NovelToon NovelToon

แวมไพร์เซ่อๆ กับพาวเว่อร์ไร้ลิมิต

1

ผม เอิร์ท เป็นแค่นักเรียนธรรมดาๆในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ห้องของผมมีคนอยู่สี่สิบสอง ไม่สิ ตอนนี้มีสี่สิบคนเพราะตายจากอุบัติเหตุรถชนตอนไปทัศนศึกษาสองคน และสองคนนั้น…เป็น เพื่อนผมเอง เอาล่ะพักเรื่องเศร้าแล้วมาต่อดีกว่า ถึงไหนแล้วนะ อ๋อ ผมที่ควรจะเป็นนักเรียน ธรรมดาดันถูกอัญเชิญแถมมายกห้อง แสงสว่างวาบจนมองอะไรไม่เห็น ทุกคนต่างโวยวายกรี๊ด กร๊าดกันจนแสบแก้วหูแทนที่จะตกใจว่า”เกิดอะไรขึ้น”เลย ก็นะ พวกไม่เคยอ่านนิยายก็แบบนี้แหละ

“โอ้ เหล่าผู้กล้าเอ๋ย ขอขอบคุณที่ตอบรับคำเชิญของเรา”

เสียงของลุงอายุประมาณสามสิบปลายๆดังขึ้น พอแสงเริ่มจางลงก็ปรากฏให้เห็นลุงที่แต่งตัว เต็มยศ ห้องที่อยู่ตอนนี้ก็ประดับอะไรต่างๆนาๆจนดูสวยไปหมดแถมมีทหารยืนเรียงแถวอีก ต่างหาก

“ข้าคืออาเลฟ คริสโตเฟอร์ ซาเรียเชสต้า ราชาของอาณาจักรซาเรียเชสต้าอันศักดิ์สิทธิ์”

ชัดเลยที่นี่โลกแฟนตาซีอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเราถูกอัญเชิญมาแนวนี้โดนอัญเชิญมาเป็นผู้กล้าแหง็มๆ

“นี่คือลูกสาวเรา”

“เรเนีย คริสโตเฟอร์ ซาเรียเชสต้า ค่ะ”

เธอก้าวมาข้างหน้านิดหนึ่งแล้วทักทายแบบชนชั้นสูงในโลกแฟนตาซี

สมแล้วที่เป็นต่างโลก

“แล้วอัญเชิญพวกเรามาทำไมเหรอครับ”

ผมเปิดประเด็นแทนทุกคนเพราะสภาพแต่ละคนข้อมูลไม่ถึงไหนแน่

“อืม นั่นสินะ เมื่อสี่ร้อยปีก่อนเทพมังกรปีศาจถูกผู้กล้าสองคนโค่นลงแต่ว่าพลังเวทย์และจิตอาฆาตแค้นของมันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศรอบๆบริเวณที่มันตายดินแปดเปื้อนจนเพาะปลูกไม่ได้ ต้นไม้ต่างเฉาตาย น้ำเต็มไปด้วยมลพิษ เหล่ามอนสเตอร์บริเวศนั้นรับผลกระทบจนกลายพันธุ์ ความอันตรายของพวกมันเพิ่มสูงขึ้นมาก พวกเราทำได้แค่หยุดการกระจายตัวของพลังเวทย์แล้วประกาศให้เป็น ป่าต้องสาป”

เท่าที่ฟังมา…ไม่เกี่ยวกับจอมมารเลยนี่หว่า แต่หยุดการกระจายตัวของพลังเวทย์…

“หรือว่า จิตอาฆาต!”

“ใช่แล้ว จิตอาฆาตของมันทำให้เผ่าปีศาจที่อยากจะเป็นใหญ่ที่สุดในโลกเกิดกระหายสงคราม ที่จริงจอมมารรุ่นก่อนน่ะเป็นเพื่อนของข้า แต่หลังจากเหตุการณ์ที่จิตอาฆาตมันพุ่งไปแดนปีศาจ เขาก็ถูกโค่นอำนาจและหายสาบสูญไปจนถึงตอนนี้ เพราะงั้นปราบจอมมารคนปัจจุบันให้ทีเถอะ”

แสดงว่า จอมมารคนก่อนไม่โดนผลจากจิตอาฆาตและพยายามหยุดพวกปีศาจแต่ด้วยจำนวนจึงแพ้ไป…งั้นเหรอ สรุปคือปราบจอมมารจริงๆสินะ

“ถ้างั้นเราจะมอบสิ่งนี้ให้”

ราชาหยิบแผ่นเหล็กบางๆขึ้นมา

เหมือนกระจกที่ผู้หยิงไว้ใช้ตอนแต่งหน้าเลยแหะ

“สิ่งนี้เรียกว่า แผ่นสเตตัส มันจะแสดงถึงพลังทั้งหมดที่คนๆนั้นมี โดยกดพันธสัญญาเลือดลงบนจอเพื่อใช้งาน”

หลังจากราชาอธิบาย องค์หญิงก็ยกกล่องที่ใส่แผ่นสเตตัสแล้วเดินลงมา

“หลังจากนี้ดิฉันจะแจกมันคู่กับเข็มให้ทุกท่านนะคะ”

ทั้งน่ารักและใจดี สมแล้วที่เป็นต่างโลก!

