...'ตื่นได้แล้วดวงวิญญาณแห่งความโลภเอ๋ยนี้ถึงเวลาที่เจ้าจะไปเกิดใหม่แล้วหนา"...
...เสียงอสุราของพระผู้เจ้าได้เอ่ยขึ้นท่ามกลางห้องโถงทางเดินสีขาวสะอาดแต่กลับรายล้อมด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่เป็นสีครามสวยสดงดงามและท่ามกลางหมู่ดอกไม้นั้นมีกายานึงหลับไหลอยู่ ...
..."อา...นี้เวลาของข้าผ่านมากี่ล้านปีแล้วนะแต่ในที่สุดดวงวิญญาณที่ถูกจองจำอย่างข้าก็จะได้ไปเกิดใหม่ซะที"...
...หลังจากสิ้นเสียงพระผู้เป็นเจ้าเจ้าของกายานั้นก็ได้ตื่นขึ้นมา และในที่สุดดวงวิญญาณที่ถูกจองจำก็ได้ถูกปลดปล่อยเสียที...
...'ไม่ถึงล้านปีหรอกนาแค่300ปีกว่าที่เจ้าหลับไหลไป เอาหละเสียเวลามามากแล้วหนาได้เวลาของเจ้าแล้วดวงวิญญาณแห่งความโลภและการโหยหาเอ๋ย'...
...สิ้นเสียงพระผู้เป็นเจ้าอีกรอบกายานั้นก็ได้ร่วงหล่นโดยไม่ทันตั้งตัวลงไปหลุมลึกที่ไร้ที่สิ้นสุดเสียแล้วแต่กระนั้นเมื่อเจ้าของกายาลืมตาขึ้นมากับอยู่ในร่างของเด็กน้อยแสนบริสุทย์แทนเสียแล้ว...
..."ข้า..ไม่สิฉันอยู่ที่ไหนนะ...."...
...เด็กน้อยได้เอ่ยขึ้นมาในใจให้ตายสิเหมือนดวงวิญญาณแห่งความโลภจะถูกลบเลือนความทรงจำบนสวรรค์ไปส่วนนึงนะ งั้นตอนนี้ก็คงเหลือเพียงเด็กน้อยผู้ที่ต้องทำตามประสงค์ของพระเจ้าซะแล้วหล่ะ ให้ตายสิเด็กน้อยผู้ถูกเลือกเอ๋ยขอให้โชคดีนะ ...
...แม้ความจำส่วนนึงจะลบเลือนให้หายไปแต่เด็กน้อยก็ยังคงจำได้ดีถึงอดีตของตัวเองดวงวิญญาณแห่งความโลภนี้นั้นประสงค์จะครอบครองโซลเมทที่กำลังจะกำเนิดขึ้นมาในอนาคตแต่ด้วยความโหยหาละความต้องการที่มากไปมันทำให้ตัวของวิญญาณนั้นกักขังตัวเองและหลับไปในที่สุด ...
..."อ่า...ที่นี่คงจะเป็นบ้านใหม่สินะ..."...
...เด็กน้อยกวาดสายตามองรอบๆก่อนจะรู้สึกอะไรบางอย่างกับพลังเวทย์ในตัวของตัวเองเหมือนมันถูกดูดออกไปเด็กน้อยรู้ดีว่ามันหมายความว่ายังไงหมายความว่าเด็กน้อยได้เจอโซลเมทที่หวังอยาก"ครอบครอง"มานานเสียที ...
...ดวงตาของเด็กน้อยลุกวาวก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อยในที่สุดในที่สุดตัวของเด็กน้อยก็ได้เจอคนที่รอมานานเสียทีแค่คิดว่าจะทำอย่างไรดีที่จะล่อลวงมาเป็นของตัวเองก็รู้สึกสนุกแล้ว ...
...อยากครอบครองและอยากลิ้มลองรสชาติแสนหวานนั้น นั้นคือสิ่งที่เด็กน้อยคิดตอนนี้แต่ก็คงต้องรอกายานี้เติบโตขึ้นอีกนิดหน่อยก่อนจะเริ่มแผน...
...--จบ--...
...มันเป็นวันที่ฝนตกหนักครั้งแรกในรอบปี เป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยจนหน้ากลัว เด็กชายกำลังนั่งจ้องออกไปที่นอกหน้าต่างด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 11 ปีของเขา เฝ้ารอจดหมายจากที่หนึ่งอย่างใจจดใจจ่อจนกระทั่งมันก็ถูกส่งมาจากเตาพิง จดหมายนั้นแม้จะโดนหยาดฝนหรือไฟก็ไม่เป็นไร เขาเอื้อมมืดไปด้านข้างเพียงเล็กน้อยและยิ้มออกมา...
..."อา ในที่สุดก็มาสักที"...
