NovelToon NovelToon

กลรักเกมลวง Deceptive Game Love

Chapter 1 แค่เริ่มต้น

ร่างสูงของหญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูเดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งที่มีขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป แล้วพบกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ด้านในห้องนั่งเล่น

"ป๊าสวัสดีค่ะ"

เธอกล่าวคำทักทายชายผู้นั้นแล้วเขาก็ยืนขึ้นกอดเธอด้วยความอบอุ่นไม่นานก็ถอนกอดออกจากกัน

"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเรา ตั้งแต่ได้ทุนเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศแล้วทำงานที่นั่น กลับมาคราวนี้สวยกว่าเดิมเลยนะลูกสาวป๊า.."

"ไม่ขนาดนั้นหรอกค้าา.."

"ไม่รู้จะลาออกทำไม มีงานทำที่นั่นก็ดีอยู่แล้ว"

"อยากกลับมาอยู่กับป๊าอ่ะ คิดถึงป๊า.."

กอดผู้เป็นพ่ออีกครั้งด้วยความคิดถึง

“ป๊าว่ามันถึงเวลาที่จะบอกลูกแล้วแหละพชร..”

“บอกอะไรคะ”

“คนที่เป็นพ่อของลูกจริงๆแล้วไม่ใช่ป๊า”

“ป๊าว่าไงนะ!!!”

แสดงสีหน้างุนงงสับสนออกอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินชายผู้ที่ตนเรียกว่าพ่อบอกว่าเขาไม่ใช่พ่อแท้ๆของเธอ

“ได้ยินไม่ผิดหรอก พ่อของลูกจริงๆเค้าคือประธานบริษัทเจเวลรี อันดับต้นๆของไทย”

“ป๊าโกหกเกรซใช่มั้ยคะ”

เธอกล่าวทวนถามให้แน่ใจว่าสิ่งที่พ่อของเธอพูดบอกกับตัวเองนั้นเป็นเพียงแค่การโกหกเท่านั้น

“จริงง..พ่อของเกรซมันขืนใจม้าจนท้อง”

“ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่มีคนนับหน้าถือตา เบื้องหลังมันจะเป็นคนแบบนั้น”

“เกรซ..ไม่ควรจะไปว่าเค้าแบบนั้น ถึงยังไงเค้าก็เป็นพ่อแท้ๆของเกรซ”

พูดตักเตือนลูกสาวไม่ให้มีความคิดโกรธแค้นบุคคลที่ตัวเองพูดพาดพิงถึงเพื่อบอกความจริงที่ปิดบังเอาไว้มาตลอดหลายปี

“พ่อหรออ..ป๊าคือพ่อของเกรซคนเดียว คนอื่นไม่ใช่..”

กล่าวจบก็วิ่งออกไปจากบ้านโดยทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ในบ้านทั้งที่พึ่งจะกลับมาถึงที่นี่เป็นวันแรก แล้วชายผู้นั้นที่เธอเราเขาว่าพ่อก็ค่อยๆเผยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกมา

.

.

.

ร่างเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งก้าวเท้าเดินออกไปจากบริษัทเจเวลรีโดยมีชายหนุ่มร่างสูงเดินนำหน้าออกไป

"วันนี้พี่ธีร์มีประชุมนะคะ พี่จะออกไปไหนไม่ได้ อย่าลืม.."

"พี่ไม่ลืมหรอก แต่พี่จะไม่เข้า.."

ชักสีหน้าตายไม่รู้สึกผิดต่อคำพูดของตัวเองจนเธอต้องคว้าแขนเอาไว้

"พี่ธีร์"

"ทำไม..พี่จะเข้าไม่เข้ามันก็เรื่องของพี่ เธอเป็นแค่ว่าที่คู่หมั้น เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งพี่เข้าใจไว้ซะขวัญกวิน"

กล่าวจบก็กระชากแขนตัวเองออก

"โอเค..! ก็ได้ค่ะ! ยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่แล้ว แต่พี่อย่าลืมว่าพี่เป็นว่าที่รองประธานคนใหม่ ถ้าพี่ยังทำตัวเสเพลแบบนี้ เราก็ไม่ต้องมาคุยกัน"

"เธอเป็นคู่หมั้นพี่นะ"

ทำหน้าโกรธเธอที่เธอกล้าพูดแบบนี้กับตัวเองทั้งที่ตัวเองเป็นถึงคู่หมายหมั้นของเธอ

"แค่ว่าที่..เรายังไม่ได้หมั้นกันจริงๆ ถ้ามันไม่ใช่ความต้องการของพ่อแม่เรา ฉันก็ไม่มีทางหมั้นกับพี่หรอก"

"ก็ลองดู.."

"อายพนักงานบ้าง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมให้ผู้ชายเป็นใหญ่อยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ ไม่ใช่คนหัวโบราณ.."

ขวัญกวินกล่าวบอกจบก็เดินหนีจากชายหนุ่มร่างสูงเข้าไปด้านในบริษัท

.

.

18:57 น.

"เจ้เอกราช..! ช่วยฉันหน่อยสิ"

"อู้ยย!!"

ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านหลังหนึ่งด้วยสีหน้าท่าทางอารมณ์ดี แต่ก็ต้องร้องตกใจหลังจากที่เดินเข้าไปในบ้านแล้วก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่มานั่งเรียกถามตัวเอง

"กลับมาถึงตั้งแต่ตอนไหน แล้วบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกเอกราชให้เรียกว่าเจ้พราวน่ะฮะ เข้าบ้านคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตก่อนที่แกเป็นโจนรึไง"

"พึ่งกลับมาวันนี้วันแรก ใครบอกเจ้ไม่เปลี่ยนรหัสผ่านเข้าบ้านเองล่ะ แล้วก็มันยังไม่ชินอ่ะเจ้.."

"เออๆ แล้วจะให้ช่วยอะไรว่ามา.."

แสดงสีหน้าเข้มขรึมจนไม่เหลือร่องรอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้า

"เจ้ทำงานที่เจเอส กรุ๊ปใช่มั้ยล่ะ ช่วยฝากงานให้ฉันหน่อย นี่นั่นมีตำแหน่งอะไรว่างบ้างมั้ย"

"แล้วงานแกที่ต่างประเทศล่ะ"

ขมวดคิ้วเข้าเป็นปมอย่างสงสัย

"ลาออกแล้ว อยากกลับมาทำงานที่นี่"

"ถ้างั้นมาเป็นเลขาของคุณขวัญกวินเอามั้ยล่ะ เธอหลานสาวท่านประธาน ตอนนี้กำลังหาเลขาใหม่พอดี เดี๋ยวเจ้ช่วยคุยให้น่าจะได้"

"เอาตำแหน่งนี้เลย ขอบคุณนะคะเจ้..รักเจ้ที่สุดเลยค่ะ พรุ่งนี้จะเข้าไปสมัครนะเจ้"

กล่าวจบก็กอดขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า

"จ้าา.."

"คืนนี้ขอค้างคืนด้วยสักคืนนะ"

พชรพูดดังนั้นชายหนุ่มก็ผลักเธอออกทันที

"ไม่ได้..! ไปนอนบ้านแกดิ"

"คืนเดียวเองเจ้.."

"ฉันนัดเด็กไว้.."

"แค่นี้เอง นอนแค่คืนเดียวสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆไม่รบกวนเจ้เด็ดขาด"

ยกนิ้วก้อยขึ้นเพื่อทำสัญญา

"แน่นะ"

"แน่.."

"โอเค! งั้นก็ได้..เดี๋ยวเจ้โทรคุยกับคุณขวัญกวินให้"

"ไม่เอาดีกว่า..ไม่นอนที่นี่แระ ไปหาไรหนุกๆข้างนอกดีกว่า ฝากเรื่องงานกรอกใบสมัครให้ด้วยนะ"

กล่าวจบก็ยิ้มหน้าบานก่อนที่จะเดินออกไปจากบ้านของชายหนุ่มคู่สนทนา

.

.

วันต่อมา..

หญิงสาวร่างเล็กนั่งทำงานอยู่หลังโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ แต่แล้วก็มีสายเรียกเข้าเข้ามาเธอจึงได้กดรับสาย

"ค่ะคุณเอกราช.."

"ท่านประธานเรียกให้มาพบคุณขวัญครับ"

"ตอนไหนคะ"

"ตอนนี้เลยครับ"

"โอเคค่ะ เดี๋ยวขวัญจะไปพบนะคะ"

วางสายแล้วจัดของบนโต๊ะทำงานก่อนที่จะลุกเดินออกไปจากห้องทำงานของตนจนไปถึงห้องของบุคคลที่เรียกพบตน

"ขวัญเองค่ะคุณอา.."

"เข้ามา.."

