NovelToon NovelToon

บัญชาแค้นแห่งสวรรค์

Episode 1

เมื่อหลายพันล้านปีก่อนได้เกิดสงครามขึ้น สงครามนั้นถูกขนานนามว่า "สงครามดำขาว" เพราะเป็นสงครามระหว่างเทวดาและปีศาจ มนุษย์อยู่ฝ่ายกลาง แต่ด้วยเหตุผลอะไรซักอย่างทำให้สงครามยุติลงด้วยความ "เสมอภาคของทั้งสองฝ่าย" แต่มีข่าวลือแปลก ๆ ว่ามีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตามทั้งมนุษย์และปีศาจกับเทวดาก็อาศัยด้วยกันอย่างสงบสุขโดยมีสัญญาเป็นข้อผูกมัด

.......

.......

.......

.......

.......

...ณ แดนสวรรค์...

"คาร์ !" เสียงที่ร้อนลนของสตรีเทวดา ผมสีขาวนวล นัยตาสีฟ้าทะเล ปากสีกุหลาบแดงได้ตะโกนเรียกหาเพื่อนสนิท ทันใดนั้น มีชายผิวขาว ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล มีนัยตาสีเหลืองสลับน้ำเงิน บริเวณข้อมือมีรอยเย็บ ได้โผล่ออกมาและส่งยิ้มให้อย่างเยือกเย็น

"มีธุระอันใดหรือ เดียร์" ชายหนุ่มได้ตอบกลับอย่างเสียงที่เยือกเย็นราวกลับจะถูกกลืนกิน เดียร์ที่ดูร้อนลน ได้ดึงมือของคาร์ และวิ่งไปที่มหาวิหารที่สูงส่งของแดนสวรรค์ ชายหนุ่มตกใจแต่ไม่มีช่องว่างให้พูดจึงเงียบและตามไปอย่างใจเย็น

"ถึงแล้วละ" เสียงของเดียร์ได้พูดขึ้นพร้อมกับหยุดที่หน้ามหาวิหารและสีหน้าที่กังวล ทำให้คาร์สงสัยและเดินเข้าไปยังข้างในมหาวิหาร บรรยากาศข้างในช่างตึงเครียด มีทูตสวรรค์และเทวดาระดับสูง ๆ เต็มไปหมดและดูเหมือนพวกเขาจะรอชายหนุ่ม เมื่อคาร์ได้ก้าวเข้าไปในมหาวิหารเขาได้เดินไปยังหน้ามหาเทพ และเคารพอย่างนุ่มนวล

"เจ้ามาแล้วหรือ" เสียงของมหาเทพช่างเยือกเย็นนัก เยือกเย็นกว่าเสียงของคาร์ สายได้ที่มองลงมายังคาร์ทำให้คาร์รู้ได้ทันที นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน

"นับแต่นี้ไป เจ้าจงออกเดินทางซะ และจงอย่าเผยตัวตน" คำสั่งที่แม้แต่คาร์ยังตกใจ คาร์ไม่ทันระวังตัวได้ทูกเหล่าเทวดาจับตัว คาร์พยายามขัดขืนแต่มิอาจสู้แรงของคนหลายคนได้ มหาเทพได้เดินเข้ามายังคาร์เขาได้ท่องคาถาและยึดพลังของคาร์พร้อมกับส่งคาร์ลงไปยังโลกข้างล่าง ก่อนจะส่งมหาเทพได้ยิ้มหัวเราะและบอกกับคาร์เบา ๆ

"ขอให้สนุกนะ" เสียงสุดท้ายของมหาเทพ เยาะเย้ยชายหนุ่มอย่างสะใจ

.......

.......

.......

.......

.......

...ณ ป่าบรูซ...

