NovelToon NovelToon

THE OVER DARK UNHERO

ตอนที่ 1 ปฐมบท

พวกคุณเชื่อเรื่องของราชาปีศาจรึป่าว เมื่อ3000ปีก่อน มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับราชาที่มีชื่อว่า 'เบเลีย' มันคือราชาปีศาจที่โหดเหี้ยม แม้แต่ปีศาจด้วยกันที่มีเขตแดนเป็นของตัวเองก็ยังก้มหัวให้แก่มัน แต่มีอยู่วันหนึ่ง มีผู้คุมปีศาจปรากฏตัว เขามีนามว่า  'เทียรอส' เขามีวิชาแก่กล้า สามารถควบคุมปีศาจได้ ทั้งสองได้สู้กันจนท้องฟ้าและแผ่นดิน ได้กรีดร้อง และผู้ที่รับชัยชนะในครั้งนี้คือ 'เทียรอส'   

1000ปีให้หลัง

" 'ซัตเตอร์' รีบหนีไป!! ทางนี้พ่อจัดการเอง !!! ก่อนที่มันจะสายไป แล้วอย่าลืมที่เคยบอก เมื่อดวงตาเริ่มมืดมิดนั้นหมายถึงหายนะ พ่อรักลูกนะ พ่อเชื่อว่าลูกต้องคุมมันได้รีบไป!!"

เสียงของผู้เป็นพ่อได้พูดกับเด็กหนุ่มด้วยความเป็นห่วง

เพราะตอนนี้ทั้งเขาและเด็กหนุ่มกำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้คุมปีศาจที่เป็นนิรัน อย่าง 'เทียรอส'

ในวันนั้นเขาและพ่อของเขา เข้าไปในป่าเพื่อสอนเขาล่าสัตว์ป่า มันเป็นป่าที่ไม่รกทึบอะไรมากนัก ดงหญ้าเขียวชอุ่มมีน้ำค้างปกคลุมเล็กน้อย และสัตว์ป่าน้อยใหญ่นานาชนิด ต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมทั่วทั้งป่า ในขณะที่พ่อกำลังสอนในการล่าสัตว์อยู่นั้น จู่ๆตรงหน้าของทั้งสอง ก็เกิดเปลวไฟทมิฬ เผยให้เห็นชายปริศนา เขาคือ'เทียรอส' ชายผู้เป็นนิรันดร์

"อ้าวๆ กำลังสนุกกันอยู่เลยหรอ พอดีผมมีธุระกับคุณพอดี คุณนะ....ช่วยตายไปจะได้ไหมครับ"  

'เทียรอส' พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแล้วค่อยๆเปลี่ยนสีหน้ามาเป็นแบบจริงจัง รู้ได้เลยว่าการปรากฏตัวครั้งนี้ต้องไม่ได้มาอย่างเป็นมิตรแน่ๆ

"ไม่คิดเลยว่าจะเร็วขนาดนี้ ถึงจะมีคำทำนายมาแล้วก็เถอะ"

"แต่นี้มันเร็วไป"    ถึงตอนนี้ผู้เป็นพ่อได้รู้แล้วว่าหายนะมาถึงแล้ว

ทันใดนั้นชั่วพริบตา เขาผู้เป็นนิรันนั้น ได้จับพ่อของเด็กหนุ่ม บีบคอ ดวงตาของชายผู้เป็นนิรันนั้น จากปกติจะมีสีขาวและดำแต่ตอนนี้ มันได้กลายเป็น สีดำทมิฬ และร่างกายของเขายังมีควันและเปลวไฟสีดำ ปกคลุมทั่วทั้งร่าง 

ก่อนที่เขาจะบีบคอพ่อต่อหน้าลูกชายจนลูกตาถลนออกมาจากเบ้า เลือดอันแดงฉานสาดกระเด็นไปทั้งทั่วบริเวณ และพ่อของเด็กหนุ่มก็ได้เสียชีวิตในทันที และ'เทียรอส'ยังหันมาพูดกับเด็กหนุ่ม

"ต่อจากนี้อีกไม่นาน  โลกใบนี้จะกลายเป็นของข้าโดยสมบูรณ์ ข้าก็อยากรู้ว่าราชาที่กลับมาเกิดใหม่อย่างเจ้า จะมีอะไรต่างไปจากเดิมรึป่าว แล้วพบกันใหม่ราชา "

ในวันนั้น 'ซัตเตอร์' ได้พบเจอกับเรื่องที่เกินกว่าเขาในตอนนั้นจะรับไหว เพราะชายคนนั้นที่ตายไปรยา คือพ่อของแท้ๆของเขาเอง 

ต่อจากนั้น ซัตเตอร์ ได้หมดสติลงไป ณ ตอน นั้น

 7ปีต่อมา

'ซัตเตอร์'  ได้อยู่อาศัยกับแม่สองคน แต่ด้วยตัวของเขาเอง ไม่มีกำรังที่จะหาเลี้ยงครอบครัวที่เหลืออยู่ ดังนั้น คนที่หาเลี้ยงจัดแจงทุกอย่างหลักๆ 

ในตอนนี้ก็คือแม่ของเขาเอง  แต่เขายังโชคดีที่ตอนนั้น มีองค์กรหนึ่งที่รับจ้างกำจัดปีศาจ

ปีศาจที่เกิดจากคนที่มีความมืดในจิตใจมากเกินไปจนความมืดนั้นได้กลืนกินผู้คนจากจิตใจ

คนเหล่านั้นถูกเรียกว่า...'พายม่อน' และองกรณ์ที่พูดถึงไปค้างต้นนั้น มีชื่อว่า UNHERO 

เป็นองกรณ์ที่ไม่ได้ขึ้นกับรัฐบาล พวกเขาจ้าง ซัตเตอร์ ให้เป็นผู้ช่วย งานหลักๆของเขาคือ ถืออุปกรณ์และอาวุธต่างๆ 

"โหหห!!  นี้มันอะไรกันครับรุ่นพี่ เคียวนี้มันอะไรกันมีโซ่ติดอยู่ด้วย"

"ระวังๆหน่อยซัตเตอร์เจ้านั้นมันอาวุธอัตราย เป็นฉันจะวางมันไว้ที่เดิม ว่ากันว่าอาวุธนั้น ถ้ามันถูกชะตากับผู้ใช้คนใดมันจะสามารถดึงวิญญาณของผู้ที่ถูกเกี่ยวได้"

"เยสสสส!!! แม่งโคตรเจ๋งเลยรุ่นพี่  ถ้าผมได้เลื่อนขั้นเมื่อไหร่ผมขอลองใช้เจ้านี้นะ"

รุ่นพี่ที่ซันเตอร์สนทนาด้วย เขาคือคนเดียวกันกับที่ช่วยซัตเตอร์เอาไว้ เขาเป็นคนที่คอยช่วยเหลือในเกือบจะทุกๆเรื่อง

ในองกรณ์ที่ซัตเตอร์อยู่ตอนนั้นจะมีทีมอยู่หลักๆ3ทีม

ทีมที่เขาสังกัดอยู่คือทีมที่3มีสมาชิกหลักๆอยู่4คนถ้ารวมตัวของซันเตอร์เข้าไปด้วยก็5คน ประกอบไปด้วย

 รุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือซัตเตอร์ตำแหน่งหัวหน้ามีชื่อว่า 'เกียดัส' และลองหัวหน้า 'ลูคัส' ตามมาติดๆนั้นคือ 'โฟเบียส' เขาทำหน้าที่เป็นแทงค์ของทีมเลยก็ว่าได้ และคนสุดท้าย 'น๊อคติส' เป็นหน่วยข่าวกรอง 

​​​​​​ยังไม่ทันไร เส้นสายของน๊อคติสก็ได้แจ้งข่าวเขามา

"หัวหน้า!! มีสายรายงานมา พบเจอพายม่อนหนึ่งตนบริเวรหน้าตึกเก่าแถวย่านบันเทิงเก่า และในตัวตึกอีกไม่ทราบจำนวน"

"ทุกคน!! รีบย้ายก้นเหี่ยวๆของพวกแกไปที่นั้นโดยเร็ว ก่อนที่รัฐบาลส้นตีน!!มันจะส่งหน่วยงานของมันไปที่นั้น"

"ซัตเตอร์  เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมแล้วตามมาเร็วๆเข้า!!"

