NovelToon NovelToon

When I was blue (Lawlu)​

Nostalgia

หนึ่งเดียว​ที่​ ซินเธีย​(Luffy)​ เทพแห่งดวงจันทร์​รอคอยคือการได้พบคนรักที่รักเธออย่างแท้จริง​นั่นคือเทพของมหาสมุทร​ ​แพนธาลัสซา​ บลู (Law)​ 

เป็นความรักที่บริสุทธิ์​ดุจน้ำเพชร​ ทั้งคู่ครองคู่กันตลอดมานับหลายล้านปีแสงก่อนโลกจะเกิด​ แพนธาลัสซา​ เป็นคนที่สุขุมเยือกเย็น​ เขาทำทุกอย่างเพื่อให้อยู่ในสายตาเทพแห่งดวงจ​ันทร์​และตามตื้อเธอไปยันสุดขอบจักวาล​ แม้กระทั่ง​เสียงคลื่นยักษ์​ที่ซัดสาด​ จนซินเธียต้องก้มมองลงมา​ลองเปิดใจให้กับเขา และเธอตกหลุมรักแพนธาลัสซากับดวงตาสีน้ำเงินครามของเทพมหาสมุทร​อย่างหมดใจ​ทันที​ 

แพนธาลัสซามอบหัวใจของท้องสมุทรให้เธอ​ว่านี่คือแสดงให้เห็นว่ารักมากจนมิอาจควบคุมกาย​ สิ่งที่ซินเธียได้รับรู้คือความรู้สึก​ดีๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจากเทพองค์นี้ ความสงบภายใต้ความเร่าร้อนจากปากของเขาได้ทำให้เธอหวั่นไหวจนดวงจันทร์สั่นคลอนและเปล่งแสงสว่างไปทั่วจักรวาล​

ซินเธียได้มอบน้ำเพชรในใจกลาง​ของดวงจันทร์​ให้กับแพนธาลัสซาทันทีอย่างไม่ลังเล

เธอปรากฏ​ร่างให้เทพมหาสมุทร​เห็นโดยมีเพียงแสงสว่างสีเงินปกคลุมร่างเท่านั้น​ ซึ่งเขา​พึงพอใจอย่างมากที่มีเทพแห่งดวงจันทร์อย่างซินเธีย​อยู่เหนือหัวของตน​ เหงนหน้าขึ้นไปมองเมื่อไหร่ก็พบเจอ

วันเวลาผ่านไป​แพนธาลัสซา​ปารถนาอยากจับต้องร่างกายและใบหน้าของผู้เป็นที่รัก​ เขาจึงอ้อนวอนต่อซินเธียให้เผยร่างจริงออกมา​ จิตใจของเธอก้ำกึ่งเหมือนมีอะไรปิดบังไว้อยู่ภายใต้แสงเงา​ 

"ข้าอยากแสดงความรักที่ข้ามีต่อท่านได้มากกว่านี้​ ให้ข้าสัมผัส​ท่านและได้ยินเสียงของท่านเถอะ" 

น้ำเสียงแสนนุ่มนวลอบอุ่นทำให้ซินเธียยอมใจอ่อน​ เธอค่อยๆปรากฏ​จากเส้นผมสีขาวที่ยาว​สยายสลับชุดบางพริ้วไหวไล่จากหัวลงมา​ ท่าทางของแพนธาลัสซาได้เปลี่ยนไปทันทีหลังได้เห็นร่างที่แท้จริงของเธอ​ 

​​​​​​"ท่านคือบุรุษ.."

​​​​​​ไม่มีแม้แต่เสียงตอบกลับของซินเธีย​ ร่างผอมบางแต่อกตั้งสง่าผิวนวลดุจสีเงินของแสงดวงจันทร์​​ ก็ไม่ช่วยให้แพนธาลัสซาหยุดสติแตก​

"เราจะครองรักกันได้จริ​งๆงั้นหรือ" 

นี่ไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด​ เธอแค่ปกป้องตัวเองกับความงามที่มีภายในตัวอยู่แล้วเท่านั้นเอง​

ดวงจันทร์​ล่องลอยอยู่เฉยๆเธอทั้งรักสงบและมีนิสัยสันโดษ​ หนีทุกอย่างที่วุ่นวาย​ แต่จู่ๆก็มีเทพแห่งดวงดาว​ทั้งหลายมาคลั่งไคล้​ในตัวเธอ​ 

