มีอยู่วันหนึ่งในความฝัน ผมฝันว่าผมอยู่ในป่า(ตอนเช้า)ที่มีรูปปั้นลักษณะคล้ายคนบางรูปปั้นหัวขาด บางรูปปั้นแขนขาด บางรูปปั้นอยู่ครบสมบูรณ์ ซึ่งผมมากับครอบครัวผมถามพ่อแม่ออกไปว่า "ที่นี่ที่ไหนหรอครับ?" แม่ตอบว่า "ก็แม่บอกแล้วนี้ว่าจะมาเที่ยวกันนะ ลูกลืมแล้วหรอ" ผมก็งงว่าเคยบอกด้วยหรอแต่ผมจำได้ว่าไม่มีใครบอกผมเลยผมเลยช่างมันไปเพราะคิดไปก็ปวดหัวปล่าวๆ
ผมก็เดินตามหลังครอบครัวไปโดยมีไกด์นำทางซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน ไกด์นำทางก็เล่าประวัติไปพลางเดินไปพลางถึงผมจะไม่ค่อยได้ยินแต่ก็รับรู้บ้าง แต่ที่ผมตกใจที่สุดคือที่ไกด์นำทางบอกว่า "ในรูปปั้นมีกระดูกคนอยู่ ซึ่งมีช่องเล็กๆแบบนี้" พร้อมกับชี้ให้ดู เล่นเอาผมสตั้นไปแบบหนึ่งเลยผมก็รู้สึกกลัวนิดๆแต่ครอบครัวผมดูจะไม่ตกใจสักนิด
ไกด์นำทางกับครอบครัวผมก็เดินไปเลยๆ ผมรู้สึกว่ามันเดินเร็วขึ้นผมก็เดินเร็วขึ้นตามจนผมบอกไปว่า "รอผมด้วย" จากนั้นทั้งไกด์นำทางทั้งครอบครัวผมก็ค่อยๆหายไปแล้วท้องฟ้าก็ค่อยๆไปมืดลง ตอนนั้นผมทั้งกลัวทั้งขนลุกเลยครับผมได้แต่พยายามเดินไปเลยๆเพื่อหาทางออก ผ่านไปสักพักผมก็เห็นแสงผมดีใจมาเลยวิ่งเข้าไปดูแต่ผมพบว่ามันเป็นบ้านไม้ทรงไทยที่เปิดไฟอยู่ผมคิดว่าน่าจะมีคนอยู่ ผมเลยกะว่าจะไปขออยู่ข้างในสักพักไม่ก็ขอให้นำทางไปที่ทางออกทีแต่ผมก็ต้องหยุดลงเมื่อผมนึกได้ว่าที่นี้มันมีแต่ป่ากับรูปปั้นจะมีคนอยู่ได้อย่าไง
ผมก็กลัวมากขึ้นไปออีกแต่ผมก็ต้องตั้งแล้วพยายามเดินออกไปที่ละนิดจนออกมาจากที่นั้นได้ ผมก็เดินไปต่อเลยๆผมสงสัยว่าทำไมผมไม่เหนื่อยซักทีแล้วเมื่อไหร่ผมจะออกจากป่านี้ได้สักที่ผมเริ่มท้อนิดหน่อย ปมเดินไปอีกนิดหนึ่งผมเจอกับศาลอะไรสักอย่างและทางซ้ายก็มีของต่างๆที่อยู่ใกล้ๆกัยแคร่ ผมรู้สึกว่ามันน่ากลัวโดยเฉพาะที่หลังศาลผมจึงเดินกับไปที่เดิมเลยๆแล้วผมก็เจอกับบ้านหลังนั้นอีกแล้ว ผมจึงรีบเดินไปต่อกะว่าจะไปทางที่เคยมาเพื่อนั้นจะเป็นทางออกผมก็เดินไปสักพักผมรู้สึกง่วงขึ้นเรื่อยๆจนกะทั้งผมตื่นขึ้น
