คุณผู้ดูแลผู้เฝ้ามองโลกอนิเมะ
คุณผู้ดูแลกับการปรากฏตัว
จอมมาร
ยอมแพ้ซะเถอะผู้กล้า แกไม่มีทางเอาชนะข้าได้หรอก
ผู้กล้า
ฝันไปเถอะจอมมาร ฉันต้องจบทุกอย่างในวันนี้เท่านั้น!
ผู้กล้าและจอมมาร กำลังสู้กันอย่างดุเดือด ทำให้ปราสาทโบราณได้เกิดรอยร้าวและกำลังพังจากการปะทะกันของทั้งสอง และที่ด้านล่างของปราสาท อัศวินมากมายต่างกำลังหายใจหอบอย่างหมดแรง หลังจากบุกฝ่าวงล้อมและพาผู้กล้ามายังปราสาทจอมมารได้สำเร็จ และหนึ่งในอัศวินเหล่านั้น ก็มีชายคนนึง กำลังยืนมองดูการต่อสู้อยู่
หญิงสาวในชุดนักรบ ได้ตะโกนบอกชายในชุดเกราะให้ ระวังชิ้นส่วนหินของปราสาทที่กำลังจะตกลงมาใส่ร่างของชายหนุ่ม
เจ้าหญิงดาบ
นี่แก ระวังตัวหน่อยสิ
หญิงสาวในชุดเกราะ ได้อุ้มชายคนนั้นในท่าเจ้าหญิง ก่อนจะพาเขาออกไปให้ห่างจากปราสาท โดยมีนักบุญอีกคนวิ่งตรงเข้ามา
นักบุญหญิง
คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ!?
ตัวประกอบ
มะ ไม่ครับ ขอบคุณ และขอโทษที่ไม่ระวัง..
เจ้าหญิงดาบ
ถ้าไม่อยากอายุสั้น ก็ถอยห่างจากที่นี่ไปซ่ะ! ไปกันเถอะอาเรีย
หญิงสาวทั้งสองวิ่งตรงเข้าไปยังปราสาทเพื่อสมทบกับเพื่อนๆของเธอ โดยที่ชายผมน้ำตาลก็ยังมองไปที่ปราสาทเหมือนเดิม
หัวหน้าทหาร
นายนี่ โชคดีซะจริง! ได้ใกล้ชิดสตรีศักด์สิทธ์ กับ องค์หญิงแห่งดาบแบบนั้นน่ะ
ผู้เป็นหัวหน้ากองอัศวิน เดินเข้ามาหาชายหนุ่ม พร้อมกับยื่นน้ำในมือให้ดื่ม ชายหนุ่มดื่มน้ำด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะหันไปขอบคุณหัวหน้าอัศวิน
หัวหน้าทหาร
เอาเถอะ! ไว้ท่านผู้กล้าปราบจอมมารได้ นายค่อยเลี้ยงฉันคืนก็แล้วกัน ตอนนี้เราพักผ่อนกันเถอะ
หัวหน้าอัศวินกล่าวพร้อมกับหันหลังให้ชายหนุ่ม ส่วนในตอนนี้เอง ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง ที่กำลังล้นทะลักออกมาจากปราสาท
หัวหน้าทหาร
หือ! นี่เธอได้ฟังฉันอยู่เปล่- เอ๋
เมื่อหัวหน้าอัศวินหันกลับมาก็พบว่า ร่างของชายเมื่อครู่ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ผู้กล้าและจอมมาร ต่างกำลังตะลึงกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ร่างของเด็กชายคนนึงกำลังลอยอยู่ในห้อง โดยที่ด้านล่างของเด็กชาย มีร่างของสมาชิกผู้กล้าคนอื่นๆ นอนหมดสติอยู่กับพื้น เช่นเดียวกับ ขุนพลของจอมมารที่โดนจัดการจนสิ้นสภาพ
ผู้กล้า
ทำไมนายถึงทำแบบนี้!!