ความสุขมักผ่านไปไว​ แพนธาลัสซา​ กำลังหนีจากเธอ​เพราะเป็นสิ่งที่ทำใจยอมรับไม่ได้​ เขาผิดหวังและมืดมน​

แพนธาลัสรีบคว้าหัวใจแห่งท้องสมุทรของตนกลับคืนแล้ว​กระโดดลงน้ำ​จนลึกสุดด่ำของทะเลจนเป็นสีดำของสีคราม พร้อมกับหัวใจน้ำเพชรของเธอ

ซินเธีย​​ยอมรับกับสิ่​ง​นี้ไม่ได้​ เธอกรีดร้องออกมาจน​เทพแห่งดวงดาวต่างๆที่อยู่ใกล้เคียงกลัว​อานุ​ภาพ​จากตัวเธอ​ เธอนั่งร่ำไห้บนดวงจันทร์​และเผยแสงสีเงินประกายไปทั่วจักรวาล​เพื่อตามหาแพนธาลัสซา​ 

"เอาหัวใจมาคือข้าเถอะ" 

พลิกจักรวาล​หาเขาผู้นั้นก็ไม่ยอมออกมา​เจอ​ ซินเธียสามารถระเบิดน้ำเพชรนั่นทิ้งเสียก็ได้​ เพียงแต่เธอรักเขามาจน​ไม่อาจระเบิดทำลายหัวใจของตัวเองลง​ พลานุ​ภาพ​ของแรงระเบิดนั้นจะส่งผลให้แพนธาลัสซากลายเป็นผุยผงไปด้วย​ 

เมื่อกาลเวลาผ่านไปอีกหลายล้านปีแสง​ เริ่มมีดาวดวงใหม่เกิดมาขึ้นมาเรื่อยๆและหนึ่งในนั้นถูกเรียกว่าโลก​ พลังชีวิตของเทพแห่งดวงจันทร์และสภาพ​ของซินเธียตอนนี้เริ่มอ่อนลง​ น้ำตาที่เป็นกรดของเธอเริ่มกัดเซาะร่างกายให้เกิดหลุมบ่อจนกลายเป็นพื้นผิดที่ขรุขระ​ 

ในเฮือกสุดท้ายก่อนตรอมใจสิ้นลม​ เธอได้ยินเสียงคนกลุ่มนึงยืนมุงและเรียก​ชื่อ แพนธาลัสซา​ บนดาวที่เรียกว่าโลก​ 

"ในเมื่อเราครองรักกันที่นี่ไม่ได้​ ก็ขอให้เราพบเจอกันอีก​ บนดาวดวงนั้น​ ข้าจะตามหา​ท่าน..." 

ความสิ้นลมไปพร้อมกับความถวิลหา​และแตกสลาย​ อีกทั้งยังมีความเคียดแค้น​ที่ไม่อาจให้อภัยได้

ณโลกปัจจุบันเวลา​ 23:00

สองครอบครัว​ตระกูลขุนนางก็ได้กำเนิดเด็กทารกสองคนในเวลาเดียวกัน​ 

"แม่จะตั้งชื่อให้ลูกว่าซินเธียนะ​ แปลว่าเทพแห่งดวงจันทร์​ภาษากรีก​ พ่อคิดว่าไงคะ"

​​​​​​"ก็ดีนะแม่​ แต่ชื่อจะไม่ดูเป็นผู้หญิง​ไปหน่อยหรอ​ ลูกเราเป็นผู้ชายนะ"

"ลูกเราหน้าหวาน​ออกขนาดนี้" 

ครอบครัว​ขุนนางอีกห้องนึงได้ชื่อลูกว่าแพนธาลัส​ ที่มาจากเทพแห่งมหาสมุทร​ยักษ์​ 

ส่วนอีกด้านนึงของขุมชนคนชั้นสูง​ ย่านของชนชั้นต่ำลงมา​ มีครอบครัว​ชาวสวนได้กำเนิดลูกอีกคนนึง​ เขาตั้งชื่อว่า​ บลู

Ethereal

12ปีผ่านไป

ซินเธียถูกเลี้ยงมา​ให้แบ่งชนชั้นกับสังคมอย่างชัดเจน​ และต้องเรียนรู้ทุกอย่างอยู่ในปราสาท​เท่านั้น​ นั่นหมายความ​ว่าเขาไม่เคยได้ออกไปไหนเลย อีกอย่างใครที่ต่ำต้อย​หรือชนชั้นต่ำกว่าก็ห้ามเสวนา​ด้วยเป็นอันขาด​ เขาเป็นเด็กผู้ชายที่มีผมสีขาวและยาว​ มีกรอบของใบหน้าที่หวานงดงามไร้ที่ติ​ ใครเห็นก็ว่าเป็นผู้หญิง​กันระนาว