ขวัญกวินเปิดประตูเดินเข้าไปหาบุคคลที่เรียกพบตนด้านในห้องทำงานของเขาทันทีหลังจากที่ได้รับการอนุญาต

"ยังโอเคที่จะหมั้นและแต่งงานกับธีภพอยู่มั้ย"

ชายวัยกลางคนกล่าวถามจบก็วางปากกาลงจากมือ

".......ก็..! ค่ะ"

"อย่าฝืนใจตัวเอง อาไม่บังคับ..ถ้าไม่อยากหมั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำ"

สิ้นคำบอกกล่าวนั้นเขาก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆตอบกลับมาจากเธอเลยนอกเสียจากความเงียบภายในห้องเพียงเท่านั้น

"อาอยากให้เราได้มีชีวิตอิสระนะ คนดีๆแบบเราไม่ควรคู่กับธีภพ เราควรจะได้เจอกับคนดีๆซะมากกว่าคนแบบธีภพ"

"ใช่ค่ะ!! ขวัญไม่เคยอยากหมั้นหรือแต่งงานกับพี่ธีร์เลย แต่คำมั่นสัญญาของพ่อที่เคยให้ไว้กับคุณอา ขวัญก็ยินดีจะทำตามค่ะ"

กล่าวบอกยอมรับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งขัดกับสีหน้าและสายตาที่บ่งบอกว่าเธอไม่เคยต้องการจะทำตามความต้องการของใคร

"ถ้าพ่อเรารู้ว่าเราต้องแต่งงานกับธีภพไปคงจะไม่สบายใจแน่"

"อย่าพูดถึงเลยค่ะ พ่อขวัญก็ไม่อยู่แล้ว"

ตอบกลับเสียงเรียบนิ่งอีกครั้ง

"ยังไงก็ยืนยันคำเดิมสินะ แต่ถ้าเกิดเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็บอกอาได้เลย"

"ค่ะคุณอา..ขอตัวนะคะ"

เธอกล่าวบอกเขาก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องแต่แล้วชายวัยกลางคนก็เดินตามหลังเธอออกมาด้วยเช่นกัน แต่ชายหนุ่มเลขาที่นั่งทำงานอยู่หน้าถ้าก็กล่าวถามเขาขึ้นมาว่า

"ท่านประธานจะไปไหนครับ"

"คุณนัดคนมาสัมภาษณ์งานด้วยนิ ผมก็เลยจะไปรอฟังด้วยคน เพราะยังไงก็ถือเป็นพนักงานของผมได้เหมือนกัน"

"แต่ผมนัดไว้สิบโมงนะครับ นี่เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง คุณขวัญกวินจะเป็นคนสัมภาษณ์งานเองครับ"

ผายมือไปที่ขวัญกวินที่พึ่งเดินผ่านออกไป

"อ้าวหรอ..!"

"ว่าแต่ท่านประธานรู้ได้ไงกันครับ"

"ขวัญบอกผมเมื่อคืนน่ะ"

ตอบคำถามชายหนุ่มเลขาของตัวเองแล้วก็เปิดประตูเดินกลับเข้าไปด้านในห้องทำงานอีกครั้ง

.

.

ร่างสูงของพชรก้าวเท้าเดินเข้ามาในบริษัทเจเวลรีด้วยความมั่นใจ แต่นัยน์ตาแอบแฝงไปด้วยความโกรธแค้น แต่แล้วก็ต้องหยุดยืนแล้วเหลียวมองตามหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินสวนทางกับตัวเองออกไปด้านนอก ซึ่งเธอมีใบหน้าสวยงามสะดุดตา ไม่ว่าจะมองยังไงก็ยังดูสวยเอามากๆ จึงสามารถดึงดูดสายตามของตัวเองเอาไว้ได้ แต่แล้วจากนั้นพชรรีบดึงสติตัวเองกลับมาแล้วก็รียเดินเข้าไปหาฝ่ายประชาสัมพันธ์

"ขอโทษนะคะ มาสัมภาษณ์งานน่ะคะ ต้องไปรอที่ไหนหรอคะ"

"สัมภาษณ์ตำแหน่งอะไรคะ"

"เลขาค่ะ"

เมื่อได้รับฟังคำตอบดังนั้นพนักงานสาวก็รีบตรวจเช็คขึ้นมูลในคอมพิวเตอร์ในทันที

"ค่ะ!! ขึ้นไปชั้นสามนะคะ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเดินตรงไป ก็จะพบห้องสัมภาษณ์งานแล้วค่ะ"

ผายมือชี้บอกกับพชรให้เดินไปยังลิฟท์

"ขอบคุณค่ะ"

.

"ทำไมพี่มาเอาป่านนี้ เมื่อวานก็หนีประชุม รองประธานบริษัทเขาทำตัวกันแบบนี้น่ะหรอ แล้วดูสภาพพี่สิ"

ขวัญกวินกล่าวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นจ้องมองหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าที่ใบหน้ามีแผลพกช้ำหนึ่งจุด

"หยุดพูดแบบนี้สักทีได้ป้ะ พี่จะมาตอนไหนมันก็เรื่องของพี่ป้ะ ถ้าไม่อยากให้พี่เป็นแบบนี้ก็กลับไปอยู่ที่บ้านดิ"

เขากล่าวทุกถ้อยคำออกมาด้วยความอารมณ์เสียใฟ้กับคำพูดของเธอ

"โอเค..! ได้..วันนี้คุณอาเรียกขวัญไปคุยเรื่องงานหมั้นของเรา"

"ป๊าเรียกเข้าไปคุยหรอ งั้นก็แสดงว่า.."

เขาเริ่มเผยยิ้มหน้าบานออกมาทั้งที่เมื่อกี้ยังแสดงสีหน้าอารมณ์เสียใส่เธอ

"คุณอาถามฉันว่าอยากแต่งงานกับพี่อยู่หรือเปล่า คุณอาไม่ได้บังคับฉันหรอก ไม่อยากให้ฉันแต่งงานกับพี่ด้วยซ้ำ"

"ไม่จริงง..!! ป๊าต้องอยากให้เธอแต่งงานกับพี่อยู่แล้ว เธอต้องพูดว่าอยากแต่งงานกับพี่"

"พี่อย่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ได้ป้ะ"

ขวัญกวินส่ายหน้าเอือมละอายให้กับพฤติกรรมของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเหลืออด

"นี่..!"

กระชากร่างเล็กของเธอเข้ามาหาตัวเอง

"นี่คุณ..!"

เสียงของหญิงสาวร่างสูงซึ่งนั่นก็คือพชรเดินเข้ามาจับมือชายคนนั้นนอกจากแขนของขวัญกวิน

"คุณจะทำอะไร ทำร้ายผู้หญิงหรอ มันไม่ดีเลยนะแบบนี้"

"เธอจะมายุ่งอะไร"

"ทีแรกฉันก็ว่าจะไม่ยุ่งหรอกค่ะ แต่ก็อดที่จะเห็นคุณทำร้ายผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้"

พชรกล่าวจบก็ก้มมองหน้าผู้หญิงที่ตัวเองพึ่งช่วยให้หลุดจากมือของชายตรงหน้าแล้วก็มองชายผู้นั้นต่อ

"อย่ายุ่งได้ป้ะ"

"ไม่ยุ่งก็ได้..! แต่ฉันขอยืมตัวพี่สาวคนนี้นะคะ"

จับแขนหญิงสาวคนนั้นแล้วพาเธอเดินหนีจากไปในจุดที่คิดว่าน่าจะลับตาคนที่สุดแล้ว

"นี่คุณ..! ปล่อยได้แล้ว"

"ขอโทษค่ะ"

พชรรีบปล่อยมือออกจากหญิงสาวที่ตัวเองพาเดินหนีออกมาจากผู้ชายคนนั้นให้เธอหลุดพ้นจากการพันธนาการ

"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้.."

เธอโค้งคำนับศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอบคุณพชรที่ช่วยตัวเองเอาไว้

"ไม่ป็นไรค่ะ คุณไม่เป็นไรนะคะ ฉันเห็นเค้ากระชากคุณซะแรงเลย"

"ท่านรองก็เป็นคนแบบนี้แหละค่ะ ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่คะ"

กล่าวถามอย่างสงสัยเพราะไม่คุ้นหน้าของผู้หญิงตรงหน้าที่พึ่งช่วยตัวเองเอาไว้

"อ๋อค่ะ! ฉันมาสัมภาษณ์งานน่ะค่ะ"

"งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันขวัญกวินค่ะ เป็นผู้บริหารฝ่ายงานออกแบบเครื่องประดับของที่นี่"

"เค้าเป็นใครทำไมทำแบบนี้กับคุณได้ล่ะ"

"ก็..!! เป็นรองประธานแล้วก็ว่าที่คู่หมั้นฉันน่ะค่ะ"

พชรแสดงสีหน้างุนงง ทั้งที่เขาเป็นคนหัวรุนแรงทำไมถึงไม่เลิก จะหมั้นกับเขาทำไม

"งงสินะคะ"

"เอ่ออ..! เปล่าหรอกค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ ฉันต้องรีบไปรอสัมภาษณ์ เดี๋ยวจะไม่ได้งาน พึ่งสมัครแบบออนไลน์ไปเมื่อคืน เช้ามาก็โดนเรียกสัมภาษณ์เลย"

"ฉันไปส่งนะคะ"

"ขอบคุณค่ะ ฉันเกรซค่ะ เกรซ พชร นราศิลป์ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ"

กล่าวบอกจบก็ก้าวเท้าเดินกลับเข้าไปที่หน้าบริษัท และขวัญกวินก็เดินตามไปด้วย

"เป็นคุณเองหรอคะเนี่ยที่คุณเอกราชบอก"

"จำชื่อได้ด้วยหรอคะ"

"ค่ะ!! ก็คุณสมัครเข้ามาเป็นเลขาฉันนี่คะ อีกอย่างเป็นคนที่คุณเอกราชแนะนำมาอีกด้วย ฉันก็เลยนัดสัมภาษณ์เองเลย"

กล่าวบอกด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ แจ่รอยยิ้มเพียงแค่นี้ก็ทำให้ใบหย้าของเธอสวยขึ้นยิ่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

"รู้แบบนี้แล้วฉันยังจะได้งานอยู่รึเปล่าคะ ไม่ได้จะทวงบุญคุณนะคะ ฉันแค่กำลังหางานหลังจากเรียนจบเพื่อแบ่งเบาภาระที่บ้าน"

"ก็ต้องดูจากการสัมภาษณ์งานนะคะ"

ส่งยิ้มอ่อนๆให้กับพชร

"ขอบคุณค่ะ"

สิ้นเสียงตอบรับนั้นเธอทั้งสองคนก็เดินเข้าไปด้านในบริษัทด้วยกัน

.

