NovelToon NovelToon

อสูรกายต่างโลก

ตอนที่ ๑ เริ่มต้นความพิศวง

ความฝันที่เลือนลางคือต้นเหตุของทุกอย่าง ในตอนนี้ความฝันนั้นได้ดึงให้ตัวเธอเข้ามาพัวพันกับเรื่องที่น่าเหลือเชื่อการคัดสรรจากสิ่งที่มีพลังอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของห้วงจักรวาล ตัวตนที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกถูกคัดสรรและสั้นสร้างจากเหล่าผู้อยู่เหนือกฎเกณฑ์

... โลกอีกใบที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ในห้วงมิติสิ่งมีชีวิต...

มหัศจรรย์ก่อเกิดขึ้นในโลกแห่งนั้นโดยผู้สร้างได้คัดสรรจาก

โลกแห่งจินตนาการของมนุษย์ที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกของพวก

เขาน่ากลับน่ามาสรรสร้างและปลูกถ่ายให้มันมีชีวิตขึ้นใน

โลกแห่งใหม่แล้วจากไปโดยไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว

ตัวตนปริศนาคือสิ่งผิดพลาดที่พวกเขาเหลือทิ้งไว้อยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกพิสดาร นั่นคือจุดจบของทุกสิ่ง...และนี่คือเรื่องราวต่อจากนี้สาวน้อยที่มีชื่อว่าเอ็กคานอส..

....................................

... "ในโลกที่ฉันอยู่มันเต็มไปด้วยความวุ่นวายทั้งๆที่อยู่กันสงบกันแท้ๆแต่ก็ยังแก่งแย่งกันไม่รู้จบทุกๆอย่างล้วนเกิดจากพวกตัวผู้นี้ทั้งนั้นนับตั้งแต่อดีตเป็นต้นมาทั้งสงคราม"...

การแก่งแย่งชิงดีนี่เหรอสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ฉันชื่อ เอ็กคานอส คุณอาจจะหัวเราะเพราะชื่อของฉันเหมือนผู้ชาย พ่อของฉันเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้ฉัน เราเคยถามเขาทำไมถึงตั้งชื่อที่เหมือนกับผู้ชายให้ รู้ไหมเขาตอบว่าอะไร

เพราะพ่ออยากให้ลูกเข้มแข็งเหมือนกับตัวผู้งัยล่ะฮ่าๆ ฉันยังจำใบหน้าของเขาตอนที่เขาหัวเราะเริงร่าได้ดี...ได้ดีเลยล่ะ.. ใช่เขาเป็นคนดีคนหนึ่งตอนนี้เขาไม่อยู่แล้วล่ะเป็นโรคมะเร็งน่ะ

ฉันอยู่กับญาติหลังจากที่เขาเสียคุณสงสัยมั้ยทำไมฉันถึงไม่พูดถึงแม่เลย..อาา~" ใช่เขาทิ้งฉันไปน่ะพ่อบอกฉันว่าแม่ทิ้งฉันไปตอนฉันพึ่งอายุได้ 2 ขวบมันน่าเศร้าแต่ฉันก็ต้องทนอยู่ให้ได้สองสามเดือนมานี้ฉันเริ่มฝันแปลกๆในฝันที่ฉันเห็นมันเป็นท้องน้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อยามที่ฉันหลับมันเรียกหาฉันสิ่งที่ฉันเห็นในฝันมันเป็นส่วนที่ลึกที่สุดของท้องน้ำ

ภายในฝันตัวของฉันล่องลอยเริ่มจมดิ่งลงสู่ห้วงลึกใต้ท้องน้ำลงไปเรื่อยๆมีเพียงความมืดที่อยู่ใต้เท้าฉันแม้แต่แสงสว่างที่ฉันมองขึ้นไปข้างบนผิวน้ำมันก็เริ่มเลือนลาง "อาา~" ไม่นะฉันรู้สึกกลัวความกลัวเริ่มถาโถมเข้ามาในจิตใจใต้สำนึกของฉัน

