NovelToon NovelToon

ข้านี่แหละองค์หญิงเถา

ตอนที่หนึ่ง

เถาเมิ่งเหยียน&เสิ่นเฉียว

บทนำ

โอ้ยยย! แดดประเทศไทยร้อนแรงไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆT-T

และแล้วก็สมบูรณ์แบบฉันเริ่มบิดขี้เกียจหลังจากนั่งเขียนบทละครมาครึ่งค่อนคืนจนตอนนี้ฟ้าสว่างกระจ่างใสและแดดมันส่องหน้าฉันจนจะไหม้เกรียมแล้วล่ะ แต่เอาเถอะอย่างน้อยบทละครซังกะบ๊วยนี่ก็เสร็จสักที

ก๊อก ก๊อก!

กรี๊ดดดด! ใครมันเคาะประตูเสียงดังแบบนี้ฟร้ะรู้มั้ยหัวใจอิช้านจะวายตายแบ่งสองซีกแล้วค่า;-;

"เยียนเอ๋อเธอตื่นรึยังน่ะ?" เฮ้อออ ได้ยินเสียงคนผู้นี้ฉันล่ะอยากจะกรี๊ดให้โลกแตก

"ลืมตาอยู่ตื่นรึยังล่ะ"

ฉันรีบถลึงตาสวยๆของฉันใส่หน้าหลัวยุนซีผู้เป็นคู่หมั้น(ที่แม่ฉันเป็นคนเลือก)หลังจากที่ฉันเดินมาเปิดประตูให้เขา ซึ่งหลัวหยุนซี่กอดอกพิงประตูมองหน้าฉันก่อนจะหรี่ตาลง

"อะไรของนายอย่ามาทำหน้าแก่ใส่ฉันนะ"

"สภาพเธอไม่ได้บอกสักนิดว่านอนแล้ว"

"ก็..ยังไม่ได้นอน"

"ถ้ายังไม่ได้นอนแล้วเธอตื่นได้ยังไง"

"ฉันบอกตอนไหนว่าตื่นย่ะ"

"เมื่อ15วินาทีที่แล้ว"

"นี่นาย!" รู้มั้ยฉันอยากจะกระโดดถีบนายให้หน้าคว่พมากหลัวหยุนซี!

"แม่เธอให้ฉันเอานี่มาให้"

ฉันเลิกคิ้วนิดหน่อยแล้วมองแก้วโก้โก้ในมือเขา ไอหมอนี่มันแอบวางยาฉันในแก้วโก้โกรึเปล่าเนี้ย0~0

"....."

"รับไปสักทีเถอะเธอนี่น่ารำคานจริงๆ"

แหมอีตาบ้า! ฉันกำลังลังเลย่ะทำมาเป็นยัดใส่มือฉันเดี๋ยวแม่ก็ตบคว่ำให้หรอกจะว่าไปไอ้หมอนี่ฉันก็ไม่ไดัอยากจะหมั้นหมายอะไรด้วยหรอกนะ(ออกไปทางเกลียดขี้หน้ามากกว่า)แต่เป็นการผูกพันธมิตรระหว่างตระกูลต่างหากฉันล่ะโคตรภูมิใจ(ฉันประชด)

หลังจากที่เขายัดแก้วโก้โก้ปั่นใส่มือฉันแล้วก็เดินออกไปไม่คิดจะอยู่ถามอะไรฉันสักคำทำเอาฉันยืนงงในดงสัตว์คนอะไรเย็นชาชาเย็นชาไทยเอาซ่ะจริงๆ

ฉันก็พูดไปงั้นแหละ เอาล่ะๆมาสนใจบทละครที่ฉันเขียนดีกว่าไหนดูสิออกมาเพอร์เฟครึเปล่า อืมเนื้อเรื่องคร่าวๆของฉันคือนางเอกชื่อเถาเมิ่งเหยียนเป็นองค์หญิงตระกูลเถาพระเอกเป็นองค์ชายสี่ของฮ่องเต้มีนามว่าเสิ่นหยางส่วนนางร้ายเป็นชิงชิงตระกูลเมิ่ง อ้อตัวล่ะครหลักอีกคนที่ขาดไม่ได้เพราะเขาสำคัญในหลายๆบทรวมถึงตอนจบซึ่งเดิมๆเขาเป็นคนในตระกูลฮ่องเต้เหมือนกันซึ่งเป็นองค์ชายสามแต่ภายหลังจากนางเอกตายกลายเป็นพญามารนั่นคือองค์ชายเสิ่นเฉียว

ซึ่งบทละครนี่นางเอกต้องตายเป็นคนแรกเพราะพระเอกได้ครองรักกับนางร้ายแล้วช่วยกันหักหลังและฆ่านางเอกส่วนเสิ่นเฉียวกลายมาเป็นพญามารโค่นล้มบัลลังค์พระเอกเนื่องจากความแค้นส่วนตัวและเรื่องทั้งเรื่องตัวละครหลักที่รอดก็มีอยู่แค่คนเดียวคือพญามารเสิ่นเฉียว

"แกนี่มันสุดยอดจริงๆเยียนเอ๋อ"

ฉันชมตัวเองราวกับว่ามันน่าภูมิใจซ่ะเต็มประดาแต่อย่างว่าเนอะฉันสวยฉันเก่งชมตัวเองมันจะไปผิดอะไรว่ามั้ย;-;

"เขียนไม่เสร็จอีกเหรอ"

"เฮ่ย!! นายเข้ามาได้ไง!"

"เปิดประตูเข้ามานะสิ ถามไรโง่ๆ" อ้าวไอเวร

"แล้วนายเข้ามาทำหอกอะไรหลัวหยุนซี!!"

