NovelToon NovelToon

หลุดไปโลกนักผจญภัย

บทนำ

คุณเคยคิดที่อยากจะผจญภัยบ้างรึเปล่า?

คุณมีความฝันในการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นสนุกและเร้าใจบ้างไหม?

ล่าสมบัติ ไปในสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน สร้างชื่อเสียง ไฝ่คว้าหาพลัง ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรค รวบรวมพวกพ้องและเฮฮาไปกับพวกเขา และที่สำคัญทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในโลกแฟนตาซี

หากคุณมีความฝันแบบนี้เหมือนกับพวกเราก็มาร่วมผจญไปกับพวกเรากันได้เลย

Go!!!

__________

ชายชราร่างท้วมนั่งอยู่ที่ตอไม้ เขาถูกโอบล้อมไปด้วยกลุ่มเด็กๆ มากมาย ใบหน้าของเขาร่าเริงและเขาก็กำลังพูดบอกเล่าเรื่องราวให้เด็กๆ ได้ฟัง

"ฮ่าๆๆๆ ตำนานแห่งจอมราชันอย่างนั้นเหรอ ได้สิ ๆ ข้าจะเล่าให้พวกเจ้าฟังเดี๋ยวนี้แหละ"

เด็กๆ มีท่าทีสนใจเป็นอย่างมาก ดวงตาของพวกเขาแทบจะไม่กระพริบ

"เมื่อราวๆ 1,000ปีก่อน สิ่งมีชีวิตบนโลกต่างอยู่กันอย่างสงบสุข

แต่แล้ววันหนึ่งราชาของประเทศหนึ่งก็เกิดการคิดคดทรยศขึ้น เขาลุกขึ้นต่อกรกับองค์จักรพรรดิผู้ปกครองโลกใบนี้

ราชาของประเทศแห่งนั้นได้อันเชิญเหล่าปีศาจจากโลกปีศาจและร่วมมือกันเพื่อครอบครองโลกใบนี้ นับจากนั้นเป็นต้นมา ภัยพิบัติทั้งหลายและการเข็นฆ่าล้างผลาญชีวิตของเหล่าปีศาจต่อเหล่าสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

องค์จักรพรรดิร่วมกับราชาของประเทศต่างๆ ทรงยกทัพไปสู้รบกับกองทัพปีศาจและกองทัพของราชากบฏ

แต่เนื่องจากเหล่ากองทัพปีศาจนั้นแข็งแกร่งจนเกินไป ทำให้กองทัพขององศ์จักรพรรดิพ่ายแพ้ ราชา แม่ทัพ และเหล่าทหารของหลายๆ ประเทศก็ต่างถูกฆ่าตายกันไปจำนวนมาก เหล่าผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ต่างหลบหนีกระจัดกระจายกันออกไปคนละทิศละทาง

องค์จักรพรรดิได้รับบาตเจ็บสาหัสและได้ทรงหลบหนีกลับไปยังเมืองหลวงของพระองศ์ เพื่อที่จะนำพาครอบครัวและประชาชนอบพยบหลบหนีไป แต่นั่นก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว

นั่นก็เพราะตอนนี้เหล่ากองทัพปีศาจและเหล่ากองทัพกบฏก็ได้ไล่ตามมาทันและปิดล้อมเมืองหลวงไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นควันไฟคลุ้งกระจายไปทั่วอากาศ

ท่ามกลางความโกลาหนและการต่อสู้อย่างสิ้นหวังของทหารและประชาชนที่กำลังต่อกรกับเหล่าปีศาจ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ไร้ที่พึ่งเสียทีเดียว เมื่อองค์จักรพรรดิทรงลองเอ่ยคำวิงวอนเพื่อร้องขอต่อเหล่าทวยเทพว่าของให้เหล่าทวยเทพทั้งหลายทรงช่วยพระองค์ต่อกรกับเหล่าปีศาจพวกนั้นด้วยเถิด

สิ้นคำวิงวอนก็ได้เกิดแสงแห่งปาฏิหาริย์ส่องลงมาต่อหน้าพระองศ์ และในท่ามกลางแสงนั้นก็มีสิ่งของบางอย่างที่พระองศ์ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน มันชั่งดูงดงามและทรงพลังยิ่งนัก

องค์จักรพรรดิทรงใช้สิ่งๆ นั้นเข้าต่อกรกับพวกกบฎและเหล่าปีศาจ

ด้วยพลังมหาศาลของสิ่งๆ นั้น พระองค์จึงเอาชนะและลงโทษพวกกบฏและพวกปีศาจที่บุกถล่มเมืองได้อย่างราบคาบ

แต่ครอบครัวของพระองศ์ก็ได้ตายกันไปหมดจากการบุกถล่มเมืองครั้งนี้ และตัวพระองค์เองก็จะต้องตายในไม่ช้าเพราะฝืนใช้พลังมหาศาลของสิ่งๆ นั้นมากจนเกินกว่าร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสของพระองค์จะรับไหว

ก่อนตายพระองค์จึงนำสิ่งๆ นั้นไปซ่อนไว้รวมกับสมบัติอันมหาศาลของพระองศ์ เพื่อให้มันรอคอยผู้สืบทอดที่เหมาะสมได้ค้นพบมัน และทุกคนต่างก็ขนานนามพระองศ์ว่าจักรพรรดิจอมราชัน และขนานนามสิ่งๆ นั้นว่าสมบัติลับแห่งราชัน

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าสิ่งๆ นั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหา เพื่อพลัง ความมั่งคั่ง และอำนาจ ผู้คนก็ต่างต้องการและเริ่มเสาะแสวงหามัน

นับตั่งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาก็ถือกำเนิดยุคใหม่ ยุคที่ผู้คนต่างออกเป็นนักผจญภัยและไล่ล่าตามหาความฝัน ตามหาสมบัติลับในตำนานสมบัติลับแห่งราชัน ผู้ใดที่ได้ครอบครอง ผู้นั้นก็จะกลายเป็นราชันแห่งนักผจญภัย และเป็นราชันแห่งโลกใบนี้"

เมื่อฟังจบเหล่าเด็กๆ ทุกคนต่างก็มีตาเป็นประกายส่องแสงเจิดจ้า บางคนก็ต่างแย่งกันร้องตะโกนว่าสมบัติลับในตำนานต้องเป็นของฉันและฉันก็จะได้กลายเป็นราชันแห่งนักผจญภัย

ตอนที่ 1 ความฝันที่เป็นจริง

จิ๊บๆ จิ๊บๆ

'หือ เสียงนกเหรอ นกคงบินเข้ามาทางหน้าต่างสินะ คงต้องลุกขึ้นไปไล่และปิดหน้าต่างก่อน'

เดวลืมตาของเขาขึ้นจากการนอนหลับ เขาต้องการที่จะลุกขึ้นไปไล่นกและปิดหน้าต่างเพื่อที่จะนอนต่อ แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นสิ่งที่เขาเห็นกลับไม่ใช่ห้องที่เขาคุ้นเคยอีกต่อไป

'ที่นี่ที่ไหนเนี่ย!!'

