ในยุคของสามก๊กนั้นเป็นยุคที่มีการนองเลือดมากที่สุดในประวัติศาสตร์จีนมีการตอสุ้กันเกือบตลอดเวลาและในยุคของสามก๊กนั้นได้มีการเกิดระบบทางการแพทย์แผนจีนมามากมาย เช่น เกิดหนังสือหวงตี้เน่ยจิงขึ้น กล่าวถึงวิชาทางการแพทย์มากมาย เช่น ทฤษฎีหยินหยาง ธาตุทั้งห้า จะประกอบไปด้วย ดิน นํ้า ลม ไฟ ไม้ ตลอดจนการป้องกันและการรักษา สาเหตุของอาการและโรค การฝังเข็มและการรมยา
ฉันชื่อว่าเสี่ยวไป๋ ฉันชอบศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนในสมัยสามก๊กและตนนี้ฉันเรียนคณะการแพทย์แผนจีนอยู่ จึงทำให้รู้ว่าในสมัยสามก๊กนั้นเกิดเรื่องขึ้นมากมายไม่ว่าจะในด้านการรบ การรักษาหรือด้านการเมืองในสมัยนั้นมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ในปกติทุกวันฉันชอบไปห้องสมุดที่มหาวิทยาลัยเพื่อทำการศึกษาสมัยนั้นว่ามีการเกิดอะไรขึ้นบ้างในยุคนั้นแล้วจู่ๆวันหนึ่งฉันก็ได้ไปแตะต้องหนังสือโบราณที่ไม่ควรจะแตะ มันเป็นหนังสือโบราณที่ฉันไม่เคยเห็นฉันเจอมันครั้งแรกนั้นก็รู้สึกว่าเหมือนต้องมนตร์เข้าทำให้รู้สึกว่าอยากอ่านหนังสือเล่มนั้นเป็นอย่างมากแต่พอฉันเปิดหนังสือเล่มนั้นเข้าไปกลับเป็นหนังสือที่ว่างเปล่าซึ่งฉันนั้นแปลกใจเป็นอย่างมากว่าไม่มีอะไรเขียนเลยจนกระทั่งฉันเปิดไปหลายหน้าแล้วก็มีแสงขึ้นมาจากตรงกลางของหนังสือทำให้ฉันตกใจเป็นอย่างมากและมันก็ดูดตัวฉันเข้าไปในหนังสือทำให้ฉันไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตัวเองเห็นกับตาเลยนั้นก็คือฉันได้เข้ามาสู่ในยุคสามก๊กแล้วฉันตกใจมากในการเข้ามาสู่ยุคนี้เพราะว่าเป็นยุคที่อันตรายมากที่สุดเป็นยุคแห่งสงครามฉันนึกในใจว่าฉันต้องสามารถเอาขีวิตรอดกลับไปให้ได้ในยุคที่มีแต่สงครามซึ่งจุดที่ฉันนั้นได้ปรากฎนั้นคือฉันปรากฎที่ป่าและได้เจอกับคุณยายคนหนึ่ง........
