NovelToon NovelToon

วันฝันที่ปราถนา

บทที่1ชีวิตที่เปลี่ยนไป

.

.

.

.

เช้าอันสดใสแต่ไม่สดใสสำหรับคนที่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนแบบ'มิ้นท์'หรือ'มายด์มิ้นท์'หญิงสาวอายุ 16 ย่าง 17 ปีศึกษาอยู่ที่โรงเรียน ก.*.*.ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเปิดเทอมมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ชีวิตในฐานะนักเรียนม.ปลายก็ไม่ได้อะไรมากวนลูปอยู่แบบเดิมเลยคือ ตื่นเช้า ไปโรงเรียน กลับบ้าน ทำงานบ้าน/การบ้าน ทานข้าว อาบน้ำนอน แค่นี้และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่จะต้องทำแบบนั้น....

เช้านี้ก็เป็นอีกวันที่ต้องไปโรงเรียนเพราะวันนี้เป็นวันอังคารตารางเรียนวันนี้ก็แน่นไม่ต่างจากวันอื่น ทุกคนคงรู้แล้วว่าฉันเป็นใคร ใช่ฉันมิ้นท์ ถามว่าฉันเป็นยังไงน่ะเหรอก็ ฉันเป็นคนอวบเน้นว่า'อวบ' ฉันสูงแค่ 157 น้ำหนัก...ช่างมันเถอะ หน้าตาก็ไม่ได้ดีมากอะไรก็พอดูได้ นิสัยก็..ติดเล่น ปีนี้ฉันอยู่ มัธยมศึกษาปีที่ 4 ตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมาในชีวิตฉันก็ผิดหวังเยอะทีเดียวลงแข่งอะไรก็ไม่ได้ที่กับเขาสักที ไปสอบ สอวน.ก็ไม่ติด นี่แหละชีวิตฉันทำได้ทุกอย่างแต่ไม่เก่งซักกะอย่าง ฉันภาวนาให้ตัวเองฉลาดขึ้นทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จได้โดยไม่ลำบากมากซึ่งแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้

"เจี่ย!สายแล้ว"เจี่ยหรือแยมพี่สาวฉัน เจี่ยคำว่าพี่สาวในภาษาจีนมาจากคำว่าเจี่ยเจียครอบครับเราไม่ได้มีเชื้อสายจีนหรอกฉันแค่ชอบก็เลยเรียกพี่สาวและน้องสาวแบบจีน แยมเรียนอยู่มัธยมปีที่ 6 แล้วอีกนิดเดียวก็ไปอยู่ในรั้วมหา'ลัยแต่พี่สาวฉันไม่เคยปรับปรุงตัวสายยังไงก็ยังสายอย่างนั้นไปสายประจำแล้วก็ไม่ได้สายคนเดียวเพราะทำฉันสายด้วยตลอดฉันและพี่ไม่ได้ขึ้นรถรับส่งแต่ขับรถจักรยานยนต์ไปกันเองเหตุผลก็อย่างที่บอกสายไงล่ะ

"เออรู้แล้วน่า"แยมวิ่งลงบันไดมาอย่างเร็วเพราะช้ากว่านี้ได้หาทางไปโรงเรียนเองแน่

"ไปแล้วนะ"ฉันบอกกล่าวคนในบ้านก่อนไปโรงเรียน

.

.

.

07.33น.ในที่สุดฉันก็ถึงโรงเรียนซึ่งจะเข้าแถวในเวลา07.40น.เหลืออีก 7 นาทีวิ่งขึ้นห้องสิครับจะรออะไรตึกเรียนก็ไกลยังจะต้องขึ้นห้องเรียนที่อยู่ชั้นสามอีก

.

.

เรียนคาบแรกก็คณิตศาสตร์เพิ่มเติมไม่ชอบสุด ๆแต่ก็ต้องเรียน

คาบสองเคมีเคใจก็ไม่หนักเท่าไหร่

คาบสามอังกฤษเพิ่มเติมสบายอยู่

คาบสี่เรียนประวัติศาสตร์

พักทานข้าวเที่ยงวันนี้ต้องบอกว่าเลือกยากสุด ๆ ระหว่างก๋วยเตี๋ยวกับข้าวมันไก่ สรุปก็ได้ทานก๋วยเตี๋ยวเมื่อได้แล้วฉันก็เดินไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนสนิทของฉัน พวกเรามีกัน 6 คนมีฉัน มีแพรวเพื่อนที่สูงสุดในกลุ่ม วุ้นเพื่อนสาวตัวผอมชอบให้คนในห้องเรียกว่า'เสี่ย' เชอรี่เพื่อนตัวเล็กในกลุ่ม แอ้มสาวเงียบแต่ไม่สุขุมและสุดท้ายแอนเพื่อนสาวที่พ่วงตำแหน่งน้องสาวของฉันหรือจะบอกว่าฉันและแอนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แอนเป็นลูกของน้าฉัน เราเกิดปีเดียวกันฉันต้นปีเดือนกุมภาพันธ์แอนเกือบท้ายปีเดือนสิงหาคม กลุ่มเราเป็นพวกบ้า ๆ บอ ๆ ติดตลกกันทุกคนไม่เว้นแม้แต่แอ้มจริงจังกันได้ไม่นานก็ชอบรั่วตลอดแต่เอาจริงๆนะนักเรียนห้อง 4/1 ก็ตลกกันทุกคนนะ

ทานไปได้สักพักก็หมดทุกคนจึงตัดสินใจกลับห้องพวกเราจึงเดินเอาจาน,ถ้วยไปวางไว้ที่รอล้างก่อนออกไป แวะซื้อขนมนิดหน่อย หลังจากกลับห้องมาได้สักพักครูผู้สอนรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานก็เข้ามาสอน การเรียนช่วงบ่ายจึงเริ่มขึ้น...

.

.

.

เมื่อถึงเวลากลับบ้านนักเรียนทั้งหมดประมาณ1300กว่าคนก็ทยอยกลับบ้านกันฉันและพี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงบ้านเพราะไม่ได้แวะซื้ออะไรก่อนกลับพอถึงฉันก็ช่วยงานแม่ที่บ้านเล็กน้อยแล้วไปอาบน้ำรอทานข้าวเย็นและขึ้นนอน เวลาผ่านไปสักพักฉันก็หลับ...

...เพรี้ยง!!!...

เฮือก! ฉันสะดุ้งตื่นหลังได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงมาที่ข้างตัวบ้าน แต่เมื่อมองพี่สาวที่นอนด้วยกันกลับนอนนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแปลกจัง รางสังหรณ์บอกฉันว่าให้ออกไปดู แต่เมื่อออกมาด้านนอกฉันก็ต้องตะลึงเพราะพบเข้ากับหลุมขนาดใหญ่แต่มันไม่ได้เป็นหลุมธรรมดาแน่ๆก็มันมีอะไรสักอย่างอยู่กลางหลุมมันมีลักษณะเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆอยู่ในนั้น ไม่นานฉันที่ตกใจกับภาพนั้นก็ต้องตกใจอีกชุดใหญ่เพราะกล่องนั่นลอยขึ้นมาหาฉัน ฉันขยับตัวไม่ได้ทำได้เพียงยืนนิ่งเท่านั้น กล่องเล็กๆนั่นเปิดออกก่อนจะเห็นแหวนวงหนึ่งที่มีเพชรสีฟ้าและขอบเป็นเพชรสีขาวล้อมวงแหวนนั่น แหวนวงนั้นลอยมาที่นิ้วกลางมือขวาฉันก่อนที่ภาพอะไรสักอย่างจะไหลเข้ามาแล้วทุกอย่างก็มืดลง...

.

.

.