"บลู มาช่วยพ่อยกดินขึ้นมาบนนี้หน่อย" 

ซินเธียหันไปมองต้นเสียงไกลๆด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเท่าไหร่​ เขาไม่ยอมออกไปไหนหรือแทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลยตั้งแต่เกิดมา​ เพราะในปราสาท​ขนาดย่อมแห่งนี้เต็มไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ​ ทั้งกอล์ฟ​ สวนน้ำ​ หอสมุด​ และสวนดอกไม้​ขนาดใหญ่​ สังคมของซินเธียจึงมีแต่ลูกขุนนางระดับชนชั้นสูง​ แต่ใช่ว่าเขาจะชอบคนพวกนี้นัก

"คุณ​หนูคะ​ ได้เวลาอาบน้ำแล้วค่ะ" 

ทุกอย่างอยู่ในขอบเขต​ไปหมด​ ฉันกลายเป็นคนไม่กล้าเข้าสังคม​ภายนอก​และอยากรู้มากว่ามีอะไรที่อยู่หลังกำแพงนอกปราสาท​นี้​ 

"ซินเธีย​ ไม่ได้เจอกันนานเลย" 

ฉันเกลียดไอหมอนี่​ 

"ขอถ่ายหน้าเธอไปอวดเพื่อนหน่อยดิ​ เป็นคนรวยอะไรไม่เคยออกจากบ้าน" 

เด็กอีกคนยกกล้องขึ้นมา​ แต่โดนซินเธียปัดตกจนแตก​

"เห้ยย" 

"กลับหลุมยาจก​ของแกไปซะ​ บอกพ่อแม่แกด้วยว่าอย่าเอาเชื้อของหนูโสโครก​เข้ามาในบ้านฉันอีก"

​​​​​​เขาเดินออกมาจากเด็กผู้ชาย​สองคนนั้น​ทันที​ ลูกของเซลส์​ขายของและเป็นลูกของเพื่อนสนิทพ่อ​มักจะชอบมาขายของให้บ่อยๆเวลาขาดเงิน

ซินเธียออกมาจากตัวอาคารเพื่อกลับห้องของตน​ เขาเดินสวนกับลูกชายชาวสวนที่มี​ดวงตาสีเหลืองทองเป็นเอกลักษณ์​ แต่เด็กคนนั้นไม่มองเขาเลย​ 

"บลู  พยายาม​อย่ามองหน้าลูกสาวเจ้าของปราสาท​นะ​ พ่อไม่อยากมีปัญหา​ตามมาทีหลัง​ เราทำงานจัดสวนกันอย่างสงบๆดีกว่านะลูก" 

คงคิดว่าฉันเป็นผู้หญิง​กันหมด​ ถ้าบอกว่าเป็นผู้ชายคงมีคนเข้ามาเล่นด้วยมากกว่านี้​ 

ซินเธียรู้สึก​เหงาและโดดเดียว​ เขามี​นิสัยสันโดษ​คล้ายคลึง​กับชื่อของตัวเอง​ ความทรงจำ​เมื่อครั้นในอดีต​ ก็ถูกลืมไปหมด​ด้วยเช่นกัน

1:00am.

เด็กผู้ชายในชุดนอนยาวสีขาวบางบนระเบียงของสวนชั้นสี่​ เขาออกมาชมดวงจันทร์เพราะนอนไม่หลับ​ ซินเธียมองบนฟากฟ้า​พรางยิ้มให้ราวกับว่าที่นั่นคือที่ที่จากมา​ แสงดวงจันทร์​สาดส่อง​สะท้อนกับสีผมและผิวที่ขาวซีดโดดเด่นยามรัตติกาล​ทำให้​เขาดูเหมือนออกมาจากโลกนิยาย​

แต่หา​รู้​ไม่ว่าบลูแอบถ่ายรูปเขาอยู่ไกลๆ​ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น​และเก็บภาพสวยๆนี้ไว้​ เขาจึงตัดสินใจออกไปทักทายเพราะอดใจไม่ไหวจริงๆ

"หวัดดี​ ขอโทษ​ที่ทำให้ตกใจนะ" 

"! ทำไมถึงอยู่ที่นี่" 

"ฉันพักที่บ้านคนงานด้านหลัง​​ เห็นระเบียงเปิดอยู่ฉันเลยถือวิสาสะ​เข้าม​า​ เลยมาดูของที่ต้องทำพรุ่งนี้ด้วย" 

"......" 