ผมคิดว่าค่อยโล่งอกหน่อยแต่เวลาพาไปไม่รู้ว่ากี่ปี วันหนึ่งน้องมาชวนผมไปดูคนล่าถ้าผีผมก็ไปดูด้วยแรกๆผมก็ไม่คิดอะไรแต่พอผมเห็นรูปปั้นนั้นที่เหมือนในฝันผมก็ตกใจและกลัวด้วยผมเลยเอาผ้าห่มคุมทั้งตัวเหลือแต่หน้าผม น้องผมถามว่า "เป็นอะไรไป" ผมตอบว่า "ปล่าว" ผมภาวนาขอให้ไม่เป็นอย่างที่ผมคิด ผมก็โล่งใจเมื่อเห็นว่าในฝันมันไม่มีที่เอาไว้ไหว้อะไรสักอย่างนี้แหละ แต่พอผมมองไปมองมากับรู้สึกว่าคุ้นๆมองไปมองมาอีกสักพักภาพใจหัวผมก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีสถานที่แบบนี้ด้วยนี้น่า ผมก็กลัวมากกว่าเดิม
ผมก็ถามน้องไปว่า "พวกเราเคยไปที่นี้ไหม?" (ปล.ผมเริ่มสับสนว่าเป็นฝันหรือเรื่องจริงก็มันผ่านไปนานมากๆเลยครับ) ผมก็ภาวะนาต่อไปแต่มันก็ต้องพังลงเมื่อผมเห็นบ้านไม้ทรงไทยถึงในฝันผมมันจะเปิดไฟแต่ที่เขาเข้าไปมันไม่มีไฟ ผมอยากจะร้องไห้เลยครับแต่ผมก็ยังคงปลอบใจตัวเองว่ามันไม่มีไอนั้นไม่เป็นไรหลอก ไอนั้นที่ผมหมายถึงก็คือศาลอะไรสักอย่างและทางซ้ายก็มีของต่างๆที่อยู่ใกล้ๆกัยแคร่นะครับ แต่ตอนสุดท้ายผมอยากจะบ้าตายมากครับเพราะเจอไอนั้นด้วยครับ5..5..5 ที่ผมฝันมันมีของจริงด้วยหรอเนี่ย
ผมเป็นคนที่ชอบอ่านนิยายมังงะมาก แต่พี่ชายผมเป็นคนเคร่งขรึมเจ้าระเบียบมาก พอผมซื้อนิยายมาพี่ก็ชอบบอกว่า "ซื้ออะไรไร้สาระมาอีกละ" ผมก็ตอบไปว่า "มันไม่ได้ไร้สาระสักหน่อย" พี่ก็ตอบกลับผมว่า "ไร้สาระก็คือไร้สาระ" ผมเบื่อที่จะต้องเถียงกับพี่มากเลยละ พวกพ่อแม่ก็คาดหวังกับผมไว้มาก แต่พี่ก็กลายเป็นคนที่คาดหวังที่สุดซะได้
ผมลืมบอกสินะว่าพ่อกับแม่ผมเป็นประธานบริษัท เอาจริงๆนะผมไม่อยากเป็นเลยละถึงมันจะดีกับตัวผมก็เหอะนะ ผมก็ไม่อยากจะโม้หรอกนะว่าผมเรียนโครตเก่งอะครับแต่พี่ผมดันเรียนเก่งกว่าซะงั้นให้ตายเถอะ คอยดูเถอะผมจะเรียนแซงพี่ให้ได้ แต่ว่านะนี้ก็10ปีมาแล้วผมเอาชนะไม่ได้เลยทุกครั้งที่ผมเรียนเก่งขึ้นพี่ก็ยิ่งเก่งกว่าผมอีก
นั้นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมอ่านนิยายและมังงะ แต่ก็อย่างที่พูดไปพี่ชายก็เป็นอย่างที่เห็นแหละครับ 'พ่อแม่ก็ไม่ได้ขัดขวางอะไรผมนะแล้วทำไมพี่ถึงพูดแบบนี้กับผมอะ' นี้คือความในใจผมเองแหละครับ หึคอยดูนะถึงพี่จะมาขออ่านที่หลังผมก็ไม่ให้หรอกแบร่