เดวเด็กน้อยผมสั้นสีดำตาดำวัย 12ขวบ อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างและอุทานในใจอย่างตื่นตระหนก เพราะสิ่งที่เขาเห็นคือต้นไม้เถาวัลย์ต้นหญ้าจำนวนมาก

'นี่ฉันมาอยู่ในป่าได้ยังไง ถ้าจำไม่ผิดฉันนอนอยู่บนเตียงในห้องของฉันไม่ใช่เหรอ'

เดวพึมพำในใจและลุกขึ้นสำรวจรอบๆ ตัว

เมื่อเขาลุกขึ้นแล้วสิ่งที่เขาเห็นก็ยังคงเป็นต้นไม้เถาวัลย์ต้นหญ้าจำนวนมาก เขาต้องการที่จะสำรวจป่าแต่ไม่ทันที่เขาจะได้สำรวจเขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงดังขึ้นในหัวของเขาเสียก่อน

"สวัสดีค่ะท่านเจ้าของระบบ ยินดีต้อนรับท่านเจ้าของระบบเข้าสู่โลกของราชันย์นักผจญภัย ดิฉันคือระบบพลังต่อสู้ของท่าน ก่อนเปิดใช้งานระบบอย่างเป็นทางการท่านเจ้าของโปรดเลือกโหมดของระบบก่อน จากนั้นระบบจะทำการอัพเดท เมื่อท่านเลือกแล้วจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนระบบไปยังโหมดอื่นได้อีกต่อไป โปรดคิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกนะคะ"

สิ้นสุดการพูดของระบบก็ได้มีหน้าต่างตัวเลือกปรากฏขึ้น

ตอนนี้จิตใจของเขาล่องลอยไปในความทรงจำของเรื่องราวในอนิเมะชื่อดังเรื่อง ราชันย์นักผจญภัย ที่เขาเคยดู

ฉากความทรงจำหนึ่งปรากฏขึ้น

บุรุษวัย 40ปี ผมของเขาสั้น สีผมของเขาเป็นสีขาว ผมด้านหน้าปัดขึ้น ผมด้านข้างตัดเรียบกับหนังศีรษะ หน้าตามีลอยแผลเป็นจากคมดาบ เขานั่งอยู่บนลานประหารสูง ด้านหน้าของเขาห่างจากเขาไป 10เมตร มีปืนเหล็กขนาดเท่าต้นขามนุษย์กำลังหันปากกระบอกปืนมาที่หัวใจของเขา ด้านล่างลานประหารมีผู้คนจำนวนมากกำลังเฝ้าดูการประหารครั้งนี้

เพชฌฆาตที่จะทำการประหารกำลังเดินมายังปืนที่อยู่ตรงหน้าชายวัยอายุ 40 เมื่อเพชฌฆาตใกล้เดินไปถึงปืนประหาร มีชายคนหนึ่งในฝูงผู้ชมตะโกนถามบุรุษวัย 40ปี ที่นั่งอยู่บันลานประหารว่า

"นี่ เจ้าแห่งนักผจญภัย นายเคยเกิบเข้าใกล้ดินแดนลับในตำนานแล้วจริงๆ เหรอ?"

เมื่อมีคนแรกเริ่มถามขึ้นแล้ว ก็ได้มีชายคนที่ 2 เริ่มถามขึ้นด้วยเช่นกัน

"ใช่แล้วทาลอส มันมีจริงรึเปล่าดินแดนลับที่ใช้เก็บสมบัติลับแห่งราชันนั่นนะ"

เมื่อคนที่ 2 ถามเสร็จ ก็ได้มีคนที่ 3 คนที่ 4 คนที่ 5 ได้ตะโกนถามขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว และในที่สุดผู้คนจำนวนมากก็ต่างตะโกนถามบุรุษวัย 40ปีที่นั่งอยู่บนแท่นประหารกันกระหึ่ม

ทาลอส คีมานี บุรุษวัย 40ปี เจ้าของฉายาเจ้าแห่งนักผจญภัย ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มกว้าง เขาอ้าปากตะโกนเสียงดัง

"ดินแดนราชันน่ะเหรอ!!"

เพชฌฆาตที่เห็นท่าไม่ค่อยดีก็ได้รีบวิ่งไปยังปืนประหาร

ทาลอสไม่ได้สนใจเพชฌฆาตเขายังคงตะโกนพูดต่อไปด้วยเสียงอันดังสนั่น

"มันมีอยู่จริง!!! ฉันไม่ใช่แค่เพียงเคยเกิบเข้าใกล้มันเท่านั้น แต่ฉันได้ต่อสู้กับเจ้าแห่งมอนเตอร์ที่เฝ้ามันอยู่และเท้าของฉันมันก็ได้เอียบบนแผนดินของดินแดนแห่งนั้นได้แล้วตั้งก้าวหนึ่งด้วย ว่ะ ฮ่าๆๆๆ"

สิ้นสุดเสียงตะโกนของทาลอส ผู้คนจำนวนมากต่างโห่ร้องดีใจ

ปั้ง!!

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้คนทั้งหลาย เสียงปืนประหารก็ได้ดังกึกก้องขึ้น กระสุนของมันพุ่งทะลุหัวใจของชายวัย 40ปีที่นั่งอยู่บนลานประหาร

ทาลอส คีมานี เจ้าแห่งนักผจญภัย เสียชีวิตไปด้วยรอยยิ้มกว้างท่ามกลางเสียงโห่ร้องของเหล่าผู้คนจำนวนมาก

ฉากแรกจบลงและฉากที่ 2 ก็ได้ปรากฏขึ้น

ยานเหาะที่มีรูปร่างคล้ายเรือยอร์ชขนาดเล็กกำลังเหาะเหนือพื้นดิน 2เมตร อยู่ภายในป่าที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่มหึมาพอๆ กับตึกสิบชั้น

บนดาดฟ้าของยานเหาะมีเด็กหนุ่มที่มีผมสั้นสีดำ ร่างสมส่วนไม่สวมเสื้อสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นตัวเดียว ร่างกายแข็งแรงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้ ด้านหน้าของดาดฟ้ายานเหาะมีผู้หญิงวัย 18ปี ผมสีเหลืองสวมชุดที่ดูเหมือนกับเอาใบไม้และดอกไม้มาประดับปกปิดร่างกาย เธอกำลังมองไปด้านหน้า

ไม่นานนักเธอก็มีสีหน้าตื่นเต้นดีใจและเปล่งเสียงดังไปทั่วยานเหาะ

"ทุกคนเราเจอเมืองลับกลางป่าแล้ว"

เด็กผู้ชายที่นอนอยู่บนเก้าอี้ก็รีบลุกขึ้นวิ่งมายังด้านหน้าของเรือเหาะ ไม่นานนักก็ได้มีคน 3คน วิ่งออกมาจากยานเหาะมายังด้านหน้าของดาดฟ้าเช่นกัน

เมื่อเด็กหนุ่มที่ไม่ได้สวมเสื้อสวมกางเกงยีนส์ตัวเดียวมาถึงด้านหน้าดาดฟ้ายานเหาะ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายพร้อมกับโห่ร้องดีใจและเต้นท่าคลื่นทะเลไปมา

"ว้าว เมืองลับกลางป่าล่ะเมืองลับกลางป่าล่ะ"

