...*คำเตือน เนื้อหาต่อจากนี้ตลอดยันจบเรื่อง เกี่ยวกับโปเกมอน แต่ไม่มีเนื้อหาจากในอนิเมะทั้งสิ้น สิ่งที่เกี่ยวข้องมีเพียงแค่ ลักษณะทางกายภาพของโปเกมอน ข้อมูลโปเกมอนที่หาได้ทั่วไป และ เครื่องมืออุปกรณ์บางอย่าง เหมือนในอนิเมะ และมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การกินโปเกมอนเป็นอาหาร อาจมีการทารุณกรรมโปเกมอน และอาจมีที่โปเกมอนกินมนุษย์หรือทำร้ายมนุษย์โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และนี่จะเป็นคำเตือนเดียวและคำเตือนสุดท้าย ขอบพระคุณอย่างสูง*...
__________________________________
เด็กผู้หญิงตัวเล็กอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้านหลังของเธอ มีพ่อแม่ และพี่สาวยืนมองอยู่ใกล้ๆ มือเรียวเล็กสั่นเทาของเด็กสาวสิบหกปี พิมพ์ข้อมูลระบบของโรงเรียน เพื่อดูคะแนน และเกรดของตัวเองในเทอมนี้
ในหน้าน่ารักของเธอซีดเผือด เมื่อเจอว่า เธอได้ที่1 ด้วยเกรดเฉลี่ย4.00 แต่คะแนนรวมของวิชาหนึ่ง ได้98.00 คะแนน
มือหยาบเหี่ยวของแม่ผู้ให้กำเนิดแท้ๆ จิกลงไปที่ผมสีน้ำตาลของเด็กสาวอย่างรุนแรง ด้วยความไม่พอใจ
" แก!! นังหยง แกมันไม่เอาไหนจริงๆ วันๆแกก็เล่นแต่เกม!! หัดดูพี่แกเป็นตัวอย่างบ้างสิ! "
มือหยาบๆ บังคับให้หัวมล หันหลังไปดูพี่สาวผู้ที่เป็นที่น่าภาคภูมิใจต่างจากตัวเธอ แต่ตอนนี้ พี่สาวที่ว่ากำลังมองด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดและหวาดกลัวกับสิ่งที่แม่ทำกับน้องสาวตัวเล็ก
ถัดไปข้างๆ พี่สาวมีคุณพ่อร่างท้วม มองมาที่เธอด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้าย และสายตาสมเพชก่อนจะหันหลังกลับไปนั่งที่โซฟา และเปิดรายการทีวีดู เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" ตุบ! "
คุณแม่เขวี้ยงลูกสาวคนเล็กของเธอลงไปกับพื้นกระเบื้องอย่าเดือดดาลโดยไม่สนใจถึงความหนาแน่น ความแข็งของกระเบื้องจะมาทำร้ายลูกสาวตัวน้อยเลย
" หยง! "
เมื่อเห็นแบบนั้น พี่สาวของเธอก็รีบลงมาดูอาการน้องคนเล็ก และหวังจะจับดูตัวน้อง
" ผินอย่าไปแตะตัวมัน! "
แม่จับตัวของพี่สาวแล้วตึงให้ออกห่างจากเธอ พี่สาวมีสีหน้าที่หวาดกลัวและแฝงด้วยความรังเกียจเล็กน้อยกับสัมผัสของแม่แต่ทำอะไรไม่ได้เลย
" จะเสียงดังอะไรนักหนา น่ารำคาญ ส่วนแก หยง ไสหัวขึ้นห้องได้แล้ว แล้วกลับไปทำตัวให้ดีขึ้นด้วยล่ะ "
ในที่สุดผู้เป็นพ่อก็ยอมเปิดปากพูด แต่ก็กลับไปที่หน้าจอทีวีตามเดิม เหมือนไม่อยากจะเห็นภาพเบื้องหลัง
หยงรีบวิ่งขึ้นไปห้องส่วนตัวของเธอที่อยู่ชั้นสองของบ้านอย่างรวดเร็วโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลังมอง
บนชั้นสองของบ้านมีเพียงเธอแค่คนเดียวที่อยู่ข้างบน ชั้นนี้ทั้งชั้นทำมาจากไม้ มีรูทะลุเล็กๆ ตามกำแพงเต็มไปหมด เป็นชั้นที่ร้อนก็ร้อนที่สุด หวาน ก็หนาวที่สุดในบ้านเนื่องจากไม่มีฝ่ารองเพดานไว้กันความร้อนอากาศจากข้างบน
ร่างเล็กของหยงทรุดกอดเข่าใกล้ๆกับเตียง ความเครียด ความไม่เข้าใจ ความเจ็บที่หนังหัว ความรู้สึกไม่ยุติธรรม หลากหลายอย่างตีอยู่ในต่างล้วนแต่เป็นความรู้สึกแย่ๆ กลั่นออกมา เป็นน้ำตาแห่งความรู้สึก ที่อัดแน่นเต็มไปด้วยฮอร์โมนและความรู้สึกมากมายในน้ำใสๆ เหลือเพียงหยดแล้วหยดเล่า
