...
...ใครเชื่อว่าผีมีจริงบ้าง ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ และไม่เห็นด้วยกับคำว่า ' ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ ' ที่ใครๆ พากันอ้างเวลาที่คนอื่น...
ไม่เชื่อในเรื่องลึกลับที่ตัวเองเชื่อ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
...ปีนี้ฉันเป็นนักเรียนชั้น ม.2 แล้ว โรงเรียนประจำจังหวัดที่...
เรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก พ่อกับแม่เลยตัดสินใจซื้อจักรยานให้ฉันขี่ไปโรงเรียน เพราะเห็นว่าโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายกำชับเสียมากมายในวันที่ฉันขี่จักรยานไปโรงเรียนวันแรก
..."อย่าขี่ให้เร็วนักล่ะ ระวังรถด้วย" แม่เตือน...
..."มีจักรยานแล้วก็อย่าเถลไถลกลับบ้านค่ำๆ ถนนมืดๆ มันอันตราย"พ่อกำชับบ้าง...
..."เวลาขี่จับเบรกไว้ให้ดีๆ ล่ะ" แม่สั่ง...
^^^และอีกหลายประโยคที่พ่อกับแม่ผลัดกันเตือนจนฉันจำ^^^
แทบไม่ไหว สรุปว่าการมีจักรยานไม่ได้ทำให้พ่อกับแม่ห่วงฉันน้อยลงเลย
...อีกคำเตือนมาในวันที่ฉันขี่จักรยานเข้าไปจอดในที่จอด...
จักรยาน คือคำเตือนของลุงยามประจำโรงเรียน
..."วันไหนฝนตกหนัก จั๊กจั่นร้องเสียงดัง หลังตะวันลับฟ้า...
...อย่าอยู่ในโรงเรียน ระวังจะเจอดี"...
...เป็นคำเตือนที่ฟังดูแปลกและทำให้ฉันรู้สึกหวั่นๆ เจอดีของ...
...ลุงยามหมายถึงอะไร แต่ไหนแต่ไรลุงยามไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ ที่จอดจักรยานอยู่ลึกไปทางด้านหลังของโรงเรียนบรรยากาศเงียบสงบกว่าด้านหน้าโรงเรียนมาก เพราะไม่ค่อยมีนักเรียนมากนัก ยิ่งหลังเลิกเรียนแถวนี้ยิ่งเงียบเพราะนักเรียนที่จอดจักรยานไว้มาเอาจักรยานกลับบ้านไปจนหมด วันไหนที่ต้องอยู่ทำเวรตอนเย็นหรือทำรายงานให็เสร็จ เวลาเดินมาเอาจักรยานคนเดียว ฉันยังอดรู้สึกถึงความเงียบเชียบของบริเวณนี้ไม่ได้ โชคดีที่ฉันไม่ใช่คนขี้กลัวหรือขวัญอ่อน...
...ทุกวันหลังเลิกเรียนถ้าไม่มีกิจกรรมอะไร นักเรียนส่วนใหญ่มักออกจากโรงเรียนและตรงกลับบ้านไม่ค่อยมีใครเถลไถลที่ไหน เวลาตอนเย็นหลังพระอาทิตย์ตกในกรุงเทพกับต่างจังหวัดนั้นบรรยากาศ แตกต่างกันสิ้นเชิง จังหวัดเล็กๆ ที่ฉันอยู่ เวลาค่ำมักมืดและมาเร็วกว่าปกติ เพราะไม่มีแสงสีคอยขับไล่ความมืดมิดของค่ำคืนช่วงนี้เริ่มมีข่าวลือแปลกๆ ในโรงเรียนเกี่ยวกับที่จอดจักรยานมีคนได้ยินเสียงโซ่จักรยานดังทั้งที่ไม่มีใครขี่อยู่แถวนั้นหรือ อยู่ดีๆจักรยานที่จอดอยู่ก็ล้มลงไปทั้งที่ไม่มีลมพัดหรือใครไปกระแทกแม้แต่น้อย จากเรื่องลือเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้หลายคนเริ่มกลัว ไม่กล้าไปที่จอดจักรยานตอนเย็นคนเดียว...
...ฉันไม่เห็นว่าเรื่องที่ลือกันจะน่ากลัวตรงไหน ก็แค่ความ...
บังเอิญของสายลมและบรรยากาศที่จินตนาการกันไปเท่านั้นเอง
...เพราะบางเวลาที่ลมฤดูร้อนพัดแรงจนฝุ่นตลบ ใครๆ ก็รู้...