"ฉันก็ไม่ได้อยากมานักหรอกแต่แม่เธอสั่งมาฉันไม่คิดจะขัดบัญชายมราชใหัชะตาขาดหรอกนะ"

เออก็จริงของมัน แต่นายไม่รู้เหรอว่าเวลานายตีหน้านิ่งแบบนี้มันน่าบีบคอซ่ะขนาดไหนไอบ้า! ฉันล่ะโคตรจะเซ็งกับไอคนพันธ์นี้จริงๆแต่นายจะถือวิสาสะมานั่งบนโต๊ะค้ำหัวฉันทำไมย่ะ!

ฉันยัดหลอดโก้โก้ใส่ปากระบายความหงุดหงิด เซ็งโว้ยยย!! อยากฆ่าคนหึ่ย!

"ทำไมถึงเขียนบทให้นางเอกตายล่ะ"หลัวยุนซีมองบทที่ฉันเขียนไว้ในคอมแล้วขมวดคิ้วนิดๆทำเหมือนเจอไหผีทองคำอยู่ในคอมอย่างนั้นแหละ

"ก็มันดูพีคดีนิ"

"ขึ้นชื่อว่านางเอกควรจะมีชีวิตจนจบเรื่องไม่ใช่เหรอ"

"ฉันชอบให้มันแปลกๆเด่นๆเข้าใจมั้ยย่ะ" ฉันพูดพร้อมหันไปมองหลัวยุนซีตาขวาง

หลัวยุนซีกลอกตาขึ้นลงแล้วเบะปากนิดๆให้กับคำตอบที่ไม่เป็นสาระกับคนฟังก่อนที่เขาจะกลับมาตีหน้านิ่งเหมือนเดิม อื้มมเป็นงานเป็นการจริงๆเลย และฉันก็เผลอนั่งจ้องหน้าเขาที่กำลังตั้งใจอ่าน(รึเปล่า)บทละครในคอมที่ฉันเขียนไว้ มีเรื่องนึงที่ฉันอยากบอกนะข้อดีของการหมั้นครั้งนี้คือคู่หมั่นฉันอย่างอีตาหยุนซีหล่อโฮกฮากมากใบหน้าที่เนียนไร้สิวสักเม็ดพร้อมด้วยปากบางๆที่เป็นกระจับสีพีทอ่อนๆคิ้วหนาเข้มทำให้หน้าเขาดูคมคายนัยต์ตาเขาสีน้ำตาลอ่อนพร้อมด้วยผมสีควันบุหรี่บวกกับความหล่อที่พระเจ้าโคตรประทานพูดได้คำเดียวว่า...พร้อมแต่งค่าาาา!

แต่ถึงเขาจะหล่อขนาดไหนแต่ก็หยิ่งยโสขี้เก๊กปากร้ายใจโหดโคตรเย็นชาไม่เคยรู้ร้อนรู้หนาวเอาแต่ทำหน้านิ่งยิ่งกว่าคนเก็บกดให้พูดนะตั่งแต่หมั้นกันมาจนจะแต่งอยู่แล้วเนี้ยฉันยังไม่เคยเห็นหมอนี่ยิ้มเลย

"เธอมีอะไรจะถามฉันรึเปล่า" หลัวหยุนซีละสายตาจากคอมแล้วหันมาจ้องหน้าฉัน

"อะไร"

"ฉันเห็นเธอนั่งจ้องฉันจนลูกตาจะถลนออกมาแล้วน่ะ"

"ปะ..เปล่านะ!"

"เหอะ" เหอะอะไรย่ะ มองนิดหน่อยทำเป็นหวงชิ๊!

ฉันเลิกสนใจผู้ชายขี้เก๊กอย่างเขาแล้วหันมาทอดสายตาผ่านกระจกออกไปมองตึกข้างนอก อ่า..เป็นเพราะแสงแดดมันจ้าหรือเพราะฉันเบลอนะทำไมถึงรู้สึกมึนหัวจัง ฉันยกมือขึ้นมาจับศีรษะแล้วหลับตาลงในสมองของฉันเหมือนมีอะไรอยู่ในหัวซึ่งมันกำลังเต้นแรงเอามากๆจนฉันอยากจะร้องแล้วฉันก็เริ่มเจ็บแสบหน้าอก

"เยียนเอ๋อเธอเป็นอะไรน่ะ"

หลัวหยุนซีค่อยๆแกะมือฉันที่กุมสมองอยู่แต่ในเวลานี้บอกเลยฉันแรงเยอะกว่าฉันเริ่มขยับไม่ไหวปวดหัวอย่างรุนแรงฉันเป็นอะไรไปเนี้ย

"เยียนเอ๋อมองหน้าฉัน เธอเป็นอะไรทำไมหน้าซีดอย่างนี้"

"เยียนเอ๋อ"

หลัวหยุนซีเขย่าฉันเบาๆเมื่อฉันเอาแต่จ้องหน้าเขาไม่พูดอะไรแต่กลับกันภาพตรงหน้าฉันเริ่มเลือนลางจนแทบมองไม่เห็นเขามันเบลอไปนี่ฉันเป็นอะไร..

"เยียนเอ๋อ เยียนเอ๋อ! เฮ่ยย" เสียงสุดท้ายของหลัวยุนซีที่ดูจะตกใจเอามากๆก่อนที่ฉันจะไม่ได้ยินอะไรอีก

....แล้วสติฉันก็ดับวูบลง....

ตอนที่สอง

.