คาร์ได้ถูกส่งลงมาสู่ข้างล่าง เมื่อคาร์ตื่นขึ้นก็พบว่าตนกลายเป็นมนุษย์ที่มีพลังเวทสูงกว่ามนุษย์ทั้วไปแต่ไม่ใช่เทวดา ไม่มีปีกสีขาวที่คุ้นเคย แต่กลับอยู่ท่ามกลางฝูงศัตรู เมื่อคาร์ฟื้นขึ้นได้มีสตรีคนหนึ่งเดินออกมานัยตาของนางช่างเป็นสีแดงดุจดั่งจะเผาร่างของคนที่สบตา ร่างกายตัวเล็กแต่แข็งแรง

"เจ้าเป็นใครกัน" เสียงที่หนักแน่นได้ถามชายหนุ่มด้วยความระแวง

"....เรเซน(Resent)....." คาร์ตั้งมั่นและคิดได้ เขาต้องออกเดินทางหาเหตุผลและทางกลับสู่สรววค์ แท้จะต้องฆ่าทุกคน เหมือนอย่างชื่อที่เขาใช้ที่นี่ (Resent) ที่ย่อมาจาก (Resentment) ความแค้น

"งั้นหรือตอนนี้ เจ้าจะทำยังไงละเรเซนเจ้าอยู่ท่านกลางศัตรูนะ" สตรีถามเรเซน เรเซนเงียบสงบอละมองที่สตรีอย่างเยือกเย็น สตรีที่ไม่ได้คำตอบจึงหันหลังกลับและยกมือให้คำสั่งโจมตี เรเซนได้ยืนขค้นและใช้คาถา ทำให้พวกที่เข้ามาโจมตีขาดสะบั้นสองท่อน

"ข้าก็จะสู้ สู้จนกว่าร่างของข้าจะสูญสลาย!!' คำพูดที่ออกมาจากชายหนุ่มทำให้สตรีต้องหันกลับมา สตรีได้ยิ้มและหัวเราะลง

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าช่างถูกใจข้ายิ่งนัก" สตรีได้ยกมือสั่งให้หยุด สตรีได้เข้ามาหาและจับมือที่เต็บไปด้วยรอยเย็บ

"ข้าชื่อ คริส เป็นนักรบสาว" สตรีอุ้มเรเซนขึ้น ชายหนุ่มตกใจและพยายามดิ้น สตรีได้อุ้มายหนุ่มกลับสู่หมู่บ้านและทำอาหารให้เรเซน

"เจ้า....ทำไมทำอาหารให้ข้า" ชายหนุ่มถามสตรีด้วยความสงสัย

"เพราะข้าถูกใจเจ้าไง เจ้าเป็นคนที่ผ่านการทดสอบได้" สตรีได้ตอบอย่างมั่นใจและยิ้มออกมาก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศน่าอึดอัด

"ข้ามีคำขอจะขอเจ้า เรเซน" สตรีทำหน้าจริงจังเสียงที่เข้มขึง ชายหนุ่มตกใจและรับฟังคำขออย่างใจเย็น เมื่อได้ยินคำขอเรเซนตอบตกลงอย่างไม่ชักช้า

"ช่างเป็นคำขอที่...ง่ายเสียจริง"

To be continued

Episode 2

.......

.......

" ช่างเป็นคำขอที่...ง่ายเสียจริง " เรเซนได้กล่าวพร้อมกับหยิบกริซในตำนาน อาวุทที่ติดตัวเขาตั้งแต่เขาเป็นเทวดา กริซในตำนานที่สามารถตัดและสังหารทุกอย่างได้ คำขอของสตรีนักรบคือ

" ช่วยคนในหมู่บ้านคนหนึ่งที่ถูกจับตัวไปที ขอร้องละ มันอาจจะน่าสมเพช ขอร้องละ " เรเซนไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ถูกจับตัว แต่ว่าหลักการของเรเซนผู้นี้คือ ช่วยคนที่ตกในความลำบากเท่านั้น สตรีนักรบได้หลั่งน้ำตาพร้อมกับแบกขวานยักษ์ นำพาเรเซนไปยังฐานของพวกโจร เรเซนได้แต่นึกว่ามนุษย์ทำไมต้องหลั่งน้ำตาด้วย....ในห้วงความคิดเรเซนได้นึกถึงสิ่งต่างๆแต่ทำไมกันเหมือนมีอะไรค่อยกั้นไว้

