จุนฮยอก ชายตัวผอมแห้งไร้เรี่ยวแรงส่วนสูงไปถึงมารตฐานเขาเสียครอบครัวไปตั้งแต่ตอน 10 ขวบด้วยอุบัติเหตุทางรถยนตร์ในตอนแรกได้อาศัยอยู่กับลุงและป้า แต่พอเวลาผ่านไปชีวิตของเขาก็ถูกตัดหางปลอยวัด มีเงินติดตัวแค่ 4 แสนวอนเขาหนีกลับมาอยู่ที่บ้านดิ้นรนทำงานพาร์ทไทม์พร้อมกับเรียนจนจบ ชีวิตในโรงเรียนของเขาไม่ได้สนุกเหมือนคนอื่นหรอก โดนแกล้งสาระพัดอย่างไม่เว้นวันแต่ก็กัดฟันทนผ่านมาจนได้ การถูกล้อว่าไม่มีพ่อมีแม่มาในโรงเรียนในแต่ละครั้ง มันทำให้เขาเจ็บปวดไปถึงขั่วหัวใจ
หลังจากเรียนจบชีวิตของจุนฮยอกก็เข้าสู่ช่วงทำงาน เขาเป็นพนักงานเงินเดือนดีเด่น จนได้รับคำชมจากผู้จัดการตลอดจนเป็นที่น่าหมั่นไส่ของเพื่อนร่วมงาน พวกเขารวมหัวกันกุเรื่องหาว่าจุนฮยอกยัดยอกเงินของบริษัทจนถึงขั้นโดนไล่ออก ถึงแม้เขาจะพยายามหาข้อแก้ต่างแต่ว่ามันไม่เป็นผล เมื่อผ่านช่วงวิกฤติชีวิตมาได้จุนฮยอกตัดสินใจใช้เงินเก็บส่วนหนึ่งเพื่อทำตามความต้องการของตนเองโดยการทุ่มเงินซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมและสตรีมสดเพื่อหารายได้ เขากอบโกยเงินได้หลายล้านวอนจากการขายไอเทมภายในเกมและการสตรีมสดโชว์ฝีมือการเล่น PVP ร่วมไปถึงการโซ่โล่บอสด่านด้วยมือเปล่า จากนั้นฐานแฟนคลับของจุนฮยอกค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการเป็นเล่นผู้เล่นที่สามารถพิชิตเกมสุดหินของค่ายเกมค่ายหนึ่ง ความยากของมันทำให้ผู้เล่นท้อและตัดใจไปหลายต่อหลายคน และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาจะสตรีมเกมหวดบอสเป็นตอนสุดท้ายและก็คงจะได้จากลาแฟนคลับกับช่องแชทกันแล้ว จุนฮยอกนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้เกมมิ่งพร้อมรวมรวบสมองคิดชื่อปกคลิป
ชั่งมันเถอะได้เวลาเปิดสตรีมแล้ว เกมที่ฉันชอบที่สุดจะจบวันนี้แล้ว
[แชท]
ฆ่าไม่ได้แต่หยามได้ : มาแล้วๆ สตรีมตอนสุดท้ายของพี่จุน…รอมาทั้งวันเลยงับบบ
God : วันนี้ขอเข้มๆ
Moi : ชื่อคลิปแปลกๆ นะพี่จุนใจหนูไหวหวั่นนะม่ายยยยยยยยยยย..
มีแววหามีตาไม่ : บอสกี่วิดีพี่วันนี้ สัก10ไหม 10วิหรอ 10ปี เย้ย….5555
หน้าเหนื่อย : ยังมีคนเล่นเกมบ้านี่อีกหรอ555
ABC : เกมมันตายไปแล้วไม่นึกว่าจะมีคนเล่นมันผ่านมาถึงขนาดนี้ 55555 พยายามเกิ๊น
ชายหนุ่มกระเดือกน้ำเข้าไปสองอึกใหญ่ก่อนจะเริ่มทักทายแฟนคลับ
“สวัสดีครับผม เป็นไงกันครับวันนี้สบายดีกันมั้ยเอ่ย…กว่าจะมาถึงนี่ได้เราเล่นล่อไปแล้ว เกือบๆ 7วันเลยนะครับ ฮาๆๆ”
[แชท]
พรุ่งนี้วันจันทร์ : 7วันพูดเหมือนมันนานเลยนะพี่555 พี่มันบ้าไปแล้ว
LทพZaaa : ผมเล่นมา7วันพึงออกจากดันได้เอง…สงสารตัวเอง พี่มันปีศาจชัดๆ T T
อลิซจังง : เดธเคาท์ของพี่มันบัคหรอหนูเห็น เป็น 0 ต้องแต่วันแรกแย้วว… เล่นให้หนูทีงื้อออ
“เดี๋ยวผมเล่นจบซีรีย์นี้ คงต้องขอพักรอเกมใหม่ๆ สักหนึ่งสัปดาห์นะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องสนุกแน่เพราะผมก็ตั้งตารอเหมือนกัน” หลังจากพูดเสร็จจุนฮยอกก็ทำการเล่นพิชิตเกมนั้นโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง
ยินดีด้วยคุณเป็นคนแรกที่พิชิตเกมของเราได้
[แชท]
นอนน้อยแต่ไม่นอนนะ : Congrat !! ครับพี่จุนฮยอก สุดยอดดดดดดดดดดด
กระเพราหมูกรอบ : ยินดีด้วยครับ วุ้วๆๆสุดยอด..
Devil : คาราวะ ท่านเทพ…
ขณะที่จุนฮยอกจ้องมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ชั่วขณะกล่องข้อความบล็อกสี่เหลี่ยมก็ปรากฏขึ้น
ระบบจะทำการมอบไอเทมและสิทธิพิเศษให้แก่ผู้เล่นในวันถัดไป ขอบคุณและกรุณาเตรียมตัวให้พร้อม
“ทุกคนเห็นนี่ไหม ระบบบอกว่าผมจะได้ของจากเกมด้วยแหละ”
[แชท]
Unknow : เห็นอะไรครับพี่ ??
มินฮยอง : ???
อิมดามยอน : ทำไมหนูเห็นแค่ เครดิตปิดท้ายอะพี่..555 ???
