NovelToon NovelToon

เรื่องสั้น

ความรัก

'ในตอนเด็กผมไม่เคยเชื่อในความรัก'

นั่นคือนิยามที่ตัวของผมเอง เมื่อก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องความรัก แม้จะมีคนมากมายมาบอกว่ารักผมก็ตาม แต่ผมก็รับความรู้สึกพวกเขาไว้แต่ไม่ได้คิดจะตอบกลับความรู้สึกนั้นเลยสักนิด

'ไม่เคยคิดสักนิดเลยจริงๆ'

ในตอนเด็กๆ คุณแม่มักจะบอกผมเสมอว่า 'ความรัก' เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนล้วนต้องการในชีวิต สักวันผมก็จะเจอรักแท้ของผม

แต่ตั้งแต่ผมอยู่ประถม จนตอนนี้กำลังจะขึ้นปี1 ผมก็ยังไม่เคยเจอรักแท้นั้นเลย แม้แต่รักแรกที่คุณแม่เคยบอกผมก็ไม่เคยมี 'หรือเป็นเพราะผมไม่เคยคิดจะไขว่คว้ามันรึป่าวนะ?' คำถามเหล่านี้ล้วนลอยอยู่เต็มหัวผมไปหมด

เคยมีคนบอกผมว่าผมนั้น 'ตายด้านเรื่องความรัก ไม่เคยรักใครนอกจากการเรียน' ผมคิดเรื่องความรักของตนเองมาโดยตลอดตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ผมไม่แม้แต่จะคิดถึงมันด้วยซ้ำ

ผมเริ่มคิด ว่าบางทีผมอาจจะอยู่ได้โดยไม่มีความรัก ผมเลิกสนใจเรื่องนั้น แล้วหันไปสนใจการเรียนที่ผมรักนักรักหนา ตั้งใจตั้งใจหนานั่น จนเกรดเฉลี่ยของผมเป็นเลข4 ทุกปี

"ลูกจะย้ายไปอยู่คอนโดแล้วหรอ?"

แม่ของเดินออกมายังหน้าประตูบ้าน พร้อมกับใบหน้าที่เป็นกังวล ก็นะพวกเราอยู่กันแค่สองคน ไม่เคยอยู่ไกลกันเกินเดือนด้วยซ้ำไป

"ครับ คุณแม่ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะมาเยี่ยมคุณแม่บ่อยๆ"

ผมพูดพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นคุณแม่ของผมก็ยังทำหน้าเศร้าเช่นเดิม ก่อนจะเดินตรงเข้ามาสวมกอดผม

"ดูแลตัวเองด้วยนะลูก"

ท่านพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แค่นี้ผมก็พอเดาได้แล้ว ว่าท่านคงจะร้องไห้เป็นแน่ ผมได้ตอบกลับแม่ไป ก่อนจะเดินทางไปยังคอนโดที่ผมซื้อห้องเอาไว้

มหาวิทยาลัยที่ผมมาเรียนนั้นก็เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ใครๆ ต่างก็อยากเข้ามาเรียน ก็นะ มันเป็นมหาวิทยาลัยดังระดับต้นๆ ผมเลยพอเข้าใจ

ตึก ตึก ตึก

เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่วิ่งมาด้วยความเร็ว

"หลบหน่อยครับ!"

เสียงตะโกนดังขึ้นแต่ก็ช้าไป ชายคนนั้นได้ชนเข้ากับผมทันทีจนเขาล้มลงไป

"อ่ะ ขอโทษครับๆ พอดีผมรีบนิดหน่อย"

ผู้ชายที่มีเลือนผมสีทองดวงตาสีดำ...อา...เขาคงย้อมสีผมสินะ เขาเงยหน้ามองผมก่อนจะพูดคำหยาบออกมา

"สูงจัง น้องเป็นเปรตหรอ หรือกินเส้าไฟฟ้าเข้าไป"

"ผมไม่ใช่เปรตพี่เตี้ยเองต่างหาก หรือพี่สูงแต่แค่ขาสั้นกันนะ?"

ผมพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มเยาะเย้ยผู้ชายตรงหน้าที่เริ่มหน้าบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจ

'น่ารักจังว่ะ'

"น้องชื่ออะไร คณะอะไร"

"ถามทำไมครับ?"

"พี่ถามก็ตอบ หรือน้องป็อต?"

"ทัพ ครับ คณะแพทย์ แล้วพี่ล่ะ"

"ทำไม?"

