นิยายเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เรียงตามไทม์ไลน์มังงะและอนิเมะทั้งหมด อาจจะผิดพลาดบ้าง แต่อภัยด้วย
"เฮ้อ~ น่าเบื่อจังเลยนะ~"เจ้าของผมสีบลอนด์ทองในชุดนักเรียนเดินอยู่ท่ามกลางแสงสีส้นที่ฉายส่องลงมายังพื้นดิน คิเสะ เรียวตะ ดาราหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาเอาใจสาวๆ และเป็น อดีต นักบาสอีกด้วย
คิเสะออกจากวงการบาสมาได้ไม่นานนัก โดยเขาให้เหตุผลว่ามัน น่าเบื่อ ซึ่งเขาก็เบื่อจริงๆ นั่นแหละ
"ฮ้าว~ ออกจากวงการบาสแล้วจะทำอะไรต่อดีน้า~" เขาหาวพร้อมเงยหน้ามองท้องฟ้าสีส้มยามเย็นอย่างเบื่อหน่าย เดินไปตามทางที่อยู่ใต้สะพานรถไฟ
การที่เกิดมาอย่างแข็งแรงนั้นถือเป็นเรื่องดี แต่การที่ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จไปหมดรู้สึกมันไม่น่าตื่นเต้นเลยสักนิด
เขาอยากเจออะไรที่มันท้าทายและน่าตื่นเต้นมากกว่านี้ อะไรที่มันทำให้เขาอยากเอาชนะได้ อะไรที่มันทำให้เขาอยากขึ้นไปให้เหนือกว่านั้นได้ หรือว่าจะได้เจอกับคนเก่งๆ ไม่ว่าจะด้านใดด้านหนึ่ง
.
.
.
แอ๊ด~ ปึง
"กลับมาแล้วฮะ" คิเสะเดินเข้าบ้านก้ามเท้ายาวตรงไปที่ห้องครัว กลิ่นหอมยั่วยวนชวนให้อยากอาหาร ร่างของหญิงสาวผู้เป็นพี่สาวปรากฏสู่สายตา
"กลับมาแล้วเหรอเรียวตะ" เธอนำอาหารมาวสงไว้บนโต๊ะแล้วเดินมาหาผู้เป็นน้องชาย"วันนี้มีจดหมายถึงนายด้วยนะ"
คิเสะที่กำลังนั่งบนโต๊ะก็หันมาหาจดหมายที่ผู้เป็นพี่ส่งมาให้ "จดหมายเหรอฮะ"
เขารับมันมาและเปิดอ่าน ทันทีที่เห็นเนื้อหาในจดหมายคิเสะก็ทำหน้าแปลกใจ
ถึงคุณ คิเสะ เรียวตะ ยินดีด้วยคุณได้ถูกรับเลือกให้มาเข้าค่ายเก็บตัวฝึกฝนของสมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่น
"สมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นเหรอฮะ แปลกแฮะผมไม่ได้เล่นฟุตบอลนานแล้วนะ"คิเสะพูดพรางทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
"ถูกเชิญไปหรอ" เธอมองคิเสะอย่างสงสัยก่อนจะทานข้าว คิเสะพยักหน้าเป็นคำตอบ
"งั้นลองไปดูสิ เผื่อว่าจะได้เจออะไรสนุกๆ บ้าง เห็นช่วงนี้นายเอาแต่บ่นว่าเบื่อนี้"
คิเสะลองคิดทบทวนดู มันอาจจะดีก็ได้ อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีอะไรทำเลยละนะ แถมเผื่อได้เจอเรื่องสนุกๆ ด้วย เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาจึงตัดสินใจ
"ผมจะไปฮะ อาจจะไม่ได้กลับมาบ้านหลายวันหน่อยนะฮะ" คิเสะตอบพร้อมรอยยิ้มที่น่าหลงไหล ผู้เป็นพี่ก็ไม่ได้ขัดอะไร สำหรับเธอแล้วขอแค่น้องชายมีความสุขจะอะไรก็ได้ทั้งนั้น
"งั้นทานข้าวเสร็จก็เตรียมตัวเข้านอนเพื่อไปวันพรุ่งนี้เลยสะ" ทั้งสองทานข้าวเย็นไปพรางชวนคุยเรื่องต่างๆ นานา จนต่างคนต่างเสร็จกิจกรรมส่วนตัวแล้วเข้านอน
.