“ก็บล็อกข้อความสี่…” ขณะที่เขาจะเปล่งเสียงออกไป เขากลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ก่อนจะใช้มือเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ขอบโต๊ะคอมและรีบเปิดดูสตรีมทันที
“บ้าน่า..ไม่มี” ที่จอโทรศัพท์นั้นไม่มีบล็อกข้อความที่แสดงในจอภาพของคอมพิวเตอร์อย่างที่เขาเห็น มีเพียงแค่เครดิตและเพลงประกอบ จุนฮยอกเหลือบมองกลับไปที่จอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ข้อความที่แสดงโชว์เมื่อครู่ได้หายไป เขาได้แต่เงียบไปชั่วขณะพยายามเค้นสมองเรียบเรียงกับเหตุการณ์ที่พึ่งพบเจอ เมื่อนึกได้ว่าอาจเป็นเพราะอาการเหนื่อยล้าจากการเล่มวีโอดีจนทำให้เขามองเห็นภาพหลอน จุนฮยอกจึงเอ่ยอย่างติดตลก
“ไม่มีอะไรหรอกครับ เดี๋ยวเราไปเล่นเกมอื่นอีกสักนิดแล้วค่อยปิดตรีมนะครับ”
ทว่าภายในใจลึกๆ นั้นยังอดครุ่นคิดไม่ได้ ครั้นจุนฮยอกกล่าวลาช่องแชทและปิดสตรีมลง *วันนี้สตรีมไปทั้งหมด 6 ชั่วโมงนิดๆ* ชายหนุ่มเอื้อมไปปิดคอมพิวเตอร์และลุกไปเข้าห้องน้ำ พลางถือโทรศัพท์อ่านบล็อกความคิดเห็นจากสตรีมไปด้วย หลังจากใช้เวลาล้างหน้าไม่นานนัก เขาเดินมุ่งตรงไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบของกินยามดึกมานั่งกินที่โต๊ะ จู่ๆ ก็มีบล็อกเมลไม่มีชื่อส่งมา ทว่าจุนฮยอกไม่ได้สนใจนึกแค่ว่าอาจจะเป็นแค่การสแปมเมลก่อกวนเท่านั้น หลังจากกินเสร็จ เขาทิ้งตัวลงนอนกับที่นอนนุ่มๆแล้วค่อยๆ หลับตาลงก่อนที่ภาพจะตัดไป
ติ๊ด! ติ๊ด!
เสียงนาฬิกาดังลั่นไปทั่วห้องนอนทรงสี่เหลี่ยมจุนฮยอกพยายามใช้มือตะกายไปปิดด้วยความเกียจคร้าน แต่เมื่อนึกถึงเกมที่ต้องเล่นในวันนี้ร่างกายคล้ายกับมีพลังงานเต็มเปี่ยมเขาลุกพรวดเดินโซเซไปเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ก่อนจะตรงเข้าไปที่ห้องน้ำ
“ข่าวด่วนวันนี้ครับ พบหอคอยปริศนาโผล่ขึ้นมาตามประเทศต่างๆ กรุงโซลของเราก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ผู้คนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นครับ เราส่งนักสืบข่าวของเราไปตรวจสอบพื้นที่แล้วปรากฏว่ามันมีอยู่จริงๆครับ หอคอยปริศนาแถมซ้ำยังมีพวกตัวประหลาดออกมาเต็มเลยครับ ทางรัฐบาลยังไม่ออกมาชี้แจงใดๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรากัน”
เมื่อจุนฮยอกได้ยินเช่นนั้น เขารีบพุ่งตัวออกมาจากห้องน้ำพลางจ้องมองโทรทัศน์อย่างละเอียด
“บ้าอะไรเนี่ยทำไมหอคอยแห่งวิญญาณถึงมาโผล่ในโลกจริงได้ มันอยู่แค่ในเกมไม่ใช่รึไงแถมเกมยังไม่ถึงกำหนดวางขายด้วยซ้ำ” ในหัวของเขาสับสนมึนงง ชั่วขณะจุนฮยอกก็นึกถึงข้อความที่โชว์ในคอมพิวเตอร์ เขารีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อเปิดดูเมลปริศนาที่ถูกส่งมาเมื่อคื่นที่แล้ว เพราะคิดว่ามันอาจจะเชื่อมโยงกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้
จาก : Unknow เวลา 00.00 น.
ถึง : Player
คุณเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่เล่นเกมของเราจนจบระบบได้ส่งไอเทมและสิทธิพิเศษให้คุณเรียบร้อยแล้ว กรุณาตรวจสอบที่กล่องข้อความและเกมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
เรื่องบ้าอะไรเนี่ย ฉันไม่เห็นมีอะไรเลยสักนิด เขาบ่นพึมพำในใจแค่พริบตา ภาพโฮโลแกรมสี่เหลี่ยมสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นมาตรงด้านหน้า
กริ๊ง!
[ระบบ]
ชื่อ : จุนฮยอก อายุ : 22
อาชีพ : ????
เลือด : 100
มานา : 50
: สเตตัส : เลเวล 1
พลังชีวิต 1 แข็งแกร่ง 1
ว่องไว 1 ชำนาญ 1
สมาธิ 1 โชคลาภ 1
สกิล : ว่างเปล่า
เกราะหัว : ว่างเปล่า เกราะตัว : ว่างเปล่า
กางเกง : ว่างเปล่า รองเท้า : ว่างเปล่า
เครื่องราง : ว่างเปล่า
“ด้านบนขวามีรูปกล่องข้อความอยู่ด้วยแฮะ ตรงนี้สินะ” จุนฮยอกยื่นนิ้วกดเข้าไปกด
[คุณได้รับ]
สกิล ปราชญ์แห่งพร
คำอธิบาย มันถูกสร้างขึ้นมาจากนักปราชญ์เพียงหนึ่งเดียวที่ซึ่งบรรลุศาตร์ความรู้ของโลก ว่ากันว่าเขายังมีตัวตนอยู่ที่ไหนสักที่ ณ โลกแห่งนี้
เครื่องราง แหวนแห่งพร
คำอธิบาย วงแหวนที่ซึ่งผู้พิชิตเท่านั้นที่จะได้มันมา เพิ่มค่าสเตตัส +5 ทั้งหมด
สุดยอดเลย เขาไม่รอช้ารีบสวมใส่เครื่องรางในทันที ทันใดนั้นเองเสียงปริศนาพลันดังแว่วมาจากในหัว
“ขอตอนรับอีกครั้งคะ นายท่าน” จุนฮยอกที่ไม่ได้เตรียมใจไว้กับเหตุการณ์เช่นนี้ เขาร้องกรี๊ดเสียงสูงด้วยความตกใจ หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
“ใครน่ะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ข้าคือปราชญ์แห่งพรสกิลของนายท่านค่ะ”
"แบบนี้นี่เองทำเอาหัวใจแทบวาย แต่ว่าไม่ยักรู้ว่าเกมมีระบบแบบนี้ด้วย"
“ขออภัยค่ะ นายท่านเข้าใจถูกต้องแล้ว ข้านั้นมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เพราะท่านได้รับสิทธิพิเศษในการพิชิตเกมก่อนหน้าค่ะ”
ขณะที่กำลังเขากำลังจดจ่ออยู่กับสกิลของตัวเอง เสียงจากโทรทัศน์ก็แล่นเข้ามากระทบหู