ผู้กล้าเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเด็กชายที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือคนที่ส่งเขามายังโลกนี้ หรือก็พระเจ้านั่นเอง
ยู
เพราะยังไงพวกนายก็ต้องตายอยู่แล้ว เดียวผมจะอธิบายให้ฟังก็แล้วกัน โลกแห่งนี้น่ะมันเน่าเฟะยังไงล่ะ ทั้งผู้คน สงคราม ความโศกเศร้า ทุกอย่าง เพราะงั้นถ้าโลกมันเน่าแล้ว แทนที่จะแก้ไข ทำไมไม่ทำลายแล้วสร้างใหม่ไปเลยล่ะ ผมน่ะส่งคุณมาที่นี้เพื่อสู้กับจอมมาร และทำให้พลังเวทย์ของคุณและจอมมารไหลออกมาเรื่อยๆ และเมื่อพลังเวทมีมากพอ ก็จะทำให้ผมสามารถสร้างร่างจำลอง และมาปรากฎตัวในโลกเบื่องล่างได้ เพื่อจะสามารถทำลายดาวดวงนี้ได้ยังไงล่ะ
ผู้กล้า
นะนี่ ฉันโดนหลอกงั้นหรอ!
ผู้กล้าคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมความสิ้นหวัง แต่จอมมารก็ยังพยายามใช้เวทย์โจมตีเด็กชายตรงหน้าอยู่เช่นเดิม
ยู
เปล่าประโยชน์น่าจอมมาร! ถ้าผมมาที่โลกนี้แล้ว แม้แต่เธอก็ทำอะไรผมไม่ได้หรอก
เด็กชายพูดด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสาก่อนจะ ใช้เวทย์บีบร่างของจอมมารจนเละในพริบตา
ยู
เอาล่ะ ลาก่อนน่ะ ขอโทษด้วยที่ต้องส่งเธอกับเพื่อนๆไปตายนะ ผู้กล้า!
เด็กชายยกมือทั้งสองข้างขึ้น ก่อนจะปรากฏวงเวทย์ขนาดมหึมาปกคลุมไปทั่วทั้งโลก
สิ้นเสียงของเด็กชาย ก็เกิดแสงสว่างไปทั้งโลก ก่อนจะตามมาด้วยการระเบิดของดาวเคราะห์ ทำเอาจักรวาลแห่งนี้ถึงกับสะเทือน
ยู
ในที่สุดก็สำเร็จ เห้อ~ โทษที่น่ะผู้กล้า แต่ช่างเถอะ! มาสร้างโลกใหม่กันดีกว่า เดี๋ยวคราวนี้ต้องสร้างโลกแห่งสันติได้แน่ อืม.. เริ่มจากตรงไหนดีน้าาา
ในระหว่างที่เด็กชายกำลังใช้ความคิดอยู่ ก็มีร่างของชายผมสีน้ำตาลในชุดเกราะ ค่อยๆลอยขึ้นมาอยู่ด้านหลังของเด็กชาย
คำพูดนั้นทำเอาเด็กชายถึงกับเหวอ เพราะที่นี่ไม่ควรจะมีใครอยู่นอกจากเขา เด็กชายหันไปหาชายด้านหลังด้วยความตกใจ ในตอนนี้ร่างของชายคนนั้นค่อยๆเปลี่ยนไป สีผมที่ถูกลวงตาเอาไว้กลับมาเป็นสีเดิม ชุดเกราะที่เคยใส่ได้แตกออก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดจริงๆของเขา ผมสีดำเงา ดวงตาสีดำที่ดูไร้ชีวิต พร้อมกับชุดสูทสีดำ ที่ดูสุภาพเรียบร้อย
หากเป็นมุมมองของมนุษย์นี่ก็คือ สุภาพบุรุษ
หากเป็นมุมมองของปีศาจนี่ก็คือ มนุษย์ธรรมดา
หากเป็นมุมมองของพระเจ้า นี่ก็คือ บุคคลลึกลับ
แต่ถ้าเป็นมุมมองของคนที่เป็นศัตรูกับชายคนนี้ละก็ เขาก็คือ ยมทูต!
คุณผู้ดูแล
ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้น่ะเจ้าหนู เนื่องจากนายเข้ามายุ่งกับโชคชะตาของคนที่ฉันดูแลอยู่ เพราะงั้น ขออนุญาติสั่งสอนนายหน่อยก็แล้วกัน แต่ไม่ต้องห่วง.. จะไม่ทำให้หายไปหรอกน่ะ
ชายหนุ่มพูดพร้อมรอยยิ้มน่ากลัว ขณะที่เด็กชายได้แต่ตัวสั่นด้วยความกลัว… และเพียงไม่กี่วินาทีต่อมาร่างของคุณผู้ดูแลก็ตรงเข้าไปหาเด็กชายในทันที
คุณผู้ดูแลกับผู้ช่วย
คุณผู้ดูแล
ก็อย่างที่ได้อ่านกันไปในตอนแรก หลังจากที่ผมได้จัดการสั่งสอนไอ้เด็กนั่นไป แทนที่เขาจะกลัวผมและหนีไป แล้วทำไมทุกอย่างมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้
ยู
ลูกพี่ๆ ลูกพี่ผมขอติดตามลูกพี่ไปชั่วชีวิตเลยครับ!
