ณ ตึกระฟ้าสูงห้าสิบชั้นแห่งหนึ่งในรัฐนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง โดยที่นั่นได้มีงานเลี้ยงฉลองของแก๊งมาเฟียลูชิเฟอร์ แก๊งที่มีอิทธพลเป็นอย่างมากในอเมริกา ซึ่งมีคดีมากมายทั้งเรื่องของยาเสพติด การค้าอาวุธเถื่อน รวมถึงการค้ามนุษย์ และอื่นๆที่ตำรวจพยายามจะตามจับอยู่ แต่เพราะพวกมันมีอิทธิพลและอำนาจเป็นอย่างมาก ทำให้ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ มิหนำซ้ำ มันยังใช้อำนาจเงินของมันซื้อตำรวจระดับสูงมาอยู่กับพวกมันเพื่อใช้เป็นใบเบิกทางทำธุรกิจมืดด้วย ซึ่งก็มีตำรวจพยายามจะเอาผิดพวกมัน แต่ชีวิตของตำรวจเหล่านั้น.....ก็จบไม่สวยสักเท่าไหร่.....
เหล่าแขกในงานต่างดื่มด่ำสำราญกับความเพลิดเพลินของงานเลี้ยง ทั้งอาหารที่สุดแสนจะหรูหรา วงดนตรีที่คลอบรรเลงอย่างไพเราะ และงานเต้นรำที่สุดแสนจะอิ่มเอมหัวใจ แต่ภายใต้ความสุขเหล่านั้น ผู้คนมากมายต่างต้องเจ็บปวด ทรมาณ สิ้นหวัง และล้มตายเพราะอำนาจมืดของพวกมัน......
เมื่อการบรรเลงเพลงเต้นรำจบลง แขกทุกคนต่างปรบมือเพื่อเป็นการขอบคุณวงดนตรีที่มาบรรเลงในวันนี้ จากนั้น ผู้นำของแก๊งคนปัจจุบันก็ได้ขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับมีไมค์ยื่นมาให้กับตน ซึ่งเขาเป็นหนุ่มผมทองหน้าตาหล่อเหลา ชุดสูทสีเทาของเขาทำให้เขากลมกลืนและเด่นชัดในงาน ซึ่งเขาก็มีชื่อว่าเอ็ดเวิร์ด นิวสัน เขายิ้มให้กับทุกคนในงานด้วยความอัธยาศัยดี ก่อนจะเริ่มกล่าว
"ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน" ทุกคนต่างหยุดกระทำทุกอย่างเมื่อได้ยินเสียงของเขา "ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ทุกท่านให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของแก๊งลูชิเฟอร์ของผม และทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ จะเป็นสักขีพยานว่า แก๊งลูชิเฟอร์ จะเป็นแก๊งที่สามารถขึ้นมาเป็นใหญ่ที่สุดในอเมริกาและเอเชียให้ได้"
"ดื่ม! เพื่อเรา"
"เพื่อเรา!"
"เพื่อความยิ่งใหญ่"
"เพื่อความยิ่งใหญ่!"
"คัมปาย!"
"เย่!"
เสียงปรบของแขกในงานทุกท่านต่างดังก้องไปทั่วฮอลล์ ทุกคนต่างดื่มไวน์เพื่อแสดงความปิติยินดีกันอย่างรื่นเริงและสนุกสนาน เอ็ดเวิร์ดเองก็ยิ้มให้กับความสำเร็จของตนที่เกิดมาจากการนองเลือดและความดำมืดผิดศีลธรรมของตน ช่างเป็นการยินดีที่น่าคลื่นไส้อะไรแบบนี้
"แก๊งมาเฟียลูชิเฟอร์ ต้องยิ่งใหญ่ได้แน่นอน"
"ใช่แล้ว"
พรึ่บบบบ!
จู่ๆไฟในฮอลล์ก็ดับอย่างไม่ทราบสาเหตุ แขกในงานเริ่มเกิดอาการตกใจเล็กๆ เอ็ดเวิร์ดรีบเรียกการ์ดให้ไปดูเบรคเกอร์ทันที เพราะเขานั้นทำการโกงตึกและกดขี่เงินมาจากผู้คนเพื่อใช้จ่ายค่าไฟ มันไม่ควรจะดับแท้ๆ
"ไฟดับได้ไงวะเนี่ย-"
แอดดดดดด..............