ไม่นานฉันก็เห็นอะไรบางอย่างใต้ส่วนลึกนั้นภูเขาน้ำขนาดใหญ่ทอดเป็นทางยาวจนฉันมองไม่เห็นว่าจุดสิ้นสุดนั้นอยู่ที่ใด "ไม่นะ" ในใจของฉันกำลังร้องว่านี่มันไม่ใช่ภูเขาหนามธรรมดาแน่ แล้วเสียงประหลาดซ้อนทับกันหลายเสียงมันก็ร่ำร้องขึ้นโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว "เอ็กคานอสๆๆๆ" เสียงที่เรียกซ้ำๆมันทำให้ฉันตกใจจนหนาวสั่น...ข้าคือเจ้า เจ้าคือข้า จากนั้นฉันก็สะดุ้งตื่นทุกครั้งโดยที่มีเหงื่อไหลท่วมตัววันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันฝังซ้ำๆแบบนั้น

" คานอส...คานอส~" เสียงเรียกหาของน้าสาว ค่าา~ ไปซื้อของให้น้าหน่อยสิจ๊ะเอาเหมือนเดิมนะ

ค่าาเดี๋ยวหนูเดินลงไป คานอสลุกออกจากเตียงเดินไปที่กระจกมือเรียวยาวของเธอสัมผัสไปที่ใบหน้าอันเนียนนุ่ม มีเพียงถุงใต้ตาที่หมองคล้ำเท่านั้นที่บดบังความงาม

ผิวพรรณที่ผ่องใสเหมือนกับไข่มุกใต้มหาสมุทรที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยให้ใครได้เชยชมนอกจากน้าสาวที่เป็นคนรับเลี้ยงเธอหลังจากที่พ่อของเธอเสียใบหน้าเรียวดวงตากลมโตคิ้วดุเหมือนกับเหยี่ยวที่กำลังมองหาเหยื่อเสน่ห์ที่หาได้ยากล้วนเป็นที่ต้องตาของชายหนุ่มมีเพียงการแต่งตัวที่ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไปเท่านั้นที่ยังเป็นปัญหา

คานอสเดินออกจากห้องน้ำตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าเธอเปิดและหยิบชุดในนั้นโดยไม่เลือกเพราะมันก็ดูคล้ายๆกันหมด

หลังจากที่ฉันแต่งตัวเสร็จฉันก็เดินลงมาหาน้าสาวสามีของเธอเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล เธอยืนอยู่ต่อหน้าฉันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม อรุณสวัสดิ์จ้ะ คานอส เธอมีลูกชายอยู่ 2 คนตอนนี้ทั้งสองถูกส่งไปเรียนอยู่ที่โรงเรียนอินเตอร์ชายล้วนและพักกินอยู่ที่นั่น

คนโตมีชื่อว่า จอนสัน อายุ 15ส่วนสูงก็เราลาวๆ170พอๆกับฉันคนนี้เลยส่วนอีกคนน้องชาย justin อายุพึ่งจะ 12 พวกเขากลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง

ส่วนฉันในตอนนี้อายุขนาดก็ปาไป 24 แล้วอย่าหาว่าฉันไม่มีงานทำล่ะ ดีไซน์ออกแบบโครงสร้างนั่นแหละคืองานของฉัน ฉันทำงานอยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องออกไปไหนให้เมื่อย

ส่วนเรื่องคนรักอะไรนั่นฉันไม่ต้องการมัน ความรู้สึกของฉันในด้านนั้นมันด้านชา มีคนเคยล้อฉันเรื่องนี้นั่นก็คือ จอนสัน

ฉันเคยต่อยกันกับเจ้าเด็กบ้านั่นจนเลือดตกยางออกมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่มีใครกล้ายุ่งกับฉันตอนที่ฉันคลั่ง จนเจ้าเด็กบ้านั่นไม่กล้ามาล้อฉันอีก

