาด

ทางด้านซือลู่เหลียนที่กำลังนั่งคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ของเธอก็มีหนุ่มๆ แวะเวียนมามอบทั้งดอกกุหลาบ ช็อกโกแลตและของขวัญอยู่ไม่ขาดเช่นกัน จนสายตาคมของเธอไปสะดุดที่เด็กหญิงผมเปียที่เธอนั้นจำได้ดีว่าเป็นใครกำลังวิ่งร้องไห้ผ่านกลุ่มของเธอไป

“ซูหนี่ว์ น้องซูหนี่ว์”

เสียงหวานเรียกชื่อของคนที่กำลังจะผ่านไป ร่างเล็กหยุดชะงักก่อนที่จะหันไปมองก็เห็นว่าเป็นแฝดน้องของผู้ชายที่เธอรักหมดทั้งใจ แต่อีกฝ่ายไม่สนใจไยดีเธอเลยสักนิด มันไม่ใช่ความรักแบบเด็กๆ แต่เขาคือรักครั้งแรกของเธอ

ร่างระหงในช่วงวัยรุ่นเดินเข้าไปหาเด็กสาวท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ ของเธอและหนุ่มๆ ที่แวะเวียนมาขายขนมจีบให้เธอ ซือลู่เหลียนดึงร่างบางของเด็กสาวเข้ามากอด หลินซูหนี่ว์พอได้ที่พึ่งก็กอดตอบก่อนที่จะร้องไห้และระบายความในใจออกมาให้คนที่เธอนับถือเสมือนเป็นพี่สาวที่รักได้ฟัง

“ฮือๆๆๆ พี่ลู่ชิงไม่เคยมีใจให้ซูหนี่ว์เลย พี่ลู่เหลียน...ฮึก.... ซูหนี่ว์ต้องทำยังไงคะ...ฮึกกก...” เสียงหวานปนสะอื้นเริ่มระบายความในใจออกมา

“น้องน้อย หนูก็รู้นี่ ว่าพี่ลู่ชิงเขาเย็นชา พี่ว่าจริงๆ แล้วเขามีใจให้เราอยู่นะ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะปกป้องเรามาตั้งแต่เด็กๆหรอ” เด็กสาววัยสิบห้าปลอบเด็กสาววัยสิบสองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“จริงๆ หรือคะ”

เสียงหวานเอื้อนเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

'เธอไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และเมื่อเขาได้หัวใจเธอไปแล้ว เธอก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากพี่ลู่ชิงของเธออย่างแน่นอน'

“จริงๆ สิคะ ไม่ร้องนะคนเก่ง อายคนอื่นเค้า เราเป็นลูกสาวซุปตาร์นะ โตมาต้องสวยๆ เริ่ดๆ เชิดๆ ลองหนูไม่ง้อพี่ลู่ชิงดูสิ รับรองว่าพี่เขาจะหันกลับมาสนใจหนูอย่างแน่นอน”

แฝดผู้น้องแนะนำว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคตทันที เธอรู้จักพี่ชายฝาแฝดดี อีกฝ่ายทำทีเป็นเย็นชาไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่ในใจก็แอบมีสาวน้อยคนนี้อยู่ข้างในเหมือนกัน

หลินซูหนี่ว์ฟังแล้วรู้สึกมีกำลังใจและมีเป้าหมายในชีวิตมากขึ้น ‘ใช่! โตขึ้นเธอจะสวยและกลายเป็นซุปตาร์ที่มีชื่อเสียงเหมือนมารดา และเธอจะไม่ง้อเขา หากเขาไม่สนใจเธออีก เธอก็จะยอมปล่อยเขาไปโดยที่ไม่สนใจเขาอีกเลย’ หญิงสาวหยุดร้องไห้ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นส่งยิ้มให้กับพี่สาวแทน

“ขอบคุณนะคะพี่ลู่เหลียน ซูหนี่ว์จะทำแบบที่พี่แนะนำ จะสวยๆ รวยๆ เชิ่ดๆ แล้วสักวันพี่ลู่ชิงจะต้องมาสยบที่ซูหนี่ว์”

เด็กสาวเอ่ยออกมาราวกับสร้างกำลังใจให้กับตนเอง ซือลู่เหลียนตบลงไปที่หลังมือของน้องสาวเบาๆ ก่อนที่จะส่งยิ้มให้