ว่าจักรยานที่จอดไว้ไม่ดีอาจล้มลงได้ บางทีก็ล้มไปทับคันอื่นที่จอดติดกันเป็นโดมิโนไปทั้งแถวก็มี ถ้าเป็นอย่างหลัง คนที่ไปจอดจักรยานในเวลานั้นก็ต้องรับภาระยกจักรยานทั้งแถวให้ตั้งขึ้นใหม่ทีละคน โชคดีที่ฉันไม่เคยเจอเรื่องแบบนั้น
...ข่าวลือเรื่องลึกลับในโรงเรียนยังมีมาเรื่อยๆ และเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าต้นตอที่แท้จริงมาจากไหน และเรื่องที่เล่ามีข้อพิสูจน์จริงๆ หรือเปล่า เมื่อเรื่องเดิมเงียบหายไป ก็มีเรื่องใหม่ มาแทน ฉันตัดสินใจเก็บเรื่องที่ลุงยามพูดไว้ไม่เล่าให้เพื่อนฟัง เพราะไม่งั้นคงมีคนเอาไปลือกันจนกลายเป็นเรื่องน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกเรื่องแน่ๆ ข่าวลือเรื่องผีล่าสุดมาถึงหูฉันในเช้าวันต่อมา คนที่เอาข่าวมาบอกก็คือแหม่ม...
...เล่ากันว่าเคยมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถบรรทุกตรงโค้ง...
มรณะก่อนถึงโรงเรียน ผู้หญิงที่ถูกชนกำลังขับรถมารับลูก พอตายวิญญาณยังก็ห่วงกลัวไม่มีใครมารับลูก กลางคืนจึงมาวนเวียนอยู่หน้า โรงเรียน บางทีก็ยืนโบกรถอยู่ตรงโค้งมรณะเพื่อขออาศัยมาลง ที่โรงเรียน พอรถมาส่งก็หายตัวไปเฉยๆ
...ล่าสุดมีนักเรียนคนหนึ่งกลับบ้านค่ำ เห็น ผู้หญิง นั่งอยู่...
หน้า โรงเรียน ถามว่ามารอใคร ผู้หญิงคนนั้นบอกว่ามารับลูกนักเรียนคนนั้นจะไปตามให้ หันกลับมาอีกทีผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไปแล้ว
..."น่ากลัวเนอะ"...
...แหม่มทำท่าทางหวาดกลัวทั้งที่เป็นคนเล่า...
เอง แถมยังว่าฉันมัวแต่ไปอยู่ไหนมาถึงไม่รู้เรื่องนี้
..."จะรู้ไปทำไมล่ะ ตัวเองนั่นแหละกลัวผีแล้วยังชอบฟังเรื่อง...
แบบนี้อีก"
...ฉัน บ่นแหม่มงอนที่ฉันไม่สนใจเรื่องที่เล่า บอกว่าทีหลังถ้ามีเรื่องดีๆ จะไม่เล่าให้ฉันฟังอีก...
..."เรื่องผีนี่เรียกว่าเรื่องดีๆ ตรงไหน"...
...ฉันคิดในใจแต่ไม่ได้เถียง...
...แหม่มออกไปไม่รู้เลยว่าตัวเองนี่แหละจะเป็นคนได้เจอเรื่องดีๆ แบบนี้เข้าจังๆ...
...ผ่านไปไม่ถึงสองสัปดาห์ ข่าวลือเรื่องมีผีผู้หญิงที่ทำให้หลายคนกลัวจนไม่กล้ากลับบ้านค่ำๆ และไม่กล้าเดินผ่านไปทางโค้งมรณะค่อยๆ เงียบหายไป ทุกคนหันมาสนใจเรื่องใหม่คือการเตรียมตัวสอบกลางภาคที่กำลังจะมาถึง...
...วันหนึ่งอาจารย์จินตนาซึ่งเป็นอาจารย์ประจำชั้นเรียกฉัน...
...ให้ ไปพบ เพราะมีงานจะให้ช่วยทำหลังเลิกเรียน เป็นงานจัดเตรียมอุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์และเตรียมเอกสารในการสอบ อาจารย์ไว้ใจฉัน และไม่อยากให้มีนักเรียนคนอื่นเข้าไปยุ่มย่ามในห้องพักครูในช่วงเตรียมข้อสอบ ฉันเต็มใจช่วยอาจารย์แต่ปัญหาก็คือฉันต้องกลับบ้านช้ากว่าปกติ บรรยากาศเย็นย่ำในโรงเรียนเงียบเหงากว่าปกติ ไม่มีใครเถลไถล ไม่มีนักเรียนอยู่ในสนามที่จอดจักรยานมีรถเหลืออยู่แค่สามคัน คือ ของฉันของลุงยาม และจักรยานสีฟ้าเก่าๆ อีกคันที่จอดอยู่ด้านในสุด...
..."ยังมีคนไม่กลับบ้านอีกหรอ"...
...ฉันคิดในใจ ก่อนจะไขกุญแจจักรยานและรีบขี่กลับบ้านให้เร็วที่สุด ป่านนี้พ่อกับแม่คงเป็นห่วงฉันแล้ววันต่อมาฉันอยูช่วยงานอาจารย์จนใกล้ค่ำเหมือนเดิม แต่วันนี้ยังมีเด็กผู้ชายสี่ห้าคนเตะฟุตบอลอยู่ในสนาม ฉันเดินตรงไปยังลานจอดจักรยานหลังโรงเรียนที่แม้จะเงียบเหงาแต่ก็ยังมีไฟเปิดสว่าง ฉันถอยจักรยานออกจากลานจอดและรีบปั่นกลับบ้านเหมือนเดิม...