สถานที่ใหม่

โอ้ยย มึนหัวจัง.. นี่ฉันอยู่โรงพยาบาลสินะดีแล้วล่ะ ฉันค่อยๆจูนสมองที่ไม่เต็มร้อยของฉันให้มีประสิทธิภาพก่อนจะค่อยๆลืมตาปรับโฟกัสแล้วทอดพระเนตรมองรอบๆอย่างใจเย็น

"เฮ่ยย!!" พรึ่บ! ฉันรีบกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง

ที่นี่ที่ไหนว่ะ เตียงไม้พร้อมฟูกที่นอนที่ฉันกำลังนอนอยู่แล้วก็ตั่งไม้สักที่ดูโบราณเอามากๆวางอยู่กลางห้องมองๆรอบเหมือนห้องโบราณย้อนยุคยังไงยังงั้นเลยทีเดียวนี่มันโรงพยาบาลเวรตะไลอะไรฟร้ะ! ฉันจำได้ว่าฉันเป็นลมหมดสติไปเสียงสุดท้ายคือเสียงของหลัวยุนซีแล้วนี่เขาพาฉันมาที่ไหน

"ศิษย์น้องเจ้าฟื้นแล้วเหรอ"

แล้วบุรุษชายหน้าตาดีผมสีฟ้ากึ่งน้ำเงินคนนึงก็ถลาเข้ามา(เอ่ออ..จริงๆเขาเดินเข้ามาช้าๆที่แบบดูหยิ่งๆน่ะ)

"เอ่ออออ" เอ่อ อ่า อืม อยากจะบอกผู้ชายคนนี้หล่อมาก เขินน

ผู้ชายคนนี้แปลกพีลึกเขาใส่ชุดเหมือนองค์ชายสมัยก่อนที่แบบใส่กระโปรงอะไรทำนองนั้นแถมไว้ผมยาวอีก(แต่ยังคงรักษาความหล่อลากใส้ไว้ไดั)ยุคนี้ยังมีโรงบาลแปลกพิกลดลสมองแบบนี่ด้วยหรอ

"เจ้าเจ็บตรงไหนอีกหรือไม่ศิษย์น้อง" ผู้ชายคนนั้นมองฉันด้วยสายตาห่วงใย

"เอ่ออ..ค่ะ..ที่นี่คือโรงพยาบาลอะไรเหรอคะ"

ฉันพูดอะไรผิด ทำไมเขาถึงทำหน้าตาเหมือนคนขี้คาตูดแบบนั้น

"โรงพยาบาล? เจ้าพูดอะไร ศิษย์น้องเจ้าสติวิปลาสไปแล้วหรือ"

"อ้าว ฉันไม่ได้บ้าน่ะ!"

"ฉัน? เจ้าพูดภาษาแปลกๆอีกแล้ว" นายนั้นแหละแปกไม่ใช่ฉัน!

ช่างเขาเถอะพูดไปเหมือนคุยกับอากาศตัวเองแปลกแท้ๆมาว่าฉันบ้าอีกประสาทชัดๆแต่ว่าสภาพห้องแบบนี้เหมือนฉันจะเคยเห็นที่ไหนนะ ฉันค่อยๆสำรวจตัวเอง ให้ตายเถอะฉันใส่ชุดอะไรอยู่เนี้ยยาวรุ่มร่ามเอาจริงๆ อย่างกับชุด...เอ๊ะ! ชุดนี้เป็นชุดที่ฉันออกแบบให้ตัวละครในบทที่ฉันเขียนนี่ ชุดนี้...ชุดองค์หญิงสามหรือเถาเมิ่งเหยียน!

โอ้วม่ายยย นี่มันอะไรกันเนี้ย หรือว่ารายการแกล้ง;-;

"ศิษย์พี่เถาหรันเฉียว ศิษย์น้องเหยียนฟื้นแล้วหรือ" แล้วผู้ชาย(หน้าตาดี)อีกคนก็เข้ามาเห้อออ แต่งตัวคล้ายๆกันเปี๊ยบแต่คนนี้หัวสีขาวนัยต์ตาสีดำสนิท ห๊ะเถาหรันเฉียวเดี๋ยวนะ....!

"อืม แต่ดูเหมือนศิษย์น้องจะสติวิปลาสไปเสียแล้ว"

"อะไรนะ"แล้วผู้ชายหัวขาวก็ทำหน้าเหวอ

"ศิษย์พี่เถาหรันเฉียว?" ฉันพึมพำ

"หือออ!?" คุณพี่หัวฟ้าหันมามองฉันดังขวับ(เวอร์ไปเองนะ)

"นายชื่อเถาหรันเฉียวเหรอ" นายนั้นแหละคุณพี่หัวฟ้ายังจะมาทำหน้างง

"เจ้าจำข้าได้หรือ เจ้าไม่ได้บ้าหรือเถาเมิ่งเหยียน"

"บ้ากับผีอะไรล่ะล่ะอีตาบ้า" ฉันแอบด่าเขา(ในใจ)

"แล้วคนนี้คือ..เถาหรันซางใช่มั้ย.."