เสียงเปิดประตูฮอลล์ได้ดังลั่นไปทั่ว ทุกสายตาต่างหันไปมองประตูที่เปิดออก เสียงเท้าของผู้ที่เดินเข้ามาในงานดังลั่นไปทั่ว พร้อมกับของเหลวสีแดงที่เปรอะเปื้อนไปทั่วพื้นที่แขกคนนั้นเดินเข้ามา แขกในงานทุกคนที่เห็นบุคคลปริศนาคนนั้น ต่างสร้างความสะพรึงเป็นอย่างมาก
"สายันสวัสดิ์ เหล่าแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย"
เสียงของบุคคลปริศนาได้ดังขึ้น มันเป็นเสียงที่เย็นยะเยือกโทนต่ำและก้องเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาถูกหุ้มด้วยหมวกหัวกะโหลกสีเงินเต็มใบ ดวงตาสีแดงฉานของมันส่องแสงเล็กๆในความมืดมิด มาพร้อมกับชุดสูทสีดำ เนคไทสีแดงและผ้าคลุมดำทมิฬเหมือนชุดนักมายากล ในวงการใต้ดิน ทุกคนต่างรู้จักนามของเขาเป็นอย่างดี.....
"Dark......Nightmare....."
"โอ้ รู้จักผมด้วยงั้นเหรอเนี่ย เป็นเกียรติจังเลยนะครับ"
"มะ มือสังหารระดับพกาฬ..... ทะ ทำไมถึงได้......"
"เรียกแบบนั้นผมก็เขินแย่เลยสิครับคุณนิวสัน"
ดาร์คไนท์แมร์เอ่ยหยอกเล่นด้วยความเป็นมิตร แต่คนที่เขาคุยด้วยกลับหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว เหงื่อเริ่มไหลไปทั่วตัว แขกทุกคนที่อยู่ในงานเองก็ไม่กล้าขยับหรือทำอะไรเลยเมื่อได้มาเจอกับมือสังหารคนนี้
"วันนี้ ผมเองก็มายินดีและเป็นสักขีพยานเหมือนกันนะครับ"
"งะ งั้นเหรอ....." เอ็ดเวิร์ดพยายามยิ้มให้
"ใช่แล้วล่ะครับ" ดาร์คไนท์แมร์พยายามใช้เสียงนุ่มนวลเอ่ย
"เป็นสักขีพยาน ถึงการล่มสลายของแก๊งคุณยังไงล่ะ"
"........!?"
สีหน้าของเอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เป็นสีหน้าที่สิ้นหวัง หวาดกลัว เหมือนเขานั้นกำลังจะจมดิ่งสู่ฝัน้รายอันมืดมิดที่ไม่มีวันได้ตื่น ก่อนจะรีบเอ่ยเพื่อยื้อเวลาเอาไว้ ซึ่งเขาก็กดปุ่มสัญญาณเพื่อเรียกการ์ดเข้ามาในฮอลล์ทั้งหมด
"ระ เราคุยกันได้....."
"หือ? คุยเหรอครับ?" ดาร์คไนท์แมร์เอียงคอเล็กๆด้วยความสงสัย
"คะ ใคร มันจ้างนายมา ฉันจะจ้างนายสาม- ไม่สิ! ห้าเท่าจากมันเลย กลับไปฆ่ามันเดี๋ยวนี้!"
"เป็นเกียรติที่ได้ทำธุรกิจด้วย" เขาได้กล่าวออกมา "แต่มันติดปัญหานี่สิครับ"
"ปะ ปัญหาอะไร!?"
"ก็คนที่จ้างน่ะ......ก็คือตัวผมเองนี่นา"
"อึ่ก!...."
"เอาล่ะๆ ได้เวลาเปิดโชว์การล่มสลายของแก๊งลูชิเฟอร์แล้ว ใครที่อยากจะร่วมโชว์นี้ก็ดาหน้าเข้ามาฆ่าผมได้เลยนะครับ ส่วนถ้าใครยังรักชีวิตอยู่ ก็เชิญออกทางประตูหน้าของตึกให้เร็วที่สุดด้วยนะ"
"จะนับแค่สามนะ"
"ฉะ ฉันไปทำอะไรให้แกวะ!"
"สาม"
"แก.....ไอ้สารเลว!"
"สอง"
"หยิบปืนสิวะรอใครเปิดพิธีไอ้พวกโง่!"
"หนึ่ง"
ปัง!!!!!!
เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วฮอลล์ ก่อนจะมีร่างของการ์ดคนหนึ่งลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมกับมีลูกตะกั่วฝังอยู่ที่กลางหน้าผาก ซึ่งคนที่ยิงก็คือดาร์คไนท์แมร์
"It's Showtime"
"กรี๊ดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!"