#เรื่องราวของเสี่ยวไป๋นั้นจะเป็นยังไงต่อฝากติดตามด้วยนะค่ะ......ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ.....ขอบคุณที่ติดตามผลงานค่ะ#
บทที่ 2 เอาชีวิตรอด
ตอนที่เสี่ยวไป๋มาห้องสมุดที่มหาวิทยาลัยนั้นตอนเช้าเสี่ยวไป๋ยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาเลยและตอนนี้ได้เข้ามาในยุคของสามก๊กเสี่ยวไป๋นั้นหิวมากจนกระทั่ง……
----------ระหว่างเดินไปด้วยความหิวโหยนั้นฉันก็ได้เจอกับคุณยายคนหนึ่งฉันจึงเดินเข้าไปทักทายคุณยาย-----------
เสี่ยวไป๋พูด “สวัสดีค่ะ คุณยาย “
คุณยายก็หันกลับมามองแล้วก็พูดว่า”สวัสดีจ๊ะ นี้มันในป่าหนูมาทำอะไรที่นี้หรอจ๊ะแล้วเสื้อผ้าของหนูนี้ดูแปลกตามาเลยเป็นคนต่างถิ่นหรอ”
เสี่ยวไป๋พูด”อ๋อใช่ค่ะ หนูเป็นคนต่างถิ่น พอดีหนูหลงทางนะค่ะ คุณยายค่ะ พอดีตอนนี้หนูหิวมากเลยคุณยายมีอะไรให้หนูกินหน่อยไหมค่ะ”
คุณยายก็ตอบกลับมาว่า”บ้านยายอยู่แถวๆนี้หนูจะไปบ้านยายไหมละเดี๋ยวยายทำของกินอร่อยๆให้กิน“
เสี่ยวไป๋เลยตอบกลับคุณยายว่า “ขอบคุณมากเลยค่ะคุณยายถ้าหนูไม่เจอคุณยายหนูต้องแย่เลยค่ะ”
------ระหว่างเดินทางไปบ้านคุณยายนั้นก็ได้พบกับผู้ชายที่บาดเจ็บเสี่ยวไป๋กับคุณยายก็เลยตัดสินใจพาผู้ชายคนนั้นกลับไปบ้านของคุณยาย------
เมื่อถึงบ้านของคุณยายเสี่ยวไป๋ก็ได้แบกผู้ชายคนนั้นไปวางไว้บนเตียงของคุณยายหลังจากนั้นเสี่ยวไป๋กับคุณยายก็ได้ทำแผลให้ผู้ชายคนนั้นแต่ทว่าแผลของเขานั้นเป็นแผลที่ลึกมากและเลือดยังไหลตลอดเวลาดังนั้นคุณยายเลยพูดกับฉันว่า “เดี๋ยวยายไปหาสมุนไพรห้ามเลือดก่อนนะหนูอยู่เฝ้าเขาที่นี้แหละเดี๋ยวยายก็กลับมา”
เสี่ยวไป๋เลยตอบคุณยายกลับว่า “อ๋อค่ะคุณยายงั้นเดี๋ยวหนูรอคุณยายอยู่ที่บ้านนะค่ะ”
หลังผ่านไปครึ่งชั่วยามคุณยายก็กลับมาพร้อมกับสมุนไพรที่เก็บมาจากในป่า(ครึ่งชั่วยามเท่ากับหนึ่งชั่วโมง)จากนั้นเสี่ยวไป๋ก็ได้ช่วยคุณยายตำสมุนไพรและนำไปพอกให้ผู้ชายคนนั้น หลังจากพอกเสร็จแล้วคุณยายก็ได้เรียกเสี่ยวไป๋มากินบะหมี่ที่คุณยายทำ เสี่ยวไป๋รู้สึกว่าบะหมี่ถ้วยนี้ถึงแม้ว่ามันจะดูเรียบง่ายแต่มันอร่อยเป็นอย่างมากหรือว่าเป็นเพราะเสี่ยวไป๋หิวมากเกินไปก็อาจเป็นไปได้
คุณยายถามฉันว่า “บะหมี่อร่อยไหม ถูกปากหนูหรือเปล่า”
เสี่ยวไป๋เลยตอบคุณยายกลับว่า “อร่อยมากค่ะ หนูชอบมาก”