“สวัสดีทุกท่าน กระผมคือตัวแทนจากรัฐบาล อย่างที่ทุกคนทราบโลกของเราเปลี่ยนไปแล้ว พวกเราตอนนี้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเกมเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าทุกท่านไม่ต้องตกใจไป ทางเราทำการรวบร่วมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเกมนี้แล้ว เพียงแค่เราสามารถพิชิตหอคอยทั้งหนึ่งร้อยชั้นของปราสาท ที่ตั้งอยู่ตรงกลางโซลได้ โลกของเราก็จะกลับสู่สภาวะปกติ แต่ทว่าด้านในหอคอยแห่งนั้นทางเรายังไม่ทราบข้อมูลใดๆ และสุดท้ายนี้ ทุกท่านคงรู้แล้วว่าตัวเองนั้นมีค่าพลังเท่าไหร่ กระผมขอประกาศ ณ ตรงนี้ว่าทางรัฐบาลได้จัดตั้งกลุ่มพิชิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่คิดว่าตัวเองมีพลังมากพอก็ขอให้เข้าร่วมกับเรา เราสัญญาว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้เป็นพิเศษ ขอบคุณ”
“ทางรัฐบาลก็เคลื่อนไหว รีบแก้ปัญหาแล้ว แต่ว่าข้อมูลที่เขาได้มามันเชื่อได้จริงๆ หรอทั้งที่เกมยังไม่ว่างขายด้วยซ้ำ จุดประสงค์ของเกมมันคืออะไรกันแน่แค่พิชิตหนึ่งร้อยชั้นหรอ แถมยังนี่เป็นชีวิตจริงอีกด้วยถ้าเกิดพลาดก็เท่ากับว่าตายและไม่สามรถเริ่มใหม่ได้ ใครเขาจะอยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกันหลังจากนี้คงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เป็นแน่”
จุนฮยอกสูดหายใจยาว แต่ก็ไม่สามารถหยุดมุมปากที่ค่อยๆ ฉีกยิ้มได้ “ฉันก็แค่อยากจะพักสักสัปดาห์ ตื่นเต้นเป็นบ้าเลย”
แต่ตัวเขานั้นยังไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับเกมนี้เลย เขาจึงจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจกับระบบของเกมก่อน
“ปราชญ์แห่งพรเธอช่วยอธิบายระบบสเตตัสให้ฟังหน่อยได้ไหม”เขากล่าวด้วยสีหน้าฉงนใจ
“ได้ค่ะ ระบบสเตตัสถูกแบ่งแยกออกเป็น 6 อย่าง อย่างแรกคือพลังชีวิตค่ะ ยิ่งอัปมากเท่าไหร่เลือดก็จะเยอะขึ้น อย่างที่สองคือค่าแข็งแกร่ง ยิ่งอัปมากก็จะยิ่งโจมตีได้แรงขึ้น อย่างที่สามคือค่าความชำนาญ ยิ่งอัปมาก ก็จะโจมตีได้รวดเร็วและใช้อาวุธได้เยอะขึ้น เพราะอาวุธบางประเภทจำเป็นต้องมีค่าชำนาญเพียงพอถึงจะใช้ได้ค่ะ อย่างที่สี่คือค่าความว่องไว ยิ่งอัปมาก ก็จะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วขึ้นค่ะ แต่ทั้งนี้จะไม่นับรวมกับความเร็วในการใช้อาวุธค่ะ อย่างที่ห้าคือสมาธิ ถ้าอัพแล้วจะเพิ่มพลังเวทย์และมานารวมถึงประสาทสัมผัสทั้งหมด ท้ายสุดคือโชคลาภ เป็นค่าความโชคดีในการดรอปไอเทมจากมอนเตอร์ค่ะ”
"แบบนี้นี่เองแต่ว่าค่าสเตตัสแรกที่ฉันได้มา คือ หนึ่งทั้งหมดนี่ฉันอ่อนแอแค่ไหนกันเนี่ย! " จุนฮยอกถอนหายใจเฮือกใหญ่
“กำลังประมวลผลเควสที่เหมาะสมกับร่างกายของท่านค่ะ”
ตรวจสอบเสร็จสิ้น
ติ๊ด
[ระบบ]
ชื่อเควส เปลี่ยนแปลงร่างกาย(ไซตามะ)
เงื่อนไข วิดพื้น100 ครั้ง ซิทอัพ100 ครั้ง
สคอร์ด100ครั้ง วิ่ง10 กิโลเมตร ทุกวัน
สำเร็จ รางวัล : พอยท์สเตตัส 3
ไม่สำเร็จลงโทษ : ???
ยอมรับ : ปฏิเสธ
“เจ๋งสุดๆเลย แสดงว่าวันหนึ่งฉันสามารถอัพสเตตัสได้ถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ยักจะคิดว่ามีบทลงโทษด้วย เอาเถอะแค่นี้ก็คุ้มพอแล้ว” เขาไม่รอช้าที่จะกดยอมรับเควสโดยทันที
[เควสกำลังดำเนินการ… นับถอยหลัง 23:59.58 วินาที]
“98,99,100 ที่นี่ก็เหลือแค่วิ่ง 10 กิโลแล้วสเตตัสของแหวนแห่งพรช่วยฉันได้จริงๆ ถ้าเป็นฉันแต่ก่อนคงไม่ไหวแน่” ร่างของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงือพลันใช้มือหยิบผ้าสีขาวสะอาดขึ้นมาเช็ด
ขณะที่จุนฮยอกวิ่งกำลังวิ่งและเช็คระยะทางของเควสอยู่ 6/10 กิโลเมตร เหลืออีกแค่4 กิโล
“เห้ยๆ…นั่นมันจุนฮยอกเพื่อนรักของพวกเรานี่หว่า ทุกวันนี้นายรู้จักออกกำลังกายเป็นกับชาวบ้านเขาแล้วหรอ” ชายหนุ่มพูดจาอย่างเย่อหยิ่ง ทำให้จุนฮยอกขมวดคิ้วแสดงถึงความไม่พอใจ ชายหญิงที่ยื่นอยู่ตรงหน้าคือ อิมแทซัน คิมยองอุนและมินดงฮี พวกเขาเป็นเพื่อนที่เคยเรียนในห้องเดียวกันกับจุนฮยอก อิมแทซันลูกชายเจ้าของบริษัท CN กรุ๊ป รวยละดับพันล้าน ส่วนคิมยองอุนร่างกายใหญ่โตที่ใช้ขู่คนอื่นได้ ชอบไปไหนมาไหนกับอิมแทซันและก็มินดงฮีหญิงสาวสีปากแดงสวมชุดเดรสสีเทาหรู่หรา สะพายกระเป๋าแบรนด์เนม พวกเขาต่างจิกตามองมาที่จุนฮยอกซ้ำยังคงพูดจาเสียดแทง
“แหม๋ๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ คนกันเองไม่ใช่หรอ เออแล้วตอนนี้พ่อแม่ของนายเป็นยังไงบ้างล่ะ ฮาๆ! พอแล้วอิมแทนายก็รู้อยู่ว่าจุนฮยอกอะไม่มีพ่อมีแม่ ใช่ไหมจุนฮยอก…”
“พูดอะไรหน่อยสิว่ะ เจอกันทั้งทียืนเงียบอยู่ได้เป็นใบ้รึไง”
“ผอมก็ผอมส่วนสูงก็ไม่ได้ครึ่งอิมแทซันสักนิด ยังจะจนอีกทุกวันนี้ก็คงยังไปขอข้าวกินเหมือนเดิมสินะ แกมันก็แค่ขยะ ขยะก็คือขยะวันยังค่ำไม่มีทางที่จะเทียบพวกฉันติดหรอก ชีวิตนี้แกคงจะอยู่และก็ตายในบ้านเก่าๆ ที่พ่อกับแม่แกทิ้งไว้ให้ ฮาๆ! ฉันจะบอกอะไรไว้ให้อิมแทซันน่ะได้อาชีพนักฆ่าและพรุ่งนี้เขาก็จะเข้าร่วมกับกลุ่มพิชิตเกมบ้าๆ นี่ แล้วแกล่ะทำอะไรได้ สุดท้ายแล้วแกมันก็ได้แค่อยู่ใต้เท้าของพวกเราเหมือนเดิม” หล่อนแสยะยิ้มพลันมองจุนฮยอกด้วยแววตาเสียดแทง
“ยังพูดจาหมาไม่รับประทานเหมือนเดิมเลยนะไอ้สวะ* นายมันก็แค่เกาะกินเงินพ่อของนายไปวันๆ ส่วนเธอมินดงฮี อย่าทำเป็นรู้เรื่องของฉันทุกอย่างสิ วันๆ ก็เอาแต่วิ่งหาผู้ชายแล้วจะเอาเวลาไหนมารู้เรื่องของฉัน อย่างงี้เขาเรียกอะไรนะ เผือกใช่ปะ? ”
ครั้นจุนฮยอกเอ่ยขึ้น อิมแทซันที่ทนกับน้ำเสียงยั่วยุของจุนฮยอกไม่ได้พลันคำรานเสียงดังลั่น “ไอ้เวร*นี่…อยากตายมากรึไงห๊ะ” เขาวิ่งปรี่เข้าหาจุนฮยอกด้วยความโกรธฉุนเฉียว
[แจ้งเตือน]
เควสเสริมอัตโนมัติ : มีผู้ประสงค์ร้าย 3 คน
เงือนไข : ฆ่าหรือจัดการให้สลบ
รางวัล : ???