"..เธอก็นอนไม่หลับหรอ"

ซินเธียหายใจถี่ขึ้นเพราะตื่นเต้นที่ได้คุยกับคนแปลกหน้ายามวิกาล​ และเขาต้องการตัดสินใจ​ที่จะบอกอะไรบางอย่างกับเด็กผู้ชาย​ที่ยืนอยู่ตรงหน้า​นี้อย่างกล้าหาญ​ ความอึดอัด​และอัดอั้น​มา​นาน​ มันเป็นความกลัวและบททดสอบบางอย่างเขาต้องก้าวข้าม​

​​​​​​"ฉันเป็นผู้ชาย"

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรฉันถึงอยากบอกกับคนคนนี้

ใบหน้านิ่งเรียบไม่มีท่าทีแสดงอาการตกใจของบลู​ ทำเอาซินเธียตกใจไม่น้อย

"ไม่ตกใจหรอ" 

"ก็ตกใจอยู่หรอก​ แต่มันจะสำคัญอะไร" 

หัวใจดวงน้อยที่เต้นกำลังเต้นครึกโครม​อยู่นี่มันคืออะไรกัน​ 

"ฉันชื่อบลูนะ​ เธอคงชื่อซินเธีย" 

"ที่นายถือคืออะไร" 

"กล้องถ่ายรูป​ ไม่รู้จั​กหรอ" 

"รู้จัก​ หมายถึง​นายถ่ายอะไร" 

"ส่วนมากก็ทั่วๆไปแหละนะ​ ผู้คน​ ถนนหนทาง​ ธรรมชาติ​ เอ๋​ เธอมีโทรศัพท์​รึเปล่า" 

​​​​​​"มี​ แต่แม่ฉัน​จำกัดเวลาเล่น​ นายถ่ายข้างนอกหรอ"

​​​​​​"ใช่​"

​​​​​​"ขอดูหน่อยได้ไหม"

​​​​​​"ได้สิ" 

เข้มงวดจังครอบครัว​คนรวยเนี่ย.. บลู​ได้แต่คิด​ เขาเปิดรูปถ่ายในกล้องให้ซินเธียดู​ คนตัวเล็กกว่าได้แต่ทำตาลุกวาว และตื่นตาตื่นใจ​กับสิ่งที่เห็น

​​​​​​"ตึกสูง​เต็มไปหมด"

​​​​​​"บลู!! "

เสียงเรียกของเด็กผู้หญิง​ที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกของคนสวนอีกคนเดินขึ้นมาเรียกเขา​ แต่บลู​กลับวิ่งหาที่แอบเด็กผู้หญิง​คนนั้น​ ทั้งสองคนนี้เติบโต​มาด้วยกันจะสนิทกันก็คงไม่แปลกอะไร

"คุณ​หนู​ซินเธีย​ ทำไมยังไม่ยังไม่นอนละคะ" 

เขารีบซ่อนกล้องไว้ด้านหลัง​ และแน่นอนว่าคนคนนี้ก็เห็นเขาเป็นผู้หญิง​ด้วยเช่นกัน

"กำลังจะนอน​ มีอะไร" 

"เอ่อ​ คุณ​หนูเห็นบลูเดินมาทางนี้รึเปล่าคะ​ ตัวสูงๆ" 

"ไม่รู้จัก" 

 เธอได้แต่ก้มแล้วเดินลงไป​ ก่อนที่บลูจะคลานออกมาจากซุ้มในสวน

​​​​​​"ฉันคงต้องไปแล้ว" 

ซินเธียยิ่นกล้องให้เขา​พร้อมกับทำหน้าไม่พอใจ

"เธอเก็บไว้ดูก็ได้นะ​ เดี๋ยวพรุ่งนี้​ถ้าเจอกันอีกค่อยเอาคืน" 

จากสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์​กลับกลายเป็นเหมือนหมาน้อยได้ของเล่น​ แววตาเป็นประกายกับหางที่กระดิกเหมือนลูกหมาของซินเธียทำให้บลูสนใจในตัวเขานิดๆ​ แต่ก็ไม่ลืมเก็บอาการจึงกลับนิ่งขรึมเหมือนเดิม

"ได้จริงหรอ" 

"ได้สิ​ ฉันไปก่อนนะ​" 