เด็กชายผู้เป็นถึงพระเจ้ากำลังกอดขาชายหนุ่ม ด้วยแววตาไร้เดียงสา พลางอ้อนวอนชายหนุ่มด้วยเสียงที่แหลมเล็ก
ย้อนกลับไป 5 นาทีก่อนหน้านี้
หลังจากที่คุณผู้ดูแล ได้สั่งสอนเด็กชายด้วยวิธีบางอย่างจนสลบ และอีกเพียงไม่ถึงหนึ่งนาที ร่างของเด็กชายก็ได้สติในขณะที่ผู้ดูแลกำลังจับคอเสื้อของเด็กชายเอาไว้จนแน่น เด็กชายมองไปที่ผู้ดูแล ก่อนจะเห็นเขาทำบางอย่างที่ชวนตะลึง
แปะ!
ผู้ดูแลดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว โลกที่น่าจะถูกทำลายไปก็ค่อยๆกลับมารวมกันเหมือนเดิม พร้อมกับปรากฎร่างของผู้กล้า จอมมารและคนอื่นๆ เพียงแต่เวลาในตอนนี้กำลังถูกหยุดลง
ยู
นะนี่มันอะไร! ดีดนิ้วแค่ครั้งเดียวแผนการทุกอย่างที่ผมวางแผนมากว่า 2,000 ปีก็พังในพริบตา สร้างโลกใหม่งั้นหรอ ไม่สิ เหมือนกับว่าเขาทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม แถมยังหยุดเวลาไว้อีก ชะ ชายคนนี้เขาเป็นใครกันแน่!
เด็กชายคิดในใจก่อนที่ผู้ดูแลจะบางอย่างออกมา
คุณผู้ดูแล
นายคิดแผนนี้ตั้งสองพันปีเลยหรอ นานจังเลยน่ะ
ชายหนุ่มกล่าว ทำเอาเด็กชายถึงกับหน้าซีด ที่รู้ว่าชายคนนี้สามารถอ่านใจของเขาได้ แต่ผู้ดูแลก็ไม่ได้แม้แต่จะหันมามองเด็กชายด้วยซ้ำ ก่อนจะดีดนิ้วอีกครั้ง พร้อมกับพาเด็กชายวาปมาที่ป่าใกล้ๆปราสาท
คุณผู้ดูแล
เอาล่ะ นายไม่ได้อยู่ในเนื้อเรื่องตอนจบสิน่ะ
ผู้ดูแลกล่าวพร้อมกับปล่อยร่างของเด็กชายลงกับพื้น ก่อนจะหยิบกระดาษยับๆแผ่นนึงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
คุณผู้ดูแล
อือ.. ผู้กล้าได้ผนึกจอมมาร และโลกก็ได้กลับเข้าสู่ความสงบสุข แล้วก็เออ…
ผู้ดูแลบ่นพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เด็กชายยังคงเหวอไม่หาย เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่หลังจากใช้เวลาปะติปะต่อได้แล้ว ความคิดของเด็กชายก็เปลี่ยนไปในทันที
ยู
ตั้งแต่ตัวตนของผมกำเนิดขึ้นมา ก็มีชีวิตโดยอยู่บนจุดสูงสุดมาโดยตลอด ไม่ว่าจะสู้กับใครผมก็มักจะชนะเสมอ จนบางครั้งผมเบื่อจนต้องสร้างโลกขึ้นมาทำลายเล่นด้วยซ้ำ แต่มันก็ยังบรรเทาความเบื่อไม่ได้อยู่ดี ผมไร้จุดหมาย ไม่รู้ว่าจะอยู่เพื่ออะไร เหตุผลจริงๆที่ผมคิดจะทำลายโลกนี้ทิ้ง ก็แค่ อยากจะสร้างโลกที่แปลกใหม่ อย่างโลกที่มีแต่สันติดูเล่นๆก็เท่านั้น เลยอ้างเหตุผลบ้าๆว่า โลกมันเน่าเฟะ แต่จริงๆผมแค่เบื่อตั่งหาก จนกระทั่งได้เจอกับเขาคนนี้ ผู้ชายที่ทำให้ผมกลัวและทึ่งในเวลาเดียวกัน..