.

หญิงสาวทั้งสองคนนั่งสัมภาษณ์งานกันในห้องสองต่อสองอยู่นานเท่านานจนกระทั่งถึงคำถามสุดท้าย

"คุณพร้อมที่จะเริ่มงานวันไหนคะ"

"ถามแบบนี้หมายความว่า.."

"คุณจะได้ทำงานเป็นเลขาฉันค่ะ"

เธอกล่าวบอกด้วยรอยยิ้มยินดีกับพชรที่เธอจะได้ทำงานเป็นเลขาของตัวเอง

"จะให้ฉันเริ่มงานภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ ฉันพร้อมเสมอทุกเวลา"

"งั้นก็เริ่มพรุ่งนี้เลยนะคะ ช่วงทดลองงานสามเดือน ถ้าพ้นสามเดือนไปแล้วคุณจะได้เงินเดือนเต็มจำนวนค่ะ"

ขวัญกวินกล่าวจบก็ส่งยื่นเอกสารอัตราจ้างเงินเดือนให้กับพชรดู

"ค่ะคุณขวัญกวิน.."

"เรียกขวัญเฉยๆก็ได้ค่ะ วันนี้ก็กลับไปพักผ่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาทำงานนะคะ"

"ค่ะคุณขวัญ.."

พชรตอบรับคำอีกครั้งแล้วขวัญกวินก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วพชรก็ลุกขึ้นยืนตามจากนั้นขวัญกวินก็เดินออกไปจากห้องสัมภาษณ์ตามหลังมาด้วยพชรแล้วก็พบกับชายวัยกลางร่างสูง

"เป็นไงบ้าง"

"นี่คุณเกรซค่ะท่านประธาน..เลขาขวัญ ขวัญจะให้เธอเข้ามาทำงานพรุ่งนี้แทนคนเดิมที่ลาออกไปค่ะ คุณเกรซนี่ท่านประธานธนินค่ะ"

"สวัสดีค่ะท่านประธาน"

พชรยกมือขึ้นไหว้ชายผู้นั้นแล้วจ้องมองเขาด้วยสายตาที่มีความเรียบนิ่งแต่เยือกแข็งและแอบแฝงไปด้วยความเลวร้ายไปด้วยในเวลาเดียวกันไม่วางตา

"ป๊าคะ! จะเที่ยงแล้วไปทานข้าวกันค่ะ พี่ขวัญด้วยนะคะ"

เสียงของหญิงสาวสวมชุดนักศึกษาเดินเข้ามากล่าวชักชวน

"เอาสิ..! วันนี้ทำอะไรมาบ้างเด็กฝึกงานของป๊า"

เขาตอบรับคำและถามคำถามกลับเธอด้วยสายตาที่เอ็นดูรักใคร่

"ทำหลายอย่างเลยค่ะ เมื่อยไปหมดเลย วิ่งวุ่นตั้งแต่เช้า.."

"งั้นขอตัวก่อนนะคะ"

พชรกล่าวแล้วเดินแยกออกไปแล้วแสดงสีหน้าแววตาของผู้ล่าที่อยู่เหนือการควบคุมของใคร

มีความสุขกันจังเลยนะ รอก่อนเถอะ..นี่มันแค่เริ่มต้น รีบเก็บสะสมความสุขเอาไว้ให้มาก ก่อนที่จะไม่มีโอกาส เพราะหลังจากนี้มันคือเกม

.

.

.

19:12 น.

ร่างเล็กของขวัญกวินเดินออกมาจสกห้องนอนไปเปิดตู้เย็นในห้องครัวเพื่อเอาน้ำดื่มออกมาดื่มพร้อมกับคิดภาพย้อนกลับไปเมื่อช่วงเวลาใกล้เที่ยง ซึ่งเป็นภาพของพชรกับชายวัยกลางคนซึ่งเป็นประธานบริษัท

พชรยืนยกมือไหว้ชายผู้นั้นแล้วจ้องมองเขาไม่วางตา ทั้งสีหน้าและแววตาคู่นั้นของพชรนั้นมองดูแล้วก็ช่างยากที่จะหยั่งรู้หรือเดาทางความคิดได้ง่ายๆ

"ทำไมคุณเกรซถึงมองคุณอาด้วยสายตาแบบนั้นกันนะ แววตาที่เหมือนจะโกรธอะไรแต่ก็ไม่ใช่ จะมองแบบปกติธรรมดาก็ไม่ใช่.."

กล่าวถามตัวเองอย่างครุ่นคิดจบก็เก็บขวดน้ำเข้าไว้ในตู้เย็นเช่นเดิมแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอน

.

.

20:21 น.

ร่างสูงของพชรเดินเข้าไปในคลับบาร์แห่งหนึ่งพร้อมแล้วยื่นบัตรสมาชิกให้กับพนักงานแล้วพนักงานก็พาเธอเดินลงไปยังชั้นใต้ดินและพาไปแนะนำให้กับชายคนหนึ่ง

"สวัสดีค่ะ!! เจอกันอีกแล้วนะคะ"

"อะ อ้าวว! สวัสดีครับคุณเกรซ มาเที่ยวที่นี่หรอครับ"

พชรและชายผู้นั้นกล่าวคำสวัสดีและจับมือกอดทักทายกันตามแบบสไตล์ของยุโรป

"ที่จริงฉันมาที่นี่แล้วเมื่อวาน แล้วก็ต้องเรียกว่ามาอยู่ถาวรจะดีกว่านะคะ ยังจำข้อตกลงของเราได้อยู่รึเปล่า"

"แน่นอนสิครับบ!"

"คุณเห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย"

เธอชี้นิ้วไปยังโต๊ะพนันโต๊ะนึงที่มีชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดียืนเล่นพนันอยู่ตรงนั้น

"ธีภพ ลูกชายประธานเจเอส..คุณสนใจหรอ"

"ใช่ค่ะ! สนใจมาก"

มองชายผู้นั้นไม่ลดละสายตา

"ไม่ดีมั้งครับ ไอ้นั่นมันติดหนี้พนันผมอยู่ด้วย"

"งั้นหรอ..! แบบนั้นยิ่งดีเลย"

เผยอยิ้มมุมปากอย่างน่าสยดสยอง

"เซียนพนันอย่างคุณพูดและยิ้มแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีซะแล้วสิ"

"คุณคิดถูกแล้ว สองแสน..หักเงินใช้หนี้ให้ผู้ชายคนนั้นด้วย"

พชรกล่าวพร้อมยื่นแบล็คการ์ดให้ชายคู่สนทนาแล้วยิ้มมุมปากเดินเข้าไปหาชายคนนั้นที่ยืนอยู่ในวงการพนัน

"ขอร่วมวงด้วยคนนะคะ"

.

.

.

https://youtu.be/hIJ9dc8oHHQ

[OPV] ฉันรอพบเธอ LISOO - กลรักเกมลวง [นิยายออนไลน์] BY : SECRET 비밀

Chapter 2 การพนัน..

07:25 น.

"ฉันขอเสียมารยาทถามอะไรคุณขวัญได้มั้ยค่ะ"

พชรกล่าวถามเมื่อเห็นว่าขวัญกวินเปิดประตูออกมาจากห้องทำงานพร้อมเอกสารฉบับหนึ่ง

"ถามมาเลยค่ะ"

กล่าวยิ้มรับ

"คุณขวัญอยู่เวิร์สไหนหรอคะ"

พชรถามเช่นนั้นแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดกลับมานอกจากคนเงียบ เธอจึงรีบพูดต่อไปอีกไม่ให้ขวัญกวินเข้าใจตัวเองผิดไปว่า

"ฉันไม่ได้หมายความไม่ดีนะคะ แต่ว่าฉันคืออัลฟ่าเวิร์สน่ะค่ะ ถ้าเกิดว่าคุณขวัญอยู่โอเมก้าเวิร์ส เวลาเรามางานสำคัญในช่วงที่คุณขวัญอาจมีฮีทแล้วต้องเจอกัน ฉันกลัวว่าฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้"

ขวัญกวินได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มออกมาได้แล้วก็ตอบกลับไปว่า

"ไม่ต้องกลัวหรอค่ะ เพราะฉันเป็นเบต้าเวิร์ส เพราะฉะนั้นร่างกายเราสองคนไม่มีผลต่อกันค่ะ"

"โล่งอกไปทีค่ะ เพราะฉันก็เคยมีเจ้านายเป็นโอเมก้า แต่ว่าเค้าแต่งงานไปแล้วก็เลยไม่ได้ส่งผลอะไร"

แสดงสีหน้าโล่งใจออกมา

"ว่าแต่คุณเกรซมาแต่เช้าจังเลยนะคะ"

"ทำงานวันแรกก็ต้องมาเตรียมตัวสักหน่อย เดินสำรวจสถานที่ต่างๆจะได้คุ้นชินเร็วๆไงคะ"

"คุณเกรซนี่แปลกคนดีนะ"

ขวัญกวินกล่าวถามด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร

"ทุกคนที่ฉันเคยทำงานด้วยก็พูดแบบเดียวกันกับคุณขวัญเลยค่ะ"

"ขอโทษด้วยนะคะถ้าคุณไม่ชอบ.."