ฉากในความทรงจำนี้จบลงและอีกฉากหนึ่งก็ได้เริ่มขึ้นต่อ

ชายสวมชุดสูทสีดำได้รับบาดเจ็บนอนราบอยู่กับพื้น เขากำลังเงยหน้าที่ฟกช้ำปากแตกเลือดไหลขึ้นมามองเด็กหนุ่มผมสีดำสั้นไม่สวมเสื้อสวมแค่กางเกงยีนส์ขาสั้นตัวเดียวและถาม

"นี่แกเป็นใครกันแน่"

เด็กหนุ่มผมสีดำสั้นยิ้ม

"ชื่อของฉันคือ ไซรัส ลิโบริโอ ผู้ที่จะคว้าสมบัติลับในตำนานสมบัติแห่งราชันและกลายเป็นราชันย์นักผจญภัยยังไงล่ะ"

เด็กหนุ่มผมสั้นสีดำพูดจบก็หัวเราะด้วยรอยยิ้ม

"ฮี่ๆๆ"

ฉากนี้จบลง ฉากแล้วฉากเล่าก็ผุดขึ้นมาในหัวของเดว รอยยิ้มของเดลกว้างขึ้นเรื่อยๆ เขามีสีหน้าที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเนื้อตัวของเขาก็สั่นเทิ้มไปด้วยความตื่นเต้น

เขาคิดในใจ ' นี่มัน ไม่น่าเชื่อเลยความปรารถนาที่ไม่สามารถเป็นจริงได้กลับกลายเป็นความจริง ความปรารถนาของฉันที่ต้องการไปในโลกราชันนักผจญภัยและผจญภัยในโลกแห่งนั้น ตอนนี้มันก็ได้เป็นจริงขึ้นแล้ว"

เมื่อฉากทุกอย่างจบลงความสนใจของเดวก็มุ่งมายังหน้าตางตัวเลือกของระบบ

เดวเอามือกอดร่างกายของเขาที่มันกำลังสั่นอยู่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ

ดวงตาของเขามองไปที่ข้อความบนหน้าต่างระบบ

[โปรดเลือกโหมดของระบบ

1 โหมดเทพจุติ โหมดนี้ระบบจะมอบพลังระดับสูงให้แก่ท่านเจ้าของตั้งแต่ต้น ท่านจะได้รับพลังที่หาผู้ใดเทียบได้ยาก

2 โหมดเติบโตค่อยเป็นค่อยไป โหมดนี้ระบบจะค่อยๆ มอบพลังให้ท่านไปทีละขั้นละขั้น ท่านจะเติบโตทีละก้าวทีละก้าวด้วยความสามารถของตัวท่านเองและด้วยความช่วยเหลือจากระบบอย่างเต็มที่

3 โหมดเทพด้วยตัวเอง โหมดนี้ท่านจะต้องพึ่งความสามารถของตัวท่านเองเป็นหลักในการเติบโต ระบบจะทำการช่วยเหลือท่านเพียงเล็กๆน้อยๆ

เดวครุ่นคิดไม่นาน เพราะในใจของเขามีคำตอบอยู่แล้ว เขายกนิ้วขึ้นและชี้ตรงไปที่โหมดที่ 2

เขาไม่ได้เลือกโหมดแรกเพราะถึงแม้จะได้รับพลังที่ไร้ผู้ใดเทียมทาน แต่ความสนุกของเขาอาจจะหมดลงเป็นเหมือนความรู้สึกของไซตามะในเรื่องวันพั้นแมนก็ได้ 

สำหรับโหมดที่ 3 เขาไม่เลือกเพราะการที่ได้มายังต่างโลกพร้อมกับมีระบบคอยช่วยเหลือแบบนี้แล้ว การใช้งานระบบเพียงแค่นิดเดียวจะเป็นเรื่องที่เสียเปล่าอย่างยิ่งไม่คุ้มค่ากับโอกาสเอาเสียเลย

สาเหตุที่เขาเลือกโหมดที่ 2 นอกเหนือจากข้อเสียของโหมดที่ 1 และโหมดที่ 3 แล้ว โหมดที่ 2 นั้นยังเหมาะสมที่สุดสำหรับความปรารถนาในการผจญภัยในโลกนี้ของเขา

เมื่อเขาเลือกโหมดของระบบเสร็จสิ้นข้อความบนหน้าต่างก็หายไป และมีเสียงของระบบดังขึ้นมาต่อ

"การเลือกโหมดของระบบเสร็จสิ้น ท่านจะได้รับความสามารถในด้านศิลปะการต่อสู้จากโลกเดิมของท่านในระดับของผู้ชำนาญ และได้รับรองเท้าแตะ 1คู่ ขนมปังแพ 1ก้อน น้ำเปล่าขนาด 600มิลลิลิตร 1ขวด และเงินสด 10,000เซ เป็นของขวัญสำหรับการใช้งานระบบเป็นครั้งแรก โปรดเลือกประเภทของศิลปะการต่อสู้ เมื่อท่านเลือกประเภทของศิลปะการต่อสู้เสร็จแล้ว การใช้งานระบบครั้งแรกก็จะสิ้นสุดลงระบบจะทำการปิดตัวเพื่ออัพเดท ท่านจะไม่สามารถใช้งานระบบได้ ระยะเวลาการอัพเดทคือ 365วัน"

"หาาาาา~!!! 1ปีเลยเหรอนานจัง นี่มันมาทำให้อยากแล้วจากไปนี่หว่า"

เดวอดไม่ได้ที่จะบ่นในใจอย่างหน้าบึ้งตึง ความรู้สึกของเขาเหมือนเด็กที่จู่ๆ ได้เงินค่าขนมจากญาติพี่น้องในตระกูลจำนวนมากที่มากจนสามารถซื้อขนมและของเล่นได้ทั้งโลก แต่ดันโดนพ่อกับแม่ยึดเก็บเอาไว้ก่อนทั่งหมดแล้วจึงค่อยให้ที่หลังในตอนที่เขาโตแล้ว และตอนนี้ได้เงินเพียง 10 บาทไว้ใช้ก่อนเท่านั้น

นี้ฉันจะต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งนี้โดยที่ไม่มีระบบช่วยเหลือตั้ง 1 ปีเลยเหรอ จะให้เด็ก 12ปีอย่างฉันใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งนี้ด้วยตัวคนเดียวได้ยัง เดวหดหู่มาก เขาพึมพำในใจอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก

แต่แล้วเดวก็ต้องเลิกหดหู่ก่อนเพราะตอนนี้ตัวเลือกของประเภทศิลปะการต่อสู้ก็ปรากฏขึ้นมาให้เลือกเต็มหน้าต่างระบบ

'ถึงระบบจะยังใช้ไม่ได้ตอนนี้ แต่โลกแห่งนี้ก็ยังมีอะไรอีกเยอะแยะมากมายที่น่าตื่นเต้น' เดวปลอบใจตัวเองจากนั้นก็ให้ความสนใจกับหน้าต่างระบบ

เดวถึงกับพะงะเมื่อเห็นรายชื่อศิลปะการต่อสู้ที่มีจำนวนมาก เขาไม่คาดคิดเลยว่าจำนวนศิลปะการต่อสู้ในโลกเดิมของเขาจะมีมากมายหลายประเภทขนาดนี้