เด็กชายยืนขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วไปทางผู้ดูแล ด้วยแววตาที่แนวแน่
ยู
ผมจะติดตามคุณไปครับ ผมจะต้องเอาชนะคุณให้ได้เลย ลูกพี่!
ผู้ดูแลถึงกับอุทานออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
ยู
น้าๆๆ ให้ผมเป็นเบ้ก็ได้ยอมหมดเลย เอาผมไปด้วยเถอะครับ
คุณผู้ดูแล
ไม่ๆๆ แกบอกเองนี่ว่าจะเอาชนะฉันให้ได้น่ะ แบบนั้นก็เหมือนชาวนากับงูเห่านะสิ!
เด็กชายกอดขาผู้ดูแลจนแน่น พร้อมกับแววตาอ้อนวอน
ยู
ให้ผมแปลงเป็นสาวสวยก็ได้น่ะ จะให้ผมเป็นฮาเร็มของลูกพี่ก็ได้น่ะ
คุณผู้ดูแล
ไม่ๆๆๆๆๆ ปล่อยขาฉันได้แล้วไอ้เด็กเชี่ย!!
หลังจากนั้น ผู้กล้าและปาร์ตี้ของเขาก็ได้กำจัดจอมมารลง โดยลืมเรื่องราวการปรากฎตัวของพระเจ้าไปจนหมด เหตุการณ์ผ่านไปหลายวัน ผู้กล้าก็ได้แต่งงานกับนักบุญศักดิ์สิทธ์ตามที่เขียนเอาไว้ในเนื้อเรื่อง
คุณผู้ดูแล
เหออ.. จบงานซะที จากนี้อนาคตจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับฉันแล้วน่ะ เจ้าผู้กล้า
ผู้ดูแลอุทานออกมาอย่างโล่งอก เพราะผู้กล้าคนนี้ตั้งแต่ถูกอัญเชิญมาต่างโลกและเริ่มเนื้อเรื่อง ผู้กล้าก็เล่นตายไปกว่า 44 ครั้ง ด้วยความซื่อบื่อของตัวเอง ทำให้คุณผู้ดูแลต้องออกมาชุบชีวิตเรื่อยๆ แต่เนื่องจากผู้ดูแลทำได้แค่คอยดู ไม่สามารถไปให้คำแนะนำอะไรกับผู้กล้าได้ เขาจึงรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ในที่สุดเนื้อเรื่องก็จบซะที
คุณผู้ดูแล
เอาล่ะ รีบไปรายงานยัยนั่นดีกว่า
ผู้ดูแลค่อยๆเดินออกจากเมืองไปแบบสบายใจ พร้อมกับร่างของเด็กชายคนนึงที่วิ่งตามมา
ยู
ลูกพี่! ทำไมไม่ปลุกผมละครับ คิดจะทิ้งผมไว้งั้นหรอครับ
ยู
โหดร้ายเกินไปแล้วครับ!!
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น สุดท้ายคุณผู้ดูแลก็รับพระเจ้าของโลกนี้ หรือชื่อก็คือ ยู มาเป็นผู้ช่วย เพราะยูได้กอดขาของผู้ดูแลแน่น โดยบอกว่าจะไม่ยอมปล่อยจนกว่าผู้ดูแล จะรับเขาเป็นผู้ช่วย และเพราะว่ารำคาญทำให้ผู้ดูแลเลือกจะรับยูมาเป็นผู้ช่วยแบบไม่ค่อยจะเต็มใจซักเท่าไหร่
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสีย เพราะคนที่มอบหมายงานให้ผู้ดูแล ก็เคยบอกว่าให้หาผู้ช่วยไว้เหมือนกัน แต่เพราะว่างานของผู้ดูแลเป็นงานที่ต้องสู้กับสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมากๆ ทำให้ผู้ช่วยอาจกลายเป็นตัวถ่วงของผู้ดูแลได้ แต่ถ้าเป็นยูที่เป็นถึงพระเจ้าผู้สร้างและทำลายโลกเป็นว่าเล่น ก็คงจะสามารถลดภาระของผู้ดูแลลงได้เยอะทีเดียว
คุณผู้ดูแล
จะว่าไป ถ้านายไปกับฉัน แล้วโลกของนายจะเป็นยังไงล่ะ?
