วันที่มนุษยชาติต้องหนีไปอยู่ใต้พื้นโลกที่อยู้ลึกลงไปหลายพันเมตรและต้องต่อสู้เอาชีวิตรอดไปวันๆนั้นเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติได้แล้วเลยก็ว่าได้
โดยศัตรูของพวกเขานั้นคือสิ่งที่เรียกว่า'แรปเจอร์' พวกมันคือหุ่นยนต์ที่เรียกได้ว่าถูกสร้างมาเพื่อทำสงครามและการฆ่าฟันโดยเฉพาะ อาวุธและยุทโธปกรณ์ของพวกมันล้ำหน้าเป็นอย่างมาก
เหล่ามนุษย์จึงต้องสร้างสิ่งที่สามารถต่อกรกับพวกมันได้ขึ้นมาสิ่งนั้นคือสิ่งที่เรียกได้ว่า'Nikke(นิกเกะ)' พวกเธอคือหุ่นยนต์รบรูปร่างมนุษย์ที่มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง ตายได้ เจ็บได้และรู้สึกได้เช่นกัน แน่นอนพวกเธอนั้นมักจะเสียชีวิตบ้างในบางวันแต่ทุกคนนั้นก็ต้องก้าวต่อไปข้างหน้า
โดยที่พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่าได้มีสิ่งที่สามารถต่อกรกับพวกแรปเจอร์ได้สูสีหรือกินขาดอยู่ด้วยบนโลกมนุษย์
ตู้ม!
เสียงของระเบิดและซากปรักหักพังดังไปทั่วพร้อมกับเศษซากของพวกแรปเจอร์หลายตัว บนเศษซากเหล่านั้นมีหญิงสาวคนนึงที่แต่งตัวเหมือนกับพลเรือนที่เดินชิวๆในสวนหลังบ้านอะไรทำนองนั้น
"ให้ตายสิเมื่อไหร่ฉันจะได้พักสักที แต่ก็เอาเถอะนะเพื่อสานงานของพวกเธอฉันจะยอมก็ได้"
หญิงสาวคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มที่ร่าเริงแบบสุดๆก่อนจะมีเสียงดังมาจากด้านหลังของเธอ เมื่อเธอหันไปก็ทำให้ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
"จ๊ากกกกกกกก มีเฮลิคอปเตอร์ของพวกนั้นมาอีกแล้วหรอ! ไม่จริง!!!!!"
หญิงสาวคนนั้นหันหลังจะวิ่งหนีสุดชีวิตแต่ทว่าก็โดนเฮลิคอปเตอร์อัดร่างกายจนบี้ไปด้วยกันทันทีทำให้เธอนั้นโดนทับไปสักระยะเลยก็ว่าได้
หลายนาทีต่อมา
"อึก โว๊ย! ไอ้นกเฮลิคอปเตอร์บ้านี่หลบไปโว๊ย!"
"ใครอยู่ตรงนั้นนะครับ ได้โปรดรับคำขอของผมที"
เสียงของผู้ชายคนนึงดังขึ้นจากด้านหลังของเธอเจ้าตัวไม่รอช้ารีบวิ่งไปหาทันทีพร้อมกับยกเศษซากของเฮลิคอปเตอร์อย่างรวดเร็วโดยไม่ผิดพลาดเพราะความสามารถของนาโนเมดทริกซ์ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเป็นล้านอย่างพร้อมกันได้ ไหนจะสามารถแฮ็กหรือป้องกันการโดนเจาะสมองข้อมูลได้อีก
"นี่นายไม่เป็นอะไรนะ รอก่อนเดี๋ยวฉันจะห้ามเลือกให้เดี๋ยวนี้แหละ อย่าพึ่งตายนะ"
"ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ ได้โปรดรับรหัสคำสั่งและการบัญชาการต่อจากผมที แค่กๆๆ อีกไม่นานผมก็จะตายแล้วผมขอร้องละ ไปช่วยคนที่เหลือที"
ชายหนุ่มที่อยู่ในอ้อมแขนของหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความหวังและสิ้นหวังในเวลาเดียวกันพร้อมกับหยิบอะไรบางอย่างออกมาก่อนจะเปิดมันและยื่นให้กับเธอ
"วางนิ้วโป้งลงบนเครื่องสแกนลายนิ้วมือนี้และบอกชื่อของคุณ"
"ชื่องั้นหรอ? งั้นฉันชื่อว่า'รันนิ่ง' "
หญิงสาวคนนั้นพอพูดชื่อของตัวเองที่คิดได้แบบสดร้อนๆแล้วนั้นชายหนุ่มที่อยู่ในชุดผู้บัญชาการของนิกเกะก็เริ่มขั้นตอนการโอนถ่ายอำนาจทันทีอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เสียเวลามากนัก
"นี่นายจะไปจริงๆหรอ? ไม่อยู่รอแม่สาวคนนั้นตื่นจริงๆดิ?"