ฉันค่อยๆชี้ไปที่คุณพี่หัวขาวคำตอบคือเขาพยักหน้า(นิดหน่อย)แล้วทำหน้าตาเหรอหราแทนการบอกว่าใช่ ชัดเลย ชัดเลย ชัดเจน!หรันเฉียวเป็นศิษย์พี่ใหญ่หรันซางเป็นศิษย์พี่รองแล้วเถาเมิ่งเหยียนคือน้องสามฉันรีบลุกขึ้นวิ่งไปที่กระจกนี่มันหน้าตา(สวยๆ)สภาพองค์หญิงสามชัดๆ นี่ฉันหลุดเข้ามาในบทที่ตัวเองเขียนเหรอเนี้ย โอ้วม่ายยยสวยแย่เลี้ยววววววววว~

แต่ร่างองค์หญิงสามก็สวยมากนะ><

"เจ้าจำพวกข้าได้ เจ้าไม่ได้บ้าเหรอน้องสาม"

"ดูท่าเจ้ายังมึนๆอยู่หรือ" ใช่แล้วค่ะท่านพี่หรันซาง○~○

"แปปนะ ขอจูนสมองก่อน"

ฉันยกมือแบบห้ามญาติอะไรประมาณนั้นซึ่งพวกเขาก็เงียบตามคำสั่ง(เหรอ?)ขอฉันทบทวนแปปฉันหลุดเข้ามาในบทที่ฉันเขียนและในที่นี่ฉันรับบทเป็นเถาเมิ่งเหยียน ยิปปี้!ฉันได้เป็นนางเอกซ่ะด้วยนี่แหละธรรมดาของคนสวยไม่ใช่สิโว้ยยย นางเอกต้องตายคนแรกไม่ใช่เหรอปั๊ดโธ่! นางเอกตายตอนอายุ24ปีพอดีถ้านับจากตอนนี้....

"พี่ใหญ่ตอนนี้ข้าอายุเท่าไหร่แล้วหรือ" เอาว่ะ ไหนๆก็มาแล้วเนียนๆไปก่อน

"18ปี"

คือคุณพี่ทั้งสองก่อนจะตอบคำถามทำไมต้องมองหน้ากันแบบเลิ่กลั่กก่อนละคะ><

อืม18ปีเหรอ ยังพอมีเวลาให้ฉันเปลื่ยนแปลงอะไรได้บ้างเอาเถอะคงต้องเอาตัวรอดเนียนๆไปแบบจิ้งจกประมาณว่าให้ดูกลมกลืนอะไรยังงี้อ่ะแต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่กำลังมาคือว่าฉัน....

"ศิษย์พี่ใหญ่คือว่าข้า..."

"อะไรหรือน้องสาม" ข้าเรียกพี่ใหญ่ไม่ใช่พี่รองเพค่าาา

"คือว่า..ข้าหิว พี่รองช่วยจัดการให้หน่อยได้หรือไม่" ฉันยิ้มแห้งๆกลบเกลื่อนความอาย

"ได้สิ"

พี่รองยิ้มให้ฉันหนึ่งทีพอเป็นเครื่องทำลายการทรงตัวฉัน โอ้วโน่ววว~ เวลาท่านยิ้มข้าจะอยากบอกท่านว่าหล่อกระชากใจมากท่านพี่เถาหรันซาง และแล้วคุณพี่หรันซางก็ทิ้งฉันไว้กับศิษย์พี่หน้าตึง ซึ่งเขากำลังรื้อของออกมาตั้งบนเตียงที่ฉันนอนดูเหมือนเขากำลังหาอะไรสักอย่าง ฉันนั่งจ้องหน้าเถาหรันเฉียวขนาดที่ว่าสำรวจทุกตารางนิ้ว ผิวขาวเนียนนิ้วเรียวยาวปากสีพีทนัยต์ตาเขาเป็นสีฟ้าบวกกับผมยาวสลอนสีน้ำเงินทำให้ดูมาดแมนแฮนซั่นมากซึ่งฉันเขียนให้เขาเป็นคนนิสัยเย็นชารักสงบไม่ค่อยพูดเพราะคิดว่ามันเข้ากับบุคลิกภายนอกเขาดีแต่พอมาเจอกับตัวทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ไร้ความรู้สึกมากขนาดมองเข้าไปในสายตายังไร้ความหมายจนแปลไม่ได้เลย

"เหตุใดถึงจ้องข้าเช่นนั้นหรือ" หรันเฉียวเงยหน้ามามองฉันพร้อมเก็บของใส่หีบ

"เอ่อออ" แกล้งตายทันไหมว่ะ

เขาเลิกคิ้วสูงแล้วหรี่ตาลงนิดหน่อยก่อนจะอมยิ้มนิดๆกับความปัญญาอ่อนของฉันซึ่งมันก็น่าตลกจริงๆนั้นแหละไปจ้องเขาขนาดนั้นแล้วมาทำหน้าโง่ๆใส่อีก

"องค์ชายใหญ่ขอรับองค์ชายสามแห่งเทียนโฮมาขอเยี่ยมองค์หญิงสามขอรับจะให้เชิญมาเลยมั้ยขอรับ"

อ่า..คนใช้บอกมีคนมาหาฉันองค์ชายสามหรอ...เสิ่นเฉียวสินะคงต้องทำตัวเนียนๆไว้แล้วล่ะไม่งั้นคงโดนจับได้แน่ๆเพราะเสิ่นเฉียวจมูกไวมากท่านพี่เถาหรันเฉียวพยักหน้ารับคนใช้จึงเดินออกไปน่าจะไปเชิญองค์ชายเข้ามาแหละฉันรีบจัดท่านั่งผมเผ้าเบ้าหน้าอะไรให้เข้าที่ เอาล่ะจะได้เห็นโฉมหน้าของตัวร้ายกันซ่ะที

"เป็นเกียรตินักที่องค์ชายแห่งเทียนโฮมาเยือนถึงจวนน้องข้า"

หรันเฉียวลุกขึ้นทำท่าเหมือนจะเคารพมั้ง ฉันเลยยิ้มเจื่อนๆไว้ก่อนเพราะฉันยังไม่เห็นองค์ชายไรนั่นเลยทำไมไม่เดินเข้ามาให้พ้นประตูก่อนฟร้ะฉันอยากจะเห็นหน้าแกโว้ยย สงสัยหน้าตาโหดร้ายตามฉบับตัวร้ายสินะ

"ท่านออกไปก่อนจะได้หรือไม่ศิษย์พี่เถาหรันเฉียว"

"ได้" แล้วศิษย์พี่ก็ทิ้งฉันไว้กับองค์ชายไรนี้

"เป็นเช่นไรบ้างองค์หญิงสามเจ้าดีขึ้นรึยัง?"