ย่านบันเทิงเก่า เมื่อก่อนเป็นสถานที่ที่เคยรุ่งเรืองที่สุดในสมัยหนึ่ง ก่อนที่จะเกิดเรื่องทั้งหมดขึ้น ลักษณะแถวนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับย่านบันเทิงทั่วไปต่างกันแค่ตรงนั้นอยู่ไกล้ตัวเมืองที่สุดเลยทำให้การเดินทางไม่ใช่เรื่องยากนั้นจึงทำให้ย่านบันเทิงที่ว่านั้นรุ่งเรืองมากกว่าที่อื่นๆ

ณ. ย่านบันเทิงเก่า

เมื่อทุกคนมาถึงก็รีบกระจายกำรังกันอย่างรวดเร็ว ทุกคนประจำที่ พร้อมลุย แต่ทว่า

"แย่แล้วหัวหน้า เรามาไม่ทันพวกมัน ผู้ว่าจ้างต้องไม่พอใจแน่ ถ้าพวกมันได้ลูกแก้ววิญญาณ ของพายม่อนไป"

 ลูกแก้ววิญญาณ หรืออีกชื่อลูกแก้วพายม่อน ทางรัฐบาลต้องการลูกแก้วพายม่อนของทุกตนที่พวกเขาทำรายร่างต้นได้ เพื่อทำการทดลองหาต้นต่อจริงๆของการกายร่าง แต่ทาง UNHERO ต้องการมันเพื่อส่งต่อให้กับผู้ว่าจ้าง ผู้ว่าจ้างต้องการที่จะนำลูกแก้วพายม่อนพวกนี้ไปขายต่อในตลาดมืด

ทางด้าน โฟเบียสแบะลูคัส 

"กูว่าบุกเข้าไปตรงๆเลยดีกว่า รู้สึกคันไม้คันมืออั้ยพวกชุบมือเปิบ ที่ตรงนี้มันถิ่นของพวกกู ทำท่ายืนตัวตึงกันอยู่นั้น"

"ใจเย็นพี่เบิ้ม รอเกียดัสสั่งลุยก่อน มึงได้ลุยแน่ละ "

ลูคัสได้พูดเตือนสติโฟเบียส เพราะถ้าหากปล่อยให้ทำตามใจโฟเบียส ทุกอย่างคงจะแย่ไปมากกว่านี้

ตัดมาทางด้าน ซัตเตอร์และเกียดัส 

"นี่ซันเตอร์ใช้ระเบิดควันเป็นรึป่าว"

"โหรุ่นพี่ผมเห็นรุ่นพี่ใช้บ่อยแล้วน้า ไม่ต้องห่วงหรอกค้าบบ"

ซันเตอร์แอบเสียอารมณ์ที่รุ่นพี่ยังไม่ไว้ใจเขาทั้งๆที่เขาทำงานมาก็ตั้งหลายงานแล้ว

"ถ้าฉันบอกว่า Go แกเอาเลยนะ"

"ทุกคนเตรียมพร้อม"

"..........GO!!!...."

ซันเตอร์ได้ปาระเบิดควันตามที่หัวหน้าสั่ง และทุกคนก็เข้าจู่โจมพร้อมกันจากทิศที่ตัวเองประจำการ  ทั้งเสียงระเบิดและปืนดังสนั่นทั่วทั้งตึก พายม่อนที่ไม่ทราบจำนวนในตึกก็ได้แห่กันวิ่งมาที่จุดเดียว คือจุดที่ทุกคนกำลังสู้กันอยู่ 

หน่วยงานของรัฐจากที่คุมพื้นที่อยู่นะตอนนี้ ได้ทำการถอยกำรังออกห่างจากตัวตึก ฝูงพายม่อนไร้สติวิ่งเข้ากรูใส่พวกหน่วยงานของรัฐทั้งหมดวิ่งหนีเอาตัวรอดกันยกใหญ่

อ๊ากกก!!! 

อ่าาา!!! ช่วยด้วย!!!

เสียงทหารของฝ่ายรัฐบาล ร้องตะโกนโหยหวนด้วยความทรมาน พายม่อนได้ชีกร่างของพวกเขาจนแหลกละเอียด ทั้งกลิ่นคาวเลือด และเศษชิ้นเนื้อ สมองและลูกตา ได้กระเด็นเต็มพื้นที่ มันเป็นภาพที่สยดสยอง เอามากๆ บางคนตัวขาดครึ่งแต่ก็ยังคลานหนีเพื่อเอาชีวิตรอด 

ทางด้านของ UNHERO ทุกคนต่างซ้อนตัวอยู่ในระเบิดควัน และไม่ส่งเสียงใดๆออกมา แต่สิ่งที่ไม่ขาดฝันก็เกิดขึ้น พายม่อนตนหนึ่ง สังเกตุเห็น ตัวของซัตเตอร์ มันวิ่งเข้าใส่ในทันที เมื่อซัตเตอร์รู้สึกตัวก็ได้แต่คิดในใจ

"บ้าเอ้ยยนี้ฉันมัวทำอะไรอยู่ คุณแม่.... ผมขอโทษ ถ้ารู้แบบนี้ผมจะเชื่อฟังทุกๆอย่างเลย มีหลายอย่างที่ยังอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำเลย เสียดาย เสียดายๆ เสียดายโว้ยยย ไม่อยากตายเลยยยย"

​​​​​

"ซัตเตอร์!!"  เกียดัส วิ่งกระโจรเข้าใส่พายม่อนตัวนั้นจนกำแพงที่กั้นระหว่างห้องพังทลายลง ตึกทั้งตึกสั่นไหว 

"แกมัวยืนบื้ออะไรวะอั้ยเด็กเวร อยากกลายเป็นเศษเนื้อรึไง"

ซัตเตอร์ที่ยืนเหม่อขาดสติเพราะเมื่อกี้ถ้าไม่ได้เกียดัสช่วยเอาไว้เขาอาจจะตายไปแล้ว เมื่อเขาได้สติอีกครั้ง ก็สังเกตุเห็นพายม่อนนับไม่ถ้วน กำลังวิ่งกรูเข้ามา  

"อะ!! รุ่นพี่!! ระวังงงง"

สิ้นเสียงของเขาชั่วพริบตา พายม่อนตัวหนึ่งก็ได้ถึงตัวของเกียดัส มันสายไปแล้วสำหรับเกียดัส

 พายม่อนตัวนั้นจู่โจมเขาในทันที 

เล็บอันแหลมคม แทงทะลุกลางอกจากด้านหลัง     ผั๊วะ!!! เกียดัสเสียท่าให้กับมัน เลือดกระอักเต็มปาก เลือดจากการถูกแทงกระเด็นสาด เต็มหน้าของซัตเตอร์  ตอนนี้ซัตเตอร์ เหมือนกับคนที่ไม่มีวิญญาณ เขาขาดสติเหม่อลอย เมื่อเกียดัสเห็นแบบนั้น

"อะเอื้อ...อั้ยเวรเอ้ยย ทุกคน...ฉันนะ...คงมาได้แค่นี้ละ ฝาก......ที่เหลือ...ด้วยแล้วกัน.....แล้วก็"

"ซัตเตอร์...นะนะ...นี้นะ...ไม่ใช่ความผิดของ-"

ฟุบ

เกียดัสล้มลงกับพื้น

"ฉันนะโชคดีกว่าใครๆ ครอบครัวก็ไม่มี จะมีก็แต่พวกนาย อยากให้ปลอดภัยกันทุกคนจัง ถึงฉันจะพูดจาไม่ดีใส่นายซัตเตอร์ แต่พวกนายทุกคนคือครอบครัวของฉัน ฮ่าๆ ถ้ารอดไปได้ก็คงดี...."

ก่อนที่เกียดัสจะสิ้นใจ หูของเขายังได้ยินทุกคนเรียกหาเขา ด้วยความตกใจและเป็นห่วง แต่เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่มีทางรอดแล้ว ภาพสุดท้ายที่เขาเห็น คือซัตเตอร์ ที่ยืนเหม่อลอยอยู่ตรงหน้า

จากนั้นทุกคนก็รีบวิ่งเขามา ลูคัส ได้กระโดดคว้าตัวของเกียดัสเอาไว้ และคนอื่นๆก็รีบช่วยกันจัดการพวกพายม่อนในขณะที่ซัตเตอร์ยังไม่ได้สติทั้งยืนอยู่แบบนั้น  แต่เหมือนว่าพวกมันจะมีจำนวนเยอะมากเกินไป

"อะ..เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น ตาของฉันมองอะไรไม่เห็น มันมืดมิดไปหมด... นี่เราตายแล้วหรอ แล้วรุ่นพี่ละ พายม่อนไปไหนหมด ไม่สิ ฉันยังได้ยินเสียง แต่ขยับไปไม่ได้"  

ตอนนี้ซัตเตอร์กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดเขาเหมือนคนตาบอดในตอนี้ มองไม่เห็นแม้แต่อะไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้า 

เสียงของใครบางคนพายในจิตใจของซัตเตอร์

"ฮ่าๆ.. แกนี่ยังเหมือนเมื่อตอนนั้นไม่มีผิด เป็นได้แค่ไอ้เศษสวะทำอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง  ที่พ่อแกตายไปก็เพราะตัวของแกเองที่อ่อนแอ น่าสมเพชว่ะไอ้ก้อนเนื้อ" 

"เสียงใครนะ! รุ่นพี่หรอ?" ผมขอโทษ ผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษ ผมมันทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง..

"ซัตเตอร์!!!!! ซัตเตอร์ได้สติสักทีสิวะ! ขอร้องละ ตอนนี้มีแค่นาย ส่งระเบิดควันในกระเป๋านายมาที ซัตเตอร์!!!

"อะ  รุ่นพี่ลูคัสมันเกิดอะไรขึ้นผมควรทำยังไงดี รุ่นพี่เกียดัส!!ไม่นะ ทุกคน ผมควรทำยังไงดีละ!!!..."