"แมเรียนหรอครับ? เธอนะจะรับฟังแต่คุณแล้วต่อไปนี้ ฝากดูแลเธอด้วยนะครั-"
ชายหนุ่มได้จากไปในอ้อมกอดของรันนิ่งแบบไม่มีเยื่อใยอย่างสงบนิ่งโดยทิ้งให้เจ้าตัวนั้นได้นั่งไว้อาลัยอยู่แบบน้้นจนกว่าแมเรียนจะตื่นขึ้นมา
"อึก ที่นี่คือ-จริงสิ ผู้บัญชาการค่ะ! อยู่ไหนค่ะ! เอ๊ะนี่เธอคือใครงั้นหรอ?"
มาเรียนที่พึ่งตื่นมานั้นก็หันมาถามรันนิ่งที่นั่งอยู่ในท่าคุกเข่าโดยไม่กระดิกแต่ใดๆด้วยความสงสัย แต่ทว่าสิ่งต่อมาที่รันนิ่งทำนั้นทำให้แมเรียนตาเบิกกว้าง
"เธอหมายถึงผู้ชายคนนี้สินะ เขาจากพวกเราไปแล้วละแมเรียน"
รันนิ่งลุกขึ้นหันมาหาแมเรียนด้วยใบหน้าที่เศร้าโศกพร้อมกับเสิ้อของอีกฝ่ายที่ถูกพับเป็นอย่างดีก่อนจะคุกเข่าและยื่นให้
"นี่คือสิ่งเดียวที่ฉันติดตัวมาได้ ส่วนร่างกายนั้นฉันฝังให้อย่างสมเกียรติแล้วละนะ"
"ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด! บอกมานะผู้บัญชาการอยู่ไหน!"
มาเรียนที่ตื่นมานั้นก็เขย่าตัวรันนิ่งด้วยความโมโหทันทีแต่ทว่าสิ่งที่ตอบกลับมาคือดวงตาที่มันว่างเปล่า ไร้อารมณ์เสียใจบ่งบอกว่าอีกฝ่ายนั้นเศร้ามากขนาดไหน
"ขอโทษด้วยนะที่ต้องให้มาเจออะไรที่น่าลำบากใจแบบนี้ แต่ที่แน่ๆฉันไดรับคำสั่งและIDการเป็นผู้บัญชาการต่อจากผู้ชายคนนั้นคำสั่งภารกิจคือไปช่วยเหลือคนที่รอดจากการตกของยานต์ขนส่งสินค้า ถ้าเธอเอาด้วยเธอก็ต้องฟังฉันและสู้ไปด้วยกันหรือจะอยู่ตรงนี้รอพวกเธอมารับก็ได้นะ"
รันนิ่งพูดขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบปืนที่อยู่ตรงที่นั่งใกล้ๆมาเรียนมันคือปืนที่มีรูปร่างเป็นMK18ติดกล้องเล็งAcogและเรทด็อทเล็งด้านข้าง
"ก็อย่างที่ฉันบอกทุกอย่างขึ้นอยู่กับเธอ เอาละไว้เจอกันด้านหน้านะ แมเรียน Good luck "
"...."
มาเรียนได้แต่นั่งคิดอยู่แบบนั้นจนกระทั่งรันนิ่งวิ่งไปพ้นระยะสายตาของเธอ ส่วนรันนิ่งนั้นมีภารกิจที่ทำตามคำขอของผู้บัญชาการคนเมื่อกี้นั่นคือหาผู้รอดชีวิตให้เจอนั่นคือสิ่งที่รันนิ่งพอจะทำให้ได้อยู่แล้ว
ระหว่างที่ไปยานต์ตกอยู่นั้นเองรันนิ่งก็ได้จัดการพวกแรปเจอร์ไปหลายตัวเหมือนกันเพราะเธอนั้นรู้จุดอ่อนของพวกมันเป็นอย่างดีนั่นคือดวงตาและอาวุธของพวกมันนั่นเอง
"เอาละมาถึงที่หมายแล้วสินะ! แต่ว่าทำไมไม่มีใครอยู่เลยละ?"
"เธอคือนิกเกะที่ถูกส่งมาสินะ"
"ใจเย็นๆสิเห็นไมอีกฝ่ายตกใจจนตัวแข็งไปแล้วนะ!"
เสียงของหญิงสาวปริศนาสองคนดังขึ้นจากด้านหลังของรันนิ่งเมื่อเจ้าตัวหันไปมองนั้นก็เห็นหญิงสาวสองคนซึ่งเพียงแค่มองแว๊บเดียว รันนิ่งก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็น นิกเกะแน่นอน
"ว่าไงทั้งสองคน! ดีใจจังเลยที่ได้เจอคนอื่นสักที! ให้ตายสินึกว่าจะต้องเหงาตายซะแล้ว"
"เธอคือใครงั้นหรอ?"
