ชายหนุ่มธรรมดาที่มีชื่อว่า ลูเซียส เขาไม่ได้เป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยอะไร หรือมีหน้าตาที่หล่อเหลาเรียกร้องให้คนอื่นมาสนใจเขา แต่เขากลับมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่แอบซ่อนไว้ โดยไม่คิดจะเปิดเผยให้ใครได้รู้..
จนกระทั่งวันหนึ่ง..แค่เพียงเขาหลับไหลไปในยามเย็นอันวุ่นวาย เพราะการทำงานที่หนักหนา มันเผาผลาญพลังกายของเขามากพอสมควร และนั่นคือจุดเปลี่ยนของชีวิต เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกที ก็กลับกลายเป็น ' คนพิเศษ ที่ไม่พิเศษ '
ในสายตาของ ครอบครัวซาวาดะ ยกเว้น ซาวาดะ นานะ ผู้ให้กำเนิดร่างกายใหม่ของเขาในโลกนี้ ถึงอย่างไร แม้กระทั่งตัวของเขาเอง ก็ยังไม่รู้ว่ามาที่โลกนี้ได้อย่างไร รู้เพียงแต่..ก่อนที่จะหลับลงไป เขาปราถนา ' อยากจะช่วยเหลือเธอคนนั้น '
ที่มีชื่อว่า มิอุระ ฮารุ และคงเป็นเพราะ พระเจ้าทรงรับฟังความปราถนาของเขา แต่เรื่องแบบนี้ ก็มักจะมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ โดยที่เขาเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย และยังไม่เคยได้ตอบตกลงเลยว่า เขาต้องการมาอยู่ในร่างของ ซาวาดะ สึยะเอกะ พี่ชายแท้ๆ ของ ซาวาดะ สึนะโยชิ หรือเปล่า?
ซึ่งลูเซียสก็ไม่มีสิทธิที่จะได้เลือกอะไรทั้งสิ้น สุดท้าย เขาก็จะต้องมาอาศัยอยู่ในร่างใหม่นี้ แต่มันจะราบรื่นขนาดนั้นเลยเหรอ? เพราะตัวเขานั้น ก็แปลกตั้งแต่เกิด และยังจะมีความสามารถที่แอบซ่อนไว้อีก นั่นทำให้ตัวตนของเขาส่งผลกระทบต่อร่างใหม่ในนาม ซาวาดะ สึยะเอกะ ทั้งความคิดที่ดีอยู่แล้ว ก็ดีขึ้นอีกโดยปริยาย รวมถึงความสามารถที่เกินวัย และพลังปริศนาที่ทำให้คนรอบข้างเกรงกลัว จนเขาถูกตีตราว่าเป็น ปีศาจแห่งวองโกเล่ ตั้งแต่แรกเริ่ม..นั่นจึงทำให้เขาจะต้องแยกจากครอบครัวซาวาดะตั้งแต่เด็ก
...___________________________________________...
ไม่ว่าครอบครัวจะเป็นยังไง ตัวของเขาจะมีฐานะอะไร และมี เลือดแสนสกปรก มากแค่ไหน..ความคิดที่อยากจะเปลี่ยนชะตากรรมของเธอผู้นั้น..มันกลับเปลี่ยนแปลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ว่าจะกระทำตั้งแต่แรกเริ่ม กลับดันกลายไปเปลี่ยนชะตากรรมของเธอคนนั้นแทน..
...' ซาซางาวะ เคียวโกะ '...
..._____________________________ ...
# ไรท์แค่แต่งเล่นๆเท่านั้นนะคะ¶~¶ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเนอะ! ในเรื่องนี้ ไรท์กำหนดให้ สึนะโยชิ เจ้าปลาทูน่าของเรา มีพี่ชายที่มาจากต่างโลกแล้วยังจะมีปมมากมายอีก! และพี่ชายคนนั้น ก็มีชื่อว่า ซาวาดะ สึยะเอกะ (พี่ชายของสึนะจะคล้ายวองโกเล่พรีโม่มากกว่าสึนะนะคะ!) และแน่นอนว่า...
ฮารุจัง และ เคียวโกะจัง จะต้องถูกตระกูลซาวาดะ ปั่นหัวใจในเรื่องความรักที่ทั้งหวานทั้งขม ผสมกันไปแน่นอตค่า! ใครจะลงเอยกับใครกันน้าาา~ หิๆ(≧▽≦)
...ไรท์ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ!...
ณ บริษัทแห่งหนึ่ง
ตึกสูงใหญ่ยักษ์ที่ตั้งเด่นตระหง่าน อยู่ใจกลางเมืองใหญ่ บรรยากาศภายในค่อนข้างจะดูวุ่นวายมากพอสมควร เพราะว่านี่คือเป็นบริษัทชื่อดัง แถมบรรยากาศภายนอกบริษัทเองก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ผู้คนที่ทำงานในบริษัทแห่งนี้ส่วนใหญ่ ก็ดูจะมีท่าทีที่มั่นอกมั่นใจเกือบทุกคน
ถ้าหากมองแค่เผินๆ อาจจะดูดีหรือดูหรูหรา เพราะทุกอย่างดูทันสมัยและเป็นระบบระเบียบ นอกเสียจากสถานที่นึงในบริษัทแห่งนี้..
"ไม่ใช่สิ! ต้องแบบนี้ต่างหาก ผมว่าเราควรใช้แผนสองดีกว่า!" ช1
"แบบนี้มันเสี่ยงเกินไป ถ้ายอดขายเราตกขึ้นมาล่ะ!" ญ1
มันดันมีเสียงเอะอะของเหล่าผู้คนในห้องประชุมใหญ่นี้ ที่กำลังถกเถียงกันไปกันมาในเรื่องของงาน อย่างเอาเป็นเอาตาย และต้นเสียงเอะอะนี่ ก็มาจากห้องประชุมที่ไร้ซึ่ง 'หัวหน้า' ที่ควรจะนั่งอยู่ตรงที่ประจำนี้
เพื่อที่จะได้ทำหน้าที่คอยนั่งไกล่เกลี่ยเรื่องงานต่างๆ รวมถึงให้ความคิดเห็นในเรื่องของข้อเสนอ แต่ที่ไม่มีหัวหน้าอยู่นััน มันก็เป็นเพราะว่า..
