เดือนที่ 12 ของเมืองฉางอัน
ฤดูหนาวกำลังจะสิ้นสุดลงเเล้ว
เมืองฉางอันมีฝนตกโปรยปราย
ข่าวหนึ่งเเพร่สะพัดไปทั่วเมืองฉางอัน ทั้งขุนนาง คนชั้นสูง
หรือเเม้ต่างประชาชนทั่วไปต่างรู้กันไปทั่ว
“มั่วทิงอวี่ไปยังดินเเดนทางเหนือเเล้ว”
ถูกต้องมั่วทิงอวี่ออกเดินทางเเล้วเขาไม่บอกใคร เเละไม่ได้นำสิ่งของใดติดตัวไปด้วย
เขาเดินทางไปทางเหนือคนเดียว โดยพกเพียงเเค่ดาบใหญ่ที่ไม่ได้นำออกจากฝักมาเเล้วสิบปีไปด้วยเท่านั้น
เรื่องรามเริ่มขึ้นเมื่อสิบปีก่อน....
มันเป็นเรื่องยอดอัจฉริยะ แห่งเผ่ามนุษย์ เละธิดาศักดิ์สิทธิเเห่งเผ่าปีศาจ
ราชสำนักเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมาโดยตลอด เเต่ในที่สุด ผู้คนก็รู้เรื่องนี้กันเสียทั่ว
เมื่อสิบปีก่อน มั่วทิงอวี่รักกับธิดาศักดิ์สิทธ์ของเผ่าปีศาจที่ปลอมเป็นศิษย์ของสำนักเทียนหลาน ทว่าเขากลับโดนธิดาศักดิ์สิทธิหลอกใช้ จนทำให้อาจารย์เหยากวัง อาจารย์ของเขาถึงเเก่ความตาย
นั่นเป็นหนึ่งในนักรบเเห่งดาราจักรที่เหลืออยู่เพียงแปดคนของเผ่ามนุษย์เชียวนะ"
องค์จักรพรรดิทรงกริ้วเป็นอย่างมาก ถึงขั้นประหานมั่วทิงอวี่ให้ตายเสียในขณะนั้นเลย
“ขอให้ข้าได้มีชีวิตอยู่ต่อเถิด อีกสิบปีต่อจากนี้ ข้าจะออกเดินทางเหนือเเล้วปลิดชีพนางด้วยตนเอง”
ในวันนั้น มั่วทิงอวี่คุกเข่าลงต่อหน้าองค์มหาจักรพรรดิ
พร้อมทั้งอ้อนวอนขอชีวิตราวกับสุนัขตัวหนึ่ง
ทว่าเเววตาของเขากลับเต็มไปด้วยด้วยรังสีอำมหิต
ดุจดั่งหมาป่า
ในตอนนั้น มั่วทิงอวี่มีอายุเพียงสิบเก้าปีเท่านั้น
เขาเป็นยอดอัจฉริยะที่เก่งที่สุดในร้อยปีที่ได้รับการยอมรับเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น เขาในตอนนี้ยังมีโอกาสที่จะได้เป็นนักรบ เเห่งดาราจักรคนที่เด้าเเห่งเผ่ามนุษย์มากที่สุดอีกด้วย
เเต่อย่างไรเสีย เขาก็มีอายุเพียงสิบเก้าปีเท่านั้น
ผิดกับเทพธิดาศักดิ์สิทธิที่ก้าวไปเป็นนักรบเเห่งดาราจักร นานถึงร้อยปีเเล้ว สิบปีต่อจากนี้ มั่วทิงอวี่ในวัยเพียงยี่สิบเก้าปี จะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นนักรบเเห่งดาราจักรได้หรือไม่? ไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำสำเร็จเลยสักคน ต่อให้เขาจะเป็นมั่วทิงอวี่ ยอดอัจฉริยะที่เก่งที่สุดในร่อยปีแห่งเผ่ามนุษย์
ก็ตาม
ในเมื่อเขาก้าวไปเป็นนักรบเเห่งดาราจักไม่ได้ ก็ทำลายชีพดาราเทพศักดิ์สิทธิไม่ได้เช่นกัน เเละเมื่อทำลายชีพดาราไม่ได้ นักรบเเห่งดาราจักรย่อมไม่มีวันดับสูญ
นี่เป็นกฎที่ได้รับการยอมรักจากทุกๆคน
ตอนนี้มั่วทิงอวี่รู้สึกจิตใจว้าวุ่นเล็กน้อย ในที่สุดก็ได้เวลายุติสิ่งที่เตรียมการมานานสิบปีเสียที เพียงเเต่น่าเสียดาย
ที่กระบวนดาบของตระกูลเหยากวังต้องมลาย ไปจากโลกในรุ่นของเขา มั่วทิงอวี่รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก ทั้งรู้สึกผิดต่อท่านอาจารย์ด้วย เเต่เขาได้เพียงเเค่นั่งเพ้อได้เพียงเท่านี้
ในตอนนั้นเอง ที่ซูงฉางอันกลับมาจากสำนักพอดี