วันต่อมาฉันอยู่ช่วยงานอาจารย๋จนใกล้ค่ำเหมือนเดิม แต่วันนี้ยังมีเด็กผู้ชายสี่หัาคนเตะฟุตบอลอยู่ในสนาม ฉันเดินตรงไปยังลานจอดจักรยานหลังโรงเรียนที่แม้จะเงียบเหงาแต่ก็ยังมีไฟเปิดสว่าง ฉันถอยจักรยานออกจากลานจอดและรีบปั่นกลับบ้านเหมือนเดิม
วันสุดท้ายที่ฉันต้องอยู่ช่วยอาจารย์ งานเสร็จช้ากว่าทุกวันฉันจึงกลับบ้านค่ำกว่าสองวันแรกบรรยากาศในโรงเรียนเงียบเชียบ ไม่มีนักเรียนเหลืออยู่ในสนามสักคน แต่ฉันไม่รู้สึกกลัวคงเพราะเริ่มชินกับการกลับบ้านค่ำจักรยานฉันจอดอยู่โดดเดี่ยว ไม่มีจักรยานของลุงยามจอดเป็นเพื่อนเหมือนเคย แต่ก่อนจะเลี้ยวรถออกจากที่จอด สายตาฉันเหลือบไปเห็นว่ายังมีจักรยานจอดอยู่อีกคัน
...จักรยานสีฟ้าเก่าๆ คันนั้น!...
ในทึ่สุดช่วงเวลาแห่งการสอบกลางภาคก็ผ่านพ้นไปบรรยากาศร่าเริงสนุกสนานในโรงเรียนกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ถึงเวลาที่ฉันจะได้เอาคืนเสียที...
เมื่ออาทิตย์ก่อนสอบมีครแอบปล่อยลมยางจักรยานของฉันจนล้อทั้งสองข้างแบนติดพื้นถึงไม่มีใครยอมรับว่าเป็นคนทำ แต่ฉันก็พอเดาได้ว่าต้องเป็นนายตี๋ หัวใจกของห้องห้อง 2/2 ที่ชอบแกล้งปล่อยลมยางจักรยานคนอื่นประจำ
......"นายเป็นคนปล่อยลมจักรยานของฉันใช่มั้ย......
ฉันไปดักรอตี๋ที่ห้องเรียน
......"กล่าวหากันแบบนี้ มีหลักฐานหรือปล่าว"......
ตี๋ทำหน้ายียวน ทำให้ฉันยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องเป็นตัวการ เมื่อเอาคืนแบบตรงๆ ไม่ได้ ฉันจึงเอาคืนแบบแสบๆ โดยอาศัยข่าวลือเรื่องผีที่ทุกคนกลัว รอจังหวะที่ตี๋มาเข้าห้องน้ำคนเดียว โดยฉันให้แหม่มเป็นคนดูต้นทางให้ ส่วนฉันเข้าไปแอบในห้องเก็บของใกล้ๆ มีช่องเล็กๆ มองเห็นด้านนอกได้ พอตี๋เดินมาใกล้ฉันก็แกล้งทำของตกเสียงดัง ฉันแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อเห็นตี๋สะดุ้งโหยงสุดตัวและรีบเดินผ่านไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ขากลับตี๋ต้องผ่านทางเดิมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ฉันทำของตกอีกครั้ง และแกล้งปิดหน้าต่างเสียงดัง
..."ช่วยตามหาลูกฉันให้หน่อย~ ฉันจะมารับลูกฉันกลับบ้าน~"...
ฉันแกล้งบีบเสียงยานๆ เท่านั้นแหละตี๋ก็วิ่งแบบไม่คิดชีวิต แหม่มที่แอบดูอยู่บอกว่าหน้าของตี๋ตอนกลัวผีนั้นตลกสุดๆ
วันรุ่งขึ้นข่าวลือเรื่องผีห้องเก็บของก็ระบาดไปทั่วโรงเรียนแถมยังลือต่อกันไปอีกว่าเป็นผีที่มารอรับลูกหน้าโรงเรียนๅ ข่าวนี้ทำให้เด็กผู้ชายต้องเกาะกลุ่มกันไปเข้าห้องน้ำด้วยกันอยู่หลายวัน ส่วนตี๋ก็ถูกเพื่อนล้อเรื่องกลัวผีจนหายซ่าไปซักพักใหญ่ หลังจากที่ฉันได้แก้แค้นตี๋แล้ว ก็ไม่มีใครเจอผีห้องเก็บของอีก ไม่มีใครรู้เบื้องหลังเรื่องนี้นอกจากฉันกับแหม่ม ไม่นานทุกคนก็ลืมเรื่องผีห้องเก็บของ และฉันก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์น่ากลัวอะไรเกิดขึ้นอีก
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!