"ผมถามชื่อพี่ไง"

"แล้วมึงถามชื่อกูทำไม"

"ทีพี่ยังถามผมได้เลย หรือที่พี่ไม่ตอบผมนี่คือพี่ไม่แน่จริงใช่มั้ย? ขี้ขลาดว่ะพี่"

"กูชื่อ เหนือ คณะแพทย์ มึงอย่ามาว่ากูขี้ขลาดนะ เดี๋ยวหน้าหล่อๆมึง จะโดนกูฝากลอยแผล"

'ตัวแค่นี้ทำเป็นซ่า' ผมคิดในใจพร้อมกับยิ้มออกมา

"แน่จริงพี่ก็ทำดิ"

...เมื่อไหร่กันนะที่เรามองพี่เขาน่ารักนะ?...

...เมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกว่าในหัวใจมันเริ่มรู้สึกแปลก เมื่อไหร่ที่เราเริ่มอยากเจอพี่เขามากขึ้น...

...เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกอยากเป็นเจ้าของของพี่เขากัน...

...'ความรู้สึกพวกนี้...มันคือความรักรึป่าวนะ?'...

.

.

.

.

.

.

'ไม่เคยสักนิดเลยจริงๆ'

'ดูเหมือนต้องลบนิยามพวกนั้นทิ้งสะแล้ว'

.

.

.

.

.

.

.

.

ความรักที่เป็นไปไม่ได้

'ชนชั้นสามารถใช้ตัดสินได้ทุกอย่าง'

รวมถึง'ความรัก'ด้วย เช่นกัน

ใครจะว่าหรือจะแย้งยังก็ช่าง เพราะตัวของข้าเคยพบเจอและถูกตัดสินเรื่องความรักจากชนชั้น

เมื่อหลายปีก่อน ตัวของข้าเคยตกหลุมรักบุตรสาวของตระกูลขุนนางเข้า นางมีเสน่ห์ น่ารัก สดใสร่าเริง ที่ข้าตกหลุมรักนางก็เพราะนิสัย แต่นั่นก็ส่วนหนึ่ง จริงๆแล้ว ข้าเลยได้รับความช่วยเหลือจากนาง มันคงจะเป็นความประทับใจแรกก็ได้มั้ง

หลังจากนั้น ข้าก็เริ่มตามพัฒนาความสัมพันธ์กับนาง ถึงจะอยู่แล้วว่าข้านั้นต่ำกว่านางแค่ไหน แต่ข้าก็พยายามจนในทีีสุด เราก็ได้คบกัน แต่ก็แค่ลับๆเท่านั้น เพราะพ่อแม่ของนางค่อนข้างโหดและหยิ่งยโส นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราสองคนไม่สามารถบอกครอบครัวของนางได้ รวมถึงคนอื่นๆ มันอึดอัดที่ต้องปกปิดแบบนี้ แต่ข้าก็ดีใจเพราะอย่างน้อยเราก็ยังได้อยู่ด้วยกัน

พอนานเข้า เหมือนคนในรอบตัวพวกเราจะเริ่มรู้เรื่องของพวกเราสองคน พวกเราจึงได้คิดแผน แผนที่เราจะหนีไปอยู่ด้วยกันสองคนในที่ที่ไกลแสนไกล ข้าได้หาข้อมูลและวางแผนอย่างดีเก็บเงินเตรียมพร้อมสำหรับทุกอย่าง

พวกเราจะหนีกันไปในตอนที่พวกเราเรียนจบ

แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับข้า ครอบครัวของนางได้จับนางหมั้นหมายกับลูกขุนนางอีกตระกูล....นั่นจึงทำให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันน้อยลง แต่ข้าก็อดทน อดทน และอดทนรอนาง...

'แม้ตัวของข้าจะเริ่มรู้สึกว่าความรักนางมีให้ข้าน้อยลง'

และพอยิ่งนานวันเข้า นางเปลี่ยนไป นางเลือกที่จะหลบหน้าข้า เลือกที่จะไม่พูดคุยกับข้า และนางเลือกที่จะอยู่กับชายผู้นั้นแทนที่จะเป็นข้า ข้าทำได้เพียงแค่มองดู ในอกก็รู้สึกอึดอัด อึดอัดจนกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่ มันทรมานที่ต้องอดทน แต่ข้าก็ต้องอดทน เพราะตอนนี้จะด่วนตัดสินใจไม่ได้ ข้าจะรอ จะรอ จะรอ และจะรอจนกว่าจะถึงวันที่เรานัดหมายกันไว้

และในวันนั้นก็มาถึง

สองมือเอื้อมไปลูบไล้ม้าที่เตรียมไว้สำหรับหนีออกจากเมือง ก่อนจะชะงักและหันไปมองยังต้นเสียงของฝีเท้าที่เริ่มเดินเข้าใกล้ทางเขาขึ้นเรื่อยๆ

"เฟีย"

เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อของร่างบางหน้าตาสะสวยที่ถูกแสงจันทร์สาดส่องลงบนใบหน้า

'อา ตกหลุมรักใบหน้านี้อีกแล้ว แต่....'