เดวที่ได้เห็นรายชื่อศิลปะการต่อสู้จำนวนมากเขาก็ไม่ได้ทำการอ่านตัวเลือกแต่อย่างใด แต่กลับถามระบบ

"ฉันสามารถใช้งานระบบเพียงแค่คิดโดยไม่ต้องใช้นิ้วจิ้มก็ได้ใช่ไหม"

ระบบตอบอย่างรวดเร็ว

"ท่านสามารถทำได้ค่ะ"

แต่เหมือนระบบจะคาดเดาความคิดของเดวได้เธอจึงพูดขึ้น

"หากตัวเลือกของท่านมีจำนวนมากจนท่านอ่านไม่ไหว และในใจของท่านมีตัวเลือกอยู่แล้ว ท่านสามารถเปิดใช้การค้นหาเพื่อลดระยะเวลาได้ค่ะ"

เมื่อได้ยินคำตอบของระบบเดวก็เปิดใช้การค้นหาอย่างไม่ลังเลเพราะมันเหมือนกับที่ระบบคาดเดา เขานั้นมีตัวเลือกที่เขาต้องการอยู่ในใจอยู่แล้ว

'เปิดใช้งานการค้นหา ค้นหามวยไทย'

เมื่อเขาเปิดใช้งานการค้นหาไอคอนรูปแว่นขยายก็โผล่ขึ้นมากลางหน้าต่าง_

ของระบบ และทางด้านขวาของไอคอนแวนขยายก็มีตัวอักษรเขียนว่ามวยไทย

จากนั้นไอคอนการค้นหากับอักษรคำว่ามวยไทยก็หายไป และตัวเลือกของศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดบนหน้าต่างระบบก็หายไปด้วย

หลงเหลือเพียงตัวเลือกมวยไทยเพียงแค่ตัวเลือกเดียวและมีข้อความว่า ยกเลิกการค้นหา เขียนเอาไว้ตรงขอบหน้าต่างระบบด้านขวาบน

'เลือกมวยไทย'

เดวใช้ความคิดเลือกมวยไทยอย่างรวดเร็ว จากนั้นขนมปังแพ 1ชิ้นในถุงพลาสติก ขวดน้ำขนาด 600มิลลิลิตร 1ขวด ถุงใส่เงิน 1ถุงก็ปรากฏขึ้นบนพื้นด้านหน้าของเขา ห่างออกไป 2เมตร และความรู้ความสามารถของทักษะมวยไทยก็ได้หลั่งไหลเข้าไปในหัวของเขา

"ว้าว" เขาอุทานในใจอย่างตื่นเต้น

นั่นก็เพราะว่าทักษะมวยไทยที่เขาได้รับไม่ได้มีแค่มวยไทยกีฬาเท่านั้นแต่ยังได้ทักษะมวยไทยโบราณที่ใช้สำหรับการต่อสู้จริงด้วย การต่อสู้จริงไม่ใช่กีฬามันไม่มีกฎกติกาใดๆ มันเหมาะสมที่จะใช้ในการต่อสู้ในโลกใบนี้ที่มีการต่อสู้จริงจำนวนมาก

และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาอุทานอย่างดีใจด้วยนั่นก็คือ เขาได้รับทักษะมวยสากลมาด้วย เนื่องจากกีฬามวยไทยที่ชกกันอยู่ในปัจจุบันนี้มักจะนำทักษะการต่อยของมวยสากลมาใช้ร่วมด้วย เลยทำให้ทักษะที่เดวได้รับมานั้นจึงมีมวยสากลรวมอยู่ด้วย

เมื่อเดวได้รับทักษะมวยไทยจากระบบเรียบร้อยแล้วเขาอดไม่ได้ที่จะชกลมเล่นไป 10ที เตะลมเล่นไปอีก 20ที และฟันศอกแทงเขาเล่นไปอย่างละ 10ที

'ดูเหมือนว่าจะได้รับเพียงแค่ทักษะมาแต่ร่างกายยังคงเป็นคนปกติธรรมดาที่ไม่ได้ฝึกทักษะการต่อสู้อะไรแฮะ'

เดวคิดในใจพร้อมกับปาดเหงื่อที่หน้าผาก

จากนั้นเขาก็หันมาสนใจหน้าต่างระบบที่ยังไม่ได้หายไป ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏอยู่ในหน้าต่างคือข้อความและตัวเลขที่กำลังนับถอยหลังอยู่

[ขณะนี้เวลาที่เหลือก่อนที่ระบบจะอัพเดทเสร็จสมบูรณ์คือ 364วัน 23ชั่วโมง 58นาที 1 วินาที]

เดวสั่งปิดหน้าต่างระบบด้วยความคิด และเดินไปเก็บถุงขนมปังขวดน้ำมาใส่ในกระเป๋าเสื้อทั้งด้านซ้ายและด้านขวา หยิบถุงเงินใส่กระเป๋ากางเกง จากนั้นก็เริ่มเดินสำรวจป่า

เดวที่สำรวจอยู่ในป่าอยู่นานถึง 1ชั่วโมงเต็มในที่สุดก็ได้พบเจอหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ถูกป่าโอบล้อมและมีกำแพงปูนล้อมรอบป้องกันสัตว์ร้ายจากป่าบุกเข้ามา

เขาเดินออกจากป่ามายังถนน จากการมองดูหมู่บ้านและป่าที่เขาเดินออกมา จึงทำให้เขารู้ว่าป่าที่เขาเดินออกมานั้นคือป่าหลังหมู่บ้านแห่งนี้

เขาเดินไปยังประตูท้ายหมู่บ้านที่เปิดอยู่ และเข้าไปในตัวหมู่บ้าน

บ้านเรือนในหมู่บ้านต่างก่อมาจากอิฐและปูน ลานบ้านของบ้านเรือนแต่ละหลังต่างปลูกต้นไม้ใหญเล็กดูสวยงามและร่มรื่นเป็นอย่างมาก ต้นไม้บางต้นเขาก็เคยเห็นมาแล้วในโลกก่อนแต่บางต้นก็ยังไม่เคยเห็น และยังเห็นป้อมทหารตั้งอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าหลังหมู่บ้านด้วย

เดวคิดในใจ

'ที่โลกแห่งนี้ไม่มีตำรวจ มีแต่ทหารคอยดูแลความปลอดภัยของเมืองหรือหมู่บ้าน'

เดวเดินชมทิวทัศน์ในหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ด้วยท่าทางผ่อนคลายเหมือนดังเขาเป็นดังนักท่องเที่ยวที่กำลังเที่ยวชมโลกแห่งนี้อยู่

เดวที่เดินชมทิวทัศน์อยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตะโกนแว่วดังมาจากไกลๆ

"คนอย่างแกนะเหรอที่จะเป็นราชันย์แห่งนักผจญภัย ฮ่าๆๆๆ อย่าพูดให้ขำเลยดีกว่า ฉันต่างหากเล่าที่จะได้กลายเป็นราชันนักผจญภัยไม่ใช่แก"