"ช่วยด้วย!!!!!"
แขกในงานต่างวิ่งหนีกระเจิงยิ่งกว่าฝูงผึ้งแตก ทุกคนต่างรีบหนีเพื่อเอาชีวิตรอดจากฝันร้ายที่กำลังย่างกรายเข้ามาในที่แห่งนี้ เอ็ดเวิร์ดเองก็เตรียมจะหนีแล้วเช่นกัน
"ยิงมันเลย! ยิงมัน!"
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ดาร์คไนท์แมร์รีบกระโดดหลบวิถีกระสุนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิงสวนไปซึ่งก็เข้าหัวการ์ดหนึ่งคนอย่างแม่นยำ จากนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งแสงสีแดงออกมา ซึ่งก็สร้างความตกใจให้กับพวกการ์ดเป็นอย่างมาก
"อะ อะไรวะ-"
ปัง!
ลูกตะกั่วได้ฝังเข้าไปกลางหน้าผากของการ์ดคนนั้น ดาร์คไนท์แมร์ได้ลงมาเหยียบพื้นพร้อมกับยิงปืนเข้ากลางกบาลของการ์ดอีกสองคน ทำให้กระสุนในแม็กหมด เขาจึงรีบถอดแม็กแล้วเปลี่ยน ซึ่งในจังหวะที่เขากำลังดึงปลอกนั้น ก็ได้มีการ์ดคนหนึ่งเอาปืนมาจ่อที่หัวกะโหลกของเขา
"แกจบเห่แล้ว ไอ้กะโหลกเหล็ก"
"พ่อแม่ไม่สั่งสอนแกเลยหรอวะว่าห้ามเล่นอาวุธน่ะ"
"ห้ะ-"
ฉึกก!!!!
มือสังหารคนนี้ได้คว้ามีดที่อยู่ตรงเข็มขัดของเขาขึ้นมาแล้วปักแขนการ์ดคนนั้นด้วยความเร็วสูง ทำให้ปืนของมันตกพื้นพร้อมกับเสียงร้องโอดครวญของมัน
"อ้ากกก!!! แม่งเอ้ย-"
ปัง!!!
กระสุนปืนของดาร์คไนท์แมร์ได้เจาะกะโหลกของมันอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เตะศพไอ้การ์ดที่เอาปืนจ่อหัวของเขาด้วยความหงุดหงิด
"เหล็กบ้านป้าแกสิวะ นี่มันไทเทเนียมเว้ยไอ้งั่ง ของแพงนะเฟ้ย" เขาเอ่ยด่ามันก่อนจะหันไปรอบๆ ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ได้หนีออกไปแล้ว "อยากเล่นซ่อนแอบสินะ ถ้าฉันหาแกเจอแกจบศพไม่สวยแน่"
เอ็ดเวิร์ดที่ใช้ช่วงชุลมุนหนีออกมาจากฮอลล์ ซึ่งระหว่างทางที่เดินออกไปนั้น เขาก็เจอกับศพของการ์ดที่นอนระเกะระกะไปทั่วทาง ซึ่งก็สร้างความสะพรึงเป็นอย่างมาก ที่คนๆเดียวสามารถฆ่าคนนับสิบคนได้แบบนี้
"แฮ่ก....แฮ่ก.....คงรอด....แล้วล่ะ-"
"ต๊ะเอ๋"
ปัง!
"อ้ากกกก!!!!"
เอ็ดเวิร์ดลงไปนอนกองกับพื้น พร้อมกับเลือดที่ค่อยๆไหลออกจากขาซ้ายของตน ซึ่งคนที่ยิงก็คือดาร์คไนท์แมร์ ที่ได้มายืนอยู่ตรงหน้าของเขา ซึ่งภาพที่เอ็ดเวิร์ดเห็นนั้น เหมือนกับยมทูตสีดำ กำลังจะมาเกี่ยวดวงวิญญาณของเขาไป
"กะ แก.....ไอ้....สารเลว......"
"พูดไม่ดูตัวเองเลยนะ"
ปัง!
"อ้ากกก!!! ไอ้....ชั่ว.....!" มันร้องออกมาอีกครั้งเพราะถูกยิงที่บริเวณไขสันหลัง ทำให้มันไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
"อุ๊ย โทษทีๆ มือมันลั่นน่ะ"
"ฉะ ฉันไปทำอะไรให้แกวะ.....! ทำไมแกถึงต้องมาฆ่าฉัน...."