“ฟุฟุ”

เสียงหัวเราะของเด็กสาวดังมาจากบนหัว ผมจึงหลังไปมองด้วยความสงสัย

“ไอ้หนูนี่ ทำอะไรไม่บอกไม่กล่าวอีกแล้ว”

เด็กสาวผมขาว ตาเหมือนอัญมณีสีแดง ผิวขาว อายุราวๆสิบสองหรือก็คือเด็กพอๆกับองค์หญิงแต่มีบรรยากาศรอบๆตัวเธออึดอัดมาก ต่างจากองค์หญิงที่ดูผ่อนคลาย

“มีอะไรรึเปล่าคะ?”

ผมที่จ้องเธอจนลืมไปเลยว่ากำลังแจกแผ่นสเตตัสอยู่ จนมาถึงผม องค์หญิงเรียกผมจึงต้องหันกลับมา

“เอ่อ คือ…”

พอผมหันกลับไปเธอก็หายไปแล้ว องค์หญิงก็ทำท่างงกว่าเดิม

“อ๋อ เอ่อ ไม่มีอะไรครับ”

ผมตั้งสติบอกคำแก้ตัวยอดฮิตไปแล้วหยิบแผ่นสเตตัสขึ้นมาเธอก็ยิ้มแล้วเดินไป

เอ่อ แล้วกดพันธสัญญาเลือดคือ ใช้เข็มที่ติดมาคู่กับแผ่นสเตตัสเจาะเลือด แล้วเอาเลือดแปะลงบนแผ่นหลังจากแปะลงไปแผ่นสเตตัสก็แสดงค่าพลังต่างๆขึ้นมา สุดยอดเลย ไหนดูสิ

Class: มือปืน             Level: 1

Skill: ล็อกเป้า สามารถล็อกเป้าหมายได้

เนตรพยากรณ์ สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายในอนาคตอันใกล้ได้

Str:50              Agi:50         Vit:50

Mana:5000

ถึงทุกอย่างจะดูธรรมดาแต่พลังเวทย์มีเยอะเหมือนกันนะ

“อะแฮ่ม ค่าพลังของคนปกติโดยร่วมจะอยู่ราวๆสิบ ทหาร สามสิบ อัศวิน ห้าสิบ และราชองครักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุดนโลก ห้าร้อย ที่กล่าวไปคือค่าพลังระดับความสามารถของโลกใบนี้สูงสุดที่ทุกชีวิตไปแตะถึงคือ ห้าร้อย แต่จอมมารนั้นอยู่สูงขึ้นไปอีก เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังนั้นพวกเราก็เป็นแค่มดปลวกธรรมดา ๆ แต่ว่า! พวกท่าน…ด้วยพลังของพวกท่านที่สูงกว่าปกติและสามารถพัฒนาไปได้เร็วกว่าคนของโลกนี้ เราจะสามารถช่วยมนุษย์…ไม่สิ โลกใบนี้ได้อย่างแน่นอน!”

อุหว่า ราชายืนขึ้นแล้วพูดเรื่องเว่อร์วังอลังการจนถ้าเป็นโลกเก่าคงไม่วายโดนหัวเราะใส่ แต่ว่าถ้าเป็นผู้กล้าไปปราบจอมมารชีวิตในต่างโลกคงจะสบายกว่าเป็นนักผจญภัยเยอะ ด้วยเหตุนี้จึงขอติดสอยห้อยตามเป็นพยาธิไปด้วยนะครับ

“ถึงจะว่างั้น…”