...จ่าหน้าซองถึงเด็กชายคนนั้น สกายเทียร์ จากโรงเรียนสอนเวทมนต์ฮอกวอตส์ ฟ้าผ่าดั่งสนั่นไปทั่วนภา พายุโหมกระหน่ำหนักกว่าเดิม แต่ก็เมินไม่สนใจและเริ่มที่จะอ่านจดหมายต่อ บิดาและมารดาเห็นกิริยาเด็กชายก็ได้แต่ทำหน้าสงสัยว่าใยลูกชายของตนถึงทำตัวเหมือนผู้ใหญ่แถมไม่รู้ว่าเขากำลังอ่านอะไรพวกเขายังไม่รู้ว่าจดหมายถูกส่งมาแล้วก็เท่านั้นเอง สกายที่กำลังอ่านจดหมายก็แอบถอนหายใจเบาๆและตีหน้าเนียนด้วยความสงสัยเล็กน้อย มือขวาถือกระดาษ มือซ้ายดึงชายเสื้อผู้เป็นบิดา...
..."พ่อครับ?จดหมายนี่คือ…?"...
...“จดหมาย…?ออออออ ลูกได้คำเชิญไปเรียนที่ฮอกวอตส์น่ะ”...
..."ฮอกวอตส์?"...
...เหอะ…ตีหน้าโง่ใสซื่อแกล้งทำเป็นไม่รู้แหละ ความจริงก็รู้ว่าจะต้องได้รับคำเชิญชวนนี้แน่ๆ อีกอย่างโซลเมทของเขาก็อยู่ที่นั้นเช่นกัน โอกาสเปิดทางให้ขนาดนี้ไม่ไปคงไม่ได้แล้ว ...
...พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้นะที่จะต้องไปซื้อของ…ช่างน่าเสียดายที่เป็นมะรืน แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็มีเวลาให้เห็นอนาคตอีกหน่อย พลังของสกายคือการดูอดีตและการเห็นอนาคตเพียงแค่การแตะตัวสัมผัส หากแต่อยากเห็นอนาคตโดยรวมก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงและต้องอยู่ที่เงียบๆโดยไม่มีใครมากวนใจ คิดแบบนั้นพลางมองบิดามารดาที่กำลังมีความสุขกับจดหมายที่ได้รับ ไม่แปลกใจเสียเท่าไรเลย...
...พยักหน้าเหมือนเด็กดีฟังพ่อแม่สั่งสอน แต่ถ้อยคำพวกนั้นมันก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ทำท่าเสแสร้งเป็นเด็กน้อยที่ง่วงนอนและหวาดกลัวพายุฝนจึงโอบกอดมารดาพรางซุกหน้า เห็นท่าทางของสกายแบบนั้นก็หยุดสนใจจดหมายและก้มมอง...
..."ผมกลัวฟ้าผ่า…"...
...“โอ๋ๆนะสกาย~นี้ก็ 2 ทุ่มแล้วเดี๋ยวแม่พาไปนอนล่ะ”...
..."ครับ~"...
...แสงทอของจันทร์เจ้าได้กระทบส่องมาสู่ดวงตาของเขา สกายเป็นเด็กชายผู้มีตา 2 สี ข้างขวาเป็นสีน้ำเงินที่มีความลึกลับและชวนขนลุก ข้างซ้ายเป็นสีแดงสดเหมือนเลือดที่มีความกระหายใคร่รู้ ผมสีดำเงา เขาเงยมองไปมองพระจันทร์ที่กำลังถูกเมฆจำนวนมากจากพายุในคืนนี้อีก...
..."หึ คงไม่มีโอกาสได้กับคุยท่านแล้วสิ แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยพวกเราก็รู้สึกตัวตนของกันและกัน"...
...แสงจันทร์ถูกบดบังจนมิด ไร้ซี่งแสงใดๆในห้องนอนของเขา สกายเขียนบันทึกบางอย่างก่อนจะเก็บมันและทิ้งตัวลงสู่เตียงนอนช้าๆ เขานอนห้องนอนเดียวและหน้าห้องก็ติดป้ายบอกมิดามารดาว่า ‘กำลังอ่านหนังสือ ห้ามเคาะเรียก ห้ามกวน’ ซึ่งเขาเคยเอาแต่อยู่ในห้องนานหลายวัน น่าแปลกที่ไม่เคยบนหิวหรือป่วย เพราะการจะให้เห็นอนาคตที่แน่นอนคือจะต้องไม่โดนขัด คิดไปคิดมาสกายก็ยกมือก่อนขยับเล็กน้อยให้ม่านหน้าต่างหนาๆปิดให้ห้องมืดกว่าเดิม...