"ก็ฉันบอกแกแล้วนี่ ฉันจ้างตัวฉันเพื่อมาฆ่าแก แกน่ะมันไอ้เศษเดนที่เห็นชีวิตคนอื่นเป็นผักเป็นปลา เข่นฆ่า ข่มขู่ ทารุณ และอื่นๆที่ผิดศีลธรรม"
"และยิ่งกฎหมายทำอะไรแกไม่ได้ ฉันที่มีหน้าที่ฆ่าพวกเศษสวะแบบแก ก็ต้องมาจัดการสิวะ คิดสิคิด" ดาร์คไนท์แมร์ชี้นิ้วมาที่หัวสมองของเอ็ดเวิร์ด
"วะ ไว้ชีวิตฉันเถอะ......ฉันสัญญา....ฉันจะเลิกเป็นมาเฟีย.....คอยทำประโยชน์เพื่อสังคม"
"พวกแกเนี่ยมันพล่ามเหมือนกันชะมัด ตูล่ะเบื่อที่ต้องมาได้ยินที่พวกแกอ้างจะช่วยโน่นช่วยนี่ ทั้งๆที่พวกแกทำเรื่องชั่วเป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันไปแล้ว"
"เอาเถอะ ถ้าแกตอบคำถามของฉันล่ะก็ ฉันจะปล่อยแกไป เอางี้ดีมะ?"
"ถะ ถามมาเลย ถามมาเลย!" มันรีบร้อนดิ้นรนเพื่อจะให้ตัวเองมีชีวิตรอด ซึ่งดาร์คไนท์แมร์ก็เงียบไปสักพัก ก่อนจะถามออกมา
"แกรู้จัก...ไอ้เวรFISKมั้ย?"
"......."
เอ็ดเวิร์ดที่ได้ยินชื่อนั้น มันก็เงียบ ไม่กล้าแม้แต่จะปริปาก ดาร์คไนท์แมร์ที่เห็นก็หัวเสียเป็นอย่างมากจึงดึงปลอกแล้วเอาปืนจ่อหัว
"ถ้าไม่ตอบฉันจะให้แกแดกยาเม็ดสีทองเดี๋ยวนี้แหละไอ้เวร"
"ฉะ ฉันไม่รู้! ฉันไม่รู้!" มันรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
"อะไรกันเนี่ย....ไม่รู้อีกแล้ว นึกว่าพวกแกมีอำนาจแล้วจะมีกึ๋นซะอีก เซ็งเป็ด" ดาร์คไนท์แมร์คอตกด้วยความเซ็ง ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ใช้โอกาสนี้คว้าปืนของการ์ดที่ตายอยู่ขึ้นมาแล้วเตรียมจะยิง
ฉึกกก!!!!!!!
"อ้ากกกก!!!!!!"
ดาร์คไนท์แมร์ได้หยิบมีดมาปักมือข้างที่ถือเปืนอยู่ ทำให้ปืนร่วงลงพื้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของมันที่สุดแสนจะทรมาณและเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
"เหลี่ยมเก่งนะไอ้เวรนี่"
แกร่ก........
"ลาขาด....."
ปัง!!!!!
ร่างของเอ็ดเวิร์ดได้แน่นิ่งกับพื้น เลือดสีแดงสดได้ไหลออกจากร่างของมัน เช่นเดียวกับโถงทางเดินที่เต็มไปด้วยศพและเลือดมากมาย เขาหยิบไพ่ขึ้นมาหนึ่งใบ ก่อนจะสะบัดไพ่ ซึ่งมันก็กลายเป็นดอกกุหลาบสีแดงสด
เขาย่อตัววางกุหลายไว้บนร่างที่ไร้วิญญาณของเอ็ดเวิร์ด ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วหายไปจากโถงทางเดินอย่างรวดเร็ว.....
ต่อมา......
มือสังหารนามดาร์คไนท์แมร์ ได้มายืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกที่เขาเพิ่งจะฆ่าพวกแก๊งลูชิเฟอร์ไป ซึ่งด้านล่างก็มีเสียงรถตำรวจขับเข้ามาที่ตึกหลายคันด้วยความวุ่นวาย จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้น
"สุดท้าย ก็ไม่รู้เบาะแสของไอ้เวรFISKเลยแหะ ให้ตายสิ"
เขากดปุ่มตรงกรามของหน้ากาก ซึ่งมันก็อ้าออกเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ดึงหน้ากากออก ทำให้เห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้น.....