องค์ชายถามฉันพร้อมเดินเข้ามานั่งลงข้างๆเตียงที่ฉันนอนแล้วมองหน้าฉันด้วยตาไร้ความหมาย แม่เจ้าโว้ยย! ตัวร้ายอะไรว่ะเนี้ยหล่อยิ่งกว่าพระเอกช่องเห็ดเจ็ดสีซะอีกสูงขาวตรงสเปคใครหลายคนทำเอาฉันอึ้งเหวอตกตะลึงตาค้างไปหลายนาที

"เอ่อ..คือว่าข้า.." ตอบว่าไรดีๆ

"อ้อ ข้าลืมไปว่าเจ้าความจำขาดหายไปบ้างขอโทษแล้วกัน"

เขาพูดกับฉันแต่มือกำลังรินยาใส่ถ้วยแล้วนั่งจ้องมือตัวเองต่อไปคือฉันไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลยนะฉันกำลังอึ้งกับหน้าตาเขาอยู่ นัยต์ตาสีเขียวมรกตขนตายาวเป็นแพใบหน้าคมคายปากบางเฉียบสีชมพูปนสีพีทจมูกคือโด่งมากแม่หน้าใสไร้สิ้วนิ้วเรียวยาวผิวขาวเนียนเวอร์ผมสีดำสนิทสวมอาภรสีน้ำเงินเข้มปักปิ่นมังกรสมกับเป็นองค์ชายสามของจักวรรดิ์เทียนโฮจริงๆ พูดได้คำเดียวว่าเป๊ะทุกอย่างเป็นดาราสบายๆ แต่แล้วฉันก็สะดุ้งตัวโยนเมื่อเขาก้มหน้ามาไกล้ฉันเมื่อฉันเอาแต่จ้องหน้าเขา

"เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ" เขาถามพร้อมอมยิ้มนิดๆ

"ข้าเปล่า เอ่ออ..ท่านช่วยเอาหน้าของท่านออกไปห่างๆจากหน้าข้าหน่อยจะได้หรือเปล่า" ข้าเขินน><

"เหอะ"

เขาทำตามที่ฉันบอกพร้อมหรี่ตาลงนิดหน่อยก่อนที่จะจ้องหน้าฉันเป็นเอาเอาตาย ตอนนี้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาเลยอายแถมเขินมากถึงเขาไม่ค่อยยิ้มหน้านิ่งๆ(แต่หล่อมาก)ของเขาก็ทำฉันเขินได้แบบไม่ต้องลำบากอะไรยิ่งเขาเอาแต่จ้องหน้าฉันทำเอาฉันอยากจะแกล้งเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด!

"นี่ข้าก็นอนมานานรู้สึกเบื่อแล้วหากท่านไม่มีอะไรจะพูดข้าขอตัว"

หมับ!

ฉันตกใจนะจนเผลอสะบัดมือออก เมื่ออยู่ๆมาคว้าข้อมือฉันแล้วกระชากไปหาเขาในตอนที่ฉันกำลังจะลุกทำให้ฉันล้มลงไปนั่งข้างๆห่างกับเขาแค่ระยะข้อศอกเอง ย้ากกกก!

"เจ้าจะไปไหนเหรอองค์หญิงสาม"

"เอ่อ..ข้าจะ..จะไปตลาดแก้เบื่อเฉยๆ" เขินจนจะขิต!

"ขอข้าไปด้วยจะได้หรือไม่"

อะไรคือการถามแล้วยิ้มมุมปากมันดูร้ายกาจมากนะ ไม่อยากจะพูด!

หลังเขาพูดจบคำถามฉันรีบเม้มปากแล้วค่อยเป่าลมออกจากปากเบาๆก่อนจะยิ้มให้เขาแล้วพยักหน้าให้เขาไปกับฉันเหมือนการฆ่าตัวเองทางอ้อมรึเปล่าเพราะถ้าเขาเกิดทำหน้าหล่อขึ้นมาฉันคงหัวใจวายตรงนั้น

"ขอบใจ"

"เอ่อ..ท่าน.."

"มีอะไรหรือเถา-เมิ่ง-เหยียน" อ่ยย ขนหัวลุก

"คือว่าท่านจะปล่อยมือข้าได้หรือยัง"

เขาชะงักนิดหน่อยก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วค่อยๆปล่อยมือฉันไอ้อาการที่หลบสายตาฉันแล้วเกาท้ายทอยนี่คือไรเขาอายเหรอ><

"น้องสามมมม..เหวออ..ข้ามาขัดจังหวะรึเปล่า"

ไม่เลยคะพี่หรันซาง พี่ช่วยชีวิตหนูจากสถาการณ์ที่น่าอึดอัดเป็นบุญใหญ่หลวงมากจะจำไม่มีวันลืมTT แล้วทำไมองค์ชายสามถึงเงียบขรึมซะงั้นฉันล่ะเดาใจคนยุคนี้ไม่ออกจริงๆ

"ข้าเอาเกาลัดผัดน้ำตาลของโปรดเจ้ามาให้"

"ข้าไม่รู้จะหาอะไรให้เจ้าแล้วหากรอในครัวทำอาหารเสร็จเกรงว่าเจ้าคงหิวตายเสียก่อน" ขอบใจ