คุณยายเลยพูดว่า “ถ้าอร่อยงั้นก็ดีแล้ว คืนนี้หนูจะค้างที่บ้านคุณยายไหมเพราะว่าตอนนี้มันก็เย็นแล้วเดินป่าคนเดียวตอนกลางคืนค่อนข้างอันตรายนะ”
เสี่ยวไป๋เลยตอบคุณยายกลับว่า “ค้างค่ะ หนูขอบคุณ คุณยายมากเลยนะค่ะทั้งทำอาหารอร่อยๆให้กินและยังให้หนูมานอนค้างที่บ้านของคุณยายอีก”
คุณยายเลยตอบกลับว่า “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะหนูยายอยู่คนเดียวก็เหงาอยู่เหมือนกันมีหนูคอยคุยกับยายทำให้ยายรู้สึกไม่เหงาแล้ว”
เสี่ยวไป๋เลยพูดว่า “คุณยายก็อายุมากแล้วทำไหมมาอยู่ในป่าคนเดียวละค่ะ แล้วคุณยายไม่มีลูกหรอค่ะ”
คุณยายเลยตอบกลับว่า “อ๋อ ยายชอบความสงบนะในเมืองมันวุ่นวายเกินไปยายไม่ชอบนะแล้วยายก็มีลูกชายอยู่สองคน คนโตไปเป็นทหารอยู่ในเมืองนานๆจะมาเยี่ยมยายสักครั้ง ส่วนคนน้องนะหรอ เฮ้อ เห็นบอกว่าจะไปทำการค้าในเมืองตอนนี้ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างนะ”
เสี่ยวไป๋เลยพูดว่า “หนูขอโทษค่ะคุณยาย หนุไม่ได้จะทำให้คุณยายรู้สึกไม่ดีนะค่ะ”
คุณยายเลยตอบกลับว่า “ไม่เป็นไรหรอก ยายชินแล้ว นี้ก็ดึกแล้วงั้นยายไปนอนก่อนนะ”
เสี่ยวไป๋เลยตอบกลับคุณยายว่า “ฝันดีนะค่ะคุณยาย”
หลังจากที่เสี่ยวไป๋และคุณยายหลับนั้นผู้ชายคนนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกตัวจนกระทั่งช่วงรุ่งสางเขานั้นได้ลุกขึ้นมานั่งแล้วก็ไอจนทำให้ฉันตื่น เสี่ยวไป๋เลยมาดูผู้ชายคนนั้นว่าเป็นอย่างไรบ้างผู้ชายคนนั้นเขาเห็นฉันจึงได้ถามฉันว่า “ที่นี่ที่ไหน คุณเป็นใคร ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี้ได้ ผมจำได้ว่าผมบาดเจ็บหนักแล้วหลังจากนั้นผมก็สลบไปนะ”
เสี่ยวไป๋เลยตอบกลับว่า “ฉันกับคุณยายเจอคุณในป่าเห็นคุณบาดเจ็บหนักเลยพากลับมารักษาแผลที่บ้านนะค่ะ แล้วคุณเป็นใครค่ะ ทำไมถึงบาดเจ็บขนาดนี้ละค่ะ”
ผู้ชายคนนั้นเลยตอบกลับว่า “ผมชื่อห่าวอู่ พอดีกำลังขี่ม้าเข้าตัวเมืองแล้วอยู่ดีๆก็โดนลอบโจมตีนะก็เลยได้รับบาดเจ็บมา”
เสี่ยวไป๋เลยพูดว่า “อ๋อ ถ้าคุณหายดีแล้วฉันขอไปตัวเมืองกับคุณได้ด้วยไหมค่ะ”
ห่าวอู่เลยตอบกลับว่า “ครับ”
หลังผ่านไปอาทิตย์กว่าๆห่าวอู่แผลก็เริ่มแห้งและใกล้หายห่าวอู่จึงตัดสินใจว่าพรุ่งนี้เขาจะเข้าเมืองโดยคุณยายก็ทราบดีว่าเสี่ยวไป๋กับห่าวอู่นั้นจะเข้าเมืองไปด้วยกัน
