ฮาโหลววววว สวัสดีนักอ่านทุกคนนะคะ! นิยายฝันถึงดวงจันทร์แต่เดิมเขียนอยู่ใน read a write ครั้งนี้ได้มาลงใน mangatoon นับว่าตื่นเต้นจริงๆ เพราะว่าถึงแม้ว่าจะเล่นแอพนี้มาตั้งนานแต่ไม่เคยได้ลงนิยายตัวเองสักที55555

รอบนี้ได้ขายนิยายตัวเองสักที! เห้อเหนื่อยย แต่ก็ขอฝากเรื่องนี้ให้ได้อยู่อ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ

(นักเขียนคนนี้รักนักอ่านที่น่ารักทุกคนนะค้าาาา~)

ย้อนกลับไปเมื่อคริสตศักราช 1997ตระกูล 2 ตระกูลที่เป็นตระกูลคู่ค้าขายและรู้จักกันอย่างดี 2ตระกูลนั้นคือตระกูล บาร์รอน และ ตระกูล แอดดิสัน  2 ตระกูลนี้จึงตัดสินใจทำพันธสัญญาอารอนด์กัน โดยมีตระกูลหนึ่งที่จับจ้องตระกูลพวกเขาอย่างเงียบๆนั่นคือตะกูลเซอร์เวนท์นั่นเอง.... ต่อมาจึงมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อหัวหน้าตระกูลแอดดิสันหรือ วิลเลี่ยม แอดดิสัน ถูกลอบสังหารที่ถนนเวย์เมืองนิโคลัส ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนไปทั้งตระกูลและตระกูลแอดดิสันจึงคิดว่าตนะกูลบาร์รอนคือผู้ที่สังหารหัวหน้าตระกูลแอดดิสัน

ตระกูลบาร์รอนจึงเสนอให้ตระกูลแอดดิสันเจรจากันที่ศาล แต่ในขณะนั้นเองก็มีทายาทสองตระกูลมากพบกันนั่นคือเดวิด แอดดิสัน และ เออร์เกรย์ บาร์รอน เมื่อเด็กสองคนนี้ได้มาเจอกันจึงเกิดความรู้สึกผูกพันธ์อย่างบอกไม่ถูก เด็กสองคนนี้จึงมาสัญญากันต่อหน้าดวงจันทร์ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดจึงเกิดขึ้นเมื่อศาลตัดสินว่าตระกูลที่พ้นจากความผิดคือตระกูลบาร์รอนแอนนี่ผู้ซึ่งเป็นมารดาของเดวิดจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายในตึกร้างตามวิลเลี่ยมหรือผู้เป็นบิดาของเดวิดไป เหตุการณ์นี้จึงทำให้เดวิดสะเทือนใจเป็นอย่างมากนับแต่นั้นมา   

ต่อมาในคริสตศักราช 2011 เดวิดจึงใช้ความรู้ของตนเองมาสมัครสอบเข้าเป็นนักสืบในเครือของตระกูล เซอร์เวนท์ ส่วนเออร์เกรย์ก็ได้เป็นนักฆ่าในเครือของตระกูล เซอร์เวนท์ เช่นกัน โดยจุดประสงค์ที่เขาทำอย่างนี้ก็เพื่อหาคนที่เขาได้สัญญาด้วยกันเมื่อยังเด็ก แต่ทว่าตระกูลเซอร์เวนท์กลับอยู่ในเงื้อมือของตระกูลแอนด์ดรูว์ซึ่งเป็นตระกูลที่ไม่มีใครกล้ายุ่งและเป็นตระกูลที่ร่วมมือกันตระกูลเซอร์เวนท์เพื่อจัดการตระกูลแอดดิสันและตระกูลบาร์รอน แต่สุดท้ายตระกูลเซอร์เวนท์ก็คือผู้ที่โดนหลอก แต่ทว่าใครจะคิดว่าสองคนนี้จะพบกันในเวลาปฏิบัติงาน

พวกเขาจะจำกันได้หรือเปล่านะ....แล้วพวกเขาจะสมหวังกันหรือเปล่านะ

"อาหารมาเสิร์ฟแล้วครับ!" พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งเดินมาเสิร์ฟอาหารจานหรูบนโต๊ะของแขกที่มาเยือน

เสียงดังมาทางห้องครัวของร้านอาหารชื่อดังในเมืองบรันสันเดวิดพนักงานหนุ่มธรรมดาแต่ความจริงแล้วเขาคือนักสืบของตระกูล เซอร์เวนท์ ที่รัฐบาลนั้นสร้างมาให้อยู่ในการอุปถัมภ์ของตระกูล เซอร์เวนท์