ฉันรับถุงเกาลัดมาด้อมๆมองๆมันไม่มีอย.นี่หว่าเอาล่ะวะยุคนี้อย.แปลว่าอาย่อยอย่างเดียวแล้วแแหละ อ่า...หอมมากเลยยย~ ฉันค่อยๆลองกัด(ชิมอะไรประมาณนั้น) โหหโอ้มายก๊อด KFCแพ้ขาดเลยนะเนี้ยบอกเลยอร่อยมากจนฉันรีบล้วงออกมาจากถุงแล้วกินอย่างสบายใจ แต่จะดีกว่านี้ถ้าองค์ชายกับศิษย์พี่รองเลิกมองฉันสักทีกลืนไม่ลงแทบจะติดคอหอย○~○

"อ้อ น้องสามข้ามีธุระต้องไปจัดการข้าคงอยู่เฝ้าเจ้าไม่ได้..."

อะไรคะท่านพี่รอง สายตากับรอยยิ้มสดใสนั่นมันดูปลอมมากค่ะมันต้องมีอะไรเคลือบแคลงอยู่แน่ๆลางสังหรณ์มันบอกฉันว่าต้องมีลางร้ายแน่ๆคุณพี่คิดจะทำอะไรอีกเพค่าาาา~

"ข้ารบกวนองค์ชายช่วยดูแลน้องข้าสักครู่จะได้หรือไม่"

นั้นไงว่าล่ะไอพี่ชั่วววววว~ คิดจะจับฉันขังกรงหมาไว้กับองค์ชายหน้าปูนนี่ได้ยังไงสวยรับไม่ได้

"ได้เสมอ ท่านอย่าได้กังวลองค์ชายรองเถาหรันซาง"

"ข้าอยู่คนเดียวได้คงไม่รบกวน" ข้าไม่อยากอยู่กับเขาว้อย!

"แต่ข้าห่วงเจ้าน้องสาม หากเจ้าอยู่กับองค์ชายข้าคงหายห่วงไปบ้าง"

"แต่ข้า.."

"นางอยู่กับข้าแล้วองค์ชายรองไปเถอะ" คุณเสิ่นเฉียว!!!

ฉันรู้ว่าองค์ชายสามเสิ่นเฉียวแห่งจักวรรดิ์เทียนโฮ(เรียกแบบเต็มยศ)จงใจและเจตนาพูดแทรกฉันเพื่อให้ศิษย์พี่รองออกไปได้ซึ่งท่านพี่หรันซางก็ไปจริงๆ ปล่อยทิ้งฉันไว้กับองค์ชายบ้าบอนี่มันน่าโมโหนักเชียวอยากจะบ้าตายว้อยยย

"เหตุใดถึงไม่อยากอยู่กับข้าหรือเถาเมิ่งเหยียน"

"เพราะท่านน่ากลัวยังไงเล่า ปั๊ดโธ่!" ฉันเถียง(ในใจ)

"เอ่ออ..ปะ..เปล่า"

"ข้าเป็นถึงองค์ชายแห่งเทียนโฮแต่ดูเจ้าสิกล้าทำแบบนี้ไม่กลัวหัวหลุดบ่าเหรอเถาเมิ่งเหยียน"

"โหห ไอ้เผด็จการไอ้บ้าอำนาจ" ฉันด่าเขา(ในใจ)

"ข้าขออภัยองค์ชายสามแห่งเทียนโฮ"

"เสิ่นเฉียว"

"อะไร"

"เรียกข้าว่าเสิ่นเฉียว"

"ข้าไม่อยากหัวหลุดบ่าหรอกนะองค์ชายสาม"

"เรียกเถอะถือว่าเจ้าเป็นสหายข้า"ตอนไหนไม่ทราบย่ะ

"องค์ชายเสิ่นเฉียว"

"องค์ชายไม่ต้อง"

"เสิ่น...เฉียว" วินาทีฉันอยากจะกรี๊ดมากค่าา!

"งั้นก็ไปสิ"

"ไปไหนเหรอ"

"เจ้าอยากไปเดินเล่นไม่ใช่เหรอ"

"ใช่"

"แต่ยังอยู่ในสภาพนี้เนี้ยนะ"

"งั้นก็ข้าเตรียมสักชั่วประเดี๋ยว"

"ข้าจะไปรอที่หอกลางแล้วกัน"

หลังจากที่เขาพูดเองเออเองเสร็จสรรพก็ลุกพรวดออกไปจากห้อง รู้สึกหายใจสะดวกขึ้นมาบ้างตอนที่เขานั่งอยู่ฉันแทบไม่กล้าหายใจแรงกลัวเขาโมโหแล้วลุกขึ้นมาบีบคอฉันจะทำไงล่ะแต่จะว่าไปเขาไม่ได้โหดร้ายอะไรมากมายเลยนะคิดมากกันไปเองทั้งนั้น

ตอนที่สาม

.

ออกตลาด

ฉันรีบแต่งตัวตามที่เห็นสมควรแลัวรีบติดเครื่องวิ่งออกจากจวนโดยไม่รอตอบคำถามข้าบริวารสักคนเพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะฉันบอกเสิ่นเฉียวไว้ว่าแปปเดียวแต่มันครึ่งค่อนชั่วโมงแล้วน่ะสิ! เขาคงโกรธฉันมากแน่ๆ

พลั่ก!

"โอ้ย!"