แสงสว่างเริ่มกลับมาในเช้าวันใหม่ หน้าต่างบานใสทำให้รู้ว่าจะเช้าแล้ว ร่างสองร่างเริ่มรู้สึกตัว เสียงของนาฬิกาแจ้งเตือนตามเวลาที่กำหนดร่างของสาวอายุ18อย่างแยมลุกขึ้นปิดก่อนกลับลงไปนอนต่ออีกครั้ง ส่วนน้องสาวอย่างมิ้นท์กับตื่นเต็มตาหลังภาพเหตุการณ์แล่นเข้าหัว เธอยกมือขวาขึ้นดูว่ามันเป็นแค่ฝันหรือไม่ และแล้วแหวนวงนั้นก็ยังอยู่ที่นิ้วเหมือนเดิมเพียงมองแหวนภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เมื่อคืนได้เห็นมาแล้ว

ตัวเธอทำเพียงนอนนิ่งคิดอะไรต่างๆมากมายในหัวอย่างหยุดไม่อยู่ภาพที่เห็นเมื่อคืนหลังสวมแหวนนั้นคือเธอ มิ้นท์ในโลกนี้มีตัวตนในโลกคู่ขนานอีกเป็นพันๆแต่ทุกร่างเชื่อมต่อกันซึ่งคนที่ทำแบบนี้ก็คือ อเมทีน่า โฟเนีย เดอ เบลฟรอนไลท์ โลกที่เธออยู่เป็นโลกที่มีเวทมนตร์แบ่งแยกไปตามสายต่างๆมากมายมีอาณาจักรเป็นร้อยโดยอยู่ภายใค้การปกครองของจักรวรรดิและเธอเป็นองค์หญิงพระองค์ที่2ที่มีสิทธิครองบัลลังก์ต่อจากผู้เป็นพ่อ จักรวรรดิเบลฟรอนไลท์ เป็นจักวรรดิที่มีราชวงศ์สืบทอดเวทย์แห่งแสง ราชวงศ์นี้มีความแปลกอยู่หนึ่งสิ่งคือการตื่นของ'พลังที่2'พลังนี้จะตื่นตอนไหนเวลาไหนไม่ทราบได้หรืออาจไม่ตื่นแต่จะไปเพิ่มพูนพลังแห่งแสงให้แกร่งขึ้นแทนซึ่งคนในราชวงศ์ถึง35%ที่เป็นอย่างนั้นและตัวฉันในโลกนั้นไม่ใช่หนึ่งใน35%นั่น พลังที่สองของเธอคือเวทย์น้ำแข็ง100%เป็นประเภทหายากและประเภทหายากนั้นจะถูกเรียกขานว่า'แม่มด'ในโลกนั้นมีกลุ่มที่ถูกเรียกว่าแม่มด/พ่อมดเพียงแค่5กลุ่มเท่านั้นทั้งห้าแบ่งตามสถานของที่ตั้งนั่นคือ แม่มด/พ่อมดน้ำแข็งตั้งอยู่ในที่ที่หนาวที่สุดของโลกทิศเหนือสัญลักษณ์คือเกล็ดน้ำแข็ง แม่มด/พ่อมดบุปผาอาศัยในบริเวณที่อบอุ่นที่สุดของโลกสุดทิศตะวันออกสัญลักษณ์คือดอกไม้ แม่มด/พ่อมดพฤกษาที่ตั้งคือป่าที่เขียวชะอุ่มทิศใต้สัญลักษณ์คือใบไม้ แม่มด/พ่อมดกาลเวลาอาศัยพื้นใต้พิภพสัญลักษณ์คือนาฬิกา และสุดท้ายแม่มด/พ่อมดแห่งการประสาทพร เป็นเสมือนนักบวชนั่นเอง กล่าวมาตั้งนานสรุปก็คือตัวตนในอีกโลกของเขาคือองค์หญิงที่มีพลังน้ำแข็งซึ่งถูกเรียกว่าแม่มดใด ๆ คือแม่มดน้ำแข็งมีเพียงสามคนรวมเธอนั่นเองนี่

ยังไม่น่าตกใจพอเท่าเรื่องที่อเมทีน่าเธอแต่งงานแล้ว!ใช่แต่งแล้ว แต่งกับองค์ชาย3จากจักรวรรดิข้างเคียงที่รู้จักกันตั้งแต่เด็กและเรื่องอีกมากมายที่ถูกส่งต่อมาให้ตัวของมิ้นท์ในโลกนี้อเมทีน่าในโลกนั้นได้ตายไปแล้วโดยส่งสิ่งที่มีอยู่ณ ตอนนั้นให้ตัวเองในโลกคู่ขนานอื่นต่อไปซึ่งครั้งนี้คือมิ้นท์

อ่ามิ้นท์ก็คือฉันอเมทีน่าก็คือฉันอีกตามเคย**เธอเลือกตายแล้วส่งต่อให้ฉันไม่สนใจคนที่ต้องเห็นคนรักตายเลยเหรอ อยู่ๆความรู้สึกก็ทะลักขึ้นมาอ่าาเจ็บจัง นั่นสิก็ตอนนี้เป็นตัวฉันนี่ ฉันใช้เวลาคิดอยู่สักพักก็ลุกขึ้นไปจัดการตัวเองก่อนไปโรงเรียนต่อโดยเก็บสิ่งที่เกิดขึ้นไว้ไม่บอกใครรอเวลาพบเจอคนจากอีกโลกที่จะมาในอีกไม่ช้านี้แทนเมื่อถึงวันนั้นฉันในฐานะแม่มดน้ำแข็งจะทำทุกอย่างต่อจากตัวเองในร่างเดิมเอง...

.

.

.

.

.

บทที่2การพบเจออีกครั้ง

.

.

.

เวลาผ่านไปจนถึงเย็นวันศุกร์ฉันที่เริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่พื้นฐานไม่สิต้องเรียกว่าฟื้นความทรงจำและนั่นไม่ใช่ปัญหามันง่ายมากฉันคุ้นเคยกับทุกอย่างนี่สิเรียกว่าส่งต่อ'ทุกสิ่ง'ให้ร่างอื่น เรื่องนี้ครอบครัวฉันไม่รู้เรื่องฉันตั้งใจเก็บเงียบจนเหมือนไม่มีอะไรจริงๆ นิสัยฉันเปลี่ยนไปด้วยนั่นคือนิ่งขึ้นนิดหน่อย ตัวฉันก็ผอมอย่างเห็นได้ชัด เรียนเก่งขึ้นด้วย แต่ฉันก็ยังใช้ชีวิตปกติยกเว้นกลางคืนที่จะออกไปปราบปีศาจใช่ปีศาจแต่ก็ใช่ว่าปีศาจจะชั่วร้ายไปหมดทุกตัว อเมทีน่าเองก็มีเพื่อนเป็นปีศาจชื่อซีอน ปีศาจที่เขาปราบนั้นเป็นปีศาจชั้นต่ำส่วนใหญ่จะออกล่าเพื่อเพิ่มพลังแล้วเลื่อนขั้นจากชั้นต่ำเป็นพื้นฐาน จากพื้นฐานเป็นชั้นกลางไปชั้นสูงและไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเป็นบุตรของราชารึจักรพรรดิปีศาจก็ไม่ต้องไล่ตามเหมือนคนอื่นเพียงเกิดมาก็เป็นปีศาจชั้นสูงแล้วซึ่งซีอนก็เป็นปีศาจชั้นสูงเกิดจากราชาปีศาจชั้นสูงอีกที ตอนนี้ก็เป็นเวลากลางดึกหลังกำจัดปีศาจที่รุกล้ำเข้ามาในเขตที่ต้องดูแลเสร็จแล้วฉันก็รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่ทำให้อากาศเย็นลงมาก

"ไม่เจอกันนานเลย'อเมทีน่า โฟเนีย ไอซ์วินตั้น'ยังดีอยู่นี่นา"

"ตามหานานเลยล่ะ"

เสียงที่ได้ยินก่อนได้เห็นดังขึ้นส่งผลให้ตัวฉันหันไปมอง ซึ่งคนที่ปรากฏมีลักษณะขาวทั้งตัวนั่นคือผมสีขาวเงิน ผิวขาวราวหิมะ ในตาสีฟ้ามีเกล็ดน้ำแข็งอยู่ภายใน เสื้อผ้าหนาอบอุ่นสีฟ้าอ่อนประดับไปด้วยลวดลายของเกล็ดน้ำแข็งทั่วทั้งตัว

"ไม่เจอกันนานจริงๆนั่นล่ะนะ พี่ใหญ่ซินดี้ เดียน ไอซ์วินตั้น กับพี่รองโอฟีเรีย บีเอล ไอซ์วินตั้น ได้พบกันอีกครั้งสักทีนะคะ"ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมนามสกุลแปลกฉันจะอธิบายให้ฟังนะคะ แม่มดจะมีนามสกุลเป็นของตัวเองถ้าหากใครก็ตามที่มีพลังของแม่มดทั้งห้ากลุ่มก็จะใช้นามสกุลนั้นๆแม้จะไม่มีสายเลือดเดียวกันก็ตาม แม่มดน้ำแข็งใช้สกุลว่าไอซ์วินตั้นส่วนอีกสี่สกุลเอาไว้ทีหลังเนอะ

พี่ใหญ่หรืออาจารย์ เธอเป็นบุคคลแรกที่มีพลังน้ำแข็ง100%แต่กำเนิดไม่ใช่พลังที่เกิดจากการประสานเวทย์เป็นที่น่าตกใจของหลาย ๆ คนเพราะหลังจากแม่มดน้ำแข็งคนสุดท้ายตายไปก็แปดร้อยปีแล้วเธอจึงเป็นคนแรกที่ได้เรียนวิชานี้พี่ใหญ่เป็นเพียงสามัญชนตัวคนเดียวลองผิดลองถูกมากับตำราวิชาที่อยู่ในห้องสมุดของปราสาทน้ำแข็งคนเดียวจนสำเร็จวิชาหลากหลายแขนงแต่ก็ยังทำไม่สำเร็จอีกมากเช่นกัน ซินดี้เธอมีพลังในการควบคุมและสื่อสารกับสัตว์ถนัดอัญเชิญสัตว์เวทน้ำแข็ง มีชื่อในหมู่คนทั่วไปเรียกกันว่า'จักรพรรดินีน้ำแข็ง'หรือแม่มดน้ำแข็งที่1

