เซฟโซน ทุกๆคนมักจะมีสิ่งด้วยกันทั้งนั้น แต่นั้นไม่รวมตัวผมเข้าไปด้วยหรอกนะ มิกิโอะ ชิเงรุ นั้นคือชื่อของผม ตัวผมนั้นเป็นเด็กธรรมดาๆคนนึง
มีสิ่งที่รักคือการร้องเพลง และเพราะอัตลักษณ์ของผมก็คือ ไซเรน
หลายคนอาจจะเคยได้ยินตำนานของปีศาจไซเรนมาก่อนแล้ว ไซเรนเป็นปีศาจจะใช้เสียงในการล่อลวงเหยื่อแล้วจับมาทำเป็นอาหาร และใช่ ตัวผมเองหากใช้อัตลักษณ์ไม่ว่าจะพูดธรรมดาหรือร้องเพลงมันจะสามารถสะกดให้คนฟังหลงไหลในตัวผม และเกิดความรู้สึกปราถนาที่จะทำตามคำสั่งของผมและไม่ขัดคำสั่งเลยแม้แต่น้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ มันจึงเป็นสาเหตุให้ผม
...โดนกีดกันเพราะมีอัตลักษณ์เหมาะจะเป็นวิลเลิน...
ตัวผมนั้นมักแสดงตัวว่าไม่เคยสนใจในคำวิพากวิจารณ์เรื่องอัตลักษณ์จากปากของคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าในใจมันจะเจ็บทุกครั้งที่ได้ยินก็ตามที
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เคยที่คิดจะพิสูจน์ตัวเองเลยแม้แต่น้อย เพราะหากจะพิสูจน์จริงๆการที่ผมทำตัวเป็นคนใบ้สำหรับพวกเขามันคงจะดีกว่า ซึ่งผมคงทำให้ไม่ได้
'เมื่อไหร่จะมากันนะ' ผมคิดในใจพลางโยกชิงช้าที่ตัวเองนั่งอยู่สายตาก็กวาดมองไปตามถนนที่เขามักจะมาจากทางนั้นทุกครั้ง
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของคนกำลังวิ่งอยู่จากข้างหลังของผมทำให้ผมรีบหันไป แต่สุดท้ายกลับพบเพียงความผิดหวัง ภาพที่ปรากฏตรงหน้ามีเพียงภาพของครอบครัวครอบครัวหนึ่ง ที่เด็กคนหนึ่งกำลังวิ่งเล่นโดยมีสายตาอบอุ่นและรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของพ่อและแม่ของเขากำลังมองและเดินตามอยู่
'ดูเป็นครอบครัวที่ดีจังนะ' ผมคิดในใจก่อนละสายตาออกจากตรงนั้นแล้วนั่งก้มหน้างุดลงเม้มปากเข้าหากันไว้แน่นกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้มันไหลออกมาจากดวงตา หรือว่าวันนี้เขาเองก็จะไม่มากันนะ คิดได้ไม่ทันไรฝนก็เริ่มตกลงมา ผมหันไปดูครอบครัวนั้นอีกครั้งก็เห็นพวกเขารีบพาเด็กน้อยลูกของเขากลับแต่ใบหน้าของพวกเขาทั้ง3คนก็ยังคงยิ้มแย้มอยู่เช่นเดิม ผมที่เห็นก็ได้แต่มองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไปไม่ได้
เพราะว่าพ่อและแม่ของผมอย่ากันตั้งแต่ผมขึ้นประถมต้น ตอนนี้ผมอยู่กับพ่อซึ่งเพราะงานของคุณพ่อเป็นงานที่ทำแบบไม่เป็นเวลา มันจึงทำให้ผมและเขาไม่ค่อยได้มีเวลาร่วมกันเท่าไร เพราะทุกครั้งที่ว่างนั้นหมายถึงนั้นคือเวลาพักผ่อนของคุณพ่อ ผมรู้ดีว่าคุณพ่อต้องเหนื่อยขนาดไหนกับงานไหนจะต้องมาเลี้ยงผมอีกคน ผมเองก็ไม่อยากจะเพิ่มภาระให้ท่านจึงทำได้เพียงแค่เป็นเด็กดีไม่รบกวนท่านไปมากกว่านี้เท่านั้น และสิ่งเดียวที่สามารถทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้ก็คือ การร้องเพลง
ผมเงยหน้าขึ้นฟ้าก่อนจะเริ่มร้องเพลงออกมา