เมื่อได้ยินเสียงนั้น เดวจึงหันไปมองทางด้านทิศทางของเสียง

เขามองเห็นกลุ่มเด็กผู้ชายอายุประมาณ 12-13ปี 8คน กำลังยืนล้อมเด็กผู้ชาย 2คน คนหนึ่งสวมเสื้อแขนสั้นสีเหลืองเข้ม สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ส่วนอีกคนสวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้า สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเหมือนกัน เด็กทั้งคู่มีอายุ 12-13ปี พวกเขาอยู่ในสวนสาธารณะของหมู่บ้าน

เมื่อเห็นฉากนี้ เดวก็ขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบคนที่พูดจาดูถูกความฝันของคนอื่น และเขาก็เกลียดการยกพวกรุมรังแกคนอื่นด้วย

เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ

ทางด้านของในสวนสาธารณะ

เด็กผู้ชายที่สวมเสื้อสีเหลืองเข้มพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ

"ฉันต่างหากล่ะที่จะกลายเป็นราชันย์แห่งนักผจญภัย ไอ้เจ้าบ้า"

เมื่อเด็กผู้ชายร่างใหญ่ของฝั่งกลุ่มเด็กที่ยืนปิดล้อมได้ยินคำพูดของเด็กผู้ชายคนนั้นเขาก็โกรธเป็นอย่างมากและตะโกนใส่อีกฝ่าย

"แกเองสิบ้า!!"

เมื่อโดนตะโกนใส่เด็กผู้ชายที่สวมเสื้อสีเหลืองเข้มก็ไม่ยอมแพ้ เขาตะโกนกลับไปด้วยเสียงดังไม่แพ้กันว่า

"แกนั่นแหละไอ้เจ้าทึ่ม!!"

เด็กผู้ชายร่างใหญ่คิ้วกระตุก พร้อมกับมีเส้นเอ็นปรากฏขึ้นที่หน้าฝาก

"แกต่างหากละไอ้เจ้าโง้"

เพื่อนๆ ของเด็กผู้ชายร่างใหญ่ที่กำลังยืนปิดล้อมอยู่ตอนนี้ต่างก็เริ่มพากันช่วยเด็กผู้ชายร่างใหญ่รุมตะโกนด่า

ทางฝั่งเด็กผู้ชายสวมเสื้อสีฟ้าที่ถูกปิดล้อมที่ไม่ได้พูดอะไรในตอนแรก แต่เมื่อเห็นกลุ่มเด็กผู้ชายฝั่งตรงข้ามทั้งหมดเริ่มตะโกนด่าด้วย เขาก็ได้เริ่มช่วยเด็กผู้ชายที่สวมเสื้อสีเหลือตะโกนด่าด้วยเช่นกัน

และแล้วมหกรรมการตะโกนด่าใส่ซึ่งกันและกันก็ได้เริ่มต้นขึ้น

เดวยืนมองอยู่ด้านหน้าสวนสาธารณะ เขายืนมองดูเด็กแต่ละคน และไปหยุดอยู่ที่เด็กผู้ชายที่สวมเสื้อสีเหลือง

เมื่อเดวเห็นเด็กผู้ชายคนนี้เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้เป็นใคร

เดวประหลาดใจอย่างมาก ไม่คิดว่าจะได้เจออีกฝ่ายเร็วขนานนี้ เขาตะโกนในใจ

'นั้นไซรัสนี่นา!! ชื่อเต็มของเขาก็คือ ไซรัส ลิโบริโอ ตอนนี้เขายังเด็กอยู่เลย นี่ฉันมาโลกใบนี้ในตอนที่ไซรัสยังเด็กอยู่เหรอเนี่ย ช่างเถอะ แต่ก็ยังดี ดูแล้วไซรัสน่าจะอายุ 12ปีพอๆ กับฉัน พวกเราสามารถเป็นเพื่อนวัยเดียวกันได้

ไซรัสคือพระเอกของอนิเมะชื่อดังเรื่อง ราชันย์นักผจญภัย และเมื่อเขาอายุ 18ปี เขาก็จะออกเดินทางผจญภัยรวบรวมพวกพ้อง ค้นหาสมบัติลับในตำนานสมบัติแห่งราชันย์ เพื่อที่จะได้กลายเป็นราชันย์แห่งนักผจญภัย'

ส่วนเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ และดูแก่กว่าไซรัสก็คือ ไซโอ ลิโบริโอ พี่ชายแท้ๆ ของไซรัส ซึ่งเขาแก่กว่าไซรัส 1ปี

ขณะนี้การตะโกนด่าใส่ซึ่งกันและกันก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เด็กผู้ชาย 2คน และกลุ่มเด็กผู้ชายที่กำลังปิดล้อมก็ได้ยกกำปั้นขึ้นและวิ่งเข้าใส่กัน

เดวที่เห็นอย่างนั้น เขาก็ได้มองไปรอบๆ และเมื่อเห็นว่าไม่มีคนอยู่ใกล้สวนสาธารณะเขาก็คิดในใจ "ถ้าฉันเข้าไปช่วยไซรัสกับไซโอตอนนี้ นี่อาจเป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับพวกเขา"

คิดได้ดังนั้นเดวก็ได้วิ่งปรี่เข้าไปช่วยทั้ง 2พี่น้อง ทันที

ตอนที่ 2 การต่อสู้ครั้งแรกในโลกของนักผจญภัย

ร่างของเดวเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว 

เขามุ่งเป้าไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ห่างจากกลุ่มเพื่อนมากที่สุด เพื่อต้องการให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัวช้าที่สุดว่ามีใครบางคนกำลังเข้ามายุ่งกับการต่อสู้ของพวกเขา

เมื่อวิ่งเข้าไปใกล้เป้าหมาย เท้าข้างที่ไม่ถนัดของเดวอยู่ด้านหน้า เขาเงื้อหมัด บิดเอวดันไหล่และชกในทันที นี่คือท่าหมัดตรงของมวยสากล

แรงที่เกิดจากการบิดเอวถูกส่งไปไหล่ และรวมพลังเข้ากับแรงที่เกิดจากการดันไหล่ แรงทั้งคู่ที่รวมพลังกันแล้วก็ได้ถูกส่งไปยังแขนและรวมพลังเข้ากับแรงชก

เกิดเป็นหมัดที่แรงและทรงพลัง

หมัดที่แสนรุนแรงนี้พุ่งตรงไปยังปลายคางของเป้าหมายอย่างจัง

ตุบ!!

เด็กคนที่เป็นเป้าหมายสลบร่วงลงนอนกองกับพื้น 

เมื่อหมัดที่ชกไปทำหน้าที่ของมันสำเร็จ เดวก็เหวี่ยงไหล่บิดเอวเตะ ในท่าเตะของมวยไทย

แรงที่เกิดจากการเหวี่ยงไหล่ถูกส่งไปรวมพลังกับแรงที่บิดเอว แรงทั้งคู่ที่รวมพลังกันแล้วก็ถูกส่งไปที่สันแข้งและรวมพลังเข้ากับแรงเตะ

เกิดเป็นลูกเตะที่แรงและทรงพลัง

เด็กคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับเด็กที่ถูกเดวชกสลบ เขารู้สึกได้ว่าเพื่อนของเขาที่อยู่ใกล้ๆ นั้นถูกใครบางคนทำร้าย เขาจึงรีบหันไปดูคนที่ทำร้ายเพื่อนของเขา

แต่สิ่งที่เด็กคนนั้นเห็นได้ชัดเจนที่สุดก่อนที่เขาจะสลบไปก็คือ สันแข้งที่กำลังพุ่งมาปะทะคางของเขา

และแล้วก็

ตุบ!!