ต่อมาคือพี่รองหรือศิษย์พี่โอฟีเรียเธอเป็นชนชั้นสูงที่พลังตื่นใช้กว่าใครเพื่อนพอพลังตื่นขึ้นมาก็พบว่าเป็นน้ำแข็งเธอจึงเข้ามาเป็นไอซ์วินตั้นคนที่2เธอเชี่ยวชาญวงเวทย์เป็นอย่างมากไม่ถนัดต่อสู้อย่างพี่ใหญ่หรืออเมทีน่าแต่เธอสามารถสร้างเกราะป้องกันได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะชื่อของเธอคือราชินีน้ำแข็งหรือแม่มดน้ำแข็งที่2

ส่วนฉันถนัดการใช้ศาสตร์ตราวุธต่าง ๆ ง่าย ๆ ฉันใช้อาวุธได้ทุกชนิดสู้เก่งที่สุดเพราะไม่กลัวว่าจะบาดเจ็บสืบเนื่องจากตัวตนก่อนเป็นแม่มดน้ำแข็งก็เป็นคนของราชวงศ์แห่งจักรวรรดิแสงมาก่อนการฟื้นตัวจึงสูงจนสามารถรักษาได้ทันทีหลังเกิดแผลชื่อทางการคือองค์หญิงน้ำแข็งหรือแม่มดน้ำแข็งที่3 แม่มดน้ำแข็งมีเขตปกครองตนเองมีชาวเมืองให้ปกป้องเราสามคนจึงตกลงกันว่าจักรวรรดิน้ำแข็งต้องกลับมาอีกครั้งจึงฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้เพาะปลูกได้ ส่วนชาวเมืองพวกเขาก็ยังคงอยู่มาตลอดตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันพวกเขารอการกลับมาของราชวงศ์เหมันต์อีกครั้งเสมอมา...

.

.

หลังกล่าวทักทายพวกเราทั้งสามก็ย้ายสถานที่พูดคุยมาที่บ้านฉันโดยสร้างชุดโต๊ะน้ำชาด้วยน้ำแข็งขึ้นมา

"เจ้าน่ะไม่ว่าจะคนไหนก็นิสัย ท่าทางแล้วก็ทุกอย่างเหมือนกันหมดใช่โลกคู่ขนานจริงๆรึเปล่า"โอฟีเรีย

"พี่รองฉันจะถือว่านั่นคือคำชม"อเมที่น่า

"ครอบครัวเธอรู้รึยังว่ากลับมาแล้ว"ซินดี้

"ยัง อีกไม่นานก็จะกลับไปหาแล้วล่ะ"อเมทีน่า

"เจ้าก็เป็นซะแบบนี้ มีเวลาล็อคทุกอย่าง บางทีเธออาจจะมีเชื้อสายของพวกกาลเวลา"ซินดี้

"ที่พี่ใหญ่พูดก็ไม่ผิดหรอกก็ยายทวดเป็นแม่มดแห่งกาลเวลานี่นา"อเมทีน่า

"หึ ปรับตัวได้เร็วกว่าที่คิดนะอเมทีน่า"ซินดี้

"ข้าอยู่ที่นี่มีชื่อว่ามายด์มิ้นท์ ถ้าอยู่ที่โลกนู้นค่อยเรียกว่าอเมทีน่านะ ข้าไม่อยากให้พวกเขารู้"

"ได้ ก็ใช่ว่าข้าจะได้มาที่นี่บ่อยๆ ข้าและพี่ใหญ่มาที่นี่นอกจากการพบตัวเจ้าที่หายไปแล้วก็มีเรื่องจากองค์กรสภาเวทย์มนต์มาส่งต่อให้เจ้า"พี่รองส่งจดหมายหนึ่งฉบับให้ฉันทันทีที่จับได้ฉันก็เปิดอ่าน...

"บ้าหรือ ให้ข้าคอยฝึกให้เด็กที่ประสบการณ์ไม่มี?!"จะบ้าตายนอกจากมอนสเตอร์แล้วก็ภูติระดับต่ำเด็กพวกนี้ก็ทำอะไรไม่เป็นเลยฉันจะฝึกให้ได้อย่างไร"อยากให้ข้าปวดหัวหรือ!?"

"ข้าไม่รู้ว่าพวกนั้นคิดอะไรอยู่"โอฟีเรีย

"ตั้งใจหยามข้า?"อเมทีน่า

"งั้นข้าเผามันทิ้ง"ซินดี้

"ถ้าเป็นท่านไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ข้าจัดการเอง"อเมทีน่า

"ตามใจเจ้า พวกข้ากลับล่ะ"ซินดี้

"รักษาตัวด้วยน้องเล็กพวกเรา"โอฟีเรีย

ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปทำเพียงโบกมือให้เล็กน้อยเท่านั้นทั้งสองคนก็เคลื่อนย้ายหรือหายตัวกลับไปเหลือเพียงลมเย็นๆ

"อืมมมต้องกลับไปนอนต่อแล้วสิ"

.

.

.

เช้าวันใหม่กับอากาศที่สดใสไม่ร้อนไม่หนาว วันนี้แผนการคือทำงานบ้านแท้ๆไม่คิดจะไปที่ไหนแต่เมื่อถึงเวลาจริงๆกลับไม่ใช่ แผนการต้องแปรเปลี่ยนไปเพราะบุคคลที่ไม่คาดคิดปรากฏตัวขึ้นยังดีที่ไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากตัวเขาไม่งั้นได้ช็อคกันยาวที่อยู่ๆก็มีคนโผล่มาตรงหน้า บุคคลคนนั้นคือ ' ซีโนเอล แอสเชอร์ เดอ ธันแบล็คสปาร์ ' หรือก็คือสามีของฉัน การปรากฏตัวของเขาเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริงๆ ฉันไม่คิดว่าจะมา...ไม่ง่ายเลยที่องค์ชาย ไม่สิองค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิสายฟ้าไม่ได้มีเวลาว่างมาเดินเล่นได้ง่ายๆหรอก..มั้งนะจะว่าไป'โซล'ก็ดูว่างตลอด

"เทีย.."

"โซล...คุยที่นี่ไม่ดีมั้ง"

"อ่านั่นสินะ มาสิเทีย"ฉันไม่ตอบทำเพียงวางมือลงบนมือของอีกฝ่ายที่ยื่นมารอก่อนแล้วเท่านั้น

มวลอากาศเริ่มบิดเกลียวชวนคลื่นไส้ไม่หยอกแต่เพียงไม่นานก็กลับมาปกติเพื่อเติมคือทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไป ที่นี่เป็นเนินเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้ที่ให้ร่มเงาแสนเย็นสบายบวกกับกลิ่นหอมของดอกไม้ยิ่งทำให้ผ่อนคลาย แสงแดดอ่อน ๆ ชวนง่วงซึ่งถ้ามีเตียงละก็หลับสนิทเชียวล่ะติดเพียงอย่างเดียวไม่ได้มาเพื่อนอน

"ข้าเชื่อว่าเจ้าคงคิดว่าถ้ามีเตียงคงหลับสบาย"

"เป็นเจ้าที่รู้ใจข้าเสมอ"ฉันยิ้มอ่อนส่งไป ฉันและซีโนเอลเราเจอกันที่นี่เมี่ออายุพวกเราแค่6ขวบ ฉันจำวันนั้นได้ดี ย้อนกลับไปเมื่อ10ปีก่อน...

วันนั้นข้าหนีออกมาเที่ยวเล่นนอกวังแต่เมื่อเดินไปเดินมาก็วาร์ปไปถึงจักรวรรดิสายฟ้า ข้าไปถึงก็เห็นคนเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่คงจะเกิดก่อนข้ามาถึงด้วยความที่เป็นคนของจักรวรรดิแสงข้าจึงรักษาคนเจ็บ 3-4 คนนั้น หลังรักษาเสร็จข้าก็เดินเล่นเพื่อสำรวจพื้นที่และหาหอเวทเพื่อกลับบ้านถึงจะเป็นอัจฉริยะแต่ก็ใช่ว่าอายุ6ขวบจะทำอย่างอื่นได้เยอะแต่เมื่อเดิน ๆ อยู่นั้นดันเจอขโมยกระเป๋าเงินเข้าให้ข้าจึงวิ่งตามไปประสบกับเด็กชายคนหนึ่งที่มีผมสีม่วงเข้มจนเกือบจะดำนัยน์ตาสีม่วงน่าหลงใหลวิ่งตามมาเช่นกันครานั้นข้าคิดเพียงว่าคงเป็นคนที่ถูกขโมยของมีค่าเช่นกันจึงช่วยกันจับ

"หยุดนะ!!!"