.....การประชุมมันจบลงไปตั้งนานแล้วนี่สิ.....
ตึก..
"....."
อย่างน้อยภายในห้องนี้ ก็ยังมีชายหนุ่มคนนึง ผู้ทำตัวเป็นอากาศไม่เข้าร่วมสงครามสนทนานี้ เขาพยายามทำตัวเองให้จืดจางเข้าไว้ เพื่อไม่ให้เป็นจุดเด่นระหว่างสงครามถกเถียงกันไปมาในห้องประชุมแห่งนี้
แกร๊ก!
นิ้วมือของเขาในตอนนี้เอง ก็กำลังลงมือพิมพ์งานต่อ อย่างไม่สนใจบรรยากาศที่อึกระทึกครึกโครมที่อยู่รอบๆด้านของตน..
"เฮ้ย!!! ลูเซียส! นี่แกคิดว่าไงบ้างวะ!! กับไอ้งานบ้านี่!"
แต่แล้วความสงบ และความที่เขาพยายามจะทำตัวเป็นธาตุอากาศก็หายไปอย่างง่ายดาย..
เมื่อมีสมาชิกคนนึง ในกลุ่มวงสนทนาเอ่ยถามขอความเห็นจาก ลูเซียส ชายหนุ่มลูกครึ่งรัสเซีย-ไทย ตัวเขานั้นก็ไม่มีอะไรโดดเด่น ราวกับว่าคำว่าลูกครึ่งมันไร้ความหมายสำหรับเขามาก เพราะเขาไม่รู้แม้กระทั่งภาษาอีกบ้านของตัวเองเลยสักนิด (ขั้นแยกไม่ออก) หน้าตาก็ไทยแท้ การงานก็พอถูๆไถๆได้ และเรื่องการเรียนที่ผ่านมาอย่าพูดถึงมันเลยจะดีกว่า..
"ไม่รู้"
"เหอะ! นายก็ไปถามผิดคน เจ้านี่มันรู้เรื่องอะไรบ้าง นอกจากการ์ตูนอะนิเมะเรื่องเดียว!!" ช2
"ไร้ประโยชน์จริงๆ.." ญ1
"ฉันเห็นด้วย หน้าตาก็งั้นๆ แถมยังเป็นลูกครึ่ง แต่ดันไม่มีเค้าโครงเชื้อสายอีกครึ่งเลยนี่..น่าเสียดายเนอะ" ญ2
เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นมาเรื่อยๆ คนในห้องก็เปลี่ยนบทสนทนาไปตามๆกัน ไม่สิ..หัวข้อสนทนาต่างหาก แต่มันก็ดีสำหรับลูเซียส ที่พวกคนบ้าๆนี่ ลดเสียงอันดังก้องที่แสนจะน่ารำคาญลงไปได้
เวลา 15.00 น.
ผมมีชื่อว่า ลูเซียส อายุของผมคือ 28 ปี ผมไม่มีลูกไม่มีภรรยา โสดยงคงกระพันครับ แล้วผมก็ทำงานอยู่ในบริษัทชื่อดังแห่งนึง บริษัทนี้มีชื่อเสียงมาก แถมการเข้ามาทำงานก็ยากสุดๆ เพราะคุณภาพที่ทางบริษัทเน้นกันอยู่
ทำให้ผมผ่านมาได้และได้ทำงานในบริษัทนี้ และหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวันๆ มิหนำซ้ำผมยังได้ฉายา ธาตุอากาศ ไปครอบครองด้วย
อ่อ..แล้วผมก็เป็นลูกครึ่งไทย-รัสเซีย แม่ของผมท่านเสียไปแล้ว ท่านเป็นคนไทย100% พ่อของผมเป็นรัสเซียแท้100% แต่ตอนนี้เขาก็มีครอบครัวใหม่แล้ว ส่วนผมที่ถูกทิ้งให้อยู่กับญาติๆ ตั้งแต่เด็ก โตมาก็จะต้องพึ่งพาตัวเองด้วยความสามารถอันน้อยนิดที่มีอยู่..(มั้ง)
ฟึบ..
ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ผมจะต้องหาอะไรดูเพื่อผ่อนคลายความเครียดรวมถึงอารมณ์ที่ขุ่นมัวในใจตอนนี้
และหลังจากที่ผมออกมาจากห้องประชุมได้ ผมก็ไม่ขอฟังเสียงเรียกร้องอะไรอีก คนพวกนั้นไม่มีค่าให้ผมสนใจหรอก และถ้าผมเป็นผู้หญิง..ผมคงจะไล่จิกหัวเจ้าพวกยัยปากปีจอพวกนั่นแล้ว แต่ผมเป็นชายผมก็จะต้องยอม เพราะผมก็ไม่อยากทำร้ายเพศแม่สักเท่าไหร่..
' ฮาฮิ!! คุณสึนะคะ!! '
พอผมเดินมาถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง ผมก็เปิดเข้าไปดูอะนิเมะที่ผมชอบ เชื่อไหมว่า..สายตาของผมมันจ้องมองหน้าจอคอมอย่างไม่ละเลย
และนี่แหละคือการผ่อนคลายของผม โดยการดูอะนิเมะ..การ์ตูนอะไรแบบนี้ และนี่ก็เป็นเรื่องเดียวที่ผมชอบ ครูพิเศษจอมป่วนรีบอร์น แล้วสิ่งที่ผมชอบที่สุด ก็คือผู้หญิงคนนี้ที่มีชื่อว่า มิอุระ ฮารุ
ผมแค่รู้สึกสงสารเธอในบางที ที่เธอเอาแต่ตามตื้อซาวาดะ สึนะโยชิ ทั้งที่เขาก็ไม่คิดจะเหลียวแลมองเธออย่างสนอกสนใจสักครั้ง..