" คานอสจัง...ค่าาๆ น้าสาวเรียกฉัน ฉันรับเงินพร้อมบิลรายการสิ่งของที่จะต้องซื้อมาจากน้าสาว คานอสจังวันนี้ก็แต่งตัวเหมือนเดิมอีกแล้วหรือไม่เบื่อบ้างเลยเหรอจ๊ะชุดแนวฮิปฮอปอะไรเนี่ยมันดูคร่ำครึไปนะให้น้าคนนี้เตรียมชุดเดรสสวยๆให้เอาไหม "เฮ่อ~ คานอสถอนหายใจยาว นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ

ไม่เอาดีกว่าค่ะ คานอสตอบน้าสาวด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยเธอเดินฉับๆไปที่ประตูแล้วรีบเดินออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มองหันกลับมา

ในเขตเมืองที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คนตึกสูงระฟ้าผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด คานอสเดินเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คน

สายตานับไม่ถ้วนต่างมองมาที่เธอ ในระหว่างทางที่เดินเข้าห้างก็มีหญิงสาววัยกลางคนแต่งชุดแบรนด์เนมหรูหรายืนซุบซิบนินทาเธออยู่ใกล้ๆ

ตายจริงนี่มันยุคสมัย 2080 แล้วนะยังมีคนที่แต่งชุด เหมือนกับคนในยุค 2021 อยู่เหรอ

คานอสไม่สนใจคำพูดนินทาใดๆได้แต่คิดสมเพชกับผู้หญิงคนนั้นที่ดูถูกเธอเพราะเครื่องแต่งกายไม่เข้ากับยุคสมัย เหมือนคำที่เขาว่ากันแต่งตัวหรูหราแต่มีนิสัยแค่สลึงเดียว .

คานอสมองเห็นเป้าหมายในรายการที่น้าเธอเขียนให้ เธอรีบเดินฉับๆไปยังชั้นวางของที่อยู่ตรงส่วนลึกของห้างที่ไม่มีผู้คน "นี่ไงเจอแล้ว" ตึก..ตึก..

" เอ็กคานอส "

จู่ๆเสียงปริศนานั่นก็เรียกหาเธอมันดังก้องกังวานอยู่ในหัวของเอ็กคานอส เธอร้อนรนหันซ้ายหันขวาเพื่อดูว่ามีใครร้องเรียกหาเธออยู่หรือไม่

"ซ๊ากๆ"

" ยาก~ คานอสร้องสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจจู่ๆเสียงลำโพงประชาสัมพันธ์ที่ติดอยู่ตรงหัวที่เธอยืนอยู่มันก็มีเสียงช็อตดังขึ้นยาวๆ

"นี่มันเป็นบ้าอะไรเนี่ย เธออุทานด้วยความตกใจคานอสรีบหยิบของแล้วเดินออกไปจากจุดนั้นแต่แล้วเธอก็ต้องผงะกับภาพที่อยู่เบื้องหน้า กลุ่มคนที่จับจ่ายซื้อของภายในห้างต่างหยุดนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นรวมทั้งกลุ่มที่นินทาเธอก็อยู่ตรงนั้นด้วย

" นี่มันอะไรกัน ใบหน้าของเธอเริ่มมีเหงื่อไหลเท้าที่เริ่มสั่นเพราะความกลัวแต่อย่างน้อยมันก็ยังขยับได้

ฉันไม่รู้ว่าอะไรมันกำลังเกิดขึ้นกับฉันแต่ว่าประตูมันอยู่ตรงนั้นฉันต้องผ่านกลุ่มคนพวกนี้ไป..เอาล่ะ..งั้นวิ่งกันเลย คานอสตบหน้าตัวเองอยู่ 2-3 ครั้งเพื่อยืนยันสิ่งที่เห็น หลังจากนั้นเธอก็กำหมัดแล้วออกวิ่งอย่างสุดกำลัง..

เอ็กคานอสๆๆๆ ..กรี๊ด~ คานอสกรีดร้องอย่างสุดเสียงเธอล้มพับสลบนอนแน่นิ่งคากลุ่มคนที่ยืนเรียกชื่อของเธอช้ำๆพร้อมๆกันด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยจากนั้นไฟในห้างก็ดับลงแล้วเปิดติดขึ้นอีกครั้ง

โดยที่สภาพแวดล้อมกลับมาเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงร่างของเด็กสาวที่หายไปจากตรงที่เธอนอนสลบอยู่ไม่รู้ว่าเธอคือใครไม่รู้ว่าเธอหายไปไหนแม้แต่ครอบครัวที่เธออยู่ร่วมพักอาศัยด้วยจนเติบใหญ่ก็ทำเหมือนว่าไม่เคยมีเธออยู่เลย......