แต่พอเวลาผ่านไป2ปีผมกับพบว่าพี่ทำตัวแปลกไปผมเลยแอบตามพี่ไป ที่ผมเห็นก็คือพี่ชายผมกำลังอ่านนิยายกับมังงะที่ผมซื้อมา! ผมตกใจมากไม่คิดว่าคนอย่างพี่จะมาแอบอ่านนิยายกับมังงะที่ผมซื้อมา ผมก็ดูอยู่แบบนั้นสักพัก พอดูเหมือนพี่จะเริ่มรู้สึกตัวแล้วผมเลยออกมา
วันต่อมาผมถามพี่ว่า "พี่ชอบนิยายกับมังงะไหม?" พี่ตอบผมว่า "ไม่ชอบ" โอ้พระเจ้า! แล้วที่ผมเห็นคืออะไร? ผมนี้อยากจะพูดจริงๆว่า 'ถ้าชอบก็บอกผมมาเหอะผมไม่บอกใครหรอนะ' แต่ผมก็ได้แต่คิดในใจแต่พอเริ่มนานๆไปผมก็ทนไม่ไหว ผมเลยตัดสินใจไปคุยกับพี่ตรงๆตอนที่แอบอ่านนิยายและมังงะของผมจะได้ไม่มีข้ออ้าง
พอพี่แอบเข้าไปและหยิบหนังสือมาอ่านผมก็ได้เปิดประตูแล้วเข้าไป พี่ผมก็สะดุ้งเอาหนังสือแอบข้างหลัง ผมบอกไปว่า "ถ้าพี่ชอบก็บอกผมมาเหอะน่าผมไม่บอกใครหรอนะ" พี่ผมเงียบไปสักพักก็บอกผมว่า "ไอชอบมันก็ชอบอยู่นะ แต่.." ผมพูดตอบกับไปว่า "แต่อะไร?" พี่ผมหยิบหนังสือที่อยู่ในมือขึ้นมาพร้อมกับตอบว่า "แต่ไอหนังสือพวกนี้ มันจะทำให้น้องที่น่ารักของพี่เรียนรู้แต่สิ่งที่แย่ๆไป ฮื่อ น้องที่น่ารักของพี่เลยนะ ฮื่อๆ" พี่ผมบอกพร้อมกับร้องไห้ออกมา เล่นเอาทำผมไปไม่เป็นเลย นี่พี่ผมเป็นโชตะค่อนหรอเนี่ย! ให้ตายเถอะ! ทำไมผมไม่รู้มาก่อนเนี่ย
ผมมองหาว่าความรักคืออะไร? มาจากไหน? อยู่ที่ใด? เป็นของใคร? แต่ก็ไม่พบคำตอบที่แน่ชัดมันทำให้ผมท้อแต่ผมก็ยังค้นหามันต่อ ความรักแบบเพื่อนกับครอบครัวผมพอเข้าใจอยู่เพราะมันเป็นความรักที่ผมโหยหามานาน ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าผมไม่มีเพื่อนที่สนิทสักเท่าไร
ผมก็ลองดูอะไรหลายๆอย่างเผื่อผมจะเข้าใจมันบ้าง แต่ก็นะความรักที่ผมสรุปได้คือ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดจากการนึกคิด เป็นเหตุให้เกิดการยึดติดในสิ่งนั้นๆ แต่ผมก็ยังชอบมันอยู่ดีเพราะมันทำให้ผมมีความสุข ผมอยากอธิษฐานขอให้ผมได้รับมันสักนิดก็ยังดี พอผมคิดแบบนั้นผมก็มักจะอมยิ้มทุกที
พวกคุณก็คงชอบสิถ้าที่มีพวกแฟนอะไรแบบนี้นะ แต่ถ้าพวกคุณเหนื่อยก็หยุดพักบ้างก็ได้นะ ในความคิดของผมการมีแฟนเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก แต่การมีความรักแบบเพื่อนกับครอบครัวสำหรับผมมันเป็นอะไรที่ง่ายกว่า ผมจะเล่าอะไรให้ฟังอย่างหนึ่ง
