เว่ยเว่ย สาวนักศึกษาฝึกงานที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง กำลังขับเวสป้าคันโปรดไปทำงานจู่ๆ ก็มีรถยนต์พุ่งมาชนเธอตกเหวข้างทาง ร่างเธอและรถร่วงดิ่งลงเหวทันที
“ตู้มม”
ลู่เหวินเยียนกำลังหาปลาเพื่อเป็นอาหารเย็นให้ครอบครัวอยู่ จู่ๆ ก็มีบางอย่างตกลงมาจากฟ้าตรงหน้าเขา เห็นเป็นหญิงสาวแต่งตัวประหลาดนอนหมดสติอยู่ เขาจึงรีบช่วยเหลือแล้วอุ้มกลับบ้าน
“ท่านแม่ แม่นางคนนี้ตกน้ำหมดสติขอรับ”
นางลู่มารดาของลู่เหวินเยียนได้ยินเสียงร้องเรียกจึงออกมาดู
“เหยียนเหยียน ผู้ใดกันแต่งกายประหลาดนัก”
“ไม่ทราบขอรับ ข้าหาปลาอยู่ที่ลำคลองนางผู้นี้ตกลงมาจากฟ้าตรงหน้าข้า”
“แม่ดูแลนางเอง เจ้าไปอาบน้ำเถอะ”
“ท่านแม่ข้าได้ปลามา 4 ตัวข้าจะต้มชุปปลาตัวหนึ่ง อีก 3 ตัวข้าจะเอาไปขายนะขอรับ”
“ตามใจเจ้า อ่อ..เอาผ้าปักไปส่งให้เถ้าแก่เนี๊ยร้านผ้าด้วยนะ”
“ได้ขอรับ”
นางลู่อยู่กับบุตรชาย 2 คน สามีนางไปเป็นทหารแต่เสียชีวิตที่สนามรบหลายปีแล้ว ครอบครัวนางยากจนมาก มีลูกชายเพียงคนเดียวที่เป็นเสาหลัก หากนางไม่มีบุตรชายคนนี้นางคงตายตามสามีไปนานแล้ว ครอบครัวนางไม่มีรายได้มากมายลูกชายเข้าป่าล่าสัตว์ หาปลาไปขายในตลาด รับจ้างทั่วไป ส่วนนางลู่ปักผ้าให้ลูกชายนำไปขายที่ร้านขายผ้า พอได้ซื้อข้าวสารมาเก็บไว้
นางลู่เช็ดเนื้อเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวแปลกหน้า โชคดีที่ใส่เสื้อผ้าของนางได้พอดี เสร็จแล้วไปเตรียมอาหารไว้รอบุตรชายกลับมาจากตลาด
เว่ยเว่ยหลับไป 3 วันเต็ม รู้สึกตัวว่าคอแห้งมาก
“แค่กแค่ก นะ..น้ำ…ขอน้ำหน่อย”
เพราะนอนนิ่งมาหลายวันทำให้นางลู่และบุตรชายร้อนใจ จึงไปตามหมอในเมืองมาดู หมอตรวจดูอาการแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ที่นางยังไม่ฟื้นเขาก็ไม่รู้สาเหตุเช่นกัน
เมื่อนางฟื้นทุกคนเลยดีใจมาก นางลู่ประคองให้เว่ยเว่ยลุกนั่ง ใช้ช้อนตักน้ำให้นางดื่ม เว่ยเว่ยได้ดื่มน้ำสักพักก็ดีขึ้น เหยียนเหยียนไปทำข้าวต้มง่าย ๆ มาให้คนป่วยกิน
“ข้าวต้มมาแล้วขอรับท่านแม่”
เว่ยเว่ยมองเห็นชายหญิงสองคนแต่งตัวโบราณ ๆ จึงถามเสียงเบาด้วยความสงสัย
“ที่นี่ที่ไหนคะ”
“เจ้ากินข้าวเสียก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน”
เว่ยเว่ยยังมึน ๆ งง ๆ อยู่ กินข้าวเสร็จแล้วก็ตามด้วยยาต้มขม ๆ เว่ยเว่ยเป็นคนกินยาง่าย ขมแค่ไหนเธอก็กินได้