หญิงสาวนิกเกะตาสีแดงถามด้วยความสงสัย นิ้วเข้าโก่งไลปืนและปลดเซฟตี้เตรียมพร้อมทันที ต่างจากผู้หญิงผมสีเหลืองที่ยืนมองด้วยรอยยิ้ม
"เอิ่มจะว่ายังไงดีละฉันรับตำแหน่งแทนผู้บัญชาการคนเมื่อกี้ที่เจอเมื่อราวๆ10นาทีก่อนนะ"
"รับตำแหน่งแทนผู้บังคับบัญชาการคนก่อนงั้นหรอ?"
หญิงสาวนิกเกะตาสีแดงลดปืนลงทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้นเพราะอีกฝ่ายแต่งตัวดูเหมือนพวกผ่านประสบการณ์รบดีเดือดมาก่อนอะไรทำนองนั้น เธอจึงยอมรับฟังแต่โดยดี
"โอเคในเมื่อลดอาวุธแล้วนั้นฉันจะยอมบอกดีๆก็แล้วกันฉันมีชื่อว่า'รันนิ่ง' "
"ฉันชื่อว่า'ราพี'ค่ะ ผู้บัญชาการ ส่วนคนนี้ชื่อ 'แอนิส'เป็นเพื่อนร่วมทีมของฉันเองค่ะ "
"สวัสดีนะค่ะ ผู้บัญชาการคนใหม่^^"
ราพีและแอนิสทักทายรันนิ่งด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรแบบสุดๆก่อนที่ระบบในหัวของรันนิ่งจะแจ้งเตือนถึงสัญญานอะไรบางอย่างที่กำลังใกล้เข้ามา
" " " หยุด! อย่าขยับ! " " "
"ใจเย็นๆค่ะ ผู้บัญชาการฉันเอง"
มาเรียนที่ตั้งสติได้แล้วนั้นก็รีบตามรันนิ่งมาทันทีด้วยความรวดเร็วจนทำให้เรดาร์ของระบบรันนิ่งนั้นตรวจจับเป็นสัญญานของแรปเจอร์แทน
"มาเรียนเธอหรอ? ให้ตายสิเกือบจะยิงแล้วนะ มารวมตัวกันก่อนดีกว่าเราจะเดินทางไปที่จุดยานตกกันแล้ว"
"ขอโทษด้วยนะค่ะ สำหรับเรื่องเมื่อกี้ ดิชั้นก็แค่รู้สึกไร้ค่าเมื่อปกป้องผู้บัญชาการไม่ได้"
มาเรียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าออกมาซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่นิกเกะไม่ควรจะมีแต่มาเรียนนั้นต่างออกไปเธอนั้นสนิทกับผู้บัญชาการคนก่อนพอสมควรจึงไม่แปลกที่จะเศร้าใจบ้าง
"เรื่องนี่เองสินะ ช่างมันเถอะเอาละเราไปช่วยเหลืออีกทีมก็แล้วกันแล้วกลับบ้าน ส่วนเธอมาเรียนต้องเอาข้อมูลที่ได้จากผู้บัญชาการคนก่อนเอาไปให้กับศูนย์ใหญ่ซะละ จะได้จบกันไป"
"เข้าใจแล้วคะ หัวหน้า"
เมื่อพูดจบทั้ง4คนก็เดินเท้ามุ่งหน้าไปยังจุดที่ยานตกอยู่ทันที ระหว่างนั้นราพีและแอนิสก็ติดต่อหา'ชิฟตี้' AIสาวที่คอยช่วยเหลือพวกตนในระหว่างภารกิจ
แต่ทว่าระหว่างที่เดินไปนั้นเองมาเรียนก็หยุดและพูดประโยคที่ทำให้รันนิ่งรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่าย
"มาเรียน ปิดระบบตัวเองเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะยิงเธอนะ! ปิดระบบเดี๋ยวนี้!"
"เวรแล้วนั่นมัน!?"
"แบล็คสมิธ! คลาสไทแรนด์!"
เมื่อแอนิสตะโกนแบบนั้นรันนิ่งไม่รอช้าคว้าทั้งสองคนแล้วเข้าที่กำบังทันทีอย่างรวดเร็ว ส่วนมาเรียนนั้นก็โดนดูดเข้าไปทั้งตัวทันที
"แม่งเอ๊ย! จะให้อยู่แบบสงบสักวันไม่ได้รึไงวะ! ขอแค่สักวันไอ้เวร!"
"เดี๋ยวก่อนจะไปไหน!"