มือเล็กเรียวขยุมเส้นผมที่สั้นแสน จากการบันดานโทสะของผู้เป็นแม่เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว เพียงเพราะเธอป่วยจนไม่สามารถไปเรียนได้
ความเจ็บปวดเดิมบนหนังศีรษะที่ถูกกระตุ้นด้วยการขยุมเส้นผม ทำให้หยงค่อยๆ คุมความรู้สึกและสติของตัวเองให้ค่อยๆ ปรับการหายใจช้าๆ และเลิกที่จะร้องไห้ในที่สุด
เธอคว้าเอา เครื่องนินเทนโดสวิทช์ราคามือสองที่เธอทำงานเล็กๆ น้อยไป เพื่อซื้อมันมา ใส่ตลับเกมโปเกมอนเข้าไป เธอเข้าเกมที่เธอเล่นไว้ และเปิดดูโปเกมอนแสนน่ารักที่เธอจับเอาไว้ในทีม
หยงมองโปเกมอนพวกนั้นผ่านหน้าจอเกมด้วยสายตาเอ็นดู
น้ำตาสีใสไหลอาบแก้มช้าๆอีกครั้ง
" ถ้าพวกเธอไม่ได้มีแค่ในจอ..ก็คงดีสิ "
ความเจ็บปวดแบ่นเข้ามากลางใจ ลึกในส่วนใดส่วนหนึ่งของจิตใจดวงน้อย ที่สิ่งเดียวที่น่ารักสำหรับเธอบนโลก ดันเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
ตั้งแต่เธอเกิดมา ก็ถูกกระทำเหมือนส่วนเกินตลอด เหมือนเป็นแค่ของแถมที่ไม่มีประโยชน์และไม่ได้ต้องการจากการหลับนอน สู้พี่สาวที่อายุห่างกันแค่สองปีก็ไม่ได้ซักอย่าง
เธอแม่งเหมือนกับ..ข้อผิดพลาดของพ่อแม่ในยุคสมัยที่การทำแท้งผิดกฎหมาย
มีเพียงแค่สัตว์ และเกมที่ใจดีกับเธอ เพราะอย่างน้อย พวกสัตว์ก็ไม่มีเกรดการเรียนมาตัดสินชีวิต และเกมถึงคำคะแนนได้98/100คะแนน ก็ยังคงได้สามดาวเต็มอยู่ดี ไม่เหมือนกับ..ชีวิตนี่
เพราะถ้าเธอไม่เฟอร์เฟค..ทุกความรุนแรงจะปะทุอยู่ที่เธอเหมือนการถูกมัดไว้บนปากปล่องภูเขาไฟ
" อุตส่าห์ชนะ39ล้านกว่าคน แต่กลับเจอครอบครัวเฮงซวย สูญเปล่าจริงๆ ฮ่าๆ "
ปากซีดพึมพำเบาๆ กับตัว ในคืนนี้...คงมีแค่เกมที่ปลอบเธอ
_________________________________
ความอบอุ่นของสภาพแวดล้อมโอบล้อมรอบตัวหยง เหมือนอ้อมกอดของใครซักคนที่รู้ว่า ควรจะกอดเรายังไง
กลับบ้านมาเจออาหารอุ่นๆ อร่อยๆ เตรียมไว้รอคอย เหมือนยาที่เยียวยาความเหนื่อยล้าจากการพยายามอย่างหนักในการเรียนและใช้ชีวิตในแต่ละวัน
อุ้งมืออบอุ่นของคุณแม่ที่คอยลูบหัวเบาๆ ถามไถ่ว่าเหนื่อยมั้ยจากลูกสาวคนเล็กอย่างอ่อนโยน คุณพ่อที่ละหน้าจากทีวีมาบอกเพียงแค่ 'กลับมาแล้วหรอลูก'
มีพี่สาวที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะทานข้าวพูดคุยเรื่องอนาคตเหมือนการวาดภาพกันอยู่สนุกสนาน
แต่อยู่ๆ...
ทุกอย่างก็ค่อยๆลางลงไป พร้อมความรู้สึกที่ค่อยๆ เปิดออก
.
.
.
.
.
" !!? "
หยงลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงของตัวเอง ใบหน้าเธอกลับมาเรียบเฉย แต่หากสายตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง ที่ทุกอย่าง เป็นเพียงแค่ความฝันดีๆเท่านั้น...
ใช่ สิ่งดีๆ ที่มีเพียงแค่ในความฝัน..
ไม่ใช่ความจริง ไม่ใช่แม้แต่สิ่งที่จับต้องได้..
หยงตบหน้าตัวเองเบาๆ สองสามทีเพื่อเรียกสติ ดูเวลาว่านี่คือ 5:40 ตรงเป๊ะๆ หยงหยิบนินเทนโดไปชาร์จ และลงไปข้างล่าง อาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปโรงเรียนวันแรกของเทอม
เสร็จก็มานั่งที่โต๊ะทานข้าวรอให้ทุกคนในครอบครัวมานั่ง เรียงจาน ตักข้าว เสิร์ฟอาหาร และทานอาหารกัน...
แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมทานอาหาร แต่ต้องมานั่งด้วย เพราะแค่ความต้องการแปลกๆ ของพ่อ ที่ต้องให้โต๊ะอาหารที่เขากำลังใช้ มีคนนั่งครบทุกด้าน
พวกเขาให้เหตุผลที่ไม่ให้ลูกสาวคนเล็กของบ้านกินอาหารว่า ' แค่ฉันส่งแกไปเรียนและเอาเงินให้แกไปโรงเรียน มันก็บุญหัวของแถมห่วยๆ อย่างแกมากแล้ว อย่ามาทำตัวเปลืองอาหารในบ้านนะ '
ด้วยเหตุผลทุกอย่างที่กล่าวมา หยงจึงทำได้แค่ มองพวกเขากินอาหารบนโต๊ะนั่นเท่านั้น
มีเพียงสายตาของพี่สาวและท่าทางของเธอ ที่ถึงแม้จะร่วมโต๊ะทานข้าวกี่ครั้ง เธอก็ยังแอบมีท่าทางอึดอัดอยู่ดีไม่หาย
จบด้วยการที่หยงต้องเอาจานของทุกคนไปล้างทั้งที่ตัวเองไม่ได้กินมันซักอย่าง ก่อนที่เธอจะขึ้นรถสองแถวไปโรงเรียนพร้อมกับผินพี่สาวของเธอ
การออกจากที่บ้าน ทำให้ผินมีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่สุด เพราะทั้งสอง ยังต้องทำท่าทางมีความสุขดี ต่อหน้าผู้คนมากมาย ทำเหมือนเราคือครอบครัวที่สมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง ไม่งั้น...พ่อแม่จะปะทุใส่เราทั้งคู่
เมื่อถึงประตูโรงเรียน หยงและผิน จับมือกันเข้าโรงเรียน หยงเป็นคนเดียวในครอบครัวที่ผินจับได้โดยไม่ขยะแขยงหรือแพนิค เพราะทั้งคู่ต่างเจอชะตากรรมที่คล้ายกัน ต่างกันแค่การปฏิบัติทางครอบครัว..
ทั้งคู่ต่างไม่มีเพื่อน โดนหมั่นไส้ และรังแก โดนอิจฉาจากผู้คนภายนอกที่มองผิวเผินมาที่ครอบครัวของพวกเธอเหมือนกัน..
เพราะถูกมองว่ามีชีวิตที่ดี จึงถูกให้ความรักจากคนรอบข้างเพราะต้องการร่มเงาความเฟอร์เฟคในชีวิตของพวกเธอ..และเพราะถูกให้ความรักจึงถูกเกลียด
จึงมีแค่ผินที่เข้าใจหยงมากที่สุด และ หยงที่เข้าใจผินมากที่สุด...
เพราะงั้น เมื่อมีเวลาว่างทั้งคู่จึงมักจะอยู่ด้วยกันในโรงเรียน จากสายตาคนภายนอก..ก็เหมือนพี่น้องที่รักกันดี ชีวิตดูไม่มีปัญหาอะไร
" หยง พี่ต้องไปแล้วนะ อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย "
รอยยิ้มจอมปลอมที่พี่สร้างขึ้นมาและพูดกับหยง
" โถ่ พี่ผิน หยงไม่ใช่เด็กแล้วนะ หยงอยู่คนเดียวได้อยู่แล้ว "
หยงเพียงแค่ยิ้มแบบเดียวกับพี่และตอบไปด้วยน้ำเสียงดูสดใสต่างจากภายใน
คาบเรียนแรกเริ่มอย่างปกติ เด็กนักเรียนเต็มชั้นปกติ ครูเข้าสอนปกติ...สายตาหยาบคายรอบด้านที่เสียดแทงเข้าผิวหนังภายในใจเด็กสาวปกติ เหมือนเดิมที่หยงเจอมา...
ทั้งสายตาที่เต็มไปด้วยความไคล้ ความโลภ ตัณหา ความอิจฉา และมากมาย เสียดแทงไปบนผิวพื้นของหยง ไม่เว้นแม้แต่สายตาของครูประจำชั้น...