"อึก"

ทั้งข้าและเขาช่วยกันสู้กับโจรโดยข้าทำให้การมองเห็นของผู้ร้ายบอดชั่วขณะหนึ่งแล้วเขาก็ใช้ดาบในมือฟันโจรนั้นจนล้มลงด้วยใบหน้าที่แน่วแน่จนข้าคิดว่าเด็กนี่ดูไร้ความรู้สึก

"เจ้า...ฆ่าเขาหรือ"

"ไม่ข้าเปล่าฆ่า ข้าแค่ฟันให้สลบอย่าห่วงเลย"

"งั้นหรือ"

"เจ้าก็ถูกโจรนี่ขโมยของใช่มั้ย"

"ใช่ เขาเอากระเป๋าเงินข้าไป เจ้าเล่า"

"ข้าวิ่งตามให้ยายผู้หนึ่ง"

"อ่าา เจ้าไม่ใช่คนแย่นี่นา"

"เฮ้ นี่เจ้ามองคนแบบไหนน่ะ"

"ดูจากการกระทำ ก็เจ้าเล่นฟันแบบนั้นแม้จะช่วยคนอื่นก็ดูโหดร้ายนี่"

"เจ้า! ข้าไม่ใช่คนแบบนั้นนะ!!"

"เถียงข้าแล้วจะได้อะไรขึ้นมา เจ้าวิ่งมาเพราะคุณยายไม่ใช่ฤาเอาของไปคืนสิท่านรอแย่แล้ว"

"จริงด้วย!เจ้าก็ไปด้วยกันสิข้าอยากคุยกับเจ้าเยอะเลย"

"แต่ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเจ้านี่นา ข้าตามหาหอเวทอยู่"

"งั้นถ้าคุยกับข้า ข้าจะพาเจ้าไปที่หอเวทเอง"

"ไม่ล่ะข้าหาเองดีกว่า"เอ่ยจบก็เดินออกไปทันทีแล้วไม่หันกลับไปมองด้านหลังอีก

บุคคลด้านหลังทำเพียงมองเด็กสาวตัวเล็กผมสีทองสว่างใส่ที่คาดผมใบมะกอกสีทอง นัยน์ตาก็สีทอง ยังดีที่ชุดกระโปรงเนื้อดีนั่นเป็นสีฟ้าไม่อย่างนั้นคงสว่างไปทั่ว ตัวเด็กชายคิดว่าแปลกตาดีเขาไม่เคยเห็นเด็กคนนี้มาก่อนไม่ว่าจะออกมาเดินเล่นกี่ครั้งก็ไม่เคยเจอนี่เป็นครั้งแรก เธอเป็นคนที่แปลกในสายตาเขามีอย่างที่ไหนเจอกันครั้งแรกร่วมสู้ด้วยกันกลับคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดีซะงั้น ให้ตาย จะว่าไปเธอก็ดูเชี่ยวชาญเวทมนตร์กว่าเด็กคนอื่นที่อายุใกล้เคียงกันขนาดเขายังใช้ดาบชำนาญกว่าเวทย์ซะอีกเจอกันอีกทีจะถามให้ได้ว่าเป็นใครชื่ออะไร

.

.

.

อเมทีน่าเดินหาหอเวทอยู่นานสองนานในที่สุดก็เจอเข้าจนได้ เธอเดินเข้าไปด้านในก็พบผู้คนมากมายเดินขวักไขว่กันไปมาจนเวียนหัว ก่อนที่จะเห็นพนักงานหน้าเคาเตอร์ต้อนรับยืนอยู่ เธอทำการวิ่งเข้าไปเพื่อสอบถามข้อมูลที่อยู่ ณ ปัจจุบันและทางกลับบ้านโดยด่วนกลัวคนทั้งวังจะวิ่งวุ่นตามหาแม้จะไม่ห่วงเรื่องนี้เท่าไหร่ก็เถอะแต่เพราะช่วงนี้มีเทศการเก็บเกี่ยวถ้าราชวงศ์คนใดคนหนึ่งหายตัวไปไม่บอกกล่าวคงเกิดศึกได้ไม่ยาก

"ขอโทษด้วยค่ะ ข้าต้องการข้อมูลสักเล็กน้อย"

"คุณหนูน้อย มาคนเดียวหรือขอรับ"

"ใช่ ข้าวาร์ปผิดน่ะอยากรู้ว่าที่นี่ที่ไหนแล้วข้าจะกลับอย่างไร"

"งั้นหรือขอรับ ที่นี่เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิธันแบล็คสปาร์หรือจักรวรรดิสายฟ้าขอรับ แล้วคุณหนูน้อยมาจากที่ไหนหรือขอรับ"

"ข้ามาจากจักรวรรดิแสง พอจะส่งข้ากลับไปได้รึไม่"

"จักรวรรดิแสง อืมมถ้าเช่นนั้นคุณหนูน้อยคงต้องรออีกสักสองวันขอรับ"

"เหตุใด"

"ทางเราเพิ่งเปิดใช้วาร์ปไปจักรวรรดิเมื่อ10นาทีก่อนและเมื่อเช้ามืดก็ใช้ไปแล้วเลยต้องรอเวลาหน่อยน่ะขอรับ"

"เช่นนั้นคงทำอะไรไม่ได้"

"ขออภัยขอรับ"

"เหตุจำเป็นข้าไม่โทษเจ้า ถ้าเช่นนั้นอีกสองวันข้าจะมาใหม่"

"ขอรับ"

เด็กสาวตัวเล็กที่เมื่อได้รับข้อมูลก็จ่ายค่าข้อมูลก่อนออกไป แม้เธอจะเป็นเด็กแต่ก็มีศักดิ์เป็นองค์หญิงการเงินไม่ขัดสนกระเป๋าเงินเป็นแบบมิติเชื่อมโยงคลังสมบัติ แหวนที่สวมอยู่ก็เป็นแหวนมิติเช่นกันเสื้อผ้าเครื่องแต่กายมีครบแม้จะขาดสาวใช้แต่ใช่ว่าเธอจะแต่งตัวเองไม่เป็น

อเมทีน่าเดินออกมาสักพักก็เดินเอื่อยเฉื่อยที่ตลาดหาอะไรใส่ท้องเพราะเที่ยงวันพอดี เมื่อได้ของครบแล้วก็เดินหาที่นั่งสบาย ๆ และเงียบสงบแต่ดูเหมือนจะไม่มีในแถวนี้ทำได้แค่เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนพบกับเนินเขาเล็ก ๆ เนินหนึ่งที่ไกลจากหมู่บ้านมาเล็กน้อยสงบและเย็นสบาย เธอหยิบผ้าปูจากแหวนแล้วนั่งลงทานอาหารทันทีเนื่องจากหิวจนตาเริ่มลายเสียแล้วถึงกระนั้นก็ยังคงท่าทางสง่าสมดังผู้ดีไว้เสมอ

"เจอเจ้าอีกแล้ว"เสียงเล็กของเด็กผู้ชายดังขึ้นแต่แค่นั้นก็ดึงความสนใจออกจากอาหารตรงหน้าของเด็กสาวได้แล้ว

"เจ้า!"

"ใช่ข้าเอง ข้าก็ไม่ได้อยากเจอเด็กผู้หญิงแปลกอย่างเจ้านักหรอก"

"เสียมารยาท เป็นเจ้าที่แปลกกว่าข้า"

"ข้าขอถามชื่อเจ้าได้หรือไม่"

"ก่อนถามเจ้าต้องบอกชื่อเจ้าก่อนสิถึงจะถูก"

"ข้าลืมไป ข้าชื่อซีโนเอล เจ้าเล่า"

"ข้าชื่ออเมทีน่า"

"ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อนเพิ่งย้ายมารึ"

"เปล่า ข้าหลงมาน่ะ"

"หลง? หลงทางกับพ่อแม่หรือ"

"เปล่าข้าวาร์ปผิดน่ะ เดินเล่นอยู่ดีๆก็ดันวาร์ปมาที่นี่เข้า"

"งั้นที่เจ้าหาหอเวทก็เพราะแบบนั้น"

"ใช่ แต่ข้าต้องรออีกสองวันเกทถึงจะเปิดอีกครั้ง"

"เจ้ายังเด็กอยู่ไม่คิดถึงพ่อแม่รือถ้าอยู่ห่างถึงสองวัน"

"ข้าไม่ใช่เด็กติดพ่อแม่สักหน่อย พวกเขาไม่ได้สนใจพวกเราถึงขนาดจะใส่ใจการมีอยู่ของพวกเรามากเท่าไหร่หรอกมีเพียงแม่นม พี่เลี้ยงและสาวใช้ที่อยู่ด้วย"