ตอนที่ ๒ จุติ

"ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆมาบดบัง แสงแห่งรุ่งอรุณที่สาดส่องลงมายังพื้นน้ำที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของความลึก

ผิวของน้ำทะเลที่นิ่งสงบ แม้การกระเพื่อมของคลื่นน้ำลูกเล็กๆก็หาได้มีไม่ ลาวกับแก้วที่กักเก็บน้ำที่ถูกใครสักคนตั้งทิ้งลืมไว้ที่ไหนสักที่ในโลกแห่งนี้ มันยังคงนิ่งสงบเรื่อยมาตราบเท่าทุกวันนี้

ในส่วนลึกที่สุดของใต้มหาสมุทรมิติที่บดบังบางสิ่งไว้ตั้งแต่โลกได้ถือกำเนิด มันถูกซ่อนเร้นจากสิ่งมีชีวิตทั้งปวงที่อยู่ในโลกแห่งนั้น

ใต้ผืนน้ำที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดแหวกว่ายแม้แต่ปลาตัวเล็กๆก็ไม่มีให้เห็นสักตัว เหมือนกับว่าผืนน้ำแห่งนี้ถูกสร้างมาเพื่อบางสิ่งโดยเฉพาะ

ในความมืดของท้องทะเลสิ่งมีชีวิตที่นอนแน่นิ่งอยู่มาช้านานนับตั้งแต่ผู้สร้างได้รังสรรค์โลกใบนี้ขึ้นบัดนี้องค์ประกอบที่จะทำให้มันตื่นขึ้นนั้นครบสมบูรณ์แล้วร่างขนาดมหึมาใต้ส่วนลึกของท้องทะเลตัวของมันกำลังขยับเขยื้อนหลังจากนอนนิ่งสงบมาช้านาน ใต้ท้องน้ำที่กำลังคลุกคุ่นไปด้วยเศษดินตะกอนที่กำลังฟุ้งกระจายตามการเคลื่อนไหวของร่างอันมหึมา

เปลือกตาที่ปิดมาเนิ่นนานนับตั้งแต่โลกนี้ได้ถือกำเนิดบัดนี้มันได้เปิดออกแล้ว

...หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นด้วยความงงๆในใจยังคิดอยู่ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมามันเป็นเพียงแค่ความฝันที่น่ากลัว

สายตาของเธอยังคงเหม่อลอยเหมือนคนที่พึ่งตื่นได้ไม่นานจากนั้นเธอก็เริ่มตั้งสติปรับโฟกัสของสายตาแต่ก็ต้องฉงนเมื่อพบกับอะไรบางอย่างที่น่าตกใจ

เธอกำลังคิดอยู่ว่านี่มันมีอะไรมาติดอยู่ที่หน้าฉันเนี่ยแถมลักษณะของมันยังดูแปลกๆ

ความเงียบสงัดที่อยู่รอบตัวทำให้เธอหวาดระแวง แต่คานอสก็ยังค่ำแคลงใจกับสิ่งที่มันยื่นออกมาจากใบหน้าของเธอ

นี่มันอะไรอีกเนี่ยเธอกำลังคิดกับตัวเอง นี่ใครมันกำลังเล่นตลกกับฉันกันฝันซ้อนฝันหลอกรึงั้นเรื่องในห้างก็คือความฝันสินะ คานอสยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้

แต่เดี๋ยวก่อน คานอสนำมือของเธอทั้งสองข้างลูบคลำไปที่ใบหน้าในส่วนที่ยื่นออกมาในระหว่างที่นำมือทั้งสองข้างมาสัมผัสที่ใบหน้าของตัวเองในส่วนเกินที่ยื่นออกมาเพียงแค่การสังเกตเห็นมือของตัวเองที่กลับกลายเป็นเหมือนกับกรงเล็บอันแหลมคมเธอยังมองไปที่ลำแขนขนาดใหญ่ของตัวเองที่เต็มไปด้วยเกร็ดหนาๆ