“แม่หนูเจ้าชื่ออะไรรึ”
“เว่ยเว่ย”
“ข้าแซ่ลู่ นี่เหยียนเหยียนลูกชายข้า เหยียนเหยียนบอกว่าเจ้าตกลงมาจากฟ้า”
เว่ยเว่ยมีอาการปวดหัวขึ้นมาทันที
“ขะ..ข้าจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้แต่ว่ากำลังจะออกไปทำงานเท่านั้น รู้สึกตัวก็อยู่ที่นี่แล้ว”
“เจ้าพักผ่อนเถอะ หายดีแล้วค่อยว่ากัน”
นางลู่เอ่ยขึ้น แม้ไม่รู้ที่มาทีไปของสตรีผู้นี้ แต่นางก็รู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก
วันถัดมาอาการของเว่ยเว่ยดีขึ้นมากแล้ว จึงอยากลุกเดินออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายบ้าง นอนติดเตียงมาหลายวันแล้วเธอรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวยิ่งนัก เว่ยเว่ยสังเกตุเห็นว่าบ้านหลังนี้เก่าทรุดโทรมมาก จะเรียกบ้านก็ไม่ถูกนัก กระท่อมหลังเล็ก ๆ เสียมากกว่า มีเพียง 2 ห้อง เธอนอนห้องหนึ่งท่านน้าลู่นอนอีกห้องหนึ่ง แล้วพี่เหยียนไปนอนที่ไหนล่ะ เธอเดินออกมาจากกระท่อมมองดูรอบ ๆ ก็มีแต่ป่า
“เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนะ”
เว่ยเว่ยยืนคิดอยู่คนเดียวสักพักก็นึกบางอย่างได้ เธอฝันว่าเธอเดินไปในป่าที่นี่แน่นอน เธอจึงตัดสินใจเดินไปตามทางที่เธอฝัน เธอเดินไปในป่าเรื่อย ๆ ช่วงที่เธอหลับอยู่หลายวันนั้นเธอฝันว่าเธอเดินมาทางนี้ เดินไปเรื่อยในฝันว่าเธอหยุดตรงนี้ คลับคล้ายว่าเธอเจออะไรสักอย่าง แต่ในฝันก็ไม่ชัดเจนว่าเธอเจอกับอะไรเธอจึงก้มมองหาจนทั่ว
“ในฝันเราหาอะไรนะที่ตรงนี้ โสมซานซีนี่นา ถังเช่า! เห็ดเป๋าฮื้อ (คล้ายเห็ดนางฟ้าแต่โคนอวบใหญ่) "
เธอตัดสินใจยังไม่ขุดโสมไป แต่เธอเก็บเห็ดกลับไปพอประมาณ เอาไปผัดทำอาหาร ส่วนโสมกับถังเช่าเดี๋ยวเธอจะชวนพี่เหยียนมาขุดให้เขานำไปขาย ตอบแทนครอบครัวลู่ที่ช่วยเหลือชิวิตเธอ
เธอกลับมาถึงบ้านก็เห็นน้าลู่และพี่เหยียนนั่งหน้าเครียดกันอยู่หน้าบ้าน เกิดอะไรขึ้นกันนะ
“ท่านแม่นั้นเว่ยเว่ยกลับมาแล้ว”
ลู่เหวินเหยียนเห็นเว่ยเว่ยเดินออกมาจากป่า ถือบางอย่างมาด้วยนางลู่เห็นเว่ยเว่ยกลับมาอย่างปลอดภัย ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เว่ยเว่ยเจ้าไปไหนมา ท่านแม่ตามหาเจ้าไปทั่วทั้งหมู่บ้าน”
เว่ยเว่ยยิ้มน่ารักประจบนางลู่
“ข้านอนหลายวันรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว จึงลุกเดินออกกำลังกายน่ะ”
“เจ้าเดินเล่นในป่านั้นงั้นรึ มันใช่ที่เดินเล่นรึไง”