และแน่นอนว่าหลังจากวันนั้นซือมู่ชิงก็ไม่ได้รับความสนใจจากหลินซูหนี่ว์อีกเลย แถมเธอยังย้ายไปเรียนที่โรงเรียนเอกชนอีกต่างหาก หัวใจหนุ่มนั้นรู้สึกเจ็บจี๊ดด้วยคิดว่าเด็กสาวคงจะถอดใจไปจากเขาแล้ว แต่คนที่เป็นคู่หมั้นกัน ไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหน หรือว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ สุดท้ายเธอก็ต้องกลับมาแต่งงานกับเขาอยู่ดี ซือลู่ชิงคิดในใจโดยไม่รู้เลยว่าคู่หมั้นตัวน้อยได้รับคำแนะนำจากน้องสาวฝาแฝดตัวแสบของตนให้ตีตัวออกห่างเขาไป ด้วยหลักการปล่อยเพื่อจับ

ตอนที่ 3 นักแสดงนำหญิงยอดนิยม

สิบปีต่อมา

ร่างระหงที่กำลังเดินพรมแดงอยู่ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นซูหนี่ว์ บุตรสาวคนเดียวของอดีตซุปตาร์สาวชื่อดังของเมืองแอล จ้าวซือซือ ริมฝีปากรูปกระจับฉีกยิ้มหวานให้กับกล้องที่กำลังจับภาพมาที่เธอ ทั้งเสียงแฟลชและเสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย

“ทางนี้ครับ น้องซูหนี่ว์”

ตากล้องคนหนึ่งตะโกนดังขึ้น ซุปตาร์สาวหันไปโพสต์ท่าและส่งยิ้มให้บรรดาช่างภาพได้ถ่ายรูปก่อนที่จะคำนับพี่ๆ ช่างภาพเล็กน้อยและเยื้องย่างเข้างานไปอย่างสง่างาม

เพราะแรงผลักดันเมื่อสิบปีที่แล้วทำให้เด็กสาวในวัยสิบสองปีมุ่งมั่นและตั้งใจจนวันนี้ที่เธออายุยี่สิบสองปี เธอประสบความสำเร็จและกลายมาเป็นซุปตาร์ชื่อดังที่โสด สวยและรวยมากคนหนึ่ง คู่หมั้นวัยเด็กที่ไม่เคยมีทีท่าว่าจะอยากเหลียวแล กลับมาคอยหึงหวงกันท่ากันซีนเธอกับหนุ่มคนอื่นจนเธอรู้สึกถึงชัยชนะ เขาเคยปฏิเสธเธออย่างไม่ไยดี และหลังจากนี้จะเป็นเขาที่ต้องเดินตามเกมของเธอ เรื่องที่เขาส่งคนมาจัดการหนุ่มๆ ของเธอ เธอนั้นรับรู้มาจากซือลู่เหลียน และครั้งแรกที่เธอได้รับรู้ หัวใจของเธอนั้นพองฟู มีความสุขไปทั้งวัน

ซือลู่ชิงที่นั่งไขว่ห้างมองดูไอแพดเครื่องหรูที่กำลังถ่ายทอดสดงานประกาศผลรางวัลของวงการบันเทิงประจำปีนี้อยู่ในรถตู้คันหรู โดยมีต้าเฟยกับตงหลงเป็นบอดี้การ์ดและคนขับ แน่นอนว่าครอบครัวของเขาได้รับเชิญให้มาเป็นเกียรติขึ้นมอบรางวัลในทุกๆ ปี คู่หมั้นวัยเด็กตัวแสบของเขาหลังจากวันที่เขาพูดจาแรงๆ ใส่เธอไปเมื่อสิบปีก่อน เธอก็ไม่ตามตื๊อและไม่สนใจเขาอีกเลย แต่มีหรือว่าคนแบบเขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ก็ในเมื่อตอนนี้เธอโตเป็นสาวพอแล้ว ไม่เหมือนตอนนั้นที่ยังเป็นเด็กกะโปโล และเขาก็ได้ให้เวลาเธอได้มองหาผู้ชายที่เธอรักแล้วแต่เธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะคบใคร ดังนั้นเขาก็จะทวงสิทธิ์ความเป็นคู่หมั้นกลับมา