.
.
ภายในห้องนอนที่มืดแต่ก็มีแสงสว่างส่องมาจากหน้าต่างห้อง บนเตียงนุ่มที่ชวนให้น่าหลับไหลมีร่างของคิเสะนอนราบไปกับมัน ดวงตาที่ยังเปิดอยู่นั้นมองเพดานแล้วคิดอะไรบางอย่าง
เข้าค่ายเก็บตัวฝึกฝนเหรอ น่าสนใจดีแฮะ แต่ถึงจะน่าสนใจแต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะไม่น่าเบื่อ ฟุตบอลเหรอ...ไม่ได้เล่นนานแล้วแฮะ...เอาเถอะ กลับไปเล่นอีกสักครั้งก็คงไม่เสียหายอะไร
คิดซะพลิกตัวนอนเพื่อให้หลับสบาย พอผ่านไปสักพักเขาก็ผล็อยหลับไป
วันต่อมา
หลังจากที่คิเสะตื่นมาเขาก็เตรียมตัวไปยังจุดหมายคือ สมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่น ชุดนักเรียนสีเทาและกระเป๋าสพายข้าง ส่วนสูง 171 ที่นับว่าไม่ได้ตัวเล็กมาก พอจะอยู่ในสเปนของสาวๆ หลายคน
.
.
.
ในระหว่างที่เดินมาเขาก็เอาแต่มองโทรศัพท์จนไม่ได้ทันสังเกตเลยว่ากำลังจะชนกับใครบางคน
ปั๊ก
"อะ ขอโทษฮะ"คิเสะตกใจเมื่อเขาเดินมาชนกับชายที่สูงกว่าเขาไม่มากจนเซเล็กน้อย
ไม่น่ามัวแต่มองโทรศัพท์เลยเรา
"อะ ไม่เป็นไรครับ" อีกฝ่ายหันมามองอย่างสงสัยก่อนจะช่วยคิเสะพยุง เขารู้สึกคุ้นหน้าคิเสะแบบแปลกๆ
"ขอโทษด้วยนะฮะ ผมไม่ดูทางเองแหละฮะ" คิเสะเกาหัวตัวเอกพร้อมมองคนที่ตนเองเดินชนด้วยสายตาที่แวววาว "คือว่า ชื่ออะไรเหรอฮะ"
"อ๊อ ผมชื่อ อิซางิ โยอิจิ อยู่ม.ปลาย ปี2 ครับ" อิซางิแนะนำตัวพร้อมมองอีกฝ่ายเป็นเชิงถามว่าเขานั้นชื่ออะไร
"อ้ะ รุ่นพี่สินะครับ ผมชื่อ คิเสะ เรียวตะ อยู่ม.ปลาย ปี1 ครับ"คิเสะแนะนำตัวด้วยท่าทีร่าเริงอิซางิที่ได้ยินชื่อก็รู้ได้ทันทีเลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
"เอ็ะ นายคือคนที่เล่นบาสนิ" อิซางิมองคิเสะอย่างแปลกใจ เขาไม่รู้ว่าทำไมนักบาสเก็ตบอลถึงมาอยู่ที่นี่เพราะถ้าจำไม่ผิดตอนนี้ยังอยู่ช่วงแข่งของวงการบาสหนิ
"แค่เคยเล่นน่ะฮะ ผมเพิ่งออกจากชมรมบาสไปไม่นานนี้เองละครับ" คิเสะตอบอย่างเขินอายเขาไม่รู้ว่าจะมาเจอกับคนที่รู้จักตัวเองด้วย "อีกอย่างตอนนี้ผมว่าจะกลับไปเล่นฟุตบอลดูอีกสักครั้งน่ะฮะ"
"เห็นเมื่อวานผมได้รับจดหมายจากสมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นด้วยก็เลยกะว่าจะลองไปดูน่ะฮะ" อิซางิที่ได้รับรู้ก็ตกใจ เขาไม่นึกเลยว่าอดีตนักบาสคนนี้จะเคยเล่นฟุตบอลด้วยและยังถูกเลือกไปที่เดียวกับเขาด้วย