นางลู่เป็นห่วงมากกลัวว่านางจะได้รับอันตราย นางอยู่กับลูกชายกันแค่สองคนมานาน ลูกชายก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน มักจะออกไปล่าสัตว์แล้วนำไปขายในเมืองกว่าจะกลับมาก็เย็นแล้ว นางปักผ้าอยู่บ้านอย่างเงียบเหงามาตลอด เมื่อมีเด็กสาวมาอยู่เพิ่มขึ้นทำให้นางมีความสุขไม่มากน้อย ถึงแม้จะไม่รู้ที่มาที่ไป นางก็ไม่อยากจะถามขอแค่นางอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุยบ้าง นางก็ดีใจมากแล้ว นางและลูกชายมาซื้อที่ปลูกบ้านอยู่ที่เชิงเขาแห่งนี้ ที่ตรงนี้ราคาถูกที่สุด จึงห่างไกลผู้คนมาก นางลู่จึงไม่มีเพื่อนบ้านเลย
“ท่านน้าตอนข้าหลับไหลอยู่นั้น ข้าฝันทุกวัน ว่าเดินไปตรงนั้นตรงนี้ วันนี้ข้าก็เลยลองเดินไปดูที่หนึ่งพบบางอย่างเข้าน่ะ”
เว่ยเว่ยก้มมองเห็ดในมือ ทุกคนก็มองตาม
“เห็ด เจ้าเก็บมาทำไมน่ะ”
ลู่เหวินเหยียนถามด้วยความสงสัย เห็ดชนิดนี้มีมากในป่า แต่ก็ไม่มีใครเก็บมาปรุงอาหาร
“นี่คือเห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดเป๋าฮื้อมีประโยชมากเลยนะ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยปรับสภาพความดันโลหิต ป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย ป้องกันโรคหวัด เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยรักษาโรคกระเพาะช่วยป้องกันโรคท้องผูกมีส่วนช่วยลดการอักเสบ ประโยชทางยามีมากมาย แต่เราเอามาปรุงอาหารอร่อยมากๆ”
“เว่ยเว่ยในฝันเจ้าไปเก็บสิ่งนี้เหรอ”
“เปล่าๆ ในฝันแต่ละที่ไม่รู้ว่ามีสิ่งใด เดินๆ ไปแล้วก็หยุดมอง ที่เหลือข้าก็หาเอาเองว่ามันมีสิ่งใด”
เว่ยเว่ยรู้สึกแปลกใจทุกวันลู่เวินเหยียนจะออกไปล่าสัตว์แล้ว กว่าจะกลับก็ค่ำมืด แต่วันนี้เขากลับยังอยู่ที่นี่
“พี่เหยียนวันนี้ท่านไม่ไปล่าสัตว์เหรอ”
“ไปแต่พี่ลืมของจึงกลับมา เห็นท่านแม่กระวนกระวายตามหาเจ้าพอดี”
“ท่านน้า ข้าขอโทษที่ไปไหนโดยไม่บอกกล่าว”
เว่ยเว่ยทำเสียงอ่อนน่าสงสาร
“ช่างเถอะๆ คราวหน้าจะไปไหนให้บอกน้า หรือไม่ก็ให้เหยียนเหยียนพาเจ้าไป ห้ามไปคนเดียวอีก”
“ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ งั้นวันนี้พี่เหยียนก็ว่างแล้วใช่หรือไม่ ไปกับข้าดีกว่าวันนี้ท่านต้องได้เงินมากกว่าไปล่าสัตว์อีกเป็นแน่"
“ได้ ไหนๆ ก็สายแล้วไปตอนนี้คงจะไม่ได้อะไร ไปดูกับเจ้าสักหน่อยก็ได้”
“พี่เหยียนเตรีอมอุปกรณ์ขุดสมุนไพรไปด้วย เผื่อข้าด้วย”