​​​​​​"กู้ดไนท์"

​​​​​​"กู้ดไนท์ซินเธีย" 

​​​​​​

ทั้งคู่ต่างแยกย้ายกันเข้านอน​ ซินเธียกลับเข้าห้องหรูหราเต็มไปด้วยสิ่งของที่ทำจากเงินทอง​ ทั้งของแพงและแบรนด์เนม​ ส่วนบลูที่เดินกลับบ้านพักคนงาน​ ซึ่งก็ไม่แย่อะไรแต่ก็แบ่งชนชั้นกันอย่างชัดเจน​ 

"จริงสิ​ บ้าเอ้ย​ ฉันแอบถ่ายเธอไว้ด้วยนี่​ ทำไงดี​.. คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง" 

"ยลู​ นายอยู่นี่เอง​ ฉันตามหาสะทั่ว" 

"แล้วจะมาตามฉันทำไมตอนดึกดื่น​ หืมยัยนี่" 

"ก็ฉันทักไปแล้วนายเอาแต่อ่านแล้วไม่ตอบนี่นา​ ว่าแต่หายไปไหนมา" 

"เดินสูดอากาศ​นิดหน่อย​ ปะ​ ไปนอนได้แล้ว"

​​​​​​"ก็ได้ๆ​ บลู"

​​​​​​"หืม"

​​​​​​"ฝันดี​นะ"

​​​​​​"อื้ม" 

ฉันนอนดูรูปถ่ายอยู่ในผ้าห่มทั้งคืน​ แต่ละรูปเหมือนถ่ายกันคนละที่​ แสดงว่าเขาไปมาแล้วหลายที่สินะ​ น่าอิจฉา​ ฉันเองก็อยากออกไปบ้าง​ แต่นายคนนี้ก็ฝีมือดีอยู่นะเนี่ย

​​​​​​​​​​​​"เอ้ะ!​"

นี่มันรูปฉัน

แผน

ฉันได้ถ่ายรูปไปทั่วห้องในคืนนั้น​ และหลับไปพร้อมกับกล้องของบลู​ พอตื่นมากลับพบว่าเขาได้ออกไปจากบ้านของฉันแล้ว​ และวันทั้งวันก็ได้มาเจอกับพ่อของเขาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่​ 

"บลูไปไหน​ ฉันไม่เห็นเขาเลย" 

"มีอะไรรึเปล่าครับคุณ​หนู​ บลูไปทำอะไรรึเปล่าครับ" 

"เปล่า​ ฉันถามดู" 

"เอ่อ​ เขาจะไม่มาที่นี่แล้วครับ​ เพราะแม่บลูมารับกลับไปเมื่อเช้ามืด​ คุณ​หนูมีเรื่องอะ.." 

"ไม่มี" 

ลุงเขาเสียอาการเล็กน้อยอาจเพราะฉันไม่เคยคุยกับใครเป็นประโยคได้ยาวเท่านี้มาก่อน​ แต่กล้องนายอยู่กับฉันนะ​ จะทิ้งของสำคัญ​ไว้เชียวหรอ​ ดูนายเองก็รักกล้องตัวนี้มากๆด้วย​ แปลกจัง

อีกสามปีให้หลัง​ พ่อของบลูก็ลาออกจากการเป็นคนสวนที่บ้านฉัน​ โดยไม่ให้เหตุผล​อะไรซักอย่าง

5ปีผ่านไป

ซินเธียในอายุ17 รู้แล้วว่าอาจไม่ได้เจอบลูอีกจึงตัดใจ​ เขาเก็บกล้องของลูกชายชาวสวนไว้อย่างดีและเปิดดูรูปทุกวัน​ 

ซักวันฉันจะต้องออกไปเห็นเองกับตา​ สถานที่พวกนี้​ แต่น่าเจ็บใจ​นะไม่มีแม้กระทั่งคำบอกลา​ เกลียดจริงๆพวกไปไม่ลามาไม่ไหว้

มื้อค่ำอันแสนโอชะ​ ซินเธียได้ขออนุญาต​พ่อแม่บางอย่าง

"พ่อ​ ขออะไรอย่างได้ไหม" 

"ถ้าเรื่องออกไปข้างนอกตัดใจได้เลย" 

"ไม่ใช่​ ฉันอยากเรียน Aerial silks" 

"อื้ม​~ได้หมด​ ถ้าไม่ใช่เรื่องออกไปข้างนอก" 