ในขณะที่ตัวของชายหนุ่มกำลังครุ่นคิดด้วยความหลงไหลแต่เขาก็ต้องคัดค้านขึ้นมาในใจ และในขณะนั้นเสียงเรียกชื่อเขาก็ดังขึ้น

"ละ...เลโอ"

เขาจ้องมองใบหน้านั้นก่อนจะยิ้มออกมา ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่เตรียมมาแล้วก่อนหน้านี้

"พร้อมรึยัง"

หญิงสาวที่ได้ยินดัังนั้นก็ชะงักลงและเริ่มทำท่าทางกระวนกระวาย

'อา...มันเริ่มชัดเจนแล้ว'

'จู่ๆ ก็รู้สึกอึดอัดในอกอีกแล้ว อึดอัดจนอยากจะร้องไห้ออกมา'

"เป็นอะไร แล้วไหนกระเป๋าเจ้าล่ะ?"

แต่ชายที่ชื่อเลโอก็เลือกที่จะทำเป็นไม่รู้ และทำตัวปกติ ถามคำถามออกไปเซ่อซ่าโดยแอบก่นด่าตนเองในใจ

"เลโอ...คือ...."

หญิงสาวก็ยังทำท่าทางกระวนกระวายและพยายามจะพูดอะไรออกมา แต่เธอก็กลืนคำพูดนั้นลงไป

"เจ้าเป็นอะไร? วันนี้เจ้าแปลกๆนะ เรียกชื่อข้าเสียบ่อยเชียว มีอะไรรึ?"

หญิงสาวมองใบหน้าของเลโอที่กำลังยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ตนเอง และในที่สุดเธอก็เลือกที่จะพูดออกมา

"เลโอ ฉันขอโทษ"

'ชัดเจนแล้ว มันชัดเจนแล้ว อดทนอีกนิด ฟังมันต่อไป'

แค่คำพูดเดียวที่ยังไม่มีคำอธิบายก็เหมือนถูกมีดแทงทะลุอก ในขณะที่เขารู้สึกเช่นนั้น หญิงสาวก็ได้พูดต่อ

"เลโอข้าขอโทษจริงๆ ข้าน่ะ...ข้าน่ะ...รักวิลเลียม"

"อื้ม ข้ารู้แล้ว"

"อะไรนะ!"

เธอมองหน้าของเลโอด้วยความตกใจก่อนที่น้ำตาเธอจะหลั่งไหลออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของเลโอที่กำลังยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนและอบอุ่น

"ตะ...ตั้งแต่เมื่อไหร่...."

"ตั้งแต่ที่เจ้าเริ่มออกห่างจากข้าและอยู่ติดกับคุณวิลเลียม"

"แต่เจ้าก็ยังที่จะ..."

น้ำตาของหญิงสาวรินไหลออกมา

'อย่าร้องนะ ในอกข้ารู้สึกเหมือนจะถูกฉีกอยู่แล้ว'

"ข้าอยากได้ยินจากปากเจ้า"

เลโอพูดขณะที่มือกำลังลูบไล้ม้าตัวสีน้ำตาลโดดเด่น

"ฮึก..เลโอ เลโอ ข้าขอโทษ"

หญิงสาวพูดซ้ำๆ และทรุดลงบนพื้นพร้อมกับน้ำตา

"อืม"

เลโอตอบกลับก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้า

"ขอให้ความรักของเจ้ามีแต่ความสุขนะที่รักของข้า"

เขายิ้มออกมาพร้อมน้ำตาก่อนจะควบม้าออกไป ทิ้งให้หญิงสาวรู้สึกปวดใจและนั่งคร่ำครวญอยู่บนทางรถม้า

กุบกับๆ

เสียงม้าวิ่งไปตามถนน ลมเย็นที่กระทบหน้าเรียว น้ำตาที่เออคลอเริ่มไหลรินไปตามแก้มทั้งสองข้าง เลโอหยุดม้าและเริ่มร้องไห้ปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้น เขารู้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เขาก็เคยไปเจรจากับพ่อแม่ฝ่ายนั้นแล้ว แต่คำตอบที่ได้ก็ไม่ต่างจากที่คาดไว้

'ไม่เหมาะสม ชนชั้นมันต่างกัน'

.