ในเช้าวันรุ่งสางคุณยายก็ได้ทำการเตรียมอาหารให้พวกเรากินเอาไว้กินตอนเวลาเดินทางแล้วหิว เสี่ยวไป๋นั้นรู้สึกขอบคุณคุณยายเป็นอย่างมากถ้าไม่ได้คุณยายเสี่ยวไป๋ก็คงหิวตายแน่นอน
หลังจากที่เสี่ยวไป๋กับห่าวอู่ได้รับอาหารจากคุณยายมานั้นก็ได้บอกลากับคุณยายเรียบร้อยแล้วพวกเราทั้งสองคนก็เดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อที่เสี่ยวไป๋จะได้ไปหาหนังสือเล่มนั้นและทำให้ตัวเองกลับปัจจุบันส่วนห่าวอู่นั้นเขาก็จะได้ไปทำธุระที่เมืองหลวงต่อ
หลังจากที่เสี่ยวไป๋และห่าวอู่ได้บอกลาคุณยายแล้วก็เดินทางเข้าสู่เมืองหลวงโดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณวันกว่าๆถึงจะถึงเมืองหลวงได้ เมื่อถึงเมืองหลวงแล้วทั้งสองคนก็ได้แยกจากกันเสี่ยวไป๋นั้นได้พยายามตามหาหนังสือโบราณเล่มนั้นและพยายามเอาชีวิตรอดส่วนทางด้านห่าวอู่นั้นได้กลับจวนของตัวเอง
หลังจากที่สองคนแยกจากกันก็เป็นเวลาสองวันแล้วแต่ทว่าเสี่ยวไป๋นั้นเต็มไปด้วยความหิวโหยเพราะไม่ได้กินอาหารตั้งแต่ที่แยกจากกันจนกระทั่งห่าวอู่นั้นได้พบกับเสี่ยวไป๋อีกครั้งที่หน้าโรงเตี้ยม
ห่าวอู่ถามเสี่ยวไป๋ว่า “ทำไมมานั่งอยู่หน้าโรงเตี้ยมละ ไม่ได้ไปตามหาหนังสือโบราณของท่านหรอ”
เสี่ยวไป๋ตอบกลับห่าวอู่ว่า “ข้าเดินหาแล้วแต่ไม่เจอ และตอนนี้ข้าก็หิวมากเลยมานั่งหน้าโรงเตี้ยมนะ”
ห่าวอู่ก็ถามเสี่ยวไป๋กลับว่า “ทำไมท่านไม่เข้าไปกินอาหารที่โรงเตี้ยมละ”
เสี่ยวไป๋ก็ตอบว่า “ข้าไม่มีเงินนะเลยไม่สามารถไปกินในร้านได้”
ห่าวอู่ก็ตอบกลับว่า “อ๋อ งั้นไม่เป็นไรเดี๋ยวข้าเลี้ยงข้าวท่านเองเป็นการตอบแทนท่านที่ท่านช่วยชีวิตข้า”
เสี่ยวไป๋นั้นก็ทำหน้าดีใจเป็นอย่างมากและได้กล่าวขอบคุณกับห่าวอู่ระหว่างที่เสี่ยวไป๋กินอาหารนั้นก็ได้ถามห่าวอู่ว่า “ท่านมาทำอะไรที่นี้หรอ เดินทางผ่านมาแล้วเห็นข้านั่งอยู่หน้าโรงเตี้ยมก็เลยมาทักหรอ”
ห่าวอู่ก็ตอบกลับเสี่ยวไป๋ว่า “อ๋อ ข้านัดเพื่อนของข้ามาพบกันที่นี้นะ นั้นไงเขามาพอดีเดี๋ยวข้าจะแนะนำให้ท่านรู้จักนะ เขาชื่อเฟยชีเป็นเพื่อนสนิทของข้า”
เสี่ยวไป๋ก็ได้ทักเฟยชีว่า “สวัสดีค่ะ ข้าชื่อเสี่ยวไป๋ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
เฟยชีก็ตอบกลับเสี่ยวไป๋ว่า “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ”