ดวงตาของเธอเบิกกว้างตามนิสัยของคนที่กำลังตกใจอย่างสุดขีดเธอนิ่งค้างอยู่สักพักจากนั้นเธอก็อ้าปากกว้างดวงตาของเธอที่สังเกตเห็นเพียงฟันอันแหลมคมของตัวเองเพียงแค่สิ่งที่เห็นนั้นก็แทบทำให้เธอสติแตก

เธอกำลังจะกรี๊ดร้องแต่คานอสไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าที่คีบหลังของตัวเธอเองนั้นกำลังเรืองแสงอยู่

แล้วสุดท้ายเธอก็กรีดร้องมันออกมา "กรี๊ด~ แต่ในระหว่างที่เธอกรีดร้องมันกลับกลายเป็นว่ามีอะไรพุ่งออกจากปากของเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัวแทน แสงสีฟ้าเข้มข้นได้พุ่งแหวกพื้นน้ำออกไปไกลบรรยากาศรอบๆฟุ้งกระจายเหมือนกับระเบิดอัดอากาศ จุดสิ้นสุดของแสงคือผิวดินใต้ทะเลลึกที่กำลังเดือดปุดๆกลายเป็น lava

คานอสตกใจรีบนำมือมาปิดปากในทันทีพร้อมกับรีบเก็บปากของเธอ แต่การทำเช่นนั้นคือสิ่งที่ผิดพลาดที่สุด เธอร่ำร้องอยู่ในใจ "แอ๊กๆ..แอ๊กๆ" โอ้ยยร้อนๆ คานอสกำลังสำลักอะตอมมิคเบรคความรู้สึกที่ร้อนพร้าวที่ลำคอลามไปถึงท้องน้อย เหมือนกับว่าเธอกำลังกินถ่านไฟร้อนๆเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น

เธอคิดอยู่ในใจว่านี่มันคือเวรกรรมอะไรของเธอที่ต้องมาประสบพบเจอกับเรื่องบ้าบอพันนี้ ตัวเธอเริ่มนึกถึงฝันประหลาดตลอด 3 เดือนมานี้

มันคือตัวการที่ทำให้เธอต้องนอนฝันร้ายตลอดทั้งคืน การสำลักอะตอมมิคเบรคมันคือสิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเธอในตอนนี้นั้นคือเรื่องจริง

ความเจ็บปวดจากสิ่งที่พ่นออกมาแต่แทนที่จะปล่อยให้มันออกมาจนสุดกลับกลายเป็นว่าไปอัดอั้นมันไว้ด้วยความตกใจเลยทำให้กลไกบางอย่างในตัวมันนั้นทำงานผิดปกติมันเหมือนกับไฟฟ้าที่กำลังลัดวงจรความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่นั้นคือเครื่องยืนยันได้ว่ามันไม่ใช่ฝันอย่างแน่นอน

ครีบหลังของเธอเรืองแสงช็อตกันอยู่สักพักจากนั้นมันก็ได้หยุดลงพร้อมกับอาการแสบร้อนที่ค่อยๆบรรเทาลง

ในตอนนี้เธอเหมือนกับคนที่อยู่ในร่างของกิ้งก่ากำลังสำลักควัน "โฮกๆ" โอ้ยเหนื่อย พอสักที.... ร่างขนาดใหญ่ล้มตึงแผ่หราอยู่ใต้มหาสมุทร

ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆหันมองบรรยากาศรอบตัวที่มีแต่ความมืดอันเงียบสงบของท้องทะเล

"ต่อจากนี้จะทำอย่างไรดีนะ...นี่ตัวฉันดันกลายเป็นตัวอสูรละกายไปแล้ว...เฮ้อ..รู้สึกง่วงจัง ขอนอนพักสักหน่อยก็แล้วกัน ..

...ฟู่ๆ...

.......

.......

...ฟู่ๆ...

.......

.......

.......