...ดวงจิตล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย สกายเป็นภาพซ้อนนานามากมายแทรกซึมเข้ามาให้หัวสมอง เขาเห็นใบหน้าของใครหลายๆคนที่ไม่เคยรู้จัก ผู้วิเศษที่เดินสวนไปมา ร้านไม้กายสิทธิ์ที่เขากำลังหยิบจับไม้ ดวงตาของนกฮูกที่จ้องเขา สถานีรถไฟที่ชานชาลา 9 เศษ 3 ส่วน 4 เพื่อนใหม่ที่ดูทรงหน้าจะเป็นเพื่อนซี้ในอนาคต แผ่นหลังของใครบางคนที่เขาตามหามานานแสนนาน เป็นใครไปไม่ได้ ผู้ที่สูญเสียอะไรหลายๆอย่าง ผู้ที่ถูกมองประนามว่าเป็นวายร้าย ผู้ที่มอบหัวใจทั้งหมดให้กับหญิงสาวที่ตายไปแล้ว...
..."เซเวอร์รัส สเนป…ผมจะเป็นคนที่เต็มเติมความรู้สึกนั้นให้ได้…"...
...ภาพก็ตัดไปมาเร็วขึ้นในตอนที่กำลังจะถูกเลือกบ้านโดยหมวกคัดสรรค์ ทว่ามันเป็นการใช้เวทมนต์ที่มากเกินไปทำให้ภาพมันวูบดับหายไป ถึงจะแอบหงุดหงิดแต่ก็ดีที่จะได้เจอกับโซลเมทของตน สกายค่อยๆลืมตาขึ้นอีกครั้งก่อนจะลุกนั่ง มองไปยังนาฬิกาบอกวันเวลา ผ่านไป 1 วันกับอีก 10 ชั่วโมง เสียแล้ว...
..."วันนี้แล้วสินะ?ที่ต้องไปซื้อของน่ะ~"...
...สกายหัวเราะคิกคักออกมาอย่างเงียบๆคล้ายอสุรกายที่ซ่อนเร้นในเงาความมืด เขาได้ย่างก้าวเดินออกจากห้องนอนตรงไปหาผู้เป็นบิดาและมารดา รอยยิ้มจอมลวงโลกก็ปรากฏขึ้นพร้อมการเอ่ยอรุณสวัสดิ์ออกจากจากริมฝีปากนั้น เขารู้ รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ อีกไม่นานก็ต้องไปที่นั้น ที่ตรอกไดแอกอน ...
...ก่อนที่จะได้ออกไป สกายก็ถูกผู้เป็นมารดาแต่งตัวให้ดูดีพอมีชาติตระกูล จัดผมแต่งกลิ่น และทานอาหารเช้าพร้อมกันเป็นครอบครัว ฟังบทสนทนาที่มีแต่เรื่องเบื่อๆ แต่เพราะคำนึงนึกคิดถึงใบหน้าของโซลเมทก็ยิ้มมุมปากออกมา เอาล่ะ ถึงเวลาออกเดินทางไปเตรียมตัวซะแล้ว มือหนึ่งก็จับมือบิดาแล้วคอยเดินตามติดๆไม่ห่างแม้แต่น้อย...
..."เราจะไปซื้อของที่ห้างหรอครับ?"...
...“ห้าง?ไม่ๆลูก ห้างของพวกมักเกิลไม่มีของวิเศษหรอก”...
...รู้ รู้ว่าโลกของมักเกิลไม่มีของวิเศษของพวกผู้วิเศษหรอก สกายต้องตีเนียนเป็นเด็กชายที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากนักไม่งั้นอาจถูกจับผิดพิรุธได้ ...
...เดินผ่านถนนคนเดินมากมายก่อนเข้าไปในซอกหนึ่งที่หลับสายตาผู้คน บิดาของเด็กชายเคาะไปที่กระเบื้องเป็นจังหวะก่อนมันจะเกิดปติกิริยาบางอย่าง มันขยับไปมาก่อนเปิดทางให้เข้าไปได้ สถานที่ตรงหน้าคือครอกไดแอกอนแน่นอน มันช่างแสนจะวุ่นวายเสียจริง...
...“สกาย”...
..."ครับพ่อ?"...
...“ลูกไปเลือกดูไม้กายสิทธิ์กับสัตว์เลี้ยงนะ ระหว่างนั้นเดี๋ยวพ่อจะซื้อหนังสือและซื้อของใช้อื่นๆ”...
..."ครับ"...
...ถึงเวลาแยกทางกับผู้เป็นบิดา สกายพุ่งตรงไปที่ร้านโอลิแวนเดอร์ เขาเปิดประตูเข้าไปในตอนที่เจ้าของร้านกำลังทำความสะอาดตู้ไม้กายสิทธิ์ จากใบหน้าที่ดูเป็นเด็กน้อยก็กลายเป็นสีหน้าแววตาของผู้ใหญ่ทันที...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!