เมื่อนานมาแล้วมีเด็กน้อยคนหนึ่งมีเพื่อนคนแรกเป็นสัตว์ตัวน้อยนั้นคือแมว เด็กน้อยคนนั้นเจอเจ้าแมวตัวน้อยที่หน้าบ้านตรงสวน เด็กน้อยได้เห็นเจ้าแมวตัวน้อยก็ยิ้มดีใจเหมือนกับว่าจะไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียวอีกแล้ว เด็กน้อยกับเจ้าแมวน้อยก็อยู่ด้วยกันเล่นด้วยกันทำอะไรหลายๆอย่างด้วยกัน จนวันหนึ่งเด็กน้อยกลับบ้านมาและเรียกหาแมวน้อยแต่ไม่มีการตอบกลับมาเลย เด็กน้อยสงสัยว่า 'เจ้าแมวน้อยไปอยู่ที่ไหน?' เด็กน้อยก็ตามหาไปสักพักก็ถึงกับช็อค เพราะว่าเจ้าแมวน้อยที่เด็กน้อยตามหาอยู่นั้นได้ตายไปแล้ว เด็กน้อยเกิดความเศร้าเสียใจขังตนเองเอาไว้ในห้องและร้องไห้ออกมาไม่หยุด
จนวันหนึ่งมีชายคนหนึ่งอายุราวๆ26-28มาขอพักที่บ้านเด็กน้อยสักคืน ชายคนนั้นเห็นเด็กน้อยเอาแต่ร้องไห้เลยถามไปว่า "เด็กน้อยร้องไห้ทำไมหรือ?" เด็กน้อยตอบว่า "เจ้า..ฮึก.แมวน้อยท..ที่ฮึก.เป็นเพื่อนของผมต..ตายแล้วฮึก" ชายคนนั้นพูดตอบกับไปว่า "รู้ไหมว่ามันเป็นวัฏจักรของชีวิต" เด็กน้อยตอบว่า "รู้ครับ" ชายคนนั้นก็พูดขึ้นอีกว่า "รู้แล้วทำไมยังร้อง?" เด็กน้อยตอบว่า "พ..เพราะฮึกผมส..เสียใจ" ชายคนนั้นครุ่นคิดคุณหนึ่งและตอบเด็กน้อยไปว่า "ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะแต่ที่เด็กน้อยกำลังเป็นเขาเรียกกันว่า ความผูกพัน" เด็กน้อยนึกสงสัยจนหยุดร้องไห้และถามไปว่า "ความผูกพัน?"
ชายคนนั้นตอบกลับไปว่า "คือการที่อยู่ใกล้ชิดกันนานๆจนเกิดเป็นความรู้สึกรักและการคนึงหา ที่เป็นได้ทั้งของขวัญและคำสาปในเวลาเดียวกัน" เด็กน้อยก็สงสัยอีกและถามไปว่า "อย่างไงครับ?" ชายคนนั้นตอบว่า "ตอนที่อีกคนยังมีชีวิตอยู่และอยู่ข้างเรานั้นคือ ของขวัญ ตอนที่อีกคนจากไปแบบยังมีชีวิตกับไม่มีชีวิตและไม่ได้อยู่ด้วยกันนั้นคือ คำสาป" เด็กน้อยก็เข้าใจทันทีว่า 'ของขวัญมักจะมาพร้อมกับคำสาป'
ถ้าพวกคุณเป็นเด็กน้อยจะทำอย่างไร? ถ้าเป็นผมคงทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่เลย
ปล.อย่าว่ากันนะครับคนเขียนก็ไม่ค่อยเข้าใจความรักสักเท่าไร ถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใดต้องของอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!