หลังจากที่ราชาพูดเรื่องเว่อร์ๆเสร็จก็บอกอีกว่าคลาสเป็นพลังที่ผู้ถูกอัญเชิญมีเท่านั้นหรือ พลังเฉพาะ ที่ช่วยเพิ่มความชำนาญในการใช้อาวุธเช่น คลาสนักดาบก็ทำให้คนๆนั้นใช้ดาบเป็น แต่ว่า…เราเป็นมือปืนในโลกที่ไม่มีปืน โคตรซวยเลย… พอลองใช้ดาบไม้ก็พอได้อยู่หรอกแต่ดาบจริงเนี่ยสิ ดันยกไม่ขึ้นซะงั้น พอลองเวทย์ก็ยิงไม่ออก ไม่สิ มันก็ออกแหละ แต่ลูกไฟมันเล็กกว่าไม้ขีดอีก…ก็เรียกไม่ออกนั่นแหละ พอเห็นว่าทำไรไม่ได้เลยขอให้ออกจากตี้ผู้กล้าไปและตอนนี้ผมมาจบลงที่บ่อน้ำพุในเมืองโดยมีเงินติดตัวจากราชามานิดหน่อย  แบบนี้แม้แต่กิลด์ก็คงไม่ให้เข้า อนาคตจบก่อนจะเริ่มอีก

“โอ้!! เจ้าของร้าน”

“อุ้ยตาย เรย์จังมาไวจริงๆ นิยายที่สั่งมาแล้วนะ”

“โอ้!!! มาแล้วงั้นเหรอ!!!”

เด็กสาวผมขาวเดินเข้าไปในร้านนิยาย แล้วพอได้ยินว่านิยายที่สั่งได้แล้วก็ดีใจมาก

นิสัยเหมือนหมอนั่นเลยน้า เฮ้อ… กลับไปนั่งซึมต่อ แต่เดี๋ยวนะ เหมือนเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน…

“เอิร์ท ไม่ใช่เหรอนั่น”

ระหว่างที่นั่งซึมก็มีเสียงเรียกชื่อผมมาจากข้างๆ เสียงที่คุ้นเคย

“เสียงนี้อย่าบอกนะ เบลด!!”

เบลดคือเพื่อนที่ตายไปในอุบัติเหตุพร้อมกับอีกคน

“โย่ จริงๆฉันควรจะถามว่า ไปทำอะไรมาถึงมาอยู่ตรงนี้แต่ก่อนหน้านั้นย้ายไปที่อื่นที่มันสะดวกกว่านี้เถอะ มีร้านมาเปิดใหม่ตรงนั้นพอดี”

หลังจากเบลดเจอผมแล้วพาผมมาร้านข้าวที่มันเคยบอกว่าเปิดใหม่

เอ๊ะ เดี๋ยวสิมันไม่สงสัยเลยเหรอทำไมผมมาอยู่โลกนี้ได้ จริงสิ มันพวกบ้านิยายเลยเดาได้สินะ อะ มาถึงแล้ว เป็นร้านที่แถวโคตรยาวเลย ต้องรอนานแน่ เฮ้ยเดี๋ยวสิ! เจ้านั่น! เดินดุ่มๆเข้าไปเลยเนี่ยนะ! ไม่โดนด่าอีก สงสัยจะจองไว้ก่อนแล้วพอเข้าไปนั่งเบลดก็สั่งนั่นนี่จนผมตามไม่ทันเลยพูดแค่ของเหมือนเขาไป

“เอาล่ะ ไหนบอกหน่อยสิว่าทำไมถึงไปนั่งซึมตรงนั้น”

พอเบลดเอ่ยปากแบบนั้นผมก็เล่าทุกอย่างให้มันฟัง

“ก็แบบนี้แหละ แล้วตอนนี้เลยกำลังคิดว่าอนาคตจะอยู่ยังไงดีน้า ว่าไปนั่น”

พอบอกแบบนั้นไปเบลดก็ทำท่าคิดอะไรสักอย่าง จากนั้นก็มีช่องสีดำปรากฏข้างแล้วหมอนั่นก็ยืนมือเข้าไป ผมตกใจมากเพราะไม่เคยได้ยินเวทย์มนต์แบบนี้และพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก แล้วหยิบอะไรสักอย่างออกมา

“งั้นเอานี่เป็นอาวุธเพื่อลงทะเบียดกับกิลด์ซะ”

เบลดยื่นปืนให้กับผม ปืนจริงๆล่ะ

“เบลด นายเอาปืนนี่มาจากไหนน่ะ”

“หึ นั่นคือปืนรุ่นต้นแบบที่ยัยนั่นให้มา”

เขาตอบไม่ตรงคำถามแล้วกินอาหารเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่นี่มันเทคโนโลยีระดับสูงมาอยู่ในโลกดาบและเวทย์มนต์แถมยังมี”ยัยนั่น”อีก

“ยัยนั่นที่ว่าเนี่ย…”

“อ๋อ คนที่มาเกิดใหม่ไม่ได้มีแค่ฉันหรอกนะ ยังมีหมอนั่นอีก…”

หมอนั่นหรือว่า!

“ใช่”ห้ามพูดชื่อออกมาเด็ดขาด!!!!”เอ๊ะ…”

“ครั้งล่าสุดที่พูดชื่อยัยนั่นฉันเกือบจะไปโลกหน้าเลยนะ เพราะงั้นห้าม! เด็ด! ขาด!”