ยังไม่ทันที่ราพีจะหามรันนิ่งเจ้าตัวก็กระโดดเข้าไปหาทันทีพร้อมกับใช้เพียงแค่หมัดเปล่าต่อยเข้าไปที่แกนสมองจักรกลและบี้ทิ้งทันทีพร้อมกับอุ้มมาเรียนกับปืนออกมา
ตู้ม!
"มาเรียน! มาเรียน! ได้ยินฉันไม?"
"ผู้บังคับบัญชาการ ขอโทษนะค่ะ ที่ทำภารกิจล้มเหลวและไม่ได้เรื่อง"
มาเรียนพูดประโยคเวียนกันซ้ำๆแบบนั้นหลายครั้งจนราพีนั้นเดินเข้ามาหาพร้อมกับยื่นปืนให้กับรันนิ่งหนึ่งกระบอก ซึ่งเป็นปืนแบบพิเศษที่มนุษย์สามารถใช้งานได้อีกด้วย
"ขอบคุณ พวกเธอไปเถอะ ฉันจะจัดการเองฝากบอกผู้ใหญ่ของพวกเธอด้วยว่า อย่าได้ส่งคนมานี่อีกถ้าไม่จำเป็นเป็น"
"เข้าใจแล้ว ขอบคุณสำหรับการช่วยกันกลับกันเถอะ แอนิส"
"รับทราบ ได้ข้อมูลมาพอดีเลยกลับกันได้"
หลังจากที่ราพีและแอนิสออกไปจนพ้นระยะสายตาแล้วนั้นรันนิ่งก็อุ้มร่างของมาเรียนไปที่ฐานลับของตนซึ่งที่นั่นไม่มีอะไรสามารถตรวจจับได้แม้แต่พวกแรปเจอร์เองก็ตาม
"มาเรียนฉันจะพาเธอกลับมา รอก่อนนะ เริ่มทำการซ่อมแซมได้"
[รับทราบจะทำการซ่อมแซมนิกเกะ มาเรียนด้วยนาโนเมทริกซ์จำนวน864,000,000ตัว จะทำการรีเซ็ตและสตาร์ทในอีก 3 2 1 Start time ]
เปรี้ยง!
"เฮือก! มะเมื่อกี้อะไรกันนะ!?"
มาเรียนที่ตื่นขึ้นมานั้นก็สำรวจร่างกายของตัวเองด้วยความสงสัยและความกังวลแต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานนักเจ้าตัวก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือร่างกายใหม่ของตนอย่างแน่นอนและมันแข็งแกร่งมากกว่าอีกด้วยหลายสิบเท่า
"เป็นไงละ ชอบใช่ไมร่างกายใหม่"
"ผะผู้บัญชาการ!"
มาเรียนตะโกนด้วยความดีใจและเข้ากอดรันนิ่งทันทีทั้งน้ำตาเธอนั้นไม่อยากผิดพลาดอีกแล้วเธออยากจะทำสิ่งที่ดีและดีกว่าเดิมตลอดไปเพื่อคนที่ไว้ใจเธออย่างรันนิ่ง
ฐานลับของรันนิ่ง(2วันต่อมา)
"ทำได้ดีเลยนี่นา'มาเรียน' ไม่สิ'อาเรีย' ยินดีต้อนรับสู่บ้านหลังที่สองของเธอนะ แม่สาวน้อย"
รันนิ่งที่พึ่งเอาร่างเก่าของมาเรียนไปไว้ที่เดิม น้้นพูดด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่ร่าเริงพร้อมกับเดินลงมาหาอีกฝ่ายที่กำลังต่อสู้กับแรปเจอร์ที่จับมาอยู่ ซึ่งถูกจัดการเป็นเนินสูงกว่า10เมตร
"อะ! มาสเตอร์ ยินดีต้อนรับกลับนะค่ะ"
มาเรียนหรือชื่อปัจจุบันอาเรียกระโดดลงมาจากซากของแรปเจอร์และเข้ากอดอีกฝ่ายทันทีด้วยความคิดถึง ซึ่งคำพูดและกิริยาท่าทางของเธอนั้นเปลี่ยนไปแล้วจากหญิงสาวสายต่อสู้กลายเป็นเมดนักฆ่าสุดแสนอันตรายซึ่งก็สมควรเพราะทั้งสองคนนั้นเป็นนาโนเมททริกซ์
"เห๋~คิดถึงฉันขนานหนักเลยนี่นา ฉันไปแค่สองวันเองนะไม่ตองกังวลมากหรอกน่า"
"ไม่ได้ค่ะ มาสเตอร์คือเจ้านายเพียงแค่หนึ่งเดียวของดิชั้นจะไม่ยอมให้เสียไปอีกเด็ดขาดค่ะ และเพื่อทำลายพวกผู้ใหญ่ในฐานอาร์ค ดิชั้นอยากจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ!"