"นายเองก็ถูกเลือกไปที่สมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นด้วยงั้นเหรอ" อิซางิถามก่อนจะได้รับคำตอบโดยการพยักหน้า "งั้นเราสองคนก็ไปที่เดียวกันน่ะสิ"
"จริงเหรอฮะ ถ้างั้นเราไปด้วยกันเลยมั้ยฮะรุ่นพี่อิซางิ" คิเสะเอ่ยชวนพร้อมเดินต่อ "อ๊อ รุ่นพี่เรียกผมว่าเรียวตะได้เลยนะฮะ"
"งั้นนายก็เรียนฉันแบบธรรมดาก็ได้นะ ไม่ต้องเติมรุ่นพี่เข้าไปหรอก" อิซางิยิ้มเอ็นดูคนตัวเล็กกว่าตน อิซางิสูง 175 คิเสะสูง 171 ก็นับว่าไม่ได้ตัวเล็กมากเท่าไหร่หรอก
"งั้นผมขอเรียกรุ่นพี่ว่า พี่ยจ นะฮะ" คิเสะพูดพร้อมยิ้มอย่างสดใสร่าเริงทำเอาอิซางิแอบชะงักไปแปบนึง
น่ารัก น่าเอ็นดู แถมเป็นเด็กดีอีก...
นั้นคือสิ่งที่อิซางิคิด ในระหว่างที่ทั้งสองเดินกันอยู่พวกเขาก็คุยกันไปต่างๆ นานา อิซางิรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้คุยกับคิเสะ
.
.
.
ทั้งสองเดินมาจนถึงหน้าตึกสมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่น ในตอนที่ทั้งคู่ยืนอยู่ก็มีคนคนหนึ่งเดินมาทักอิซางิ คิระ เรียวสุเกะ คิระคุยกับอิซางิอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมาสนใจคิเสะ ทั้งสองแนะนำและเริ่มเดินเข้าไปในตึก
แอ๊ด
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับสายตามากมายที่จับจ้องมาที่ทั้งสามคน มีบางคนที่คิระเคยเจอมาก่อน แต่สิ่งที่อิซางิสงสัยคือ
ไม่ใช่ว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นกองหน้าหมดเลยหรอ
คิเสะเองก็ใช่ว่าจะไม่แปลกใจ เพราะก่อนที่เขาจะมาที่นี่เมื่อคืนเขาได้หาข้อมูลผู้แข่งและประวัติของนักฟุตบอลตัวท็อปมากมายในปัจจุบันมาก่อนแล้ว และเขาได้สนใจกองคนหนึ่งอยู่ กองหน้าที่เก่งที่สุดในโลก โนเอล โนอา คนที่คิเสะอยากลองร่วมสนุกด้วยสักครั้ง
แต่จู่ๆ ไฟก็ดับและมีชายคนหนึ่งเดินออกมา เอโกะ จินปาจิ เขาออกมาพร้อมพูดเรื่องที่จะสร้างกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกเพื่อที่จะทำให้ญี่ปุ่นเป็นแชมป์เวิลด์คัพหรือแชมป์โลก