เบลดถึงกับตะโกนใส่หน้าฉันแบบนี้…ไปเจออะไรมาเนี่ย

“หมอนั่นเกิดใหม่เป็นเด็กผู้หญิงเผ่าแวมไพร์และตอนนี้ใช้ชื่อ เรย์ บลัดฟอว์เร็น เวลาจะเรียกหมอนั่นให้เรียกชื่อนี้ ใจนะ”

เบลดพูดด้วยท่าทางกึ่งๆอารมณ์เสียแล้วกินต่อ ส่วน เรย์….ชื่อคุ้นๆแหะ ช่างเหอะ

“แล้วกิลด์นักผจญภัยนี่…”

“เดี๋ยวพาไป…ไม่สิ ต้องไปซื้อชุดกับอุปกรณ์ก่อน จะให้เดินเข้าไปทั้งๆแบบนั้นมันน่าเกลียด”

นั่นสินะ เข้าไปกิลด์ด้วยชุดนักเรียนของอีกโลกมันก็ดูแปลกจริงๆนั่นแหละ

ผมยกช้อนแล้วตักเข้าปากแค่คำเดียว ก็สามารถบรรลุได้ในทันที

“เอาล่ะ! มาหาชุดเหมาะกับมือปืนกัน!”

พอกินเสร็จเบลดมันก็ลากผมมาที่ร้านขายอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า… อ่านไม่ออก

ซวยล่ะสิ อ่านตัวหนังสือโลกนี้ไม่ได้!! ทำไงดี… เอ๊ะ แล้วสื่อสารกันได้ไง พูดได้แต่อ่านเขียนไม่ได้ แปลกดีแท้

“ขอโทษนะครับ”

เบลดเดินไปที่เคาเตอร์แล้วตะโกนเรียกพนักงาน ผมหันไปดูรอบๆระหว่างรอ

ของแต่ละอย่างที่นี่ดูคุณภาพสูงจังนะ

“โอ้! เบลดคุงไม่ได้เจอกันตั้งนาน สบายดีไหม”

คุณลุงที่ดูอายุประมาณ 40 ต้นๆมีเคราเดินออกมาจากหลังร้าน

“อาฮ่าฮ่า ก็สบายดี ส่วนทางนั้นก็ยังเอาอุปกรณ์คุณภาพต่ำมาหลอกตาคนอื่นไม่เปลี่ยนเลยนะ”

เบลดก็ตอบกลับไปอย่างเป็นกันเอง

เอ๊ะ คุณภาพต่ำ? เจ้าพวกนี้เอาไว้หลอกตาหรอกเหรอ ถ้าไม่พูดไม่รู้เลยนะเนี่ย

“วันนี้จะมาสั่งทำเกราะให้หมอนี้น่ะ เพื่อนผมเอง”

เบลดพูดแบบนี้แล้ว ต้องแนะนำตัวเองสินะ ฟู…. แค่แนะนำตัวเองต้องทำได้แน่ ใจเย็นไว้

“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมเอิร์ทครับ”

“โอ้! ฉันเป็นช่างและเจ้าของร้านที่นี่ วลาด ยินดีที่ได้รู้จักนะ เจ้าหนู!”

อาฮ่าฮ่า โดนเรียกเจ้าหนูซะแล้ว

“แล้วรายละเอียดของเกราะที่จะสั่งทำล่ะ”

เอ่อ จะสั่งไงดีเนี่ย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยสั่งทำเกราะเลยแถมราคาเนี่ย จะจ่ายไหวเหรอ อืม เอาเป็นว่าสั่งที่เหมาะกับมือปืนอย่างเราแล้วโยนราคาทุกอย่างให้เบลดเลยแล้วกัน

“ขอแบบเบาๆเคลื่อนไหวสะดวก เหมาะสำหรับสายหลบหลีกน่ะครับ”

พอผมพูดแบบนั้นไปเจ้าของร้านก็ลูบเคราเหมือนคิดอะไรสักอย่าง ส่วนเบลดก็ดูเหมือนจะคิดไว้แล้ว

“ขอเป็นแบบเร่งด่วนด้วยนะครับ ภายในวันนี้เลย…ไม่สิ…ตอนนี้เลย”

เบลดยกนิ้วโป่งให้แล้วพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ออกไป

งานโหดเกิ๊น!

“หึ งานด่วนอีกแล้วงั้นเหรอ เอาสิ! จัดมาเลย!”

ตาลุงนี่ก็บ้าไปแล้ว ทำงานหนักขนาดนั้นเดียวหัวใจวายตายหรอก!