อาเรีย พูดด้วยน้ำเสียงและแววตาที่จริงจังออกมา ด้วยส่วนสูงที่ต่างกันพอสมควรระหว่างอาเรียและรันนิ่ง ซึ่งสูงห่างกัน4ซม. เลยทำให้อาเรียนั้นต้องเงยหน้าคุยเล็กน้อย
"ถ้าเธอต้องการฉันจะให้แน่นอน ความแข็งแกร่งนะ แต่ว่าก่อนอื่นเราต้องมาทดสอบกันก่อน เอาละถอดเสื้อแขนยาวซะ "
"ค่ะ!"
อาเรียไม่รอช้าถอดเสื้อตามที่รันนิ่งบอก ซึ่งข้างในนั้นใส่เป็นเสื้อแขนสั้นแบบพิเศษที่ทำมาจากเส้นใยจากเหล็กของพวกแรปเจอร์ซึ่งไม่ต้องถามเรื่องความทนทานว่ามันจะทนขนาดไหน
"เอาละนะ"
"ค่ะ!"
พรึ่บ! ตู้ม!
รันนิ่งและอาเรียพุ่งเข้าใส่กันด้วยความเร็วมากกว่าเสียงพร้อมกับใช้หมัดปะทะเข้าเบ้าหน้าของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดคลื่นระเบิดก็ว่าได้
กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก
เสียงของหุ่นนาโนเมทริกซ์นับล้านตัวที่ซ่อมแซมร่างกายของทั้งสองดังระงมไปทั่วพร้อมกับเสียงปะทะกันราวกับระเบิดที่พุ่งเข้าชนกันนับครั้งไม่ถ้วนตามมา
ตู้ม! ตู้ม!
รันนิ่งใช้ความสามารถการเตะที่ทรงพลังและรุนแรงของมวยไทย ผสานกับความแม่นยำของเคียวคุชินคาราเต้ทำให้ความทรงพลังมากขึ้นไปอีก ซึ่งจุดที่เตะนั้นคือสีข้างด้านซ้าย
อาเรียสามารถยกแขนกันได้แบบหวุดหวิดแต่ถึงกระนั้นแรงกระแทกก็สามารถทำให้เจ้าตัวปลิวออกไปทันที
ครืดดด
"กันได้ยอดเยี่ยมเลยนี่นา ต่างจากเมื่อ2วันก่อนอย่างลิบลับเลย"
"ขอบคุณนะค่ะ มาสเตอร์ มาต่อกันเลยดีกว่าค่ะ"
อาเรียไม่รอช้าเป็นคุณเปิดรันนิ่งทันทีโดยการพุ่งเข้าเตะและต่อยพร้อมกันเพื่อให้อีกฝ่ายป้องกันทั้งสองทางและโจมตีเข้าจุดสำคัญ
รันนิ่งที่เห็นแบบนั้นก็กระโดดขึ้นไปเกาะกับเสาและถีบตัวเองพุ่งเข้าหาอาเรียทันที ราวกับกระสุนปืนใหญ่ทำลายล้าง
"รับให้ดีนะ!"
"จ๊ากกก"
อาเรียยังไม่ทันได้หลบก็โดนรันนิ่งเอาหัวชนเข้าท้องเต็มเปาทำให้พื้นที่โดยรอบระเบิดออกจากกันทันที
"หู้ว เธอเนี่ยแข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อนแต่ว่านะเธอเองก็ยังคงเป็นห่วงฉันอยู่สินะ"
"ค่ะ มาสเตอร์ต้องอยู่ในสภาพเต็มร้อยตลอดเวลาเมื่อเกิดการต่อสู้ขึ้นเพราะฉะนั้นจึงต้องเลี่ยงการโจมตีจุดสำคัญค่ะ"
อาเรียตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใจออกมาพร้อมกับดันตัวเองลุกขึ้นจากพื้นที่แตกร้าวและให้นาโนเมทริกซ์รักษาให้ทันที
ส่วนรันนิ่งนั้นก็ยืนมองร่างบางที่เดินมาหาด้วยแววตาที่เป็นห่วงเองไม่ใช่น้อยเพราะอีกฝ่ายคือสิ่งที่เธอนั้นรู้สึกผูกพันธ์ดัวยถึงแม้จะรู้จักกันได้แค่2วันก็ตาม
"ฝึกได้ยอดเยี่ยมเลยนี่ ฉันดีใจมากเลยนะที่เธอพัฒนามากถึงขนาดนี้"
"ขอบคุณมากเลยนะค่ะ สำหรับคำชม หืม? มีคนกำลังมาที่ทางทิศตะวันตกของค่ะ"
อาเรียพูดด้วยน้ำเสียงที่กังวลออกมารันนิ่งที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่รอช้าเดินนำอีกฝ่ายพร้อมกับหยิบปืนคู่ใจไปด้วยส่วนอาเรียที่เห็นแบบนั้นก็หยิบปืนและเดินไปตามเช่นกัน
ทิศตะวันตกของฐาน(ราพี แอนิสและชิฟตี้)
"สัญญาณของผู้หญิงคนนั้นมาจากแถวนี้แน่นอน"
"อย่าพึ่งวู่วามมากนักสิ แอนิสแถวนี้มันเคยมีพวกแรปเจอร์เพ่นพ่านเยอะเลยนะ"
[ตรวจสอบแล้วค่ะ ไม่มีสัญญาณของพวกแรปเจอร์เลย น่าตกใจมากเลยละค่ะ]
ราพี แอนิสและชิฟตี้ ต่างก็พากันช่วยหารันนิ่งกันยกใหญ่เพราะคำสั่งจากฐานใหญ่ให้พาเจ้าตัวไปด้วย ถึงแม้อยากจะปฏิเสธแต่ทำไงได้พวกตนไม่มีสิทธิ์นี่เนอะ
"ให้ตายสิพวกเธอเนี่ยจะไม่ยอมหยุดหาฉันกันเลยใช่ไม?"