" โอ้ย!! "
มือของเพื่อนร่วมชั้นชายคนหนึ่ง ดึงผมสั้นของหยงอย่างแรงในขณะที่ครูประจำชั้นกำลังทำการสอน
" เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ ห๊ะ!? "
ครูประจำชั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดและใบหน้าที่บิดเบี้ยวจากความรำคาญ
" ก็ดูหยงสิครู ผมสั้นซะเหมือนผู้ชาย สงสัยคงประชดกฏโรงเรียน "
" ไม่ใช่นะคะ แม่หนู--... "
ในขณะที่จะแก้ตัว หยงก็ต้องหยุดจะคิดถึงว่าจะพูดความจริงไม่งั้น ทั้งเธอและพี่ คงเละแน่ๆ
" ว่าไงหยง...แม่ของหนูมันทำไม "
ครูประจำชั้นมองหยงด้วยสายตาสงสัยและคาดคั้น
" แม่หนูบอกว่ามันดูน่ารักค่ะ...หนูเลยอยากตัดของหนูเอง "
หยงตอบอย่างสำรวม พร้อมกำแน่นด้วยความรู้สึกไม่ยุติธรรมตีรวนแน่นในจิตใจของเธอ
" ถึงแม่หนูจะชอบ แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เธอจะทำผิดกฎแบบนี้ หลังเลิกเรียนมาเจอครูด้วย นั่งลง"
หยงนั่งลงที่ของเธอตามเดิม โดยมีเสียงหัวเราะคิกคักจากเพื่อนร่วมชั้นที่แกล้งเธอคนนั้นอยู่ด้านหลัง และครูก็สอนต่อไป
พักกลางวัน
หยงกับผิน พากันไปนั่งที่ประจำที่สวนหลังโรง ที่ตรงนั้นมีสระบ่อดินขนาดใหญ่อยู่ ที่นั่นค่อนข้างรกด้วยพืชและหญ้า แต่เพราะทั้งคู่มาบ่อยๆ จนแถวนั้นโดยทั้งคู่เหยียบจนเริ่มโล่งเตียนไปบ้างแล้ว
ที่นั่นไม่มีใครไปในตอนเวลานั้นหรอก เพราะงั้นมันจึงเป็นที่เดียวที่หยงและผินไม่ต้องสวมหน้ากากกัน
" แล้ว..เริ่มเทอมนี้เป็นไงบ้างล่ะ "
ผินถามน้องสาว เพราะเห็นว่ารอบตัวทั้งคู่เงียบเกินไป
" เหมือนเดิมแหละ...หนูโดนเรียกไปหลังเลิกเรียนด้วย "
ผินมองหยงด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะเรื่องนี้ถ้าถึงหูแม่หรือพ่อ หยงคงโดนหนักมากแน่
" ไม่ต้องห่วงหรอก พี่จะไม่โดนอะไร "
หยงพูดต่อ พร้อมยัดแซนวิชเข้าปาก ผินไม่รู้จะพูดไงต่อ
ผินรู้ดีว่า น้องไม่ชอบพูดกับคนในครอบครัว..ไม่สิ เธอไม่ชอบพูดกับใครเลยมากกว่า ผินจึงไม่อยากเซ้าซี้น้องมาก
แต่สายตาผินก็เหลือบไปเห็นบางอย่าง
" หยงดูนี่! "
" ? "
ผินเอื้อมมือไปเด็ดบางอย่างมา...ใบโคลเวอร์สี่แฉก
ผินยื่นใบโคลเวอร์สี่แฉกอันนึงให้น้องและอันนึงให้ตัวเอง
" เขาว่ากันว่า ถ้าเจอมันและเก็บมันไว้จะโชคดีน่ะ "
" ความเชื่อหรอ? "
" แต่เราทั้งคู่ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เชื้อบ้างคงไม่เสียหายหรอก "
ผินว่าและเก็บใบโคลเวอร์ไว้ในกระเป๋าตังค์ หยงเห็นพี่ทำจึงทำตาม
" แต่พี่ก็หวังว่ามันจะเป็นจริงนะ "
หยงมองพี่สาวด้วยสายตานิ่งเฉย ก่อนจะเก็บกระเป๋าตังค์ของตัวเอง และหันมาสนใจแซนวิชของตัวเองต่อ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงเลิกเรียน
ผินมาส่งน้องที่ห้องของครู และรอน้องอยู่หน้าห้อง เพราะทั้งคู่ต้องกลับพร้อมๆ กัน
มีเพียงแค่หยงที่เข้าไปในห้อง
ทั้งที่เป็นห้องพักครูแท้ๆ แต่กลับมีครูประจำชั้นของหยงคนเดียว ที่นั่งรอหยงอยู่
เมื่อเห็นเด็กสาวเดินเข้ามา ชายอ้วนวัยกลางคนในคราบครู ก็แสยะยิ้มน่ากลัวพิกลออกมาต้อนรับเด็กน้อย
" มาหาครูสิหยง "
หยงเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะของเขาเท่านั้น แถมยังเว้นระยะห่างอีกหน่อยด้วย
" เหอะ หยิ่งอีกตามเคย อะไร คิดว่าเป็นคุณหนูผู้เริศเลอ แล้วจะหยิ่งแค่ไหนก็ได้หรอ "
" เข้าเรื่องเถอะค่ะ "
หยงตอบครูอย่างทันควันเพราะไม่อยากเสียเวลา และหยงเกลียดสถานการณ์แบบนี้
" ห๋าาา? "
" อึก! "
ครูประจำชั้นจับบีบกรามของหยงแน่นจนขยับแทบไม่ได้ แม้แต่มือของหยงยังแกะมือของเขาออกไม่ได้เลย
" อย่าทำตัวอวดเก่ง! รู้ตัวรึป่าวว่าชั้นจะกดและข่มขืนแกตอนนี้ก็ได้น่ะห๊ะ!!! อย่ามาทำตัวมีปัญหาน่ารำคาญได้มั้ย!! กะอีแค่มาเป็นโถส้วมมันจะยากเกินความสามารถเด็กอย่างแกรึไงกัน!? "
ว่าเสร็จ ก็ทำหน้าตาพร้อมจะโลมเลียใส่เธอ
หยงพลิกร่างและถีบเขาออกไปแรงๆ รีบวิ่งออกไปจากห้อง และไม่ลืมจะคว้าเอาพี่สาวที่รออยู่หน้าห้องไปด้วย
" เกิดอะไรขึ้นน่ะหยง!? "
ไม่มีคำตอบจากน้องสาวที่จับมือและพาเธอวิ่งอยู่ข้างหน้า มีเพียงเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งและความสั่นไหวของมือน้องสาวที่จับอยู่ ส่งผ่านความสั่นกลัวจนเธอสัมผัสได้
และเพียงแค่นั้น ผินก็พอรับรู้ทุกอย่างได้ทันที
ผินจับมือน้องแน่น และพากัน ขึ้นรถสองแถวกลับบ้าน
ถึงบ้าน
แม่ออกมาต้อนรับสร้างภาพให้ดูเหมือนว่ารักลูกเท่ากัน แต่เมื่อทั้งคู่พี่น้องเข้าไปในตัวบ้านแล้วนั้น..