แสดงสีหน้ารู้สึกผิดต่อคำพูด

"ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันไม่ได้ซีเรียสอะไร"

"ถ้ามีเอกสารอะไรส่งมาช่วงเช้าอย่าพึ่งเอาเข้าไปให้ฉันนะคะ ช่วงบ่ายค่อยเอาเข้าไป เวลาเช้าฉันต้องออกแบบงาน สมองมันเล่นดีกว่าช่วงบ่าย แต่ก่อนอื่นช่วยเอาเอกสารตัวนี้ไปส่งให้ท่านประธานทีค่ะ"

"ค่ะ!!"

พชรตอบรับคำแล้วขวัญกวินก็ยื่นเอกสารให้เธอแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง

"ให้ตายสิ! มีเวลาแค่เดือนเดียว ทุกคนในทีมจะออกแบบทันได้ไง"

เธอนั่งบ่นกับตัวเองแต่ก็เปิดแล็ปท็อปขึ้นมาทำงานต่อ

.

"ขอโทษนะคะ ห้องท่านประธานไปทางไหนหรอคะ"

พชรกล่าวถามหญิงสาวคนหนึ่งแล้วเธอก็หันมา

"พี่ที่อยู่กับพี่ขวัญเมื่อวานนี่คะ"

"ค่ะ!! แล้วห้องท่านประธานไปทางไหนคะ"

"ตามมาเลยค่ะ เดี๋ยวเนตรพาไปเอง"

เดินนำหน้าเพื่อพาพชรไปยังห้องของบุคคลที่เธอต้องการ

"ที่นี่รับนักศึกษาฝึกงานด้วยหรอคะ"

"ค่ะ!! ลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อเนตรค่ะ แล้วพี่ล่ะคะ"

"เกรซค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"

"เช่นกันค่ะ"

เนตรนภา ภูวเนตร..ลูกสาวคนเล็ก

พชรคิดบอกกับตัวเองแล้วเผยรอยยิ้มออกมาอ่อนๆจนเดินไปถึงห้องของบุคคลที่ต้องการ

"ขอบคุณนะคะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ"

เนตรนภาเดินจากไปทำงานของตนหลังจากที่เดินมาส่งพชรถึงห้องเรียบร้อยแล้ว

"เจ้พราว..! คุณขวัญสั่งให้ฉันเอาเอกสารมาให้ท่านประธาน"

"เข้าไปเลย ท่านประธานอยู่ข้างใน.."

เคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปด้านใน

"เอกสารค่ะ คุณขวัญให้เอามาให้.."

"เอามาวางไว้ตรงนี้แหละ"

เดินเอาเข้าไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของเขาซึ่งเป็นประธานบริษัทแล้วเดินออกไป

ทางด้านขวัญกวินก็ยังคงนั่งครุ่นคิดอยู่ในห้องทำงานด้วยคิดอะไรไม่ออก จนสุดท้ายก็เดินออกไปจากห้องทำงานแล้วกดโทรศัพท์หาลูกทีมให้ไปรวมตัวกันที่ห้องออกแบบเครื่องประดับพร้อมกับเดินไปด้วยจนถึงห้องแล้วนั่งรอทุกคนให้เข้ามาตามเวลางาน จนกระทั่งถึงเวลาทุกคนก็ทะยอยกันเข้ามาจนครบทีม

"ฉันยังย้ำคำเดิมนะคะ ถ้าไม่ทันฉันจะรับผิดชอบเอง ถึงฉันจะอยากให้ทัน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ สิบสองชิ้นภายในหนึ่งเดือน"

"ยังไงเราก็จะทำให้ทันครับ คุณขวัญไม่ต้องกังวล"

ชายหนุ่มในทีมของเธอกล่าวบอก

"วันนี้ฉันจะคุยเรื่องการแบ่งทีม จะมีทีมเช้ากับทีมรอบดึง ทุกคนจะว่าไงคะ"

"เช้ากับดึกหรอคะ"

หญิงสาวซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานพูดทวนคำพูดของขวัญกวิน

"ใช่ค่ะ! แต่ว่าจะเป็นตอนเหลือสัปดาห์สุดท้าย ทุกคนจะได้ไม่เหนื่อยสะสมจนเกินไป"

.

.

"นี่เธอนี่"

เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวเมื่อเดินมาเจอเข้ากับพชร

"สวัสดีค่ะท่านประธาน.."

พชรก้มหน้าคำนับกล่าวสวัสดีชายหนุ่มที่เรียกทักเธออย่างถ่อมตน แล้วเขาก็ลากแขนเธอไปอยู่ในที่ลับสายตาคน

"เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง อย่าบอกนะว่า.."

"ฉันทำงานที่นี่ค่ะ เป็นเลขาคุณขวัญกวิน.."

"อย่างเธอเนี่ยนะ"

"อย่าพูดแบบนี้สิคะ เพราะท่านรองก็ไม่ต่างจากฉัน เดี๋ยวคนอื่นจะรู้เอาไว้นะคะ ว่าคนระดับท่านรอง.."

เธอไม่พูดต่อแต่กลับยิ้มและส่งสายตายั่วยวนก่อนที่จะเดินออกไปโดยที่ยื่นมือไปแตะสัมผัสกับมือของชายหนุ่มผู้นั้นจนต้องชายตามองตามหลังเธอด้วยสายตาเจ้าชู้แล้วยกมือข้างที่โดนจับขึ้นมาดม

"ท่าจะง่าย.."

ว่าแล้วก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง

.

"สามล้านห้ารวมทั้งต้นและดอก เล่นหนักไม่เบาเลยนะพี่ชาย.."

พชรกล่าวหลังจากที่เดินหนีจากชายคนนั้นจนเกือบจะมาถึงโต๊ะทำงานหน้าห้องเจ้านายตัวเอง

"ทำไมฉันต้องลงทุนขนาดนี้ด้วยนะ ทั้งที่สามารถทำให้มันง่ายกว่านี้ก็ยังได้ ป๊าไม่น่าพูดเลยจริงๆ"

เธอกล่าวจบเพียงไม่นานก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอพร้อมวางเอกสารไว้บนโต๊ะทำงานของเธอ

"เอกสารให้คุณขวัญครับ"

"หมดนี่เลยหรอคะ"

"ครับ!"

เดินกลับไปทางเดิม

"รับผิดชอบฝ่ายออกแบบไม่ใช่หรอ ทำไมเอกสารเยอะแบบนี้ล่ะ"

พชรพูดเช่นนั้นแล้วก็เปิดดูงานในเอกสารทั้งหมด

เวลาเดินผ่านไปเป็นวันๆงานก็ยังคงดำเนินอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ทุกฝ่ายงานต่างวุ่นวายในงานที่ต้องรับผิดชอบ ขวัญกวินกลับเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้ง

"คุณขวัญหายไปไหนมาคะ"

"โทษทีค่ะ! ฉันเรียกคุยงานกับทีมแล้วก็ทำงานกันที่นั่นเลย ก็เลยลืมแจ้งคุณไป.."

"ไม่เป็นไรค่ะ เอกสารทั้งหมดอยู่ในห้องนะคะ"

เมื่อได้ฟังดังนั้นขวัญกวินก็เข้าไปข้างในห้องทำงานทันที และในจังหวะนั้นก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาหาพชร

.

.

20:23 น.

"I'd like to takeover the first jewelry company in Thailand within a two-month period, Mr. Mike. Please take care of it for me."

[ฉันอยากเทคโอเวอร์บริษัทเครื่องประดับที่หนึ่งในประเทศไทยภายในระยะเวลาสองเดือน คุณไมค์ช่วยจัดการให้ฉันหน่อย]

"what is the name of the company"

[บริษัทอะไร]

"js group company"

[บริษัทเจเอสกรุ๊ป]

"Yes!!"

เมื่อได้รับคำตอบแล้วพชรก็กดวางสายแล้วเดินออกไปจากห้องนอนกะจะลงไปด้านล่างแต่ก็ดันพบกับชายวัยกลางคนที่เปิดประตูเดินออกมาจากห้องด้วยเช่นกัน

"จะไปไหนดึกดื่นเกรซ.."

"ไปทำธุระข้างนอกค่ะป๊า.."

"ระวังๆด้วยล่ะ ดึกแล้วมันอันตราย"

"ค่ะป๊า.."