มันน่าขำนะ ผมก็เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ ตอนที่ผมอายุ 19-20 ปี ผมเคยถูกหักอก คนที่ทำก็คืออดีตแฟนผมนี่แหละครับ คบกันมาตั้งแต่อายุ 18 ปี อุตส่าห์ตามตื้อตามจีบเป็นยังไงล่ะครับ? ตกกระป๋องไปเลยสิ..
' ฮารุชอบคุณสึนะที่สุดเลยค่า!! '
ผมดูต่อไป ก็อดไม่ได้ที่จะมองเห็นเป็นตัวเองในอดีต..แบบนี้สินะที่เขาเรียกกันว่า ถ้าคนมันใช่ ก็ไม่จำเป็นจะต้องพยายาม ..แต่นี่มันไม่ใช่ ก็ยังจะตามตื้อตามหลง จนมันกลายเป็นความสุขที่แสนเจ็บปวด..
"เฮ้อ.."
ผมอดทนดูไปอย่างนั้น ก็มีความรู้สึกอยากจะกระชากหัวพระเอกในเรื่องนี้ ถึงจะเป็นบอสมาเฟียแล้วมีหลายเมียได้ก็เถอะ แต่ผมไม่อยากจะให้ฮารุเป็นรองใครน่ะสิ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะช่วยเธอนะ..
"อ..เอ่อ ลูเซียสนายว่างใช่ไหม?"
"....."
ระหว่างที่ผมกำลังคิด ก็ดันมีเสียงของผู้หญิงหวานๆ เรียกผม ผมก็ทำเพียงแค่เหลือบสายตาไปมองเท่านั้น
นั่นก็ทำให้ผมได้เห็น ผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลและยังมีความเป็นลอนเพียงเล็กน้อย เธอเป็นพนักงานที่น่ารักและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนใบบริษัทนี้
ยกเว้นผม ถึงเธอจะแสนดีแต่ผมก็ไม่ถูกกับผู้หญิงประเภท อ่อนโยน อ่อนหวาน แบบนี้เลย มันเหมือนเป็นปมของผมล่ะมั้ง แต่เรื่องงานผมก็พอจะแยกแยะและจำใจทำได้ เฮ้อ..ส่วนผู้หญิงคนนี้เธอมีชื่อว่า ฟ้าใส
"อืม มีอะไรเหรอ?"
"คือว่า..ฉันอยากจะให้นายช่วยตรวจเอกสารนี้หน่อยน่ะ ด..ได้หรือเปล่า?"
ฟ้าใสยื่นเอกสารปึกหนามาให้ผม ทั้งที่เธอยังคงมีท่าทีที่ประหม่า เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลยเวลาที่เธอมาขอให้ผมช่วยเหลือ..
ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรออกไป กลับกันผมยอมสละเวลายื่นมือไปรับแฟ้มงานนั่นมา ท่ามกลางสายตาของคนในแผนกที่จ้องมองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ เพราะผมเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดีนวให้ฟ้าใสยังไงล่ะ
...' หึ..วุ่นวายชะมัด '...
"ขอบคุณนะลูเซียส ถ้าฉันไม่มีนาย..ฉันคงไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ.."
ฟ้าใสพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่แลดูเหนื่อยๆและซึ่งใจปะปนกันไป ผมเองก็ไม่พูดอะไรตอบกลับเธอไป และดูเหมือนฟ้าใสจะชินในการกระทำของผมแล้วด้วยสิ..
เพราะเธอถึงขั้นกลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามๆผม ดูจะไม่คิดมาแล้ว แถมยังก้มหน้าก้มตาตรวจสอบเอกสารที่เหลือต่อ เอกสารพวกนี้มันก็แค่งานยิบย่อยง่ายๆ แต่แผนกนี้มันทำให้ยากเอง..
มันก็จริงที่ฟ้าใสฮอต และไอ้ความฮอตนี่แหละทำให้เธอได้รับทั้งคนสนใจ มิตร โดยเฉพาะศัตรู วันนี้เธอก็จะต้องเอาเอกสารบ้าๆนี่ไปส่งให้หัวหน้า ด้วยตัวของเธอเอง
มิหนำซ้ำ..รายละเอียดทุกอย่างในเอกสารจะต้องเรียบร้อยนะ ไม่อย่างนั้นมันจะถูกตีกลับมา ด้วยเหตุผลบ้าๆ อย่างเช่น..แค่ผิดตัวเดียว หัวหน้าผมก็โวยวายเหมือนคนจะไม่มีโอกาสพูดอีกในวันพรุ่ง ผมก็ทำอะไรไม่ได้ อีกอย่าง..ผมก็ไม่อยากจะเสียงานด้วย
3 ชั่วโมงผ่านไป
"ลูเซียสให้ฉันเลี้ยงข้าวนายดีไหมวันนี้!^^"
"....."
3 ชั่วโมงหรือ..3 พันปีกันแน่ ตอนนี้ผมนั่งเหมือนคนจิตล่องลอยไปไกลแสนไกลแล้ส เพราะไอ้หัวหน้าบ้าบอนี่แหละ จู้จี้ชะมัด แถมยังจงใจจะแกล้งผมชัดๆ แต่มันคงเป็นเพราะฟ้าใสยังอยู่ด้วยกันกับผมเถอะนะ ผมถึงไม่ต้องถูกสั่งให้ทำงานเพิ่มเกินที่กำหนด..
เกือบจะล่มแล้วไหมล่ะ..ความสงบสุขของผม!!
"ไม่ล่ะ ฉันจะกลับบ้านก่อน.."