"เจ้า...เหมือนข้าเลย พ่อแม่ข้าก็ไม่ค่อยสนใจข้าเท่าไหร่นักจริงๆต้องเป็นพวกข้า เราพี่น้องต้องร่ำเรียนเพื่อเตรียมพร้อมเรื่องต่าง ๆ เท่านั้น"

"เด็กอย่างพวกเราควรจะได้รับความรักแท้ ๆ "

"นั่นสินะ ถ้างั้นเจ้าจะอยู่อย่างไรล่ะ"

"เห็นอย่างนี้ข้าก็มีเงินนะ ขอเพียงมีที่พักก็พอ"

"งั้นข้าแนะนำที่พักให้เห็นอย่างนี้ข้าก็เป็นไกด์ให้เจ้าได้นะ"

"งั้นหรือฝากเจ้าด้วย ข้าอยู่นี่เพราะฉะนั้นเจ้าก็เป็นเพื่อนข้าที"

"เป็นการขอเป็นเพื่อนที่แปลกดี เจ้านี่แปลกจริงๆ"

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ข้าคงแปลกในสายตาเจ้าไปเสียแล้ว"

"ตกลงข้าเป็นเพื่อนเจ้า"

"เจ้าคิดถูกแล้ว"

หลังจากตกลงเป็นเพื่อนกันข้าและซีโนเอลก็นั่งทานอาหารที่ตนต่างซื้อมาจนหมดืจากนั้นก็เดินทางไปหาโรงแรมแห่งหนึ่งที่ดูหรูหราซีโนเอลกล่าวว่าที่นี่ดีที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้เอาจริง ๆ นะค่าที่พักนี่ไม่ธรรมดาเลยข้าเป็นคนมีตังค์จึงไม่มีปัญหาแต่ถ้าไม่มีเล่า เอาเถอะไม่ใช่เรื่องของข้า ข้าและซีโนเอลเดินตามพนักงานคนหนึ่งไปยังห้องพักที่พอมีอยู่เพราะช่วงนี้ก็มีงานที่จะจัดในเมืองหลวงทำให้ห้องพักเหลือน้อยโชคดีที่มันยังมีเหลือให้ข้าล่ะนะ

เดินมาสักพักก็ถึงห้องของข้า ห้องนี้เป็นห้องที่กว้างใหญ่พอจะให้เด็กโตห้าคนอยู่ได้สบาย เตียงก็กว้างสมเป็นขนาดคิงไซส์มีทุกอย่างครบครัน

"เช่นนั้นเจ้าได้ที่พักแล้วก็ไปเที่ยวกับข้าได้แล้วใช่หรือไม่"ซีโนเอล

"ได้ที่พักนั่นก็ดีแต่ว่านะข้าตกลงไปเที่ยวกับเจ้าเมื่อใดกัน"อเมทีน่า

"ห๊าาาาา!! ไม่จริงน่า!"

"เจ้าป่วยหรือ"

"ข้าปกติ"

"ก็ได้ ๆ อย่างไรเสียข้าก็ไม่มีอะไรทำ"

"เยี่ยม! งั้นไปกันเถอะ"

ทั้งข้าและซีโนเอลวิ่งออกจากห้องพักแล้วกระโดดลงจากหน้าต่างซึ่งนั่นคือชั้น 5!! ข้าบอกเลยว่าตกใจจนกอดคอคนข้าง ๆ ที่ดึงให้เขาต้องกระโดดมาด้วยถึงจะเคยร่ายเวทย์'เหยียบอากาศ'อยู่บ้างแต่พอเกิดในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกระทันหันแบบนี้ก็ตั้งตัวไม่ทันหรอกนะ อีกฝ่ายที่ถูกกอดมีอาการตกใจเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็กอดข้าเอาไว้ ใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงพื้นดิน

"เอาล่ะถึงพื้นแล้วววว"ซีโนเอล

"เจ้าบ้า!!! เจ้าคิดได้อย่างไรถึงได้กระโดดลงจากหน้าต่างห๊าาา!!!"อเมทีน่า

"ขอโทษ ๆ พอดีข้าลืมตัวน่ะฮ่าฮ่าฮ่า! งั้นข้าพาชมเมืองเป็นการไถ่โทษ"ซีโนเอล

"นั่นเจ้าต้องทำอะไรแล้วต่างหากล่ะ!!"

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!เข้าใจแล้ว ๆ ไปกันเถอะ"

ว่าจบก็วิ่งจับมือข้าไปเข้าร้านร่วงต่าง ๆ จนมือถือไม่หมดสุดท้ายก็ยัดเข้าแหวนไว้รอเอาไปเป็นของฝากให้เหล่าพี่น้องของข้าก็แล้วกันบางทีอาจโชคดีได้เจอซีอนก็ได้...

.

.

เวลาสองวันช่างผ่านไปเร็วยิ่งนัก วันนี้น่ะเป็นวันที่ข้าต้องกลับบ้านแล้วกลับไปคงโดนบ่นจนหูชาแน่นอนเลยหนีไปหลบภัยที่เรือนกระจกดีไหมนะระหว่างคิดก็ดันมีเสียงเรียกขึ้นซะได้

"เทียไว้ว่าง ๆ ข้าจะไปเล่นกับเจ้าที่จักรวรรดิแห่งแสงนะ"ซีโนเอล

"เจ้ากับข้าเพิ่งรู้จักกันไม่นานเจ้าก็เรียกข้าว่า'เทีย'แล้วเหรอเจ้าบ้า!"อเมทีน่า

"เหหห~ก็ข้ากับเจ้าเป็นเพื่อนนี่"ซีโนเอล

"เอาจริงดิ่ ซีโนเอลเจ้าชักจะเฟรนลี่เกินไปแล้ว"อเมทีน่า

"เจ้าก็เรียกข้าว่า'โซล'นะ"ซีโนเอล

"ห ห๊ะ? ...ได้เจอครั้งหน้าข้าจะเรียก ข้าไปก่อนนะบ๊ายบาย"อเมทีน่า

"บ๊ายบาย"ซีโนเอล

หลังจากวันนั้นที่พวกเราแยกกันเราก็ได้พบกันอีกครั้งในฐานะองค์ชายสามแห่งจักรวรรดิสายฟ้าและองค์หญิงสองแห่งจักรวรรดิแสง วันนั้นน่ะทั้งข้าและโซลตกใจมากจริง ๆ ที่ต่างฝ่ายต่างปกปิดตัวตนของกันและกัน วันนั้นก็เป็นวันที่พวกเรารู้จักกันอย่างเป็นทางการ....

.

.

.

.

.

กลับมาที่ปัจจุบัน เมื่อเห็นว่าคนรักตนยิ้มให้ก็เสกผ้าปูออกมาเพื่อให้นั่งได้พร้อมกับขนมและชาที่คนรักตนชอบออกมาให้ด้วย

"มากี่ครั้งก็คิดถึงตอนที่ข้าและเจ้าเจอกันครั้งแรกทุกครั้ง"

"นั่นสินะ"

"เจ้าหาว่าข้าเป็นเด็กที่แปลกเสมอ"

"ก็เจ้าแปลกจริงๆนี่นา

"ฮ่าๆๆข้าว่าข้าก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว พอเจอเจ้าบอกว่าแปลกทำข้านอนแทบไม่หลับแน่ะ"

"ข้าผิดเองๆ เจ้าเถอะกลับมาแล้วทำไมไม่มาหาข้า.."สีหน้าที่ยิ้มแย้มแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง ไม่แปลกที่จะมีสีหน้าเช่นนั้น ไม่มีใครชอบที่เห็นคนรักจากไปต่อหน้าต่อตาได้หรอกแล้วการจากไปนั้นก็เพราะปกป้องตัวเองเป็นใครก็เสียใจแทนที่จะต้องปกป้องแต่กลับถูกปกป้องซะเองแบบเป็นผู้ชายปะสาอะไร ถ้าเก่งกว่านี้อีกสักนิด..

"... ขอโทษ ข้าไม่ได้คิดจะไปแบบนั้นแต่เพราะข้าต้องกลับมาแน่นอนจึงไม่ได้สนใจสิ่งใดแม้แต่เจ้า...แต่ว่าข้าคิดว่าถ้ามันเข้าที่กว่านี้จะไปพบเจ้า"

...หมับ!...