-------------ระว่างที่เสี่ยวไป๋กินอาหารนั้นห่าวอู่กับเฟยชีก็ได้คุยกัน-------------
เฟยชีก็กระซิบกับห่าวอู่ว่า “นี้ท่านมีความสัมพันธ์ยังไงกับแม่นางเสี่ยวไป๋นะ เห็นท่านไม่ค่อยคุยกับแม่หญิงคนไหนนิ ”
ห่าวอู่นั้นก็ได้ไอขึ้นมาและตอบกลับว่า “แค่ก แค่ก ท่านอย่าคิดเยอะเลยแม่นางเสี่ยวไป๋นั้นเป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้แล้วข้าก็เห็นแม่นางเสี่ยวไป๋นั่งหน้าโรงเตี้ยมด้วยความหิวข้าก็เลยพานางมาเลี้ยงข้าวนะ”
เฟยชีก็ได้ถามเสี่ยวไป๋ว่า “ทำไมท่านไม่เดินเข้ามาในโรงเตี้ยมและกินข้าวเลยหละ ทำไมต้องไปนั่งที่หน้าโรงเตี้ยมด้วยละ”
เสี่ยวไป๋ก็ตอบกลับเฟยชีว่า “ข้าไม่มีเงินนะ เลยไม่สามารถเข้ามาในโรงเตี้ยมได้”
เฟยชีก็ตอบกลับว่า “อ๋อ แล้วตอนนี้ท่านพักอยู่ที่ใดหรือไม่”
เสี่ยวไป๋ก็ตอบกลับว่า “ข้ายังไม่มีที่พักหรอก”
เฟยชีก็ได้พูดห่าวอู่ว่า “ห่าวอู่ท่านจะปล่อยให้แม่หญิงอยู่ข้างนอกนี้มันค่อนข้างอันตรายนะ ท่านพาแม่หญิงเสี่ยวไป๋กลับจวนท่านดีไหมเพราะแม่นางก็ได้ช่วยชีวิตท่านไว้ท่านก็ควรช่วยแม่นางเช่นกัน
ห่าวอู่ก็ตอบกลับว่า “จวนข้านะหรอ มันจะดีหรอ”
เฟยชีก็ตอบกลับว่า “ดีสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย จวนท่านไม่ได้ขาดคนดูแลจวนอยู่ไม่ใช่หรอก็รับแม่นางคนนี้เข้าจวนแล้วก็ให้เขาช่วยดูแลจวนของท่านด้วย”
ห่าวอู่ก็ตอบกลับว่า “ก็ได้ งั้นข้าจะรับแม่นางเสี่ยวไป๋เข้าจวนข้า”
ห่าวอู่นั้นก็ได้ถามเสี่ยวไป๋ว่า “ในเมื่อท่านยังไม่มีที่พักไม่สู้ไปพักทีจวนข้าดีกว่าไหม แต่ท่านต้องช่วยข้าดูแลจวนด้วยนะ”
เสี่ยวไป๋ก็ตอบกลับห่าวอู่ว่า “ได้ๆ ข้าไม่มีปัญหา”
แล้วเฟยชีก็กระซิบกับห่าวอู่ว่า “ท่านได้บอกรึยังว่าท่านเป็นท่านอ๋องนะ”
ห่าวอู่ก็กระซิบกลับว่า “ข้ายังไม่ได้บอก แม่นางเสี่ยวไป๋คงคิดว่าข้าเป็นแค่คุณชายตระกลูหนึ่งมั่ง”
เฟยชีก็กระซิบกลับว่า “ถ้าแม่นางรู้จะตกใจไหมนะ”
ห่าวอู่ก็กระซิบกลับว่า “ไม่รู้นะเป็นการดีแก่ตัวนางเอง เพราะมีคนอยากฆ่าข้ามากนัก ”
เฟยชีก็กระซิบกลับว่า “ก็จริงของท่าน”
---------หลังจากที่ทั้งสามคนคุยเสร็จนั้นก็ได้แยกย้ายกลับจวนของตนเสี่ยวไป๋นั้นก้ได้กลับจวนไปพร้อมกับห่าวอู่---------
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!