" เพี๊ยะ!!! "
ใบหน้าของหยง หันตามแรงตบของผู้เป็นแม่ ที่บัดนี้มองเธออย่างเดือดดาล
" นังหยง!!! แกทำอะไรกับครูประจำชั้น!!? แกถีบเขาทำไม!!! "
" ก็เขาจะ-- "
" เพี๊ยะ!!! "
" แกกล้าเถียงฉันเรอะ!!? "
คำถามของแม่ไม่ต้องการคำตอบ ครูประจำชั้นคงใส่ร้ายว่าเธอทำร้ายเขา
" แก!! นังหยง ยังเด็กเหลวแหลก!! ทำไมถึงทำอะไรไม่ได้ดั่งใจฉันซะอย่าง แถมสร้างแต่ปัญหา!! "
" ตุบ!--เพร้ง!!! "
มือของแม่ เขวี้ยงปาแจกันใกล้ๆ ใส่หัวของหยงจนแตก เลือดสีแดงสด ไหลรินเหมือนเปิดก๊อกน้ำ อาบลงบนเสื้อนักเรียนสีขาว
ถึงกระนั้น..รอบข้างก็ไม่มีใครจะช่วยเธอได้ แม่เป็นผู้กระทำ..พ่อสนใจรายการทีวี...และพี่สาวที่อยู่ในอาการแพนิคขยับไม่ได้
" ไป!! ใสหัวไปไหนก็ไป!!! "
หยงหอบสังขารตัวเองขึ้นห้องส่วนตัว และมานั่งอยู่บนเตียงดีๆ จากอะดีนาลีนที่หลังไหลก่อนหน้านี้ค่อยๆ คลาย เด็กสาวเพิ่งรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากบาดแผลของเธอจริงๆ
มันปวด..เจ็บ และแสบ การเสียเลือดมากทำให้เธอเวียนและปวดหัวมากยิ่งขึ้น มือเรียวคว้าเอากระปุกยาแก้ปวดข้างเตียง แต่แทนที่จะกินมันแค่ไม่กี่เม็ด..
เธอกับเททั้งกระปุกกรอกปากตัวเอง..
กระปุกที่1..
กระปุกที่2...
กระปุกที่3....
น้ำตาสีใสไหลลงอีกครั้ง เพียงแค่ครั้งนี้ มันปนไปด้วยสีแดงของเลือด เขวี้ยงปากระปุกยาพวกนั้นอยากเหลืออด
ร่างบางลุกขึ้นมาเตะข้าวของรอบๆ ราวกับกำลังระบายอารมณ์
" ตุบ! "
เพราะแรงจากการอาละวาด ทำให้กระเป๋าตังค์ของเธอล่วงลงมา กระเป๋าตังค์ใบเล็กนั่น เปิดเผยให้เห็นใบโคลเวอร์ที่ผินเก็บมาให้ข้างในนั้น
" เหอะ! ถ้ามันโชคดีจริงฉันคงไม่เป็นแบบนี้.. "
ร่างเล็กของเด็กสาวร่วงหล่นลงพื้นด้วยฤทธิ์ของยา ความมึมหัวครอบงำจนดวงตาคู่นี้ ปิดลง แต่แทนที่จะเป็นสีดำ..มันกลับเป็นสีขาว...
...' ถ้ามันทำให้ฉันโชคดีจริงๆ..ก็ขอให้ชาติหน้า ฉันมีครอบครัว ที่ดีกว่านี้ ่...
..._________________________________...
ภายในโลกสีขาวสว่างจ้าจนทำให้แสบตา มีเพียงความหนาวเย็นที่คืบคลานตามปลายประสาท ลุกลามจนหวานสุดขั้วหัวใจ
ภายในความว่างเปล่าสีขาวไร้ที่สิ้นสุด เด็กสาวรับรู้อะไรไม่ได้เลย..นอกจากความโดดเดี่ยวที่กลืนกินเลยในโลกสีขาวของความตายนี่..
ก่อนจะรู้สึกสัมผัสถึงความอบอุ่นสีดำที่กลืนกินตัวเธออย่างรวดเร็วและปัดเป่าความหนาวเย็นของอาการขาดเลือดออกไปมาก
"!!?"