ใครจะไปคาดคิดว่าเด็กน้อยผมเปียที่ตะโกนใส่หน้าของซือลู่ชิงในวันนั้นเมื่อสิบปีก่อนจะกลับกลายมาเป็นดวงดาวประดับวงการที่แสนเนื้อหอม หนุ่มๆ มากมายในเมืองแอลต่างหวังที่จะได้เธอมาเป็นแฟนเพื่อประดับบารมีและเพื่อโอ้อวดต่อสังคม หากแต่ไม่มีใครเลยที่จะรักเธอจากใจจริงๆ เรื่องนี้ทำไมซือลู่ชิงจะไม่รู้ เพราะคนที่เธอควงออกข่าวในทุกๆ ครั้งเขานี่แหละที่มักจะเป็นคนกำจัดพวกแมลงหวี่แมลงวันพวกนี้ให้หมดไป

“คุณชายครับ นี่คุณซูหนี่ว์รู้ไหมครับว่าคุณชายเป็นคนไปมอบรางวัลในคืนนี้” ตงหลงเอ่ยถามขึ้นขณะที่สายตาก็ยังจดจ้องไปบนท้องถนนเพื่อความปลอดภัย เพราะเขาทำหน้าที่เป็นคนขับรถของคุณชายใหญ่ในค่ำคืนนี้

ซือลู่ชิงไม่ได้เจอกับซูหนี่ว์มานานถึงห้าปีแล้ว เพราะแม่น้องน้อยตัวดีของเขาบินหนีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทันทีที่เรียนจบชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนเอกชนที่เธอได้ย้ายไปตอนที่เธอหันหลังให้กับเขาในวันวาเลนไทน์เมื่อปีนั้น และเธอก็เพิ่งจะกลับมาพร้อมกับผลงานที่โดดเด่น ด้วยก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อนั้นเธอได้เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงแล้ว

“ไม่น่าจะรู้นะ เพราะว่าทุกปีฉันไม่เคยมา” น้ำเสียงเย็นชาเปล่งออกมาจากริมฝีปากสีแดงอมชมพูธรรมชาติ

“แล้วแบบนี้เธอไม่ตกใจแย่หรอครับ” ต้าเฟยเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย ตั้งแต่วันนั้นที่คุณชายใหญ่พูดทำร้ายจิตใจเธอไปแบบนั้น เด็กหญิงผมเปียก็เปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน

“ตกใจก็เรื่องของเธอสิ แต่งานนี้ฉันก็ต้องไปอยู่แล้ว พ่อกับแม่ของฉันจะได้ไม่เสียเวลาสวีทกัน”

ซือลู่ชิงเอ่ยออกมาเสียงเรียบราวกับว่าไม่ได้แคร์อะไรกับการที่จะได้ไปเจอหญิงสาวที่เขาเฝ้าเอาแต่ติดตามในโซเชียลและตามรูปถ่ายจากบรรดาลูกน้องของต้าเฟย

สองบอดี้การ์ดหนุ่มหันมามองหน้ากันก่อนที่จะยิ้มออกมา โดยเฉพาะต้าเฟยที่เติบโตมากับคุณชายใหญ่ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลึกๆ ภายในใจแล้วซือลู่ชิงคิดยังไง เพราะเจ้านายหนุ่มนั้นยังไม่เคยสัมผัสผู้หญิงคนไหนเลย แม้วัยจะล่วงเลยมาจนเป็นหนุ่มวัยยี่สิบห้าปีแล้ว ตงหลงขับรถไปเงียบๆ อย่างระมัดระวังจนจอดรถที่หน้างาน

ประตูรถตู้คันหรูถูกเปิดออกก่อนที่ร่างสูงล่ำในชุดสูทสีดำจะก้าวลงจากรถมาด้วยท่วงท่าสง่างาม กล้องทุกตัวรีบทำหน้าที่จับภาพของบุคคลที่เพิ่งมาถึงทันที มีใครบ้างที่จะไม่รู้จักทายาทลำดับหนึ่งของตระกูลซือ ตระกูลที่มีอิทธิพลที่สุดในเมืองแอล เสียงกดชัตเตอร์ทั้งเสียงของแฟลชดังปะปนกันไปทั่วทั้งบริเวณ ใบหน้าหล่อเหลาหากแต่ติดเย็นชานั้นเป็นบุคลิกของผู้ชายในตระกูลนี้ บรรดานักข่าวจึงไม่แปลกใจเลยที่จะไม่ได้เห็นรอยยิ้มของเขา