.

.

.

ในวันที่อากาศอบอุ่น บนถนนเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้นานาชนิด

'งานสมรสของพวกขุนนางช่างยิ่งใหญ่เสียจริง'

ร่างสูงที่แต่งตัวมิดชิดยืนมองคู่รักที่กำลังยิ้มกันอย่างมีความสุขข้างบนระเบียงคฤหาสน์

'เหมาะสมกันจริงๆ วิลเลียมและเฟีย'

ที่ข้ามาไม่ใช่เพราะยังอาลัยอาวรณ์แต่ที่ข้ามาเพราะจะมามองดูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ข้าจะจากเมืองนี้ ไปอยู่ในสถานที่ไกลแสนไกลกับครอบครัวของข้า ครอบครัวที่เหมาะสม และพวกเราสองคนจะไม่มีวันได้พบเจอกันอีก

'ลาก่อนตลอดกาลเฟีย ผู้เคยเป็นดั่งแสงสว่างและบทเรียนที่ข้าจะจำไปตลอดชีวา'

.

.

.

.

.

.

.

.

ด้ายแดงแห่งโชคชะตา

คำเตือน: มีการพูดถึงเรื่องทางเพศ,มีการบรรยายถึงSex

'ด้ายแดง' เป็นสิ่งที่จะเชื่อมโยงระหว่างเรากับบุคคลหนึ่งที่เป็น'คู่แห่งโชคชะตา' ที่ไม่ว่าจะไม่ได้คบกันแต่สุดท้ายก็ต้องวนมาพบเจอ ไม่ว่าจะทะเลาะกันถึงเพียงไหนก็จะกลับมารักกันเหมือนวันวาน ทุกคนจึงเรียกมันว่า"ด้ายแดงแห่งโชคชะตา" ด้ายแดงจะเริ่มเชื่อมกันและกันในวัย15ปี ไม่ก็20ปี โดยมันจะผูกอยู่ที่นิ้วนางและไม่สามารถตัดได้

แต่..

ตัวของเราไม่มีด้ายแดง ตอนแรกก็แค่คิดว่าน่าจะยังไม่เจอคู่ของตนเองในตอนนี้ฉันก็ก้าวสู่วัย30ปีแล้ว และวันนี้ก็เป็นวันเกิดครบ30ปี ของฉัน

"สุขสันต์วันเกิดครับหัวหน้า"

ชายหนุ่มวัย20ปลายๆได้พูดอวยพรพร้อมกับเดินถือเค้กมายังโต๊ะทำงานของหัวหน้าตนเอง

"....."

ผมเงยหน้ามองคนผู้เดินมาด้วยรอยยิ้มยิ้มแย้มแจ่มใส

"แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู~"

รุ่นน้องของผมก็ได้ยืนร้องเพลงให้ผมจนจบเพลงก่อนจะเอ่ยปากให้ผมเริ่มอธิฐานและเป่าเทียน ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะอธิฐานและเป่าเทียน

"หัวหน้าครับ! เย็นนี้เราไปกินเลี้ยงกันเถอะครับ!!"

"ไม่ว่าง"

"ไม่ใช่ว่างานหัวหน้าเหลือแค่งานนั้นงานเดียวหรอกหรอครับ🤔"

"รู้ดีจริงๆ อาๆ ก็ได้"

"เย้!"

/หลังเลิกงาน/

"หัวหน้า!! ไปกันเถอะครับ!!"

หลังจากที่ผมเห็นรุ่นน้องตัวดีของผมวิ่งยิ้มหน้าบานมาผมก็ยกแขนขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้ถึงเวลาเลิกงานพอดี ผมจึงเก็บของและเดินตามรุ่นน้องของตนเองไป

"หัวหน้ารู้มั้ยครับร้านที่ผมกำลังจะพาหัวหน้าไปอร่อยมากเลยนะครับ แถมยังมีพนักงานพาร์ททามคนหนึ่งที่หล่อมากๆด้วยล่ะครับ"

ในขณะที่กำลังเดินไปยังจุดหมายรุ่นน้องของผมก็ชวนคุยเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบงันแต่ผมก็ทำเพียงแค่รับฟังและนิ่งเงียบจนมาถึงยังจุดหมาย

"ถึงแล้วล่ะครับ!"