“งั้นให้บัฟความเร็วขั้นสูงไปแล้วกัน เอาล่ะตอนนี้พวกเราจะเดินดูอุปกรณ์รองของหมอนี้ก่อนไม่ว่าอะไรนะ”

“คุคุ เชิญเลย! งั้นฉันไปก่อนล่ะ!”

หลังจากคุยเสร็จลุงแกก็หายไปอย่างไวบัฟความเร็วของหมอนี่

มันดีขนาดนี้เลยเหรอ?!

“สำหรับนายที่ใช้ปืนควรหาจำพวกมีดไว้ตอนโดนเข้าประชิดตัวนะ”

พวกเราเดินไปหลังร้านซึ่งเป็นที่ที่อุปกรณ์คุณภาพสูงของจริงอยู่

อย่างงี้นี่เอง หรือก็คือเวลาต่อสู้เราต้องไม่มีจุดอ่อน เพราะมันคือช่องโหว่ถึงชีวิตเลย

“อืม งั้นเอาอันธรรมดาๆอย่างอันนี้แล้วกัน”

ผมหยิบมีดที่ดูธรรมดาขึ้นมา

“จะเอาอันนั้นงั้นเหรอ”

“ใช่น่ะสิ”

หมายความว่าไง กำลังจะบอกว่าให้เอาอันที่ดูดีกว่านี้เหรอ

“เปล่า แค่คิดว่าคนอย่างนายเลือกอันธรรมดาเป็นกับเขาด้วยเนี่ย…”

ไอ้คนอย่างตรูมันคืออะไรฟะ

“โอ้! อยู่นี่เอง ชุดเสร็จแล้วนะ”

ลุงแกเดินออกมาโดยที่ทั้งตัวท้วมด้วยเหงื่อ

ทางนั้นก็ไวเกิ๊น!

“อืม….”

ชุดที่ลุงทำคือ…เป็นเกราะบางแปะที่อก…เบาจริงๆ

“ถ้าจะแปะแบบนี้ก็ไม่ต้องให้ตรูใส่เหมือนเบลดก็ได้!!!”

“พูดอะไรน่ะ ชุดของเจ้าหนูเบลดทั้งหมดถูกร่ายเวทย์จะแข็งพอๆกับเกราะที่ทำจากแร่มิธริลทั้งหมดนะ”

ลุงลูบเคราแล้วพูดด้วยสีหน้าน้ำเสียงงงๆ อย่างกับตรูรู้อยู่แล้วอะ!

อุ๊บ! เผลอนิดเดียวเสียงในหัวก็หลุดออกไป

“หืม แล้ว…ทั้งหมดราคาเท่าไหร่”

“อืม นั่นสินะ มีดสั้นหนึ่ง เกราะที่อกหนึ่ง…รวมๆ สองร้อยห้าสิบเหรียญเงินเล็ก”

พอลุงบอกราคาเบลดก็เอาถุงเงินเอามาแล้วหยิบเหรียญเงินขนาดใหญ่สามเหรียญใส่มือลุง

“ฟังนะ เหรียญเงินใหญ่อีกเหรียญเป็นค่าปิดปากว่าฉันไม่เคยอยู่ที่นี่ ให้ตายยังไงก็อย่าให้ใครรู้เด็ดขาด”

“ถึงไม่ให้มาข้าก็ไม่บอกใครหรอก”

อยู่ดีๆทั้งคู่ก็จริงๆจังขึ้นมาราวกับถ้าชื่อเบลดหลุดออกไปจะเกิดหายนะขึ้น

“งั้นขอตัวก่อน ต้องไปลงทะเบียนอีกน่ะ”

เราออกมาโดยที่ผมไม่ได้พูดอะไร ไม่สิ โดนลากออกมาอย่างรวดเร็วจนไม่มีโอกาสได้พูดลา แต่ลุงก็ดูจะเข้าใจเลยยิ้มแล้วโบกมือให้เป็นการบอก “มีอะไรก็แวะมาได้”

“เอาล่ะมาถึงแล้วนะ กิลด์นักผจญภัย”

ผมมองกิลด์นักผจญภัยด้วยความตื่นเต้นและประหม่า แต่ระหว่างที่ผมกำลังชื่นชมภายนอก  เบลดก็เดินเข้าไปแบบไม่สนอะไรเลย แน่นอนผมต้องรีบตามหลังเข้าไป พอเข้ามาก็โดนนักผจญภัยบางคนมองด้วยสายตาสงสัย

เอาเหอะ เรามันคนแปลกหน้านี่นะ เรื่องปกติที่จะต้องมีคนมอง

“ขอโทษนะครับ”

เบลดเดินไปตรงเคาเตอร์แล้วเรียกพนักงานสาวที่กำลังจัดหนังสือบนชั้น

“เอ่อ…ขอโทษนะครับ”