การเข้าค่ายเก็บตัวฝึกฝนเพื่อสร้างกองหน้าที่ดีที่สุดอันดับ 1 จาก 300 คนที่อยู่ที่นี่ ด้วยการใช้อุปกรณ์ที่มีชื่อว่า 'บลู ล็อก' สถานที่รูปทรงห้าเหลี่ยมภายในเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อ 300 คน
ทุกคนต้องใช้ชีวิตในบลูล็อคร่วมกัน และต้องเข้ารับการฝึกฝนระดับท็อปเพื่อเป็นอันดับ 1 ของโลก สิ่งเหล่านี้ทำให้คิเสะรู้สึกสนใจยิ่งกว่าเดิม
แต่จู่ๆ คิระก็ยกมือแล้วพูดเรื่องที่ไม่เห็นด้วยกับเอโกะขึ้นมา พอคิระเป็นตัวนำย่อมต้องมีตัวตามทุกคนเริ่มตะโกนโวกเวกโวยวาย เอโกะก็ได้พูดอย่างใส่อารมณ์ รวมทั้งยกตัวอย่างเหล่านักฟุตบอลตัวท็อป เช่น โนเอล โนอา อีโก้อิสต์ที่หายากสุดๆ
เมื่อเอโกะพูดจบ อิซางิที่ตกอยู่ในภวังค์นั้นก็หันไปมองคิเสะ และสิ่งที่เห็นทำให้เขาเบิกตากว้าง คิเสะกำลังวิ่งตรงไปยังด้านหน้าด้วยสีหน้าที่หิวกระหายและประกายสายฟ้าสีเหลืองในดวงตา อิซางิที่เห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้ารีบวิ่งตรงไป และตามมาด้วยคนมากมาย
เอโกะที่ได้เห็นคิเสะก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ เอโกะรู้อยู่ล่ะว่าคิเสะเป็นใคร และรู้ด้วยว่าตัวคิเสะนั้นมี 'อาวุธ' อะไร
หลังจากที่คิเสะวิ่งล่วงหน้ามา เขาได้เดินมาตามทางแต่พอรู้ตัวอีกทีก็แยกกับอิซางิและคนอื่นๆ ซะแล้ว แต่เขาก็เจอเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนเหมือนรอใครบางคนอยู่ และเมื่อเธอเห็นคิเสะเธอก็เดินมาหา
"สวัสดีจ้ะ เธอคือ คิเสะ เรียวตะ สินะจ๊ะ" เธอทักเขาด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรพร้อมมองมาทางคิเสะ
"ครับผม คิเสะ เรียวตะ ครับ" คิเสะกล่าวแนะนำตัวตามมารยาท เขารู้สึกสงสัยว่าทำไมถึงมีผู้หญิงอยู่ที่นี่ด้วย "เอ่อ คุณ..."
"อ็ะ ขอโทษที่ไม่แนะนำตัวนะจ๊ะ ฉันชื่อ เทอิเอริ อันริ จ้ะ" ทั้งสองคนคุยทำความรู้จักกันเล็กน้อยแต่ต่อมาอันริก็ได้พาคิเสะไปยังห้องของตัวเอง
"เอ่อ คุณเทอิเอริครับ ผมมีคำถามครับ"ในระหว่างที่กำลังเดินอยู่คิเสะก็ได้เอ่ยขึ้นมา อันริที่พอจะรู้นิดหน่อยว่าอีกฝ่ายจะถามอะไรจึงพูด
"เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังจ้ะ"อันริยิ้มพรางเดินนำไป คิเสะที่ได้ยินอย่างนั้นก็จำใจเดินตามไปก่อน
ถ้าเจ้าตัวว่างั้นก็โอเค
.
.
.