ร่วงไปอีกคน

เดวประเมินสถานะการณ์ในใจ

'กลุ่มเด็กที่รุมทำร้ายไซรัสกับไซโอ มีทั้งหมด 8คน ตอนนี้ล่วงไปแล้ว 2คนแล้ว ยังเหลืออีก 6คน'

ตอนนี้เด็กทุกคนก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่ามีใครบางคนกำลังสอดมือเข้ามายุ่งกับการต่อสู้ของพวกเขา

เด็กทั้งหมดรวมถึงไซรัสและไซโอต่างก็หยุดสู้กันและหันไปมองบุคคลที่ 3 ที่พึ่งเข้ามา

ภาพที่พวกเขาทั้งหมดเห็นก็คือ เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มาจากใหนก็ไม่รู้ได้ชกเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในแก๊งเด็กรุมร่วงลงไปนอนกองกับพื้น และขณะนี้บนพื้นใกล้ๆ กับเด็กผู้ชายปริศนาคนนั้นก็มีเด็กผู้ชายในแก๊งเด็กรุม 3คน สลบนอนกองกับพื้นแล้ว

เดวไม่รู้จะทำยังไงในสถานะการณ์แบบนี้ เขาจึงได้ยกมือขึ้นข้างหนึ่งและทักทายพวกเขา

"โย่ว หวัดดี"

เด็กทุกคน

"..……"

เงียบกริบ ไม่มีเด็กคนไหนตอบสนองต่อคำทักทายนี้เลย

ตอนนี้เด็กทุกคนต่างอยู่ในอาการอึ้งและงุนงง พวกเขามีคำถามและความสงสัยอยู่ในใจอย่ากจะถามไอ้เด็กที่เข้ามาจุ้นจ้านคนนี้ว่า

'เฮ้ย เอ็งเป็นใคร? เอ็งมาจากไหน? แล้วเอ็งมาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?'

สีหน้าและแววตาของพวกเขาบ่งบอกสิ่งที่พวกเขาคิดได้อย่างชัดเจน

เดวคนต้นเรื่องไม่ได้สนใจความคิดของพวกเขาเลย เขาทำเพียงแค่หันไปพูดกับไซรัสและไซโอ

"ฉันมาช่วยพวกนายนะ  พอดีฉันเดินมาเห็นว่ามีเด็กอันธพาลกำลังล้อมพวกนายอยู่ ฉันเองก็ไม่ชอบคนที่มาดูถูกความฝันของคนอื่น และก็เกลียดคนที่ยกพวกรุงรังแกคนอื่นด้วย"

ไม่มีใครตอบสนอง

แก๊งเด็กรุมอึ้ง ไซรัสและไซโอก็อึ้ง มีเด็กคนเดียวที่หายอึ้งเร็วที่สุด นั่นก็คือเด็กผู้ชายตัวโตที่หัวเราะเยาะความฝันของไซรัส ซึ่งก็เพราะว่าบุคคลที่เดวพูดถึงมากที่สุดก็คือเขานั่นเอง

เขารู้สึกโกรธและไม่พอใจเดวเป็นอย่างมาก เขายกกำปั้นขึ้นอ้าปากด่าและวิ่งเข้าหาเดวด้วยความโกรธ เขาหวังจะซัดหน้าเจ้าคนจุ้นจ้านปากดีนี้ให้คว่ำ

"เสือกนักนะแก ไปลงนรกซะเถอะไอ้กล๊วกเอ้ย"

เมื่อไซรัสเห็นอย่างนั้นเขาก็หายอึ้งและวิ่งเข้าไปดึงกางเกงของเด็กผู้ชายร่างใหญ่คนนั้น และปากของเขาก็ตะโกนลั่น

"ไอ้เจ้าบ้า คู่ต่อสู้ของแกก็คือฉันต่างหากเล่า"

เด็กผู้ชายร่างใหญ่คนนั้นก็ถึงกับกางเกงหลุด

และหมีโคอาร่าสุดน่ารักบนบ๊อกเซอร์ก็ออกมาส่งยิ้มให้ทุกคน

เดว "เอ่อ........"

แก๊งเด็กรุม "เอ่อ........"

ไซโอ "เอ่อ........"

ไซรัสยังคงทำหน้าขึงขังอยู่พร้อมกับจับกางเกงอีกฝ่ายไว้แน่น

เนื่องจากกางเกงของเด็กผู้ชายตัวใหญ่หลุดลงมาที่ขาของเขา เขาจึงสะดุดกางเกงตัวเองล้ม ไซรัสจึงรีบปล่อยมือให้เขาลงได้อย่างสะดวก

เขารีบลุกขึ้นดึงกางเกงเข้ากลับที่เดิม และหันมาจ้องมองไซรัสตาเขม็ง

ไซรัสที่รู้แล้วว่าตนทำอะไรลงไป เขาก็ขอโทษอย่างไม่ลังเล

"โอ้ โทษที"

ถึงปากจะขอโทษแต่ใบหน้าไม่ได้มีความสำนึกผิดเลย

เด็กผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นถึงกับยั๊วะหนักยิ่งกว่าเดิม

เขาตะโกนลั่น

"ไอเจ้าบ้าาาา!!"

เขาตะโกนพร้อมกับวิ่งกลับมาต่อยไซรัสด้วยความโกรธ

ไซรัสที่ตัวเล็กกว่าก็หลบด้วยความว่องไวและปราดเปรียว จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นเอาหัวโหม่งใส่หน้าเด็กผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นไป

แก๊งเด็กรุมที่เหลืออยู่ 5คน ก็วิ่งเข้าไปช่วยเด็กผู้ชายตัวใหญ่ต่อสู้กับไซรัส

ส่วนไซโอก็พยายามไปขัดขวางเด็ก 5คนนั้น แต่ไซโอเพียงคนเดียวจะหยุดเด็ก 5คนได้อย่างไร

เดวที่แอบกลั้นขำมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ก็รีบวิ่งเข้าไปหยุดเด็ก 5คนนั้นด้วยเช่นกัน

ตุบ!! ตุบ!!