ช่องว่างที่เริ่มฉีดขาดจากการพ่นอะตอมมิคเบรคของคานอสมันได้กลายเป็นลาวาแล้วเริ่มฉีกขาด ห้วงมิติที่ปิดกั้นทำหน้าที่เปรียบเสมือนกับบาเรียมันกำลังเปิดออกสู่ห้วงลึกของท้องทะเลแห่งใหม่บัดนี้ห้วงมิตินั้นได้ถูกทำลายโดยอะตอมมิคเบรคอย่างสมบูรณ์แล้วเปิดให้เห็นโลกใบใหม่ อันเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตอันหลากหลายการผจญภัยครั้งใหม่ของคานอสจะเป็นยังไงอย่าลืมรอติดตามตอนต่อไปกันด้วยน้าาา.

ตอนที่ ๓ สำรวจโลก

เมื่อครั้งอดีตเนิ่นนานมาแล้วเผ่าพันธุ์โบราณอย่าง อาคาเทลได้บันทึกตำราองค์ความรู้มากมายของพวกเขาลงในเสาศิลาแห่งเดมอนเคียร์สิ่งที่พวกเขารู้ถูกจารึกลงบนเสาแห่งนั้นรวมทั้งการก่อกำเนิดของสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายอย่าง นิเกียร์.

เมื่อสอง ปีก่อนทุกเผ่าพันธ์ุต่างได้ประจักษ์ถึงคววามน่ากลัวของพวกมัน เมืองท่าที่ยิ่งใหญ่ถูกทำลายลงเพียงแค่สองวัน

ข่าวการล่มสลายถูกแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วจากปากของกลุ่มพ่อค้านักเดินเรือที่หนีรอดจากการโจมตีในครั้งนั้น

หลายอาณาจักรไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูดมีเพียงความขบขันเท่านั้นที่ถูกตอบกลับมา

หลายคนเกิดความสงสัยเมื่อไม่มีสิ่งค้าใดๆถูกส่งมาอาณาจักรคู่ค้าอาณาจักรที่ร่ำรวยขนาดนั้นมีทั้งกองเรือรบที่ยิ่งใหญ่เหล่าอัศวินเก่งกาจมากด้วยความสามารถรวมทั้งเหล่าจอมเวทย์ที่มากด้วยศาสตร์ลึกลับของมานามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกตีแตกภายในสองวัน

เมื่อหลายคนเกิดความเคลือบแคลงใจพวกเขาได้ว่าจ้างกลุ่มนักสำรวจดำเนินการตรวจสอบเพืี่อให้แน่ใจ แต่พวกเขาก็ไม่เคยกลับมาให้เห็นอีกเลย .

" ค่ำคืนอันเต็มไปด้วยหมู่ดาวคอยชี้นำทางแก่นักเดินเรือ กองเรือสำเภาหกลำใหญ่กำลังล่องเรือฝ่าความมืดในมหาสมุทรมีเพียงความมืดมิดที่อยู่บนเรือทั้งหกนั้น พวกเขากำลังหนีจากศัตรูที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันแน่กำลังไล่ตามพวกเขามา.

บุคคลในอดีตที่เคยยิ่งใหญ่ปกครองคาบสมุทรแถบนี้บัดนี้กำลังนอนจมกองเลือดอยู่ในห้องโถงของเรือโดยมีเพียงบุคคลสำคัญอย่างแม่ทัพและเหล่าอัศวินยืนล้อมรอบอยู่ไม่ห่างจากตัวเขา

มีเพียงบุตรสาวของเขาเจ้าหญิงเอทิเชียร์ที่ยังร้องไห้ฟูมฟายอยู่ไม่ห่างจากเตียง ชายผู้นี้คือบิดาของนางที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว

อาณาจักรฟาทาเชียร์เมืองท่าที่เคยยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยผู้คนที่ทะเยอทะยาน บัดนี้เหลือเพียงเถ้าถ่านและเศษซากจากผู้ทำลายสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถต่อต้านได้ด้วยเวทมนตร์และดาบมันข้ามเขามาจากป่าทางเขาทิศเหนือของอาณาจักร