"งั้นหรือ ข้าขอโทษที่ปกป้องเจ้าไม่ได้ ขอโทษที่ทำให้เจ้าเดือดร้อนไปด้วยแต่ครั้งหน้าข้าจะปกป้องเจ้าเอง"แรงกอดที่แสดงอารมณ์มากมายออกมานั้นทำเอาใจอเมทีน่าอ่อนยวบทันทีคนที่ควรขอโทษต้องเป็นเธอไม่ใช่ซีโนเอลสักหน่อย เพราะคนที่ตัดสินใจตายในวันนั้นคือเธอเองไม่เกี่ยวกับใครแม้นั้นจะช่วยให้ใครหลายคนรอด แม่มดน้ำแข็งส่วนใหญ่ตายเพราะการผนึกแบบพลีชีพการผนึกแบบนี้จะอยู่ชั่วนิรันดร์ไม่คลายเนื่องจากแลกด้วยเลือดเนื้อของแม่มดน้ำแข็ง เหตุนี้เองที่ทำให้แม่มดน้ำแข็งหายไปช่วงหนึ่ง แต่สำหรับเธอที่เป็นคนของราชวงศ์แห่งแสงมีความสามารถลับที่รู้กันแค่ในครอบครัวที่แม้แต่คนใกล้ชิดยังไม่รู้นั่นคือการส่งต่อ การส่งต่อคือการที่ก่อนตายได้ทำการผนึกความทรงจำและพลังไว้แล้วกำหนดเป้าหมายการส่งมอบให้ตนเองในอีกโลกหนึ่งเวทมนตร์นี้จะมีผลก็ต่อเมื่อตายไปแล้วเวทย์นี้เองที่ทำให้ฉันได้รู้จักเรื่องต่างๆมากมายนี้

"ไม่หายไปไหนอีกแล้วล่ะ ครั้งนี้จะอยู่กับเจ้าจนเบื่อเลยโซล"

"เจ้าไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ทีน่า"ซีโนเอลผละกอดออกแล้วก้มหน้ามองอเมทีน่าอย่างหลงไหลระคนดีใจ

"แน่สิ ไม่คิดจะหายไปอีกแล้วก็ข้าเสียใจนี่นาที่ไม่เจอเจ้า"

"เจ้าทำข้าเขินอยู่เรื่อย"

"โซลเจ้าเป็นสาวน้อยหรืออย่างไร"

"เป็นหนุ่มน้อยของเจ้าต่างหาก"

"ไม่คุยกับเจ้าแล้ว ข้าต้องกลับแล้วล่ะอย่างที่รู้ตัวตนของข้าในครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่โลกเวทย์มนต์เหมือนครั้งก่อนมันอาจจะอยากที่จะเจอเจ้าบ่อยๆ"

"ข้ารู้แต่ข้าจะไปพบเจ้าให้ได้มากที่สุด เจ้าก็มาพบข้าด้วยเล่า"

"ข้าสัญญาเลย"

"ข้าก็ด้วย"

"รักษาตัวด้วยนะโซล"

"เทียเจ้าด้วย"

ข้ายิ้มให้ก่อนจะเปิดห่วงมิติเพื่อกลับบ้าน เมื่อกลับมาก็ลงมือทำการบ้านต่อจนเสร็จเพราะถ้าช้าเวลาว่างก็จะน้อยการกำจัดปีศาจก็จะลำบากเช่นกัน

.

.

.

.

.

.

.

.

บทที่3ทดสอบเด็กฝึกหัด

.

.

.

เวลาผ่านพ้นไปหลายวัน จดหมายที่เขียนส่งไปถึงสภาเวทมนตร์กลางก็ได้รับการตอบกลับมาว่าจะยอมรับข้อเสนอของฉันพร้อมกับรายชื่อเด็กฝึกทั้งสี่คน ผู้หญิงสามคนผู้ชายหนึ่งคนพร้อมแนบความสามารถมาด้วย พออ่านแล้วอยากจะร้องไห้อ่านมาคือก็เก่งในระดับที่พอมีค่าให้สอนสั่ง คำพูดอาจแรงไปบ้างแต่แม่มดทุกคนมีมาตรฐานในการรับเด็กมาฝึกประสบการณ์ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะถูกยอมรับบางกรณีสอนได้แค่สามวันจากที่บอกว่าเป็นอัจฉริยะหลังถูกส่งกลับยังต้องมีการพิจารณากันเลยทีเดียวไม่ต้องพูดถึงแม่มดน้ำแข็งถ้าไม่เชื่อมั่นในฝีมือลูกศิษย์ตัวเองคงไม่เสี่ยงส่งมาให้เขาฝึกให้ เอาเถอะจะแนะนำจนขอตัวกลับบ้านเลยคอยดู

การรับการฝึกในเด็กพวกนี้ก็ช่วยลดการทำงานของฉันลงไปได้เพราะการดูแลรักษาเขตคนเดียวออกจะลำบากไปหน่อยการมีคนช่วยก็ไม่แย่อะไร

ฝีมือเด็กพวกนี้หลังจากดูมาห้าวันก็พอรับได้บอกอะไรก็ทำทันที เด็กเหล่านี้ดูจะอยู่กับฉันได้นาน

"ท่านอเมทิน่าเพคะ"นี่คือหนึ่งในเด็กฝึกของฉัน โฟซีนา เบลล์ เธอมีความสามารถในการโจมตีที่สูงกว่าคนอื่น เวทย์ระเบิดของเธอต้องล็อกเป้าก็จริงแต่ไม่ใช่ปัญหาเธอข้ามเขตความเร็วในการโจมตีมาแล้ว

"มีอะไร"ฉันถามกลับไปสีหน้าเธอดูลำบากใจอยู่พอควรก่อนเอ่ยออกมา

"คือข้าอยากได้เป้าฝึกเพิ่ม..แต่ถ้าลำบากท่าน.."

"เจ้าไม่ใช่คนแรกที่มาขอข้า"

"เพคะ?"

"ฝึกแบบเดิมของเจ้าต่อไปเดี๋ยวถึงเวลาเจ้าก็ได้ฝึกเอง"

"ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัว ขอบคุณอาจารย์ที่รับฟังเพคะ"

"อืม ระวังตัวด้วยในโรงเรียนนี้จะมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะรับมือได้"

"ฮ่า!เพคะ พวกข้าจะเตรียมตัวให้พร้อมเพคะ"

หลังรับคำโฟซีนาก็วิ่งกลับห้องตนทันทีส่วนฉันก็เดินไปหาเพื่อน ๆ ที่โต๊ะประจำเช่นกัน ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงเรียนฉันมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นแม้ไม่มากแต่มันจะสร้างเรื่องที่วุ่นวายตามมาอีกเป็นขบวน เป็นไปได้ฉันก็อยากให้มันมีผลกระทบน้อยที่สุด

.

.

.

.

.

.

....ชโย~

"เราจะให้แยกย้ายขึ้นห้องอย่างเป็นระเบีย-"

...ตู้ม!!!...

เป็นตามที่คาดหลังจากที่เตือนเหล่าเด็กพวกนั้นก็ผ่านมาเพียงสองวันก็เกิดเหตุการณ์ปีศาจระดับต่ำบุกเข้ามาในโรงเรียน นั่นคือออคัล ออคัลเป็นปีศาจที่กลายร่างจากสัตว์ป่า บางตัวก็เกิดใหม่จากการผสมของสัตว์สองชนิดซึ่งครั้งนี้คือออคัลหมาป่าที่ผสมกับวัวปีศาจในป่าแวเวม แม้จะเป็นปีศาจระดับต่ำแต่ถ้ามากันหลายตัวก็จัดการยากอยู่ การมาของปีศาจในครั้งนี้ก็เหมือนครั้งก่อน ๆ คือมาเก็บ'ไข่มุก' ไข่มุกที่ว่ามีรูปร่างกลมสีอำไพเป็นสิ่งเพิ่มพลังของปีศาจที่จะทำให้เลื่อนขั้นเร็วขึ้นแม้ไม่ฆ่ามนุษย์หรือสิ่งอื่น ๆ ก็ตาม สถานที่ที่มีคนอาศัยอยู่มากอย่างโรงเรียนหรือสำนักงานต่าง ๆ จะมีม่านพลังป้องกันปีศาจอยู่แต่ถ้าไข่มุกตกลงมาละก็เป็นอีกเรื่องเลยเพราะปีศาจจะก้าวข้ามเข้ามาได้โดยง่ายเหมือนไม่มีประโยชน์เลยสักนิด สักวันต้องร้องเรียนเรื่องม่านป้องกันนี่แล้วสิ

...กรี๊ดดด!!!...