"ดูจากทรงน่าจะใช่นะค่ะมาสเตอร์"
เสียงหญิงสาวสองคนทำให้ราพี แอนิสและชิฟตี้ตกใจก่อนหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงกันจนเห็นว่า2คนนั้นคือรันนิ่งและอาเรียที่ถืออาวุธมาครบมือ
"คุณเองสินะค่ะ กำลังตามหาอยู่พอดีเลย"
"ขอโทษด้วยนะที่มารับช้าแต่เดี๋ยวนะเมื่อกี้เธอบบอกว่าให้ฉันไปด้วยงั้นหรอ? ที่ฐานของพวกเธออะนะ?"
"ใช่แล้วละค่ะ รบกวนด้วยนะค่ะ ผู้บัญชาการคนใหม่"
รันนิ่งที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าเหว๋ออกมาแต่ไม่นานนักก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเซ็งทันทีเพราะต้องไปฐานที่ตนกับอาเรียจ้องจะทำลาย
"เอาละถ้างั้นก็ช่วยพาไปทีนะพอดีฉันไม่ค่อยจะรู้ทางนะ อาเรียไปด้วยกันเนอะ"
"ค่ะ ถ้ามาสเตอร์ต้องการดิชั้นก็จะทำตามค่ะ"
เมื่อพูดจบราพี แอนิสและชิปตี้ก็พาทั้งสองคนไปที่ฐานอาร์คทันทีอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ที่พวกตนไปที่แรกนั้นคือห้องของรองผู้บัญชาการที่ชื่อว่าแอนเดอร์สัน
"สวัสดีครับคุณคงจะเป็นผู้บัญชาการชั่วคราวคนใหม่เมื่อ2วันก่อนที่ไม่ได้ลงชื่อเป็นทางการ"
"อ่าใช่แล้วละ ฉันเองแหละที่เป็นแต่ว่านะคุณคงเรียกฉันกับอาเรียมา คงไม่ใช่แค่เรื่องนี้สินะ? พวกคนใหญ่คนโตต้องการอะไรจากฉันกันแน่"
รันนิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมกับวางมืดกดที่โต๊ะทำงานของแอนเดอร์สันจนระเบิดทันที ทำให้เหล่านิกเกะที่คุ้มกันอยู่ข้างนอกต่างก็กรูเข้ามาล้อมรันนิ่งและอาเรียทันที
"คิดจะใช้อะไรพวกฉันก็คิดให้มันดีๆหน่อยละ ฉันนะเคยฆ่าคนแบบพวกคุณมาแล้ว"
"แก! จะไปไหน!"
แอนเดอร์สันตะโกนถามรันนิ่งที่กำลังเดินออกไปพร้อมกับอาเรีย ราพี แอนิสและชิปตี้ แต่ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มอันแสนน่าหวาดกลัวของเจ้าตัวเพียงเท่านั้น
หลังจากที่ออกมาจากห้องของแอนเดอร์สันแล้วนั้น รันนิ่งอาเรีย ราพี แอนิสและชิพตี้ก็ได้เดินทางมาที่ห้องพักทันทีซึ่งก็มีขนาดมากพอให้คนอยู่ได้ถึง10คนเลยก็ว่าได้
"เอาละมาทำข้อตกลงกันดีกว่าฉันนั้นมารับตำแหน่งแทนอีกฝ่ายเพราะฉะนั้นห้ามเรียกฉันว่าผู้บังคับบัญชาการให้เรียกว่ากัปตันก็พอเข้าใจไม?"