ลูเซียสรีบเก็บของอย่างว่องไว ราวกับว่าจะรีบหนีภัยธรรมชาติ ถึงอย่างไร..ใบหน้านั้นก็ยังคงนิ่งงันเช่นเดิม แม้ว่าในใจจะรู้สึกไม่สงบสักเท่าไหร่แล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังมีน้ำใจช่วยถือของให้กับฟ้าใสที่จะต้องเดินออกไปจากบริษัทนี้คนเดียว เพื่อรอคนที่บ้านมารับ..
"ถ้างั้น..ก็เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะลูเซียส^^"
ผมพยักหน้าตอบกลับไป พลางหันหลังเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ ส่วนฟ้าใสพ่อของเธอมารับทุกวันน่ะ ก็นะพ่อของเธอก็เป็นถึงคนใหญ่คนโต(แต่ลูกกลับไม่อยากจะมีฐานะแบบนั้น) แถมยังหวงเธอยิ่งกว่าไข่ในหินอีก ผมก็ไม่ได้ไปสุงสิงอะไรกับเธอมาก มีแค่เธอที่มายุ่งกับผมน่ะ ช่างเถอะ เฮ้อออ..
.
.
.
เวลา 18.30 น.
ตึก!..
ผมก้าวขาลงจากรถเมล์มาก็แทบจะทรุดตัวลงไปนอนกองกับพื้น วันนี้..ผมเหนื่อยมาก และอยากจะนอนพักผ่อนหรือดูอะนิเมะชิวๆ มันก็ได้ทั้งสองอย่าง
แต่เมื่อเท้าของผมเหยียบพื้นบ้านพักที่ผมเช่าอยู่และจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน แค่นั้นแหละครับ มันก็จะต้องมีเรื่องที่โครตเหนื่อยใจเข้ามาให้ผมต้องหปวดหัวอีก!!!
ผัวะ!!!!
"......"
นี่คือเสียงจากกำปั้นของผู้เป็นน้องชายของผมที่ประทานลงมาซัดเข้าที่ซีกหน้าขวาของผมเต็มๆ ผมยังไม่ได้พูดอะไรด้วยซ้ำ เฮ้อ..เกลียดจริงๆ โดยเฉพาะไอ้กลิ่นคาวเลือดนี่ ที่คลุ้งเต็มโพลงปากผมเลย..อ่าาา
.....ไอ้น้องเวรนี่.....
"นี่แกกล้าดียังไง! ถึงสะเออะไปยุ่งกับผู้หญิงของฉันน่ะห๊ะ!!"
ว่าแล้วมันก็มาชี้หน้าผมพร้อมกับตะคอกใส่ผมด้วยน้ำเสียงที่โครตไร้มารยาท แถมนี่ก็ยังเป็นจำพวกเรื่องเดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยในทุกวันนี้
"เฮ้อ.."
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วมองกลับไปหาไอ้น้องชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า เสียดายนะ ที่มันเกิดมาแล้วดันตรงข้ามกับผมทุกอย่าง ทั้งหน้าตาที่หล่อเหลาดูไม่รู้เลยว่าเป็นคนเอเชีย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าเสียดาย..นั่นก็คือ มันไม่มีสมอง อาวุธของน้องชายของผมคือการใช้หน้าตาให้เป็นประโยชน์ จนตอนนี้มันอายุ 25 ปี แล้ว สัตว์ในทุ่งนายังมีประโยชน์กว่าน้องของผมอีก
เพราะอะไรน่ะเหรอครับ? มันก็เป็นเพราะไอ้นี่มันเอาแต่เที่ยว เอาแต่ใช้เงิน เผาผลาญเงินของผมไปวันๆ ออ..แถมยังใช้กำลังกับพี่ชายที่คอยหาเงินมายัดปากยัดท้องของมันทุกวันด้วย..
"ผู้หญิงของแกเหรอ? อย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลย หรือถ้าแกยังไม่ตื่นก็รีบหันกลับเข้าห้องไปซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน.."
"เหอะ! คนอย่างแกจะทำอะไรฉันได้วะ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ทั้งหน้าตาทั้งสมองแกมันไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง! แล้วแกคิดเหรอว่าฟ้าใสจะเลือกคนอย่างแก!?"
ผมกลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย วันๆในหัวสมองของน้องผม มันก็มีแต่ผู้หญิงหรือไม่ก็ฟ้าใสที่มันหมายปองอยู่..
แล้วชื่อของเจ้านี่คือ ออสก้าร์ เป็นน้องแท้ๆอย่างที่บอกไป แล้วตอนนี้มันก็กำลังชี้หน้าพูดจาแย่ๆใส่ผมอยู่นี่แหละ แต่ผมสนเหรอ?
...' ไม่ '...
"โทษทีไม่ได้คิดว่ะ และขอโทษด้วยนะ ที่จริงแล้วสมองฉันมีดีกว่าแกเยอะ"
"แกว่าอะไรน--!!!?"
พลั่ก!!!
ผมเดินชนแขนของออสการ์ไป มันช่วยไม่ได้นี่ข้อหาที่เข้ามาขวางทางเดินผมเอง แน่นอนว่า..การที่ผมพูดออกไปแบบนั้น มันต้องแว้ดใส่ผมอยู่แล้ว ทุกวันที่มันกลับบ้านมา หรือผมกลับมา ผมก็ต้องมาเหนื่อยกับมันเนี่ยแหละ
.....ผมพูดเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วนะ.....
ปึง..
ผมปิดประตูห้องลง และโยนกระเป๋าเอกสารลงบนเตียง เหนื่อยเป็นบ้าเลย..
"เฮ้อออ"
ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอะนิเมะที่ผมชอบ อย่างน้อยมันก็ช่วยทำให้ผมผ่อนคลายได้ในอีกแบบน่ะนะ
' ฮาฮิ ขอโทษนะคะคุณสึนะ! '
ผมก็ไม่รู้ว่าผมเปิดดูเธอรอบที่เท่าไหร่แล้ว แต่ผมก็ยอมรับว่าผมชอบ มิอุระ ฮารุ จนลืมสเปคผู้หญิงทุกคนในชีวิตจริง..