" ถึงแล้วละ ข้าจะจัดการพวกด้านนอก นายจัดการพวกด้านในนะ " สตรีสาวนามคริส ได้ชี้นิ้วสั่งเรเซน

แต่สายตาของชายหนุ่มไม่ได้สนใจคริสแท้แต่น้อย แต่เขากลับคิดเรื่องของตนเองมากกว่า เพราะสุดท้ายเขาแค่ต้องการกลับสู่ที่ที่เขาเคยอยู่ ชายหนุ่มบุกเข้าไปในรังโจร พวกโจรนับร้อยวิ่งเข้ามาหาเรเซน ชายหนุ่มได้กวัดแกว่งกริซในมืออย่างบ้าคลั่ง หัวของพวกเหล่าโจรได้หลุดออก บางคนโชคร้ายแค่แขนขาด ต้องทนทุกข์ทรมานกับบาดแผล สตรีที่จัดการด้านนอกเสร็จได้เดินเข้ามาและต้องตกใจกับภาพที่เห็น ชายหนุ่ทยืนอยู่ท่ามกลางศพมหาศาล เลือดโชกเต็มไปหมด แต่บนตัวของชายหนุ่มกลับไม่มีเลือดเลยซักหยด สตรีเดินเข้าหาชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะบอกให้ชายหนุ่มไปนั่งพักก่อน

" จริงสิ....เธอต้องการช่วยใคร " ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัยและมองคริสด้วยสายตาที่เย็นชา

" ....ทำไมถามแบบนั้นละ ... " สตรีตกใจและสบตากับเรเซนด้วยสีหน้าที่กังวล

" ก็เพราะถ้าแค่ช่วยคนธรรมคงไม่ถึงขนาดนี้หรอก "

" .....เขาคือน้องชายของฉันเอง รู้แค่นั้นก็พอ... "สตรีนิ่งเงียบ

เธอเดินเข้าไปที่ประตูเหล็กที่ขังใครซักคน เธอเปิดประตูออกและเข้ากอดกับคนข้างในก่อนที่น้ำตาของเธอจะไหลออกมา เสียงกรีดร้องของเธอช่างโศกเศร้าและแค้นยิ่งนัก เพราะ ร่างของน้องชายที่แข็งทื่อ และเย็นซีดไม่มีทางฟื้นได้อีกแล้ว พวกโจรได้ทรมานย่ำยีและฆ่าเขาทิ้งทันที สตรีได้อุ้มร่างของเด็กชายที่ไร้เดียงสา กลับสู่หมู่บ้านเธอได้นำร่างของเด็กชายลงบนโลงกระจก ณ ผืนดอกไม้สีขาวนวล เธอได้เช็ดน้ำตา หันมองมาที่เรเซน

" นายต้องออกผจญภัยแล้วสินะ ต้องการองครักษ์ไหม " สตรีพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

" ข้าต้องการอยู่พอดี " ชายหนุ่มตอบเธอด้วยสีหน้าที่โศกเศร้าพร้อมครุ่นคิด เหตุใดพวกบนสวรรค์ถึงไม่เห็นพวกเขาเหล่านี้กัน ทั้งที่สองพี่น้องที่รักกันขนาดนี้กลับพรากชีวิตคนใดคนหนึ่งลง ช่างเป็นชะตากรรมที่โหดร้ายจริง

" จะเป็นอะไรไหมถ้าข้าจะเดินทางกับเจ้า เพื่อล้างแค้นให้น้องชายของข้า หัวหน้าของพวกมัน... " สตรีได้ขอร้องเรเซนเธอมองด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น

ชายหนุ่มได้พยักหน้าเบา ๆ และเดินทางออกจากหมู่บ้านไปพร้อมกับสตรีนักรบ

" จุดมุ่งหมายต่อไปคือที่ไหนกัน " สตรีได้ถามชายหนุ่ม ชายหนุ่มนิ่งเงียบและชี้ปลายทางไปทางดวงตะวันที่กำลังตกดิน ชายหนุ่มและสตรีได้ร่วมเดินทางกันรอบนี้สครีทำเพื่อชายหนุ่ม เพื่อทดแทนที่ได้ช่วยตน คริสได้มองเรเซนด้วยความสงสัยและถามว่า