" " " รับทราบแล้วค่ะ! " " "
ราพี แอนิสและชิฟตี้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัดก่อนที่รันนิ่งนั้นจะเดินไปที่นั่งเตียงด้วยความเบื่อหน่ายก่อนจะหยิบอุปกรณ์สำหรับรับข้อมูลภารกิจขึ้นมาดูทันที
"ภารกิจต่อไปโรงงานไฟฟ้างั้นหรอ? เห้อให้มันได้แบบนี้สิ อาเรียช่วยจัดอุปกรณ์ให้ทีนะฉ้นจะอ่านแผนผังของที่นั่น "
"รับทราบแล้วค่ะมาสเตอร์"
อาเรียไม่รอช้าเกินไปวางกระเป๋าปืนและกระสุนบนโต๊ะทันทีก่อนจะหยิบปืน แม็กกาซีนและกระสุนออกมาเพื่อเตรียมพร้อมทันที ส่วนรันนิ่งนั้นก็อ่านแผนผังข้อมูลและวางแผนในหัวทันที
[ทำการเก็บข้อมูลเสร็จสิ้น ระดับความอันตรายระดับC ประเภทศัตรูหลากหลายขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่พวกองค์กรอาร์คอยากจะให้เป็น สามารถเรียกแอร์สไตล์จากฐานลับได้]
"งั้นหรอ? แบบนี้เองสินะหึอยากจะเล่นกับไฟก็ต้องใช้ไฟที่แรงกว่าสินะ แบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย"
"ค่อยคุยอะไรกันได้หรอค่ะ? กัปตัน?"
ราพีที่เห็นรันนิ่งยิ้มน่ากลัวนั้นก็กลั้นใจถามด้วยความกล้าที่รวบรวมเอาไว้เพราะถึงแม้ตัวเองจะแข็งแกร่งขนาดไหนแต่ก็ใช่ว่าจะสู้กับอีกฝ่ายได้แบบไม่เสียเลือดเนื้อ
"อ่าไม่มีอะไรหรอกพอดีตื่นเต้นที่จะได้เจอเด็กใหม่นะ โอ๊ะนั่นไงมาแล้ว"
"ขอโทษที่มาสายนะค่ะ!"
เด็กสาวคนนึงวิ่งมาด้วยท่าทางที่รนแบบสุดๆก่อนจะหยุดต่อหน้าของรันนิ่งและทำท่าเคารพทันที รันนิ่งที่เห็นแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นสัญญาณบอกว่าให้เลิกทำและทำตัวตามสบายได้
"เธอมีชื่อว่าอะไรงั้นหรอ?"
"ชื่อว่านีออนค่ะ! จะมาสังกัดในทีมเคาน์เตอร์ตั้งแต่ต่อไปนี้ค่ะ! ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน่ะค่ะ!"
นีออนทักทายรันนิ่งด้วยท่าทีร่าเริงราวกับสาวน้อยก่อนจะจับมืออีกฝ่ายด้วยความตื่นเต้นและดีใจเพราะการได้เจอหญิงสาวที่สุดแสนจะสตรองและแข็งแกร่งแบบนี้นั้นเรียกได้ว่านับนิัวได้เลยก็ว่าได้
"ฝากเนื้อฝากตัวเช่นกัน นีออนเอาละเตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมปืนให้พร้อมเรามีงานแล้ว เอาละไปกันเถอะ"
" " " " " รับทราบค่ะ! " " " " "
เมื่อพูดจบทั้งหกคนก็ได้เดินไปที่ลิฟต์ซึ่งมีรถคันนึงจอดอยู่ รันนิ่ง อาเรีย ราพี แอนิสและนีอออนขึ้นรถด้วยกันก่อนจะสตาร์ทรถรอระหว่างที่ลิฟต์นั้นส่งไปที่ข้างบนผิวดิน
โรงงานไฟฟ้า
เมื่อทีมเคาน์เตอร์เดินทางมาถึงแล้วนั้นก็ลงจากรถและหยิบอาวุธประจำกายลงมาด้วยทันทีพร้อมกับหาที่แคมป์สังเกตุการทันที
"เอาละฉันตรวจพบพลังงานของแรปเจอร์มหาศาลอยู่ข้างหน้านั่น ให้ตายสิพวกมันมีเป็นร้อยเลยพวกเราต้องรีบจบเกมส์ไวและถอนตัวออกมา"
"แต่ว่าภารกิจของเราคือการตรวจสภาพการทำงานของโรงงานนะค่ะ"
รันนิ่งที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มมุมปากก่อนจะเขยิบหน้าเข้าใกล้ราพีที่พูดแบบนั้นทันที
"งานนี้คืองานที่ฉันต้องเซฟชีวิตของพวกเธอซึ่งเป็นลูกทีมของฉันพวกองค์กรอาร์คจะเป็นอะไรก็ช่างหัวมันสำหรับฉัน ถ้าเจอจะสนใจที่ภารกิจอย่างเดียวฉันไม่ว่าแต่อย่ามาขวางการทำงานของฉันและอาเรียก็พอ เข้าใจไม? ราพี"
"ขะเข้าใจแล้วค่ะ กัปตัน"
ราพีตอบกลับรันนิ่งด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักเพราะน้ำเสียงและสีหน้าของรันนิ่งนั้นมันช่างน่ากลัวยิ่งกว่าอะไรซะอีก รันนิ่งที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนจะหยิบของที่พกติดมาด้วยมันคือปืนพลาสม่าคลัสเตอร์ที่แงะมาจากแรปเจอร์และพัฒนาให้มันมีขนาดเท่าคนถือ
"เอาละนะ ได้เวลาบึ้มบ้ำ 3 2 1 "
จิ้ว! ตู้ม!!!!!