"อ้าว เมิ่งเหยียนเป็นอะไรหรือไม่"

เสียงของผู้ชาย(หล่อ)ตรงหน้าทำให้ความเจ็บที่สองขาฉันสับมาด้วยความเร็วแล้วชนร่างเขาจนตัวฉันเองล้มลงมากองกับพื้นหายเป็นปลิดทิ้ง ทำไมคนในโลกนี้หน้าตาดีจนใจเจ็บกันจังเลยหว่าา~

"เจ็บตรงไหนมั้ย"ตรงใจค่าาา

"ไม่เลย..ขอ..ขอโทษท่าน"

"ท่านอะไรกัน ทำไมไม่เรียกเสิ่นหยางแล้วล่ะ"

ห๊าาา เสิ่นหยางเหรอ ชื่อนี้ทำให้ฉันรีบเงยหน้าขึ้นไปมองเขาที่กำลังยืนยิ้มหวานอยู่นี่คือ...พระเอกหรอไอบ้านี่คือพระเอกเหรอ พูด!!! หล่อโฮกฮากมากแม่โหห หน้าตาก็ดีไม่น่าชั่วเลยนะเสิ่นหยาง

"เอ่อ..ข้า"

"ช่างเถอะ เจ้าเพิ่งฟื้นอย่าคิดมากเลยพอข้ารู้ว่าเจ้าฟื้นแล้วก็รีบมาหาทันทีแต่ไม่นึกว่าเจ้าจะวิ่งมาชนช้าเองซะงั้นคิดถึงข้าเหรอ"เขาพูดขำๆ

ฉันส่ายหัวปฏิเสธแล้วสูดหายใจลึกๆก่อนจะผ่อนมันออกทางปากแล้วค่อยๆระบายยิ้มออกมาใครมันจะไปคิดถึงคนชั่วอย่างนายกันล่ะย่ะ พอฉันส่ายหัวเขาก็ทำหน้าเหมือนผิดหวังอย่ารุนแรงนิดนึงก่อนที่จะปรับเป็นยิ้มเหมือนเดิมเชิญยิ้มไปเถอะฉันไม่มีอารมณ์จะยิ้มด้วยหรอกเพราะในสมองฉันกลัวเสิ่นเฉียวตามมาด่าอยู่

"ไม่เป็นไรแล้วนี่ท่านจะไปไหนหรือ"

"นางจะไปเดินตลาดกับข้าน้องสี่มีอะไรหรือ"

นั้นไง ตามมาจนได้ฉันจะคอขาดมั้ยเนี้ยย●~●

"ท่านพี่สาม"

"แปปของเจ้าข้ารอจนตะวันจะลับขอบฟ้าแล้วล่ะ"

สายตาดุจพญาเหยียวก็ตวัดมาทางฉันอย่างคาดโทษอ่ยย ขนหัวลุกเวลาเขามองแบบนี้ฉันนี่แทบจะวิ่งสี่คูณร้อยไปให้พ้นๆหน้าเขาจริงๆใครมันจะรู้ล่ะย่ะว่าผู้หญิงยุคนี้จะแต่งตัวรุ่มร่ามแบบนี้ทำให้คนสวยอย่างฉันต้องมาลำบากลำบลยังไงเล่า!

"คือว่าข้า...."

"เจ้ายังไม่หายดีเหตุใดถึงรีบออกไปข้าเป็นห่วง"

"นางเบื่อเลยอยากออกไปตลาดข้าเลยจะพาไป"

เอ่ออ..เขาถามฉันนะเสิ่นเฉียวไม่ใช่นาย;-;

"แต่ท่านพี่ท่านก็เห็นว่านางป่วย"

"เจ้าอยากขัดใจนางรึเปล่าล่ะ บอกนางสิ"

อ้าว ทำไมความซวยมาที่ฉันล่ะทั้งๆที่นายสองคนเถียงกันแต่ทำไมโยนความหนักใจมาให้ฉ้านน!

"เถาเมิ่งเหยียน"

"หะ..ห๊าอะไรหรอ" ตกใจหมดไอ้บ้า

"เจ้าจะไปกับศิษย์พี่เหรอ"

เสิ่นหยางหันมาถามฉันพร้อมขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนคนขี้คาตูดคือว่าฉันเบื่อน่ะมันจริงแต่ใครจะไปรู้ล่ะย่ะว่าไอบ้าพี่นายน่ะจะขอไปด้วยทำให้ฉันต้องมาซวยอยู่เนี้ย ฉันเหลือบมองหน้าเสิ่นเฉียวที่กำลังยืนกอดอกพิงเสาหน้าเขายังคงนิ่งแววตาบอกได้เลยว่าถ้าฉันพูดอะไรผิดสภาพศพคงไม่สวย ฉันเงยหน้ามองเสิ่นหยางแล้วค่อยๆพยักหน้าพร้อมยิ้มให้จางๆ

"แต่ว่าเจ้า..."

"นางพูดชัดแล้วเจ้าจะอะไรอีกเสิ่นหยาง"

"แต่ท่านก็รู้ว่านางป่วย"

"ก็รู้"

"นางเพิ่งฟื้นจะให้ออกตลาดเลยหรือ"

"ใช่"

"หากนางเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบ!"

"ข้า" อืมดีมากเสิ่นเฉียวTT

"แต่ข้าจะทนดูได้อย่างไรนางเป็นคนของข้า!"

"นางบอกแบบนั้นเหรอ" อะไรมามองฉันทำไมกัน

"นางไม่ได้บอกแต่ข้ามั่นใจ!"

"ทั้งที่เจ้าเพิ่งกอดกับชิงชิงน่ะเหรอ"

"ท่านพี่!!!" โป๊ะแตกมั้ยล่ะเสิ่นหยาง

"เหอะ"

"ข้าปลอบใจนางต่างหาก เถาเมิ่งเหยียนเจ้าอย่าเข้าใจข้าผิดไปนะ" แล้วจะลนลานทำไม?