เสียงของลูคัสดังไปสามช่วงตึกทำให้ซัตเตอร์ได้สติ แต่ก็ยังคงไม่เต็มร้อย เขาลนลานมากในตอนนี้เหมือนคนที่กำลังเสียสติ

"ตั้งสติหน่อยสิโว้ยย แกคิดว่าพวกฉันเป็นยังไงกันตอนนี้ สุขสบายดีรึไง พวกฉันก็ไม่ต่างจากแกหรอกไอ้เด็กเปรต....!!!" 

ยังไม่ทันจบบทสนทนาทั้งคู่ก็ได้หันไปเห็นสิ่งที่สิ้นหวังที่สุด มันเหมือนพวกเขาทั้งคู่กำลังจะตกนรกทั้งเป็น โฟเบียส และ น๊อคติส ถูกพวกพายม่อนฉีกร่างกายเป็นชิ้นๆ  ร่างกายที่ไม่บอกก็คงไม่รู้

ว่าเคยเป็นมนุษย์มาก่อนของทั้งสองมันอาบไปด้วยเลือดและเศษสมองเศษเนื้อและไขมัน มันเป็นภาพที่ชวนอ้วกและสยดสยองเป็นอย่างมาก 

"..............."

ทั้งคู่ได้แต่ช็อคและไม่ทันระวังตัว พายม่อนสองตัวพุ่งเข้าใส่ทั้งคู่จากด้านหลัง คอของลูคัสขาดประเด็นในทันที 

แต่ซัตเตอร์นั้นกลับรอดมาได้ แต่ก็ได้แพ้กลางหลังมาเลือดไหลอาบทั่วทั้งหลังของเขาเต็มไปหมด ซัตเตอร์จากที่สติยังกลับมาไม่100% มันยิ่งทำให้แย่ลง 

เสียงพายในจิตใจของซัตเตอร์

"นี่แกจะรอให้ใครมาช่วยอีก....เพราะตอนนี้มันไม่เหลือใครที่จะมาช่วยแกแล้วนะไอ้ก้อนเนื้อ ทำไมแกไม่ขอยืมฉันละ" 

"เสียงนี้มันมาจากข้างในของฉันหรอ"

"เออดิไอ้ควายเอ้ย แกนี้มันยิ่งกว่าเศษสวะอีกหรอวะเนี้ย ฉันคือแกและแกก็คือฉันโว้ยย แค่แกขอยืมฉันก็จะให้พลังนะ"

"เอาสิ....ฉันไม่รู้แล้วละว่าที่ฉันยืนอยู่มันคือที่ไหน ฉันมาทำอะไรหรอ นี้มันเรื่องจริงแน่หรอ..."

"เออแกหุบปากไปเถอะ แกแค่จำชื่อฉันไว้ให้ดี ฉันคือ "เบเลีย" และแกก็คือฉัน ที่เหลือฉันจัดการเอง."

สิ้นสุดการสนทนาภายในจิตใจระหว่างซัตเตอร์และเบเลีย ดวงตาของซัตเตอร์จากที่มันเป็นสีขาวและดำตอนนี้มันได้กลายเป็นสีดำทมิฬ  ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเปลวไฟสีดำ มันร้อนแรงยิ่งกว่าของ ชายผู้นั้น ชายผู้เป็นนิรันดร์

"ฮ่าๆ ในที่สุดข้าผู้นี้ก็ได้ออกมาสักที วู้!!!!ยืดเส้นยืดสายกันหน่อยโว้ยยย!!  เข้ามาเลย!!

ไอ้พวกสัตว์นรกชิบหายทั้งหลาย วันนี้กูจะฆ่าพวกมึงแบบล้างโคตรเอง เริ่มจากพวกมึงแล้วค่อยเมืองนี้และโลกใบนี้ เข้ามา!!! "

สิ้นสุดคำพูดของเบเลีย เขาได้พุ่งเขาไปหาฝูงพายม่อนด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ มือของเขา

กวัดแกว่ง ประหนึ่งว่า ในมือของเขามีอาวุธอยู่ เขาได้เขาโจมตีพายม่อนตนหนึ่ง ทั้งๆที่ในมือของเขาไม่มีอาวุธสักชิ้น แต่เมื่อมือของเขาไกล้ที่จะโจมตีโดนคอของพายม่อนตนนั้น จู่ๆเคียวคู่ที่มีโซ่ติดอยู่ที่ด้ามทั้งสอง ก็ได้ลอยเข้ามาที่มือของเขาด้วยความเร็ว

"มับเข้าให้!! ฮ้า!! คิดถึงแกมากเหมือนกัน 'เคียวคุมงโค' "

'เคียวคุมงโค' จัดเป็นหนึ่งในอาวุธของเบเลีย เป็นอาวุธที่สร้างจากความโกรธเกลี้ยว มันสามารถดึงวิญญาณของคนที่ถูกเกี่ยวได้ 

เขาได้จัดการพวกพายม่อนไปทีละตัวอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเขานั้นกำลังร่ายรำอยู่ในงานเต้นรำ เลือดที่สาดกระเด็ดเป็นเหมือนดั่งสายฝน และกองเลือดที่นองอยู่ที่พื้น เป็นดั่งบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์  เป็นภาพที่งดงามแต่ก็แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความสยดสยอง

"แด่ความมืดมิดในจิตใจ จงปัดเป่าแสงสว่างให้สิ้นศูนย์"

เบเลียกำหมัดทั้งสองข้างนำหมัดทั้งสองข้างมาชนกัน และต่อยลงที่พื้น จากนั้นเกิดเปลวไฟสีดำทมิฬทั้วทั้งตัวตึก ตอนนี้ทั้งตึกถูกไฟสีดำที่ว่านั้นเผาไหม้ เปลวไฟลุกโชติช่วง ความร้อนของมันไกลได้ถึง3กีโล แต่ความร้อนนั้นจะเบาลงตามระยะทางออกไป 

"ย๊าาาาา!!!!!" รู้สึกดีเป็นบ้า.."

ตึกตึก!

"อะ!อะไรกัน ร่างกายหมอนี้ยังรับพลังไม่ไหวหรอ เป็นอย่างที่คิด กระจอกชะมัด... เอาเถอะถึงอย่างนั้น เจ้าพวกปีศาจนี่ก็ไม่เหลือแล้ว-"

ขีดจัดกัดของซัตเตอร์ในตอนนี้ยังรับพลังของเบเลียไม่ไหว อาจเป็นเพราะสภาพจิตใจของเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย 

ตัดมาทางด้านของหน่วยงานของรัฐ กำรังเสริมได้ถูกเรียกมาโดยคนที่เหลือรอด ตอนนี้ได้มาถึงที่แล้ว

"อย่าเอะอะไปค่ะ ฉันมีแค่คำถามเดียว ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้กันคะ" 

ทั้งสีหน้าที่เรียบเฉย และ คำพูดที่บงบอกถึงความมีประสบการและความสุขุมของใครบางคน เธอคนนั้นคือ 'แฟโร'

หัวหน้าของหน่วยพิเศษ ที่มีชื่อว่า 'OVERDARK' 

 

ข้้อมูลตัวละคร 

ชื่อ ZUTTER (ซัตเตอร์)  สิ่งที่ชอบทำเวลาว่าง เล่นเกม กีฬาที่ชอบ บาส ในวัยเด็กเขาเคยฝันอยากเป็นนักบาสNBA   อาหารที่ชอบยำแซลมอน

แนวเพลงที่ชอบฟัง metal,r&b

ลักษณะรูปร่าง

มีผมสีดำไว้ผมทรงทูบล๊อคยาว ตาตี่เล็กน้อย ผิวขาว สูง 171 น้ำหนัก72 ร่างกายสมส่วน มีซิกแพคและก้ามเล็กน้อย

​​​​​​

​​​​​​

​​​​​

​​​​​

​​​​​

​​​​​​

​​​​

​​​​

ตอนที่2 เบเลีย

หลังจากที่กำลังเสริมของหน่วยงานรัฐบาลที่มีชื่อว่า OVERDARK ได้มาถึงที่เกิดเหตุ 

"อย่าเอะอะไปค่ะ ฉันมีแค่คำถามเดียว ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้คะ" 

ทั้งสีหน้าที่เรียบเฉย และ คำพูดที่บ่งบอกถึงความมีประสบการณ์และความสุขุมของใครบางคน

เธอคนนั้นคือ 'แฟโร'

หัวหน้าหน่วยพิเศษ ที่มีชื่อว่า 'OVERDARK' 

"​​​​​​จากการสอบถามข้อมูลจากผู้เหลือรอดบางคนที่ยังพอมีสติอยู่ ได้ความว่า เป็นฝีมือขององกรณ์ที่มีชื่อว่า UNHERO ครับ จากการโจมตีของพวกมันทำให้ พวกพายม่อนที่อยู่ในตึกทั้งหมดที่ยังสงบอยู่ตอนนั้นเกิดอาการคุ้มครั่ง และวิ่งกรู่เข้าใส่ หน่วยหนึ่งของเราครับ"

พลทหารนายหนึ่งรายงานข้อมูลที่ได้รับมาจากผู้ที่เหลือรอดมาให้กับ'แฟโร'ฟัง ตอนนี้พวกเขากำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุกันอยู่ข้างนอก

"แล้วพวกเขาเหล่านั้นละ ยังอยู่ที่นี่รึป่าว ช่วยกันกระจายกำลังการค้นหา ฉันขอออกคำสั่งถ้าเจอพวกเขาขอให้จับเป็นนะคะ เราต้องการข้อมูลมากกว่านี้" 

จากนั้นแฟโรได้กำลังเดินเข้าไปในตัวตึก

"กลิ่นนี้มันอะไรกัน?"