ใบหน้าที่แท้จริงของมือสังหารคนนี้ คือเด็กหนุ่มอายุราวสิบหก หน้าตาไม่ใช่ชาวอเมริกาหรือยุโรป แต่เป็นใบหน้าของคนเอเชีย เรือนผมสีแดงสด ดวงตาสีแดง แต่แววตาของเขา กลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า เหมือนกับไร้ชีวิตยังไงยังงั้น......
"แต่อย่างน้อย ก็ปิดจ๊อบแก๊งลูชิเฟอร์เรียบร้อยแล้วล่ะนะ เสร็จไปอีกหนึ่งงาน" เด็กหนุ่มเอ่ยพลางบิดขี้เกียจไปด้วย ก่อนจะมองท้องฟ้าของเมือง
"ในโลกที่แสนจะโสมม อาชญากรล้นเมือง เห็นการทำชั่วเป็นเรื่องปกติ พวกมันใช้อำนาจเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ เป็นดั่งเนื้อเน่าและฝันร้ายของผู้คน แต่ฉัน จะเป็นฝันร้าย ที่ดำมืดสำหรับพวกมันเอง....."
"ว่าไปนั่นแหะ พูดอะไรฟะเนี่ยตัวฉัน กลับบ้านดีกว่าเรา"
แล้วเด็กหนุ่ม ก็ได้หายไปจากตึกนั้น..........
See you the next Episode
21.30 น.
"โชเฟอร์คะ! ช่วยขับให้เร็วกว่านี้ได้มั้ยคะ?"
"นี่ก็เร็วมากแล้วนะครับคุณน้อง"
"ขอเร็วกว่านี้ด้วยเถอะค่ะ! พอดีฉันต้องรีบไปที่เกิดเหตุ"
"ขะ เข้าใจแล้วครับ"
ตอนนี้ฉันกำลังรีบเดินทางไปยังตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเหตุปะทะกันระหว่างมาเฟีย นักสืบแบบฉันจึงต้องรีบไปยังที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด แต่ฉันดันเล่นมือถือเพลินจนไม่รู้เรื่องรู้ราวที่วิทยุเขาประกาศเลย! ยัยมิเกลเอ้ยยยยย ถ้ารอบหน้ายังสะเพร่าอีกล่ะก็ ฉันบีบคอตัวเองตายจริงๆแน่ แบบนี้คุณพ่อได้ด่าฉันตายแน่ถ้ารู้ว่าฉันไม่สนใจงานแบบนี้
รถแท็กซี่ยังคงขับมาด้วยความเร็วแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งรถตำรวจก็วิ่งกันว่อนเลยงานนี้ ถ้าฉันรู้ตัวก่อนคงขอนั่งรถสารวัตรมาด้วยแล้วแท้ๆ ไม่น่าเลยฉันT^T อ๊ะ! จะถึงแล้ว
"จอดตรงนี้เลยค่ะ!"
เอี๊ยดดดดด!!!!!!
กรี๊ดดดด เบรกซะหน้าแทบทิ่ม แบบนี้หน้าสวยๆของฉันได้พังกันพอดีสิอิคุณโชเฟอร์! ถ้าดั้งฉันหักล่ะก็ ฉันจะบอกให้พ่อไล่นายออกจากแท็กซี่เลยคอยดู! อูยดั้งฉัน....
"ที่หลังไม่ต้องรีบเบรกก็ได้ค่าาาา อูยดั้งแทบหัก"
"โทษทีครับ พอดีตกใจที่คุณน้องบอกให้จอด เลยเบรกแรงไปนิสส"
ป๊าดดด ถ้าแบบนี้เรียกนิสล่ะก็ แล้วถ้าเหยียบเต็มแรงหน้าฉันไม่พุ่งทะลุไปกระจกหน้าเลยรึไงยะ! เสียอารมณ์ชะมัด ถ้าไม่ติดว่ามีงานล่ะก็ ฉันหนีกลับบ้านจริงด้วย เชอะ!
"นี่ค่าแท็กซี่ค่ะ"
"ขอบคุณที่ใช้บริการครับ"
ฉันรีบลงจากรถอย่างรวดเร็ว ขอให้ชาตินี้เราอย่าพบกันอีกเลยฮือT^T ดั้งฉัน....แม่อุตส่าห์ให้มาตั้งแต่เกิด จะมาหักเพราะโชเฟอร์รีบเบรกไม่ด้ายยยยยย แต่เรื่องนี้ไว้ที่หลัง ฉันมีหน้าที่นักสืบสำคัญกว่านี่นา ว่าแล้วฉันก็รีบเดินไปยังที่เกิดเหตุทันที ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจก็ได้เอาแถบเหลืองที่มีคำว่า Keep Out มาติดรอบตึก พร้อมกับมีตำรวจคอยยืนกันไม่ให้คนนอกเข้าด้วย
"นี่เธอน่ะ"
"คะ?"