เดินลงไปชั้นล่างแล้วออกไปยืนหรอรถที่หน้าบ้านไม่ถึงสองนาทีก็มีรถมาจอดรับจนกระทั่งไปถึงจุดหมายปลายทางจึงลงจากรถ

"วันหยุดนี้ต้องหาซื้อรถมาขี่ซะแล้ว แต่อีกหลายวันเลย"

พูดกล่าวกับตัวเองก่อนที่จะก้าวเท้าเข้าไปในไนต์คลับแห่งหนึ่งแล้วเข้าไปพบกับเจ้าของร้าน

"คนที่คุณโทรบอกฉันเมื่อกลางวันอยู่ไหน"

"นั่งรอคุณอยู่ตรงนั้น"

พาเดินเข้าไปหา

"สวัสดีค่ะ!"

พชรยืนกล่าวทักทายชายวัยกลางคนที่นั่งรอใครบางคนอยู่

"สวัสดีครับ!"

เขาทักทายกลับแล้วพชรก็นั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกัน

"ไม่อ้อมค้อมเลยละกัน คุณมีหุ้นในเจเอสหกเปอร์เซ็นต์ถูกต้องมั้ยคะ"

"ใช่..!"

"ขายให้ฉันได้มั้ย ขอสี่เปอร์เซ็นต์พอ.."

กล่าวถามสีหน้าจริงจัง

"ง่ายไปมั้งครับ"

"แล้วต้องการอะไร"

ถามกลับด้วยสีหน้าเฉยชา

"มาพนันกัน ถ้าคุณชนะผมจะให้คุณสองเปอร์เซ็นต์และจะขายให้คุณอีกสองเปอร์เซ็นต์ตัวละสองล้านถูกๆ แต่ถ้าแพ้คุณก็ไม่ได้ และคุณจะต้อง.."

ส่งสายตามองเรือนร่างกายของพชรด้วยแววตาหื่นกระหาย

"ผมขอคุณ ตลอดไป.."

"ได้ค่ะ..! ตามนั้น"

เธอตอบตกลงรับคำอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย แล้วหลังจากนั้นพนักงานเดินเอากองไพ่มาวางไว้ให้ตรงหน้าพร้อมสับไพ่ให้ด้วย

ไอ้แก่นี่แก่แล้วยังไม่รู้จักสำเหนียกตัวเอง ผู้ชายไม่ต่างกันเลยจริงๆ

"ห้ารอบตัดสิน"

ชายผู้นั้นกล่าวแล้วพชรก็ยกขาขึ้นไขว่ห้างจากนั้นก็เริ่มเล่นเกมพนันไพ่ เริ่มมาพชรก็เป็นฝ่ายชนะไปสองตา และต่อจากนั้นอีกสองตาก็เป็นชายวัยกลางคนที่ชนะไป

พนักงานยืนสับไพ่เป็นรอบสุดท้ายซึ่งเป็นรอบตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะ แล้วแจกไพ่ให้ทั้งสองคนแล้ววางกองไปไว้ตรงกลาง

"รอบสุดท้ายตัดสิน"

ทิ้งไพ่ลงบนโต๊ะสองใบแล้วพชรก็ทิ้งลงตามวนแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกระทั้งชายผู้นั้นเหลือสองใบสุดท้ายในมือ จึงทิ้งไพ่ลงบนโต๊ะด้วยความมั่นใจว่ายังไงตัวเองก็ต้องเป็นฝ่ายชนะ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พชรวิตกสีหน้ายังคงนิ่งเฉยไม่เปลี่ยนแปลง พชรจึงใช้จังหวะนั้นที่เขากำลังหลงระเริงว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าสลับไพ่ในมือ จากนั้นก็ทิ้งไพ่ลงตามก็ปรากฏผลออกมาว่าเธอเป็นฝ่ายชนะ ถึงขั้นทำให้สีหน้าของชายผู้นั้นซีดตกไปด้วยไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายแพ้พนัน

"ฉันชนะแล้ว ทำตามที่พูดด้วยนะคะ ภายในวันพรุ่งนี้ หุ้นมาครบสี่ตัวเงินจะเข้าบัญชีตาม ถ้าไม่คนที่น่าจะจัดการคุณแทนฉันเอง"

กล่าวจบก็เผยยิ้มมุมปากด้วยตนเป็นผู้ชนะการพนัน แล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องพนันโซนวีไอพี และกลับขึ้นไปด้านบนซึ่งเป็นไนต์คลับเป็นฉากบังตาบ่อนพนันที่อยู่ชั้นใต้ดิน

เมื่อเธอกำลังจะเดินออกไปจากไนต์คลับก็มีพนักงานหนุ่มเดินเข้ามาหาแล้วเชิญเธอไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะนั่งดื่ม

"ท่านรองเองหรอคะ"

พชรกล่าวเมื่อเห็นว่าชายที่ให้คนไปตามตัวเองมาหานั้นคือธีภพซึ่งเป็นรองประธานบริหารในบริษัทที่ตัวเธอทำงานอยู่

"นั่งก่อนสิ"

พชรนั่งลงตามคำเชิญชวน แล้วเขาก็รินเครื่องดื่มใส่แก้วแล้วส่งให้พชรดื่ม

"ดื่มก่อนสิ"

ชายหนุ่มกล่าวบอกแล้วพชรก็ชายตามองเขาก่อนที่จะยกมือไปหยิบสัมผัสมือของเขาเอาก่อนที่จะรับเอาแก้วเครื่องดื่มมาไว้ในมือ

.

.

"เป็นไงบ้าง ได้เรื่องรึเปล่า.."

ชายวัยกลางคนกรอกเสียงลงผ่านโทรศัพท์มือถือ

"ยังครับบ! ร่องรอยของคนที่หายไปยี่สิบเจ็ดปีมันนานมากเลยนะครับ"

"ยังไงก็ต้องหาให้เจอ ผมจะรอ.."

กล่าวบอกผ่านโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแล้วก็กดวางสาย

"นี่มันอะไรกันคะคุณ.."

เสียงของหญิงวัยกลางคนกล่าวถามด้วยสีหน้าขุ่นเคียง

"อะไรของคุณ.."

"ก็ที่คุณพูดไง! คุณยังตามหามันสองแม่ลูกอยู่อีกหรอ ป่านนี้มันสองคนตายไปแล้วมั้ง"

พูดกล่าวด้วยน้ำเสียงกระทบกระแทกอย่างไม่พอใจที่สามียังคงตามหาใครบางคนไม่ละเลิกความพยายาม

"เธอกับลูกผมยังไม่ตาย ต่อให้ต้องตามหาจนตายผมก็จะทำ"

"ป๊ากับม้าพูดถึงใครคะ ลูกป๊าก็เนตรกับพี่ธีร์สองคนไม่ใช่หรอคะ"

เสียงของหญิงสาวบุคคลที่สามเดินเข้ามาถามด้วยนึกสงสัยในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

"ถามป๊าแกเอาละกัน"

หญิงวัยกลางคนกล่าวลูกสาวคนเล็กแล้วเดินหนี

"ว่าไงคะป๊า.."

กล่าวถามด้วยต้องการคำตอบ

"ไม่ใช่เรื่องของเรา..กลับห้องไปนอนซะ"

เดินหนีไปอีกคน

.

.

ร่างเล็กของขวัญกวินถือโทรศัพท์และแก้วกาแฟเดินออกจากครัวไปนั่งลงที่โต๊ะทานอาหาร และบนโต๊ะทานอาหารก็มีแล๊ปท็อปวางเปิดอยู่

"ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าจะแล็ปท็อปแล้ว"

"ส่งไปแล้วค่ะ"

"แต่ฉันยังไม่เห็นเลยนะคะ ช่วยส่งมาอีกทีหน่อยค่ะ"

กล่าววานขอบุคคลในหน้าจอโทรศัพท์แล้วมองเข้าไปที่หน้าจอแล๊ปท็อป

"กำลังอัปโหลดส่งนะคะ"

"ค่ะ!!"

จิบกาแฟบนโต๊ะแล้วก็เห็นไฟล์ข้อมูลเด้งเข้ามาในไลน์จากนั้นก็รีบเปิดเช็คดูอย่างละเอียด

"รูปแบบนี้โอเคเลยค่ะ ดูเข้ากับคอนเซปต์ฤดูร้อนเลยแหละค่ะ"

"ตอนนี้เราก็เสร็จไปหนึ่งแล้วนะคะ ฉันก็กำลังคิดออกแบบคอนเซปต์ฤดูร้อนด้วยเช่นกัน"

"ค่ะคุณขวัญ.."

"ครับคุณขวัญ.."

"เหนื่อยหน่อยนะคะ ถ้าเสร็จทันไว้พวกเราไปเที่ยวกัน"

กล่าวบอกน้ำเสียงนุ่มนวลแต่จริงจังในคำพูด

"เที่ยวหรอครับ"

"ใช่ค่ะ! ฉันยังไม่ได้บอกหรอคะ"

"ยังเลยค่ะ"

"ฉันน่าจะลืมจริงๆ อยากไปเที่ยวไหนโหวตกันเลยนะคะ ของหนึ่งที่ค่ะ พักผ่อนกันได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ.."