พอเบลดเรียกซ้ำเขาก็หันมาแบบลุกลี้ลุกลนอย่างกับพนักงานเข้ามาใหม่

“อะ เอ่อ เอ่…อา…”

พนักงานคนนั้นลนจนทำอะไรไม่ถูก จะไหวไหมเนี่ย

“อา ขออภัยด้วยค่ะ เธอพึ่งเข้ามาใหม่”

พนักงานอีกคนเดินมาพูดแทน คนละระดับกับเธอเลย ดูเป็นมืออาชีพสุดๆ

“อา แหะๆ ผมพาเพื่อนมาลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยน่ะ”

“เดี๋ยวดิฉันจะเอาเอกสารมาให้ รอสักครู่นะคะ”

คุณพนักงานคนนั้นก็ออกไปเอาเอกสาร มันพูดให้จนผมไม่ต้องทำอะไรเลยน่าจะเหลือบทให้หน่อยนะส่วยคุณพนักงานอีกคนพอเห็นเบลดก็หลี่ตามองแล้วขยี้ตามองใหม่ซ้ำๆ ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ

“นัยน์ตาสีน้ำเงินหายากแบบนั้น พลังเวทย์น้ำเงินอมม่วงแบบนี้…ระ ระ ระ ระ หรือว่าคุณคือ นักผจญภัยแรงค์ S ท่าน

เบลด อินเมธิล!!!!!!”

เอ๋…หา!! นี่เอ็งดังขนาดนี้เลยเหรอ แถมเป็นนักผจญภัยแรงค์ S อีกหมายความว่าไงเนี่ย!!!!

“เฮฟเวินลี่การ์เดี้ยน คนนั้นนะเหรอ!”

“ได้ยินว่าเขาชอบเดินทางไปทั่วจนเจอตัวยาก”

“งั้นแสดงว่าตอนนี้เขาพักอยู่ที่เมืองนี้งั้นเหรอ?!”

“สุดยอด! ได้เลยเจอตัวจริงเสียงจริง!”

ไอ้บรรณยากาศที่เหมือนเจอไอดอลนี่มันอะไรกันแถมชื่อสุดน่าอายนั่นอีก จังหวะนี้ต้องหันไปถามว่า ตอนนี้ต้องทำไงต่อ…อ๊ะ เบลดหน้าซีดแล้ว

“ถ้าเป็นเมืองอื่นยังพอว่าแต่ไม่อยากให้ตัวตนของฉันหลุดไปในเมืองนี้เลย”

หมายความว่าไงน่ะตัวก็สั่นเป็นเจ้าเข้า ช่างเถอะ อยากลงทะเบียนเร็วๆแล้ว

“พูดอย่างกับฉันคนนี้ไม่รู้แหละ”

เสี้ยววินาทีที่ผมกำลังวางแผนว่าจะทำอะไรต่อก็มีเสียงของเด็กผู้หญิงดังเข้ามาในหัว ดูท่าเบลดจะได้ยินเหมือนกัน

“ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกที่นายเดินเข้ามาแล้วล่ะ แต่..ทำไมนายต้องกลัวฉันขนาดนั้นด้วยล่ะ”

“ก็หล่อนชอบโยนพวกงานมาให้ฉันแล้วหนีไปงีบไม่ก็ไปเล่นในป่า แล้วฉันล่ะ ฉันอยากจะเดินทางรอบโลกแต่เกือบตายคากองเอกสารแบบนี้จะไม่ให้กลัวได้ไง!!!!!!!!!”

เบลดใส่อารมณ์เหมือนเก็บกดมานานแต่เท่าที่ฟังเป็นฉันก็โกรธกับกลัวเหมือนกันนะก็เล่นโดนใช้แบบทาสบริษัทส่วนตัวเองหนีไปเล่นอย่างเดียว

แต่เดียวก่อนนะ ถ้าเบลดพูดแบบกันเองกันคนที่พูดนี่แสดงว่า “รู้ว่าในหัวคิดอะไร อย่าจะดีกว่าและช่วยเรียกฉันว่า เรย์ ด้วย” อ่านใจได้ด้วยเหรอ!!! ”อ่านได้แล้วมีปัญหาเหรอ” ขอโทษครับ

“เอาเถอะ ที่โทรจิตมาคุยด้วยแบบนี้เพราะอยากถาม เบลดได้ให้ “ของขวัญต้อนรับ” ที่ฉันฝากให้ไปรึเปล่า ยิ่งนายเป็นคนขี้ลืมด้วย”