และที่ผมชอบเธอ มันก็เป็นเพราะเธอมีความสดใสดุจดวงตะวัน ยิ้มแย้ม ขี้เล่น แปลกประหลาดแบบตลกน่ารัก แต่ก็มีเหตุผลเสมอ..ผมชอบเธอที่เป็นแบบนี้
ในใจก็อยากจะช่วยให้เธอได้สมหวังนะ..แต่ในเมื่อ ซาวาดะ สึนะโยชิ ไม่ใช่คนที่ชะตากำหนดให้เธอต้องอยู่เคียงคู่ด้วย ผมก็อยากเป็นคนที่ไปยืนอยู่ข้างๆเธอแทน..ผมก็พอจะรู้ว่า ความชอบที่มากจนเกินไป มันอาจจะไม่ดี แต่ผมก็ยังอยู่ในขอบเขต แยกแยะได้ มันคงจะตลกมากใช่ไหมนะ..
"......"
ระหว่างที่ผมดูอยู่ ผมก็รู้สึกเพลียขึ้นมากระทันหัน จริงๆ มันเพลียถึงขั้นจะหลับแล้วมันก็...
ฟุบ..
เปลือกตาของลูเซียสค่อยปิดลงอย่างช้าๆ เพราะความเหนื่อยล้าที่ถาโถมใส่เขา โทรศัพท์ที่วสงอยู่บนมือหนาก็ยังคงเล่นวีดีโอต่อไป จนเขาเข้าสู่การหลับไหลโดยสมบูรณ์
และสิ่งที่เขาพร่ำเพ้อ..ต้องการปราถนาที่อยากจะได้ ตอนนี้ในที่สุดก็มีคนรับฟังแล้วเขาแล้ว..
...' สักทีนะ '...
เพล้ง!!!!
___________________________________________
# หากมีข้อผิดพลาดตรงไหนไรท์ต้องขออภัยด้วยนะคะ!!^^
' คุณดูสิลูกหลับปุ๋ยเลย~ '
ผมขมวดคิ้วมุ่นนิดหน่อย เมื่อได้ยินเสียงของผู้หญิงที่เรียก ลูก เดี๋ยว อ..อะไรลูกๆนะ ผมก็ต้องแปลกใจสิที่ผมได้ยินแบบนี้ ที่บ้านของผมก็ไม่มีผู้หญิงอยู่อาศัยสักคน แล้วแม่ของผมท่านก็เสียไปแล้วนะ สรุปแล้วคนที่เรียกนี่คือ ใครล่ะ?หรือผมหูฝาดไป..
' 5555+ เจ้าลูกชาย! '
"!!!!!"
โอเค..ส่วนเสียงนี่มันดูออกจะทุ้มๆ (หนักมาก) มันจะต้องเป็นเสียงของผู้ชายแน่นอน แถมเสียงนี่มันก็ดังก้องซะเต็มหูผมเลย(-_-;)
ฟึบ..!!
ผมรีบลืมตาขึ้นมาทันที เพราะผมตกใจกับเจ้าเสียงอันดังเข้มของชายปริศนานี้ แต่แล้วผมก็ต้องถึงกับช็อก พอลืมตาขึ้นมาได้เห็นสิ่งแปลกใหม่รอบด้านทั้งหมด ผมก็รู้สึกเหมือนโลกของผมมันหยุดหมุนไปชั่วขณะเลย แต่น่าเสียดายนะ ที่คำพูดพวกนั้น ที่ผมได้ยินมันไม่ได้หมายถึงผม..
"สึยะ ตื่นแล้วเหรอลูก เจ้าเด็กขี้เซาลูกหลับบ่อยนะช่วงนี้^^"
"!!!!!"
ผมสตั้นหยุดค้างไปเหมือนกับคนเจอผี แต่ข้างหน้าผมไม่ใช่ผีหรอก กลับเป็นผู้หญิงผมสีน้ำตาลเข้มยาวถึงกลางหลัง ดวงตากลมโตนัยน์ตาสีเดียวกับเรือนผม สวมชุดไปรเวทสบายๆ แต่ว่า..ที่ผมช็อกก็เพราะคนตรงหน้าผม คือ ซาวาดะ นานะ!!! อ๊ากกก! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
"หืม? เป็นอะไรไปน่ะ ซือคุง?"
ห้ะ!? ห้ะ..เรียกใครครับ?? ใครคือ ซือคุง!!! อ๊ากกกก!! ผมจะหัวใจวายตายแล้วนะ! นี่ผมชอบมากเกินไปจนเก็บเอามาฝันถึงแบบจริงๆ ไม่สิ! สมจริงแบบนี้เลยเหรอ!! บรรยากาศ คำพูด ทุกอย่างที่ผมเห็นผมรับรู้ มันเหมือนกับว่าผมได้มาอยู่ที่นี่จริงๆเลย!!
แหมะ..
"0-0!?"
ผมชะงักไป เมื่อมีมือเรียวนุ่มๆ เอื่อมมาสัมผัสที่หน้าผากของผม ผมได้แต่มองนานะผู้เป็น แม่ ของซาวาดะ สึนะโยชิ เธอมีสีหน้าที่ดูเป็นห่วงผมมาก แต่ว่ายังไง? อะไรกัส? มันเกิดอะไรขึ้น!!!
"ก็ไม่มีไข้นี่น่า คุณคะ! ฉันควรพาสึยะไปหาหมอดีไหม?"
ขวับ!!
ผมหันไปมองตามนานะ ที่มองไปยังด้านข้างของผม ก็พบกับชายผมสีบรอนซ์ทอง ร่างสูงกำยำ ใส่เสื้อกล้าม กางเกงสีดำยาวถึงเข่า เป็นชุดไปรเวทที่โครตจะสบาย ผมยิ่งช็อกไปอีก เพราะเขาคือ ซาวาดะ อิเอมิสึ พ่อของสึนะ แต่ว่า..