ผมมองไปยังร้านตรงหน้า ตกแต่งค่อนข้างดีมีความทันสมัยเรียบง่ายและสะอาดสะอ้าน ผมค่อนข้างพอใจเลยจึงได้ก้าวเท้าเข้าไปในร้านพร้อมกับลูกตัวดีและเดินไปยังโต๊ะที่พวกผมจองไว้

หลังจากที่พวกผมสองคนนั่งลงบนเก้าอี้ไม่นาน พนักงานก็เดินมุ่งหน้ามาโต๊ะพวกผมและถามถึงเมนูที่ต้องการจะสั่งพร้อมกับที่รุ่นน้องของผมลุกขึ้นขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

'อา...ยังเด็กอยู่เลยไม่ใช่รึไง? เป็นพนักงานพาร์ททามรึป่าวนะ?'

ในขณะที่ผมกำลังตกลงสู่ห้วงแห่งความคิดผมก็สัมผัสได้ถึงแววตาที่กำลังมองมาที่ผมแบบที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อนนั่นจึงทำให้ผมหลุดออกมายังห้วงแห่งความคิดและจ้องกลับไปมองบุคคลที่กำลังมองมาที่ผม

เด็กหนุ่มที่อายุประมาณ20ปี สูงประมาณ185+ กำลังมองมาที่ผมด้วยสายตาแปลกๆที่คาดเดาไม่ได้ผมจ้องใบหน้าเขากลับนั่นจึงทำให้ผมถูกใบหน้าหล่อนั้นดึงดูดเข้าโดยไม่ทันที่ตนเองจะรู้สึกตัวด้วยซ้ำ

"ตกหลุมรักผมหรอครับ"

ในขณะที่ผมกำลังเหม่อมองใบหน้านั้นก็ไม่ทันได้รู้ตัวว่าบุคคลตรงหน้าเข้ามาใกล้หน้าของผมขนาดนี้ ด้วยความตกใจจึงเผลอผลักใบหน้านั้นไปอย่างไม่ตั้งใจ

แต่คนตรงหน้ากลับยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์และแนะนำตนเองให้ตัวของผมได้รู้จัก

"ผมชื่อ พี นะครับ อายุ20 และยังไม่มีคู่โชคชะตา"

เด็กคนนั้นพูดพร้อมกับยกนิ้วนางให้ดูเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ายังไม่มีคู่จริงๆ

"เทพ อายุ30 และฉันก็ไม่ได้อยากรู้ว่านายมีคู่รึยังด้วย"

"ผมก็นึกว่าคุณอยากรู้ซะอีก"

ในระหว่างที่พวกผมกำลังคุยกันรุ่นน้องที่ทำงานของผมก็กลับมาพอดี

"หัวหน้าครับขอโทษด้วยนะครับ ผมต้องกลับไปหาแฟนผมน่ะครับ เขากลับมาจากต่างประเทศแล้ว แล้วแฟนผมก็ฝากมาแฮปปี้เบิร์ธเดย์หัวหน้าด้วยนะครับ"

"ฝากทักทายกับขอบคุณแฟนนายด้วยล่ะ"

"รับทราบครับ!"

เขาตอบกลับผมก่อนจะรีบวิ่งออกจากร้านไป

"เขาไปแล้วแบบนี้คุณจะทานข้าวกับใครล่ะครับ?"

ในขณะที่ผมกำลังมองรุ่นน้องของผมวิ่งออกไป คนที่เป็นคู่สนทนาของผมก่อนหน้านี้ก็เอ่ยปากถาม

"คนเดียวสิถามได้"

ผมพูดก่อนจะเริ่มสั่งอาหาร เด็กตรงหน้าผมก็เริ่มจดจนถึงเมนูสุดท้ายที่ผมสั่ง

"วันเกิดคุณทั้งทีทานคนเดียวไม่เหงาหรอครับ งั้นไหนๆก็ไหนๆแล้วผมขอมาฉลองด้วยนะครับวันนี้วันเกิดผมด้วยเหมือนกัน นี่ก็ถึงเวลาเลิกงานของผมพอดีด้วย"

เขาพูดโดยไม่มีช่องว่างให้ผมได้ปฏิเสธเลยสักนิด พอเขาพูดจบเขาก็เดินหนีไปทันที

'อะไรของเจ้าเด็กนี่?'