ลงโทษ : ???
“ฉันอยากลองระบบอยู่พอดีเลย”
[เปิดใช้งานสกิลปราชญ์แห่งพร วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของศัตรู]
[วิเคราะห์เสร็จสิ้น]
“คัตรูโจมตีด้วยหมัดขวาเบี่ยงหลบซ้ายจะมีช่องมาให้โจมตีกลับไปได้ค่ะ” สิ้นเสียงจากระบบหมัดขวาจากอิมแทซันกำลังพุ่งเข้าหาจุนฮยอก เขาเล็งมาที่ใบหน้า จุนฮยอกเบี่ยงหลบไปด้านซ้ายและสวนกลับเต็มแรงด้วยหมัดซ้ายเข้าไปที่คางของ อิมแทซัน จนตัวกลิ้งไถลไปกับพื้นราวสิบเมตร
ตุบ
"อั่ก!"
“สเตตัสของฉันน้อยขนาดนี้ยังโดนแค่หมัดเดียวแล้วสลบยังจะมีหน้ามาโม้โอ้อวดว่าจะเข้ากลุ่มพิชิตเกมอีก” จุนฮยอกหันหลังกลับมาและจ้องมองไปที่ คิมยองอุนและมินดงฮี สีหน้าของพวกเขาถอดสี เมื่อเห็นอิมแทซันในสภาพแบบนั้น
“เป็นอะไรไป เมื่อกี้ยังไม่เห็นทำหน้าแบบนี้เลยหนิ” จุนฮยอกแสยะยิ้ม
[จำนวนศัตรูที่เหลือ : 2]
เขาพุ่งเข้าหาคิมยองอุนอย่างไว ด้วยระยะห่างราวสามสิบเมตรเพียงพริบตาเขาก็โผล่มาตรงหน้าคิมยองอุนแล้ว
"ไอ้เวร*"
“ศัตรูเปิดใช้งานสกิล เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ10%”
'เจ้าคิมยองอุนไม่ได้ใหญ่แต่ตัวเฉยๆถ้าอย่างนั้นก็จัดชุดใหญ่ให้หน่อยแล้วกัน'
ตุบ ตุบ ตุบ!
จุนฮยอกรัวมัดด้วยความเร็วจนแทบไม่มีช่องว่างให้คิมยองอุนสวนกลับ เขาปล่อยหมัดที่หนักน่วงราวกับทุ่นเหล็กไปเรื่อยๆ ราว 10 วิ ร่างของคิมยองอุนก็ร่วงแน่นิ่งราบลงกับพื้น เหลือเพียงแค่มินดงฮีที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านหลัง จุนฮยอกค่อยๆเดินทีละก้าวเข้าไปหาหล่อน ถึงหล่อนจะกลัวสุดขีดจนแทบจะฉี่ราด แต่หล่อนกลับไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวหนี
"อย่า... นะ!"
ครั้นจุนฮยอกเดินมาถึงตัวมินดงฮี เขายื่นหน้าเข้าไปที่หูด้านซ้ายของหล่อน
“อย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไม่งั้นจะฆ่าทิ้งซะ” เขากระซิบด้วยลมที่แผ่วเบาและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ หลังจากนั้นจุนฮยอกใช้สันมือด้านขวาสับเข้าไปที่ท้ายทอยของเธออย่างจัง จึงทำให้เธอสลบลงไปในที่สุด
กริ๊ง
[เควสสำเร็จ]
รางวัล : ได้รับสกิลต้านทาน
รับพอยท์สเตตัส 1 พอยท์
คำอธิบาย : ต้านสถานะผิดปกติทั้งหมด
“คุ้มค่าสุดๆไปเลย” จุนฮยอกกลับไปวิ่งทำเควสต่ออย่างสบายใจ… เหลือเวลาอีก 19:43.36 วินาที
[ระบบ]
ชื่อ : จุนฮยอก อายุ : 22
อาชีพ : ????
เลือด : 100
มานา : 50
: สเตตัส : เลเวล 2
พลังชีวิต 6 แข็งแกร่ง 6
ว่องไว 7 ชำนาญ 6
สมาธิ 6 โชคลาภ 6
สกิล : ปราชญ์แห่งพร, ต้านทาน
เกราะหัว : ว่างเปล่า เกราะตัว : ว่างเปล่า
กางเกง : ว่างเปล่า รองเท้า : ว่างเปล่า
เครื่องราง : แหวนแห่งพร
... ...
ผ่านมา 2 เดือนหลังจากโลกแห่งนี้แปรเปลี่ยนเป็นเกม มีเพลย์เยอร์จำนวนมากที่ท้าท้ายปราสาทจากการพิชิตหอคอยชั้นที่หนึ่ง พวกเขาหยิ่งผยองในพลังของตัวเองมากเกินไป จนนำมาซึ่งความตายในที่สุด ยอดผู้เสียชีวิตยังสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ทางรัฐบาลต้องออกมาตรการกำหนดเกณฑ์ของเลเวลขั้นต่ำเพื่อกำชับไม่ให้เพลย์เยอร์ตาย ซึ่งการตายของเพลย์เยอร์แค่หนึ่งคนส่งผลกระทบต่อโลกนี้อย่างมาก วิญญาณของเหล่าเพลย์เยอร์หรือสิ่งที่เรียกว่า "โซล" จะถูกมอนเตอร์กลืนกินเข้าไปและทำให้พวกมันมีเลเวลที่สูงขึ้นและตามมาด้วยการรับมือที่ยากขึ้นไปอีกขั้น
เลเวลของเพลย์เยอร์จะถูกแบ่งแยกคลาส
คลาส D Lv.1-20
คลาส C Lv.21-30
คลาส B Lv.31-40
คลาส A Lv.41-50
คลาส S Lv.51-80
คลาส SS Lv.81++
แน่นอนว่านี่เป็นแค่การคาดการณ์เวลาอย่างคร่าวเท่านี้ในอนาคตอันใกล้ทางสมาคมจะเร่งสร้างเครื่องวัดพลังและทำการวัดคลาสใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เกมเริ่มต้นขึ้นเพลย์เยอร์บางคนจะได้รับการสุ่มเลเวลและอาชีพ พวกเขาบางคนอาจจะมีเลเวลสูงถึง 50 หรืออาจจะ 90 เลยก็ได้ ทำให้พวกเขาได้เปรียบในการอัพเลเวลในดันเจี้ยนระดับสูงที่มีเฉพาะกิลด์เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปได้ ด้วยเหตุนี้เพลย์เยอร์หลายๆ คนต่างมองหากิลด์น้อยใหญ่ทำให้กิลด์มีอำนาจและบทบาทมากขึ้นไปอีก
ในเช้าอันสดใสชายหนุ่มกำลังนั่งอยู่ในห้องโล่งกว้างพลันใช้ผ้าขาวสะอาดเช็ดเหงื่อตามใบหน้าหลังออกกำลังกายเสร็จ
ติ๊ด… เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น
“เควสประจำวันสำเร็จ”
ได้รับ : 300 exp พอยท์สเตตัส +3
โพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตระดับกลาง 1 ขวด
โพชั้นฟื้นฟูมานาระดับกลาง 1 ขวด
รางวัลสำเร็จ 2 เดือน : กุญแจสุสานมืดมิด
คำอธิบายไอเทม : ใช้เปิดประตูดันเจี้ยนใต้เมือง จุดหมายจะถูกบันทึกไว้ในระบบแผนที่ของท่าน
Level up!