ซ่าๆ ฝนจากที่ตกเบาๆก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ตัวของชิเงรุก็ยังคงร้องเพลงต่อไปจนจบ ร่างกายเล็กเองก็ยังคงนั่งอยู่ที่ชิงช้าตัวเดิมเช่นกัน ก่อนที่สุดท้ายพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปร่างเล็กจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
"ชินมานั่งทำอะไรตรงนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกช่วงนี้หน้าฝนนะลูก" เสียงของ มิกิโอะ ฮารุโอ หรือเรียกอีกอย่างว่าพ่อของชิเงรุ ฮารุโอถามลูกตัวเองที่เอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกบ้านตลอดหลายวันที่ผ่านมานี่อย่างเป็นห่วง
'หรือว่าจะอยากออกไปเล่นกับเพื่อนแต่เพราะฝนตกเลยออกไปไม่ได้กันนะ' ฮารุโอคิดอย่างอดไม่ได้เพราะช่วงนี้คือช่วงหน้าฝนทำให้ฝนตกลงมาตลอดในช่วงเวลานี้
ชิเงรุที่ถูกถามเงยหน้ามองไปที่พ่อที่แม้จะฝนตกแต่ก็ต้องแต่งตัวออกไปทำงาน ร่างเล็กลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินไปส่งพ่อที่ประตูทางออกตามปกติ
"เดินทางปลอดภัยครับพ่อ" ชิเงรุพูด ฮารุโอมองลูกชายตัวน้อยที่ดูหงอยๆก็อดยิ้มขำน้อยๆไม่ได้ก่อนที่จะลูบหัวคนตัวเล็กแล้วบอกตอบ
"พ่อจะรีบกลับมานะเป็นเด็กดีรอพ่อที่บ้านนะครับ" ฮารุพูดจบก็ก้มลงจุ๊บเหม่งของร่างเล็กไปหนึ่งทีก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
ร่างเล็กที่โดนจุ๊บเหม่งก็ยืนมองประตูที่ถูกปิดตอนพ่อของตนเดินออกไปจากบ้านสักพักก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน
เพราะตัวเขา มิกิโอะ ฮารุโอ เป็นเพียงคุณพ่อมือใหม่และเป็นเพียงคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวทำให้เขาไม่รู้วิธีดูแลเด็กแม้ว่าจะอยู่ด้วยกันมากว่า6ปีแล้วก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเข้าใจความคิดของลูกของตนเองเลย
'หรือว่าฉัน..จะใส่ใจเขาน้อยไปกันนะ' ฮารุโอคิดไปพรางขับรถไปพราง เพราะตลอดมาตั้งแต่เขากับภรรยาอย่ากัน เขาที่ทำใจไม่ได้ก็เลือกที่จะทำงานให้หนักขึ้น เวลาที่มักจะได้ใช้กับลูกจึงน้อยเข้าไปทุกวัน เพียงแค่เด็กน้อยเอ่ยปากเขาก็พร้อมที่จะหาทุกอย่างที่เด็กน้อยอยากได้มาให้เพื่อทดแทนส่วนที่หายไปของภรรยา แต่มันกลับไม่ใช่แบบนั้น ชิเงรุไม่เคยร้องขออะไรจากเขาเลย ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในตอนที่เขาถามไม่ว่าจะวันเกิด วันธรรมดา วันเทศกาล เขามักจะถามชิเงรุเสมอว่าต้องการอะไรหรือไม่ แต่สิ่งที่ได้มีเพียงแค่การส่ายหน้าแล้วปฏิเสธเขากลับมาเพียงเท่านั้น
เพราะแบบนั้นตัวเขาจึงไม่เข้าใจเลยว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่คนตัวเล็กต้องการคืออะไรกันแน่ เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่เขาและภรรยาอย่าร้างกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!