หมัดตรงซ้ายและหมัดตรงขวาของเดวพุ่งเข้าใส่คางของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ เด็ก 2คน ที่ถูกชกก็ร่วงลงไปนอนกองกับพื้น

ไซโอตอนนี้เขาใช้แขน 2ข้าง ล็อคคอเด็กผู้ชาย 2คน ไม่ให้พุ่งเข้าไปช่วยเด็กผู้ชายตัวใหญ่รุมน้องชายของเขา 

แต่เด็กคนหนึ่งที่ไซโอล็อคคอไว้ก็มีขนาดตัวที่ใหญ่เกือบเท่ากับเด็กตัวใหญ่ที่กำลังต่อสู้อยู่กับไซรัสเลย ความสูงและความใหญ่ของเด็กผู้ชายคนนี้เล็กน้อยกว่าเด็กผู้ชายตัวใหญ่ที่สู้อยู่กับไซรัส 2-3เซนติเมตร เท่านั้นเอง

เด็กผู้ชายตัวใหญ่ที่ชกต่อยอยู่กับไซรัสนั้นสวมเสื้อสีส้ม

ส่วนเด็กผู้ชายที่ไซโอล็อกคอไว้นั้นสวมเสื้อสีน้ำเงิน

ด้วยพละกำลังที่มากกว่า เด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อสีน้ำเงินก็ดึงแขนของไซโอที่กำลังล็อคคอของเขาอยู่ออกอย่างง่ายดาย

เมื่อหลุดออกจากการล็อคของไซโอแล้ว เด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อน้ำเงินคนนี้ ก็ไม่ได้สนใจไซโอแต่อย่างใด เขารีบวิ่งปรี่เข้าไปช่วยเด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อส้มอีกคนรุมไซรัส

แต่ทันใดนั้นความเร็วในการก้าวเท้าวิ่งของเขาก็ต้องช้าลง

เพราะในดวงตาของเขาได้เหลือบมองเห็นร่างของเพื่อนของเขา 2คน นอนกองกับพื้นแล้ว และคนที่ทำพวกเขานอนกองกับพื้นตอนนี้ก็กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาแล้ว

เมื่อเด็กผู้ชายร่างใหญ่เสื้อน้ำเงินหลุดจากการล็อกของตัวเองได้สำเร็จ ไซโอก็เลือกที่จะปล่อยมือจากเด็กอีกคนที่เขากำลังล็อคอยู่ เพื่อที่จะวิ่งเข้าไปดึงเด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อน้ำเงินไม่ให้เขาไปรุมไซรัส

แต่ไซโอก็ถูกเด็กผู้ชายที่เขาเพิ่งปล่อยดึงแขนเอาไว้

ไซโอตั้งใจจะดิ้นรนเพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากการถูกดึงแขน

แต่จังหวะที่เขาหันกลับมาเพื่อที่จะดิ้นให้หลุดโดยเร็ว

ตาของเขาก็ได้เห็นว่าเดวกำลังวิ่งเข้าใส่เด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อน้ำเงิน และด้านหลังของเดวก็ยังมีเด็กผู้ชาย 2คน นอนกองอยู่กับพื้นอยู่อีกด้วย

เมื่อไซโอเห็นดังนั้นความตั้งใจของเขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้ดิ้นรนเพื่อที่จะไปดึงเด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อน้ำเงินอีกต่อไป

ไซโอเปลี่ยนมาเป็นกำกำปั้นด้วยมืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกจับแน่น และหันกลับมาเหวี่ยงมันชกเข้าใสเต็มหน้าของเด็กที่จับแขนของเขาไว้เข้าจังๆ

ตอนนี้คู่ต่อสู้ของเดวก็เหลืออยู่แค่คนเดียวแล้ว

เด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อน้ำเงินหยุดวิ่ง

เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เพื่อนของเขา 3คน ก็ถูกเดวคนเดียวจัดการล่วงลงไปนอนกองกับพื้น และตอนนี้ก็มีอีก 2คน ที่นอนกองกับพื้นอยู่ด้านหลังของเดว เมื่อรวมกันก็เป็น 5คนแล้ว 

เขาจ้องมองเดวตาเขม็ง ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความโกรธ แต่ในแววตาของเขาลึกๆ กลับแสดงออกถึงความหวาดกลัวที่มีต่อเดว

แต่เด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อน้ำเงินคนนี้ก็เลือกที่จะยกกำปั้นขึ้นวิ่งเข้าใส่เดวด้วยความโกรท

เดวแอบยกย่องความกล้าของอีกฝ่ายอยู่ในใจ

เมื่อเดววิ่งมาถึงตัวอีกฝ่าย เขาก็เอี้ยวตัวและหัวหลบหมัดของอีกฝ่ายที่ชกมา 

และขนาดเดียวกันเดวก็ชกหมัดตรงสวนกลับไปด้วย ท่านี้คือ หมัดเคาน์เตอร์ของมวยสากล

หมัดของเด็กผู้ชายตัวใหญ่พุ่งผ่านแก้มของเดว แต่ในขณะเดียวกันหมัดตรงของเดวพุ่งตรงเข้าปลายคางของเด็กผู้ชายร่างใหญ่เต็มๆ

ตุบ!!

เด็กผู้ชายร่างใหญ่เสื้อน้ำเงินถึงกับชะงักและเซถอยหลังไป 1ก้าว

แต่เขาก็ยังไม่ล้ม 

เนื่องด้วยรูปร่างกายของเขาใหญ่กว่าเดวมาก และร่างกายของเดวก็เป็นร่างกายของเด็กธรรมดายังไม่ได้ฝึกฝนเหมือนกับนักมวยด้วย 

แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา

ตอนนี้หมัดตรงอีกข้างหนึ่งของเดวได้พุ่งเข้าใส่ปลายคางของอีกฝ่ายแล้ว

ตุบ!!

ร่างของเด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อน้ำเงินก็ร่วงลงนอนกองกับพื้นทันที

เมื่อเดวเอาชนะคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของเขาได้ เขาก็หันไปมองไซโอและไซรัสที่กำลังต่อสู้อยู่กับคู่ต่อสู้ของตน

เดวเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่ง เพราะนี่คือการต่อสู้ของพวกเขา

เดวยืนรออยู่ด้านข้าง คนแรกที่เอาชนะคู่ต่อสู้ก็คือไซโอ

ไซโอที่เอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาแล้ว เขาก็เดินมาขอบคุณเดว และหันมาตะโกนเชียร์ไซรัสอยู่ด้านข้าง

เดววิเคราะห์ไซโอในใจ

'ไซโอก็ยังเป็นเหมือนในอนิเมะ สุภาพ ใจเย็น และกล้าหาญ'

เดวหันไปมองไซรัสและวิเคราะห์ไซรัสในใจ

'ไซรัสเท่าที่ฉันเห็นตอนนี้ก็ยังคงเหมือนในอนิเมะ ซื่อตรง มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ และกล้าหาญ ส่วนเรื่องซน นั้นต้องค่อยดูอีกที'

เมื่อเดววิเคราะห์เสร็จ ไม่นานนักในที่สุดไซรัสก็เอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้สำเร็จ 

ตอนนี้ไซรัสเป็นคนที่บาดเจ็บมากที่สุด มีรอยฟกช้ำดำเขียวและรอยแดงเต็มใบหน้า

คนที่บาดเจ็บรองลงมาก็คือไซโอ เขามีรอยช้ำรอยแดงบ้างเล็กน้อย

ส่วนคนที่บาดเจ็บน้อยที่สุดก็คือเดว เขามีเพียงแค่รอยแดงที่หมัดและสันแข้งที่เตะเท่านั้น