“ได้ รอเดี๋ยวนะ ท่านแม่ท่านอยู่บ้านนะ เดี๋ยวข้ากลับมา”
ลู่เวินเหยียนเตรียมตระกร้าใบเล็กใส่หลังให้เว่ยเว่ย เขาถือตระกร้าใบใหญ่ใส่หลังไปพร้อมกับอุปกรณ์ขุดทั้งหมด
"ไปกันเถอะ"
เว่ยเว่ยพาลู่เหวินเหยียนมายังที่มีโสมและถั่งเช่า ลู่เหวินเหยียนเห็นก็ตกตะลึงตาค้าง นี่มันโสม โสมซานชีป่าหัวใหญ่ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีสิ่งนี้อยู่ที่นี่
“พี่เหยียนอย่ามัวตะลึงรีบขุดเถอะ ข้าจะขุดถั่งเช่า ท่านขุดโสมเสร็จแล้วก็มาช่วยข้าขุดถั่งเช่าให้ได้มากที่สุด”
ลู่เหวินเหยียนขุดโสมบริเวณนั้นอย่างระมัดระวังจนหมดมีทั้งหมด 5 ต้น แล้วรีบมาช่วยเว่ยเว่ยขุดสิ่งที่นางเรียกว่าถั่งเช่า
“เว่ยเว่ยเจ้าสิ่งนี้คืออะไรหรือ”
“มันคือหญ้าหนอน หน้าหนาวเป็นหนอนหน้าร้อนเป็นหญ้า หากเราไม่เก็บไปในตอนนี้ มันจะกลายเป็นหนอนในหน้าหนาว ใช้ประโยชอะไรไม่ได้เลย”
“เอาไปทำอะไร”
ลู่เหวินเหยียนไม่รู้จัก และไม่เคยได้ยินชื่อชนิดนี้
“ประโยชมากมาย เช่นกัน ส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ โรคตับ ไต ความดัน ไขมันสูง อาการภูมิแพ้ ผู้ที่มีภาวะเครียดสะสม ปวดหัว นอนน้อย ที่สำคัญเลย ยังมีส่วนช่วยบำรุงท่านชาย อึดสู้ เหมือนเป็นวัยรุ่นอีกครั้งด้วยนะ”
เว่ยเว่ยร่ายยาวได้อย่างหน้าตาเฉย ส่วนอีกคนหน้าแดงแป้ด เว่ยเว่ยตั้งอกตั้งใจขุดถั่งเช่าก็ไม่ทันได้สังเกตุ หน้าของลู่เหวินหยียน
ลู่เหวินเหยียนไม่กล้าถามอะไรอีก นางให้ขุดก็ขุดจนบ่ายคล้อยทั้งสองยังไม่ได้กินข้าว จึงหยุดการขุดไว้เพียงเท่านี้
“พี่เหยียนพอแค่นี้ก่อนเถอะ ข้าหิวข้าวเรากลับไปบ้านกันก่อนเถอะ วันหน้าค่อยมาขุดอีก พรุ่งนี้พี่ค่อยเอาโสมไปขายในเมือง”
“พี่จะเข้าเมืองวันนี้เลยเจ้ากลับบ้านก่อน ข้าจะไปส่งเจ้าที่บ้าน เหลือกับข้าวไว้ให้พี่ด้วยแล้วพี่จะรีบกลับมา”
“อื้ม พี่เหยียน ดอกโสมซานชีข้าเห็นมันมีต้นละดอก ท่านเด็ดดอกแยกขายนะ”
“ได้ๆ ไปกันเถอะ”
เว่ยเว่ยให้ลู่เหวินเหยียนเก็บใบไม้ทับต้นโสมไว้ นางก็เอาใบไม้มาทับถั่งเช่าแล้วเก็บเห็ดวางทับอักที แล้วก็พากันเดินกลับบ้าน
“วันนี้ข้าจะทำเมนูเห็ดให้ทุกคนกินนะ”
“เจ้าทำกับข้าวเป็นด้วยรึ”
“เป็นสิ แต่จะอร่อยหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง”
“หึหึ..เจ้าทำอะไรข้าก็กินได้ทั้งนั้นแหละ”
“แล้วอย่ามาบ่นที่หลังก็แล้วกัน อ่อ พี่เหยียนขากลับพี่ซื้อเมล็ดพืชมาให้ข้าด้วยนะ เน้นๆ เมล็ดทานตะวัน”