เสียงกรีดร้องของเหล่านักเรียนและคณาจารย์ของโรงเรียนดังสนั่นเพราะสิ่งที่เห็นคือตัวประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนทั้งตกใจระคนหาที่หลบ ฉันหันไปมองเด็กฝึกทุกคนที่มองมาที่ฉันก่อนแล้วเมื่อเห็นว่าเด็ก ๆ ตกใจแต่มีสติต่อสู้ถึง90% จึงบอกให้รอคนส่วนมากหลบไปก่อนแล้วค่อยสู้ พวกเขาทั้งสี่ช่วยกันอพยพนักเรียนและครูออกไปให้มากที่สุด ฉันและเพื่อน ๆ ก็วิ่งขึ้นตัวอาคารไปไม่ต้องกลัวว่าอาคารจะพังเพราะมันถูกร่ายเวทมนตร์ป้องกันที่แข็งแกร่งมากไว้ปีศาจที่เข้ามาถ้าไม่ใช่ระดับสูงสุดขึ้นไปจะทะลุผ่านทันที

เมื่อนักเรียนและครูขึ้นมาที่ห้องกันแล้วทั้งสี่คนก็พร้อมสู้ ฉันไม่ได้ร่วมสู้ด้วยแต่ก็คอยสนับสนุนให้พวกเขา จะว่าไปฉันก็ไม่เคยแนะนำเหล่าเด็กที่เข้ารับการฝึกจากฉันเลยสินะว่ามีใครบ้าง งั้นคนแรก

โฟซีนา เบลล์ พลังโจมตีด้วยระเบิด เด็กสาวตัวเล็ก ผมสีม่วงชมพูอ่อนๆ หน้าตาน่ารักออกซน มีความมุมานา ทะเล้นซนหน่อย ๆ ในตาสีฟ้าเข้มผิวสีน้ำผึ้ง ใช้มีดสั้นคู่เป็นอาวุธ

สอง ดีโอเน่ เฟรมกรีน เวทย์พันธนาการของเธอค่อนข้างจะมีประโยชน์ต่อการต่อสู้ เด็กสาวเรียบร้อย ขี้อายเป็นบางเวลา ผมสีฟ้าอ่อน หน้าตาน่ารักแก้มเยอะเป็นพิเศษ สูงกว่าโฟซีนา3เซนติเมตร นัยน์ตาสีเขียวอ่อนน่ามอง อาวุธคือคฑา ผิวขาวแต่ไม่มากนัก

สาม อาแล็กซ็องดร์ เดอ กาลอน เจ้าชายจากอาณาจักรคลื่นน้ำจากทางใต้ อาณาจักรนี้มีความเก่งในด้านป้องกันก็จริงแต่อาแล็กซ็องดร์กลับมีมากกว่านั้นเพราะเขามีพลังโจมตีที่รุนแรงมากจนสรมารถพังปราสาทได้ ฉันเห็นข้อนี้จึงเลือกเขาให้อยู่ต่อไปฉันคิดว่าเขาต้องมีความสามารถที่เทียบเท่าพี่ชายเขาได้แน่ เด็กชายตัวสูง ผมสีฟ้า-น้ำเงินเข้ากับหน้าตา เบ้าหน้าดีหล่อเหลาไม่แพ้ราชวงศ์อื่นใด ในตาสีอควาเรียม ผิวขาว มีอาวุธเป็นหอก

คนสุดท้าย เมลาเนีย เอเคนัส เวทย์ไฟฟินิกซ์นั่นของเธอน่าสนใจจริง ๆ แม้จะไม่ชอบความร้อนแต่เธอฉันให้เป็นข้อยกเว้นความสามารถที่ยังพัฒนาได้อีกหลายเท่านั่นอาจทำให้เธอเป็นนักผจญภัยที่มีความสามารถเหมือนมารดาเธอได้แน่นอน เมลาเนียเป็นเด็กสาวที่สูงพอๆกับอาแล็กซ็องดร์ เรือนผมสีแดงสด รูปหน้าสวยเท่ นัยน์ตาสีแดงเพลิง ผิวขาวเข้ากับสีผมสวยสีแดงเพลิง อาวุธคือดาบยาว หยิ่งอยู่บ้างแต่สนิทกับคนได้ง่าย เป็นคนนิ่งๆ

ทั้งสี่คนวิ่งเข้าต่อสู้กับปีศาจสามตนที่เข้ามาจับไข่มุก ส่วนไข่มุกนั้นได้ซ่อนตัวของมันเองไว้ ดีโอเน่สร้างโซ่ตรวนล่ามหนึ่งในสามของปีศาจไว้ก่อนที่คนที่เหลือจะเข้าประชิดตัวได้ปีศาจตนนั้นก็ออกแรงสลัดโซ่ออกไปได้ทัน

...'ยังแข็งแรงไม่พอ'...

เมื่อเห็นว่าโซ่ถูกทำลายทั้งสี่ก็ถอยออกไปตั้งหลักทำให้ปีศาจสลัดการจู่โจมแล้วออกตัววิ่งตามล่าไข่มุก โฟซีนาที่ไหวตัวทันก่อนที่หนึ่งในออคับจะวิ่งเธอก็ล็อคเป้าหมายเป็นเท้าทั้งสี่ของปีศาจทุกตัวแล้วระเบิด

"ระเบิด"โฟซีนา

นั่นทำให้เลือดสาดกันเลยทีเดียวยังดีที่ก่อนเลือดหยดลงพื้นดินก็มีแผ่นน้ำแข็งบางๆรองเลือดไว้ การโจมตีของโฟซีนาช่วยให้อาแล็กซ็องดร์เห็นโอกาสในการโจมตีรอบต่อไปเขาจึงเริ่มยิงกระสุนน้ำใส่ศัตรู

"วอด ชอต" อาแล็กซ็องดร์

กระสุนน้ำถูกยิงอย่างต่อเนื่องเมลาเนียก็ไม่น้อย หน้าเรียกไฟออกมาอย่างมหาศาลล้อมรอบออคัลทั้งสามไว้เป็นวงกลมขนาดใหญ่ ออคัลที่หลังจากฟื้นฟูขาได้ก็วิ่งพล่านทั่วทั้งวงไฟเพราะหลบกระสุนน้ำ พลางโจมตีกลับด้วยกรงเล็บที่ฟาดฟันผ่านอากาศซึ่งทั้งสี่คนหลบได้ทันทุกครั้งมีบ้างที่อเมทีน่าป้องกันไว้ให้ ดีโอเน่เห็นโอกาสจึงพันธนาการด้วยเถาวัลย์ให้หยุดนิ่งก่อนที่เมลาเนีย อาแล็กซ็องดร์และโฟซีนาจะวิ่งเข้าหาศัตรูทั้งสามแล้วใช้อาวุธในมือฟันและแทงเพื่อหาจุดอ่อนและทำลายลูกแก้วแห่งชีวิตของปีศาจทั้งสามโดยไม่ออมมือ

...ตู้ม! ตูบ! กรร!! อ้าก! ย่ะ!! บึ้ม!!!...

เสียงต่อสู้ดังขึ้นไม่หยุดง่าย ถึงจะลงมือเร็วแต่การฟื้นฟูของปีศาจนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยมันสามารถฟื้นฟูได้รวดเร็วตามใจสั่งแต่ในเมื่อจับจุดอ่อนได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วทั้งสามรู้ตัวเร็วจึงสามารถล้มออคัลทั้งสามได้ด้วยระยะเวลาไม่นานมาก หลังออคัลถูกทำลายลูกแก้วที่เป็นพลังชีวิตก็สลายตามด้วยร่างกายที่สลายเป็นผุยผงไป ทุกอย่างหยุดนิ่ง เงียบเชียบหลังกำจัดปีศาจสำเร็จแต่ไม่นานเสียงเฮลั่นก็ดังขึ้นเป็นเสียงของนักเรียนเกือบทุกคนที่ร้องออกมาอย่างดีใจที่สัตว์ประหลาดนั่นตายไป

"ชนะแล้ว พวกเราชนะแล้ว!!"ดีโอเน่ตะโกนอย่างดีใจนี่เป็นครั้งแรกที่ร่วมมือกันและเป็นครั้งแรกที่สู้กับปีศาจแม้จะเป็นระดับต่ำก็ตาม

"เราสู้ได้ เย่!!!"อาแล็กซ็องดร์ที่ได้ยินเสียงของดีโอเน่หลังจากที่นิ่งไปก็ดึงสติกลับมาได้จึงตะโกนออกมาบ้าง

"นั่นสิเราทำได้ ฟู่"เมลาเนียที่เมื่อรู้สึกหายตึงเครียดก็ทรุดตัวลงนั่งแทบจะทันที ครั้งแรกที่สู้ก็ชนะได้แล้วแม้จะระดับต่ำแต่ก็ดีใจจัง

"ข้า ไม่สิพวกเรา..ครั้งแรก"โฟซีนานั่งลงบนพื้นน้ำแข็งที่อเมทีน่าสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับทั้งสี่คนหลังสู้เสร็จ เธอที่พูดแบบจับใจความไม่ได้ขึ้นมาเพราะดีใจมากและตื่นเต้นสุดๆ ยอมรับเลยว่าเห็นปีศาจครั้งแรกกลัวมากแต่ที่สู้ได้เพราะมีเพื่อนและอาจารย์ผู้ช่วยที่เป็นถึงแม่มดน้ำแข็งอยู่ด้วย ถ้าท่านอาจารย์เธอรู้ต้องดีใจที่เธอสามารถจัดการปีศาจตัวแรกได้แน่

...'ทำได้ไม่เลวเลย'...