"โอเคครับ/ค่ะ"

ทุกคนพูดพร้อมกันแล้วเริ่มวางสายไปจนหมด ขวัญกวินจึงปิดโทรศัพท์แล้วนั่งออกแบบเครื่องประดับต่อจนเผลอนั่งหลับไปเสียตรงนั้นจนถึงเช้า

Chapter 3 ขอจีบ

"คุณเกรซคะ ขอกาแฟหน่อยค่ะ"

เสียงของขวัญกวินเปิดประตูออกมากล่าววานของพชรที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องตัวเอง ทำให้พชรวางมือละสายตาจากงานตัวเองแล้วหันไปบอกกับขวัญกวินว่า

"บ่ายมานี้คุณดื่มไปสามแก้วแล้วนะ พอได้แล้วค่ะ ดื่มกาแฟเยอะมันไม่ดีต่อสุขภาพ"

"คุณห่วงฉันเกินหน้าที่แล้วนะคะ"

ก้มหน้ากล่าวบอกพชรที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานน้ำเสียงเรียบนิ่ง

โดนด่าเสือกโดยไม่พูดคำว่าเสือกมันรู้สึกแบบนี้นี่เอง

"โอเคค่ะ! ยังไงคุณขวัญก็ควรจะห่วงสุขภาพตัวเองบ้าง"

เดินไปชงกาแฟให้ตามคำสั่งของขวัญกวินแล้วเอาเข้าไปให้เธอในห้องทำงานของเธอจากนั้นก็เดินกลับออกไป

"ขอโทษนะเมื่อกี้..! ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงแต่ฉันต้องช่วยทุกคนออกแบบงานให้เสร็จทันตามกำหนด"

"ไม่เป็นไรค่ะ แต่ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย"

"สิบสองชิ้นภายในหนึ่งเดือน"

"ถ้าแบบนี้ยังไงก็ไม่ทัน..ใช้งานกันหนักมากเลยนะแบบเนี้ย ทำไมคุณต้องทุ่มเทกับมันขนาดนี้"

พชรขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยขึ้นมา เพราะตั้งแต่เข้ามาทำให้ขวัญกวินก็เห็นเธอเอาแต่นั่งทำงานแทบจะไม่พักบ้างในขณะที่ผู้บริหารหลายๆคนกลับทำตัวชิวๆสบายๆ แทบจะไม่มีงานอะไรให้ดูหรือทำเลยสักอย่าง

"มีหลายชีวิตที่ฉันต้องรับผิดชอบ คุณกลับไปเถอะ ถึงเวลาเลิกงานแล้ว"

ขวัญกวินพูดดังนั้นพชรก็เหลียวมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง

"งั้นคุณเองก็ควรจะกลับเหมือนกัน"

"ฉันจะอยู่ทำงานอีกสักหน่อย"

"งั้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อน คุณสั่งฉันไม่ได้แล้ว เพราะหมดเวลางานแล้ว"

พชรพูดดักคอขวัญกวินเพราะรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องปฏิเสธคำบอกกล่าวของตัวเองเป็นแน่

"ตามสบายเลยละกันค่ะ"

ก้มหน้าทำงานต่อไป

"นี่ไม่ใช่กาแฟที่ฉันขอนี่"

"นมฉันเอง ดื่มนมดีกว่านะ ดีต่อสุขภาพ.."

กล่าวบอกขวัญกวินพร้อมยกกล่องนมเปล่าให้เธอดูก่อนที่จะเดินอ้อมไปหลังโต๊ะทำงานแล้วหยุดยืนอยู่ข้างเธอ

"คุณกลับบ้านช้าพ่อแม่จะไม่ห่วงหรอ"

กล่าวบอกเพื่อให้ขวัญกวินนึกคิดถึงพ่อแม่ที่รออยู่ที่บ้าน

"ไม่ห่วงหรอก"

เธอไม่รีรอตอบกลับพชรโดยไม่ต้องคิด

"พ่อแม่ที่ไหนจะไม่ห่วงลูก"

พชรพูดเปรียบเปรยด้วยเป็นห่วงเจ้านายที่ไม่ยอมกลับบ้านทั้งที่เป็นเวลาเลิกงานแล้ว

"ท่านเสียหมดแล้ว"

เงยหน้ากล่าวบอกแล้วก้มลงทำงานต่อ ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"......เสียใจแล้วขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่รู้.."

"ไม่เป็นไร"

ขวัญกวินพูดดังนั้นพชรก็ถือวิสาสะเดินอ้อมไปด้านหลังของเธอแล้วยื่นมือลงไปจับเมาท์ปากกาในมือของขวัญกวิน

"คุณจะทำอะไร.."

"ฉันว่าแทนที่จะวาดเป็นสี่เหลี่ยมซ้อนทับธรรมดา ตัดมุมเป็นสามเหลี่ยมจะไม่ดีกว่าหรอคะ"

จับมือขวัญกวินวาดในรูปแบบที่ตัวเองบอกกับเธอ

"มันดูโอเคขึ้นมาเยอะกว่าเดิมเลยอ่ะ ขอบคุณนะคะ"

หันหน้าไปบอกพชรด้วยไม่รู้ว่าเธอก้มหน้าลงมาอยู่ใกล้ๆหน้าตัวเอง จนกลายเป็นว่าตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกันแค่ปลายจมูกโด่งเท่านั้น

"ขอโทษค่ะ!!"

รีบถอนตัวถอยห่างออกมาจากขวัญกวินในทันที

"ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ คุณช่วยได้เยอะเลย ฉันนั่งเครียดอยู่ตั้งนานว่าจะทำไงให้ไม่ซ้ำอันเดิม"

"ถ้าไม่ไหวก็พักแล้วค่อยทำต่อ จะได้ไม่เหนื่อยสะสม"

กล่าวบอกกับขวัญกวินด้วยน้ำเสียงสีหน้าและท่าทางที่เป็นห่วงเธอเป็นอย่างมาก

"สรุปใครเป็นเจ้านายลูกน้องกันแน่คะเนี่ย"

"ตอนนี้ไม่มีค่ะ มีแค่..เพื่อน ถ้าคุณไม่รังเกียจกันละก็เรามาเป็นเพื่อนกันนะคะ"

ส่งยิ้มอ่อนๆเพื่อผูกมิตรกับเจ้านายสาวแล้วยื่นมือไปขอจับมือ แล้วขวัญกวินก็ยื่นมือขึ้นไปจับพร้อมรอยยิ้ม

.

.

18:35 น.

"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง.."

"อย่าเอาแต่ทำงานนะคะ พักผ่อนให้มากๆ ไปละค่ะ"

"เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ"

ส่งยิ้มให้กันและกันก่อนที่จะเดินแยกทางกันไปคนละทาง

เมื่อขวัญกวินขึ้นมาจนถึงห้องของตัวเองก็ไปเปิดตู้เย็นหาอะไรทาน

"ไม่เคยใจเต้นแรงแบบนี้มาหลายปีแล้วแฮะ"

พูดกล่าวกับตัวเองด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะหยิบกล่องเนื้อสดออกมาจากช่องฟรีซมาทำอาหารทาน และในระหว่างที่ทำก็นึกถึงตอนที่ตัวเองหันหน้าไปใกล้กับหน้าของพชรไปด้วย

"ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้กันนะ"

ยิ้มกว้างแทบไม่หุบไปเรื่อยๆจนทำอาหารเสร็จก็เดินไปจัดจานแล้วนั่งทานคนเดียวจนเสร็จก็ยังคงคิดถึงเสียงพูดและภาพของพชรเมื่อตอนเย็น แต่ก็ต้องลุกเอาถ้วยจานไปล้างแล้วเข้าห้องนอนไปนั่งทำงานต่อสักพัก

"อย่าเอาแต่ทำงานนะคะ พักผ่อนให้มากๆ"

เสียงคำพูดของพชรที่พูดบอกกับเธอเมื่อตอนก่อนจะแยกจากกันทำให้เธอกดเซฟงานแล้วปิดเครื่องนอนตามคำบอกกล่าวของพชรในทันที

"อย่างน้อยก็เสร็จไปอีกชิ้น รวมเป็นสองชิ้น แล้วค่อยบอกทุกคนในทีมพรุ่งนี้"

พูดกล่าวบอกกับตัวเองก่อนที่จะหลับตาลงนอน

.

.

"กลับช้านะวันนี้ แล้วคืนนี้ไม่ออกไปไหนอีกหรอเรา.."

"ไม่ค่ะ..!!"

กล่าวตอบคำถามผู้เป็นพ่อแล้วก้มหน้าทานข้าวไปยิ้มไป

"เป็นอะไร ป๊าเห็นยิ้มไม่หุบตั้งแต่กลับถึงบ้านจนมานั่งทานข้าวแล้วนะ"

"เปล๊าา..! ไม่มีไรหรอกป๊าา.."

พชรรีบตอบปฏิเสธกลับไปด้วยเสียงสูง

"โกหก..อาการแบบนี้มีความรักชัวร์"

"ก็ไม่เชิงอ่ะป๊าา..ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้กับใครมาก่อนเลยอ่ะ"

พชรตอบยอมรับไปตามตรงเมื่อถูกผู้เป็นพ่อจับจุดได้ อมยิ้มแล้วสักข้าวในจานใหญ่อย่างเก้อเขิน

"ใคร..!"

กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

"เจ้านายที่ทำงาน"

"ถ้าชอบก็จีบเลย ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง"

"จะดีหรอป๊า..เจ้านายเกรซเลยนะ"

พชรกล่าวถามด้วยรู้สึกหวาดหวั่นใจเพราะอีกฝ่ายคือเจ้านายตัวเองที่ต้องทำงานด้วยทุกวันทำงาน

"ถ้าไม่กล้าระวังคนอื่นจะคาบไปกินซะก่อนนะ"

"ค่อยๆเป็นค่อยๆไปละกัน"

"ได้คบเมื่อไหร่พามาให้รู้จักด้วย"

เดินออกจากครัวแล้วกลับขึ้นไปบนชั้นสอง ส่วนพชรก็นั่งทานข้าวต่อไป

.