ยู
ออ.. ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เดี๋ยวก็คงมีคนขึ้นเป็นพระเจ้าแทนผมอยู่แล้วล่ะ ก็แหม่ ไอ้พวกบ้านั้นชอบมาแย่งอำนาจผมบ่อยๆนี่น่า แหะๆ
ยูกล่าวด้วยสีหน้าเอือมระอา เพราะมักจะมีคนขึ้นมาท้าทายเขา เพราะอยากได้ตำแหน่งพระเจ้าแทบจะตลอดเวลา แต่คนพวกนั้นก็ไม่สามารถต่อกรกับยูได้อยู่แล้ว
คุณผู้ดูแล
แล้วพระเจ้าเนี่ยมีเยอะรึเปล่า?
ยู
อืม ถ้านับที่ผมรู้จักก็มีราวๆ สี่สิบคนได้ครับ
คำตอบนั้นทำให้ผู้ดูแลครุ่นคิดบางอย่างซักพัก ก่อนจะอุทานออกมาเบาๆ
คุณผู้ดูแล
ยัยนั่น เป็นพระเจ้าด้วยรึเปล่าน่ะ?
หลังจากทั้งสองเดินออกมาไกลจากเมืองได้ระดับนึงแล้ว ผู้ดูแลก็หยิบกระดาษยับๆแผ่นเดียวกันกับก่อนหน้านี้ออกมา
ยู
นั่นอะไรหรอครับ ลูกพี่?
คุณผู้ดูแล
มันคือกระดาษที่เขียวบทของเนื้อเรื่องเอาไว้ยังไงล่ะ
บันทึกแห่งโชคชะตา คือกระดาษหนึ่งแผ่นที่จะบอกเรื่องราวที่ควรจะเกิดขึ้นกับผู้ดูแล โดยเมื่อเหตุการณ์ในปัจจุบันหายไปแล้ว ตัวหนังสือที่บอกเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาก็จะจางหายไป และเปลี่ยนบทไปเรื่อยๆ จนกระดาษแผ่นนั้นว่างเปล่าก็หมายความว่า [ จบบริบูรณ์นั่นเอง ]
ยู
แล้วเราจะทำอะไรกันหรอครับ?
ยูถามด้วยความสงสัย พร้อมกันนั้น ผู้ดูแลก็ฉีกกระดาษออกเป็นสองแผ่น ก่อนจะยื่นอีกแผ่นให้ยู
คุณผู้ดูแล
เมื่อฉีกกระดาษนี่ออกจากกัน มันก็จะเปลี่ยนเป็นประตูวาป และพาเรากลับยังไงล่ะ
ผู้ดูแลกล่าวอธิบาย พร้อมกับเกิดระอองแสงสีทองขึ้นรอบๆตัวของทั้งสอง
ยู
เราจะไปที่ไหนกันครับ ลูกพี่?
คุณผู้ดูแล
ก็ไปหาคนเขียนบทยังไงล่ะ..
สิ้นเสียงพูดของผู้ดูแล ทั้งสองก็วาปหายขึ้นไปบนท้องฟ้า ทิ้งไว้เพียงระอองแสงสีทอง ที่ค่อยๆจางหายไป
คุณผู้ดูแลกับผู้เขียนบท
ร่างของคนสองคน ได้มาโผล่ยังสถานที่แห่งหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นสวนดอกไม้ที่ไกลสุดลูกหูลูกตาจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด รายล้อมไปด้วยท้องฟ้าเวลากลางวัน แต่กลับเห็นหมู่ดาวมากมายราวกับกลางคืน ราวกับเป็นสถานที่ในเทพนิยายยังไงยั่งงั้น
ยู
ว้าววว! อลังกาลสุดยอดไปเลยน่ะครับ ลูกพี่!