"เหมือนกับมีสิ่งที่ชั่วร้ายมากๆอยู่ที่นี้เลย กลิ่นมัน   อยู่ในตึก!!"

แฟโร ตรวจจับสิ่งผิดปกติได้จากจมูกของเธอเพราะเธอนั้นเป็นคนที่มีจมูกที่ดีมากๆ ในหลายๆครั้งเธอสามารถได้กลิ่นของพวกปีศาจได้ในระยะโจมตีของเธอมันไกลถึง 25เมตร

"ฉันขอทหารสามนายมากับฉันค่ะ ที่เหลือรอตรวจสอบภายนอกและชั้นหนึ่งไปค่ะ ห้ามใครขึ้นไปชั้นอื่นๆนอกจากทหารสามนายที่มากับฉัน เพราะจากชั้นที่หนึ่งเป็นต้นไป....มีสิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าพวกพายม่อนอยู่"

แฟโรและทหารทั้งสามนายได้ขึ้นตรวจสอบทีละชั้นตั้งแต่ชั้นที่สองขึ้นไป 

"คุณคิดว่ามันคืออะไรหรอครับ สิ่งที่คุณบอกว่ามันชั่วร้ายยิ่งกว่าพวกพายม่อน"

ทหารนายหนึ่งเอ่ยปากถามกับแฟโร

"ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ฉันรู้ได้เลยว่ามันไม่ธรรมดาแน่นอน กลิ่นที่ได้รับ มันเป็นกลิ่นที่สยดสยองเอามากๆ ทุกนายช่วยระวังตัวดีๆด้วย ใกล้ถึงแล้ว"

ทั้งสี่ได้เดินขึ้นไปถึงยังชั้นที่5 ทั้งหมดถึงกับตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ดวงตาทั้งสี่คู่โตขึ้นเหมือนกับคนที่ตกใจแบบสุดขีดแบบที่ทั้งสี่ยังไม่เชื่อสายตาของตัวเอง

ชั้นที่5ทั้งชั้น เป็นเหมือนดั่งทะเลเลือด ทั้งเครื่องในและเศษชิ้นเนื้อรายล้อมเต็มไปหมด ลูกแก้วพายม่อนที่ตกอยู่ที่พื้น มันเป็นจำนวนที่เยอะจนทั้งสี่ไม่สามารถนับจำนวนได้ 

"นี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน!!"

"ทั้งๆที่ทหาร20กว่าคน ตายไปเกินครึ่ง ไม่มีทางที่คนที่เหลืออยู่จะเป็นคนทำ"

แฟโร ได้แต่คิดในใจและยังตกใจอยู่กับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า แต่ไม่นานนักเธอก็ได้สังเกตุเห็นใครบางคนที่นอนฟุ้บอยู่ไม่ไกลจากเธอ และดูเหมือนจะยังมีชีวิตอยู่ 

"ทางนั้น...เหมือนว่าชายคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ ช่วยเขาที"

เมื่อเธอเข้าไปใกล้เขาคนนั้น เธอก็ได้กลิ่นที่ชัดยิ่งขึ้น 

"เธอนี่เองต้นตอของกลิ่นที่น่าขยะแขยง"

ก่อนที่จะหมดสติชายคนนั้นได้พึมพำอยู่ในลำคอ

"อะ...ช่วยผม..ด้วย-"

"หมดสติ  ไปแล้ว"

ยังไม่ทันได้ข้อมูลจาก เขาคนนั้นก็ได้หมดสติลงไปก่อนแต่เธอก็พอจะรู้แล้วว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของใคร 

แฟโรก้มลงไปมองเขาอย่างใกล้ชิด มือขวาของเธอก็ได้ยกขึ้นมาเพื่อถ่างตาของเขาดู

"อื้มเป็นคนพิเศษสินะ ช่วยพาชายคนนี้กลับไปยังหน่วยด้วยค่ะ และช่วยเช็คประวัติของเขาให้ด้วยส่งมาให้ฉันเป็นการส่วนตัวด้วยนะ"

ในดวงตาของเขานั้นมันปรากฏให้เห็น คาบเส้นเลือดสีดำในตาขาว แฟโร รู้ได้ทันทีว่านี้มันไม่ปกติมันพิเศษกว่าคนอื่นๆที่กลายเป็นพายม่อน สัมผัสได้ว่ามันคนละชั้นกัน

ณ.ศูนย์หน่วยพิเศษ OVER DARK

แฟโรนั่งเฝ้าเขาตั้งแต่ที่นำตัวมายังหน่วยนี้ก็ผ่านไปประมาณสามชั่วโมง 

"ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดไรขึ้น แล้วนายเป็นใครกันแน่ทำไมถึงมีกลิ่นอายที่ชั่วร้ายได้ถึงขนาดนี้"

แฟโรนั่งคุ้นคิดอยู่ในใจด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยผ่านมาไม่กี่นาทีเขาคนนั้นก็ได้รู้สึกตัว ชายหนุ่มที่นอนไม่ได้สติมาสามชั่วโมงเศษๆ ตอนนี้เขาได้ค่อยๆลืมตาตื่นแต่ยังมีความมึนเล็กๆ

"อะ นี้ผมอยู่ที่ไหนหรอครับ แล้วผมเป็นอะไร รุ่นพี่เกียดัส! รุ่นพี่ลูคัส! ทุกคนไปไหนกันหมด!! แล้วคุณเป็นใคร"

"ฉันมีชื่อว่า แฟโร นายละชื่ออะไร ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายกำลังถามถึงใครอยู่ แต่ฉันบอกได้คำเดียวว่า คนที่นายถามถึงคงตายกันหมดแล้ว"

"เพราะที่ๆเจอนาย.....ไม่มีใครเหลือรอดเลยสักคน"

พอซัตเตอร์ได้ยินแบบนั้น เขาก็ได้แหกปากร้องไห้ออกมา พาลโกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย

 "ทำไมวะทั้งๆที่เรายืนอยู่ตรงนั้น..อยู่ตรงนั้นแท้ๆ เพราะความอ่อนแอ เพราะความอ่อนแอของตัวฉันเองแท้ๆ แม่งเอ้ยย  อ๊ากกกกกก! "

แฟโรไม่ได้พูดอะไรต่อ เขานั่งมองซัตเตอร์ร้องไห้อยู่แบบนั้น 

ผ่านไปไม่นาน แฟโรก็ได้เริ่มบทสนทนาขึ้น

"ทีนี้จะตอบมาได้รึยังว่านายชื่ออะไร แล้วมันเกิดอะไรขึ้น"

"ผมชื่อซัตเตอร์ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะผมหมดสติไปก่อน   ไม่สิมันมีอีกคนที่อยู่แต่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร ผมไม่รู้ว่าคุณจะเชื่อไหม"

แฟโรนั่งมองเขาด้วยแววตาที่สงสาร

และเหมือนแฟโรจะรู้อะไรอยู่แล้ว

"​​​​​เชื่อสิ เพราะกลิ่นที่ฉันได้จากนายมันเป็นกลิ่นของปีศาจแต่  มันไม่เหมือนกับพวกพายม่อน"

"กลิ่นหรอ"

"ที่นายบอกว่ามีอีกคนอยู่ นายหมายถึงในตัวนายรึป่าว ถ้าใช่ก็ถูกอย่างที่ฉันคิด ในตัวของนายมีอีกคนที่ไม่ใช่คน"

"น่าจะเป็นปีศาจ"

"ใช่ครับมันพูดกับผม มันบอกว่ามันชื่อ 'เบเลีย'"

"นายหมายถึงราชาปีศาจนะหรอ!!"

"โหหหห!!"

แฟโรตกใจกับคำพูดของซัตเตอร์เป็นอย่างมาก ตาโตเป็นประกายเหมือนกับเด็กที่กำลังจะได้ของเล่นใหม่ จากนั้นทหารนายหนึ่งก็ส่งไฟล์ประวัติของซัตเตอร์มา 

ติ่ง ติ่ง

"อื้ม...เป็นอย่างที่คิดไว้ นายมาจากหน่วยรับจ้างฆ่าปีศาจจริงๆสินะ มันผิดกฎหมายขั้นรุนแรงนะนายรู้ใช่รึป่าว แต่นายไม่ต้องตอบคำถามอะไรมากมาย ฉันมีแค่ข้อเสนอให้กับนาย"

"มาเป็นทหารในหน่วยพิเศษของฉันหรือโดนจับเข้าซังเต นายก็เลือกเอา อาศัยอยู่กับแม่แค่สองคนสินะ จะเป็นยังไงถ้าแม่ของ-"

"อย่านะ!!ถ้าคุณยุ่งกับแม่ของผมแม้แต่ปลายเล็บ ผมจะทรกหนังคุณออกมาทั้งเป็นๆ!!"