ได้รับพอยท์สเตตัส +1
จุนฮยอกมุ่งเพียงแค่ทำเควสประจำวันเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการพิชิตเกม ถึงเขาจะชื่นชอบและเล่นเกมแนวนี้มาก่อนก็ตาม แต่จะไม่ประมาทแม้แต่ก้าวเดียว เพราะนั่นหมายถึงชะตาชีวิตของตัวเขาเองต้องจบลง เหงื่อที่เปียกโชกไปทั้งตัวทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนอยากกระโจนตัวลงไปในบ่อน้ำที่เย็นเฉียบ เขาพยายามลากตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อแช่น้ำให้สบายตัวหลังจากที่อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้ว
“หนุ่มหล่อในกระจกคนนี้คือฉันจริงๆหรอเนี่ย” ภาพสะท้อนจากกระจกคือ ชายหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาล ผมสีน้ำตาลเทา สวมแค่กางเกงวอมขาสั้นเปลือยร่างกายส่วนบน เนื้อผิวละเอียดอ่อนแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อที่พอดี
“สเตตัสของฉันส่งผลมาถึงร่างกายโดยตรง เพียงแค่ 2 เดือนส่วนสูงและกล้ามเนื้อของฉันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” จุนฮยอกยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าขนาดความสูงเท่าตัวเอง
“ตัวนี้แหละ”
หลังจากเลือกชุดเสร็จ เขาคว้าโทรศัพท์ที่วางอบู่บนโต๊ะและเดินออกมาจากบ้าน จุนฮยอกสวมเสื้อฮู้ดสีดำสนิท กางเกงวอมขายาวสีเทาอ่อนๆ ทำให้เขารู้สึกคล่องตัวและเคลื่อนไหวได้อย่างกับสายน้ำ
“ปราชญ์แห่งพร แสดงแผนที่ของสุสานมืดให้ฉันที”
“เข้าใจแล้วค่ะ” ไม่ถึงเสี้ยววิ แสงสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นแสดงถึงแผนที่ของกรุงโซลทั้งหมดพร้อมระบุตำแหน่งสุสานที่ฉันมีข้อมูลเป็นสัญลักษณ์กระโหลกสีแดง
“มันถูกปักอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน โซโยซังซึ่งอยู่ห่างจากฉันราว 18 กิโลเมตร” ถ้านั่งรถแท็กซี่ไปก็คงประมาณ 1 ชั่วโมงจึงจะไปถึง แต่ชั่วขณะความคิดเล่นพิเรนทร์ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ‘ฉันอยากจะลองวิ่งทดสอบร่างกายและจับเวลาตอนไปถึงสุดๆ’ แววตาของชายหนุ่มเร่าร้อนดุจเปลวเพลิง
“แต่ก่อนหน้านั้นฉันต้องเตรียมเสบียงซะก่อน”
หลังเดินมาได้สักพักใหญ่จนพ้นซอยหน้าบ้าน เขาก็มุ่งตรงไปหาร้านซะดวกซื้อใกล้ๆ “ยินดีตอนรับเพลย์เยอร์ค่ะ” พนักงานร้านหญิงพูดอย่างกระตือลือล้น สายตาของเธอไม่ได้จับจองมาที่จุนฮยอก เขาเดินวนไปรอบๆเพื่อซื้อของกินฉุกเฉินเผื่อเอาไว้และเดินไปจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์
“ทั้งหมด 20,000 วอนค่ะ” จุนฮยอกยื่นบัตรดิตให้เธอ สายตาของเธอเหลือบมองมาที่เขาโดยบังเอิญ
‘ผู้ชายรูปร่างส่วนสูงและหน้าตาหล่อเหลาอย่างกับพระเอกที่หลุดมาจากนิยายคนนี้เป็นใครกันนะ’
“กรี๊ด…เทพบุตรชัดๆผมสีน้ำตาลปนเทานั่น ทำหัวใจฉันสั่นระรัวเลย” หญิงสาวหลุดปากพูดออกมา ใบหน้าของเธอเริ่มแดงขึ้น สายตาของคนในร้านต่างมองมาที่พวกเขาด้วยแววตาสงสัย
“ขอบคุณครับ” จุนฮยอกเอ่ยด้วยเสียงที่หวานหยดย้อยทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวยิ่งขึ้น
เธอหลบสายตาจากชายหนุ่มพรางใช้มือยื่นโทรศัพท์มาให้ “ฉันขอเบอร์ติดต่…คุณได้ไหมคะ” เธอเขินอายจนพูดตะกุกตะกักไม่เป็นคำ
“ได้สิครับ” หลังจากที่ฉันให้เบอร์ติดต่อกับเธอเสร็จฉันก็หันหลังแล้วออกมาจากร้าน
[ระบบ]
แจ้งเตือน: มีบุคคลหลงไหลในตัวคุณ 1 คน
“ของแบบนี้ไม่จำเป็นต้องแจ้งเตือนให้ฉันรู้ก็ได้”
“เข้าใจแล้วค่ะ” เฮ้อ..ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ปราชญ์แห่งพร ฉันสามารถเก็บของจากด้านนอกเข้าไปในกระเป๋าของระบบได้ไหม” จุนฮยอกเอ่ยขึ้นหัวของเขาเอียงเล็กน้อยด้วยความสงสัย
“ได้ค่ะ ท่านสามารถเก็บของทุกอย่างเข้าไปไว้ในกระเป๋าได้ตราบเท่าที่กระเป๋าของท่านยังไม่เต็ม”
“งั้นก็ดีเลย” จุนฮยอกรีบเก็บของกินเข้าไปไว้ในกระเป๋าทันที ‘ได้เวลาออกวิ่งกันแล้ว’ เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดูเวลา
12.39 น. คือเวลา ณ ตอนนี้ จุนฮยอกโน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยพร้อมสูบอากาศเข้าปอดไปเฮือกใหญ่ ทันทีที่เวลา ถึง 12.40 น. เขาออกวิ่งเต็มแรง มุ่งตรงไปที่สถานีรถไฟโซโยซัง
[สเตตัสปัจจุบัน]
ชื่อ : จุนฮยอก อายุ : 22
อาชีพ : ????