" เจ้าทำไมถึงออกเดินทางละ " (คริส)

" ข้าต้องการหาความจริงและแก้แค้น " (เรเซน)

" ฉันจะนำทางนายเอง ฉันพอจะรู้ว่านายควรไปไหน " (คริส)

ชายหนุ่มเหม่อมองเวหาสีฟ้าครามพร้อมกับเดินทางอย่างใจเย็น ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง คริสจับมือชายหนุ่มพร้อมเอ่ยวาจา

" เหม่ออะไรอยู่กัน " หญิงสาวจับมือชายหนุ่มอย่างแน่นหนานำพาเดินไปข้างหน้า ชายหนุ่มรู้สึกอบอุ่นที่ห่างหายมานาน ความรู้สึกที่คุ้นเคยเหมือนกับตอนที่อยู่กับเดียร์ ชายหนุ่มมีคำถามในหัวมากมาย เดียร์ทำไรอยู่ เดียร์เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้จะยังปลอดภัยไหม คำถามเหล่านี้ได้พุ่งเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ก่อนที่ชายหนุ่มจะปัดหัวเลิกคิด และสนใจการเดินทางก่อน ตอนนี้พวกเขาได้เดินทางจนตะวันจะลับขอบฟ้า ทั้งคู่ได้เห็นเมืองที่ไกลห่าง

" ถึงแล้วละ " เสียงของคริสกล่าวขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกว่านี่พึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง

.......

.......

To be continued

Episode 3

.......

.......

.......

.......

พวกเขาทั้งสองได้เดินทางมาถึงจุดหมายต่อไป เรเซนเห็นแสงไฟสว่างไสวมาจากอาณาจักรที่อยู่ข้างหน้าเขา คริสอาศัยจังหวะที่เรเซนไม่ทันตั้งตัว อุ้มเขาขึ้นหลัง เรเซนตกใจและขัดขืนแต่ของแรงของหญิงสาวเยอะกว่าทำให้เขาจำใจขี่หลังหญิงสาว หญิงสาววิ่งให้เร็วที่สุดไปอาณาจักรข้างหน้าพร้อมกับเสียงหัวเราะ แต่ต้องถูกขัดด้วยทหารเฝ้ายามหน้าเมือง

"หยุดก่อน ขอความร่วมมือด้วยครับ" เสียงของทหารหยุดพวกเขาก่อนจะยื่นกระดาษมาให้พวกเขาจับ เมื่อทั้งสองคนจับกระดาษเปล่งแสงเป็นสีขาว ทหารได้เปิดทางให้พวกเขา คริสกระซิบข้างหูเรเซนเบาๆ

"สงสัยสินะว่าทำไมกระดาษจึงเปล่งแสง" คริสหัวเราะท่าทีของเรเซน

"งั้นเราจะสรุปสั้นๆนะ กระดาษนั่นไว้สำหรับตรวจสอบคนดีไม่ดี ถ้าสีขาวแสดงว่าไม่มีความคิดชั่วร้าย สีเทาต้องใส่อุปกรณ์ดูพฤติกรรม สีดำไม่สามารถเข้าเมืองได้"

เมื่อคริสพูดจบ เรเซนรู้สึกหายคาใจแต่แล้วได้มีความคิดหนึ่งเข้ามาในหัว มันช่างเป็นความที่เลวร้าย เหตุใดกับเขาถึงคิดเช่นนั้นได้ เรเซนแสดงสีหน้ากังวลจนคริสรู้ตัว

"นายน่ะ คิดไรอยู่ถึงทำหน้าน่ากลัวได้กัน" คริสกล่าวขึ้นมาพร้อมดีดหน้าผากของชายหนุ่ม ชายหนุ่มส่ายหัวเบา ๆ และเดินนำหน้าหญิงสาวไป เรเซนสับสนกับความคิดของตนทำไมคิดเรื่องไม่ดีได้นะ