ตอนที่ซัตเตอร์พูดขู่แฟโรออกไปด้วยความโกรธตัวของเขาก็ได้มีเปลวไฟสีดำที่กำลังเพิ่มขึ้นมาทีละนิดๆ

"หืมมม ร้อนแรงจริงๆนะ ก็อย่างที่ฉันบอกไปมีตัวเลือกให้นายแค่นี้ ไปคิดเอานะพ่อหนุ่มฮ๊อต ถ้านายปล่อยมันออกมามากกว่านี้.....ฉันนี่ละจะเป็นคนฆ่านายทิ้ง!" 

แฟโรพูดด้วยสีหน้าจริงจังตอนนี้ตาของเธอเบิกโพงกว่าง หน้าของเธอและซัตเตอร์ห่างกันไม่ถึงคืบ

"ฉันให้เวลานายคิดอยู่ที่ห้องนี้หนึ่งคืนพรุ่งนี้ฉันจะมารับคำตอบที่ฉันหวังเอาไว้....พักผ่อนให้เต็มที่ละ ของที่นายต้องใช้มีอยู่ในห้องนี้ทั้งหมด..."

แฟโรพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะหุบยิ้ม

"ฉันต้องไปละ บ้ายบ่ายนะพ่อหนุ่มฮ๊อต"

และนี่คือเหตุการก่อนที่ซัตเตอร์จะได้สังกัดอยู่ในหน่วยพิเศษ OVER DARK

2สัปดาห์ผ่านมาปัจจุบันตอนนี้ซัตเตอร์ได้สังกัดอยู่หน่วยพิเศษ OVER DARK เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"เอาละซัตเตอร์ ตอนนี้นายก็ได้เรียนรู้ภาคทฤษฎีไปหมดแล้ว ที่เหลือก็ภาคปฏิบัติ ก่อนจะได้ลงงานจริง ฉันมีคนหนึ่งจะแนะนำให้นายรู้จัก นี้คือคุณ 'มิริน' เขาจะมาฝึกวิชาการต่อสู้ให้กับนาย และช่วยหาวิธีคุม เจ้าปีศาจนั้น"

"อรุณสวัสดิ์ หนุ่มน้อย"

"อะครับอรุณสวัสดิ์ครับ"

"ฉันชื่อ'มิริน' นายหน้าจะรู้แล้วละ อายุ21 แรงค์ที่ฉันอยู่คือ คอมมันเดอร์ นายเรียนเรื่องแรงค์แล้วใช่ไหม"

"ใช่ครับผมได้เรียนรู้จากคุณแฟโรแล้วละครับ"

"ซัตเตอร์คิดในใจ "เป็นรุ่นพี่คุณแฟโรหนึ่งปีแหะ แต่เหมือนหน้าอกของเธอจะเล็กกว่านิดหน่อยละ เอะไม่สิ แอบเยอะอยู่นะ"

"กำลังคิดอะไรอยู่หรอหนุ่มน้อย สายตาแบบนั้นคงไม่ได้คิดอะไรไม่ดีใช่ไหม เพราะถ้านายคิดอะไรแปลกๆ ฉันจะฆ่านาย" 

หน้าของมิรินตอนนี่เกือบจะชนกับซัตเตอร์อยู่ไม่กี่เซ็น แถมเธอยังพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แฟโรยังยืนยิ้มเหมือนจะบอกซัตเตอร์เป็นในๆว่า แกตายแน่ไอ้เด็กเปรต 

"เอาละมาเริ่มจาก....ปล่อยมันออกมา"

"หะ!!! อะไรนะครับ ปล่อยที่ว่านี่"

"โอ้ยย!!"

ซัตเตอร์ยังพูดไม่ทันจบดี พริบตาเดียวมิรินก็เขามาถึงตัวและเตะเข้าไปที่ใบหน้าของเขาอย่างจัง

"โอ้ยย!! จะจะเจ็บๆ"

"ฉันบอกให้ปล่อยมันออกมา" 

ในขณะที่มิรินพูดไป เขาก็เตะซัตเตอร์ไปด้วย 

"โอ้ย!!  เจ็บนะครับ!!"

"ก็ฉันบอกให้นายปล่อยมันออกมาปีศาจนะ"

ซัตเตอร์คิดในใจ และโดนเตะไปด้วยในเวลาเดียวกัน

"ถ้าฉันปล่อยมันออกมาจะไม่เป็นอะไรแน่หรอ แต่ถ้าไม่ปล่อยมันออกมา ก็จะโดนเตะแบบนี้ไปเรื่อยๆ"

ภายในจิตใจของซัตเตอร์

"นี่!!! นายนะเบเลีย เบเลียใช่ไหมช่วยฉันทีสิจัดการ รุ่นพี่มิรินให้ที"

"เรื่องอะไรไอ้เด็กเวร แกมันทำอะไรไม่ได้เรื่องปล่อยให้โดนยายนั้นเตะไปนั้นละดีแล้ว ฮ่าๆ สนุกดีวะ"

"นี้อย่ามาพูดบ้าๆนะมันเจ็บนะเว้ย นายเองก็แอบกลัวเธอใช่ไหมละถึงไม่ยอมออกมา"

ซันเตอร์พูดยั่วยุเบเลียหวังว่าเขาจะออกมาช่วย

"ไม่อะ นายเองก็มีพลัง ขอแค่นายใช้มันให้เป็น ข้าจะบอกแกเพราะเห็นแก่ความเป็นเราแล้วกัน เงื่อนไขในการใช้พลังของตัวแกเอง"

"ทุกคนต่างมีความมืดในจิตใจใช่ไหมละ นั้นละดึงมันออกมาสิ แต่แกเองก็ต้องควบคุมมันไว้ให้ได้ด้วย มันทำยากแต่ทำได้ แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาใช้ แต่คุมได้ไม่ดีก็จะกลายเป็นพวกพายม่อนแบบที่แกเคยเห็น ทำตามที่บอก ลองดึงมันออกมา"

จากนั้นซัตเตอร์ก็ทำตามที่เบเลียบอก ความมืดของซัตเตอร์หลักๆคือความแค้นและความเสียใจความทุกข์ที่เสียพ่อและทุกคนไป

ขาของมิรินที่เตะเข้ามาที่ใบหน้าของเขาอีกครั้ง แต่ตอนนี้เขาได้รับมันไว้ได้ และรางกายในตอนนี้ก็ได้มีเปลวไฟสีดำปรากฏขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของเขายังคงเดิม 

"คุมยากอยู่นะ แต่ฉันต้องทำให้ได้"

จากนั้นเปลวไฟที่ปกคุมตัวของเขาก็ค่อยๆมอดลง 

"ค่อยๆสิเจ้าโง่แกจะกลัวอะไร เล่นผ่อนคลายเร็วขนาดนั้นความมืดของแกมันก็ลดลงสิ"

ตอนนี้มิรินกำลังรอและเหมือนเขาจะเตรียมการอะไรบางอย่างเอาไว้ด้วย

"เหอะยายนั้นคงรู้ว่าข้าคนนี้จะต้องออกไปแน่ๆ เลยเตรียมตราชั่งนั้นไว้"

"ตราชั่งอะไรหรอ"

"แกลองดูที่แขนของยายนั้น มันคือตราชั่งแห่งคัสเป็นปีศาจเหมือนกับข้าผู้นี้ เอาเถอะเดียวข้าเล่นต่อเองแกดูอยู่เฉยๆจากในนี้แล้วกัน"

เมื่อเบเลียได้สลับกับซัตเตอร์ ตัวของเขาก็ได้เกิดเปลวไฟสีดำขึ้นตาเขากลายเป็นสีดำทมิฬเบเลียยกแขนขึ้นทั้งสองข้างขนานลำตัว จากนั้น

"จงมาหาข้า 'เคียวคุมงโค'   เล่นแรงได้ใช่ไหมยายภาชนะแห่งคัส"

"เบเลียพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมแยกเคี้ยวออกมา"

"โอ้โหหายากนะเนี้ย คนที่รู้จักคัสแถมยังเห็นตราชั่งนี้แล้วยังกล้าที่จะลองดีอยู่ แกคงจะเป็น"

"เบเลีย ราชาปีศาจที่เรื่องชื่อสินะ ทำไมตอนนั้นถึงแพ้ให้กับ ผู้คุมปีศาจที่เป็นมนุษย์กันละ"

มิรินพูดยั่วยุเบเลียเพราะเธอหวังให้เบเลียใช้พลังได้อย่างเต็มที่ เพราะเธอรู้ดีว่าตอนนี้ดูจากปริมาณไฟที่พุ้งออกมามันเยอะจนเกินกว่าซัตเตอร์ในตอนนี้จะรับไหว มันคือการฝึกขีดจำกัดของซัตเตอร์ไปในตัวด้วย จากนั้นชั่วพริบตาหนึ่ง

"หุบปากยัยภาชนะ!!!"