คุณผู้ดูแล
อา.. เดี๋ยวนายก็ชินกับมันเองแหละ
ทั้งสองเดินไปตามทางเดินที่สร้างไว้ โดยระหว่างทาง ก็มีกลิ่นหอมของดอกไม้โชยออกมาตลอดทาง และเมื่อทั้งสองเดินมาซักพักก็พบกับคฤหาสน์หลังนึง ตั้งอยู่กลางสวนดอกไม้ โดยด้านข้างเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ พร้อมกับน้ำตกที่ด้านหลัง
มอเรน
นี่นายต้องให้บอกอีกครั้งกัน ไม่ใช่ว่าเคาะแล้วจะเปิดเข้ามาดื้อๆได้หรอกน่ะ
สาวแว่นผมสีขาว ในชุดนอนสีฟ้า กำลังตั้งใจเขียนอะไรบางอย่างอยู่ โดยไม่หันมามองผู้ดูแลเลยแม้แต่น้อย
หญิงสาวเอ่ยถาม โดยไม่ได้หันมามอง ราวกับว่าเธอรู้ว่าผู้ดูแลไม่ได้มาคนเดียว แถมรู้ด้วยว่าเป็นเด็ก
คุณผู้ดูแล
แทแด~ เขาเป็นผู้ช่วยของฉัน ชื่อยู ฉันว่าเธอก็คงจะรู้อยู่ก่อนแล้วน่ะ
มอเรน
อ่อๆ เป็นพระเจ้าจริงด้วย
การสนทนาของทั้งสอง ทำให้ยูรู้สึกตกใจไม่น้อย ที่แม้จะเจอกันครั้งแรก แต่หญิงสาวก็สามารถรู้ตัวจริงของเขาได้
มอเรน
คงจะสงสัยใช่ไหมล่ะเจ้าหนู! ฉันมอเรน เป็นผู้กุมชะตาชีวิตของทุกสรรพสิ่ง แน่นอนรวมถึงเธอด้วยน่ะ
คำพูดนั้นทำเอา ยูถึงกับตะลึงจนถึงกับทำตัวไม่ถูก เขาไม่นึกเลยว่าแม้แต่ชะตากรรมของเขาที่เป็นพระเจ้า ก็จะถูกควบคุมโดยคนๆนี้
มอเรน
เป็นไงมุกฉันใช้ได้ไหม?
ผู้ดูแลตอบกลับพร้อมกับยกนิ้วโป้ง
คำพูดนั้นทำเอายูถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ! ก่อนที่ทั้งมอเรนและผู้ดูแลจะหัวเราะออกมา
มอเรน
เปล่าๆ ฉันนี่แหละตัวตนหนึ่งเดียว ฉันคือชะตากรรม ตัวจริงเสียงจริงจ้าาา
ก่อนที่หัวของยูจะระเบิด มอเรนจึงอธิบายให้เด็กชายฟังด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
มอเรน
ฉันสามารถควบคุมชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตต่างๆในจักรวาลได้ โดยการเขียนเรื่องราวต่างๆลงในกระดาษ แต่ยกเว้นพวกตัวตนระดับสูง อย่างพระเจ้าแบบเธอ และไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างๆเธอนั่นแหละ
มอเรนกล่าวพร้อมกับมองไปที่ผู้ดูแล
มอเรน
นั่นจึงเป็นเหตุผล ที่เธอสามารถเข้ามาป่วนเนื้อเรื่องของผู้กล้าคนล่าสุดได้ยังไงล่ะ..
ยู
แล้วทำไมคุณ ถึงทำเป็นเหมือนรู้ว่าผมจะมาล่ะครับ?
มอเรน
อ่อ.. หมอนั่น โทรมาบอกฉันก่อนแล้วน่ะ
ยูที่รู้แบบนั้นก็หันไปหาผู้ดูแล ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าตกใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็นมันเลยด้วยซ้ำ
ยู
ลูกพี่ โทรคืออะไรหรอครับ?
คุณผู้ดูแล
นี่นายไม่รู้จักหรอ ใครๆเขาก็ใช้กันทั้งนั้น เชยชะมัดนายนี่
ผู้ดูแลพูดพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาโชว์ ( iPhone ซ่ะด้วย )
หลังจากนั้นทั้งสามก็ใช้เวลาทำความรู้จักกันอีกซักพัก แต่ไม่นานมอเรนก็หันไปบอกธุระกับผู้ดูแล
คุณผู้ดูแล
จะให้ฉันไปสำรวจคุกไดเมนการ์ดงั้นหรอ?
มอเรน
เห็นว่าเมื่อไม่นานมานี้มีบางอย่างแปลกไปน่ะ
คุณผู้ดูแล
อะไรอีกล่ะนั่น?
ผู้ดูแลอุทานออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย เนื่องจากคุกไดเมนการ์ด คือคุกที่อยู่สุดขอบของมิติ เป็นสถานที่ ที่มีเพียงสิ่งมีชีวิตระดับสูงถูกจองจำไว้เท่านั้น
มอเรน
เอาน่า นอกจากนาย ก็ไม่มีใครชำนาญการข้ามมิติไปมากกว่านี้อีกแล้ว แถมอีกอย่าง มีแค่นายที่ไปที่นั่นได้ไม่ใช่หรอ เพราะงั้นฝากด้วยล่ะ!