หลังจากนั้นมันได้เริ่มโจมตีทำลายหมู่บ้านอย่างรวดเร็วไม่มีใครสามารถต่อต้านพวกมันได้รูปร่างที่ไม่แน่นอนไม่สามารถบอกได้แน่ชัด ว่าตัวมันคืออะไรกันแน่มันกลืนกินทุกสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ขวางหน้า

มีเพียงร่างที่แข็งแกร่งที่มันเลือกและยึดครองเป็นภาชนะไว้ใช้งานไม่มีใครรู้ว่ามันก่อเกิดขึ้นจากที่ไหนไม่นานมันก็เคลื่อนเข้าสู่ตัวเมืองอย่างรวดเร็วทุกเส้นทางที่พวกมันเคลื่อนผ่านมีเพียงเศษซากของกระดูกและเนื้อหนังของมนุษย์เต็มเกลื่อนกลาด

เพียงแค่ค่ำคืนเดียวเมืองทั้งเมืองถูกทำลายไปเกินกว่าครึ่ง เหล่าอัศวินพร้อมกับเหล่าจอมเวทย์ที่มากด้วยความสามารถเข้าต่อสู่กับร่างเนื้อที่พวกมันยึดครองอย่างเอาเป็นเอาตายจนพวกเขาหมดแรงแล้วค่อยๆต่ายไปทีละคนอย่างทรมาน.

ไม่มีใครรู้ได้เลยว่ามีใครหนีรอดได้บ้างนอกจากกลุ่มขององค์ราชาที่มากด้วยผู้มีความสามารถและแข็งแกร่งในระดับอดามันไทร์แต่ถึงอย่างนั้นก็เกือบเอาตัวไม่รอด

ถึงแม้จะออกเรือหนีออกมาได้ แต่ก็ยังมีเรือสำเภาผีอีกสี่ลำยังคงไล่ตามพวกเขามา เจตตนามุ่งร้ายบางอย่างส่อแววคิดว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช้เรื่องบังเอิน

ภายในเรือของพวกมันเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นตัวประหลาด เหล่าแม่ทัพเกิดความสงสัยเหตุใดกันพวกนี้ถึงยังไล่ตามพวกเขามาไม่หยุดเหมือนกับว่ามีใครวงการควบคุมพวกมันอยู่

สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงพร้อมเสียงสะอื้นภายในเรือ บุคคลสำคัญได้จากไปแล้วพร้อมกับทิ้งคำสั่งเสียสุดท้ายให้บุตรสาว .

ในห้วงแห่งท้องทะเลลึกความมืดมิดไม่อาจหยั่งถึงพันธนาการได้ถูกปลดออก สู่โลกแห่งความเป็นจริงตัวตนที่เปรียบเสมือนอาวุธของพระผู้สร้างเปลือกตาของมันค่อยๆเปิดออก

ความลึกที่แม้แต่แสงก็ไม่อาจส่องถึงจุดสิ้นสุดของท้องทะเลสิ่งมีชีวิตตั้งแต่โลกได้ถือกำเนิดมันได้ลืมตาตื่นท่ามกลางความสับสนร่างอันมหึมายันตัวลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

มันมองสำรวจเรือนร่างของตัวเองอย่างฉงนข้องใจ "เฮ้อ!! มันคือความจริงสินะ" คานอส ตัดพ้อการจะให้ทำใจในคราเดียวคงจะไม่ง่าย"

อยากรู้จริงๆถ้าร่างนี้หิวขึ้นมาคงมีอาหารพอให้มันกินจนอิ่มท้องนะ คานอสมองสำรวจรอบๆสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไป พื้นน้ำที่แต่ก่อนนิ่งสงบบัดนี้สัมผัสได้ถึงการสั่นไหว ทั้งความเย็นอุณหภูมิสิ่งมีชีวิตที่กำลังแหวกว่ายเหนือขึ้นไปบนท้องน้ำคานอส หวังว่าหางยาวๆนี่คงจะช่วยว่ายน้ำได้นะ

เพียงแค่ขยับส่วนที่เป็นท่อนหางเบาๆโดยที่ตัวเธอไม่รู้เลยว่าเป็นตัวเอวที่สร้างแผ่นดินไหวโดยไม่รู้ตัว ''ย้า!!พุ่งขึ้นไปเลย ''ตู้ม!!"