"มาทำอะไรแถวนี้? บ้านช่องไม่รู้จักกลับ ตรงนี้เขาห้ามเข้านะ"
โอ๊ยยย ฉันว่าฉันก็พอจะมีชื่อเสียงนะ แต่ดันมีตำรวจทึ่มแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย ให้ตายสิพับผ่า นี่ฉันต้องคอยมาเคลียร์กับตำรวจทึ่มอีกแล้วรึไงเนี่ย ไม่รู้จักมิเกล นักสืบสาวพราวเสน่ห์ซะแล้ว
"ฉันเป็นนักสืบค่ะ มาจากสำนักงานนักสืบเอกชนDetection" ว่าแล้วฉันก็หยิบบัตรประจำตัวนักสืบของฉันขึ้นมา นายตำรวจคนนั้นจึงอ่านพร้อมกับสีหน้าที่ตกใจเป็นอย่างมาก
"ขะ ขอโทษที่เมื่อกี๊เสียมารยาทด้วยครับ! เชิญคุณมิเกลเข้าไปหาสารวัตรได้เลยครับ"
"ขอบคุณค่า"
ฉันยิ้มพลางมองค้อนใส่นายตำรวจที่ว่าฉันในตอนแรก แหมทีงี้ล่ะทำพูดดี เดี๋ยวจะฟ้องสารวัตรให้ลดเงินเดือนเลยคอยดู ไม่มีอะไรที่ฉันขอไม่ได้ ก็คนมันสวยซะอย่างนี่นา โฮะ โฮะ พอเลยยัยมิเกล นี่เป็นตัวร้ายรึไงเนี่ย ว่าแล้วฉันก็รีบลอดป้ายเข้าไปหาสารวัตรที่ยืนอยู่หน้าตึกทันที ซึ่งเขาก็กำลังดูสถานการณ์รอบๆอยู่ เรือนผมสีบรอนด์ของเขาและนัยต์ตาสีเขียวมรกต พร้อมกับส่วนสูงที่เรียกได้ว่าสูงกว่าก็ทำให้ฉันปลื้มเขามากๆ อรั้ย>///<
"สารวัตรแดเนียลคะ"
"อ้าว คุณนักสืบมิเกล วันนี้มาสายนะ"
"ขะ ขอโทษค่า พอดีฉัน มีธุระนิดหน่อย แหะๆ" ฉันหัวเราะแห้งๆออกไป เพื่อที่จะกลบเกลื่อนเรื่องที่ฉันลืมฟังวอของทางกรมตำรวจ
"ไม่เป็นไรๆ"
สารวัตรแดเนียลยิ้มบางให้กับฉัน มันช่างกร้าวใจอะไรแบบนี้ อยากได้เป็นสวามีเลยค่า ถ้าฉันอายุสักยี่สิบคงขอเขาแต่งงานไปแล้ว แต่เดี๋ยวสิ งานต้องมาก่อนนี่นา เลิกเพ้อฝันได้แล้วยัยบ้า
"แล้วตอนนี้ที่ตรวจสอบเป็นยังไงบ้างคะ?"
"ก็....มีพวกการ์ดนอนตายกันเกลื่อนเลย และในนั้นก็ยังมีเอ็ดเวิร์ด นิวสัน นอนเสียชีวิตอยู่ด้วย จะเข้าไปดูที่เกิดเหตุด้วยกันมั้ย?"
"ได้เลยค่ะ"
ว่าแล้วสารวัตรแดเนียลก็เดินนำฉันเข้าไปในตึกนั้นทันที เมื่อเดินเข้ามาแล้ว ก็เห็นศพของการ์ดมากมายนอนตายกันเกลื่อนกลาด โดยมีกู้ภัยมาคอยเก็บศพพวกเขาแล้วขนออกไปด้านนอกตึก ซึ่งทุกคนที่ตายต่างถูกปืนยิงเข้าที่หัวคนละนัดถึงสองนัด จนฉันมาสะดุดเข้ากับศพของคนๆหนึ่ง
"ผู้ชายคนนี้....หรือว่า....!?"