"จะไปไหนน่ะ รอก่อนดิ" หญิงสาวกล่าวตามหลังเรเซน แต่เรเซนหยุดชะงักลง เมื่อเขาได้กลิ่นความชั่วร้ายลอยมากับฝูงชน แต่อยู่ท่ามกลางฝูงชนแบบนี้เขาไม่สามารถจับได้ว่ากลิ่นชั่วร้ายนี้เป็นของใคร คริสเห็นท่าทีแบบนั้นจึงพาเรเซนไปร้านเหล้าข้าง ๆ เพื่อคุยกัน

"เมื่อกี้นายรู้สึกเหมือนกันใช่ไหม" คริสถามเรเซนเพื่อความแน่ใจ

"อืม.....แต่อยู่กลางฝูงชนแบบนั้น เลยจับตัวไม่ได้เลย" เรเซนพูดเสียงเบาเพราะกลัวคนจะได้ยิน

"แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัวแล้วละ"(คริส) อยู่ๆก็มีชายหนุ่มล้อมโต๊ะที่พวกเรเซนนั่ง พวกมันพุ่งเข้ามาพร้อมกับถือมีดเล็ก ๆ เรเซนหยิบกริซออกมาอฃะร่ายคาถาเคลือบอาวุทให้เป็นยาพิษ เมื่อเรเซนแทงพิษจะเข้าสู่ร่างกายศัตรูทันที แปปเดียว พวกศัตรูก็ล้มกันเป็นแถว

"นายเก่งทั้งการใช้อาวุทกับเวทจนน่าตกใจเลยนะ" (คริส)

"ทำฉันสงสัยจริง ๆ นายเป็นใครมาจากไหนกันแน่" (คริส)

"ฉันก็คือฉัน เรเซน เป็นผู้พเนจรเพื่อล้างแค้นส่วนตัว" (เรเซน) เมื่อชายหนุ่มพูดจบ ก็สังเกตุเห็นรอยสักบนตัวของศัตรู เป็นสัญลักษณ์ของพวกลัทธิบูชาจอมปลอม ดูเหมือนการมาของพวกเรเซนจะทำให้พวกนี้ยุ่งยาก แต่ไม่รู้สาเหตุที่แน่นอน จึงสรุปอะไรยังไม่ได้ เรเซนที่กำลังคิดหนัก คริสได้เจอเศษกระดาษที่ตัวของศัตรู มันเขียนไว้ว่า

"กำจัด สองนักเดินทางชาย-หญิงที่เข้าเมือง เนื่องจากอาจจะเป็นอุปสรรคในการทำพิธี จุดเด่นของหญิงสาว : พกขวานขนาดใหญ่และดาบใหญ่ มีผมสีแดง แต่งกายด้วยชุดสีขาว นัยตาสีแดงส้ม

ชายหนุ่ม : พกกริซข้างกาย ผมสีทองสว่าง นัยตาสีฟ้าเทา แต่งกายชุดประหลาด

หากพบตัวฆ่าทิ้งได้เลย หากจับเป็นได้ จะได้รับรางวัลจากเทพปีศาจ"

"อะไรกันคำสั่งบ้าบอแบบนี้"(คริส)

"การมาของพวกเราดูท่าจะเข้าหูพวกไม่ดีแล้วสินะ"(เรเซน)

คริสได้มองท้องฟ้าและพบว่าฟ้ากำลังจะมืดจึงถามบาร์เทนเดอร์ว่ามีที่พักพอจะอาศัยชั่วคราวไหม บาร์เทนเดอร์กล่าวออกมาว่า มี คริสลากเรเซนขึ้นไปบนห้องพร้อมจ่ายเงินให้กับบาร์เทนเดอร์ราคาไม่แพงมาก คริสเหน็ดเหนื่อกับการเดินทางจึงเผลอกลับไป เรเซนได้วางแผนสำหรับพรุ่งนี้เพื่อเตรียมพร้อมกับการสู่ก่อนเขาจะหลับลง

To be continued

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!