พ่อยิ้มร่าต่างจากลูกที่หน้าบึ้งตึง​

"ฉันอยากเริ่มพรุ่งนี้เลย" 

ครั้งหนึ่งเมื่อตอนอายุสิบห้า​ ฉันได้ยินพ่อแม่กับคุยกับกลุ่มขุนนางว่า​ มีเหตุผล​ที่ไม่สามารถบอกใครได้ว่าฉันคือผู้หญิง​หรือผู้ชาย​ เพื่อรอคนในวังหลวงประกาศ​งานอภิเษกสมรส​ และรอว่าใครจะแต่งก่อนระหว่าง​เจ้าหญิงกับเจ้าชาย​ ถ้าเจ้าชาย​ประกาศ​แต่งก่อน​ พ่อจะส่งฉันเข้าไป​ไม่รู้จะส่งเข้าไปในเจตนาแบบไหน​ ส่วนถ้าเจ้าหญิง​อยากแต่งก่อน​ ก็จะส่งฉันเข้าไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคู่สมรส​ 

พอได้ยินแบบนี้แล้วฉันก็สะอิดสะเอียน​ขึ้นมา​ จากนั้นเลย​พยายาม​ค้นหาข้อมูล​การใช้ชีวิต​ข้างนอกและเส้นทางให้ได้มากที่สุด​ สังคมของโลกภายนอกต่างรู้จักพ่อแม่ของฉัน​ แต่ไม่มีใครรู้จักหรือรู้ว่าฉันมีตัวตนอยู่เลย​ด้วยซ้ำ​ แบบนี้ก็เข้าทางเราสิ

ครั้งล่าสุดที่ฉันได้ออกไปข้างนอกคือหลังจากรู้เรื่องพวกนั้น​ ฉันตั้งใจทำตัวเองตกบันได​และฟันหัก​ ด้วยความที่คลินิกเอกชนแถวนี้​หรือหมอที่ถูกจ้างมารักษาให้ไม่ได้เพราะเครื่องมือไม่ครบ​ พสกเขาจึงพาฉันไปรักษาที่โรงพยาบาล​ไกลออกไปอีก​ นั่นวิเศษ​มาก.. 

ซินเธียได้เรียน​ Aerial silks​ จนถึงอายุ18 วัยรุ่นที่กำลังอยู่ในวัยต่อต้านครอบครัว​ก็ได้เริ่มขึ้น​ 

"แบบนั้นแหละค่ะคุณ​หนู​ ใช้เท้าเกี่ยวผ้าอีกเส้นนึงค่ะ​ ..สูงไปรึเปล่าคะคุณซินเธีย​ ลงมาหน่อยค่ะ"

ตุ้บบบบบ! ​

"ว้ายยยยยยยย! เรียกรถพยาบาล!" 

แผนการของฉัน​ที่ต้องทำให้ตัวเองแขนหักจนผิดรูป​ คอมพลีทแล้ว​

เสียงรถพยาบาล​และเจ้าหน้าที่มาเคลื่อนตัวฉันออกไปโดยใช้เปล​ แน่นอนว่าฉันแกล้งเดินไม่ได้ด้วย​ พ่อกับแม่มีสีหน้าที่วิตกกังวล​ถึงขีดสุด​ ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นห่วงหรอกนะ​ เพราะกลัวคนอื่นรู้ว่าฉันเป็นผู้ชายต่างหาก.. 

"เจ็บ​ตรงไหนบ้างครับ" 

"แขนกับขา" 

"ซินเธีย​ เดี๋ยว​แม่ตามไปนะลูก​ พ่อ​หาผ้ามาคลุมตัวให้ลูกหน่อย" 

"พ่อจะรีบประชุมนะ" 

เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้ดูไม่มีใครสงสัยฉันเลยซักนิด​

หลังอยู่ในรถพยาบาล​แล้วแม่ก็ให้คนดูแลมาเฝ้าด้วยตลอดเวลา​ สาเหตุ​ที่ท่านไม่มาเองก็เพราะติดงานสำคัญ​ งานที่สำคัญกว่าลูกอะนะ​ ฉันไม่น้อยใจหรอกเพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว

ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาตัวฉันขึ้นรถ​ ฉันได้ให้ผู้หญิงในรถพยาบาล​คนนึงหยิบกระเป๋า​ที่เตรียมไว้มาให้ด้วย​ ในนั้นมีทั้งหมวกแก๊ป​และเสื้อผ้าสำหรับพลางตัว​ 