ร่างสูงของซือลู่ชิงก้าวไปในงานพร้อมกับต้าเฟยและคนจัดงานที่เดินออกมาต้อนรับทายาทของตระกูลซือด้วยตนเอง ในทุกๆ ปีทางผู้จัดงานจะได้รับเกียรติจากตระกูลซือมาเป็นคนมอบรางวัลให้กับนักแสดงนำหญิงและชายยอดนิยมประจำปี

“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับคุณชายใหญ่ที่ผมออกมารับช้า”

ชายหนุ่มที่เป็นคนจัดงานในวันนี้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพขณะที่เดินเคียงข้างมากับชายหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าเขาไปถึงสิบปี

“ไม่เป็นไรครับ เพราะผมเองก็เพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน” ซือลู่ชิงตอบตามความจริงและเขาก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมารอรับเขาทั้งนั้น

สายตาทุกคู่ภายในโดมขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นสถานที่มอบรางวัลต่างจับจ้องมองมายังคนที่กำลังเดินเข้าไปด้านใน รวมไปถึงสายตาคู่สวยของซุปตาร์สาวซูหนี่ว์ด้วย หัวใจของหญิงสาวเต้นอย่างแรงด้วยความตื่นเต้นที่ได้พบหน้าคนที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี เขาไม่เคยแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนครอบครัวเธอเลย มีแต่พี่ลู่เหลียนกับน้องลู่จื้อที่คอยบอกเล่าเรื่องราวของพี่ชายคนโตให้เธอได้ฟัง

สายตาคมของซือลู่ชิงกวาดมองไปทั่วบริเวณเพื่อหาหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของเขามาตั้งแต่เด็กเช่นกัน ทันทีที่พบ หัวใจหนุ่มที่เคยเหือดแห้งกลับรู้สึกเย็นชุ่มช่ำขึ้นมาอีกครั้ง รอยยิ้มผุดที่มุมปากเพียงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าแม่น้องน้อยก็มองมาทางเขาเช่นกัน ถึงเธอจะแกล้งทำตัวว่าไม่สนใจเขา แต่เขาก็ดูออกว่าเธอยังรักเขาอยู่ ถ้าไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รักษาความบริสุทธิ์มาจวบจนวันนี้

ซือลู่ชิงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ด้านหน้าสุดของเวที และพิธีการมอบรางวัลของคนบันเทิงประจำปีนี้ก็เริ่มต้นขึ้น วันนี้เขาได้รับเกียรติมามอบรางวัลสำคัญเพียงสองรางวัลเท่านั้น นั่นก็คือรางวัลนักแสดงนำหญิงและนักแสดงนำชายยอดนิยม ร่างสูงกลับหลังหันก่อนที่จะโค้งให้คนในวงการที่มารอฟังผลการประกาศรางวัล เสียงปรบมือดังขึ้นกึกก้อง ซูหนี่ว์แอบเบ้ปากจนผู้จัดการส่วนตัวสาวอดที่จะสงสัยกับการกระทำของซุปตาร์ที่ตนดูแลไม่ได้

“อุ๊ย! น้องซูหนี่ว์ ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะ พี่เห็นนักแสดงหญิงแทบจะทุกคนในเมืองแอลเลยก็ว่าได้ ที่ชื่นชอบและหลงใหลในความหล่อเย็นชาของคุณชายใหญ่ หนูไม่ชอบเขาหรือคะ” เยว่เหมยอุทานออกมาหากแต่เสียงเบา ก่อนที่จะถามซุปตาร์สาวด้วยความสงสัย

“หึ! ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่เหมย น้องก็แค่ไม่ชอบ” ซุปตาร์สาวเอ่ยออกมาโดยไม่ได้สนใจคนที่มองมายังเธอเลยสักนิด