เบเลียพุ่งเข้าใส่เธอด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ เขาใช้เคียวคุมงโค ฟาดฟันเธอโดยไม่ยั้งมือ เขาต่อสู้โดยเว้นระยะพอสมควร มือของเขาไม่ได้ถือที่ด้ามเคียวแต่อย่างใด เขาจับที่ตัวโซ่ แล้วกวัดแกว่งหมุนมันด้วยความชำนาญ แต่มิรินเองก็หลบและป้องกันได้ในเวลาเดียวกัน เธอได้แต่ทำแบบนั้นไประยะหนึ่ง

"ฮ่าๆฮ้า ทำไมเธอถึงไม่ใช้ตราชั่งที่เตียมเอาไว้ละยายภาชนะ เธอมัวกลัวอะไรอยู่"

"หืมม ได้สิถ้าแกขอเองละนะ"

"ตราชั่งแห่งความเที่ยงธรรม ตราชั่งแห่งคัส ข้าขอคำตัดสินแต่นี้"

และทันใดนั้น ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่ทั้งสี่อยู่ก็ได้เกิดลมแรง เผยให้เห็นตราชั่งที่มาในรูปแบบอวตารที่อยู่ด้านหลังของมิริน มันใหญ่มากถึง10เท่าของตัวจากนั้น แฟโรก็ได้พูดขึ้น

"โหหหห ไม่ได้เห็นมันนานแล้วนิเนอะ!!!"

แฟโรดูตื่นเต้นกับการที่เธอได้เห็นตราชั่งแห่งคัสนี้อีกครั้ง 

ในขณะที่เบเลียได้แต่ยืนนิ่งๆ เพราะเขานั้นรู้ความสามารถของตราชั่งนั้นดี แต่เบเลียไม่คิดเลยว่า มิรินจะบ้าจี้ทำตามที่เขายั่วยุ

ตราชั่งแห่งความเที่ยงธรรมหรือตราชั่งแห่งคัสความสามารถของมันคือ ไม่ว่าจะเป็นใครหรือเป็นอะไร ถ้ามันบอกว่า เขาผู้นั้นควรโดนกำจัด ผู้ที่ถูกมันตัดสินจะไม่มีทางทำอะไรผู้ที่ถือครองตราชั่งได้แม้แต่น้อย นอกจาก เขาผู้นั้นจะมีพลังสูงกว่า

"เอาไงต่อละเบเลียทำไมนายถึงยืนนิ่งๆ"

ซัตเตอร์ได้สังเกตุเห็นเบเลียยืนนิ่งๆจากในจิตใจของตัวเอง

"ผลมันออกมาแล้วนะ ตอนนี้ฉันและแกไม่สามารถเอาชนะยายนี้ได้ แกนั้นแหละต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ซัตเตอร์ "

จากนั้นมิรินก็ได้พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

"เอาละมาถูกลงทันกันเถอะ"

"เจ้าโง่สลับตัวกับข้าที"

"จะบ้ารึไง ไม่เอาฉันสลับตอนนี้ก็แย่สิเจ้าราชาขี้ขลาด"

ตอนนี้ภายในจิตใจของซัตเตอร์ เขาและเบเลียกำลังทะเราะกันอยู่ ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตุทางมิรินเลยด้วยซ้ำ

เพราะตอนนี้มิรินได้ทำการลงทันเรียบร้อยแล้ว 

"หอกแห่งความมืดในสงคราม!!!"

หอกสีทองอันใหญ่พุ้งตรงมาหาทางทั้งคู่

"อ่าาแย่แล้วววว"

ทั้งคู่กรีดร้องออกสาวอยู่ภายในจิตใจของซัตเตอร์ 

"มันมาแล้วเจ้าบ้าเปลี่ยนตัวเร็ววว"

"ไม่เอาเจ้าราชาติงต๊อง"

ตู้ม!!!!

ทั้งห้องถูกปกคุมไปด้วยควันสีขาว มองไม่เห็นแม้แต่พื้น จากนั้นก็ได้มีเสียงไอของใครบางคน เธอคือแฟโรที่โดนลูกหลงไปด้วย 

"โอ้ยย ทำไมฉันถึงต้องมาโดนลูกหลงด้วยเนี้ย แย่ชะมัด" 

ทางด้านซัตเตอร์และเบเลีย ได้นอนชักกระตุกอยู่ที่พื้น ซัตเตอร์ได้แต่พูดว่ารุ่นพี่มิรินไปว่า

"ทำไมถึงรุนแรงนักนะรุ่นพี่เนี่ย"

ทางด้านเบเลีย 

"สักวันตราชั่งนั้นมันจะพาหายนะมาสู่เธอยายภาชนะ"

เบเลียพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง เพราะตราชั่งนั้นมันจะลดอายุไขของผู้ใช้ไปทีละนิดๆ มันเป็นเงื่อนไขของการใช้งานพลังนี้

ข้อมูลตัวละคร

ชื่อ  FAROE (แฟโร)  สิ่งที่ชอบทำเวลาว่าง นั่งมองดวงจันทร์ และ ฟังเพลงที่เธอชอบเธเเป็นคนที่ชอบฟังเพลงมากๆ อาหารที่ชอบ ไก่ทอดกับเบียร์

ผมสีบอล ตาสีฟ้า หุ่นของเธอเรียกว่าตัวเอสฟ้าประทาน สูง 170 น้ำหนัก 60 

ชื่อ MIRIN (มิริน) สิ่งที่ชอบทำเวลาว่าง ไม่ระบุ

อาหารที่ชอบ สตรีทฟู้ด

ผมสีดำปลายเทา ดวงตากลมโต ตาสีดำ หุ่นของเธอพอกับแฟโรเลย (แต่หน้าอกแอบเล็กกว่านิดหน่อย) โอ้ยยยย!! 

ส่วนสูง ไม่ระบุ น้ำหนัก ไม่ระบุ

         

   

ตอนที่ 3 หน่วยjen2

ทางด้านเบเลีย 

"สักวันตราชั่งนั้นมันจะพาหายนะมาสู่เธอ"

เบเลียพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง เพราะตราชั่งนั้นมันจะลดอายุขัยของผู้ใช้ไปทีละนิดๆ มันเป็นเงื่อนไขของการใช้งานพลังนี้

เมื่อกลุ่มควันได้จางลง ก็ได้มีเสียงเดินของชายปริศนาทั้งสองมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง จากการรับรู้ทางกลิ่น แฟโรรับรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาคือใคร

พรึ่บ

มีเสียงของหนึ่งในสองคนพูดขึ้นว่า 

"เอะอะอะไรเสียงดัง น่ารำคาญชะมัด"

แฟโรหัวเราะด้วยความเอ็นดู

"เอาละๆ ทั้งหมดมายืนรวมกันตรงนี้ ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันคนนี้จะก่อตั้งหน่วยพิเศษเพิ่มมาอีกหนึ่งหน่วยหน่วยนี้มีชื่อว่า jen2"

เมื่อแฟโรพูดจบ ก็ให้ทั้งสองแนะนำตัวกับซัตเตอร์และมิริน 

คนแรก มีชื่อว่า 'ลุยเซีย' ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันกับซัตเตอร์ เขาคือคนเดียวกันกับที่พูดว่าทั้งห้องนี้เสียงดังและคนกลางมีชื่อว่า 'คีตัส' อายุน้อยกว่า'ซัตเตอร์'และ'ลุยเซีย' 

"ต่อไปนี้ทั้งสามจะต้องกินอยู่ร่วมกันหรือพูดง่ายๆคือ ที่นี้คือบ้านของพวกนาย และถ้ามีอะไร ตอนฉันไม่อยู่หรือไม่ว่าง รุ่นพี่มิรินจะเป็นคนจัดการแทนฉัน"

เมื่อแฟโรพูดจบ มิรินก็พูดต่อว่า 

"ฉันมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกับแฟโรอยู่ คือฉันสามารถฆ่าพวกนายได้ทุกเมื่อถ้าไม่พอใจเพราะฉะนั้นอย่าคิดลองดีกับฉัน"

จากดวงตาที่กลมโตอยู่แล้ว ตอนนี้มันทางออกให้อารมณ์ที่น่ากลัวและน่าเกรงขาม พร้อมกับปล่อยแรงอาฆาตจากความมืดในใจของมิรินออกมา ตอนนี้ทั้งห้องสั่นสะเทือน ทั้งสามคนแทบยืนไม่ไหวเมื่อได้สัมผัสกับแรงอาฆาตของมิริน 

"ฮ่าๆ พอเถอะค่ะรุ่นพี่ เดียวพวกเขาก็ถอดใจกันหมดหรอก ใจดีกับพวกเขาหน่อยสิคะ"

ซัตเตอร์ถึงกับสบถออกมาว่า

"เชี้ยเอ้ยเกือบไปแล้วไง แรงอาฆาตอะไรวะ หายใจไม่ออก เมื่อกี้เกือบตายแล้วไง"

"เอาละฉันไปก่อนละ ตอนนี้เธอก็ดูแลพวกเขาไปก่อนเถอะแฟโร .....เกลียดเด็กชะมัด"

และมิรินก็ได้เดินออกจากห้องที่ตอนนี้พังไปในบางส่วนและปล่อยทั้งสี่คุยงานกันไป

ตอนนี้ซัตเตอร์ได้สังเกตุเห็นทั้งสองทำหน้านิ่งๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่เมื่อกี้เขาเองนึกว่าตัวเองจะตายแล้ว แต่ทั้งสองกับทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไร 

"เอาละฉันจะให้เวลาพวกนายครึ่งชั่วโมง เพื่อไปทำธุระส่วนตัว เพราะฉันจะพาพวกนายไปฝึกงานภาคปฏิบัติ"

ตัดมาอีกด้าน 

ชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คร้ายกับราชา จากที่ไหนสักแห่ง เขาคือเทียรอส  เขากำลังคุยอยู่กับชายหนุ่มที่รุ่นราวคราวเดียวกับซัตเตอร์ 

"นี่ฟิลลิกซ์ นายคงไม่ทำให้ฉันผิดหวังใช่รึป่าว"

"ไม่ต้องห่วงครับท่านเทียรอส ชีวิตนี้ผมตั้งใจถวายให้กับท่าน เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับคนที่ถูกมันฆ่าไปด้วยแล้ว ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องทำให้สำเร็จ"

ฟิลลิกซ์คือเด็กหนุ่มที่เทียรอสเคยช่วยเอาไว้เมื่อ7ปีที่แล้วและเทียรอสยังพร่ำสอนและฝึกวิชาให้กับเขาเป็นอย่างดี จนตอนนี้เขาได้เป็นเสมือนมือขวาของเทียรอส 

ณ หน่วยพิเศษ OVERDARK

​​​​​​ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ทุกคนก็ได้เตรียมตัวกันเกือบจะเสร็จ 

"อ่าาา ทำไมทุกคนมากันไวจังเลย" 

เสียงของเด็กหนุ่ม'คีตัส' พูดขึ้น เพราะเขามาถึงเป็นคนสุดท้าย 

"......."