หยงสะดุ้งตื่นมาบนเตียงของตัวเอง เหงื่อเย็นไหลพรากอยู่บนกรอบหน้ามล หน้าอกกระเพื่อมแรงอย่างผิดปกติด้วยอาการตกใจกับสิ่งที่เกิด
เหลียวไปมองหัวเตียง ยังคงมีขวดยาแก้ปวด3กระปุกตั้งอยู่อย่างเดิมเม็ดยาในกระปุกยังคงเหลืออยู่เต็ม
มองไปรอบห้อง ข้าวของทุกอย่างเรียบร้อยดีอย่างน่าเหลือเชื่อ จับดูที่ขมับที่ก่อนหน้ายังคงมีเลือดไหลอาบ กลับไร้ซึ่งรอยบาดแผล
หยงงุนงงอยู่บนเตียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้ มันเป็นโลกหลังความตายหรอ? หรือเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมทุกอย่างมันเรียบร้อยเหมือนกับไม่เคยมีอะไรมาก่อน?? แม้กระชุดที่สวมใส่ยังเป็นชุดปกติ ไม่มีเลือดไหลอาบเหมือนในความทรงจำที่ยังเด่นชัดในหัว
"ก๊อกๆ!!!"
เสียงบางอย่างเคาะทุบประตูอย่างรุนแรงทำให้เด็กน้อยที่กำลังใช้ความคิดอยู่สะดุ้งโหยง หันไปดูนาฬิกาข้างบน 5:56
เมื่อเห็นแบบนั้นหยงเลยรีบไปเปิดประตู
"เพี๊ยะๆ!!"
แต่เพียงแค่เปิดประตูมาเท่านั้น ในหน้าเล็กๆ ของเธอก็ถูกบางอย่างตบเข้าอย่างแรง เหมือนกับแซ่เถาวัลย์ฟาดลงที่หน้าของเธอ
เมื่อเหลือบมองดู เจอสิ่งมีชีวิตสีเขียวแปลกๆ แต่ก็คุ้นๆ มองเธอด้วยสายตาเหม็นเบื่อและเหยียดหยาม
" ฟูจิกิ..ดาเนะ? "
เจ้าสิ่งมีชีวิตที่เหมือนฟุจิกิดาเนะยิ่งมองเหยียดเธอเข้าไปอีก ก่อนมันจะหันหลังกลับและลงบันไดไป เหลือเพียงแต่หยง ที่ยืนงงกุมแก้วที่เจ็บแปร๊บของตัวเองไว้
เธอเสียสติไปแล้วแน่ๆ คงจะต้องเป็นผลจากการกินยาเกินขนาดหรืออาการมึนจากการตื่นนอน..
แต่ภาพหลอนมันเจ็บขนาดนี้เลยหรอ?
หยงสะบัดตัวไล่ความคิดออกจากหัว เพราะถ้าสายกว่านี้คงโดนแม่ซ้อมแน่ นั่นแย่กว่าเยอะ
เพราะงั้น เธอจึงเตรียมของเสื้อผ้าและจะลงไปอาบน้ำข้างล่าง
" นังหยง!! ทำไมถึงได้ชักช้าได้ขนาดนี้กันห๊ะ!! เกิดร่วมโต๊ะไม่ทัน แกคิดว่าพ่อของแกจะว่ายังไง!! "
มือของผู้เป็นแม่ง้างขึ้นสุดแขนและเตรียมจะตบกระทบบนแก้นนวลของลูกสาวของเธอ แต่ก็ต้องชะงักก่อน เพราะไม่ต้องการให้ใบหน้าของหยงบวมจากการตบก่อนจะออกไปข้างนอกนัก
" อย่าทำตัวขี้เกียจแบบนี้อีกล่ะ เถาวัลย์ของ ' ดาจี ' ที่น่ารักของฉันจะต้องแปดเปื้อนเพราะเอาไปตบหน้าของแถมอย่างแก! "
' ดาจี? ใครกัน?? '
ความคิดมากมายไหลพันแล่นในหัวของหยงถึงคนที่ชื่อว่าดาจี แต่สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นเจ้าตัวสีเขียวที่ตบหน้าเธอเมื่อไม่นานมานี้
" โถ่ดาจีที่น่ารักของฉัน "
แม่ลงไปลูบหัวเจ้าฟุจิกิดาเนะอย่างเอ็นดู
" แม่..เห็นมันหรอ? "
ปากพึมพำตกใจเบาๆ
" แกพูดอะไรของแกน่ะ? ยังไม่ไสหัวไปอาบน้ำอีก!? "
หญิงผู้ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของเธอ หันมาพูดเสียงแข็งใส่เธอด้วยความอารมณ์เสีย ทำให้หยงต้องรีบอพยพตัวเองเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
หยงเข้าห้องน้ำมาส่องกระจกมองดูตัวเองภายในนั่น ไม่ต่างจากตัวเธอที่ตัวเองรู้จักและมองมันอยู่ทุกๆ วัน ทุกอย่างยังคงเดิม และนี่มันคืออะไรกัน...
โปเกม่อน?
ตัวเธอที่ยังไม่ตาย?
ข้าวของที่ทุกอย่างเหมือนเดิม?
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับตัวเธอในตอนนี้ ทุกอย่างที่ผ่านมา นั่นมันคือความฝันของเธอทั้งนั้นหรอ? หรือเธอบ้าไปแล้ว? แต่ทุกอย่างยังคงชัดแจ้งว่ามันคือความจริง ถ้าเธอไม่ได้บ้าเห็นโปเกมอน ก็คงบ้าคิดว่าบนโลกไม่มีโปเกมอนแล้วล่ะ
หรือเธอจะข้ามมิติ? แบบในนิยายแฟนตาซีที่เขาทำกัน??