“แต่พี่เคยได้ข่าวว่าคุณแม่ของน้องซูหนี่ว์กับคุณแม่ของคุณชายลู่ชิงเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กไม่ใช่หรอคะ” เยว่เหมยยังไม่หายสงสัย

“ใช่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ จะสนิทกันนี่คะ เลิกพูดถึงเขาเถอะค่ะ เอาเป็นว่าเห็นใบหน้าหล่อๆ แบบนี้ แต่จริงๆ แล้วร้ายกว่าที่คิด”

ซูหนี่ว์หันไปตอบด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน ผู้จัดการสาวก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะเธอก็เห็นว่าซูหนี่ว์นั้นสนิทกับน้องสาวฝาแฝดของคุณชายลู่ชิงมาก และยังมีคุณชายเล็กอีกที่ชอบไปมาหาสู่กัน

สองสาวหยุดบทสนทนาเพียงเท่านั้นเมื่อพิธีกรเริ่มดำเนินรายการโดยเริ่มจากการประกาศรางวัลทั่วๆ ไปก่อน จนในที่สุดก็มาถึงรางวัลที่ซุปตาร์สาวรอคอย เธอใช้ความพยายามและความทุ่มเทในการทำงานจึงได้รับการคัดเลือก และได้รับพลังโหวตจากบรรดาแฟนคลับทุกคนที่รักเธอ

“ค่ะ และรางวัลที่สำคัญสองรางวัลในค่ำคืนนี้ เราได้รับเกียรติจากคุณชายซือลู่ชิงมาเป็นผู้มอบรางวัลในครั้งนี้ค่ะ ขอเสียงปรบมือให้กับคุณชายมู่ชิงด้วยนะคะ” สิ้นเสียงหวานของพิธีกรสาวเสียงประมือก็ดังขึ้นกระหึ่มงาน ร่างสูงสง่ายืนขึ้นก่อนที่จะหันหลังมาคำนับและเดินขึ้นไปบนเวที

เมื่อผู้มอบรางวัลขึ้นไปเตรียมตัวพร้อมแล้ว พิธีกรสาวก็ประกาศรางวัลนักแสดงนำชายยอดนิยมก็ไม่ผิดคาด เขาเป็นนักแสดงนำชายจากละครเรื่องล่าสุดที่แสดงคู่กับซุปตาร์สาวซูหนี่ว์ เสียงปรบมือดังขึ้นก่อนที่นักแสดงหนุ่มรูปหล่อเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อรับรางวัล เขามองหน้าของคุณชายลู่ชิงเพียงแว๊บเดียวก็รู้สึกถึงสายตาอำมหิต

และแน่นอนว่าเขาเคยเจอคุณชายต่อหน้ามาครั้งหนึ่งแล้วตอนที่เขาเป็นข่าวกับซุปตาร์สาวซูหนี่ว์ มาถึงวันนี้เขายังไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอและคุณชายผู้นี้ แต่เขาก็คิดว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาแน่นอน มือหนายื่นไปรับถ้วยรางวัลจากมือเรียวยาวของคนเบื้องหน้าที่สูงและล่ำกว่าตนเป็นไหนๆ

“ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณจี้” คุณชายผู้เย็นชาเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือเรียวยื่นออกไป

“ขอบคุณครับคุณชายใหญ่” จี้ฟาหยางยื่นมือหนาของตนออกไปจับ ก่อนที่จะเอ่ยคำขอบคุณ

สองหนุ่มจับมือกันเพียงครู่เดียวก่อนที่ช่างภาพก็ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก่อนที่จะได้ประกาศรางวัลต่อไป ซึ่งเป็นรางวัลที่ซือลู่ชิงรอคอยที่จะมอบให้เธอโดยเฉพาะในค่ำคืนนี้ สายตาคมจ้องมองลงไปยังคนที่ทำหน้าตาไม่สนใจจะมองเขาอยู่

‘หึ! ถึงเธอไม่อยากจะมองหน้าพี่ ยังไงเธอก็ได้มาเผชิญหน้ากับพี่อยู่ดี ยัยน้องน้อยตัวแสบ’ ซือลู่ชิงแสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะปรับสีหน้าให้เรียบเฉยราวกับว่าเมื่อสักครู่เขาไม่ได้ยิ้มออกมา

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!