"เอาละทุกคนมาพร้อมกันแล้วใช่ไหม ฉันได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาว่า พบคนที่กลายพันธ์เป็นพายม่อน ที่โรงงานผลิตน้ำผลไม้แถวชานเมือง เขตที่12 "

"อะขอโทษนะ พบมันแค่ตนเดียวถึงกะต้องให้หน่วยพิเศษไปเองเลยหรอ "

ซัตเตอร์เอ่ยถามขึ้น เพราะปกติตอนที่เขาอยู่หน่วยของ UNHERO จะเจอหน่วยพิเศษของรัฐได้จะต้องเจอพายม่อนต่ำๆสิบตัวขึ้น แต่ครั้งนี้พบแค่หนึ่งตน

"ก่อนอื่นเลย ผมขอพูดอะไรหน่อย ทำไมถึงยอมให้ไอ้เจ้าคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาคุย"

"เหมือนสนิทกันกับคุณแฟโรได้ละครับ หางเสียงอะไรก็ไม่มี"

"อะไรของนาย ชื่ออะไรนะ ลุยเซีย ใช่ไหม ฉันกับนายต่างก็ห่างกับแฟโรไม่กี่ปี ทำไมต้องเรียกคุณหรือมีหางเสียงด้วยหะ!!!"

ซัตเตอร์เถียงออกไปเพราะเขาคิดว่าห่างกันไม่กี่ปีไม่จำเป็นต้องเรียกพี่หรือมีหางเสียงก็ได้มั้ง นอกจากจะมีบางสถานะการที่ควรเรียกคุณขึ้นต้น

"หาาาา!!! แกว่ายังไงนะ ไอ้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า แกนี่ไม่เคยถูกสอนเรื่องการเข้าสังคมเลยสินะไอ้หัวขี้เลื่อย"

"แกจะเอาหรอวะ!!!"

"เอาละๆหยุดเถียงกันได้แล้ว ฟังทางนี้ก่อน"

จากนั้นแฟโรก็ได้อธิบายเรื่องงานต่อ เพราะถึง จะพบแค่ตนเดียว แต่คนที่กลายร่างนั้นเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาก่อนจะกลายร่างเหมือนกับคนอื่นๆ 

"มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ คนๆนั้นจู่ๆก็มีไฟสีดำทมิฬปกคุมทั่วตัวก่อนจะกลายร่าง นายน่าจะรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับไฟนั้นนะ ซัตเตอร์"

เมื่อซัตเตอร์ได้ยินแฟโรพูดแบบนั้นเขาถึงกับตกใจ พาลคิดถึงตอนนั้น ตอนที่พ่อของเขาโดนชายปริศนาที่มีไฟสีดำนั้นฆ่าตาย 

"อะ...หายใจไม่ออก..."

"เป็นอะไรไปซัตเตอร์"

"มะไม่มีอะไรฉันรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยไม่มีอะไรมากหรอก ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับไฟนั้นหรอก ไฟที่สีดำนั้นฉันก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกก่อนที่เธอจะเจอฉันนั้นละ"

ซัตเตอร์เลือกที่จะโกหกแฟโรไปแบบนั้นเพราะเขานั้นไม่อยากนึกถึงเหตุการนั้นอีก จากนั้นทั้งสี่ก็ได้เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ

มันเป็นโรงงานผลิตน้ำผลไม้ที่อยู่ติดชานเมือง บริเวณนั้นก็เหมือนกับโรงงานทั่วไปไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแค่โรงงานนั้นจะมีคนเยอะเพราะอยู่ใกล้กับตัวเมืองและมันไม่แปลกนักถ้าจะมีคนที่กลายร่าง

จากนั้นทุกคนก็ได้เดินทางไปที่โรงงานนั้น

ณ. โรงงานผลิตน้ำผลไม้ เขต12

โรงงานผลิตน้ำผลไม้ ที่อยู่ตรงหน้าทุกคนตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย เพราะหน่วยงานของรัฐได้ทำการลำเรียงพนักงานออกไปก่อนหน้านี้แล้ว สถานที่ที่ทั้งสี่เข้าไปนั้นเป็นโกดังเก็บน้ำผลไม้ ทั้งโกดังจะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้หลากหลายรสชาติ 

"ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณจินจะช่วยพวกนายและรายงานฉันเองเพราะฉะนั้นอย่าขัดคำสั่งเขาและทำตามอย่างเคร่งครัด"

"เอ้ารุ่นพี่ไม่ได้มากับเราหรอกเหรอครับ หว่าาแบบนี้ผมกลัวนะครับมาฝากไว้กับตาคุณลุงจินนี่ ไม่ไว้ใจเล๊ยยย"

คีตัสพูดขึ้นเพราะเขากับคุณจินไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เพราะคีตัสชอบดื้อและไม่ฟังคำสั่งของคุณจินเท่าไหร่ คีตัสมักจะโดนดุและลงโทษอยู่บ่อยๆ

"ฉันก็อยากอยู่หรอกน้าา แต่มันไม่ได้มีเขตนี้เขตเดียวนะ ไว้ฉันจะรีบกลับมาทางนี่โดยเร็วนะ .....ขืนดื้อมากฉันจะฆ่านายทิ้งเป็นคนแรกคีตัส"

แฟโรพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม 

จากนั้นคุณลุงจินก็ได้พาทั้งสามเข้าไปตรวจสอบภายในตัวโกดังของโรงงานผลิตน้ำผลไม้ เพราะตอนนี้หน่วยงานรัฐที่แจ้งเข้ามาในตอนแรกได้ลำเรียงคนงานที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปกันหมดแล้ว เพื่อที่หน่วยพิเศษที่มาจะได้ทำงานได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

"อ่าาาโกดังนี้สะอาดชะมัด"

ซัตเตอร์พูดขึ้น เพราะที่ๆเขาจากมา ส่วนมากสภาพพื้นที่จะไม่ค่อยมีที่ที่สะอาดแบบนี้สักเท่าไหร่

"เหอะพวกคนจากสลัม"

"หาาา!!?? แกจะเอาให้ได้เลยใช่ไหมอั้ยหัวสับปะรด"

ซัตเตอร์ด่าลุยเซียไปแบบนั้นเพราะลุยเซียไว้ผมยาวและชอบมัดผมอยู่ตลอดและมันค่อนข้างเหมือนสับปะรดเว้นแต่ตอนนอน

"ก็มาดิวะอั้ยหัวขี้เลื่อย!!"

ในระหว่างที่ทั้งสองเถียงกันอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงของชายปริศนาพูดขึ้นว่า

"อ่าวววๆ ทะเลาะกันทำไมละครับ เป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ แบบนี้ผมแอบผิดหวังนิดหน่อยน้าา"

ทั้งซัตเตอร์และลุยเซียได้แต่ยืนงงเพราะทั้งสองไม่รูัจักชายคนนั้นเลย รวมทั้งคีตัสกับลุงจินด้วย

"อ่าผมลืมแนะนำตัวสะได้ ผมมีชื่อว่า ฟิลลิกซ์เป็นผู้คุมปีศาจรุ่นที่สอง...ผมถูกหมอบหมายให้มาฆ่าทุกคนในที่นี้นะครับ"

ฟิลลิกซ์พูดด้วยสีหหน้าที่ยิ้มแย้มปนความอาฆาต จากนั้นดวงตาที่ถูกถ่างขึ้นตอนนี้มันกลมโตพร้อมกับปล่อยแรงอาฆาตออกมา มันสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโกดังนั้นเว้นแต่ลุงจินที่ยังยืนเหมือนไม่ทุกร้อนไดๆ

"อะไรอีกวะเนี้ยเหมือนกับตอนรุ่นพี่มิรินเลยถึงแม้ของหมอนี่จะรุงแรงน้อยกว่านิดหน่อยก็เถอะ"

ซัตเตอร์เอ่ยขึ้นเพราะแรงอาฆาตนี้มันคล้ายๆกับของรุ่นพี่มิริน แต่ของฟิลลิกซ์นี้จะมีความแรงของความอาฆาตน้อยกว่า