ซินเธียหลับตาตลอดทางเพื่อคำนวณ​เส้นทาง​ เขาเป็นคนฉลาดกว่าที่ใครๆคิด​ สกิลการเอาตัวรอดก็คงไม่แพ้กัน​ 

"ถึงโรงพยาบาล​แล้วครับ​ พอจะขยับตัวได้บ้างไหม" 

"ไม่ได้"

เส้นทางตามที่ฉันคิดไว้เป้ะ​ และชีวิตต่อจากนี้คือชีวิตที่ฉันต้องอยู่ด้วยตัวคนเดียว​

พวกหมอลากฉันมาเอ็กซ์เรย์เข้าเครื่องสแกน​ต่างๆนาๆ​ พบว่าจุดๆเดียวที่หักคือแขน​ ส่วยขาก็มีแต่รอย​ช้ำ​ 

"ขาปกติดีครับ​ อาจจะเคล็ดขัดยอก​ เราจะใส่เฝือกแค่แขนนะครับ"

ในหัวของฉันจดจ่ออยู่​กับการหนี​ แผนผังโรงพยาบาล​ที่เห็นมันต้องมีประตูตรงนั้นไม่ใช่หรอ

"ตรงนั้นไม่มีประตูหรอ" 

"อ๋อ​ ปิดไปแล้วครับ​ กั้นเป็นห้องเอกซเรย์​ใหม่​ ไปทราบมาจากไหนครับเนี่ย​ ปกติมีแต่หมอที่รู้"

​​​​​​"ก็เห็นๆว่ามันควรจะมีประตู​ คำนวณ​จากทิศทาง​น่ะ" 

หมอยิ้มให้แล้วไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก​ หลังใส่เฝือกเสร็จหมอๆก็แยกย้ายกันไปจัดการเอกสารและยา​ จนในห้องพักฟื้นมีแค่ซินเธียคนเดียว

​​​​​ออกไปกันหมดแล้ว​ ฉันลุกขึ้นตามทางที่หมอเดินไปแบบเงียบๆและหาที่เปลี่ยนชุด​ แต่เฝือกนี่ทำให้ฉันลำบากแหะ​ ..เจ็บมากด้วย​

ซินเธียหลบเข้าไปในห้องของผู้ป่วยคนแก่ติดเตียงคนนึงเขาทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่หมวก​และวิ่งออกทางประตูหลังไปอย่างแนบเนียน​โดยไม่มีใครสังเกตุเห็น

"แท็กซี่" 

โรงพยาบาล​นี่มันเงียบผิดปกติสุดๆ สมกับเป็นโรงพยาบาล​ที่ค่ารัก​ษาแพงเกินจริง​ นี่มันยุคเศรษฐกิจ​เงินเฟ้อค่าแรงต่ำค่าครองชีพ​สูง​สินะ​ 

"ไปลงไหนครับ" 

"ขับไปก่อน" 

ฉันพกกล้องของบลูมาด้วยและไม่ลืมที่จะถ่ายสภาพแวดล้อมตามทาง​ สุดยอดจริงๆ​ ถนนของจริง​ ตึกใหญ่บ้านเมือง​ จริงสิ​ 

"ไปลงที่ห้างสรรพสินค้า​ข้างหน้า" 

"ครับ" 

ใจฉันเต้นแรงมาก​ จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาเอง​ ฉันเป็นอิสระแล้ว.. แต่ต่อไปนี้คงต้องระวังตัวมากกว่าเดิม

"ถึงแล้วครับ​ 500​ บาท" 

ฉันพกเงินติดตัวมาเจ็ดแสนอยู่ในกระเป๋าสะพาย​ และแน่นอนว่าเงินจำนวนนี้มันอยู่ได้ไม่นาน​ ก่อนอื่นคงต้องซื้อโทรศัพท์​ก่อน​ จากนั้นก็.. ตัดผมกับย้อมสี​เป็นสีดำ

ซินเธีนรู้สึกเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งมาก​ เขาตัดผมประบ่าให้พอมัดรวบได้และย้อมสีดำสนิท​ เปลี่ยนเสื้อผ้าลุคการแต่งตัวใหม่ทั้งหมด​ 