แม้จะอยากปฎิเสธแต่ก็ไม่มีทางเลือก สุดท้ายผู้ดูแลก็ลุกขึ้นก่อนจะออกไปสำรวจตามคำพูดของมอเรน โดยปล่อยให้ทั้งสองได้เปิดอกคุยกันเพื่อทำความรู้จัก ( อารมณ์แบบสัมภาษณ์งาน )
ยู
คุกนั่นมันคืออะไรหรอครับ พี่สาว?
มอเรน
ไดเมนการ์ดคือคุกที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ดูแล และหมอนั่นก็เป็นคนรับหน้าที่ดูแลคุกนั่นด้วยตัวคนเดียวด้วย
ยู
แล้ว.. อะไรถูกขังไว้ในคุกนั่นล่ะ
มอเรน
สิ่งที่อยู่ในนั้น คือตัวตนที่ลึกลับ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถทราบที่มาที่ไปได้ พวกมันไม่สามารถฆ่าได้ จึงเป็นเหตุผลที่ต้องขังพวกมันเอาไว้
ร่างของชายในชุดสูทกำลังมองลงไปยังพื้นที่เบื้องล่าง มันเป็นคุกที่มีรูปทรงเหมือนเพชรขนาดมหึมา โดยมีสิ่งมีชีวิตบางอย่างลอยไปมารอบๆตลอดเวลา
คุณผู้ดูแล
ยังคงปกติดีสิน่ะ
ผู้ดูแลกล่าวพร้อมกับมองไปที่สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเป็นโครงกระดูกในชุดคลุมสีดำ พร้อมกับเคียวขนาดใหญ่ (ยมทูต) ผู้มีหน้าคอยเฝ้าคุกแห่งนี้อยู่ด้านนอก โดยมีผู้คุมอยู่มากถึงหนึ่งร้อยตน
ผู้ดูแลค่อยๆลอยเข้าไปใกล้ๆคุก โดยที่พวกยมทูตไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกมันมีหน้าที่คอยสังหารทุกอย่างที่คิดจะเข้าหรือออกคุกแห่งนี้ ยกเว้นเพียงตัวผู้ดูแล
คุณผู้ดูแล
เอาละ.. ห้องนั้นเองสิน่ะ
ผู้ดูแลกล่าวพร้อมกับมองไปที่ห้องที่อยู่สุดทางเดินที่อยู่บนชั้นสอง ผู้ดูแลเดินผ่านแต่ละห้องไปโดยไม่มีเสียงใดๆ แม้จะเป็นคุกแต่ทุกห้องที่ใช้ขังก็เป็นเพียงประตูไม้เก่าๆ ทั้งทางเดิน ห้องขัง ทุกๆอย่าง ที่นี่เหมือนจะเป็นโรงแรมระดับห้าดาวซะมากกว่า
ไหนดูสิ! คราวนี้แกจะสร้างปัญหาอะไรให้ฉันอีก..
ผู้ดูแลบ่นออกมาเบาๆ ขณะยืนอยู่หน้าห้องที่เขียนหมายเลข2/13 ไม่นานหลังจากนั้นผู้ดูแลก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง
ทางฝั่งของยูและมอเรนก็กำลังดื่มชาอย่างเงียบสงบ พร้อมกับฟังเสียงน้ำตกด้านหลังไปด้วยเบาๆ ฟินจริงๆ
ยู
จะว่าไปแล้ว มีสิ่งมีชีวิตตั้งมากมาย ทำไมคุณถึงเขียนเนื้อเรื่องทั้งหมดได้ล่ะครับ?
ยูถามมอเรนด้วยความสงสัย เพราะธอเคยบอกว่าเธอเป็นตัวตนของโชคชะตาเพียงหนึ่งเดียว แต่สิ่งมีชีวิตในจักรวาลมันมีเยอะมาก
มอเรน
ความจริงแล้ว ทุกชีวิตที่เกิดมาจะมีโชคชะตาของตังเองอยู่ก่อนแล้ว ฉันสามารถแก้ไขโชคชะตาของพวกเขาได้ก็จริง แต่ฉันไม่ชอบทำแบบนั้น ที่นายเห็นฉันเขียนๆอยู่เมื่อกี้ คือบทของสิ่งมีชีวิตที่ฉันสร้างขึ้นเอง หรือแต่งเพื่อสนองนีดนั่นแหละ จะเรียกว่าเป็นงานอดิเรกก็ได้
ยู
แล้วที่บอกว่าเนื้อเรื่องโดนแทรกแทรงคืออะไรงั้นหรอครับ?