ไม่นานนักเด็กที่มีนามว่า พี ก็เดินมาที่โต๊ะพร้อมกับอาหารในมือและชุดธรรมดาที่ไม่ใช่ชุดของพนักงาน

"มาทานกันเถอะครับ"

เขาพูดขึ้นพร้อมกับรินไวน์ใส่แก้วของผม

"ใครเขาอนุญาตให้มานั่งด้วยไม่ทราบ?"

แต่เด็กตรงหน้าผมก็ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวและยังกินอาหารอย่างสบายใจ นั่นจึงทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจและเริ่มทานอาหาร

พวกเรานั่งกินอาหารจนเสร็จ มือผมจึงเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบและนั่นจึงทำให้ผมสังเกตเห็นแววตาของพีที่มองมาที่ผมแปลกๆ

ผมลุกขึ้นและเตรียมออกจากร้าน

"จะกลับแล้วหรอครับ"

พีลุกตามผมและรีบเดินมายืนข้างๆผม

"ใช่ ไม่มีเหตุผลอะไรให้ฉันอยู่ต่ออยู่แล้ว"

ในขณะที่ผมพูดเจ้าเด็กที่ยืนอยู่ข้างๆผมก็ยิ้มแปลกๆออกมาและมือของมันก็เริ่มที่จะซุกซนขึ้น

"เอามือออกไปจากเอวฉัน"

"ผมแค่กำลังพยายามทำความรู้จักกับคุณเองนะครับ"

"ทำความรู้จักโดยการจับเอวคนอื่น?"

"ผมจับตรงอื่นก็ได้"

หลังจากที่เด็กนั่นพูดจบมันก็บีบก้นผมเต็มแรงจนผมต้องสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

"ไอ้เด็กเวรนี่!"

"ไปที่อื่นกันดีกว่าครับ!"

:เนื้อหาต่อไปนี้มีการบรรยายถึงเรื่องกิจกรรมทางเพศ

พีพูดพร้อมกับแบกเทพขึ้นไหล่และเดินออกไปจากร้านและมุ่งหน้ามายังโรงแรม

"มาที่นี่ทำไมปล่อยฉันลง!"

"ทำความรู้จักกันไงครับ คุณรู้ไรมั้ยผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเห็นเลยนะ"

ในขณะที่เทพกำลังฟังพีพูดไปเรื่อยเขาก็ได้สังเกตเห็นว่ามีด้ายแดงจางๆอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของตนนั่นจึงทำให้ตัวของเขาอึ้งจนไม่ทันระวังและถูกอีกฝ่ายโยนลงบนเตียง

"!!"

เทพรีบยันตัวเองขึ้นมานั่งแต่ก็ถูกพีคร่อมทับและเริ่มใช้มือลูบไล้ไปทั่วทำให้เทพบิดเร้าไปมาด้วยความวูบวาบ และมันก็เริ่มเกินเลยขึ้นมาเรื่อย

"อื้อ!!"

ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงไฟจากหัวเตียงที่กำลังส่องสว่างก็ได้มีเสียงมากมายที่คอยทำลายความเงียบงันของความมืด

"พะ...พอแล้ว...ฮึก!!"

ในขณะที่เทพพูดก็ถูกพีกระแทกสวนขึ้นมาจนต้องจิกหลังของอีกฝ่ายด้วยความตกใจและความเจ็บปวดจากช่องทางข้างล่าง

"จะ...เจ็บ"

"อีกนิดนะครับ"

พีพูดพร้อมกับเริ่มจูบไปทั่วร่างของชายวัยกลางคนด้วยความหลงไหลและความมัวเมาในSexที่ไม่เคยได้สัมผัส ค่ำคืนที่แสนวิเศษก็ได้ดำเนินไปจนถึงเช้า

เทพลืมตาขึ้นมาและมองไปยังบุคคลที่นอนกอดตนอยู่ เทพเริ่มสงสัยเกี่ยวกับภาพก่อนหน้านี้ที่มีด้ายแดงจางๆบนนิ้วนางของตนจึงยกมือขึ้นมาดูและใช่

'ด้ายแดงเส้นนั้นมันเข้มขึ้นและเข้มมาก'

เทพรีบลุกขึ้นนั่งจนทำให้คนที่นอนอยู่ตื่น เขาเริ่มมองตามด้ายแดงที่เชื่อมอยู่กับบุคคลหนึ่งและใช่

'มันเชื่อมกับพี'

พียิ้มออกมาและเข้ามาจูบคนที่นั่งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

.

.

.

.

.

.

.

.

'ทำไมต้องเป็นไอเด็กนี่ด้วย'

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!