"เอ็ดเวิร์ด นิวสัน ผู้นำแก๊งมาเฟียลูชิเฟอร์คนปัจจุบัน" สารแดเนียลบอก "สาเหตุการตายของเขา คือถูกปืนยิงที่ขา ไขสันหลัง และหัว แถมที่มือยังมีรอยถูกมีดปักอยู่ด้วย"
"เป็นการฆ่าที่ต้องการให้เหยื่อทรมาณและไม่ให้ลุกไปไหน ใช่มั้ยคะ?"
"ถูกต้อง นี่แหละนักสืบมิเกล โอฮาระ สุดยอดอัจฉริยะที่ไขคดีได้อย่างรวดเร็ว"
ชะ ชมกันเกินไปแล้วนะคะคุณสารวัตร >//< แบบนี้ ฉันได้บิดเกลียวจนเป็นง่อยแน่ แอร๊ยเขิน เขินไปหมดแล้วค่า เอ๊ะ บนศพของเอ็ดเวิร์ด นิวสันมีบางอย่างวางอยู่ด้วย มันคืออะไรกันเนี่ย
"สารวัตรคะ ฉันขอถุงมือกาวได้มั้ยคะ"
"ได้สิ"
สารวัตรแดลเนียลรีบยื่นถุงมือให้ ฉันรีบใส่ถุงมือแล้วเดินไปหยิบบางอย่างที่วางอยู่บนร่างไร้วิญญาณของผู้ตาย ซึ่งมันคือดอกกุหลาบสีแดงสด เหมือนกับเลือดที่เลอะไปทั่วตึกแห่งนี้ ดอกกุหลาบงั้นเหรอ...
"ดอกกุหลาบอีกแล้วเหรอเนี่ย?"
"อีกแล้วนี่คือ...หมายถึงอะไรคะ?"
"ก็ในช่วงสองปีที่ผ่านมา มาเฟียหลายแก๊งได้ล่มสลายลงเพราะถูกแก๊งศัตรูถล่ม ซึ่งที่ๆผู้นำแก๊งตาย มักจะมีดอกกุหลาบอยู่ด้วย แถมเรายังพบหลักฐานการทำธุรกิจมืดของมันครบทุกอย่างเลย มันหมายถึงอะไรกันเนี่ย"
"งั้นแสดงว่า เป็นฝีมือของแก๊งเดียวกันสินะคะ?"
"ก็มีความเป็นไปได้"
"สารวัตรครับ"
"มีอะไร?"
"พวกเราเจอหลักฐานบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจมืดของแก๊งลูชิเฟอร์และหลักฐานการยักยอกเงินของเอ็ดเวิร์ด นิวสันครับ"
"กะไว้แล้วว่ามันต้องโผล่มา เยี่ยมเลย เอามาให้ฉันดูหน่อย"
"ครับ"
สารวัตรแยกไปดูหลักฐานเกี่ยวกับแก๊งลูชิเฟอร์ ส่วนตัวฉันก็ยังคงตรวจสอบดูรอบๆเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปะทะกันของแก๊งมาเฟียในครั้งนี้ ให้ตายสิ งานนักสืบของฉันนี่เหนื่อยชะมัด อยากกลับไปนอนแล้วฮืออออ เอ๊ะ ลูกระสุนงั้นเหรอ? ขอตรวจดูหน่อยนะคะ
ว่าแล้วฉันก็เดินไปก้มเก็บลูกกระสุนที่ตกอยู่ มันคือกระสุน.50 AE ซึ่งเป็นกระสุนปืนพกกึ่งอัตโนมัติ อย่างเช่นDesert Eagle ที่มีความรุนแรง แต่ว่าปืนที่ตกอยู่เป็นปืนGlock 17 ที่ใช้กระสุน9มม. งั้นแสดงว่า......
"สารวัตรคะ ขอทราบรายละเอียดปืนที่พบในที่เกิดเหตุทั้งหมดด้วยค่ะ"
"เอ๋? จะเอาข้อมูลนั้นไปทำไม"
"ช่วยจัดการให้ด้วยค่ะ"
ฉันเปลี่ยนสีหน้าของฉันเป็นสีหน้าที่จริงจังเป็นอย่างมากทันทีที่พูดจบ สารวัตรที่เห็นจึงไม่กล้าปฏิเสธคำขอเลยแม้แต่น้อย เขาจึงเรียกนายตำรวจท่านหนึ่งให้มาจัดการให้ ซึ่งตอนนั้นศพของคนในแก๊งลูชิเฟอร์ก็ใกล้จะจัดการเสร็จแล้ว ฉันจึงเลือกที่จะไปรอข้างนอกพร้อมกับสารวัตร
"นี่ค่ะ ดอกกุหลาบที่ตกในที่เกิดเหตุ มันต้องเป็นหลักฐานบางอย่างได้แน่ๆ"
"คุณเก็บไว้เถอะ มันคงไม่จำเป็นแล้วล่ะ"
"เอ๋!? ทำไมล่ะคะ?"