ไม่หรอกน่า เธอคงไม่โชคดีพอที่จะเจอแบบนั้นหรอก...ใช่มั้ย? หรือว่าเธอบ้าที่คิดว่าในความฝันคือความจริง และบ้าที่คิดว่าบนโลกนี้ไม่มีโปเกม่อน...ถ้าเป็นแบบนั้นจริง...ทำไมถึงไม่มีความทรงจำอะไรพวกนั้นเลย? และคู่หูโปเกมอนของเธอล่ะ มันไปอยู่ไหน?
หยงสะบัดหัวไล่ความคิดออกไป ไว้ค่อยคิดทันทีหลังเธอต้องเอาตัวรอดก่อน
หยงรีบอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวปกติ เหมือนที่ทำทุกวัน แต่ที่ไม่ปกติคือ..
พี่เอาอาหารในลงในชามข้าวเหมือนของสุนัข และเอาไปให้สิ่งมีชีวิตประหลาดกิน มีโปเกมอนสามตัวกำลังกินอาหารอยู่ข้างล่างโต๊ะนั่น...ฟุจิกิดาเนะ..ซึทาจะ และ นิโดรันเพศผู้
เหอะ แค่มองก็รู้เลยว่าของใครเป็นของใครบ้าง
เหลียวมองดูบนโต๊ะอาหาร เธอเจอเหล่าเพื่อนโปเกมอนมากมายอยู่บนจานในฐานะของอาหารเช้า ไม่ว่าจะเป็นซุปฮิโตะคาเงะ หรือแม้กระทั่ง ฟุจิกิดาเนะขนาดไซส์เล็ก ทอดกรอบทั้งตัวตัดเพียงแค่ เท้ากับหัวเท่านั้น แหม่ บอกรักนักรักหนา..
หยงเลือกที่จะไม่สนใจ แล้วผันมาคิดวิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองต่อ โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า ' ถ้าโลกนี้มีโปเกมอนจริงๆ คู่หูของเธอหายไปไหน ' ไม่มีใครในนี้พูดถึงมัน และตั้งแต่ตื่นมา เธอก็ไม่เห็นแม้กระทั่งบอลที่ถ้าเธอมีโปเกมอน เธอคงจะเก็บมันไว้ในห้องหรือใกล้ตัวเธอแท้ๆ
คิดไป ก็คิดไม่ตก จนเธอเริ่มปวดหัว ชีวิตนี้แค่หายใจก็ยากพอแล้ว เธอขอพักเรื่องนี้ไว้คิดค้นหาทีหลังละกัน เพราะงั้นเธอจะทำสมองให้โล่ง และรอจนกว่าพวกเขาจะกินอาหารเสร็จละกัน
ไม่นานพวกเขาก็ทานเสร็จ หยงเอาจานชามทั้งของพวกเขาและโปเกมอนไปล้างให้เรียบร้อย ก่อนจะเตรียมของออกไปด้านนอกเพื่อรอรถสองแถวกับพี่สาว และสร้างภาพครอบครัวสุขสันต์กับแม่..
" แหม่ๆ หนูผินโตกันเร็วจริงๆ น้า เอ๊ะ หนูหยงง ทำไมตัวเล็กจังล่ะลูก "
เสียงแอ๊บๆ ดูโอ่อ่าของหญิงร่างท้วมบ้านตรงข้าม พูดข้ามฝากมาบ้านของเธอ คุณป้าข้างบ้านผู้ขี้อวด กำลังพยายามกระตุกหนวดแม่เธออยู่
" ฮ่าๆ ยัยหยงแกกินน้อยน่ะจะ "
คุณแม่ปูนกระเบื้องของเธอตอบหญิงใหญ่ตรงข้ามอย่างดูอ่อนหวาน ขัดจากภายในที่ยาพิษกรดทำลายล้างสูงกำลังเดือดพลั่กๆ ภายในกระเบื้องที่เธอเองฉาบเอาไว้บนหน้า
" หรือบางที อาหารอาจจะไม่ถูกปากหนูหยงเขาก็ได้นะคะคุณนาย หนูหยงจ๊ะ มากินข้าวบ้านป้าได้นะลูก "
" ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า อาหารอร่อยถูกปากหยงดี หยงแค่กินน้อยไปหน่อยเองค่ะ "
เธอตอนอย่างสุภาพด้วยน้ำเสียงหวานนุ่ม
" งั้นหรอจ๊ะ "
คุณป้าใบหน้าเบี้ยวเขไปเล็กน้อยจากการตอบกลับ แต่เธอก็ทำท่าทางมองซ้ายมองขวาเหมือนหาอะไรซักอย่าง
" เอ๊ะ แล้วโปเกมอนของหนูหยงล่ะ ไปไหน "
หยงน่ะ มีท่าทีกระอักกระอ่วนในเพราะเธไม่รู้เหมือนกันว่า โปเกมอนของเธอไปไหน ตั้งแต่ตื่นมา เธอแทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับโปเกมอนของเธอด้วยซ้ำ แม่กับพี่สาวก็มีท่าทางคล้ายกัน...แต่น่าจะสาเหตุคนละเรื่อง
" อ้าว! หรือว่าหนูหญิงจะยังไม่มีโปเกมอนอีกหรอจ๊ะ? โถ่ๆ น่าสงสารหนูหยงของป้า จวนป่านนี้ ยังไม่มีโปเกมอนยอมรับหนูเลย ขนาดในวันที่หนูอายุ10ขวบ..โปเกมอนทุกตัวยังไม่ยอมอยู่กับหนู เฟอร์เฟคแท้ๆ น่าสงสารหนูหยงจริงๆ "
หญิงร่างท้วมข้างบ้าน พูดมาด้วยท่าทีสงสารที่มองดูก็รู้ว่าปลอมแค่ไหน แต่ก็ต้องขอบคุณคุณป้าที่ทำให้หยงรู้ว่า..ไม่ว่าจะที่ไหน ชีวิตเธอมันก็เฮงซวยจริงๆ..