เมื่อเดินมาได้สักพักทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ตรงหน้าห้องมีชื่อของคิเสะติดอยู่
"นี่คือห้องของเธอจ้ะ คิเสะคุง" อันริพ่ายมือไปทางประตูเป็นเชิงให้คิเสะเข้าไป เมื่อเขารับรู้ได้ดังนั้นจึงเดินเข้าไป
ครืด
ประตูอัตโนมัติเปิดออกเผยให้เห็นห้องกว่างขนาดกลางภายในมี เตียงสองชั้น ตู้เสื้อผ้า ข้าวของที่ใช้อาบน้ำ และจอมอนิเตอร์หนึ่งจอ แต่คิเสะไม่ได้สนใจของพวกนี้สักเท่าไหร่นัก "แล้วเรื่องที่จะถามละฮะ"
"เดี๋ยวคุณเอโกะจะมาอธิบายหลายอย่างให้ฟังนะจ๊ะ" อันริพูดพรางเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คิเสะได้แต่สงสัย แต่ทันใดนั้นจอมอนิเตอร์ก็ฉายภาพของเอโกะขึ้นมา
[ ไง ไง เจ้าแร่ดิบมากพรสวรรค์ ] เอโกะกล่าวทักทายตามสไตล์เจ้าตัวก่อนจะพูดคุยร่ายยาวกับคิเสะอย่างไร้คำบรรยาย
"เอโกะ จินปาจิ"
[ดูท่าจะมีเรื่องที่สงสัยอยู่เยอะเลยสินะ แต่ก็เอาเถอะยังไงตอนนี้ฉันก็ว่างอยู่แล้ว เดี๋ยวจะอธิบายให้ที่ละอย่างก็แล้วกัน]
เอโกะเริ่มอธิบายโดยมีภาพจากจอมาประกอบ และคิเสะก็ยอมฟังแต่โดยดี
[ฉันเคยบอกไปว่าในบลูล็อคนี้มีทั้งหมด 300 คน แต่ว่ามันไม่ใช่จำนวนจริงๆ ถ้านับนายเข้าไปด้วยก็จะมี่ทั้งหมด 301 คน ถามว่าทำไมถึงมีเศษเหลืออยู่ด้วย นั่นก็เพราะนายเป็นแร่ดิบชนิดพิเศษยังไงล่ะ ...'อาวุธ' คือสิ่งที่ทุกคนต้องมี นายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าอาวุธของนายคืออะไร ... 'เพอร์เฟคก็อปปี้' เป็นอาวุธที่หาได้ยาก การลอกเลียนการเล่นของคนอื่นแล้วนำมาปรับใช้ในแบบของตนเอง นั้นแหละคือสิ่งที่ทำให้นายพิเศษ และเมื่อนายมาอยู่ที่นี่นายก็ต้องฝึกฝนคนเดียวด้วยการฝึกแบบนรก]
เรื่องนี้คิเสะพอจะคาดไว้บ้างแล้วแต่ก็รู้สึกขนลุกอยู่ดี และที่สงสัยก็คือ...
"แล้วคนอื่นๆ ละฮะ"เขาเดินไปนั่งบนเตียงพร้อมมองไปยังหน้าจอมอนิเตอร์
คนอื่นๆ ต้องฝึกแบบเดียวกับเรามั้ยนะ~ แล้วพี่ยจล่ะ
[ถ้าเป็นคนอื่นละก็ พวกนั้นต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นน่ะ เจ้าพวกนั้นจะเป็นทั้งรูมเมทและศัตรูที่จะคอยพัฒนาไปด้วยกัน เมื่อไหร่ที่การคัดเลือกรอบที่ 1 จบลง ทีมที่แพ้จะต้องออกไปจากบลูล็อคโดยที่มีเพียงหนึงคนในทีมเท่านั้นที่ทำคะแนนได้มากที่สุดในทีมถึงจะอยู่รอดและไปยังรอบที่ 2 ได้ ...ส่วนในกรณีของนายก็ต่างกันตรงที่นายจะต้องฝึกคนเดียวอย่างหนักและถ้านายไม่คืบหน้าเลยจนถึงตอนจบรอบที่ 1 นายก็จะต้องออกไปจากที่นี่]
หลังจากพูดจบเอโกะหายไปส่วนคิเสะก็ได้เข้าใจหลายอย่างจึงตัดสินใจไม่คิดอะไรมากแล้วเดินไปเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มรัดรูปที่มีอยู่ก่อนจะเดินออกไปยังห้องฟิตเนส
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!