“ได้สิ”
ลู่เหวินเหยี่ยนมาส่งเว่ยเว่ยถึงที่บ้าน แล้วเปลี่ยนย้ายโสมมาใส่ตระกร้าใบเล็กของเว่ยเว่ยโดยถั่งเช่าอยู่ล่างสุดแล้วเอาใบไม้มาวางขั้น เอาโสมวางลงในชั้นที่สองแล้วเอาใบไม้วางทับอีกชั้นส่วนดอกใว้ด้านบนสุดเอาใบไม้ห่อประคองดอกไม่ให้ช้ำเสียหาย
เว่ยเว่ยก็เข้าครัวทำอาหาร เว่ยเว่ยอยากกินตุ๋นไก่ใส่เห็ดจึงให้น้าลู่ฆ่าไก่ให้1ตัว เกิดมาเธอไม่เคยฆ่าไก่เธอจึงทำไม่เป็น งานหินๆ เช่นนี้จึงเป็นของนางลู่ ทั้งสองทำกับข้าวกันอย่างสนุกสนาน เว่ยเว่ยผัดเห็ดสองจานใหญ่ เธอบอกน้าลู่หุงข้าวมากหน่อยเพราะเธอหิวมากๆ กับข้าเสร็จพอดีกับลู่เหวินเหยียนกลับมาพอดี เขามีอาการเหม่อลอยเดินมาถึงบ้านตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้อีกทีก็เห็นหน้าทั้งสองมายืนอยู่ด้านหน้าแล้ว เขามีอาการสะดุ้งเล็กน้อย
“เป็นไงบ้างพี่เหยียนเหนื่อยไหม”
เว่ยเว่ยช่วยปลดตระกร้าออกมาจากหลังของลู่เหวินเหยียน เขายิ้มกลับยิ้มกว้าง
“ท่านแม่ เว่ยเว่ยเข้าบ้านเร็วเข้า ข้ามีเรื่องจะบอก”
ลู่เหวินเหยียนฉุดทั้งสองเข้าไปในบ้าน ปิดประตูลงกลอน เดินมาที่โต๊ะกินข้าวเอาเงินทั้งหมดมากองไว้ นางลู่เบิกตากว้างเมื่อเห็นเงินมากมายกองอยู่ตรงหน้า เว่ยเว่ยก็ตื่นเต้นเช่นกัน
“พี่เหยียนทั้งหมดนี่เท่าไรเจ้าคะ”
"โสมซานชีอายุ500ปีหัวละสองพันตำลึงทอง มีทั้งหมดห้าหัวรวมเป็นเงินหนึ่งหมื่นตำลึงทอง ส่วนดอกมีห้าดอก ราคาดอกละ 100 ตำลังทอง ถั่งเช่า จินละสองพันตำลึงทอง มี4จินกับ1เหลียงข้าเอาแค่4จินที่เหลือก็แถมให้เขาเพราะเราไม่ได้ล้างทำความสะอาด ในตอนนี้เงินที่กองอยู่ตรงหน้าทั้งหมด18,500 ตำลึงทอง"
“ว้าว ไม่คิดว่าจะได้ราคาดีขนาดนี้”
“เงินทั้งหมดนี้มันเป็นของเจ้าเว่ยเว่ย”
“ไม่ๆ ท่านไปขุดข้าไปขุด เช่นนั้นก็คนละครึ่งนะ อ่อไม่สิ ข้าเอาแค่ห้าพันพอ ข้าอยากให้พี่เหยียนสร้างบ้านใหม่ หน้าหนาวจะได้ไม่ลำบาก ท่านซื้อที่เพิ่มอีกสักหน่อย ข้าอยากให้ท่านสร้างบ้านแบบตรงกลางว่างไว้ข้าปลูกผักตอนหน้าหนาว เดี๋ยวข้าจะวาดแบบให้”
“ได้สิอ้อ! ที่ร้านยานั้นน่ะเขาบอกว่ารับซื้อถั่งเช่าไม่อั้น โสมถ้ามีอีกเขารับหมด”
“เราเว้นช่วงบ้างสักหน่อยก็ได้ อีกสักสามวันเราค่อยเอาไปขาย เราไปช่วยกันขุดแต่เช้าสักหน่อย ห่อข้าวไปกินด้วยนะรอบหน้า”
“เดี๋ยวแม่จะไปช่วยขุดด้วยนะ”
นางลู่พูดอย่างตื่นเต้น
“ข้าว่าตอนนี้เรากินข้าวกันเถอะ ข้าหิวแล้ว”