"ไปเถอะเถาเมิ่งเหยียน"

"พี่สาม! ข้าเริ่มจะหมดความอดทนกับท่านแล้วนะ"

"อดทน? เรื่องอะไร"

"ข้าบอกนางไม่สบาย ท่านยังทุรังพานางไปอีก!"

"ข้าเปล่าบังคับนาง นางอยากไปเองข้าเลยขอไปด้วยแล้วข้าผิดตรงไหนเสิ่นหยาง"

ฉันยืนมองผู้ชาย(หน้าตาดี)สองคนที่ตัวใหญ่กว่าฉันหลายเท่ายืนเถียงกันกลางสะพานข้ามคลองระหว่างจวนฉันกับหอกลาง เสิ่นหยางดูโกรธจัดนะเขากำหมัดแน่นกัดฟันกรอดแล้วจ้องหน้าเสิ่นเฉียวด้วยแววตาอาฆาตอย่างกับจะเข้าไปชกอย่างนั้นแหละ ส่วนเสิ่นเฉียวนะเหรอ ให้ตายเหอะเขายังคงนิ่งเงียบไม่แสดงอาการอะไรทั้งสิ้นไม่รู้ร้อนรู้หนาวขนาดเสียงหายใจยังแทบไม่ได้ยินในบทที่ฉันเขียนขณะที่พี่น้องคู่นี้กำลังทะเลาะกันร่างนี้จะเลือกไปกับเสิ่นหยางเพราะตอนนั้นร่างนี้รักกับเสิ่นหยางอยู่แต่ตอนนี้ฉันเลือกไปกับเสิ่นเฉียวแล้วเนื้อเรื่องคงจะเปลื่ยนไปบ้างตามเรื่องพี่น้องคู่นี้ไม่ถูกหน้ากันแสดงว่าต้องปะทะกันบ่อยแน่ๆ ตายสวยตาย

"เถาเมิ่งเหยียน..."

"ไปเถอะเสิ่นเฉียวข้าหิว ส่วนเสิ่นหยางวันนี้ข้าคงอยู่ต้อนรับเจ้าไม่ได้ต้องขออภัยด้วย"

ฉันพูดตัดบททำลายบรรยากาศน่าอึดอัดนี่สักทีหลังเสิ่นหยางเรียกฉันเบาๆเเล้วค่อยๆเม้มปากหมือนจะช็อคซีนี่ม่าเมื่อเห็นฉันคว้าข้อมือของเสิ่นเฉียวแล้วใช้แรง(มหาศาล)ของฉันดึงเขามายืนข้างๆซึ่งไอหมอนี่ทำเอาฉันแทบหมดแรงยืน

หลังพูดจบฉันรีบดึงแขนของเสิ่นเฉียวให้เดินตามฉันมาปล่อยให้เสิ่นหยางยืนงงอยู่ตรงนั้นตายๆนึ่ฉันกำลังทำอะไรอยู่เนี้ยฉันรู้สึกว่าฉันเดินเร็วแต่เสิ่นเฉียวกำลังเดินปกติก็ใครใช้ให้เขาขายาวล่ะฉันขาสั้นนิถ้าฉันเดินในระดับปกติสำหรับเขาคงต้องเดินช้า(มาก)เพื่อให้มันสมดุลกับฉัน

"จะไปร้านไหนดีล่ะเสิ่นเฉียว"

ฉันหันกลับไปถามเสิ่นเฉียวเขาเลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนจะสูดหายใจเขาลึกแล้วค่อยๆผ่อนออกมา

"มันพ้นมาแล้วล่ะร้านที่ข้าจะแนะนำเจ้า"

"อ้าว แล้วทำไมไม่บอก"

"ก็เจ้ากระชากแขนพาข้าวิ่งมาไม่ใช่เหรอ"

เขายกมือข้างที่ฉันกำลังจับอยู่ขึ้นมาชูตรงหน้าฉันเพื่อเป็นหลักฐาน บ้าเอ๊ย ฉันลืมตัวได้ไงเนี้ยสะบัดแทบไม่ทันฉันจับมือถือแขนผู้ช๊ายยยย! เสิ่นเฉียวส่ายหัวนิดหน่อยก่อนที่จะคว้าข้อมือฉันแล้วจูงเดินกลับไปทางที่เพิ่งวิ่งมา อะไรคือการจับมือโดยไม่ขออณุญาติย่ะ!ฉันเดินตามเขาแต่สายตามองตามแผ่นหลังเขาคือไหล่ของเขากว้างมากนะรวมๆคือเขาเป็นสเปคของหลายคนในโลกของฉันเลยแหละ

"โอ้ยยยย"

ฉันยกมือขึ้นมาลูบหัวเมื่อเสิ่นเฉียวหยุดเดินกะทันหันส่วนฉันที่กำลังเหม่อเลยเดินชนหลังเขาเจ็บชะมัด หลังเขาจะแข็งไปไหนเนี้ยหัวฉันแทบแตกTT

"เจ้าเหม่ออะไรอยู่ถึงเดินชนข้าแบบนี้"

"แล้วทำไมเจ้าถึงไม่บอกข้าล่ะอยู่ก็หยุดกะทันหัน"

"ข้าต้องบอกเหรอว่าจะหยุดเดินแล้วนะ ในเมื่อเจ้าก็เห็นว่าข้าจะเดินมาร้านขนมถึงร้านแล้วก็ต้องหยุดหรือจะต้องเดินพ้นล่ะ"

เออยอม! อิชั้นผิดเองค่าา!!

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!