ไซรัสที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ก็หันมายิ้มทักทายเดว

"สวัสดี ฉันชื่อ ไซรัส ลิโบริโอ ขอบใจมากที่ช่วยนะ นายนี่สุดยอดจริงๆ ล้มเจ้าพวกนี้ได้ตั่งหลายคนแหนะ แล้วนายชื่ออะไรเหรอ"

ไซโอเองก็หันมามองเดวด้วยความอยากรู้

เดวยิ้มทักทายและเริ่มแนะนำตัว

"สวัสดี ฉันชื่อ เดว "

เดวที่กำลังจะพูดนามสกุลเก่าของเขาออกมา ก็ได้หยุดลงและเปลี่ยนคำพูดของเขาใหม่ในทันที

"สตาร์ ยินดีที่ได้รู้จัก"

ไซโอเองก็เริ่มแนะนำตัวด้วยเช่นกัน

"สวัสดี ฉันชื่อ ไซโอ ลิโบริโอ เป็นพี่ชายของไซรัส ฉันแก่กว่าไซรัส 1ปี ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน"

เมื่อจบการแนะนำตัวของไซโอแล้วไซรัสก็เริ่มถามต่อ

"แล้วนายอาศัยอยู่ที่ไหนเหรอฉันไม่เคยเห็นนายมาก่อนเลย"

เดวก็ได้คิดเผื่อเอาไว้แล้วว่าพวกเขาจะต้องถามคำถามนี้ เขาจึงได้เตรียมคำตอบเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

"ฉันมาจากหมู่บ้านที่ค่อนข้างไกลจากที่นี่พอดีฉันมาซื้อของที่มีขายเฉพาะที่หมู่บ้านเมเปิ้ลแห่งนี้น่ะ"

พอพูดจบเดวเขาก็พูดขึ้นต่อด้วยความเป็นห่วงพวกแก๊งเด็กรุมที่นอนกองอยู่กับพื้น จากนั้นจึงพูดขึ้น

"ไซโอ ไซรัส เดี๋ยวฉันขอปลุกเจ้าพวกนี้ก่อนนะ จะให้มานอนตากแดดที่นี่ก็คงไม่ดี"

ไซโอพยักหน้า ส่วนไซรัสพยักหน้าตอบ

"OK"

เดวเดินไปนวดศีรษะของเด็กผู้ชายตัวใหญ่ที่ต่อสู้กับไซรัส

สิ่งที่เดวได้จากระบบไม่ใช่แค่ทักษะการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการปฐมพยาบาล วิธีการทานอาหารเสริมสร้างร่างกาย และวิธีการออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย

ไม่นานเด็กผู้ชายร่างใหญ่เสื้อส้มก็ตื่นขึ้นมา

จริงๆแล้วเด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อส้มนั้นตื่นอยู่แล้ว เขาไม่ได้สลบ

ระหว่างที่เขาต่อสู้อยู่กับไซรัสเขาก็ได้เห็นการต่อสู้ของเดวด้วย เมื่อเขาเริ่มสู้ไซรัสไม่ไหวเขาจึงแกล้งโดนต่อยและทำทีเป็นสลบ แต่ตอนนี้เดวได้มาทำการปลุกเขาแล้ว เขาจึงจำใจต้องตื่นอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อเด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อส้มลืมตาขึ้น เขาก็เห็นเดวกำลังจ้องมองเขาอยู่ เขาก็อดไม่ไดที่จะสั่นสะท้าน และตัวของเขาเริ่มสั่น

เดวยกมือชี้ไปยังใต้ต้นไม้ใกล้ๆ และพูดขึ้น

"ไปรออยู่ใต้ต้นไม้นั้นก่อน เดี๋ยวฉันปลุกคนอื่นๆ ก่อนฉันมีอะไรจะพูดกับพวกนายหน่อยนะ"

"ครับ"

เด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อส้มพยักหน้าตอบและเดินไปยังใต้ต้นไม้ที่เดวชี้อย่างว่านอนสอนง่าย

เมื่อเห็นอาการสั่นและความว่าง่ายของเด็กผู้ชายตัวใหญ่เสื้อส้ม เดวเลิกคิ้วของเขาขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เดวพูดในใจ

'ก็พอรู้ว่าพวกเขาจะต้องกลัวฉันแน่ แต่ไม่คาดคิดว่าจะกลัวกันถึงขนาดนี้ ก็ดีเหมือนกันแฮะ ฉันจะใช้โอกาศนี้สังสอนพวกเขาให้เลิกทำแบบนี้เสียหน่อย'

จากนั้นเดวก็เดินไปปลุกเด็กคนอื่นๆ ต่อ

และแล้วเด็กอีกคนก็ตื่นขึ้น ดวงตาที่เปิดออกของเขามองเห็นเดว ไซรัส ไซโอ กำลังจ้องมองเขาอยู่ เขาพยายามนึกให้ออกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นเด็กผู้ชายตัวโตที่เป็นหัวหน้าแก๊งของพวกเขากำลังยืนตัวสั่นอยู่ใต้ต้นไม้ เขาก็นึกออกทันที เขาอดไม่ได้ที่จะมองมาที่เดว จากนั้นก็เริ่มตัวสั่น

เดวยกมือขึ้นชี้ไปยังใต้ต้นไม้ที่เด็กผู้ชายร่างใหญ่ยืนอยู่ แล้วพูดเหมือนเดิม

เด็กผู้ชายคนนั้นก็พยักหน้าอย่างว่าง่ายและเดินไปยังใต้ต้นไม้ต้นนั้น

จากนั้นเดวก็เริ่มปลุกเด็กคนอื่นๆ ต่อไป ไม่นานทุกคนก็ถูกปลุกให้ตื่นและโดนใช้ให้มายืนใต้ต้นไม้รวมกัน

เด็กทุกคนต่างตัวสั่นและมองมาที่เดวที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าของพวกเขา

เดวไม่สนใจอาการสั่นของพวกเขา เขาอ้าปากขึ้นพูดเสียงดังฟังชัด

"อย่าได้ไปเที่ยวพูดจาดูถูกความฝันของคนอื่น และอย่าได้ยกพวกรุมรังแกคนอื่นเขาอีก ถ้าฉันรู้ ฉันจะมาจัดการกับพวกนายแน่ และครั้งหน้าจะไม่จบแค่โดนต่อยแล้วสลบแบบนี้อีก"

จากนั้นเดวก็เผยรอยยิ้มเย็นแบบตัวร้ายในหนังภาพยนต์

และพูดต่อ

"ฉันจะค่อยๆ ทรมานพวกนายให้เจ็บปวดแสนสาหัสก่อนที่จะซัดพวกนายให้สลบอีกครั้ง เข้าใจไหม"

เด็กทุกคนตัวสั่นสะท้านหนักยิ่งกว่าเดิม และพยักหน้าเร็วๆ รัวๆ พร้อมกับตอบเสียงดังฟังชัดกลับมา

"ครับ เข้าใจแล้วครับ"

เดวพยักหน้าพร้อมกับพูดอย่างพึงพอใจ

"ดี งั้นพวกนายก็ไปได้แล้ว"

ความรู้สึกของพวกแก๊งเด็กรุมตอนนี้เหมือนได้รับอภัยโทษจากสวรรค์ พวกเขารีบพยักหน้าและรีบวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!