"ไม่ต้องหรอก.."
ทำไมเขาถึง..มองผมด้วยสายตาที่ดูไม่อยากจะสนใจแบบนั้นล่ะ? นั่นแหละที่ผมสงสัยที่สุด ส่วนนานะเธอก็ไม่พูดอะไรได้แต่นั่งลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน..
ผมก้มหน้างุดแล้วมองมือตัวเองที่เล็กป้อม นี่ไม่ใช่ความฝันหรอกเหรอ..มันเหมือนจริงมากเสียจนจะคิดว่าเป็นความฝันได้ยาก ทั้งสัมผัสและความอบอุ่นของนานะ มันเหมือนจริงทุกอย่าง แล้วมันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้กันแน่นะ..
แวบบ!!!
แต่แล้วก็เหมือนมีใครมาฉายไฟความทรงจำใส่ผม ผมถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บอย่างชัดเจน ปวดหัว..ชะมัด!!!
"ซือคุง เป็นอะไรไปลูก!?"
ผมรีบส่ายหน้าไปให้นานะ ผมไม่คิดจะพูดอะไรต่อจากนี้ด้วย เพราะมันกำลังมีบางอย่างไหลเข้ามาในหัวของผม..มันเป็นความทรงจำที่ถูกสร้างขึ้นโดยใครบางคนที่ผมไม่รู้ว่าใคร? แต่ผมมั่นใจได้เลยว่า มันจะต้องเกิดขึ้นโดยความตั้งใจของใครสักคนเป็นแน่..
' อิเอมิสึ ลูกชายคนแรกของนาย..จะนำพาวองโกเล่ไปสู่หายนะ.. '
' หมายความว่ายังไงครับรุ่นที่ 9 '
' เลือดที่สกปรก..ตราบาปของวองโกเล่..ถูกจารึกไว้ในเด็กคนนี้ตั้งแต่เกิด.. '
' หมายความว่ายังไงแน่... '
' ถ้าเด็กคนนี้อายุ 5 ขวบเมื่อไหร่ นายมีหน้าที่ส่งมาให้ฉัน ไม่ต้องห่วงฉันจะจัดการต่อจากนี้เอง '
ผมไม่รู้ว่ามันเป็นความทรงจำบ้าอะไร แต่ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ตอนนี้ผมลองดูคร่าวๆแล้ว ผมก็น่าจะ 5 ขวบ เอ่อ..หมายถึงร่างนี้นะครับ
แต่ว่า ตราบาป เลือดสกปรก มันหมายความว่ายังไงกัน? จากที่ผมลองนั่งคิดดูอยู่นั้น ตอนนี้ผมมาอยู่ในโลกที่ผมปรารถนา แต่ดันกลายเป็น..คนในตระกูล ซาวาดะ งั้นก็หมายความว่า..ผมก็เกิดใหม่เป็นพี่หรือไม่ก็น้องชายของสึนะสินะ..แต่ดูท่าแล้วผมน่าจะเป็นพี่เพราะ..
"สึยะลูกดูแลน้องให้แม่ด้วยนะ^^"
ชัดเจนเลยครับ ผมพยักหน้าตอบกลับนานะไปอีกครั้ง แต่ผมก็ไม่พูดไม่จาอะไรนอกจากก้มหน้าลงไปมองสึนะ..ในวัยเด็กที่อายุ 3-4 ขวบ ที่กำลังหลับปุ๋ยในที่นอนนุ่มอย่างดี
แค่นั้น..ผมก็รู้สึกว่าร่างนี้หรือก็คือผม กลายเป็นเป็นส่วนเกิน เพราะในความทรงจำที่ไหลรินเข้ามา อิเอมิสึ ไม่เคยเห็นผมเป็นลูกชายเลยตั้งแต่รู้ว่าผมมีบางอย่างซ่อนไว้ในตัว..
และทุกครั้งที่เขาอยากจะแยกผมออกจากนานะ ก็มักจะนำพาความพินาศมาให้ นานะเกือบตายเพราะผมในบางที..นั่นอาจจะทำให้อิเอมิสึเกลียดผมหรือไม่ชอบผม..ผมก็ไม่อยากจะลงคะแนนความเชื่อเท่าไหร่ เพราะผมยังไม่รู้เบื้องหลังที่ชัดเจนกว่านี้
"เฮ้อออ แล้วกระจกอยู่ไหนนะ.."
ผมเลือกที่จะสลัดเรื่องนี้ออกไปจากหัวก่อน แล้วค่อยๆ มองสำรวจรอบบริเวณที่ผมยืนอยู่ สถานที่นี้คือส่วนของห้องรับแขก..ทุกอย่างเป็นแบบในอะนิเมะเป๊ะ และนี่ก็คือบ้านของสึนะ1000% ตรงแบบทุกอย่างจริงๆ
ตอนนี้ผมก็เลือกที่จะมองหากระจก สุดท้ายผมก็เจอเพียงแค่กระจกจากบานประตูเลื่อนเท่านั้น มันก็พอจะสะท้อนให้เห็นถึงตัวผมได้ พอเลยผมเดินเข้าไปใกล้ๆ นั่นก็จริง ผมได้เห็นภาพก็สะท้อนลางๆ แล้วที่มากกว่านั้นคือ..ผมเห็นเด็กชายวัย 5-6 ขวบ..
เด็กชายที่มีเรือนผมสีทองบรอนซ์อ่อน ฟูเป็นเอกลักษณ์ไม่ดูยุ่งเหยิง ผมข้างหน้าดูยาวกว่าสึนะด้วยนิดหน่อย แต่ว่า..ตาผมจะคมไปไหนนะ ไม่ใช่เด็กน่ารักแต่เหมือน..เด็กเย็นชาเสียมากกว่า..