ทันทีที่รันนิ่งกดลั่นไกปืนนั้นกระสุนพลาสม่าคลัสเตอร์ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่า300,000กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นก็พุ่งเข้าเป้าทันทีนั่นคือโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้านั่นเอง
"บ้าระห่ำเกินไปแล้วนะคะ กัปตันสุดยอด!"
"นี่มันแรงกว่าปืนของฉันซะอีก เหว๋ออ!"
แอนิสที่กำลังตะลึงอยู่นั้นยังไม่ทันจะได้พูดอะไรรันนิ่งก็ได้โยนปืนพลาสม่าคลัสเตอร์ให้ทันทีพร้อมกับบิดคอ2-3ที
"ฉันยกมันให้กับเธอดูแลรักษาไว้ให้ดีๆละปืนนะจะใช้การได้เมื่อได้รับรหัส IDของคนในทีมเท่านั้นคนอื่นอย่าหวังจะได้ใช้มันเลย "
"ขะขอบคุณมากเลยนะค่ะ กัปตัน"
รันนิ่งที่ได้ยินแบบนั้นจากปากของแอนิสก็พยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นและเดินกลับไปที่รถทันทีด้วยความเบื่อหน่าย เมื่อคนในทีมเห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นและเดินตามเพราะภารกิจเสร็จแล้วนั่นเอง
ฐานอาร์ค(ห้องทำงานของแอนเดอร์สัน)
เมื่อรันนิ่งกับลูกทีมกลับมาถึงนั้นก็โดนแอนเดอร์สันต่อว่าทันทีในเรื่องที่บึ้มโรงงานไฟฟ้าแบบหน้าตาเฉยโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเลยแม้แต่นิดเดียว
"ขอโทษทีนะ ฉันต้องแคร์ด้วยหรอตาลุงนี่ ถ้าว่างนักก็หยิบปืนไปบัญชาการเองก็แล้วกันฉันง่วงนอนเข้าใจไม? ทำลายพวกแรปเจอร์ระหว่างกลับมันเหนื่อยสุดๆ"
"แกไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะบอกมาว่ารับผิดชอบยังไง! อึก!"
ก่อนที่แอนเดอร์สันจะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นรันนิ่งก็ได้พุ่งเข้ามาหาพร้อมกับจับคอของอีกฝ่ายและยกขึ้นเหนือพื้นด้วยแขนข้างเดียว
"ฟังให้ดีนะฉันยอมมาที่นี่เพราะคำขอของราพีและแอนิส ไม่ใช่แกไอ้แก่หงำเหงือกถ้าแกยังเรื่องมากอีกละก็ฉันจะถล่มพวกแกให้ตายๆไปจนหมดซะ"
"......"
แอนเดอร์สันไม่สามารถตอบอะไรได้เพราะสลบไปแล้วส่วนรันนิ่งที่เห็นแบบนั้นก็ปล่อยอีกฝ่ายลงกับพื้นและหันหลังเดินออกไปจากห้องทันทีพร้อมกับอาเรีย
"ฉันจะไม่กวนประสาทกัปตันอีกแล้วละฉันรู้สึกได้เลยว่าท่านยังไม่ได้ออกแรงด้วยซ้ำ"
"ฉันเองก็เห็นด้วย แต่ว่านะเรากลับกันก่อนดีกว่ามีเรื่องต้องทำด้วยเนอะชิฟตี้"
{แน่นอนค่ะ}
ราพีและแอนิสเดินกลับห้องกันทันทีอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากรบกวนแอนเดอร์สันที่นอน(สลบ)อยู่นั่นเองโดยที่ในห้องนั้นรันนิ่งได้ปล่อยนาโนเมทริกซ์เอาไว้2,000-3,000ตัวซึ่งแต่ละตัวเล็กระดับไมครอนเท่าน้้นเอาไว้สังเกตุการณ์แอนเดอร์และเอาไว้ระเบิดห้องนั้นเผื่อแอนเดอร์สันตุกติก
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!