.

เช้าวันต่อมา..

"สองงานนี้ผมขอก่อนเที่ยงนะคุณเอกราช.."

"ครับบ! ท่านประธาน.."

ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นประธานบริษัทส่งยื่นงานเอกสารพร้อมสั่งงานแล้วก็เปิดกลับเข้าไปในห้องทำงาน ผ่านไปได้ไม่นานก็กลับออกมาอีกครั้ง

"ผมจะออกไปข้างนอก เสร็จแล้วก็เอาเข้าไปไว้เลยนะ"

เขากล่าวบอกแล้วเดินจากไปแต่ยังไม่ถึงนาทีพชรก็เดินเข้ามาหาเลขาของเขา

"ทิ้งงานให้เลขาทำแทน เงินเดือนผู้บริหารสูงขึ้นทุกปีในขณะที่พนักงานระดับล่างมีเรทเงินเดือนเฉลี่ยแล้วปีละเท่าเดิมในทุกๆปี"

"รู้ได้ไง.."

"เก่งมั้งเจ้..เจ้ทำงานที่นี่มากี่ปีแล้วล่ะ"

"จะหกปีเล่า"

ชายหนุ่มเลขาพูดไปก็ยังก้มหน้าทำงานต่อไปโดยไม่หันไปมองหน้าคู่สนทนาเลย

"แล้วเงินเดือนเท่าไหร่ ได้เพิ่มขึ้นมั้ย"

"สามหมื่นสี่เท่าเดิมทุกปี"

"ทั้งที่เป็นถึงเลขาประธานแต่เงินเดือนกลับเท่านั้นตลอด"

พชรกล่าวแล้วส่ายหน้าให้กับจำนวนเงินเดินของรุ่นพี่ตัวเอง

"แกจะสื่อถึงอะไร"

เงยหน้าขึ้นถาม

"ใช้งานเราหนักขนาดนี้แต่ให้เงินเดือนเท่าเดิม ก็หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองไง"

ฉีกยิ้มมุมปากเหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่ภายในใจ

"นี่แกอย่าไปพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินนะ ถ้ามีใครได้ยินเข้าแกได้หมดอนาคตแน่"

พูดกล่าวตักเตือนพชรแต่มีหรือที่พชรจะใส่ใจกับคำพูดตักเตือนนั้นของเขา

"ประเทศไทยเป็นแบบนี้น่ะหรอ"

พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของประธานเพื่อเอาแฟ้มงานเอกสารไปวางไว้แล้วเดินอ้อมไปหลังโต๊ะทำงาน

"อีกไม่นานเก้าอี้ตัวนี้จะกลายเป็นของฉัน"

เผยยิ้มมุมปากออกมาแล้วจ้องมองไปที่รูปถ่ายครอบครัวของเจ้าของห้องทำงานนี้

.

.

"ทำต่อตรงนี้ทีค่ะ นึกอะไรได้ใส่เพิ่มเติมลงไปเลยนะคะ"

ขวัญกวินนั่งและเดินดูและทำงานกับลูกทีมของตัวเองไปเรื่อยๆแทบจะไม่หยุดพัก แต่แล้วเธอก็กล่าวบอกกับลูกทีมให้มาช่วยทำงานต่อจากตัวเอง แล้วจากนั้นก็ลุกเดินออกไปด้านนอกห้องออกแบบชิ้นงาน เดินกลับไปที่ห้องทำงานของตน แต่ระหว่างทางก็ไปพบกับเนตรนภาซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษากำลังถือเอกสารลงลิฟต์ไปชั้นลง พร้อมกับเพื่อนของเธอที่เดินมาด้วยกันอีกคน ขวัญกวินจึงรีบเข้าไปช่วยเพราะเอกสารบนมือของเนตรนภามีเยอะเกินไป

"เนตรฟ้า..เดี๋ยวพี่ช่วย"

"ขอบคุณค่ะ!!"

เนตรนภากล่าวแล้วขวัญกวินก็แบ่งเองเอกสารมาจากเธอและเพื่อนแล้วพากันเข้าไปในลิฟต์

"แล้วนี่จะเอาเอกสารเยอะแยะพวกนี้ไปไหน"

ขวัญกวินกล่าวถามเธอทั้งสองคน

"เอาลงไปจ่ายให้แผนกต่างๆข้างล่างค่ะ"

"เยอะขนาดนี้ทำไมไม่มีคนช่วย.."

"เราสองคนอาสาเองค่ะ เห็นทุกคนกำลังยุ่งๆกันอยู่"

เพื่อนของเนตรนภากล่าวบอกแล้วทั้งสามก็เดินออกจากลิฟต์และช่วยกันแจกจ่ายเอกสารให้กับแผนกต่างๆ หลังจากแจกจ่ายเสร็จเรียบร้อยเนตรนภาก็เดินเข้าไปหาขวัญกวินในทันที

"ตอนเที่ยงไปทานข้าวกันมั้ยคะ"

"พี่ต้องอยู่ทำงานกับทีมงานของพี่น่ะ"

"หูวว! น่าเสียดายจัง ตั้งแต่พี่ย้ายออกจากบ้านไปก็แทบไม่ได้ทานข้าวด้วยกันเลย"

แสดงสีหน้าเสียใจและงอนขวัญกวิน

"เอาไว้คราวหน้าละกัน เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"

"โอเค..! ตามนั้นก็ได้ค่ะ"

เมื่อได้รับคำตอบดังนั้นแล้วขวัญกวินก็เดินแยกกลับเข้าไปในลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนแล้วเดินไปที่ห้องทำงานจากนั้นก็หยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงานของพชรซึ่งเป็นเลขาตัวเอง

"คุณเกรซ คุณทำงานที่ฉันสั่งเสร็จรึยังคะ"

"อีกแค่หน้าเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ"

"ถ้างั้นฉันวานคุณไปเอาไอแพดที่คอนโดฉันหน่อยได้มั้ยคะ"

"คุณไว้ใจฉันหรอ ฉันพึ่งมาทำงานกับคุณเองนะ"

"เปล่าค่ะ!"

เมื่อพชรกล้าถามขวัญกวินก็กล้าตอบกลับไปตามตรง

"ถ้างั้นคุณก็ควรจะไปเอง ไม่ควรใช้ใครทั้งที่ยังไม่รู้จักเค้าดีพอนะคะ"

"ดูคุณแล้วคุณไม่น่าจะเป็นคนไม่ดี คงไม่ทำไรพันนั้นหรอกค่ะ"

"ฉันไปเอาให้ก็ได้ค่ะ ขอคีย์การ์ดห้องด้วยค่ะ"

พชรกล่าวขอคีย์การ์ดห้องแล้วขวัญกวินก็หยิบยื่นคีย์การ์ดห้องตัวเองให้

"ชั้นหกห้องหกหนึ่งสองสี่ค่ะ"

ขวัญกวินกล่าวบอกแล้วพชรก็รีบจัดเก็บของและงานบนโต๊ะแล้วลุกเดินไปเอาของที่คอนโดของขวัญกวินตามที่เธอไหว้วาน

เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงพชรก็กลับมาพร้อมสิ่งของที่ขวัญกวินไหว้วานให้ไปเอา แล้วเอาไปให้เธอที่ห้องออกแบบเครื่องประดับ และเวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆจนถึงเวลาเลิกงานทุกคนก็ทยอยกลับบ้านกันเรื่อยๆ แต่พชรก็ยังไม่กลับเพราะยังไม่เห็นเจ้านายตัวเองออกมาจากบริษัท จึงได้ยืนรออยู่ด้านหน้าบริษัทจนประธานบริหารสูงสุดของบริษัทนี้เดินออกมา

"ทุกคนกลับไปหมดแล้วนะทำไมเธอยังไม่กลับอีกล่ะ"

เขากล่าวถามพชรอย่างสงสัยเพราะเห็นเธอยืนอยู่หน้าบริษัทไม่ไปไหนด้วยเหมือนยืนรอใครสักคน

"ยังกลับไม่หมดทุกคนค่ะ"

"นี่เลิกงานแล้วจะมีใครอยู่ได้ไง"

"คุณขวัญกวินเจ้านายฉันยังไม่ออกมาเลยค่ะ ฉันก็เลยยืนรอเธอ.."

"ทำไมขวัญถึงยังไม่ออกมา"

"คำถามนี้ท่านประธานควรถามตัวเองมากกว่านะคะว่าทำไม.."

จ้องมองเข้าไปในนัยน์ตาของประธานบริษัทที่ทำงานอยู่อย่างไม่ยำเกรงหรือเกรงกลัวเขาแต่อย่างใด

"เธอเป็นแค่พนักงานไม่มีสิทธิ์ถามฉันแบบนี้ พูดแบบนี้ไม่กลัวโดนไล่ออกรึไง"

กล่าวบอกกับพชรสีหน้าค่อนข้างจะไม่พอใจในคำพูดของเธอ

"ตอนนี้ไม่ใช่เวลางาน ทุกคนเท่ากันไม่มีลำดับขั้นค่ะ ที่คุณขวัญกวินยังไม่ออกมาเพราะเกิดจากงานที่ถูกสั่งเร่งรัดเกินไป ทั้งที่เครื่องประดับชิ้นนึงกว่าจะออกแบบได้มันต้องใช้ระยะเวลาค่ะ"

เมื่อได้ฟังดังนั้นแล้วเขาก็เดินกลับเข้าไปด้านในสักพักก็เดินออกมาพร้อมกับขวัญกวิน

"ทีหลังอย่าอยู่ทำงานเกินเวลาอีกนะ คราวหลังเลขาใหม่เราจะได้ว่าอาไม่ได้"

ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นประธานบริษัทกล่าวบอกขวัญกวินต่อหน้าพชรแล้วเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน

"คุณไปพูดอะไรกับท่านประธานคุณเกรซ.."