เพราะดูจากดวงตาที่ดูคม..นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนๆ ใบหน้าก็ออกหล่อแต่เด็ก เดี๋ยว!!! นี่มันตรงข้ามกับผมในอีกโลกเลยนี่!!! เฮ้ยย!! เอาเบ้าหน้าเดิมผมคืนมา!!! อีกอย่างผมโครตจะเหมือนวองโกเล่พรีโม่เลย-_- ทั้งเบ้าหน้า แววตา หล่อเหลาราวกับถูกแปะปั้นมาอย่างดี
"ชิ.."
แต่ผมก็รู้สึกไม่พอใจ ผมคิดว่ามีอะไรแปลกไปอีกเยอะในตัวผม..ที่ได้ชื่อว่า ซาวาดะ สึยะเอกะ แถมผมยังรู้สึกได้อีกว่าทั้งความคิด การจดจำ การเรียนรู้ มันดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ทั้งที่ผมคิดว่าตัวเองเก่งมากแล้ว..พอมาโลกนี้เหมือนคนตรัสรู้ได้ยันโลกหน้า
ผมไม่อยากเป็นแบบนี้นะ อุตส่าห์จะแสร้งทำเป็นโง่ สุดท้ายก็แสร้งทำไม่ได้ คงจะต้องควักมันออกมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด..และเรื่องร่างกายนี้มันก็แข็งแรงดี ไม่มีอะไรขาดตกไป ส่วนเรื่องแรงหรือพละกำลัง ร่างนี้ก็ยังขาด แต่ผมไม่เคยคิดใช้กำลังกับใครเลยนะ แล้วผมก็เคยได้ฉายาว่า ไอ้ไก่อ่อน ไม่ก็ ก้างปลา จริงๆ..
ผมเคยจิกหัวเพื่อนผู้ชายของน้องชายผม ทุ่มลงกับกำแพงของตึกอาคารก่อสร้างจนร้าว ข้อหาพาน้องผมเสพยา ตอนนั้น..ผมก็ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองมีแรงเยอะขนาดนี้ ดีที่ผมแก้ไขเรื่องบ้านั่นได้ทัน และโบ้ยความผิดไปให้พวกมัน ออกจะชั่วไปหน่อยแต่มันก็ชั่วกว่าผมน่ะนะ^^
"พี่สึยะ.."
ผมชะงักไปเล็กน้อย และค่อยๆหันไปมองตามต้นเสียงก็พบว่า..สึนะตื่นแล้ว แถมเจ้าตัวยังมานั่งขยี้ตาอย่างงัวเงียอีก ผมก็ไม่พูดอะไร เดินไปหาและหยิบแก้วที่มีนมอุ่นๆอยู่ ยื่นให้กับสึนะไป
"ข..ขอบคุณฮะ"
"......"
อิเอมิสึยืนมองสึยะที่กำลังมองดูสึนะดื่มนมอยู่ แววตานั้นแสนจะเรียบเฉย..ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่ และนั่นยังเป็นแววตาที่เด็กอายุ 5-6 ขวบ แสดงออกมางั้นเหรอ?
ยิ่งเวลาผ่านไป สึนะก็เริ่มจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในสายตาของอิเอมิสึ เพราะสึยะดูจะมีท่าทีที่เย็นชาไม่พูดไม่จา จนกระทั่งวันนี้พอลืมตาตื่นก็ดูเป็นคนละคนไปอีก ดูนิ่ง ดูเฉย ไม่เอะอะไม่โวยวาย ไม่ร้องเรียกความสนใจเหมือนแต่ก่อน..
ผมเหลือบไปมองอิเอมิสึ ก่อนที่ผมจะมาเป็นสึยะ..เขาสังเกตพฤติกรรมของสึยะอยู่ห่างๆ เสมอ แถมสึยะในความทรงจำของผม ก็แทบไม่รู้เรื่องเลย และแน่นอนว่าก็เป็นเด็กปกติที่ต้องการความรักความอบอุ่นจากครอบครัว เหมือนเด็กทั่วไป
แต่ที่อิเอมิสึ แสดงท่าทีแบบนี้ มันก็เป็นเพราะว่า..ในตัวของสึยะมีสายเลือดสกปรกที่สืบทอดมาให้สึยะคนเดียว และแน่นอนว่ามันไม่เป็นผลที่ดีแน่..อิเอมิสึก็จะระวังเป็นพิเศษ ระวังลูกตัวเองที่ไม่รู้เรื่องอะไร..
ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ยังมีอีกเยอะในความทรงจำที่ไหลเข้ามา แต่ผมคงจะต้องใช้เวลาในการเรียบเรียงทุกอย่าง..
"สึยะ พรุ่งนี้เราจะไปอิตาลีกัน ลูกจะไม่งอแงใช่ไหม^^"
ผมเงยมองอิเอมิสึ ที่เดินเข้ามาหาทั้งผมรอยยิ้มที่ช่างฝืนทนนี่ ผมก็หบุดนิ่งไปครู่นึง การที่เขาพูดแบบนี้นั้นก็หมายความว่า..เขาจะส่งตัวผมไปอยู่ที่วองโกเล่ และไปอยู่กับคนที่บอกว่าผม..จะนำหายนะมาสู่วองโกเล่
...' วองโกเล่ รุ่นที่9 โนโน่ '...
"ผม.."
อิเอมิสึมองผมนิ่ง ถ้าผมไป..ผมก็จะต้องเป็นมาเฟียตั้งแต่เด็กน่ะสื แต่ว่าผม..ต้องการความสงบ แต่ในโลกนี้คงไม่มีอีกแล้วความสงบสุขที่ว่า เพราะถึงแม้ว่าผมจะปฎิเสธไป..พวกเขาก็ต้องพยายามจะพาผมไปอยู่ดี..ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่จงรู้ไว้ว่า..ผมจะไม่ตายแน่นอน!