"ก็พวกเราเจอมันแทบจะทุกรอบเลยนี่นา แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ตามหาคนที่ฆ่าได้เลยแม้แต่น้อย จนผมเลิกคาดหวังที่จะจับคนที่ทำแล้วล่ะ"
"งะ งั้นเหรอคะ...."
"แต่คนที่ทำก็ช่วยให้เราได้รู้ความชั่วและหลักฐานของพวกมาเฟียชั่วได้เร็วขึ้น ทำให้กิจการของมันพังไม่เป็นท่า แต่การฆ่าคนก็ผิดอยู่ดี"
ก็ถูกของสารวัตรเขานะ ที่ว่าการฆ่าคนมันผิด แต่คนพวกนั้นเอง ก็ฆ่าคนบริสุทธิ์เหมือนกับผักปลาไม่ใช่เหรอ? ไม่ได้สิ เราอย่าไปคิดแบบนี้สิ นี่เราจะสนับสนุนไอ้พวกที่ฆ่าคนอื่นงั้นเหรอ?
"สารวัตรครับ ข้อมูลของปืนทั้งหมดที่รวบรวมมาได้เรียบร้อยแล้วครับ"
"โอ้ ไวใช้ได้เลยแหะ เอาให้คุณมิเกลดูเลย" สารวัตรชี้นิ้วมาที่ฉัน
"นี่ครับคุณมิเกล"
"ขะ ขอบคุณค่ะ"
ฉันรับของกลางที่เป็นหลักฐานและรูปโพลาลอยด์มาจากนายตำรวจคนนั้น ก่อนจะค่อยๆเลื่อนดูที่ละรูป ซึ่งก็เป็นตามที่ฉันคาดเอาไว้ เพราะรูปปืนนั้น คือปืนGlock 17 และปืน9มม.ทั้งหมด แถมกระสุนที่เก็บได้ก็คือกระสุน9มม. มีเพียงไม่กี่นัดเท่านั้นที่เป็น.50 AE แบบนี้สิ่งที่ฉันเดาก็ตรงเผง เยี่ยม!
"สารวัตรคะ ดูเหมือนคดีครั้งนี้ จะไม่ใช่การปะทะกันระหว่างกลุ่มมาเฟียแล้วค่ะ"
"หมายความว่ายังไงเหรอ?"
"จากหลักฐานและปืนที่พบคือปืนGlock 17 และปืน9มม. แต่กลับมีกระสุน.50 AEหลุดมาด้วย นั่นจึงพอเดาได้ว่าคนที่ก่อเหตุใช้ปืนประเภทปืนพกกึ่งอัตโนมัติอย่างเช่น Desert Eagleแน่นอนค่ะ"
"เรื่องนั้นฉันก็รู้ แต่ทำไมเธอถึงบอกว่านี่ไม่ใช่การปะทะล่ะ?"
"เพราะการตายของทุกคนนั้น เกิดมาจากการถูกยิงด้วยกระสุน.50 และยังยิงเข้าจุดตายภายในนัดเดียว ฉันจึงคิดว่า"
.
.
.
.
"นี่เป็นการลุยเดี่ยวของมือสังหารค่ะ"
สารวัตรที่ได้ยินแบบนั้น ก็ถึงกับอึ้งไปตามๆกัน ทุกคนที่ฟังเองก็ตกใจเช่นกัน ฉันเองก็อึ้งในการวิเคราะห์ของตัวเองด้วย ทุกคนต่างไม่พูดหรือทำอะไรเลย นี่ฉันวิเคราะห์ผิดเหรอ
"เอ่อคือ....ฉันวิเคราะห์...ผิดเหรอคะ?"
"ไม่เลยคุณมิเกล คุณนี่สุดยอดเลยนะ ทั้งที่อายุยังน้อยแท้ๆ แต่กลับมองทุกอย่างได้อย่างทะลุปุโปร่ง ผมนับถือคุณเลยจริงๆ" สารวัตรพูดจบก็ยิ้มบางให้กับฉัน โอ๊ยยย คนอะไรจะหล่อขนาดนี้ อกอีแป้นจะแตกละค่าาา
"กะ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่า>///
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!