มอเรน
ถ้าหากว่าเนื้อเรื่องไหนที่จะโดนแทรกแทรง กระดาษแผ่นนั้นจะเกิดรอยไหม้ นั่นคือสัญญาณบอกล่วงหน้ายังไงล่ะ
ยู
แล้วกระดาษพวกนั้นอยู่ที่ไหนล่ะครับ?
คำถามนั้นทำเอามอเรนถึงกับอมยิ้ม ก่อนจะหันไปมองสวนดอกไม้ที่ยูพึ่งจะเดินผ่านมา
มอเรน
ใช่แล้ว ที่เธอเดินผ่านมาเมื่อกี้มันไม่ไช่ดอกไม้ แต่คือบันทึกแห่งโชคชะตา ดอกไม้ทุกดอก คือเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตที่ถูกกำหนดเอาไว้ เมื่อคนๆนั้นตาย ดอกไม้ดอกนั้นก็จะเหี่ยวตาย แต่เมื่อสิ่งมีชีวิตใหม่เกิดขึ้น ดอกไม้นั้นก็จะบานสะพรั่งอีกครั้ง!
ความจริงนี้ทำเอายูตกใจเล็กน้อย จริงๆสวนดอกไม้ทั้งหมดที่เหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุด คือบันทึกแห่งโชคชะตาที่โดนลวงตาเอาไว้
ยู
แล้วพลังของพี่สาวคืออะไรหรอครับ?
ยูถามด้วยความสนใจ เพราะมอเรนเป็นถึงตัวตนแห่งโชคชะตา ตัวตนที่สามารถควบคุมชะตาของสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้ พลังของเธอต้องเวอร์วังอย่างแน่นอน
มอเรน
ของแบบนั้น ฉันไม่มีหรอก..
มอเรน
ฉันน่ะเป็นตัวตนที่คงอยู่ได้เพราะการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิต ไม่ได้มีพลังแข็งแกร่งอะไร อย่างมากก็แค่เปลี่ยนแปลงชะตากรรม เพียงแต่ว่า ฉันน่ะเป็นตัวตนที่ตายยากสุดๆเลยน่ะจะบอกให้
ยูยังคงงงในคำพูดของมอเรน แต่ไม่นานหญิงสาวก็อธิบายให้เด็กชายฟัง อย่างไร้ความกังวลใดๆ
มอเรน
หากมีชีวิตก็ต้องมีฉัน หรือก็คือ การจะลบตัวตนของฉันออกไปได้นั้น คือต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในมิติ หรือก็คือ ทำลายทุกจักรวาลให้หมดยังไงล่ะ
ยูเข้าใจได้ในทันที ทั้งที่พึ่งจะเจอกันครั้งแรกแต่มอเรนกลับกล้าบอกจุดอ่อนของตัวเองให้เขารู้ เพราะต่อให้ยูอยากจะฆ่ามอเรน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้นั่นเอง เพราะมีจักรวาลอยู่มากมากมหาศาล ต่อให้ใช้เวลาชั่วชีวิตก็ทำลายไม่ได้
ยู
แล้วพลังของลูกพี่ล่ะครับ?
ยูที่กระจ่างในตัวตนของมอเรน ได้ถามถึงพลังของผู้ดูแล เพราะจากที่เขาเคยเห็นมา ผู้ดูแลนั่นอาจจะแข็งแกร่งกว่าพระเจ้าซะด้วยซ้ำ
ยู
เอ๋! ลูกพี่ไม่ได้บอกความสามารถเอาไว้หรอครับ?
มอเรน
อืม หมอนั่นแม้จะทำงานกับฉันมานาน แต่ก็ไม่เคยเชื่อใจใครง่ายๆ แต่ฉันพอจะบอกตอนที่ฉันเจอกับเขาครั้งแรกได้น่ะ
ยู
ตอนที่พบกันครั้งแรกหรอครับ!?
ยูมีสีหน้าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ฟังเรื่องราวในอดีตของผู้เป็นทั้งศัตรู และเจ้านายของเขา
มอเรน
ย้อนกลับไปเมื่อหลายหมื่นปีก่อน ในตอนนั้นฉันได้เจอกับเขาเป็นครั้งแรก แววตาที่ไร้ชีวิตของเขา กับท่าทางที่เบื่อหน่าย ราวกับอยากตายตลอดเวลา ในตอนนั้น ความกลัวได้เขาปกคลุมตัวฉัน ในครั้งแรกที่ได้เจอกับเขา ผู้ชายคนนั้น… เขาคิดจะฆ่าฉัน!
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!