หมดเงินไปกับตัวเองรวมถึงโทรศัพท์​ราวๆหนึ่งแสนบาท​ ตอนนี้​เหลือหกแสน​สำหรับที่พัก​ ฉันเปิดดูคอนโดฯดีๆหน่อยมันตกเดือนละสามหมื่น​ ส่วนอพาร์ทเม้นท์​เดือนละเจ็ดพัน​ แถมไม่น่าจะมีใครมาตามฉันในสถานที่แบบนั้น​ ฉันเลยตัดสินใจเลือกที่พักที่ถูกที่สุดเพื่อประหยัดงบด้วย​

ซินเธ​ี​ยเดินถือของเข้าตามซอกตรอกซอย​ ผ่านร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านที่เปิดเฉพาะกลางคืนต่างๆมากมาย​ และสายตาก็จับจ้องไปที่ป้ายที่ติดตรงผนังอย่างหลากหลาย​ สิ่งที่เขามองอย่างเดียวคือป้ายรับสมัครงาน

เดินมาจนถึงอพาร์ทเม้นท์​ เห็นป้ายรับสมัครงานเยอะมาก​ ฉันแกะมาป้ายนึงเขารับนักเต้น​ Aerial silks น่าสนใจที่สุดตั้งแต่ที่เห็นมา​ แต่แขนฉันไม่เอื้ออำนวย.. คงต้องประหยัดเงินกับระวังตัวเองจากคนที่บ้านไปอีกซักพักนึง​ พ่อแม่ฉันให้คนออกมาตามหาแน่นอน

"หนูใช่ไหมที่โทรมาเมื่อกี้" 

"ใช่" 

"จริงหรอเนี่ย​ ป้าไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิง​น่ารักๆแบบนี้มานานแล้วสะด้วย​ มาๆ​ เดี๋ยวป้าพาไปดูห้อง" 

เห้อ​ ผู้หญิง​อีกแล้ว.. 

"ห้องเป็นยังไงลูก​ อยู่ได้ไหม" 

สภาพห้องก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด​ มีมุมครัวแยกออกไปชัดเจน​ ห้องน้ำโอเคถึงจะโทรมไปหน่อย​ ฉันเลือกห้องที่อยู่ชั้นหก​ ป้าเค้าบอกว่าถ้าฝนตกหนักๆลิฟต์​อาจจะมีค้างบ้างแต่ไม่เป็นอันตราย​ ไม่อันตรายก็บ้าแล้วลิฟต์​ค้างตอนฝนตก​ นี่มันฝันร้ายชัดๆเลยไม่ใช่หรอ​ เอาเถอะ​ ก็ไม่ได้แย่.. 

"ฉันเอาห้องนี้แหละ" 

ทำการจ่ายเงินเรียบร้อย​ ต้องจัดห้องอีกเยอะเลยนะเนี่ย​ แต่ก็กลัวเงินจะหมดอีก​ ของดีๆถูกๆคงจะมี​ ไม่ชินเลยแหะ​ หัวใจฉันเต้นแรงตลอดเวลาเลยด้วย​ 

ก๊อก​ ก๊อก​ ก๊อก​ ก๊อก

ซินเธียรีบหลบและแอบส่องตาแมว​ เห็นเด็กผู้ชายน่ารุ่นราวคราวเดียว

​​​​​​"มีอะไร"

"ผมอยู่ห้องข้างๆ​ครับ​ ผมอยากจะเตือนอะไรหน่อย" 

ฉันเปิดประตูไปเผชิญหน้า​กับเขาตรงๆ​เพราะอยากรู้ว่าต้องการอะไรกันแน่ อีกอย่างศิลปะ​ป้องกัน​ตัวฉันก็มีนะ​ 

"ผมชื่อจูเลียต ทำไมถึงมาอยู่ชั้นหกละครับ​ ชั้นนี้มีแต่ผู้ชายนะ"

"...ฉันก็เป็นผู้ชาย"

เขาถลึงตาใส่ฉันเหมือนเห็นผี​ คนประเภท​นี้น่ารำคาญ​

​​​​​​"มีอะไรอีกไหม​ ถ้าไม่มีฉันขอตัว" 

ปังงง! 

จูเลียตยืนอึ้งโดยไม่มีอะไรจะพูด​ต่อ​ เขาเดินกลับห้อง​ตัวเองไปและจับหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองไปด้วย

ขอเขียนสกุลเงินเป็นบาทน้าา ง่ายดี​  แหะๆ​ เรื่องนี้จะออกดาร์กๆขมๆหน่อยๆ​ รอบทของพี่ลอว์หรือบลูได้เลย​ ดาร์กแน่นอนคนนี้​ ตอนหน้าจะรู้แล้วว่าเขาหายไปไหน​ ❤️

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!