เว่ยเว่ยโอดครวญ ท้องของเธอก็ร้องโครกคราก เสียงดังทุกคนต่างหัวเราะพร้อมกัน
“เว่ยเว่ยเห็ดนี่มันอร่อยมากเลย”
นางลู่และเหยียนเหยียนชมไม่ขาดปาก
“อร่อยก็กินเยอะๆ เจ้าค่ะ”
วันนี้ทุกคนกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย ลู่เหวินเหยียนเติมข้าวหลายรอบจนข้าวหมดหม้อ เว่ยเว่ยพึ่งจะรู้ว่าลู่เหวินเหยียนนอนที่ห้องกินข้าว เดิมห้องที่เธอนอนนั้นเป็นห้องเขา แต่ก็ต้องเสียสละให้เธอนอน เธอรู้สึกทราบซึ้งกับครอบครัวนี้มาก เงินทองก็ไม่ค่อยจะมี ยังตามหมอมารักษาเธออีก เธอตอนแทนก็สมควรแล้ว ตัวเธอก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน มาได้อย่างไร เธอคงต้องอาศัยอยู่ที่นี่ไปจนกว่าเธอจะกลับไปได้ หากกลับไปไม่ได้ ก็คงต้องแล้วแต่วาสนาจะนำพา
เมื่อทุกคนกินอิ่มกันหมดแล้วก็ช่วยกันเก็บกวาดล้างจาน ลู่เหวินเหยียนก็มาช่วยเว่ยเว่ยล้างจานด้วย นางลู่มองแล้วเกิดมีความคิดบางอย่างขึ้นในใจ รอให้บ้านสร้างเสร็จก่อนนางจะขอเว่ยเว่ยแต่งเข้าบ้าน นางคิดโดยไม่สนใจที่มาที่ไปของเว่ยเว่ย ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหนนางและลูกชายพึงพอใจเสียอย่าง ก็ไม่ต้องสนคนอื่น เพราะคนอื่นไม่ได้มาซื้อข้าวให้นางกิน
เช้าวันรุ่งขึ้นนางลู่ตื่นมาหุงข้าว และทำซาลาเปาโดยมีลู่เหวินเหยียนนวดแป้งให้ เว่ยเว่ยทำข้าวข้าวผัดใส่เห็ด เห็ดผัด เห็ดชุบแป้งทอดเธอทำกับข้าวเสร็จก็ยกมาที่โต๊ะกินข้าว นางลู่ยกซาลาเปาตั้งไฟนึ่งไว้ กินข้าวเสร็จก็สุกพอดี แล้วค่อยห่อไปกินในป่า วันนี้ทั้งหมดจะไปขุดถั่งเช่ากัน
แล้วก็อีกเช่นเคยข้าวผัดเห็ดใส่เนยหมดเกลี้ยง อาหารที่โต๊ะก็หมดเช่นกัน
“หากเป็นเช่นนี้ข้าต้องเป็นหมูแน่ๆ เลยขอรับท่านแม่”
ลู่เหวินเหยียนเอ่ยขึ้นทุกคนต่างหัวเราะคิกคัก นางลู่เดินไปดูซาลาเปา เว่ยเว่ยและเหยียนเหยียนเก็บถ้วยชามไปล้าง นางลู่เก็บซาลาเปาใส่ปิ่นโตเตรียมน้ำดื่มไว้เรียบร้อย เมื่อทั้งสองล้างถ้วยชามเสร็จก็สะพายตระกร้าคนละใบทันที
เมื่อทุกคนมาถึงที่หมาย ก็ตั้งหน้าตั้งตาขุดทันที หิวก็กินซาลาเปาและน้ำชา เหยียนเหยียนก่อไฟต้มชาไว้ตั้งแต่มาถึงที่นี่แล้ว ขุดทั้งวันถั่งเช่าก็ยังไม่หมด แต่ก็ได้มามากเกือบเต็มตระกร้าทั่งสามใบ แต่แล้วทุกคนก็ต้องหยุดมือ เพราะต้องรีบออกจากป่าถ้าออกจากป่ามืดค่ำเกรงว่าจะหลงป่าเอาได้
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!