“ถ้าหมายถึงปืนฉันให้ไปแล้วเฟ้ย และอีกอย่างตอนนี้เอิร์ทยังพูดด้วยโทรจิตไม่ได้ หล่อนก็น่าจะรู้หนิ แล้วขี้ลืมนี่หมายความว่าไงฟะ”

“เออๆ รู้แล้วๆแค่นี้แหละ คุณพนักงานกิลด์กำลังเรียกอยู่น่ะเห็นไหม เพราะงั้นไปล่ะ เห็นแบบนี้ฉันก็งานเต็มมือนะ”

ทันทีที่เรย์พูดจบก็มีเสียงเหมือนสัญญาณตัดดังในหัว

เหมือนการตัดสายโทรสัพท์เลยแหะ

“เอ่อ คือ…”

“อะ โทษทีๆ ต่อเลยแล้วกัน เอิร์ท ตานายแล้ว”

“เข้าใจแล้ว”

ผมเดินไปพยายามจะกรอกข้อมูลแต่…อ่านไม่ออกโว้ย!!!! ถ้าอ่านไม่ออกแล้วจะเขียนไงเนี่ย แต่ทำไมคนถูกอัญเชิญอย่างฉันถึงฟังออกแต่อ่านเขียนไม่ได้เนี่ย อ๊าก!!!

“เห้อ…มา เดี๋ยวช่วยเอง”

เสียงของเบลดเข้ามาในหัว?! อ๋อ โทรจิตที่พูดถึงสินะ เบลดก็ทำอะไรสักอย่างแล้วมือผมก็ขยับไปเอง สุดยอดเลยน้า ถึงจะไม่รู้ว่าเขียนอะไรลงไปก็เถอะ พวกที่เหลือคงจะได้เรียนตัวหนังสือของโลกนี้แน่ ก็นะ ผู้กล้าที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้นี่มัน… โอ๊ะ เขียนเสร็จแล้วเหรอไวจัง

“ฮ่าฮ่า! สมแล้วล่ะนะ คุณเฮฟเวินลี่การ์เดี้ยน” กระซิบ

“ไม่ต้องพูดเลย อะ จริงสิ ลืมให้”ของขวัญต้อนรับ”ของฉันเลย”

เบลดหยิบกำไลออกมาจากไอ้ดำๆนั่นอีกแล้ว

ว่าแต่กำไลนี้…คงจะเหมือนเครื่องรางของโลกนี้มั้ง

ผมก็ยืนมือไปรับกำไลแล้วใส่ทันที

“ถึงจะมีมีดแล้ว แต่เพราะสเตตัสที่นายบอกมามันโคตรกระจอกเลยให้กำไลนี้ไปน่ะ”

ขอสักหมัดใส่หน้าภูมิใจนั่นเถอะและคำว่ากระจอกไม่ต้องพุดออกมาก็ได้

“แล้ว…กำไลนี่มันทำไรได้ล่ะ”

“มันคืออาร์ติแฟคที่จะเพิ่มพลังโจมตีและความเร็วของผู้สวมใส่หกร้อยหน่วยน่ะ”

เฮ้ยๆๆๆๆ ถามจริง?! นี่คุณมึงเอาสมบัติระดับชาติมาให้ใส่เนี่ยนะ ราชาก็อธิบายระดับสเตตัสของโลกใบนี้แล้ว ขนาดราชองครักษ์ยังมีแค่ห้าร้อยเลยนะ แต่นี่!...หกร้อย! ..พระเจ้าถ้าเลเวลอัพไปมันจะขนาดไหนเนี่ย…หมอนี่มันมาเกิดใหม่และอยู่นานกว่าฉันแต่ไม่รู้สามัญสำนึกของโลกนี้รึไง หรือรู้แต่ไม่สนนะ อืม คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ

“ค้า! ยืนยันเรียบร้อยต่อไปก็วางมือบนศิลาเวทย์นี่ด้วยค่ะ”

คุณพนักงานหยิบหินกลมๆขึ้นมา ชื่อ ศิลาเวทย์งั้นเหรอ

“ครับ”

พอวางมือไปบนหินมันก็ปรากฏแสงสีฟ้าขึ้นมา

“พลังเวทย์ของคุณเอิร์ทอยู่ในระดับสูงสินะคะเนี่ย”

เอ๋ สีฟ้าคือระดับสูงเหรอ

“มานาห้าพัน จะได้ระดับสูงก็ไม่แปลกหรอก”

เบลดโทรจิตมาอีกแล้วแต่ ห้าพันนี่สูงงั้นเหรอ

“มานาของนายอยู่ในระดับพวกจอมเวทย์แนวหน้าเลยล่ะ”

ขนาดนั้นเลยเหรอ มานาพื้นฐานของโลกนี้มันเท่าไหร่กันแน่เนี่ย

“คุณเอิร์ทจะเริ่มจากทดลองงานแรงค์ F นะคะ นี่บัตรนักผจญภัยค่ะ”

หลังจากรับบัตรมาตอนแรกก็ดีใจอยู่หรอกที่ได้งานแล้วแต่…ทดลองงาน?