เลือด : 700
มานา : 150
: สเตตัส : เลเวล 7
พลังชีวิต 12 แข็งแกร่ง 13
ว่องไว 15 ชำนาญ 8
สมาธิ 6 โชคลาภ 9
สกิล : ปราชญ์แห่งพร, ต้านทาน
เกราะหัว : ว่างเปล่า เกราะตัว : ว่างเปล่า
กางเกง : ว่างเปล่า รองเท้า : ว่างเปล่า
เครื่องราง : แหวนแห่งพร สเตตัสทั้งหมด+5
ณ การประชุมของรัฐบาล
ภายในตึกสูงยี่สิบชั้น ณ ห้องโถงกว้างที่ตบแต่งผนังด้วยสีของกุหลาบหิมะ ฝาผนังติดด้วยสัญลักษณ์ของกิลด์ใหญ่ทั้งหกและมีผู้คนเจ็ดชีวิตกำลังนั่งสนทนาล้อมโต๊ะทรงกลม
“คุณว่ายังไงนะคุณแพกมยองมุน” ชายวัยกลางคนใส่แว่นสวมชุดสูทสีดำ กำลังเพ่งเร็งไปที่ชายวัยกลางคนและคำรามเสียงดัง
ชายวัยกลางคนที่มีผมและหนวดเคราสีส้ม รูปร่างกำยำน่าเกรงขาม ดวงตาของเขาวาววับและแหลมคมดุจดังดวงตาของสุนัขป่าในยามรัตติกาล เขานั่งกอดอกและแสดงท่าทีเย่อหยิ่ง “ผมบอกคุณไปแล้วคุณเลขาคิม กิลด์ของเราจะยอมเข้าร่วมกลุ่มพิชิตเกมก็ต่อเมื่อพวกคุณยอมยกดันเจี้ยนทั้งหมดในชั้นที่1 ให้กับเรา” สายตาคู่นั้นเย็นเฉียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายของเขาแผ่รังสีอำมหิตคุกคามออกมา คิมจองมินกลืนน้ำลายเข้าไปอึกใหญ่
หัวหน้ากิลด์หมาป่ารัตติกาล : แพกมยองมุน เพลย์เยอร์ระดับคลาส SS
“อย่ามาพูดบ้าๆ พวกเราก็ต้องการดันเจี้ยนสำหรับอัพเลเวลเหมือนกัน” หญิงสาวแสดงสีหน้าความโกรธออกมาเบาๆพลันตะคอกกลับใส่แพกมยองมุน ผมของเธอสีเหลืองทองเงางาม ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายสีฟ้าราวกับอยู่ท่ามกลางความมืดที่มีแค่ดวงดาวสีฟ้าค่อยส่องสว่างนำทาง เธอสวมชุดเกราะคุณภาพสูงครบเซ็ต
หัวหน้ากิลด์กุหลาบสีเงิน : พัมจุนซู เพลย์เยอร์ระดับคลาส SS
“ทั้งสองคนพอได้แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทำไมเราถึงไม่แบ่งให้เท่าๆกันล่ะ”
หัวหน้ากิลด์มังกรไร้หัว : ฮันจูมง เพลย์เยอร์ระดับคลาส SS
“นายคิดยังไง ซงแจ” ฮันมูจงเหลือบมองไปที่ชายหนุ่มฝั่งขวามือของเขา
“ฉันเห็นด้วย” เสียงตอบดังขึ้นเบาๆ เขาแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาชัดเจนราวกับว่าอยากจะไปให้พ้นๆจากตรงนี้สักที
หัวหน้ากิลด์เรดเดวิล : ซงแจอึน เพลย์เยอร์ระดับคลาส SS
“พวกฉันก็เห็นด้วย” ชายหญิงเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
หัวหน้ากิลด์ไนท์อาย : ซอฮยอนจา เพลย์เยอร์ระดับคลาส S
หัวหน้ากิลด์แบล็คซอร์ด : อิมแทยัง เพลย์เยอร์ระดับคลาส S
“งั้นตกลงเอาตามนี้ คุณคงไม่มีปัญหาใช่ไหมคุณแพกมยองมุน” ฮันจูมงยิ้มด้วยใบหน้าสง่างามที่แฝงไปด้วยความลึกลับ
“จะว่ายังไงก็เชิญ ฉันไม่ได้มีเวลามานั่งอยู่ตรงนี้ทั้งวันหรอกนะ” เสียงพูดอันหยาบกระด้างยังคงทำให้บรรยากาศรอบๆเย็นและเงียบสนิท
ก๊อกๆ... ทันใดนั้นประตูห้องได้เปิดออกชายวัย 40 ปีย่างกรายเข้ามาในห้องอันโถงอันกว้างขวาง เขาสวมสูทสีดำรัดกุม ท่อนร่างเป็นกางเกงยีนส์สีดำ เดินมุ่งตรงมาที่โต๊ะ
“สวัสดีทุกท่านขอโทษที่ให้รอ ผมคือประทานสมาคมพิชิตเกม นามว่าลีซึลกิขอขอบคุณทุกท่านที่มาให้วันนี้อีกครั้ง” เขาเลื่อนเก้าอี้และนั่งลง
“ผมจะขอเข้าประเด็นเลยนะครับ อย่างที่ทุกท่านทราบ เมื่อไม่นานมานี้เพลย์เยอร์จำนวนมากได้ล้มตายจากการท้าทายหอคอยชั้นที่1 แต่ทว่าไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ห้องบอสได้เลย ซ้ำร้ายพวกเขายังโดนมอนเตอร์กลืนกินโซลเข้าไปอีกทำให้พวกมันมีเลเวลที่สูงขึ้น มันเลยกลายเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถเข้าใกล้บอสได้ ในขณะที่พวกเราประชุมกันอยู่ในตอนนี้หน่วยสอดแนมฝีมือดีของผมกำลังทำการค้นหาห้องของบอสกันอยู่ คงจะได้ข้อมูลในเร็ววันนี้ ผมจึงอยากให้ทุกท่านเข้าร่วมกับพวกเราในการพิชิตครั้งนี้ ส่วนข้อตกลงคือทางเรายินดีที่จะยกดันเจี้ยนและทรัพยาการทุกอย่างให้กับพวกคุณโดยที่เราจะไม่เข้าไปยุ่งแม้แต่น้อย” หลังจากสิ้นเสียงอธิบายที่หนักแน่น
“ถือว่าเป็นข้อตกลงที่ยุติธรรมดี ถึงแม้ว่าพวกเราจะคิดเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วก็ตาม” ฮันจูมงหรี่ตาลงต่ำพลันตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“งั้นตกลงตามนี้ก็แล้วกันฝากคุณต่อด้วยเลขาคิม ผมยังมีธุระด่วนต่อ”
“ครับท่าน” ชายสูงวัยเดินหันหลังจากไปอย่างเร่งรีบ
“หลังจากได้ข้อมูลแล้ว ทางเราจะรีบแจ้งให้ทราบในทันทีครับ หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เราจะทำการร่วมตัวและพิชิตชั้นแรกทันที เนื้อหาประชุมในวันนี้มีเพียงแค่นี้ ขอบคุณทุกท่านด้วย”
“เฮ้อ…ได้เวลาไปจากตรงนี้สักที” หัวกิลด์ทั้งหมดต่างเดินออกมาจากห้องประชุมและแยกจากกันไปคนละทาง
“ถึงสักที” จุนฮยอกหายใจหอบแรงพลันใช้มือเปิดดูเวลาจากโทรศัพท์ 14.02 น.