เหอะๆ แม้แต่โปเกมอนที่น่าจะใจดี ยังไม่เอาเธอเลย...
" แหม่ ก็พูดไป แต่อาจจะยังไม่ถึงเวลาหยงมันมีโปเกมอนก็ได้นะจะ "
ผินตอบแทนแม่ที่กัดฟันกรอด อย่างใจเย็น
" งั้นก็หวังว่าจะถึงเวลาซักทีละกัน อ๊ะ รถมาแล้ว ตั้งใจเรียนนะหนู "
ทั้งหยงและผิน พยักหน้ารับยิ้มเจื่อนๆ และขึ้นรถไป
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ แตกต่างเพียงแต่ พี่สาวของเธอ มีเจ้าซึทาจะชื่อ เจฟฟา ตามที่พี่สาวเธอเรียกมันมาระหว่างทาง มาด้วย เจฟฟา มีท่าทีปกติกับหยงมากๆ ไม่ได้เหยียดเกลียดอะไรกัน
และทั้งคู่ ก็ต้องแยกย้ายกันขึ้นชั้นเรียนของตน หยงทำทุกอย่างตามปกติ แต่ทั้งชั้นช่างเงียบและว่าง มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ
และเมื่อหยง เปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน พร้อมก้าวข้าเข้าไปเพียงไม่กี่ก้าว หลังของเธอก็ถูกถีบอย่างแรง ร่างกายผอมๆ ของหยง ล้มทรุดไปกับพื้น
" ไงยัยคุณหนูสุดเฟอร์เฟค อุ้ย หรือไม่กันนะ เพราะถ้าเฟอร์เฟคจริง เธอคงมีโปเกมอนแล้วล่ะ "
เด็กชายที่มักจะแกล้งเธอบ่อยๆ เป็นคนทำ พร้อมกับพูดจากเสียดสีถากถางเธอ โดยมีเพื่อนๆ ยืมล้อมหยงเอาไว้
" จามมี่! พ่นไฟ! "
เด็กผู้หญิงใกล้ๆ เขาสั่งเจ้าโพนิต้า ที่ชื่อจามมี่ ของเธอให้พ่นไฟใส่เธอ
หยงที่เห็นแบบนั้น จึงเอาแขนขึ้นมากันใบหน้าของตัวเองด้วยสัญชาตญาณ
" !!! "
ไฟร้อนที่ไม่ร้อนมากนัก เผาดาดๆ บนแขนของเธอ ผิวหนังแดง และมีการพุพองเล็กน้อย
และการที่เด็กทั้งห้องรุมหยงผู้น่าสงสารเพียงคนเดียว ก็ดำเนินจนเริ่มคาบเรียนแรก
หยงไม่รู้ว่า จะเรียกว่าโชคดีได้มั้ย ที่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ทำจนเธอสาหัสและแผลที่เล็กมากพอจะให้เธอซ้อนมันได้
หยงทำอะไรไม่ได้...
ถ้าฟ้อง ก็อาจจะโดนครูลวนลาม และโดนแม่ทำร้าย สิ่งที่หยงทำได้ มีเพียงแค่ กุมแผลตัวเองไว้เท่านั้น และเธอก็ต้องกุมมัน จนกลับถึงบ้าน
วันนี้เธอไม่ได้สร้างเรื่องอะไรให้แม่ ก็คงว่าคงไม่มีอะไรแท้ๆ
แต่เมื่อเข้าไปในตัวบ้านได้ คนเป็นแม่ก็เข้ามาบีบกรามเธอแน่น และกระชากเธอออกมา
" เพราะแก!! เพราะแกคนเดียว เพราะของแบบแกมันไม่มีคุณภาพ ถึงทำให้ฉันต้องอับอายขนาดนี้!!! "
หล่อนจับและตะคอกใส่เด็กสาวด้วยแววตาแห่งความอับอายขาดขี้หน้าและความเดือดดาลเต็มสองลูกตาที่ฉายแววมองมาที่ลูกสาวคนเล็ก
เธอรีบปล่อยมือเองจากหยง และโยนลูกบอลสีแดงๆ มาให้เธอ โปเกบอล..
" เอาไปจับโปเกมอนของแกมาซะ และอย่าทำให้ฉันขายขี้หน้าอีกล่ะ เข้าใจมั้ย "
หยงหยิบเอาโปเกบอลเปล่าๆ นั้นขึ้นมา ก่อนจะรีบขึ้นห้อง เพื่อความปลอดภัยของตัวเองโดยเร็ว
...________________________________...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!