"อะ เกือบลืมไป เกือบฆ่าทิ้งสะแล้วสิ ก่อนอื่นนี้คุณนะ ชื่อซัตเตอร์สินะ อ่าผมมีของขวัญมาให้"

เมื่อสิ้นคำพูดของฟิลลิกซ์ ชายสองคนที่ไม่คุ้นหน้าฆ่าตาก็ได้ปรากฏตัวพร้อมกับผู้หญิงสูงวัย เธอคนนั้นคือแม่ของซัตเตอร์  

"อะ ซัตเตอร์ลูกแม่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ละ แม่นึกว่าออกไปทำงานค้างกับคุณเกียดัสสะอีก ทำไมคราวนี้ถึงไม่โทรมาบอกให้แม่รู้--"

ยังไม่ทันสิ้นคำพูดของผู้เป็นแม่ ซัตเตอร์ก็ทำหน้าตกใจแบบสุดขีด หน้าของเขาตอนนนี่เหมือนคนที่หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะตอนนี้มือที่อาบไปด้วยเลือดของ ฟิลลิกซ์ ได้ต่อยทะลุอกแม่ของซัตเตอร์ไปแล้ว ทุกคนในหน่วย jen2 ก็ตกใจไปตามๆกัน ทันใดนั้น ชั่วพริบตา ฟิลลิกซ์ อยู่ๆก็มาโผล่ข้างหลังของทั้งสี่ 

"มันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง!!!"

ลุงจินตกใจกับพลังเหลือเชื่อของฟิลลิกซ์จนไม่ทันตั้งตัว

"ทุกคนอยู่ห่างจากเราพอสมควร ต้องป้องกันที่ตัวเราก่อน"

ลุงจินสามารถตั้งการ์ดรับลูกเตะอย่างเต็มแรงของฟิลลิกซ์ได้แบบฉิวเฉียด จากนั้นทุกคนก็ได้ถอยออกจากลุงจินและทิ้งระยะห่างออกมา

เหลือแต่ซัตเตอร์ที่ยังยืนมองร่างอันไร้วิญญาณของผู้เป็นแม่ ตอนนี้จิตใจของซัตเตอร์ได้แตกสลายลงไปแบบไม่มีชิ้นดี เขาได้แต่คิดโทษตัวเองอีกครั้งเหมือนครั้งก่อนๆที่ผ่านมา 

"ทำอะไรได้มั้งวะ คนแบบกู ถ้าไม่เกิดมามันจะดีกว่ารึป่าว ต่อจากนี้ กับข้าวที่แม่เคยทำใบหน้าของแม่ สิ่งที่อยากจะทำให้แต่ไม่เคยได้ทำละ ถ้ากูตายไปทุกอย่างมันจะจบรึป่าว"

"เฮ้ยไอ้หัวขี้เลื่อย ช่วยตั้งสติหน่อยหมอนี้มันไม่ใช่คนธรรมดา อย่ายืนเหม่ออยู่แบบนั้นสิวะ แย่ละเล่นเสียแม่ไปต่อหน้าต่อตา จะทำยังไง จะทำยังไงดีกับสถานะนี้ ไอ้เวรเอ้ย "

"รุ่นพี่ซัตเตอร์รีบออกมาจากตรงนั้นก่อนเถอะครับ"

ทั้งคีตัสและลุยเซียได้ตะโกนเรียกสติของซัตเตอร์อย่างเต็มที่แต่เหมือนมันจะไม่ได้ผลอะไรเลย 

"ทุกคนครับช่วยทำการพาคุณซัตเตอร์ถอยไปก่อนด้วยครับตอนนี้เขาไม่สามารถสู้กับใครได้แล้วครับ"

ลุงจินตอนนี้กำลังสู้อยู่กับฟิลลิกซ์ อย่างดุเดือดทั้งคู่สูสีกันมากแต่ด้วยอายุของลุงจินความเร็วของหมัดที่ออกไปแต่ระครั้งอาจจะไม่ทันอีกฝ่าย 

"ผมฝากทางนี้ด้วยนะครับรุ่นพี่ ผมจะเป็นคนพารุ่นพี่ซัตเตอร์ออกไปเอง เดียวจะรีบกลับมาครับ"

คีตัสได้นำตัวของซัตเตอร์ถอยออกมาจากสังเวียน

ตัดมาทางฟิลลิกซ์  

"แด่ความมืดในจิตใจ จงปัดเป่าแสงสว่างให้สิ้นสูญ"

ฟิลลิกซ์ได้ทำการพนมมือชูขึ้นเหนือหัว

"ย๊าาาาาาาาาาา!! จงออกมาผู้คุมวิญญาณ เฮวิน" 

​​​​​​ผู้คุมวิญญาณโผล่ออกมาในรูปแบบของอวตารสูง17เมตร มันมีรูปร่างคล้ายกับโครงกระดูกสวมฮู้ดยมฑูตถือเคียวอันใหญ่ มันกวัดแกว่งเคียวนั้นไปทั่วทั้งบริเวณ ลุงจินและลุยเซียตอนนี้ได้แต่หลบหลีกการโจมตีนั้น 

"ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปลุงจินเองก็อาจจะถึงขีดจำกัด ต้องมาใช้เจ้านั้นในตอนนี้จริงๆหรอ"

ตอนนี้ลุยเซียเหมือนเขาจะมีแผนอะไรอยู่ ถึงจะไม่อยากใช้มันนักแต่สถานะการมันบีบบังคับ

"คุณลุยเซี-"

"ลุงจินน!! รีบหมอบลงกับพื้นครับ!!!!"

"อะ...ถึงจะไม่รู้ว่าจะทำอะไร แต่ผมจะทำตามครับ"

จากนั้นที่หลังของลุยเซียที่เดิมทีไม่มีอะไรอยู่ตอนนี้มันได้ปรากฏดาบคาตานะสีดำขึ้นมา 

"เพลงดาบทาไมคาจิ ขบวนท่าที่1 สายลมกรีดร้อง!!"

เขาได้ทำการฟัดอากาศอย่างช้าๆจากนั้นสายลมก็เกิดเป็นกรงเล็บจำนวนมาก กรงเล็บพวกนั้นฟันเข้าใส่ ฟิลลิกซ์ และเฮวินเข้าอย่างจังๆ ตอนนี้ในตัวโกดังเกิดลมแรงโหมกระหน่ำ 

"เพลงดาบของคุณลุยเซียนี่รุนแรงเอาเรื่องเหมือนกับเราเหมือนจะโดนดาเมจไปด้วยเลยแบบนี้สินะถึงบอกให้เราหมอบลงไม่อยากคิดถึงตอนสู้กับเขาเลย"

"โหห แบบนี้สิถึงจะสนุก ถึงจะคู่ควรให้ฉันฆ่าทิ้ง!!"

ฟิลลิกซ์ตั้งการ์ดพร้อมกับเฮวินที่เป็นอวตารเขาคิดว่าขบวนท่าธรรมดาแค่นั้นคงทำอะไรเขาไม่ได้แน่ๆ

"​​​​​​อ๊าาา!!! บ้าน่าา ขบวนท่าธรรมดาแบบนั้นฟันเขาได้ถึงร่างจริงเลยหรอ เราประมาทเกินไปสินะ บ้าจริง"

"จริงๆแล้วมันอยู่ในขั้นกำลังพัฒนา ถ้าเราฝึกฝนเพิ่มอีกนิดละก็ ต้องฟัดได้ถึงวิญญาณแน่"

ลุยเซียได้แต่คิดถึงข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของตัวเอง

ตัดมาอีกด้าน

"เท่านี้ก็เรียบร้อยนะคะ และก็สรุปรายงานมาให้ฉันด้วยนะ เดียวฉันจะกลับไปที่เขต12 จะต้องไปรับพวกเด็กๆก่อน"

เสียงโทรศัพของแฟโรดังขึ้น 

ติ่ง~

"ฮัล​โหลค่ะว่าไงคะคุณจิน​​​​​"

สายนี้คือสายของคุณลุงจิน

แฟโรตกใจกลับเรื่องที่คุณลุงจินรายงานทางโทรศัพเป็นอย่างมาก เพราะตอนนี้ทางด้านของเด็กๆกำลังเจอกับงานหนัก

"รีบเร่งความเร็วรถทีทางเขตที่12กำลังแย่!!!!"

"ถ้ารู้แบบนี้เราควรอยู่ด้วยตั้งแต่แรก ไม่หน้าพลาดเลยเรา อย่าเพิ่งเป็นอะไรกันนะเหล่าเมล็ดพันธุ์ของฉัน"

ข้อมูลตัวละคร

ชื่อ (LEUSIA) ลุยเซีย  สิ่งที่ชอบทำเวลาว่าง วาดรูปและฝึกวิชาดาบ  อาหารที่ชอบ ซูชิหน้าปลาไหล 

มีผมสีดำไว้และไว้ผมยาว มีดวงตาสีคราม 

สูง185 น้ำหนัก 75  

ชื่อ (CLETUS) คีตัส  สิ่งที่ชอบประดิษฐ์สิ่งของและอาวุธ    อาหารที่ชอบ ขนมทุกชนิด

มีผมสีทอง ตาสีฟ้า ไว้ผมทรงมัลเลต

สูง 167 น้ำหนัก 65 

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!