“ฉันใช้เวลาไปราวๆ 1 ชั่วโมงกับอีก 22 นาที สำหรับการไม่หยุดพักเลยแม้แต่วินาทีเดียวก็ถือว่าเร็วใช้ได้” จุนฮยอกเริ่มค่อยๆหายใจสะดวกและโล่งขึ้น ร่างกายของเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อฟื้นฟูตัวเองจากสภาพเหนื่อยล้า
ในขณะที่เขากดเข้าไปในกระเป๋าไอเทม สายตายของเขามองไปรอบๆในสถานีโซโยซังที่เต็มไปด้วยผู้คนที่สัญจรกันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งๆที่โลกเปลี่ยนไปกลับยังมีคนที่ไม่ได้สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ พวกเขายังใช้ชีวิตประจำวันเหมือนอย่างเคย แต่ถึงยังไงการอยู่เฉยๆอาจจะดีที่สุดก็เป็นได้
[แจ้งเตือน]
ต้องการใช้กุญแจสุสานมืดมิดหรือไม่
ยอมรับ : ปฏิเสธ
“ยอมรับ” หลังจากสิ้นสุดการยืนยัน ความมืดปรากฏขึ้นมาด้านหน้าของจุนฮยอกและคลืบคลานเข้าปกคลุมตัวเขาอย่างกับโดนดึงดูดเข้าไปในมิติแห่งความว่างเปล่าอันมืดมิด
“เข้าสู่ภายในดันเจี้ยนเรียบร้อยแล้วค่ะ” รูม่านตาของฉันค่อยๆ ขยายเพื่อรับแสง ฉันเหลือบมองไปรอบๆ
“เกิดอะไรขึ้น” ผู้คนนับพันเมื่อครู่นี้หายไปไหนกันหมด แม้แต่เสียงแมลงสักตัวยังไม่มี ชายหนุ่มยังกวาดสายตาไปรอบๆ ผนังเก่าๆเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและมอส พื้นทางเดินที่ปูด้วยปูนยังมีหญ้าที่แซมทะลุออกมาเป็นหย่อมๆ
“ที่นี่กลายเป็นสถานีร้างไปแล้ว” จากจุดที่จุนฮยอกยื่นอยู่คือบันไดขั้นบนสุดเขาค่อยๆก้าวขาลงมาที่ละขั้น ทางลงที่ปกคลุมด้วยความมืดสุดลูกหูลูกตา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะสิ้นสุดตรงไหน บรรยากาศเย็นยะเยือกยันสะท้านเข้ามายันกระดูกพร้อมกับความเงียบทำเอาจุนฮยอกรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบอยู่ตลอดเวลา
“นี่ปราชญ์แห่งพร”
“ค่ะ”
“ทำไมโซโยซังถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ” จุนฮยอกคุยกับระบบขณะเดียวกันเขาก็ยังเดินลงลึกไปเรื่อยๆ
“ที่นี่เป็นดันเจี้ยนพิเศษที่ถูกจำลองมาจากสถานที่จริงค่ะ เพียงแค่อยู่คนละมิติเวลาเท่านั้น 1วันในที่แห่งนี้เท่ากับ 2 วันในโลกของความเป็นจริงค่ะ”
“เวลาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของเวลาจริงสินะ ใครกันที่เป็นคนทำแบบนี้” เขายังอดสงสัยไม่ได้
“ขอบใจมากปราชญ์แห่งพร แต่ฉันว่าชื่อของเธอมันเรียกยากไป ให้ฉันเรียกเธอว่าอะไรดี”
“ฉันถูกสร้างขึ้นจากระบบไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชื่อของตัวเองได้ค่ะ”
“งั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ตั้งให้เธอได้สิ เพราะฉันได้สิทธิพิเศษมาแล้ว” จุนฮยอกเผยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ค่ะ”
“เอาเป็น ฮยองอินเป็นไง”
** ฮยองอิน แปลว่า นักปราชญ์ **
“ค่ะ”
“ต่อไปนี้เธอคือฮยองอินแล้วก็อย่าใช้คำว่า นายท่านอีกมันดูโบราณเกินไป เรียกฉันว่าจุนก็พอ”
สิ้นสุดทางลงบันไดขั้นสุดท้ายเสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น
[ระบบ]
ชื่อเควส : หลุมศพของผู้กล้า
เงื่อนไข : กำจัดหัวหน้าศัตรูภายใน10ชั่วโมง
รางวัลสำเร็จ : เง้ารากอิสระ 3 ชิ้น โกลด์ 100,000
บทลงโทษเมื่อไม่สำเร็จ : ไม่สามารถอัพเลเวลได้เป็นเวลา 3 วัน
[แจ้งเตือน]
เควสกำลังดำเนินการนับถอยหลัง 9:59.58 วินาที
‘ลุยกันเลย’ จุนฮยอกกวาดมองไอเทมในกระเป๋าอย่างถี่ถ้วน ราวกับว่าเขาต้องการหาอะไรสักอย่าง ไม่นานนักตาของเข้าก็เบิกโพร่ง
“เอาจริงดิ” เขาคำรามเสียงดังลั่น
“ฉันเตรียมความพร้อมมาทุกอย่างแต่กลับลืมเอาอาวุธมาด้วยเนี่ยนะ” สีหน้าของเขาเวลานี้ราวกับถูกทำลายความมั่นใจที่พกมาทั้งหมด เขาได้แค่เพียงใช้มือทุบหน้าผากของตัวเองพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ชั่งเถอะ เป็นนิสัยที่เปลี่ยนไม่ได้จริงๆ เพราะแบบนี้ไงฉันเลยต้องโซโล่บอสมือเปล่าบ่อยๆ ทั้งที่ฉันไม่ได้ต้องการด้วยซ้ำ” จุนฮยอกพึมพัมกับตัวเองพลางเดินลึกเข้าไปในดันเจี้ยนเรื่อยๆ เวลายังคงนับถอยหลัง 9:54.12 วินาที
ฟิ้ว...!! จุนฮยอกเอียงหัวหลบมาด้านซ้ายปฏิกิริยาของเขารับรู้ถึงมีดสั้นปริศนาที่พุ่งเข้าหาตัว กระดูกที่กองอยู่กับพื้นค่อยๆก่อตัวกลายเป็นโครงกระดูกของมนุษย์ ในมือของมันเพียบพร้อมไปด้วยอาวุธมีด ปริมาณของพวกมันอัดแน่นเต็มโถงทางเดินของสถานีรถไฟ ไม่มีแม้แต่ช่องที่จะสามารถผ่านไปได้
“นักรบโครงกระดูก Lv.10 ” สายตาของจุนฮยอกมองเห็นข้อมูลศัตรูที่แสดงอยู่ตรงหน้า ชื่อของมันเป็นสีเขียว เขารู้ได้ทันทีว่าพวกมันไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก
“กำลังวิเคราห์การต่อ... ”
“ไม่เป็นไรฮยองอิน ฉันขอรับมือเอง” ยังไม่ทันสิ้นเสียงจากระบบ เขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา สีหน้าที่เคร่งครึมแสดงออกถึงความมั่นใจที่เต็มร้อยของเขา
พวกโครงกระดูกพยายามโจมตีเขาหลายต่อหลายที แต่จุนฮยอกสามารถหลบได้ทั้งหมด เขาเรียนรู้การเคลื่อนไหวของศัตรูได้ในพริบตา
“พวกมันเคลื่อนไหวได้ไม่เร็วนัก แต่ปริมาณของพวกมันก็เป็นปัญหาอยู่ดี” เขาใช้มือเปล่าโจมตีโครงกระดูกจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ไม่ได้ exp” โครงกระดูกค่อยๆคืนสภาพเดิมกลับขึ้นมาอีกครั้ง
“เป็นพวกอันเดดนี่เอง” เขาไม่รอช้ารีบกวาดสายตามองไปฝูงมอนเตอร์อีกครั้ง
“ชื่อของพวกมันไม่ได้มีสีเขียวแค่สีเดียว ยังมีสีเหลืองปะปนอยู่ด้วย” เขากระโจนตัวขึ้นไปบนอากาศ เพื่อเพิ่มระยะการมองเห็น สายตาของเขาจับจ้องไปที่มอนเตอร์โครงกระดูกที่กำลังร่ายเวทย์อยู่ด้านหลังสุด
“เจอตัวแล้ว” ทันทีที่ตัวของเขาลงมาถึงพื้น เขาพุ่งแหวกฝูงโครงกระดูก มุ่งตรงไปที่นักเวทย์ของพวกมัน เขาใช้มือคว้าเข้าไปที่คอของมันและกำแน่นจากนั้นใช้แรงเวี่ยงทุ่มร่างของมันลงกับพื้น โครงกระดูกที่แตกสลายแสดงถึงหินแก่นกลางของพวกมัน จุนฮยอกไม่รอช้าทุบหินนั้นทิ้งโดยทันที มอนเตอร์โครงกระดูกที่ถูกอัญเชิญมาค่อยๆสลายหายไป
“ได้ผลจริงๆด้วย แต่มันนี่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะยังเหลือพวกมันอีกเพียบ”
ได้รับ 431 exp!
"Level up! "
ได้รับ พอยท์สเตตัส +1
“ตัวละ400 คุ้มค่าเวลาสุดๆ ได้เวลาฟาร์มเลเวลแล้วละ”
[ระบบ]
คุณได้สังหาร นักเวยท์โครงกระคูก Lv.20
ได้รับ : 431 exp!
คุณได้สังหาร นักเวยท์โครงกระคูก Lv.20
ได้รับ : 431 exp! ได้รับ : 431 exp! ได้รับ : 431 exp! ได้รับ : 431 exp!
ได้รับ : 431 exp! ได้รับ : 431 exp!
Level up!
Level up!
Level up!
Level up!
ได้รับค่าสเตตัส +4
“เควสกำลังดำเนินการ…เหลือเวลา 8:32.11 วินาที”
‘บอสยังไม่โผล่มาเลยแฮะ’จุนฮยอกเปิดเช็คที่ระบบสเตตัส เขายืนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ‘เอาเป็นว่าอัพแข็งแกร่งทั้งหมดเลยแล้วกัน’
: สเตตัส : เลเวล 11
พลังชีวิต 12 แข็งแกร่ง 17
ว่องไว 15 ชำนาญ 8
สมาธิ 6 โชคลาภ 9
“ฮยองอินมีทางอื่นที่ฉันจะสามารถหาอาวุธมาใช้ได้ไหม”
“ค่ะ สามารถซื้ออาวุธและไอเทมได้ในร้านค้าของระบบ แต่เงื่อนไขจะต้องมีเลเวลถึง 20 ก่อนค่ะ”
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินแบบนั้นก็แสดงใบหน้าอดสูออกมาทันที “โธ่ ชีวิต”
เขาย่ำเท้าเดินลงมาจนถึงชั้นล่างสุดของสถานี บรรยากาศด้านในยังคงเงียบสนิท เขาหยุดซะงักที่ลานโล่งกว้าง สัญชาตญาณในการเล่นเกมของเขารู้ได้ทันทีว่าที่ตรงนี้คือห้องบอส
เพียงแค่ก้าวเดียวหลังจากจุนฮยอกขยับตัวไปด้านหน้า ดาบปริศนาพุ่งมาด้วยความเร็วปะทะเข้ากับตัวของเขาอย่างจัง
ตุบ…
ร่างของเขาพุ่งกระเด็นถอยหลังชนเข้ากับผนังกำแพงจนแตก สีหน้าของเขาซีดลงและกระอักเลือดออกมาจากปาก
ติ๊ด!
[แจ้งเตือน]
พลังชีวิตเหลือต่ำ 144/700 ทำการใช้โพชั่นฟื้นฟูอัตโนมัติ
เสร็จสิ้นการฟื้นฟู!
‘เวรเอ้ย ยังดีที่ฉันขยับหลบได้นิดหน่อยไม่งั้นได้ตายจริงๆแน่’ จุนฮยอกพยามพยุงตัวลุกขึ้น เขาเจ็บแปลบที่ศีรษะหลังชนเข้ากับกำแพง เบื้องหน้าของเขาคละคลุ้งไปด้วยฝุ่นควัน เพียงแค่สูดหายใจก็หยาบไปถึงลำคอ เงาปริศนาค่อยๆย่างกรายออกมาจากฝุ่นควัน ดวงตาสีแดงแม้อยู่ในที่มืดก็มองเห็น ร่างกายที่เน่าเปื่อยคลุมด้วยชุดเกราะและเศษผ้าสีแดงเก่าๆ ในมือลากดาบขนาดใหญ่เสียงดังเอี๊ยดอ๊าดตอนที่ขูดกับพื้นปูน จุนฮยอกได้แค่ยืนตั้งรับอยู่ห่างๆ
“อัศวินมืดอาร์กัส Lv.25” ขณะที่มันค่อยๆชูดาบขึ้นพาดที่ไหล่ด้านขวา “โฮก..!!” มันคำรามเสียงดั่ง ราวกับสัตว์ป่าที่หิวโซ
ชายหนุ่มกำมัดมือทั้งสองข้างแน่น เขาเพ่งเล็งไปที่มอนเตอร์โดยไม่ละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว ‘ชื่อของมันเป็นสี่ส้ม’ เขาข่มจิตตัวเองให้สงบลงและหลังจากนั้นก็พุ่งเข้าหาตัวของมอนเตอร์ทันที…
[ระบบ]
ชื่อ : จุนฮยอก อายุ : 22
อาชีพ : ????
เลือด : 700
มานา : 150
: สเตตัส : เลเวล 11
พลังชีวิต 12 แข็งแกร่ง 17
ว่องไว 15 ชำนาญ 8
สมาธิ 6 โชคลาภ 9
สกิล : ปราชญ์แห่งพร, ต้านทาน
เกราะหัว : ว่างเปล่า เกราะตัว : ว่างเปล่า
กางเกง : ว่างเปล่า รองเท้า : ว่างเปล่า
เครื่องราง : แหวนแห่งพร สเตตัสทั้งหมด+5
... ...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!