"ครับ.."
อิเอมิสึพอใจที่สึยะไม่ดื้อรั้น สึยะรักที่นี่มากไม่อยากจากไปไหน กว่าจะเกลี้ยกล่อมแต่ละทีร้องไห้แทบเป็นแทบตาย..แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะคิดได้บ้าง ในสายตาของอิเอมิสึ ก็มีเพียงแค่ครึ่งที่นับว่าสึยะยังเป็นลูกแท้ๆ..แต่ในอนาคตก็ยังคงเดาทางไม่ได้ว่า เจ้าลูกคนนี้ที่ถูกตีตราเป็นแบบนั้น..จะเป็นยังไงต่อ
.
.
.
.
.
.
ตกเย็นเสียงของนานะและอิเอมิสึที่เริ่มพูดคุยกันกับสึนะดูสนุกสนานมาก และน่าครึกครื้นพอสมควร มีเพียงเด็กหนุ่มคนเดียวที่นั่งอยู่อีกโซนของห้องที่ถูกกั้นไว้ ไม่เข้าร่วมวงสนทนา และกำลังจมกับความคิดของตัวเองอยู่..
"......."
ผมก็ยังคงนั่งถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา แต่แล้วยังไง? ถ้าผมเกิดมาแล้ว และมาเป็นพี่ชายของ ซาวาดะ สึนะโยชิ ผมก็จะต้อง..ปรับตัว ให้เข้ากับโลกนี้และสถานะของตัวเองให้ได้
ส่วนโลกที่ผมเคยอยู่ ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง..ตัวผมที่นั่นจะอยู่ในสภาพไหน? จะมีใครเป็นห่วงผมไหม? แต่คำตอบของคำถามข้อนี้ ไม่น่าจะมีใครตอบผมได้
เพราะแค่ในโลกใบนั้น...ผมก็เป็นได้แค่ธาตุอากาศ เป็นได้แค่หัวข้อบทสนทนาแง่ลบและ ตัวตลก
"สึยะลูก ได้เวลาทานอาหารเย็นแล้วนะจ๊ะ^^!"
ผมค่อยๆหันไปมองนานะที่ยืนอยู่ข้างๆ ประตูห้อง ผมก็ยันตัวลุกขึ้นจากเบาะรองนั่งนี่ และเดินเข้าไปหาเธอ แต่รู้ไหม..
สิ่งที่ผมกำลังจะเตรียมใจและเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ มันดันเข้ามาหาผมอย่างกระทันหัน..
"อ้าว! สึยะมาพอดีเลย มาทักทายปู่ของลูกหน่อยสิ^^"
"!!!"
ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นรุ่นที่ 9 ชายชราที่กำลังส่งยิ้มมาให้ผม อิเอมิสึยังคงยิ้มระรื่นอยู่อย่างปกปิดไม่มิด ส่วนผมได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ..
เดี๋ยวนะ นี่มันอะไรกัน?..พอผมมาปุ๊บจะให้ผมไปเลยเหรอ? ผมยังไม่ได้ทำความรู้จักกับที่นี่เลยนะ ยังไม่ได้เห็นเธอเลยด้วยซ้ำ แล้วยังไม่ได้ทำตามที่ตัวเองหวังเลย แบบนี้มัน..
...' เร่งรัดกันชัดๆ!!! '...
"พรุ่งนี้..ไม่ใช่เหรอครับ"
"ฮ่ะๆ อิเอมิสึ นี่นายคงยังไม่ได้บอกสินะ^^"
"ครับ ผมยังไม่ได้บอก.."
ผมขมวดคิ้วและจับมือของนานะแน่น เธอยิ้มให้ผมและคิดว่าผมคงจะตื่นเต้นที่จะได้ไปอยู่อิตาลี นั่นคงเป็นสิ่งที่เธอเห็นและคิดแต่จริงๆ ผมกำลังตื่นตระหนกอยู่ต่างหาก!!! ผมไม่ได้อยากไปตอนนี้!!
"พรุ่งนี้..ลูกต้องถึงอิตาลีนะสึยะ"
ผมรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถึงผมจะเคยฝันว่าอยากไปเที่ยวอิตาลีสักครั้ง แต่ก็ไม่ใช่อย่างนี้สิและในสถานะนี้ด้วย ผมไม่โอเคเลยสักนิด..
แล้วพอผมได้มาอยู่ที่นี่อะไรๆ มันก็ชวนพาให้สับสนวุ่นวายไปหมด ผมยังคงกลัวและตกใจไม่น้อย แต่ความรู้สึกพวกนี้ผมไม่เคยแสดงออกมาให้ใครได้เห็น เพราะมันเป็นความเคยชินของผมไปแล้ว..
"ครับ.."
ในเวลานี้..ผมทำได้แค่ตอบรับกลับไปเท่านั้น ผมก็ขอสัญญาพร้อมกับสาบานด้วยว่า ผมจะกลับมาที่นี่..นามิโมริ เพื่อจะเจอเธอให้ได้ ใครที่คิดขัดขวาง ผมจะไม่ปรานีทั้งสิ้น
เพราะการที่ผมมาที่นี่ได้..ผมคิดว่ามันคงจะเป็นความปราถนาของผม แต่ก็อยากจะแย้งไอ้คนที่พาผมมาที่นี่เหลือเกิน ว่าทำไม!? จะต้องพาให้ผมมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย!!!!
________________________________________
# **ไรท์ขออนุญาตพิมพ์ชื่อย่อของสึยะว่า ' ซือคุง ' นะคะ! ส่วนสึนะไรท์ก็จะพิมพ์ว่า ' สึคุง ' เหมือนเดิมค่ะ!
# บางทีก็สงสารสึยะนะคะ พึ่งมาโลกใหม่ได้ไม่กี่นาทีก็จะต้องถูกจับแยกกับครอบครัวที่ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักเลย**¶~¶
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!