"ก็พูดไปตามความจริงที่ฉันรู้และเห็นจากคุณมา"

"ขอบคุณนะคะ คุณใจกล้ามากเลย ท่านประธานสั่งลดจำน้ำเครื่องประดับลงให้เหลือเก้าชิ้น"

แสดงสีหน้ายิ้มแย้มขอบคุณพชรจากใจจริง เพราะพชรช่วยให้เธอโล่งไปได้อีกเปลาะนึง

"เก้าชิ้น..! อย่างน้อยก็ลดลงมาสามชิ้น"

"ให้ฉันเลี้ยงข้าวเย็นคุณเป็นการตอบแทนนะคะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจคุณขวัญเปล่าๆ"

พชรรีบตอบปฏิเสธขวัญกวินด้วยความเกรงใจเธอ

"ถ้าอย่างงั้นถ้ามีอะไรให้ช่วยให้บอกฉันนะคะ ฉันยินดีจะช่วยเหลือค่ะ"

"ถ้างั้นฉันขอจีบคุณได้มั้ย"

เธอเอ่ยปากขอจีบขวัญกวินโดยตรง แต่กลับมีเพียงแค่ความเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง

"คุณณ..!"

"ที่จริงฉันอยากเป็นมากกว่าเพื่อนกับคุณ ฉันรู้สึกชอบคุณตั้งแต่วันที่ฉันมาสัมภาษณ์งานแล้วเจอหน้าคุณตอนที่เราเดินสวนทางกันที่นี่ตรงนี้แล้ว ฉันไม่สนว่าคุณเป็นเจ้านายและไม่สนว่าคุณมีคู่หมายหมั้นกับท่านรองรึเปล่า แต่เพราะฉันรับรู้ได้ว่าคุณไม่ได้มีใจให้กับท่านรอง ฉันจึงอยากจีบคุณ"

"ถ้าคุณจีบฉันติดนะคะ"

ขวัญกวินกว่าแล้วเผยยิ้มอ่อนๆออกมาก่อนที่จะรีบเดินไปยังลานจอดรถแล้วขึ้นรถไปนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในรถคนเดียวอย่างเก้อเขิน แต่พชรก็วิ่งตามไปแล้วเคาะกระจก เธอจึงลดกระจกลงมา

"ฉันไปส่งค่ะ"

.

.

เวลาเดินผ่านไปหลายวันพชรยังคงจีบและคอยใส่ใจดูแลขวัญกวินอยู่เรื่อยๆในตอนที่อยู่นอกเวลางานหรือช่วงพักงาน แต่ต้องคอยระวังไม่ให้มีใครเห็นหรือสังเกตการกระทำที่ผิดแปลกไปกว่าปกติที่เจ้านายกับลูกน้องมีต่อกัน เพราะไม่ต้องการให้ใครมานินทาเอาได้ด้วยจะทำให้ตัวขวัญกวินเสื่อมเสียทางด้านชื่อเสียงเอาได้

ในช่วงเวลาขณะหนึ่งในการทำงานพชรได้ลุกออกจากโต๊ะทำงานเดินไปทางห้องออกแบบเครื่องประดับ ก็เดินไปเจอกับเนตรนภาและเพื่อนของเธอเดินถือกล่องบรรจุเอกสารคนละสองกล่องผ่านมา

"ถืออะไรมาเยอะแยะคะเนี่ย"

พชรเดินเข้าไปหาแล้วกล่าวถาม

"พี่เกรซ..! คือเราสองคนกำลังเดินเอาเอกสารเก่าไปไว้ในห้องเก็บเอกสารน่ะค่ะ"

"แล้วก็ไปเอาเอกสารด้วย"

เพื่อนของเนตรนภาพูดเสริม

"ถ้างั้นพี่ช่วยนะ ท่าจะหนักน่าดู.."

ว่าแล้วก็แบ่งเอากล่องบรรจุเอกสารจากเธอทั้งสองคนมาคนละกล่องโดยไม่รอฟังคำยินยอม จากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปยังห้องเก็บเอกสารแล้วเอากล่องเข้าไปวางเก็บไว้ และในจังหวะที่เดินเอาเข้าไปเก็บขวัญกวินก็เดินมาเห็นจึงได้เดินตามมาดู

ในจังหวะที่เปิดประตูเข้าไปดูก็เห็นพชรกำลังยืนประกบข้างและยื่นมือขึ้นไปหยิบเอาแฟ้มเอกสารลงมาให้เนตรนภาในระยะประชิด เนตรนภาก็ได้เงยหน้าหันขึ้นไปมองหน้าพชร และในขณะเดียวกันก็เป็นเหตุให้ทันสองคนยืนสบตากันแล้วพชรก็ส่งยิ้มอ่อนๆให้ แต่แล้วก็ถอนตัวถอยห่างออกมาแล้วลงมอบแฟ้มเอกสารนั้นให้กับเนตรนภา

"เสร็จแล้วพี่ไปก่อนนะคะ"

เดินออกไปเปิดประตูแล้วพบกับขวัญกวินที่ยืนอยู่หน้าห้อง

"เมื่อกี้..เห็นรึเปล่า"

"ถ้าจะบอกว่าไม่เห็นก็คงจะตอแหลนะคะ"

"มันไม่มีอะไรเลยนะคะ แค่.."

"ฉันรู้ค่ะ ฉันไม่ใช่คนไร้เหตุผลและงี่เง่าหรอกนะ"

กล่าวจบก็เดินก้าวเท้าเดินไปจากหน้าห้องเก็บเอกสารโดยมีพชรเดินตามหลังไปตามสถานะในที่ทำงาน

.

"แก.....! พี่เค้ายิ้มและมองแกแบบนั้นด้วยอ่า"

เพื่อนของเนตรนภากล่าวพร้อมเดินเข้าไปยืนใกล้ๆเธอ

"ไม่มีอะไรมั้งง!! คิดมาก.."

เนตรนภากล่าวตอบแล้วหน้าเริ่มแดงระเรื่อ

"ไม่มากเว้ย สายตาแบบนั้นน่ะ ฉันว่าพี่เค้าต้องชอบแกแน่ๆ"

"ไม่มั้งฟ้า.."

หน้าแดงเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมแล้วรีบยกมือขึ้นมาปิดแก้มตัวเองไม่ให้ใครมองเห็น

"ไม่ชอบแต่หน้าแดงเลยนะแก ถ้าไม่ชอบพี่เค้าจะไม่หยุดค้างจ้องตากับแกขนาดนั้นเนตร ฉันสังเกตหลายครั้งแล้วเวลาเจอแก เชื่อฉัน..! พี่เกรซเค้าชอบแก.."

"แกคิดงั้นจริงๆหรอ"

เนตรนภากล่าวทวนถามเพื่อความแน่ใจ

"ใช่..! เซนส์ฉันบอกไม่ผิดแน่นอน"

.

"แล้วทำไงถึงได้มาช่วยแบบนี้ล่ะคะ"

ขวัญกวินกล่าวถามพชรที่เดินตามหลัง

"กะว่าจะเดินไปหาคุณที่ห้องออกแบบ จะไปถามว่าจะสั่งอะไรมั้ย"

"โทรมาก็ได้นี่"

หันหน้ากลับหลังแล้วเงยหน้าขึ้นบอกกับพชรในขณะที่กำลังเดินไปด้วยกัน

"อยากไปเจอหน้าไงคะ แล้วคุณขวัญล่ะคะ"

พชรกล่าวตอบคำถามแล้วเผยยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา

"จะเดินไปห้องท่านรอง เค้าโทรสั่งให้ไปหา"

"แล้วคุณก็ยอมไป.."

แสดงสีหน้าไม่เข้าใจในการกระทำของเธอ

"ทำไงได้ ตำแหน่งเค้าสูงกว่า.."

"สูงแต่ไร้ความสามารถ"

พชรกล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่งและเฉยชา ขวัญกวินเห็นดังนั้นก็ถามกลับไปว่า

"คุณพูดเหมือนไม่กลัวโดนไล่ออกเลยนะ"

"ถ้าโดนไล่ออกแสดงว่าเป็นความจริง เหมือนกินปูนร้อนท้อง แต่ถ้าไม่โดนไล่ออกก็เพราะไม่ใช่อย่างที่ฉันพูด"

พชรกล่าวตอบด้วยสีหน้าและแววตาที่ไม่หวั่นกลัวอะไรเลยทั้งสิ้น

"เป็นคนที่ตรงไปตรงมาดีจังนะ ดูไม่เกรงกลัวอะไรเลย"

"ทุกคนมีสิทธิ์พูดมีสิทธิ์วิจารณ์เท่าเทียมกัน"

เผยยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!