ร่างอันมือมาพุ่งทะยานลอยขึ้นสู่ผิวน้ำหางมหึมากวัดแกว่งไปมาทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัวในขณะร้อยตัวอยู่ใต้น้ำ

"ฮึบ..ฮึบ" ไม่นึกว่าครั้งแรกจะออกมาดีขนาดนี้ฉันคิดถูกจริงๆที่คิดเลียนแบบท่าว่ายน้ำของพี่จระเข้ โลกบนผิวน้ำจะเป็นโรคแบบไหนนะ หากเป็นโรคที่ฉันเคยอาศัยอยู่คงน่าเบื่อน่าดู

ในสถานที่ใกล้เคียงกันนั้นยังมีชนเผ่าแห่งท้องทะเลอาศัยอยู่ในส่วนลึกใต้มหาสมุทรคอยควบคุมดูแลอาณาเขตทะเลดำแห่งนี้มาช้านาน

น้อยนักจะมีผู้คนเเล่นเรือผ่านน่านน้ำแห่งนี้สภาพภูมิอากาศที่ปั่นป่วนตลอดเวลา ในครั้งนี้กับเงียบสงบผิดปกติไม่มีเมฆสีดำฟาดสายฟ้าใส่พื้นน้ำตลอดเวลาแม้แต่ลมพายุหมุนเกียวดูดน้ำขึ้นบนท้องฟ้าไม่มีใครรู้ว่าน้ำเหล่านั้นถูกส่งไปที่ไหน

เอเมซิส อาณาจักรแห่งท้องทะเลสิ่งมีชีวิต ภูมิปัญญาที่ดำรงอยู่ใต้มหาสมุทรต่างอยู่ภายใต้การดูแลของอาณาจักรเอเมซิส แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีสิ่งแปลกปลอมที่ไม่สามารถควบคุมได้

สิ่งนั้นคือสัตว์ประหลาดเล่ากันว่ามันถูกปนเปื้อนจากมานาและจิตชั่วร้ายก่อเกิดรูปร่างสิ่งมีชีวิตใหม่ความเกลียดชังนั้นทำลายทุกสิ่งผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถยับยั้งมันได้

เมื่อนานมาแล้วทุกเผ่าพันธุ์บนพื้นดินเกือบต้องล่มสลายจากสิ่งที่เรียกว่า นิเกียร์ มหาภัยพิบัติของโลกพลังทำลายล้างของมันกลืนกินทุกสิ่ง แบ็คโอติสท์ เงาแห่งการกลืนกิน

การหยุดยั้งได้ต้องแลกกับการสูญสิ้นของเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา ลูกหลานของเทพเจ้าเผ่าพันธุ์อาคาเทล จดหมายเหตุถูกบันทึกในเสาศิลาแห่งเดมอนเคียร์ และใน เอเมซิส มีเสาศิลานี้อยู่หนึ่งต้นคอยย้ำเตือนสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

เจ้าแห่งท้องทะเลนาวาลอร์ดนั่งหลับตาอยู่บนบัลลังก์ ในมือของเขาถือตรีศูนย์จิตรกล้าแกร่งเพ่งตรวจจับสิ่งที่ไม่ปกติในอาณาเขตปกครองเมื่อไม่พบสิ่งใดบุกรุกเข้ามาในเขตสิ่งเดียวที่เขาจะต้องทำตลอดหลังจากนั้นคืนนอน....ตัวตนปริศนาคืบคลานเข้ามาเเรื่อยๆโดยที่เขาไม่รู้ตัวพลังกล้าแกร่งกว่าตัวตนอย่างเขาไม่สามารตราจพบ...*การผจญภัยครั้งใหม่ของคานอสจะเป็นเช่นไรต่อจากนี้อย่าลืมรอติดตามกันด้วยนะจ๊ะดองนานเกิน*🥴🥴

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!