/'พักฟื้นเถอะพวกเจ้าเหนื่อยกันมากแล้ว'/ เสียงที่ได้ยินแค่ทั้งสี่คนไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเสียงใคร

"ท่านอเมทิน่าเพคะพวกข้าสู้กับพวกมันได้"เสียงตอบกลับของดีโอเน่

/'ข้าเห็นแล้ว ไม่แย่เท่าไหร่ถือว่าดีกว่ามือใหม่หลายคน พักผ่อนเถอะอีกไม่นานคงมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น'/

"ทราบแล้วเพคะ"เมลาเนีย

"ท่านอเมทิน่า แล้วเรื่องวันนี้ล่ะขอรับ"อาแล็กซ็องดร์

/'สภากลางจะจัดการเอง'/

"เพคะ!/ขอรับ!"

.

.

เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำเอานักเรียนและเหล่าครูอาจารย์ช็อกไปตาม ๆ กันการเรียนการสอนถูกยกเลิกทั้งวันเหล่าคุณครูนั่งปลอบใจนักเรียนในปกครองของตนแม้ในใจจะว้าวุ่นก็ตามที แต่ถึงอย่างนั้นก็มีนักเรียนบางส่วนที่ถึงจะตกใจยังไงก็ยังดูชอบเหตุการณ์นั้นอยู่เนื่องจากนั้นเป็นเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่น่าสนใจ อย่างกลุ่มเพื่อนของฉันที่ชอบดูอนิเมะพอเจอแบบนี้เข้าไปดันชอบซะงั้น

"เมื่อกี้สุดยอด!"เสียงแอนว่าอย่างตื่นเต้น

"ใช่มะ ว้าวมากนั่นเรียกว่าเวทมนตร์ใช่มั้ย"แพรวกล่าวเสริมด้วยท่าทางตื่นเต้นไม่แพ้แอน

"ฉันว่าใช่นั่นต้องเป็นเวทมนตร์แน่"ฉันก็ร่วมวงด้วย

"โหในโลกเรามีเวทมนตร์จริงๆสินะ"แอน

"ไม่กลัวบ้างเหรอพวกเธอน่ะ"เชอรี่เดินเข้ามาร่วมด้วยแล้วถามขึ้น

"ก็นิดนึงแต่ดีใจมากกว่าโลกเรามีเวทมนตร์เลยนะไม่ได้มีแค่ไหนอนิเมะ"แอนว่าเสียงดีใจ

"แต่ใช่ว่าเธอนะมีนะ"เชอรี่

"อื่อหือดับฝันมาก"แอน/แพรวเอ่ยพร้อมกัน

"ฮ่าๆๆๆ"ฉันและเชอรี่หัวเราะ

"น่าสนใจนะว่าไหม"เสียงทุ่มของผู้ชายดังขึ้นด้านข้างฉันและแพรวเมื่อหันไปก็เจอกับพัฒ ชายหนุ่มที่ชอบดูอนิเมะไม่แพ้กัน สูง ร่างกายสมส่วน หน้าตาจัดว่าดี ตกใจตรงที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้นี่สิ

"นั่นสิ จะว่าไปสัตว์ประหลาดนั่นก็น่าเกลียดไม่หยอกเลย"ฉันเอ่ย

"จริงด้วยสยองเลยแหละ ในโลกเรามีแบบนี้ด้วยสินะ"แพรว

"แต่เราว่าก็ไม่แปลกนะเพราะถ้ามีเวทมนตร์จริงก็ต้องมีพวกนี้ด้วยแน่นอน"พัฒว่า

"เห็นด้วย"ฉันสมทบพัฒ

"ทุกคนดูนั่นสิ"เสียงทิพย์เพื่อนสาวตัวสูงร่างผอมเฮฮา หน้าตาถือว่าสวยได้เลยล่ะ เสียงเรียกนั้นทำให้ทุกคนในห้องเดินไปส่องดูจากหน้าต่างห้องเรียน

สิ่งที่ทิพย์อยากให้ดูคือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาใกล้กับสถานที่ที่คนทั้งสี่ได้สู้กับปีศาจไปได้ไม่นาน ทุกคนในกลุ่มนี้แต่งตัวแปลก ๆ นั่นคือใส่ชุดสีขาวทั้งตัวผู้หญิงและผู้ชายใส่กางเกงและเสื้อเป็นสีขาวสวมเสื้อคลุมสีขาวแถบเงินและเขียวสวมเสื้อคลุมที่มีรูปงูที่คาบดอกกุหลาบสีน้ำเงิน1ดอกเลื้อยพันดาบ เรือนผมหลากสีมีทั้งหมด7คน คนจากสภาเวทมนตร์กลางนั่นเองหรือจะเรียกว่าซีวล์ก็ได้ สงสัยได้ข้อสรุปแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อ ทั้ง7จัดการเคลียร์สถานที่เกิดเหตุหนึ่งในเจ็ดคนก็เดินออกจากกลุ่มตรงเข้าไปในห้องๆหนึ่งในตัวอาคาร หายเข้าไปสักพักครูที่ปรึกษาของฉันและครูทุกคนก็ถูกเรียกโดยผู้อำนวยการโรงเรียนทันที ผ่านไปพักใหญ่ครูทุกคนก็เดินออกจากห้องประชุมกันพวกเราทุกคนยืนมองเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ

ไม่นานเกินรอครูที่ปรึกษาก็เดินเข้าห้องมาด้วยสีหน้าสับสนเล็กน้อยก่อนจะเรียกให้เราทุกคนนั่งที่และฟังสิ่งที่คุณครูจะบอกกล่าว

"เอาล่ะ เหตุการณ์เมื่อกี้คงจะสะเทือนใจทุกคนอยู่บ้างแต่ไม่เป็นอะไรแล้วและเมื่อกี้ก็มีข้อมูลบอกว่าสิ่งที่ปรากฏนั่นเป็นปีศาจและคนกำจัดมันเรียกว่าเดเวน ที่ย่อมมาจาก *แดม**อมเวนเทอร์* พวกเขาจะคอยจัดการกับปีศาจให้เพราะฉะนั้นอย่าห่วง ท่านผอ.มีมาตราการป้องกันนั่นคือถ้าพบเจอที่โรงเรียนให้เข้าไปหลบในตัวอาคารหรือสิ่งก่อสร้างใดก็ได้เพราะมีเกาะป้องกันที่หนาแน่นและจะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยเข้ามาที่โรงเรียนในอีกไม่นาน" เมื่อคุณครูเอ่ยจบทั้งห้องก็เงียบกริบไร้เสียงพูดคุยกันเพราะต่างคนก็ต่างมีความคิดเป็นของตัวเองจนเมื่อที่ปรึกษาเดินออกจากห้องนักเรียนในห้องจึงเอ่ยปากพูดคุยกันอย่างเสียงดัง

"นี่ ๆ จะปลอดภัยจริง ๆ เหรอ"ลิลลี่ สาวสวยประจำห้องเอ่ยถาม

"ใช่น่ากลัวมากเลยนะ"น้ำหญิงสาวร่างอวบเอ่ยขึ้น

"แต่ว่าครูบอกว่าไม่ต้องห่วงนี่"ครีมหญิงสาวคนเก่งค้าน

"ครูเขาคงไม่ให้เราเป็นอะไรหรอก"ฉันกล่าวขึ้นบ้าง

"ก็จริง"ลิลลี่

"แล้วถ้ามันไม่ได้เกิดแค่ที่โรงเรียนล่ะ"น้ำหวานหญิงสาวเสียงนุ่มตัวสูงและหน้าตาน่ารักถามบ้าง

"จริงด้วย ถ้าเจอมันที่นอกโรงเรียนจะทำยังไง"แอ้มถามขึ้น

"ก็คงหลบเข้าอาคารสักแห่งนั้นแหละ เพราะถ้ามันปรากฏตัวไม่นานก็ต้องมีคนมาจัดการกับมันอยู่ดีจริงไหมล่ะ"วุ้นกล่าวขึ้นหลังจากเงียบมานาน

"เห็นด้วยกับวุ้นนะ"คิวชายหนุ่มหัวหน้าห้องว่า นานๆทีจะทำตัวเป็นหัวหน้าดีๆกับเขาบ้าง

"พักเรื่องเครียดดีกว่านะ มิ้นท์เล่นอูโน่กัน"อีฟหญิงห้าวหน้าเหวี่ยงหรือจะเรียกว่าทอมดีล่ะ เพื่อนคนนี้เป็นผู้สร้างสีสันของห้อง อีฟเอ่ยปากให้พักจากเรื่องที่ซีเรียสก่อนจะเดินมาหาฉันเพื่อขอยืมเล่นการ์ดเกมอูโน่จากฉัน ฉันก็ค้นหาจากกระเป๋าแล้วส่งให้กับอีฟแล้วก็ลงไปเล่นกับเพื่อนๆที่สนใจเล่นด้วยอีกที

.

.

.

.

...ช่างวุ่นวายเสียจริง...

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!