“ทดลองงานเหรอครับ?”

“ใช่ค่ะ ทดลองงาน”

คือต้องทำผลงานสินะ

“เอ่อ คุณ…”

“อะ ขออภัยที่แนะนำตัวช้าไปค่ะ ดิฉัน จูเลียต้า ค่ะ ”

“เอ๊ะ อะ! ส่วนฉันชื่อ เดเรีย ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

“ยัยนั่นยังอยู่อีกเหรอเนี่ย” คำนั้นขอคืนให้แล้วกันและรีบๆออกไปจากหัวฉันได้แล้ว!!“ค่าๆ..”

“อะแฮ่ม!…คุณจูเลียต้าครับ แล้วต้องทำไงถึงจะได้เป็นนักผจญภัยเต็มตัวล่ะครับ”

หลังจากถามไปก็หยิบใบอะไรสักอย่างขึ้นมาแล้วยื่นให้เบลด

พอหมอนั่นอ่านจบก็มองหน้าคุณพนักงานทันที

“ฝากด้วยนะคะ ท่านเบลด”

“เห้อ…ฉันได้เป็นผู้คุมสอบเฉยเลย การสอบก็เก็บสมุนไพรยี่สิบต้นและกำจัดก็อบลินสิบตัวง่ายๆแค่นี้ ทำได้ใช่ไหมล่ะ”

ชิ สุดท้ายก็ต้องไปกับเจ้าอวดรู้นี่อีกแล้งงั้นเหรอ

“เอาล่ะ ไปกัน!”

“เออๆ ไปกันอยากลองปืนด้วย หืมนั่นอะไรน่ะ”

ผมเงยหน้าขึ้นไปแล้วเห็นตัวอะไรสักอย่างบินอยู่บนฟ้าเลยถามเบลดไปแบบไม่รู้ตัว

“หืม อะ ยัยนั่นนี่น่า คงจะเข้าไปเล่นในป่าอีกนั่นแหละ”

ยัยนั่น อ่อ เรย์ สินะ เห้อ น่าอิฉจาจังมีปีกสีดำเท่ๆด้วย แต่..เอ้..เหมือนเคยเจอเธอมาก่อนแต่ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเธอเป็นเพื่อนอีกคนที่มาเกิดแต่อยู่ในร่างเด็กผู้หญิง เท่าที่ดูคงจะได้เป็นนักเวทย์สินะ

“ไม่รู้ว่านายคิดอะไรอยู่แต่เธอน่ะ แข็งแกร่งสุดแล้ว ฉันเน้นทางการป้องกันเหมือนปราการที่ตีไม่แตกเดินได้แต่เธอน่ะ วิชาดาบก็ยื่นอยู่จุดสูงสุด เวทย์ขั้นสูงก็ใช้ได้ง่ายๆ พลังเวทย์ก็อย่างกับขีปนาวุธเดินได้ ไม่สิ ขีปนาวุธยังดูเด็กๆไปเลย”

ขนาดนั้นเลยเหรอ!! เพื่อนตรูกลายเป็นสัตว์ประหลาดแบบไหนไปแล้วเนี่ย!!

“นิสัยหล่อนเปลี่ยนไปมากหลังจากมาโลกนี้ เอาแต่กิน เอาแต่เล่น เอาแต่ใจ เอาแต่นอน อยากจะบ้าตาย ถึงอย่างนั้นเวลายัยนั่นเอาจริงเอาจังก็เป็นคนสุขุมมาก เป็นคนน่าติดตามเอาเป็นเยี่ยงอย่างคนหนึ่งเลยล่ะ แต่มันยากมากเลย การที่เธอจะเอาจริงเอาจังเนี่ย น่ะ แววตากับรอยยิ้มออกชั่วร้ายแบบนั้น ดูยังไงก็กำลังเล่นอยู่”

เขาพูดและเดินไปหลังจากเห็นเรย์บินไปแล้ว นี่เอ็งมองเห็นได้ไงเนี่ยแต่ถ้าพูดถึงขนาดนี้ก็คงจะเป็นงั้น…แสดงว่า เวลาเจอหล่อนต้องเตรียมตัวรับมือสินะ ท่าทางจะเย่อยิ่งกว่าเดิมมาก เห้อ ปวดหัวจริงๆ เดี๋ยวนะ…เป็นแวมไพร์แต่ออกมากลางวันแสกๆแบบนี้ ปกติแล้วมันทำได้เหรอ ห้ะ?

จบ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!