"คุณครับ...คุณ!" แขกคนนั้นตะโกนเรียกเดวิดที่กำลังยืนเหม่อมองหน้าเขา

"อ่ะ...เอ่อครับอันนี้อาหารของคุณครับ" เดวิดวางจานอาหารในมือของตนเองลงบนโต๊ะ

"ไม่เป็นไรครับ" ชายคนนั้นกลับไม่ได้คิดอะไรมาก

'คนนี้คือใครกัน!?ทำไมถึงรู้สึกผูกพันกับเขาแปลกๆ?'

เดวิดกลับยืนจ้องหน้าชายตรงหน้าเขาแต่เหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เดวิดคนเดียวที่คิดแบบนั้นฝ่ายชายตรงหน้าเขาก็กลับมีความรู้สึกแปลกๆทั้งๆที่เจอกันครั้งแรก

'เขาคือใคร?ทำไมหน้าตาคุ้นๆ?' ชายคนนั้นคิดในใจ

"ผมขอตัวก่อนนะครับ" เดวิดที่รู้สึกว่าตนเองคงหลอนแล้วคิดในสิ่งที่บ้าๆจึงจะกลับไปในห้องครัว

"เดี๋ยวก่อนครับคุณ!" ชายคนนั้นคว้าตัวเดวิดอย่างเสียมารยาท

"ครับ?" เดวิดหันขวับ

"ถ้าคุณไม่ว่า ผมขอทราบชื่อคุณได้ไหมครับ" ชายคนนั้นถามออกมา

"ผมชื่อเดวิดครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" เดวิดที่ไม่ได้คิดอะไรมากจึงจะกลับไปยังห้องครัวเหมือนเดิม

' 

เมื่อเออร์เกรย์หรือชายคนนั้นทราบชื่อของพนักงานตรงหน้าเขาเสร็จเขาก็ได้ทานอาหารมื้อเที่ยงและกลับไปยังการประชุมของรัฐบาล 

เมื่อยามวิกาลมาเยือนหมอกราตรีต่างกระจายทั่วเมืองดั่งเป็นคลื่น เหล่ารัฐบาลต่างเห็นด้วยกันว่าจะให้ เออร์เกรย์ เซอร์เวนท์ และ อิงค์ เซอร์เวนท์ พร้อมกับเหล่าผู้ช่วยสืบตาม โรเบิร์ท  ฟอกส์ ที่ลอบซื้อขายผิดกฎหมายกับผู้ขายยาจากต่างแดน

"คุณอิงค์ครับจะไปดักตรงจุดไหนครับ?" ผู้ช่วยคนขับรถของเขาถาม

"คุณโจชัวร์พาผมไปจุด A ก่อนครับแต่ถ้าไม่สำเร็จตามแผนจะไปจุด B ครับ" เดวิดนั่งไขว่ห้างแล้วดูเส้นทางตรงหน้าเขาไป

"รับทราบแล้วครับคุณชาย!" 

"ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วครับ ถ้าเราอยู่ด้วยกันแค่สองคนให้เรียกผมว่าเดวิดก็พอ ไม่ต้องเรียกคุณชายหรอกครับ" เดวิดหันมาทางโจชัวร์

แต่ทว่าทางด้านฝั่งของเออร์เกรย์กลับกันแล้วแผนการที่เขาคิดออกมาคงไม่ได้คิดให้ดีเท่าฝ่ายนักสืบที่คิดแผนออกมาอย่างกับอัจฉริยะคน

"คุณเออร์เกรย์ครับ อุปกรณ์พร้อมแล้วครับจะลงมือเลยไหมครับ?" ผู้ช่วยคนหนึ่งถามเขาออกมา

"ลงมือ....." เออร์เกรย์บอกไวท์เบาๆ

"ครับ!!!" ไวท์และเบล็คพูดพร้อมก่อนจะลงมือ

เมื่อลมพัดมายังไม่ทันจะจางหายกลุ่มของปีศาจราตรี(กลุ่มของเออร์เกรย์)กลับเคลื่อนไหวไปตามทิศทางของหมอกแต่ฟากฝั่งของอิงค์ ก็ยังไม่คิดที่จะลดถอยจากเงาดำที่เคลื่อนที่ตามรถของเขาอย่างไม่หยุดยั้ง...