เขาเปิดประตูรั้วเข้ามา ก่อนที่จะพบมั่วทิงอวี่ยืนเหม่อที่หน้าประตู
“เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง”ซูฉางอันกล่าวถาม
มั่วทิงอวี่ไม่ได้หน้าซีดเท่าก่อนกน้านี้เเล้ว เเต่ถึงกระนั้น หน้าของเขาก็ยังขาวอยู่ดี
“เจ้าจำกระบวนการดาบของตัวเองได้หรือยัง”
ซูฉางอันถามถึงกระบวนดาบ
“ไม่”มั่วทิงอวี่คิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะส่ายหัวเเล้วกล่าวขึ้นในที่สุด
ซูฉางอันรู้สึกว่าท่าทีของเขาในตอนนี้ไม่เหมือนคนพูดโกหก
“เช่นนั้น ถ้าเจ้าอยากฆ่าคนที่อยากจะฆ่า เจ้าจะนึกขึ้นได้หรือป่าว”
“เมื่อถึงตอนนั้น เป็นไปได้อย่างมากว่าข้าคงจะตายไปเเล้ว
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอ”ซูฉางอันประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในเมื่อสู้อีกฝ่ายไม่ได้ เเล้วทำไมต้องไปรนหาที่ตายด้วย
“ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เเต่ข้าสามารถฆ่าเขาได้”
มั่วทิงหวี่มีท่าทีจริงจังมาก
“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เเต่กากเจ้าตาย ก็จะไม่มีใครสอนกระบวนดาบให้ข้า”ซูฉางอันเอง ก็มองไปยังมั่วทิงหวี่ด้วยท่าทางจริงจังเช่นกัน “ดังนั้น ข้าจึงไม่อยากให้เจ้าตาย”
สายตาของเด็กหนุ่ม ทำให้มั่วทิงอวี่ชะงักนิ่งไป จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้หน้าคล้ายกับตนเหลือเกิน
“ทำไมเจ้าอยากเรียน กระบวนดาบนัก”มั่วทิงอวี่ถามขึ้น
ซูฮางอันคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตอบไป“ก็ไม่จำเป็นต้องกระบวนดาบหรอข้าเรียนต่อสู้ก็พอ”
“ทำไม? เจ้ามีคนต้องฆ่าหรอ”มั่วทิงอวี่ถาม
“เปล่าหรอก”ซูฉางอันตอบ“
“ข้าเเค่อยากเรียนการต่อสู้เท่านั้น เเต่ท่านพ่อไม่ยอม เอาเเต่บังคับให้ข้าอ่านหนังสือ เเต่ข้าก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากอ่านหนังสือ เเต่ข้าไม่ชอบหนังสือในสำนัก เพราะมันน่าเบื่อเนื้อหาเก่าคร่ำครึ”
“เเล้วเจ้าชอบอ่านหนังสืออะไร”มั่วทิงอวี่เริ่มสนใจเล็กน้อย
“อืม..เช่นหนังสือ ‘นักรบเพนจร’‘จรรยาบรรณเเห่งนักรบ’หนังสือพวกนี้อ่านสนุกมากเลยเเหละซูฉางอันชอบเเบ่งหนังสือโปรดของตนให้เพื่อนๆเป็นอย่างมาก
“ฟังดูน่าสนใจไม่เบา”มั่วทิงอวี่เริ่มสนใจในตัวซูฉางอัน
“แน่นอน เเต่บางครั้งท่านพ่อของข้าก็ไม่ชอบให้ข้าอ่านหนังสือพวกนี้ ครั้งหนึ่ง ท่านพ่อข้าดื่มเหล้ามาจากค่ายทหาร ก็เผาหนังสือพวกนี้เสียเกลี้ยง”ซูฉางอันดูเสียใจมาก
“พ่อของเจ้าชอบกินเหล้ารึ”มั่วทิงอวี่กล่าวถาม
“การดื่มเหล้า ไม่ใช่เรื่องดีนัก”
“นั่นสินะ เเต่เขาไม่ฟังข้าเลย ”ซูฉางอันตอบ
“งั้นหรือ”มั่วทิงอวี่ได้ตอบกลับ
“ข้าไม่มีทาง กลับมาได้ ถ้าฆ่านาง”มั่วทิงอวี่ได้กล่าวขึ้น
“ทำไมต้องฆ่านางด้วยละ”ซูฉางอันได้ถามด้วยสีหน้าจริงจังกว่าเดิม
“เพราะข้ารับปากกับคนอื่นไว้เเล้ว ว่าต้องฆ่านาง”
“รับปากใครกันนะ?”
“คนในใต้หล้า!”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!